ไม่รู้ว่ามีใครเห็น Planet X หรือยัง?

ความเห็น

...งั๊น..ลองดู ภาพสามมิติ แบบนี้ดูบ้างเผื่อว่าจะเข้าใจได้ ดีขึ้นนะครับ ..ที่เห็นหมุนๆ เหมือนใบพัด เรียกว่า Parker spiral อธิบายง่ายๆ...เป็นคลื่นสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ ที่ กระเพื่อมเหมือนคลื่นน้ำวน ออกจากศูนย์กลาง เนื่องมาจาก การหมุนรอบตัวเองของดวงอาทิตย์ ๑ รอบ ใช้เวลา ๒๗ วัน สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย นี่ เขาจะกลับขั้วทุกๆ วงรอบ ๑๑ ปีครับ หมายถึง กลับขั้วเหนือ ใต้ นะครับ ส่วนของ โลก ก็ จะ กลับขั้ว ประมาณ ทุก ๕,๐๐๐ ปี ถึง ๕ ล้านปี แล้วแต่ ความเฮง ใคร ที่ เกิดมาแล้วเจอ เหตุการณ์ แกนโลก พลิก ถือได้ ว่า มี บุญ ครับ เพราะ ตายแล้วเกิดใหม่ อีก หลายชาติ ก็ ยังไม่เจอ...ฉะนั้น...ขอให้ ตื่นเต้นยินดี กับ เหตุการณ์ ที่ กำลังมาถึง ดีกว่า...ช่วยกันลุ้นนะครับ

 

ถ้าโลกหมุนกลับด้าน สังเกตุง่ายมากครับ ดวงอาทิตย์จะขึ้นในทิศตะวันตก(เดิม) และจะตกในทิศตะวันออก(เดิม)ครับ


นี่แสดงว่ายังไม่พลิกครับ ถ้าพลิกตอนไหนล่ะเรื่องใหญ่แน่นอน ข่าวคงไม่เงียบครับ ที่สำคัญ นาซ่าคงแถลงการณ์ไม่ทันเหตุการณ์แน่ๆครับ พวกเราอาจซี้กันก่อนที่จะรู้อะไรเป็นอะไรซะอีก

 

ผมทำงานอยู่กับกลุ่มหนึ่ง เคยได้ยินเรื่องหุ่นยนต์อวกาศนี้มามั่งเหมือนกัน ผมอยากทราบข้อมูลนี้มากครับ รบกวนด้วยนะครับ ยิ่งมีภาพและชื่อด้วยก็เกินพอแล้วครับ

อ้อ และก็ เรื่องซุปเปอร์โนว่าน่ะครับ คลื่นกระแทกของระยะการระเบิดของดาว Betelgeuse นั้นไม่ต้องห่วงคับยังไงก็มาไม่ถึง ห่วงแต่คลื่นรังสีตอนที่เป็นหลุมดำน่ะครับ เนื่องจากมันเป็นดาวที่ใหญ่มาก มันจึงยิงได้ยาวและไกลไปถึงกาแลคซี่เพื่อนบ้านเลยทีเดียว อย่างที่บอกครับ ถ้าไม่ดวงจริงๆไม่โดนกันง่าย ๆ สบายใจหายห่วง

 

---------------PEACE---------------

 

อันนี้เป็นดาต้าลับภายในที่เกี่ยวกับประวิติของ Nibiru บางส่วนที่ถูกอณุญาติให้นำมาเผยแพร่ได้แล้วตอนนี้นะครับ ไม่ใช่ ต้นฉบับนะครับ ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษและไม่สามารถเซฟดาต้าจากศูนย์ฯมาได้



ประวิติ Nebiru ที่มีต่อโลกของเราและดาวอังคารในอดีต


เมื่อ 7 หมื่นกว่าปีก่อนกองยานจากกลุ่ม fallen angels จากกลุ่มดาวซิริอุส ที่เพิ่งแพ้สงครามอามาเกดอนและลี้ภัยลงมายังโลกใหม่ ๆได้เกิดขัดแย้งกับอาณาจักรเลมูเรีย เข้าให้และเกิดการปะทะกันทำให้มูถูกทำลายราบคาบและล่มสลายไปด้วยอาวุธที่ทรง อาณุภาพ บ้านเรือน ทุกสิ่งทุกอย่างได้อันตรธานสลายไปในชั่วพริบตา เนื่องจากกองยานเหล่านี้ได้ตัดขาดจากยานแม่ที่สังกัดดาว Nibiru (อ่าน เนบิรุนะครับ ไม่ใช่ นิบิรุ เพราะใช้อักษรเนมัน ที่เหมือนกัน2ตัวแต่ว่าการอ่านออกเสียงต่างกันเพราะต้นประโยคต้องทำหน้าที่ สระ เ- เสมอ) กองยานเหล่านั้นจึงถูกสหพันธ์กาแลคติค คับบาลา(สหพันธ์ความร่วมมือระหว่างดวงดาวในกลุ่มกาแลคซี่คับบาลา ทั้งสี่[ทางช้างเผือกของเรานี่แหละ ถูกแบ่งดูแลออกเป็น4ส่วนเรียกว่า 1ควอเตอร์ พวกกรีกโรมันก็เอาคำนี้มาจากภาษารูนอีกต่อหนึ่งซึ่งเป็นภาษาทางการของกลุ่ม ดาวซิริอุส]) เข้ามาตัดสินคดี ปรากฎว่าไม่สามารถเอาผิดดาวเนบิรุได้ เพราะกองยานเหล่านั้นได้ปลดแอกออกจากเนบิรุเรียบร้อยแล้ว

