ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ค.ศ.2011 - ค.ศ.2017
​

กลียุค 7 ปี ช่วงระยะเวลาซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก ​

พระคัมภีร์ไบเบิ้ลทำนายไว้ว่า ในอนาตคโลกจะมีช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ ช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่เรียกว่า "กลียุค 7 ปี"

ในครั้งนั้น มีคาเอล เทพผู้พิทักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันชนชาติของท่านจะลุกขึ้น และจะมีความยากลำบากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ครั้งมีประชาชาติจนถึงสมัยนั้น แต่ในครั้งนั้นชนชาติของท่านจะรับการช่วยกู้ คือทุกคนที่มีชื่อไว้ในหนังสือ และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายขายหน้านิรันดร์ (ดาเนียล 12:1-2)

พระคัมภีร์กล่าวว่า ในช่วงนี้ปรปักษ์พระคริสต์จะปรากฎโฉม ชาวโลกจำนวนมากจะมองดูผู้นำคนใหม่อย่างมีความหวัง เขาอาจจะมีส่วนในการนำชาติอิสราเอล และอาหรับเข้าหากัน และอนุญาติให้ยิวสร้างวิหารขึ้นใหม่ จะมีการตกลงสันติภาพกับอิสราเอล ต่อจากนั้นสามปีครึ่ง ปรปักษ์พระคริสต์จะฉีกสัญญานั้น แล้วเข้าไปนั่งในพระวิหาร และประกาศตัวเองเป็นพระเจ้า

ใน 7 ปี แห่งกลียุคนี้ จะเป็นเหตุการณ์โหดร้ายทารุณสยดสยอง พรั่นพรึงอย่างน่ากลัวที่สุด จะไม่มีช่วงใดเลยในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบันที่จะน่ากลัวและสยองขวัญเท่ากลียุค 7 ปี พระเยซูตรัสว่า จงอธิษฐานขอ เพื่อการที่ท่านต้องหนีนั้นจะไม่ตกในฤดูหนาว หรือวันสะบาโต ด้วยว่าในคราวนั้นจะเกิดความทุกข์ยากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาจนทุกวันนี้และเบื้องหน้า จะไม่มีอีกต่อไป... ถ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้เลือกสรร จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า (มัทธิว 24:20-22)

จะเกิดอะไรขึ้นแก่มนุษย์โลกในระหว่างกลียุค 7 ปี พระวิวรณ์กล่าวถึง ตราเจ็ดดวง แตรทั้งเจ็ด ขันทั้งเจ็ด ทั้งหมดนี้หมายถึงหายนะภัยทั้งหลายดังต่อไปนี้

ความหมายของตราทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 6-8)

ตราที่ 1 วิวรณ์ 6:1 หมายถึงปรปักษ์พระคริสต์ ซึ่งจะบันดาลสิ่งสารพัดเลวร้ายให้เกิดขึ้น
ตราที่ 2 วิวรณ์ 6:3 สันติภาพสูญหายไปจากโลก เกิดสงคราม การรบราฆ่าฟันแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลก
ตราที่ 3 วิวรณ์ 6:5 ความอดอยากมีอยู่ทั่วไป
ตราที่ 4 วิวรณ์ 6:7 มนุษย์ชาติตาย 1ใน 4 ด้วยคมดาบ โรคระบาด
ตราที่ 5 วิวรณ์ 6:9 ผู้ที่มีความเชื่อในพระคริสต์ จะถูกสังหารผลาญชีวิต แต่ในที่สุดจะได้ชีวิต
ตราที่ 6 วิวรณ์ 6:12 เกิดแผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์อับแสง พระจันทร์สีเลือด ดาวตกลงบนแผ่นดิน บางคน เชื่อว่าเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เนื่องจากการยิงระเบิดนิวเคลียร์เข้าหากัน
ตราที่ 7 วิวรณ์ 8:1 ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์นานครึ่งชั่งโมง ตราดวงนี้จะขยายให้เห็นแตรอีก 7 อันข้างหน้า

ความหมายของแตรทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 8-11)

แตรที่ 1 ลูกเห็บและไฟตก เกิดความเสียหายมากมาย ต้นไม้ 1 ใน 3 ของโลกไหม้ หญ้าเขียวสดไหม้หมดสิ้น
แตรที่ 2 ทะเลถูกทำลายลง 1 ใน 3 ของสัตว์น้ำตาย เรือสินค้าทั่วโลกถูกทำลาย 1 ใน 3
แตรที่ 3 คนจำนวนมากตายเนื่องจากน้ำมีสารพิษเจือปน
แตรที่ 4 ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ถูกทำลาย 1 ใน 3 เป็นเหตุให้อุณภูมิผันแปรอย่างหนัก
แตรที่ 5 ซาตานซึ่งจะใช้อำนาจของมัน ทรมานคนที่ไม่มีเครื่องหมายของพระเจ้า หรือคนที่ไม่ได้รับความรอด
แตรที่ 6 มนุษย์ชาติ 1 ใน 3 จะต้องตายลงอีก ในจำนวนนั้นเป็นทหารถึง 200 ล้านคน
แตรที่ 7 ราชอาณาจักรในโลกนี้จะกลับเป็นอาณาจักรของพระเยซูคริสต์ แล้วพระองค์จะครอบครองเป็นนิจนิรันดร์

ในระหว่างนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะก้าวขึ้นมาแสดงตัวมีบทบาทสำคัญยิ่ง มนุษย์ชาติต่างเกรงกลัวฤทธิ์เดชานุภาพของมัน และยอมตัวเป็นบริวารเป็นทาสรับใช้ มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลสตัณหา และความชั่วร้าย สุดที่จะพรรณนา จนกระทั่งทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบ เทบนโลก

ความหมายของขันทั้งเจ็ด มีดังนี้ (วิวรณ์บทที่ 16)

ขันที่ 1 เกิดโรคระบาด เป็นแผลร้ายที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่ามะเร็ง แผลหนองทั่วไป
ขันที่ 2 สิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมด เพราะน้ำทะเลเน่าเหม็นเหมือนเลือดของคนตาย
ขันที่ 3 น้ำจืดกลายเป็นเลือด และมนุษย์ต้องดื่มเลือดแทนน้ำ
ขันที่ 4 ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ แผดเผาแผ่นดินโลกจนแห้งกรอบ มนุษย์กลับยิ่งแช่งด่าพระเจ้า
ขันที่ 5 มนุษย์ได้รับการทรมานอย่างแสนสาหัส ขนาดต้องกัดลิ้นตัวเอง เพราะบาดแผลร้ายทั่วตัวแต่พวกเขาก็ยังไม่สำนึกผิด
ขันที่ 6 การเตรียมตัวของซาตานมารร้าย เพื่อทำสงครามโลกครั้งสุดท้าย คือสงครามอาร์มาเกดโดน มันจะเข้าหาผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อบังคับแกมขอร้องให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร
ขันที่ 7 เกิดวิบัตินานาชนิด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ 50 กิโลกรัมตกลงมา คนจำนวนมากจะตาย ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณานับ เกาะทั้งเกาะจะจมหาย

ที่มา ในปี ค.ศ.2011-2017 - PaLungJit.com

 

การเตรียมตัวของผมยังมีอีกมาก พุดเป็นวันไม่จบหรอกครับ สิ่งใดที่ท่านรู้กัน ผมไม่รู้ แต่สิ่งที่ผมรู้มาและเห็นมา ท่านไม่รู้ คนที่รู้ทุกอย่างคือพระพุทธเจ้า พระองค์เดียว ครามเข้าใจของผม พระโพธิ์สัตว์ ที่มีบารมีมาก ในกำลังของปรมัตถบารมี ผมว่าคิดเอาเองนะครับ จะไปเกิดในที่ใดๆ พร้อมกันหลายที่ นี่น่าจะทำได้ ในภาคใดก็ได้ อย่าเชื่อนะครับ ใช้ดุนพินิจเอาครับ บางครั้งผมก็สับสน แต่ไม่ละเว้นความดี ความดีไม่จำเป็นต้องประกาศให้ใครรู้ แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นก็คงต้อง ให้ได้โมทนาสาธุกันบ้างก็เท่านั้นเอง คุยกัน เป็นวันเป็นคืน ก็ไม่จบหรอกครับ ภาพที่ (๑) น้ำท่วมที่ในทุ่งนา ของ ต.น้ำซึม จ.อุทัยธานี ความลึก ๓-๔-๕ เมตร ภาพ (๒) เป็นผักสดซึ่งผมได้นำมาถวายวัดท่าซุง ๔ ครั้ง ซึ่ง มีข้าวโพดแตงกวา ฟักทอง ฟัก พริก มะนาว หน่อไม้สด เผือก จำไม่หมด และยังนำมาแจกคนข้างห้องอีก ตก ๑๐ ครอบครัว ภาพ (๓) ภาพหน้าถนนหน้าวัด และพระจุฬามณี วัดท่าซุง ภาพที่ (๔) น้ำหน้าโรงเรียนพระสุธรรม ถ่ายบนถนนลาดยางตลอดแนวครับ (๕) ผมอยู่ในน้ำ บนถนนลาดยางหน้าบ้าน น้ำลึกแค่อกเกือบถึงคอ ตอนน้ำสูง นี่เริ่มลงแล้วครับ




ภาพที่ (๑) ผมขอของอาหารแห้งคณะแม่ชี วัด กม.๘ มาแจกชาวบ้าน ๔๐๐ ชุด ม.๑ ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัย ภาพ (๒) คณะอ.บ.ต.ต.น้ำซึมและชาวบ้าน ช่วยขนของข้าว กับข้าว ๕๐๐ กล่องขนมต้มกับข้าวน้ำพริก อีกเป็นร้อยถุง คณะแม่ชี วัด กม.๘ อ.ด่านช้าง สุ๑๐๐๐ บุรีนำมาแจกกินได้เลย ภาพที่ (๓) ครั้งที่ ๒ ผมขอร้องแม่ชี กม.๘ มีชาวบ้านมาขอร้องผมให้ช่วยนำของมาแจก ม.๔-๕ ต.ท่าซุง อบต.ผู้ใหญ่บ้าน นำเรือนำไปแจก ม.๕ ต.น้ำซึม อุทัย ภาพ (๔) อบต.พร้อมผู้ใหญ่บ้านสองผัวเมียผู้ช่วยมารับของนำเรือไปแจกชาวบ้าน ม.๔ อยู่ใกล้ อ. มโนรมย์อีก ๒๕๐ ชุด ภาพ (๕) พระหน้าตัก ๑๐ ศอกผมได้ส่งอาหารแห้งให้พระสงฆ์ มาเป็นปี เพื่อให้ท่านมีกำลังในการก่อสร้างพระ ให้แล้วเสร็จ สำนักสงฆ์เขาขจี อ.สว่างอารมย์ จ.อุทัย ภาพที่ (๖) ผมได้ไปทำบุญกับหลวงพี่จำเนียร วัดท่าซุง ช่วยสร้างพระ ๙ วา หรือ ๑๘ เมตร ทรงชินราชสมเด็จองค์ปฐม พระกำลัง แผ่นดิน คณะคุณหมอเอ๋ เชียงใหม่ดำเนินงานก่อสร้าง ที่ อ.ด่านช้าย จ.เลย ป่านนี้เศียรน่าจะเสร็จแล้วครับ

 

ขออนุโมทนาสาธุจากใจจริงค่ะ หลังจากที่ได้อ่านทำให้จิตไปถึงจุดหนึ่งที่ไม่สามารถบรรยายได้ ไม่ใช่ปลง แต่คล้ายกับคำว่าปล่อยวางซะมากกว่า ดีค่ะจะได้เตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมจิต ตั้งรับให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งใดมันจะเกิดก็คงไม่มีข้อละเว้นที่จะไม่เกิด อยู่ที่พวกเราชาวมนุษย์ทั้งหลายที่จะปฎิบัติกันอย่างไรหลังจากได้รับรู้ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งกับการตัดสินใจนำมาให้พวกเราได้รับรู้ค่ะ เจริญในธรรมค่ะ