หนึ่งพันปีต่อมา กองยานจากอาณาจักรมาร์มุตต้า(ดาว อังคาร)ได้เกิดพิพาทกับอาณาจักรแอตแลนติสที่ขึ้นมาเป็นใหญ่ในโลกหลัง การล่มสลายของ มู ได้ไม่นาน กองยานจากมาร์มุตต้าได้ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเข้าโจมตีแอตแลนติส ผลจากการโจมตีครั้งนั้นทำให้แอตแลนติสล่มสลายและดาวมาร์มุตต้าได้ถูกสหพันธ์ กาแลคติค คับบาลา ถอดออกจากการเป็นสมาชิกและถูกลงโทษด้วยการส่งกองยานขนาดใหญ่มาโจมตีมาร์มุต ต้า และเนื่องจากมาร์มุตต้าไม่ยอมรับคำตัดสิน จึงเกิดการปะทะกันขึ้น จนกระทั่งมาร์มุตต้าถูกอาวุธรังสีระดับเข้มทำลายล้างสูง ทำลายระบบชีวภาพของดวงดาวไปทั้งระบบ อากาศเป็นพิษพืชพันธ์ล้มตายกันหมด ชาวมาร์เทียนส์จึงต้องประกาศยอมแพ้และเนื่องด้วยระบบชีวภาพที่เสียไปของดวง ดาวนั้นเกินเยียวยา ไม่สามารถกู้ให้กลับคืนเหมือนเดิมได้ดาวมาร์มุตต้าได้เปลี่ยนสภาพไปเป็นดาว แห่งความตาย ทำให้ชาวมาร์เทียนส์ทั้งหมดที่เหลืออยู่น้อยนิดต้องลงไปอาศัยอยู่ใต้ดิน สร้างเมืองสร้างอาณาจักรกันใหม่และไม่สุงสิงกับใครเลยมาจนบัดนี้ นับตั้งแต่นั้นมาเกือบๆ 8หมื่นปีแล้วที่ไม่ปรากฎข้อมูลใดๆของอาณาจักรมามุตต้าและชาวมาร์เทียนส์สู่ ภายนอกอีกเลย

 

ผมสงสัยภาษาที่ใช้ครับ มันมาจากภาษาอะไรกับเช่น มาร์มุตต้า,กกาแลคติค คับบาลา มันมาจากภาษาอังกฤษหรือเปล่าครับ ที่สงสัยเพราะเห็นแต่ละเรื่องที่มีคนบอกๆกันมาส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษบ้าง ภาษานั้นภาษานี้ แต่ไม่ยักกะมีภาษาไทยบ้างเลย ถ้าเป็นต่างดาวจริงทำไมยังเห็นมีภาษาอังกฤษไปปะปนกกับภาษาของเขา ผมแค่สงสัยเท่านั้นครับว่าเขาจะแต่งเรื่องขึ้นหรือเปล่า

 

ขอบคุณมากๆเลยนะครับ เป็นความรู้ใหม่

 

ตอบ

..ที่มา.. จากรายการ โลกพิศวง ของ TPBS เวลาประมาณ ๖ นาฬิกา ถึง ๑ ทุ่ม เป็นสาระคดี ที่ เอามาจาก วงในของ นาซ่า ทั้งหมด เป็นเป็นทฤษฎี ที่ ผมดู แล้ว ตอบได้ เลยว่า มีความเป็นไปได้...ดาวหุ่นยต์ และ สิ่งมีชีวิตเป็นหุ่นยนต์ ก็ มีอยู่ในสาระคดีนี้ด้วย...

..ยังมีเรื่องแปลก ที่ ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ ของฟิสิกซ์ โดยทั่วไป เช่น ลมพายุ ที่ขั้วเหนือ ของ ดาวพฤหัสบดี เป็นรูป ห้าเหลี่ยม ไม่ใช่ วงกลม...ไม่มีคำอธิบายใดๆ จากนาซ่า...ให้ดูแต่ รูปเฉยๆ...

 

ความเห็น

..คิดว่า..เขาจะไม่แถลงการณ์อะไรทั้งนั้น...เพราะ เวลานั้น..ทุกคนบนโลก ก็ ทราบเองว่า..จะเกิดอะไรขึ้น...ถ้ามันเป็นเรื่องจริงนะครับ

...และ ถ้า เรื่องนี้ การกลับ หรือ พลิกของแกนโลก เป็นเรื่องจริง...ฤดูร้อนปีนี้ สำหรับเมืองไทย น่าจะ หนาวๆ ร้อนๆ และ แถมด้วยฝนตก....หมายถึง การส่ายไปมาของ แกนโลกก่อน ตามด้วยการล๊อคตำแหน่งก่อนพลิก ต่อด้วยการ หยุดหมุนชั้วคราว และ การเริ่มต้นหมุนใหม่ พร้อมๆ กับ การจัดตำแหน่ง ขั้วโลก ใหม่...

.สรุป..เราทุกคนได้ เดินทางไกลๆ พร้อมๆ กัน ก็ คราวนี้...

 

ดาวหุ่นยนต์มีความเป็นไปได้เหรอครับ มันจะเกิดจากอะไรครับ สงสัยเหลือเกิน แล้วผมสามารถดุย้อนหลังได้ไหมครับ

 

ตอบ

..เป็นไปได้ทางทฤษฎีครับ การจัดรูปแบบ คล้ายๆ กับ โครงกริดหุ้มโลก ของ ก๊วนยุคพลังงานใหม่ ที่ มีโพสต์ ในเวปนี้...แต่ ใหญ่กว่ามาก ขนาดห่อหุ้ม ได้ทั้ง ดวงอาทิตย์...เวลาดูดพลังหมด ก็ สลายโครงกริดพลังงาน เป็นดาวคาราวาน เดินทางไปดูด กันที่อื่น กันใหม่....

...ลองติดต่อ ทาง TPBS สำหรับชมย้อนหลัง น่าจะประมาณ ๑ เดือนมาแล้วครับ...

 

ขอบคุณครับ ผมเจอลิงค์ครับ ไม่รู้ว่าอันไหนรายการอะไร

http://media.thaiorc.com/tv/tpbs.php

 

ภาษาโบราณที่มีการกล่าวถึงมากคือภาษารูน เก่าแก่ที่สุดที่มีหลักฐานเป็นจารึกแผ่นบนทองคำ

ภาษารูนนั้นมีเข้ามาในโลกนี้ ประมาณ 6แสนปีก่อน มีการขุดพบ และพบ

บางเล่มก็เขียนขึ้น เมื่อ 4 หมื่น ปีก่อน ทั้งหมดเป็นอักษรรูนที่สลักไว้บนแผ่นทองคำ มีบางส่วนถูกทำลายไป และบางส่วนยังเก็บไว้อย่างดีในที่ลึกลับ

เริ่มมีการพิมพ์และแปลออกมาเป็นหนังสือ ประมาณ20-30ปีที่ผ่านมา

ในปี 1875 มีการขุดพบ แผ่นทองคำเก่าแก่ที่มีอัขระโบราณ(รูน) สลักอยู่ ที่ไต้ซากโบราณสถาน 400 ชิ้นนักวิทยาศาสตร์เรียกว่า Santiya Dakov หรือ หนังสือ

ในสมัยนั้นเป็นสมัยชอง กษัตริย์ Karl ที่ 1ได้สั่งให้มีการหลอมแผ่นทองคำ เพราะเป็นสิ่งมีค่า แต่ก่อนทำการหลอม ได้ทำการ copy ลงบนแผ่นตะกั่วและยังอยู่จนถึงปัจจุบัน และยังมี3-4แผ่นที่ยังไม่ได้หลอมถูกเก็บไว้อย่างดี

นิตยสาร vediccouture ได้ตีพิมพ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ใน เดือนกันยา2007 ที่ผ่านมา

รูปแผ่นทองคำครับ





http://dots-connector.blogspot.com/2009/12/blog-post_438.html

มีบทความเกี่ยวกับภาษารูนในอีกแบบหนึ่ง ไม่รู้ว่าจริงเท็จเป็นอย่างไร
ก็ใช้วิจารณญาณในการอ่านเนาะ
ประวัติความเป็นมาของอักษรูน

รากของภาษาศาสตร์เดิมนั้นไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าถือกำเนิดบนโลกในช่วงไหนแน่นอน ว่ากันว่าพระเป็นเจ้า(เทพโอดิน ของชาวนอร์ส) เป็นคนถ่ายทอดอักขระแห่งพระผู้เป็นเจ้านี้สู่มนุษย์ ซึ่งพระองค์ยอมห้อยหัวอยู่ที่ต้นแอชใหญ่(อิกดราซิล - Yggdrasil) เพื่อทำพิธีทรมานกายให้ครบ 9 วัน 9 คืน ระหว่างที่พระองค์ทนทุกข์ทรมานอยู่นั้น ในช่วงวันที่ 9 นั้นเอง พระองค์ได้พบกับแผ่นหินสลักขระทางเวทมนตร์ ทรงไขว่คว้ามาได้และพ้นจากพันธนาการจากกิ่งไม้แห่งโลกและเป็นอมตะ มีอิทธิฤทธิ์มากมายมหาศาล ซึ่งจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏอย่างแน่ชัดพบว่า มีการเริ่มใช้อักษรนี้ราวปีศตวรรษที่ 1 - 4 ซึ่งเกี่ยวโยงกับการที่เป็นภาษาบรรพบุรุษของเยอรมันอย่างแยกไม่ออก แต่ใช่ว่า ภาษารูนนั้นจะมีอยู่แถบเยอรมันอย่างเดียวรูนยังมาจากหลายที่ เช่น เตอร์กิช รูน(ตุรกี) ฮังกาเรียน รูน แกลกิค(สกอตแลนด์ ไอร์แลนด์)

การนำไปใช้ของพ่อมดแม่มด

- ใช้จดบันทึก
- ใช้ในการทำสัญลักษณ์ พิธีกรรม และ อื่นๆที่เกี่ยวกับการพยากรณ์

ทั้งนี้ นอกจากประวัติข้างต้นแล้ว แพมสัน (อ้างถึงโมรีน่า แพมสัน , 29 มีนาคม 2547) ได้กล่าวว่าภาษารูณ รูน หรือรูนส์ (Runes เป็นภาษาของพวกไวกิ้งหรือยุโรปตอนเหนือ อักษรรูณเป็นภาษายุคในแรกๆ มีใช้ในอังกฤษ สแกนดิเนเวียและไอซ์แลนด์ มันเริ่มถูกนำ มาใช้เมื่อประ 300 ปีหลังคริสตกาลและมีใช้กันอยู่มานานนับพันปี คืออักขระ หรืออักษรโบราณของภูมิภาคยุโรปเหนือ หรือที่เรียกว่าสแกนดีเนเวีย อันได้แก่ประเทศสวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ คนในประเทศในกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่าพวกนอร์ส หรือพวกไวกิ้ง นั่นแอง เป็นพวกที่มีอารยธรรม มีภาษาและรูปแบบตัวอักษรขึ้นมานานไม่น้อยกว่า 1000 ปีก่อนศริสตกาล ก่อน ที่จะหันมาใช้พยัญชนะแบบโรมัน ซึ่งรับไปจากยุโรปพร้อมกับศาสนาคริสตร์ อักษรรูณมีพยัญชนะแรก 6 ตัวได้แก่ f,u,th,a,r และ k อักษร รูณบางครั้งเรียกว่า อักษรฟูทาร์ค (futhark) ภาษารูณเป็น ภาษาแกลิค(ภาษาในสกอตแลนด์และไอซ์แลนด์) แปลว่า ความลับ และเฮรูณ แปลว่า พยากรณ์ศาสตร์ แสดงให้เห็น ว่าอักษรเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้างอักษรรูณขึ้นมา มีตำนานเล่ากันว่า โอดิน ได้แขวนคอตนเองอยู่บนต้นแอสซึ่งเป็นต้นไม้ที่เกาะเกี่ยวโลก สวรรค์ และนรกไว้เข้าด้วยกันเป็นเวลาถึงเก้าวันเพื่อที่จะเรียน รู้ภาษารูณ ความเสียสละของโอดินในการหาความรู้เพื่อมนุษยชาติ แสดงให้เห็นถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของความรู้เกี่ยวกับภาษารูณ