 

ไม่มีครับ ลองเข้าไปฟังในเวบ www.samyaek.com ครับ

 

คัดลอกมาจากกระทู้ที่ท่าน อ.อุบล แห่งบ้านสวนพีระมิด ได้เมตตาแสดงความคิดเห็นไว้ค่ะ เนื้อหาดังนี้ค่ะ

เวลา ที่เหตุเกิด จะมีทั้งคนที่ตายทันที คือคนอยู่ริมทะเล ริมแม่น้ำ อยู่บนตึกสูงเกิน 3 ชั้น และ คนบาป คือผิดศีล ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม พวกนี้ไปก่อน

อีกพวกหนึ่ง หนีแบบไม่คิดชีวิตและจะหนีไปทางเดียวกัน คือทางที่ไม่รอด ทางนี้มีคนหนีไปมากที่สุด ระหว่างหนีก็จะคิดเสียใจ ว่าเราไม่น่าประมาทเลย ทำไมเราไม่เชื่อคำเตือน อ.อุบล และ สิ่งที่เห็นเป็นข่าวเช่น ญี่ปุ่น ทำไมเราไม่มีที่อยู่ที่ปลอดภัย ทั้งที่เราก็มีเงิน เรามีความพร้อม ทำไมเราต้องมาหนี แล้วเราจะหนีไปไหน จะหนีทันไหม จะกินอะไร จะนอนไหน หนาว หิว กลัว เครียด ช๊อค

แล้ว ระหว่างทาง รถจะติดเพราะแย่งกันหนี แล้วระหว่างรถติด จะมีการปล้นอาหาร ของใช้กัน ฆ่ากันเพื่อเอาตัวเองรอด ตอนนั้นไม่มีใครสงสารใคร มีแต่คนเห็นแก่ตัว ไปร่วมเส้นทางเดียวกัน จะตายเพราะฆ่าฟันกันเอง ตายเพราะสัตว์มีพิษออกมา โดยเฉพาะงู ตะขาบ จรเข้มาตามน้ำ แล้วจะมี ฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เสาไฟฟ้าล้ม ไฟดับ มืดอยู่กลางทางที่หนี แล้วก็จะมีน้ำซัดมาพาไปทั้งรถทั้งคน บางคนก็ตายทันที บางคนก็บาดเจ็บพิการทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็ตายเวลาต่อมา คนที่รอดก็ประสาทเสียเพราะเห็นคนตายต่อหน้า ตอนนั้นทุกคนไม่ต้องการเงินทอง ของมีค่าต้องการแต่ให้รอดตาย ต้องการที่ปลอดภัย ต้องการคนที่พึ่งพิงได้ ต้องการคนปลอบใจ ต้องการที่อาศัย อาหาร และที่นอน(หลับ)

เส้นทางที่ จะรอด ปลอดภัย จะไม่ค่อยมีคนใช้ เพราะนรก สวรรค์ แบ่งแยกเส้นทางไว้ ให้คนจะรอดไปทางหนึ่ง ให้คนจะไม่รอดไปทางหนึ่ง ส่วนเส้นทางที่จะรอด จะมีแต่ผู้มีน้ำใจ ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างทาง จะแบ่งเสื้อผ้า อาหารหยูกยา สนทนาธรรมกัน ที่ไม่รู้จักกันก็จะเป็นเสมือนญาติกัน ระหว่างทางนั้นจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยนำทางจนพบทิศทางสู่ที่ปลอดภัย แต่ก็อาจลำบาก ถ้าหากไม่ฝึกฝน ผจญภัย เพราะสิ่งของเครื่องใช้ไม่มีเหมือนเดิม เทคโนโลยีทั้งหลาย จะหายสิ้น ทั่วแผ่นดินจะคืนสู่สามัญ ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่กันเหมือนเมื่อ 50 -100 ปี ที่ผ่านมา ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีประปา ไม่มีแก๊ส ไม่มีรถ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีคอมพิวเตอร์ ที.วี. ฯลฯ ทุกสิ่งต้องสร้างสรรค์ กันขึ้นมาใหม่ทั้งหมด

ใคร เตรียมสิ่งใดไว้ แล้วยังอยู่ ก็จะได้ใช้สิ่งนั้นยังชีพไป แต่ถ้าหมดแล้วก็ไม่สามารถหาซื้อใหม่ได้ เพราะไม่มีคนมีสินค้าขายต่างมีแต่ตัวกับเสื้อผ้าที่ติดตัวเพียงชุดเดียว แต่จะมีคนพวกหนึ่งที่อยู่กับบ้าน (ต้องเป็นสถานที่ปลอดภัย) วันนั้น ไม่ออกไปไหน สิ่งของเครื่องใช้ ยังพอมีเขาก็จะได้กินได้ใช้ เท่าที่มี เท่าที่สร้างสมไว้ ปลูกไว้ เตรียมไว้ให้ยังชีพต่อไปได้ คนพวกนี้มีผลกระทบน้อยที่สุด ด้วยอานิสงส์แห่งบุญที่มั่นคงในศีล มั่นคงในพระพุทธองค์ มั่นคง ในความเชื่อ และเตรียมตัวล่วงหน้า ศรัทธาไม่เปลี่ยน

ที่เขียนมายืดยาว เพราะถึงคราวต้องบอกแล้ว วันนี้ท่านบอกพอก่อน ขอให้ทุกท่านโชคดี ปลอดภัย อยู่ในอ้อมกอดของพระพุทธองค์...สวัสดี

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2011-03-19 01:04:42

http://www.baansuanpyramid.com>
บ้านสวนพีระมิด เลขที่ 69 หมู่ 6 ต.เขาเพิ่ม อ.บ้านนา จ.นครนายก 26110
พิกัด GPS: N14 21.465 E101 03.790