ที่จริงแล้วพ่อมดแม่มด ต่างก็มีความรู้เกี่ยวกับอักษรรูณพอๆกัน เนื่องจากพ่อมดแม่มดใช้อักษรรูณในพยากรณ์อยู่เสมอ

เมื่อรูนเป็นอักษรวิเศษ พวกเราจังไม่ได้นำมาเขียนเรื่องสัพเพเหระอย่างภาษาทั่วไป แต่จะใช้สำหรับ ทำจารึก เขียนคำภีร์หรือทำรหัสลายแทงต่างๆ ตามหลักแล้วอักษรแต่ละตัวสามารถให้ความหมายของคำใดคำหนึ่ง ด้วยตัวเอง (เหมือนภาษาจีน) เช่น I เขียนเพียงเท่านี้หมายถึงน้ำแข็ง แต่ถ้าเขียนเรียงกันเพื่อประกอบคำใดคำหนึ่งขึ้น ก็ได้ เช่น Is แปลว่าน้ำแข็งที่เหมือนกัน เป็นต้น

ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ และพลังอำนาจในตัว บวกกับพระเจ้าผู้สร้างเป็นเทพแห่งปรีชาญาณทั้งหมด รูนจึง บรรจุความรู้ของจักรวาลไว้อย่างรอบด้าน สามารถชี้ให้เห็นความเป็นไปต่างๆทั้งในอดีต ปัจจุบันและอณาคต พวกเรา จึงนำมาทำนายดวงชะตา แต่โดยเหตุที่พลังอำนาจและความรู้เหล่นนั้นมาจากจอมเทพโอดิน การพยากรอักษรรูนส์ จึงเรียกว่า เทวพยากรณ์ รูนจึงแตกต่างกับเครื่องมือพยากรณ์ชุกอื่นๆที่ใช้การพยากรณ์ในแบบคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะไพ่ ไพ่ยิปซี หรือเครื่องมือเสี่ยงทายแบบอี้จิงนั่นเพราะรูนเป็นเครื่องมืออันศักดิ์สิทธิ์ มีความสัมพันธ์ชนิดที่แยกไม่ออกจาก เทพเจ้าของสแกนดิเนเวีย หากผู้ทำนายไม่ได้นับถือเทพเหล่านั้นจะไม่สามารถใช้รูนส์เพื่อพยากรณ์อย่างลึกซึ้ง เขาจะได้เพียงคำตอบพื้นๆที่รู้กันว่าเป็นความหมายของอักษรแต่ละตัว แต่การใช้อักษรรูนให้ได้ผลจะต้องรู้ในสิ่งที่ คนทั่วไปไม่รู้ ต่อมาภายหลังการทำนาย อักษรรูนจึงแพร่หลายในหมู่พวกเราเท่านั้น(พวกมักเกิ้ลหันไปนับถือศาสนา อื่นๆกันหมด)

การทำนายอักษรรูนนั้น จะมีอักษร 24 ตัวจะจารึกลงบนแผ่นไม้ หิน หรือไพ่ ทั้งหมดก็ 24 ชิ้น ผู้จะรับ การพยากรณ์ จะต้องเป็นผู้เลือกอักษรตามจำนวนที่กำหนดไว้ ซึ่งแล้วแต่ว่าจะถามอะไร อักษรที่หยิบได้ผู้ทำนายจะนำ ไปเรียงกันตามรูปแบบที่สัมพันธ์กับคำถามนั้น เพื่อจะให้คำตอบ รูนเป็นเทวพยากรณ์ ดังนั้นสิ่งที่รูนบอกแก่ผู้รับคำทาย คือดำรัสของเทพเจ้า ซึ่งจะให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับผู้รับคำทำนายแต่ละคนได้มากที่สุด รูนไม่สนใจว่าผู้รับคำทำนาย จะมีไฝดีไฝร้ายที่ไหน ตำหนิที่ไหน และภูมิหลังเป็นอย่างไร การรับพยากรณ์จากรูน จึงเป็นลักษณะให้คำปรึกษาและ การให้คำปรึกษา ให้การแนะนำการแก้ปัญหาต่างๆโดยเทพเจ้า ดังนั้นผู้ทำนายจากรูนส์ ต้องมีความจริงใจต่อการ แก้ปัญหาที่ตนเองมีอยู่เสียก่อน ไม่มีอะไรต้องกลัวแต่ควรให้ความเคารพ ถ้าจะถามว่าแม่นแค่ไหน สำหรับรูน ความแม่น ขึ้นอยู่กับผู้ทำนาย เพราะต้องมีความเข้าใจและรู้ซึ้งถึงความรู้ของเทพเจ้าที่แสดงออกมาจากอักษรแต่ละตัว และที่สำคัญ อยู่ที่ผู้รับการพยากรณืเองด้วยหากไม่มีจิตใจแน่วแน่ ไม่จริงใจ ไม่มีสมาธิ คำตอบที่ได้จะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ทันที ในปัจจุบันมีคนรู้ และ ทำนายอักษรรูนไม่มากนัก เพราะนอกจากต้องรู้เรื่องอักขระแล้วต้องมีความรู้ทางเทววิทยา อีกมากด้วย...

http://www.talesrunner.in.th/webboard/content.aspx?nForumID=3&nTopicID=78872








Runes

แนะนำอักษรรูน อักษรรูนเป็นตัวแทนภาพบางอย่าง ในเนื้อหาความรู้นี้จะแนะนำตำนานการใช้อักษรรูน วิธีการสร้างรูนและใช้ชุดตัวอักษรรูนของคุณเอง รูปแบบการพยากรณ์อักษรรูน ภาพและความหมายของรูนแต่ละ ตัวจะถูกนำมาอธิบายอย่างง่ายๆ ทั้งยังมีแนวความคิดที่จะใช้งานนอกเหนือการพยากรณ์รูนแบบธรรมดาอีกด้วย วิธีการแห่งรูนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และอาจส่งผลยิ่งใหญ่ในหลายระดับ มันถูกใช้ไม่เพียงเพื่อการทำนายแต่ทำนายชะตาเท่านั้น แต่ยังเพื่อการปกป้องรักษา รวบรวมอำนาจ และเรียนรู้ ศาสตร์ลี้ลับแห่งรูนไม่ใช่เรื่องลึกลับแต่อย่างใด มันเป็นเพียงเส้นทางการ เรียนรู้ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

ประวัติศาสตร์รูน รูน คือระบบการเขียนภาษาอันศักดิ์สิทธิ์ มีใช้กันในชนเผ่าของชาวเยอรมานิค แห่งยุโรปเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอังกฤษ สแกนดิเนเวีย และไอช์แลนด์ ต้นกำเนิดของมันไม่ทราบปรากฏแน่ชัด แต่ตัวอักษรรูนถูกค้นพบตั้งแต่ปี ค.ศ. 3 เมื่อมีอักษรรูนปรากฏอยู่บนแผ่นศิลา อาวุธ และเครื่องมือต่างๆ รูปแบบที่เป็นตัวเหลี่ยมของมัน บ่งชี้ข้อเท็จจริงว่า ภาษารูนนั้นถือกำเนิดมาเพื่อการสลัก ไม่ใช่การเขียน
คำว่ารูน มาจากคำว่า รูนา หมายถึง การกระซิบ หรือ ความลับ ซึ่งหมายถึงการใช้เวทย์มนตร์ทั่วทั้งดินแดนภาคเหนือของยุโรป มีหมอผีซึ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติอันซับซ้อน ลึกซึ้งทางวิญญาณ โดยใช้ตัวอักษรรูนเป็นส่วนประกอบสำคัญ หมอรูนจะได้รับการนับถืออย่างสูงส่ง พวกเขารู้วิธีใช้ตัวอักษรรูนพยากรณ์ ใช้มันเพื่อสร้างเวทย์มนตร์ และรักษาโรคภัย
ในอดีต มีคนสองกลุ่มใหญ่ที่ทำงานกับรูน คือ คนสร้างรูน ซึ่งมีความรู้เรื่องภาษารูน และคุณสมบัติของมันน้อย และหมอรูน ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์เริ่มต้นจนได้ค้นพบความลับอันลึกซึ้ง จากตำนานรูน หมอรูนเหล่านี้ได้รับความเลื่อมใสมาก พวกเขาไม่เพียงแต่จะทำนายรูนอย่างได้ผลเท่านั้น แต่ยังรู้วิธีใช้รูนทำเวทย์มนตร์และการรักษาอีกด้วย
ตำนานรูนมีความเกี่ยวโยง ในเทพนิยายเทพเจ้าของชาวนอร์ส กล่าวกันว่า โอดิน ซึ่งเป็นผู้นำเหล่าเทพยดา เป็นผู้ค้นพบรูน และถือว่าเป็นหมอรูนคนแรก ในตำนานยังกล่าวถึงเทพองค์อื่นๆ เช่น จอร์ด เทพแห่งทะเล เฟรยา เทพีแห่งสงคราม ความรัก และเวทย์มนตร์ อิดุน เทพีแห่งการรักษา และทีร์ เทพนักรบ ตำนานเหล่านี้ได้สะท้อนอยู่ในความหมายและมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ของรูนจนถึง ปัจจุบันนี้ โอดิน ผู้เป็นบิดาแห่งเทพเจ้านอร์สทั้งมวล มีประสบการณ์การใช้อำนาจแบบหมอผี ช่วงเวลาที่รูนปรากฏแก่เขา ตามตำนานเล่าว่า เขาแขวนตัวเองห้อยหัวลงกับต้นแอช ยิกดราซิล ต้นไม้โลก หรือต้นไม้แห่งชีวิต หลังจากเวลาผ่านไป 9 วัน 9 คืน โอดินเสียชีวิตอยู่บนต้นไม้นั้น แต่ก็กลับถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง ด้วยพลังใจที่ไม่สามารถถูกปราบได้ เขานำความรู้และสติปัญญาจากโลกอื่น รวมทั้งรูนกลับมาพร้อมเขาด้วย

เข้าสู่การพยากรณ์อักษรรูน
วิธีการสร้างรูน อุปกรณ์ที่นิยมนำมาสร้างรูนเพื่อการทำนายพยากรณ์นั้น ได้แก่ ก้อนหินแบนๆทรงกลม ไม้ เศษไม้ กิ่งไม้ กระดาษที่ทำเป็นไพ่ หรือจะเป็นลูกแก้ว ลูกปัด เหรียญ
การเก็บรักษาอุปกรณ์ ให้ใส่อุปกรณ์ทำนายรูนไว้ในถุงผ้า นานๆครั้งให้ทำพิธีกรรมเพิ่มพลังและชำระล้างบ้าง
อุปกรณ์ที่ต้องมีในการทำนายรูน 1.รูนที่สร้างเอาไว้แล้วครบจำนวน 2.ถุงผ้า 3.ผ้าปูรอง
วิธีการทำนายรูน 1.อธิษฐานคำถามให้ชัดเจนแล้วหยิบรูนจากถุงผ้า หรือ 2.วางรูนทั้งหมดคว่ำหน้าบนผ้าปูรองแล้วหยิบ

รูปแบบและความหมายอักษรรูนต้นแบบโบราณทั้ง 24 ตัว


Feoh เฟโอห์ (Farm:F) ปศุสัตว์ ความมั่งคั่ง สถานภาพ การเพาะเลี้ยง การเป็นประโยชน์ การเจริญเติบโต
สีแดงอ่อน สมุนไพรเนทเทิ่ล อัญมณีโมราสีตะไคร่ ช่วงเวลา 29 มิ.ย.-14 ก.ค.