หมายเหตุ

เหตุการณ์ ดังข้อความข้างต้นนี้ ผมมั่นใจว่าจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน 100% เพียงแต่เวลาที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ผมคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2554 อย่างที่ทำนายกัน เพราะไม่สอดคล้องกับเวลาในพุทธทำนาย และไม่ตรงกับเวลาในคำทำนายของผู้รู้ท่านอื่นๆครับ -เกษม-
***********
ดีมากครับ คุณเกษม ขณะนี้สถานการณ์โลกทางจิตใจ หรือ จิตวิญาณ ไม่ค่อสงบ
เห็น ดร.สมิทธิ์ ธรรมสโรธ 1 ใน จอมยุทธ์แห่งการฟังเหตุผลและคำสั่งผ่าน "เสียงการสีซอจากประชาชน" ยังตั้งใจยืนยันว่าขะนำพลังงานนิวเคลีร์มาใช้ ที่จริงขณะนี้เขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าอะไร คือ อะไร .. ระวังกรรมละเอียด จะส่งผลในปัจจุบัน

 

อย่าไปเลยบางกอกจะบอกให้​

​

​

อย่าไปเลยบางกอกจะบอกให้ พี่เคยไปมาแล้วน้องแก้วเอ๋ย
จะบอกเจ้าเอาบุญคนคุ้นเคย อย่าไปเลยบางกอกช้ำชอกใจ​

คนที่นั่นคั้นแต่ตัวหัวกะทิ หัวใจสิแสนบ้าใบหน้าใส
สวมหน้ากากปากซื่อเขามือไว คอยจงใจให้ร้ายทำลายเรา​

อย่าไปเลยบางกอกบอกไม่เชื่อ อยู่กับเสือดีกว่าไปหาเขา
คนบ้านนอกคอกนาปัญญาเบา เหมือนนกเหงาพรานซ้ำด้วยชำนาญ​

ควักหัวใจไปกินจนสิ้นหมด แล้วปล่อยปลดคืนกายที่ตายด้าน
ขยี้เนื้อเหลือกายไว้ประจาน ต้องซมซานกลับรังตายทั้งเป็น​

สวัสดีบางกอก
คำร้อง อาจินต์ ปัญจพรรค์
ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน​

ที่มา http://www.oknation.net/blog/chainews/2010/04/14/entry-1​

 

คนที่ชอบคิดว่าไม่ควรแจ้งเตือนเรื่องภัยพิบัติ ลองอ่านข่าวนี้ดูนะครับ​

​

อิตาลี--ฟ้องคดีไม่เตือนแผ่นดินไหว

ศาลอิตาลีเริ่มการพิจารณาคดีนักวิทยาศาสตร์ 7 คน ข้อหาฆาตกรรมโทษฐานที่ไม่สามารถเตือนภัยแผ่นดินไหว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน

เจ้าหน้าที่รัฐบาล และนักแผ่นดินไหววิทยาอิตาลี 7 คนขึ้นศาลเมืองลากวียาเมื่อวานนี้ เพื่อพิจารณาคดีข้อหาล้มเหลวในการคาดการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี 2552 ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีสัญญาณการเกิดแผนดินไหวในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้ว โดยจำเลยทั้งหมด ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาท

แม้หลายฝ่ายมองว่าเป็นคำฟ้องไม่เป็นธรรมต่อวิทยาศาสตร์ แต่อัยการระบุว่าประชาชนที่อยู่โดยรอบเมืองลากวียาที่เกิดแผ่นดินไหว ควรได้รับคำเตือนให้อพยพออกจากบ้านในช่วงหลายวันก่อนจะเกิดแผ่นดินไหว นอกจากนี้สภาเทศบาลเมืองลากวียา ยังได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายมูลค่า 50 ล้านยูโรต่อจำเลยทั้ง 7 คนอีกด้วย

ด้านผู้สูญเสียในเหตุแผ่นดินไหวเชื่อว่า การพิจารณาคดีครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความคิด ทำให้ใส่ใจต่อการแจ้งเตือนความเสี่ยงมากขึ้น เพราะแม้ไม่มีใครสามารถพยากรณ์เหตุแผ่นดินไหวได้อย่างถูกต้อง แต่ประชาชนก็ยังต้องการคำเตือนภัยว่าพวกเขามีความเสี่ยง

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ด้านแผ่นดินไหวทั่วโลก โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นต่างก็จับตาดูคดีนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่าอาจจะต้องถูกฟ้องคดีความแบบนี้เหมือนกัน


ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/44782/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B5--%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7.html

 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์การฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เปิดเผยถึงแผนการแก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาวว่า
คณะอนุกรรมการในส่วนที่เกี่ยวข้อง กำลังศึกษาแผนการลงทุนจากต่างประเทศมาปรับใช้ ซึ่งมีตัวอย่างในหลายประเทศเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมระยะยาว 50 ปี 100 ปี ที่น่าสนใจคือ การสร้างเส้นทางระบายน้ำเพิ่มเติม (Flood Way)
โดย Flood Way นี้ อาจสร้างในพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ลุ่ม เหมือนกับเส้นทางมอเตอร์เวย์ โดยในช่วงฤดูแล้งสามารถเปิดเป็นถนนให้รถวิ่งสัญจรไปมาได้ แต่ฤดูฝนจะปิดถนนให้เป็นช่องระบายน้ำ หรืออาจมีรถไฟวิ่งควบคู่ทางมอเตอร์เวย์
ในส่วนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง อาจต้องพิจารณาออกพระราชกฤษฎีกาประกาศย้ายชุมชนให้ไปอยู่ที่ปลอดภัย ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป
Mthai News