Ur อูร์ (Gaur,Utopia:U) วัวป่า ความแข็งแกร่ง ปึกแผ่นมั่นคง ความเข้มแข็ง การยึดมั่น อำนาจบารมี
สีเขียวเข้ม สมุนไพรมอสส์แฟกนัม อัญมณีโกเมน ช่วงเวลา 15 ก.ค.-29 ก.ค.


Thorn ธอร์น (Thorn:Th) หนาม การพิทักษ์คุ้มครอง ระมัดระวังรอบคอบ ขอบเขต อำนาจทางวิญญาณ
สีแดงสด สมุนไพรเฮ้าส์ลีค อัญมณีนิลคราม ช่วงเวลา 30 ก.ค.-14 ส.ค.


Ansur อันซูร์ (Answer:A) ปาก การสื่อสาร ข่าวสาร ข้อมูล การแนะนำ การสอบถาม คำตอบ
สีน้ำเงินเข้ม สมุนไพรเห็ดปลายอกาลิค อัญมณีมรกต ช่วงเวลา 15 ส.ค.-29 ส.ค.


Raido ไรโด (Road:R) ล้อเกวียน การเดินทาง เส้นทาง หนทาง กระแส การผ่านพ้น การก้าวไป การเลื่อนไหล
สีแดงสด สมุนไพรมักเวิร์ท อัญมณีพลอยเขียว ช่วงเวลา 30 ส.ค.-13 ก.ย.


Ken เคน (Know:K) คบไฟ ปัญญา ความรู้ความเข้าใจ แสงสว่าง การมองเห็น การสังเกต ความเฉลียวฉลาด
สีแดงอ่อน สมุนไพรคาวสลิพ อัญมณีพลอยมีจุด ช่วงเวลา 14 ก.ย.-28 ก.ย.


Geofu เกโอฟู (Gift:G) ของขวัญ การให้และรับ พรสวรรค์ ความเมตตา การแบ่งปัน ความเข้าอกเข้าใจ
สีน้ำเงินเข้ม สมุนไพรฮาร์ทธีส อัญมณีโอปอล ช่วงเวลา 29 ก.ย.-13 ต.ค.


Wynn วินน์ (Well:W) ความสุข ดุลยภาพ ความพึงพอใจ ความสมดุล ความเต็มใจ ความประสานสอดคล้อง
สีขาว สมุนไพรป่าน อัญมณีเพชร ช่วงเวลา 14 ต.ค.-28 ต.ค.


Hagall ฮากาลล์ (Hail:H) ลูกเห็บ ความท้าทาย อุปสรรค ความลำบาก ปัญหาและการแก้ไข
สีดำ สมุนไพรลิลลี่ออฟเดอะแวลลีย์ อัญมณีหินออนิคซ์ ช่วงเวลา 29 ต.ค.-13 พ.ย.


Nied นีด (Need:N) สิ่งจำเป็น ความจำเป็น ความต้องการ ความทุกข์ ความสงสัย การยอมรับ
สีดำ สมุนไพรบิสทอร์ท อัญมณีไพฑูรย์ ช่วงเวลา 14 พ.ย.-28 พ.ย.


Is อิส (Ice:I) น้ำแข็ง การอดทนรอคอย ความหยุดนิ่ง ความเย็นชา การทบทวน ความสงบ การเตรียมพร้อม
สีดำ สมุนไพรต้นเฮนเบน อัญมณีพลอยตาแมว ช่วงเวลา 29 พ.ย.-13 ธ.ค.


Jara จารา (Job:J) การเก็บเกี่ยว การทำงาน การสะสม แรงงาน ความเหน็ดเหนื่อย การลงมือปฎิบัติ น้ำพักน้ำแรง
สีฟ้า สมุนไพรโรสแมรี่ อัญมณีพลอยแดง ช่วงเวลา 14 ธ.ค.-28 ธ.ค.


Eoh ยูวห์ (Yarrow:Y) ต้นยูวห์ การเปลี่ยนแปลงรูป วงจร การปลดปล่อย การสิ้นสุด การจบสิ้น ความเป็นอมตะ
สีน้ำเงินเข้ม สมุนไพรต้นยูวห์ อัญมณีบุราคัม ช่วงเวลา 29 ธ.ค.-13 ม.ค.


Peorth เพออร์ธ (Point) ถ้วยลูกเต๋า โอกาส โชคชะตา ทางเลือก การกำหนด การควบคุม การชี้นำ
สีดำ สมุนไพรอคอนไนท์ อัญมณีพลอยเขียวปนน้ำเงิน ช่วงเวลา 14 ม.ค.-28 ม.ค.


Elhaz เอลฮาส (Elk,Zone:Z) กวางเอล์ค การปกป้องคุ้มครอง ความทรงพลัง การครอบคลุม การหลบหลีก สัญชาตญาณ
สีทอง สมุนไพรแอนเจลิก้า อัญมณีพลอยสีม่วง ช่วงเวลา 29 ม.ค.-12 ก.พ.


Sigel ซีเกล (Sun:S) พระอาทิตย์ โชคดี ความมีชีวิตชีวา พลังงาน ความอบอุ่น ความเบิกบาน การขับไล่ภัยอันตราย การส่องสว่างรุ่งเรือง
สีเงิน สมุนไพรมิสเซิลโท อัญมณีทับทิม ช่วงเวลา 13 ก.พ.-27 ก.พ.