ผู้สื่อข่าว Mthai News รายงานสถานการณ์น้ำท่วม จากบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ถนนพหลโยธินว่า ปริมาณน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง เส้นคู่ขนานทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งแต่แยกลาดพร้าวบางส่วนถึงแยกกำแพงเพชร ถนนแห้งสนิท ทำให้การจราจรเริ่มเป็นไปอย่างปกติ จึงมีประชาชนเริ่มนำรถส่วนตัวออกมาใช้มากขึ้น
ขณะที่ บริเวณทางขึ้นลง ทั้งสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจตุจักร และรถไฟฟ้า BTS หมอชิต นั้น น้ำบนพื้นผิวการจราจรก็ได้แห้งสนิทเช่นกัน
ส่วนทางด้านหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าวบนถนนพหลโยธิน น้ำมีปริมาณลดลงเช่นกัน แต่น้ำยังท่วมขังอยู่ เส้นทางมุ่งหน้าสู่แยก รัชโยธิน ทำให้รถเล็กไม่สามารถเข้าใช้เส้นทางได้
ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำในคลองบางซื่อ ยังคงทรงตัวจากการสำรวจ โดยอยู่ต่ำกว่าระดับขอบเขื่อนที่ 5-7 เซนติเมตร และมีแนวโน้มที่ดีเพราะยังคงเดินเครื่องสูบระบายน้ำในพื้นที่อยู่ตลอดเวลาเช่นเดิม เพื่อให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้พบว่า พ่อค้าแม่ค้าเริ่มมีการค้าขายตามปกติมากขึ้นในพื้นที่ ทำให้ถนนพหลโยธิน มีแนวโน้มไปในทางที่ดี
Mthai News
เกาะติดสถานการณ์ ข่าวน้ำท่วม กับเอ็มไทย คลิ๊ก!!

เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com

แท็ก : น้ำท่วมกรุงเทพ, รถไฟฟ้าบีทีเอส





เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ รายงานว่า Marta Yegorovnam สาวรัสเซีย ที่อาศัยอยู่ในเมือง Petrozavodsk ทางตะวันตกประเทศรัสเซีย ได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอมีศพของมนุษย์ต่างดาว หรือเอเลี่ยน แช่ในตู้เย็น หลังเธอพบศพดังกล่าวเมื่อปี 2009
โดย Marta Yegorovnam เล่าว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขณะที่เธออาศัยอยู่ในบ้าน เธอได้ยินเสียงระเบิดดังใกล้ๆ กับบ้านของเธอ เธอจึงออกไปดู และพบร่างของเอเลี่ยนถูกไฟไหม้บางส่วน ซึ่งมันไม่มีชีวิตแล้ว และเธอยังพบเศษโลหะแตกกระจายอยู่รอบๆ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นจานบินที่เอเลี่ยนตัวนี้อาศัยมา
ซึ่งหลังจากนั้น เธอได้นำร่างของเอเลี่ยนห่อด้วยพลาสติกชั้นดี และแช่แข็งไว้ในตู้เย็นตั้งแต่ปี 2009 โดยศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ของรัสเซีย กำลังนำศพของเอเลียนดังกล่าวไปตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนมองว่า เรื่องดังกล่าวอาจเป็นเรื่องตบตาเท่านั้น
Mthai News
เกาะติดสถานการณ์ ข่าวน้ำท่วม กับเอ็มไทย คลิ๊ก!!

เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com

แท็ก : UFO, มนุษย์ต่างดาว, เอเลี่ยน

 

จะเอาไว้ผัดกะเพราหรือไง เก็บไว้ได้ยังไงตั้งสองสามปี เเต่ดูๆไปเหมือนไม้เนื้ออ่อนเเกะน่ะ

 

ผมอยากถามคนใน board palungjit หน่อยครับ ท่าเกิดเหตุการในปีหน้าเเละปีต่อไปที่มีภัยพิบัติเหตุการณ์ร้ายเเรงจริงๆ ผมบอกเพื่อนของผมเเล้วเขาไม่เชื่อเเล้วเกิดขึ้นจริงเเล้วเกิดตายขึ้นมา ผมจะบาปใหมครับ

 

ไม่บาปหรอกจ๊ะ เรื่องแบบนี้ตัวใครตัวมัน

 

เรื่องแบบนี้เตือนแล้วต้องวางให้ลง เราเตือนแล้วเขาไม่เชื่อก็ช่างเขา แต่ละคนมีกรรมต่างกัน

 

สงสัยจะเก็บไว้ดองน้ำผึ้ง.....

แล้วเดี๋ยวก็จะเอาไปโชว์ตามงานขายยาบ้านนอก อ่ะ.....อิอิอิอิ

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> กรมอุตุฯชี้ไทยตอนบนอากาศเย็น มีหมอกหนา </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปประจำวันที่ 17 พฤศจิกายน 2554 เมื่อเวลา 04.00 น.

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และบริเวณภาคเหนือจะมีหมอกหนาบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนเพิ่มระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย

<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายในระยะ 1-2 วันนี้
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง กำลังเคลื่อนที่ไปทางประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งหย่อมความกดอากาศต่ำนี้ไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้

<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณตอนบนของภาค
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศา โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">
<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: #ffffff; TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 14px Tahoma; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: #000000; WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> เชียงรายหวั่นปีนี้หนาวหนักเตรียมงบ 20 ล้านบาทช่วยเหลือ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เชียงราย 16 พ.ย.- นางรัตนา จงสุทธนามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย

พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดเชียงราย นำผ้าห่มกันหนาว จำนวน 2,000 ผืน ช่วยบรรเทาความหนาวเย็นให้กับชาวบ้านตำบลป่าอ้อดอนชัยและตำบลป่าก่อดำ อำเภอแม่ลาว ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้มีฐานะยากจน ซึ่งอากาศในปีนี้มีแนวโน้มจะหนาวเย็นกว่าทุกปีที่ผ่านมา และอุณหภูมิลดลงเป็นลำดับ

เบื้องต้น อบจ.ได้ตั้งงบประมาณจัดซื้อเครื่องกันหนาวจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ กว่า 2,000 หมู่บ้าน