Tyr ทีร์ (Thor:T) เทพเจ้าแห่งสงคราม ชัยชนะ ความท้าทาย ความมุ่งมั่น ความแน่วแน่ ความเชี่ยวชาญ ศักยภาพ การแข่งขัน
สีแดงสด สมุนไพรเซจ อัญมณีหินประการัง ช่วงเวลา 28 ก.พ.-14 มี.ค.


Beore เบออร์ค (Birth:B) ต้นเบิร์ช การบุกเบิก การกำเนิด การชำระล้าง สิ่งเกิดขึ้นใหม่ๆ การเริ่มต้นใหม่ การผจญภัย
สีเขียวเข้ม สมุนไพรเลดี้แมนส์แมนเทิล อัญมณีพลอยมูนสโตน ช่วงเวลา 15 มี.ค.-30 มี.ค.


Ehwaz เอชวาซ (Excursion:E) ม้า ความก้าวหน้า ความกระตือรือล้น ความซื่อสัตย์ พันธมิตร การเดินทาง การขนย้าย การท่องเที่ยว
สีขาว สมุนไพรแรกเวิร์ท อัญมณีพลอยไอซ์แลนด์สปาร์ ช่วงเวลา 31 มี.ค.-14 เม.ย.


Mann มานน์ (Man:M) มนุษย์ โชคชะตา สิทธิ ความรับผิดชอบ ประสบการณ์ การดำเนินชีวิต บทเรียน ดุลภาพร่างกายและจิตใจ
สีแดงเข้ม สมุนไพรต้นแมดเดอร์ อัญมณีโกเมน ช่วงเวลา 15 เม.ย.-29 เม.ย.


Lagu ลากู (Lagoon:L) น้ำ ความสร้างสรรค์ อารมณ์ จินตนาการ ความรู้สึก ความอ่อนไหว การประสานกลมกลืน การคล้อยตาม
สีเขียวเข้ม สมุนไพรต้นหอม อัญมณีไข่มุก ช่วงเวลา 30 เม.ย.-14 พ.ค.


Ing อิง (Nature:Ng) เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ ความเป็นธรรมชาติ ความงดงาม แรงบันดาลใจ การเติมเต็ม การไขว่คว้า การผลักดัน
สีเหลือง สมุนไพรเซล์ฟฮีล อัญมณีอำพัน ช่วงเวลา 15 พ.ค.-29 พ.ค.


Daeg เดก (Day) กลางวัน แสงสว่าง ความสำเร็จ ความแจ่มชัด ความรู้คุณค่า กิจกรรม ความกระปรี้กระเปร่า การลุกขึ้นตื่น การกระตุ้น
สีฟ้าอ่อน สมุนไพรคลารี อัญมณีเพชร ช่วงเวลา 30 พ.ค.-13 มิ.ย.


Othel โอเธล (Odin:O) การครอบครอง การยึดถือ การรวบรวมพลัง ความดึงดูด ญาณสมาธิ การปลดปล่อย
สีเหลืองเข้ม สมุนไพรโคลเวอร์ อัญมณีทับทิม 14 มิ.ย.-28 มิ.ย.

Blank รูนเปล่า เป็นรูนพิเศษที่เพิ่มเติม หากทำนายโดยโยนเศษไม้จะไม่ปรากฎเป็นรูปอะไร หรือไม่อาจจะเป็นรูนผสมกัน แต่ถ้าเป็นแบบอื่นจะไม่มีรูปอักษรรูนใดๆ ความว่างเปล่าหมายถึง สิ่งที่คุณต้องกำหนดเอง สิ่งที่คุณต้องเลือกเอง ว่าจะเลือกเส้นทางเองหรือจะขอคำแนะนำจากรูน บางครั้งก็หมายถึงความไร้ประโยชน์ การสูญเปล่า การสูญสิ้น

รูปแบบการทำนายอักษรรูนแบบต่างๆ

1.ทำนายรูนหนึ่งตัว หมายถึง สิ่งชี้แนะ การหยั่งรู้ปัญหา ภาพกว้างๆของเรื่อง การชี้ทางที่คุณต้องการ

2.ทำนายรูนสามตัว 1 2 3
1.เหตุการณ์ที่นำไปสู่เรื่องนั้น หรือวิธีที่มันเข้ามาในชีวิต ผลที่น่าจะออกมาในอนาคต
2.ช่วงเวลาปัจจุบันที่เกี่ยวกับเรื่องนั้น สถานภาพ
3.ความปรารถนาที่จะรู้ว่าเรื่องนั้นจะนำพาไปทางไหน ผลที่น่าจะออกมาในอนาคต

3.ทำนายรูนสี่ตัว ทิศทั้งสี่
1
2 3
4
1.ดิน อยู่ในตำแหน่งทิศเหนือ เป็นตัวแทนของบทเรียนทางกายภาพทั้งหมด พื้นฐานชีวิต
2.น้ำ อยู่ในทิศตะวันตก หมายถึงดุลยภาพทางอารมณ์ แสดงถึงบทเรียนทางอารมณ์ทั้งหมด
3.ลม อยู่ที่ทิศตะวันออก การเปลี่ยนแปลง ความรู้ สติปัญญา และผลกระทบต่อชีวิต
4.ไฟ อยู่ที่ทิศใต้ บทเรียนทางวิญญาณ ความสัมพันธ์กับโชคชะตา วิธีแสดงตัวตนออกมาในชีวิต

4.ทำนายรูนห้าตัว 3
2 5 4
1
1.ข้อสงสัยหรือคำถามที่เกิดในอดีต 3.โชคลาภเงินทอง ทรัพย์สิน
2.ปัญหาและอุปสรรคชีวิต 4.เหตุการณ์ในขณะนี้
5.ผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งที่ได้จากที่ผ่านมา

5.ทำนายรูนหกตัว 6
1 5 3
2
4
1.อดีต 2.ปัจจุบัน 3.อนาคต
4.ภูมิหลังและเหตุผลสิงที่เกิดขึ้น
5.อุปสรรค ปัญหา 6.ผลสรุป