หากไม่เพียงพอจะจัดหามาเพิ่มอีก สำหรับสภาพอากาศในจังหวัดเชียงรายเช้าวันนี้ (16 พ.ย.) อุณหภูมิพื้นราบที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาเชียงราย ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง วัดได้ 14.5 องศาเซลเซียส ยอดดอยต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>วิภาวดีน้ำเริ่มลดขาออกใช้การได้ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ถนนวิภาวดีรังสิตหน้าศปภ. น้ำลดต่อลงต่อเนื่อง รถยนต์-จยย. วิ่งผ่านฝั่งขาออกได้แล้ว

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงพลังงาน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ศปภ.แจ้งว่า สถานการณ์น้ำบริเวณด้านหน้าที่ทำการศปภ. ปริมาณน้ำบนถนนวิภาวดีรังสิตได้ลดลงแล้ว โดยเฉพาะในถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก รถจักยานยนต์ และรถยนต์สามารถวิ่งผ่านได้ แต่ในฝั่งขาเข้ายังมีปริมาณน้ำสูงกว่าเล็กน้อย รถยนต์สามารถใช้ช่องทางขวาสุดในการสัญจร ส่วนรถจักรยานยนต์ยังไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ขณะที่ปริมาณรถที่ประชาชนนำไปจอดไว้บนทางพิเศษดอนเมืองโทลล์เวย์ เจ้าหน้าที่ได้มีการประสานกับเจ้าของรถ ทำให้วันนี้ปริมาณรถที่จดมีจำนวนบางตาลง เนื่องจากประชาชนเริ่มทยอยนำเริ่มทยอยนำรถกลับไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ที่ปิดบริการไปตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา มีแนวโน้มจะเปิดให้บริการได้ตามปกติอีกครั้งในวันที่ 18 พ.ย.นี้

ด้านนายจารุทัศ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อาสาสมัครด้านนวัตกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก กล่าวว่า

กลุ่มอาสาสมัครนวัตกรรม ร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพพนัสนิคม ผลิตเรือจากวัสดุธรรมชาติ และกระดาษรีไซเคิล เพื่อไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม โดยเรือต้นแบบผลิตจากไม้อัด และกาวยาง โดยนำกระดาษรังผึ้งมาใช้แทนใบพัด ซึ่งถือเป็นเรือที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ เมื่อเทียบกับเรือพลาสติก และเรือไฟเบอร์กลาสแต่มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา เบื้องต้นสามารถผลิตได้แล้ว 30 ลำ และจะนำไปแจกจ่ายประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในอนาคตจะประสานกับบริษัทเอกชนร่วมผลิตเรือให้แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะเรือที่ทำจากกระดาษซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้กลุ่มอาสาสมัครด้านนวัตกรรม ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ออกแบบเสื้อชูชีพที่สามารถพับเก็บได้มีต้นทุนการผลิตต่ำ และบรรจุในถุงยังชีพของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก แจกจ่ายให้กับประชาชน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ศปภ.แจ้งด้วยว่า สำนักงานธนานุเคราะห์ผ่อนผันทรัพย์หลุดจำนำและคิดดอกเบี้ยรับจำนำ

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย ดังนี้ ผ่อนผันทรัพย์หลุดจำนำ สำหรับตั๋วรับจำนำตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. ถึงวันที่ 31 ก.ค. 2554 กำหนดเดิมเวลาตั๋วจำนำ 4 เดือน 30 วัน เป็น 4 เดือน 60 วัน ส่วนผู้ที่มีตั๋วจำนำก่อนวันที่ 22 ต.ค. 2554 หากดำเนินการส่งดอกเบี้ย ไถ่ถอน ผ่อนต้น หรือเพิ่มต้น ผ่อนผันโดยไม่คิดดอกเบี้ย 15 วัน.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> วาฬเกยตื้น 61 ตัวที่นิวซีแลนด์ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เวลลิงตัน 16 พ.ย. - เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรายงานว่า วาฬนำร่องถึงกว่า 60 ตัวเกยตื้นตายที่ชายหาดของนิวซีแลนด์

กระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแถลงว่า นักท่องเที่ยวพบวาฬ 61 ตัวที่ชายหาดทางเกาะใต้เมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า วาฬจำนวนมากตายลงและหวังว่าตัวที่รอดชีวิตจะลอยไปตามคลื่นและว่ายกลับสู่ท้องทะเลได้ โดยมีวาฬที่รอดชีวิต 18 ตัวในเช้าวันนี้ ซึ่งหากพวกมันยังคงเกยตื้นอย่างทรมานเจ้าหน้าที่ก็จะตัดสินใจให้ยาเพื่อให้ตายโดยไม่เจ็บปวด

สำหรับวาฬนำร่องมีลำตัวยาว 6 เมตรพบได้ทั่วไปในน่านน้ำนิวซีแลนด์ และมักเกยตื้นครั้งใหญ่ราวปีละ 2-3 ครั้ง .-สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พุทธทำนาย (Buddha’s prophecy) แยกตามเวลาของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น


​

ข้อมูลจากเวบ metteya.org เกี่ยวกับพุทธทำนายต้นฉบับ ซึ่งสามารถสังเกตได้จาก พระพุทธเจ้าตรัสปี พ.ศ. ที่จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ กำกับไว้อย่างชัดเจน แต่ทาง metteya.org จะไม่ถือข้อมูลถูกหรือถือว่าผิดประการใด ถ้าท่านนำข้อมูลไปใช้ ขอได้ทบทวนกันเองตามอัธยาสัย

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับพุทธทำนายต้นฉบับนี้ มีีท่านเจ้าคุณฯ วัดบวรนิเวศวิหาร หรือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และผู้ใหญ่ระดับสูงหลายท่าน และอาจารย์ที่จุฬาฯ ได้จัดทำตามฉบับที่ไปคัดลอกมาจาก ประเทศอินเดีย และเวบ metteya.org จะแสดง พ.ศ. ตามด้วยปี ที่แก้ไขแล้วกำกับไว้ด้วย

จากการที่ พ.ศ.ไทยใช้ 543 + กับปี ค.ศ. นั้นมีหลักฐานปรากฏอยู่เฉพาะในสีหฬภาษาไหม่จริง แต่ไม่มีปรากฏในสีหฬภาษาเก่า เรื่องนี้อาจเป็นข้อมูลหนึ่งที่องค์การวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์หลายแห่ง ยกขึ้นเป็นประเด็นไม่ยอมรับ พ.ศ. ไทย

ที่เวบ metteya.org มี ปธ.๙ และ อาจารย์หลายท่าน ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องราวในพระไตรปิฎก เรื่องราวในพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์อินเดียและกรีก หลักฐานโบราณคดีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเกิดเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้ว สรุปว่า พ.ศ. ที่ควรมีความถูกต้องจะต้องแก้ไขอย่างไร และได้ทดลองนำไปใช้ในพุทธทำนาย เห็นว่ามีความสอดคล้องกันกับเหตุการณ์ในปัจจุบันจริง มีความเป็นเหตผล นอกจากนี้ยังมีความสอดคล้องกับคำพยากรณ์ของมายันและอเมริกันอินเดียนเมื่อประมาณ 3000 ปีมาแล้ว และยังสอดคล้องกับคำทำนายโลกอื่นๆ เกี่ยวกับการมาปรากฏของพระธรรมมิกราช ทำให้เกิดศรัทธาในพุทธทำนายยิ่งขึ้น

เรื่องที่กล่าวมา ทาง metteya.org ไมสนับสนุนให้ท่านใด้เชื่อตามหลักกาลามสูตรของพระพุทธองค์ ท่านใดจะมีความคิดเป็นอย่างไร ย่อมเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล และเพื่อให้เห็นเวลาของการเกิดเหตุการณ์ จึงจัดแยกเป็นช่วงดังนี้

ตามระยะเวลา (Timeline) โดยมี พ.ศ. ไทยที่ปรับแก้แล้วกำกับ ชี้ถึงช่วงเวลาของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น

พ.ศ. 2484 : คณะธรรมทูตไทย ผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔

ก่อน พ.ศ. 2548 : เมื่อโลกไปไกล้กึ่งจำนวนที่ตถาคตทำนายไว้ (คือ ก่อนปี ๒๕๐๐ ปี หรือ ก่อน พ.ศ. 2548) มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศเสียครึ่งหนึ่ง (ผู้คนครึ่งหนึ่งของโลกจะได้รับภัยพิบัติเสียครึ่งหนึ่ง)

พ.ศ. 2533 – 2563 : ช่วงในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หิน ถูกสาป (คนไม่ดี มีจิตใจเช่นยักษ์) ให้หลับก็กลับคื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก เมื่อใกล้กึ่งศาสนาของตถาคต ก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และมนุษย์นอกศาสนาก็จะรบราฆ่าฟัน กันถึงเลือดนองแผ่นดินและแผ่นน้ำ

แม้ในอากาศก็มี อำนาจภัยจากฟ้าทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์ กระหายเลือด แผ่นดินแผ่นน้ำจะเดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา (อธิบาย : ผูู้้มีพระภาคตรัสเกี่ยวกับก่อนกึ่งพุทธกาล หรือปี 2500 หรือ ก่อน พ.ศ. 2548 ว่า ก่อนกึ่งพุทธกาลนั้น ผู้คนนอกศาสนาพุทธ ได้สู้รบกัน และที่รู้จักดีคือทั้ง สงครามโลกครั้งที่ 1 และที่ 2 ทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้การต่อสู้ทางอากาศ มีลูกระเบิดจากเครื่องบินทำให้เกิดเป็นเพลิงเผาพลานไปทั่ว ทางพื้นน้ำก็มีการสู้รบกันทางเรือ ทั้งสองฝ่ายต่างเสียชีวิตเป็นอันมาก และแล้วก็เลิกรากัน )

พ.ศ. 2533 : เริ่มแต่ศาสนาตถาคตล่วงมาได้ ๒๔๘๕ ปี (พ.ศ. 2533) เป็นต้นไป ไฟจะลุกมาทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม ( อธิบาย : พระสงฆ์ ครูอาจารย์ทางพุทธศาสนาเสื่อมลงตามทีพระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้ว ศาสนาและลัทธิอื่นยังเข้ามาเผยแพรในแดนพระพุทธศาสนา่ เดียรถีย์เพิ่มพูล ) สมณชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ คนบ้านจะเข้าป่า ( อธิบาย : คนในเมืองบุกรุกป่า มีทั้งจับจองที่ดิน และหาผลประโยชน์จากป่า ) สัตว์ป่าจะเข้ากรุง ( สัตว์ป่าไม่มีทีหากิน เข้ามาหากินตามไร่สวนรบกวนผู้คน ) เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำ (เกิดมลพิษต่างๆ)

สงครามจะทั่วทิศ ( สงครามในรูปแบบต่างๆ จะเกิดขึ้นมากมาย ) ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง ( คอร์รัปชั่นจักเกิดมาก ) ปราชญ์เปรื่องจะสิ้นสูญ ( คนดีไม่มีปากเสียง ) ราชตระกูลอำมาตย์ ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม โดยปรวนแปรนิยม เชื่อถือถ้อยคำของคนโกง คนกล่าวคำเท็จ คนประจบสอพลอย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต ( อธรรมจะได้รับการยกย่องเชื่อถือ )

ทางสองแพร่ง ( จากการวิเคราะห์ตามหลักทฤษฎี )

1. พ.ศ. 2555 : เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง พ.ศ. 2555) คน เปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ( อธิบายไว้ในพุทธทำนาย )

2. พ.ศ. 2556 : ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง พ.ศ. 2556) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล (โลกาวินาศ)

ล่วงได้ ๒๕๑๒ พ.ศ. 2560 : ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา พ.ศ. 2560) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม

พ.ศ. 2560 : เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๑๒ ( ต่อจากปลายปีระกา ปีจอ พ.ศ. 2560) พระจันทร์จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก

พ.ศ. 2563 : ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด พ.ศ. 2563 ) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี (จาก พ.ศ. 2533 - 2563) พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ( เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2563 )

ส่วนนี้เป็นการกล่าว ถึงพระมหาเถรโพธิิสัตว์ และพระธรรมมิกราช ดังมีความดังนี้

มหากษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์ องค์หนึ่งจะเกิดภายในความอุปภัมถ์ของพระมหาเถระโพธิสัตว์ ( การตีความ แสดงว่า พระธรรมมิกราช นั้นอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหาเถรโพธิสัตว์ ) ทั้งสององค์นั้น จะจัดการบำรุงศาสนาของตถาคต ในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล"

พ.ศ. 2502 : พระมหาเถระโพธิสัตว์ จะเกิดในสมัยของตถาคตล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี ( พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแสดงถึงความเป็นพระมหาโพธิสัตว์ และในเวลาปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร.9 และในเวลาปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหาเถรโพธิสัตว์โดยสมบูรณ์ )

พ.ศ. 2515 – 2534 : เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ ( พ.ศ. 2515 - 2534 ) พระมหา กษัตริย์ธรรมิกราชจะมาเกิด (ท่านอินทรา คนไทยในพุทธศาสนา มีถิ่นฐานอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้อธิฐานบุญอันแรงกล้าในปี พ.ศ. 2534 และรู้อมตธรรมในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 หลังค้นหามากว่า 40 ปี ได้ด้วยตนเอง จึงนับว่าพระธรรมมิกราช ได้เกิดขึ้นแล้ว )

ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ ( พระโพธิสัตว์สองพระองค์จะอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชณิมประเทศ หรือกล่าวได้ว่าเป็นไปในภาคกลางของประเทศเขตชมพูทวีป หรือทวีปของพระพุทธศาสนา มาทางทางตะวันออกที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เมืองที่ประทับดังกล่าวคือกรุงเทพมหานครของประเทศไทย )

พ.ศ. 2561 – 2562 : ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ (พ.ศ. 2561 – 2562) ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้เที่ยงแท้สมณชีพราหมณ์ จะเสด็จมา ๘๔,๐๐๐ รูป

<TABLE style="WORD-SPACING: 0px; TEXT-TRANSFORM: none; TEXT-INDENT: 0px; FONT-FAMILY: 'Times New Roman'; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(233,246,248); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=textb style="FONT-SIZE: 17px; MARGIN: 5px 25px; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-FAMILY: tahoma, tahoma" align=left width=750 bgColor=#cdefef>ดูกรอานนท์ ตถาคตสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที ( ยกของเดิมมาคือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2556 - 2563 ) พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก ( นี่ี่คือคำตอบ "เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที" )

คำทำนายของตถาคตนี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ใน ความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา

</TD></TR><TR><TD class=textb style="FONT-SIZE: 17px; MARGIN: 5px 25px; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-FAMILY: tahoma, tahoma" bgColor=#ccffff>"พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติ ปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม"

ที่มา http://www.metteya.org/sriann/Buddha%20Prophecies%20TL.html
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อิอิอิ มีแต่เจ็ด เจ็ด ก็เลย เจ็บ เจ็บ ไปตามๆกัน

 

ก็ในอนาคตเข้าต้องการจะมาเมืองไทยแบบถาวร เพราะประเทศเค้ากำลังแย่และคงจะแย่มากขึ้นหากจะทำสงครามใอนาคต:boo:

 

"โอบาม่า" เตรียมขยายบทบาททางทหารในแถบเอเชียแปซิฟิกให้มากขึ้น​

​

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ระบุ พม่าต้องปรับปรุงเรื่องสิทธิมนุษยชนและเตรียมขยายบทบาททางทหารในแถบเอเชียแปซิฟิกให้มากขึ้น

ในการแถลงต่อรัฐสภาออสเตรเลียในวันนี้ ประธานาธิบดีโอบามาระบุว่า แม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับการปฏิรูปแล้วแต่พม่าจำเป็นต้องปรับปรุงในเรื่องสิทธิมนุษยชนให้มากกว่านี้ โดยกล่าวว่า แม้รัฐบาลพม่าจะประกาศปล่อยตัวนักโทษการเมืองแล้วบางส่วนและเริ่มการเจรจาแต่ก็ยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นจุดยืนที่ชัดเจนของสหรัฐฯ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างพม่ากับสหรัฐฯ ทั้งนี้สหรัฐฯ,ออสเตรเลียและยุโรปต่างเห็นพ้องต้องกันว่าการปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองเป็นการปล่อยแบบตั้งเงื่อนไขก่อนเพื่อให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

โอบามาเยือนออสเตรเลียก่อนจะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออกที่เกาะบาหลีประเทศอินโดนีเซียและเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ จะใกล้ชิดกับประเทศในแถบแปซิฟิกมากยิ่งขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของพม่าก็อยู่ที่บาหลีแล้วเพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพม่าเผยว่าเตรียมจะปล่อยนักโทษการเมืองชุดที่สองเร็วๆนี้ภายใต้การนิรโทษกรรม ซึ่งประเด็นนี้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของนายเต็งเส่งซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2014 ก่อนกำหนด 2 ปี

นอกจากประเด็นพม่าแล้ว โอบามายังประกาศในที่ประชุมสภาออสเตรเลียด้วยว่า สหรัฐฯ ขยายบทบาททางการทหารในแถบเอเชียแปซิฟิกแม้จะมีการลดงบประมาณก็ตาม พร้อมประกาศว่าสหรัฐฯจะอยู่ในภูมิภาคนี้ในฐานะมหาอำนาจที่จะช่วยกำหนดอนาคตของภูมิภาคนี้ และสำหรับประเด็นที่จีนแสดงความเคลือบแคลงต่อความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกว่า สหรัฐฯ จะร้องขอความร่วมมือกับจีนเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดของจีน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com/ข่าว/47780/-โอบามา-แถลงนโยบายต่อเอเชียขณะเยือนออสเตรเลีย.html