6.ทำนายรูนสิบเอ็ดตัว ต้นไม้แห่งชีวิต 10 9 11
8
6 5 7
4
2 1 3
1.เหตุการณ์ในอดีต พื้นฐานจิตใจ
2.ปัญหาที่ยังไม่ได้แก้ไขในอดีต
3.ปัญหาสาเหตุที่เกิดขึ้นในอดีต
4.สิ่งที่มีผลต่อความสัมพันธ์และชะตาชีวิต
5.ความเป็นไปได้ในปัจจุบัน
6.การตัดสินใจโดยอารมณ์ของจิตใต้สำนึก
7.การตัดสินใจโดยใช้เหตุผล
8.สิ่งที่มีผลในอนาคต
9.การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ จิตใจ และอนาคตที่กำลังจะมาถึง
10.สิ่งที่คุณไม่รู้
11.สิ่งที่คาดหวังเอาไว้


http://board.postjung.com/510815.html

อักษรรูนส์ คืออะไร มีที่มาอย่างไร?

จากการค้นพบตัวอักษรรูน อักษรที่เห็นใช้บ่อยที่สุดมีอยู่กี่ตัวอักษร ?
อะไรบ้างและมีความหมายว่าอย่างไร ? (ยกตัวอย่างมาเท่านั้นค่ะ ไม่ต้องหมดเดี๋ยวสลบกันพอดี อิอิ)
รายละเอียดเพิ่มเติม


**************************

อักษรรูนส์ ต้นกำเนิดของอักษรรูนส์มีน้อยมาก ในภาษาพื้นเมืองเรียกฟูทาร์ก ซึ่งหมายถึงตัวอักษร ข้อความ หรือจารึก ในภาษาเยอรมันเก่าหมายถึง ประหลาดหรือความลับ อักษรนี้มีความเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ ทฤษฎีเกี่ยวกับจุดกำเนิดของอักษรรูนส์ ได้แก่ อักษรนี้ถูกออกแบบโดยอิสระ ไม่ขึ้นกับอักษรอื่น การเขียนเริ่มขึ้นในยุโรปใต้และถูกนำไปทางเหนือโดยเผ่าเยอรมัน เป็นแบบให้อักษรละตินและอักษรอีทรัสคัน

จารึกอักษรรูนส์ที่เก่าที่สุดพบราว พ.ศ. 643 แต่จารึกส่วนใหญ่อยู่ในราว พ.ศ. 1600 พบทั้งยุโรปตั้งแต่แหลมบอลข่าน เยอรมัน สแกนดิเนเวีย ไปจนถึงอังกฤษ ทิศทางการเขียนช่วงแรกผันแปรมาก โดยมากอยู่ในแนวซ้ายไปขวา ไม่มีการแบ่งช่องว่างระหว่างคำมากนัก โดยอาจมีการใช้จุดหนึ่งจุดหรือมากว่า จารึกที่พบมีทั้งจารึกบนผาสูง หินขนาดใหญ่ สิ่งก่อสร้าง จารึกทางศาสนาและเวทมนตร์ จารึกเกี่ยวกับการค้าและการเมือง จดหมายส่วนบุคคล ข้อความสั้นๆและจารึกในงานศิลปะ

อักษรรูนถือเป็นอักษรศักดิ์ลิทธิ์ของกลุ่มชนชาติที่ใช้ภาษากลุ่มเยอรมัน มีการนำชื่อเทพเจ้าต่างๆ มารวมเข้ากับชื่ออักษร
<ABBR title="2009-02-11 03:57:44"></ABBR>
ต่อมาได้แพร่หลายเข้าไปในสแกนดิเนเวีย มีการสลักอักษรรูนส์ ไว้ในเหรียญกษาปต์ โลงศพ หรือใช้ประดับตกแต่งสถานที่ ในยุคนาซีมีการฟื้นฟูการใช้อักษรรูนส์อีกครั้ง แต่เมื่อนาซีหมดอำนาจก็เสื่อมความนิยมไป จนปัจจุบันการทำนายด้วยอักษรรูนส์เป็นที่นิยมและนำกลับมาศึกษากันอีกครั้ง มีการกำหนดวิธีทำนายมากมาย เช่น การโยนกิ่งไม้เพื่อให้เกิดเป็นรูปอักษรรูนส์ หรือสุ่มหยิบก้อนหินที่สลักรูปอักษรรูนส์ไว้

อักษรรูนส์ ซึ่งเป็นอักษรที่ใช้ในคาถาของพวกไวกิ้ง แต่ละตัวมีความสามารถในการสื่อพลังในแง่ต่างๆต่างกันออกไป เวทย์มนต์ที่ร่ายกันขึ้นจะเป็นส่วนผสมของอักษรรูนส์หลายๆตัว (ที่เห็นบ่อยๆก็คือสามตัว) อักษรรูนทั้งหมดมีกี่ตัวนั้นยังไม่ได้ข้อมูล แต่ได้เจอข้อมูลของอักษรรูนที่ใช้บ่อยที่สุดในเวทย์มนต์ต่างๆ 25 ตัวอักษร

(เข้าไปดูภาพและความหมายของตัวอักษรทั้ง 25 ได้ที่นี่ค่ะ)
http://board.dserver.org/P/PocketFic/00000882.html
หรือ
http://fantastica.exteen.com/20050518/rune-3
<ABBR title="2009-02-11 04:01:21"></ABBR>
อ้างอิง :
ภาษาไทย
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%8C

ภาษาอังกฤษ
http://www.omniglot.com/writing/runic.htm
<ABBR title="2009-02-11 04:03:02"></ABBR>

by DUSTONUN...
คำตอบที่ดีที่สุด - เลือกโดยเจ้าของคำถาม

แหะแหะ แหม..ช่างเห็นใจคนตอบจริ๊งงง..
แค่ที่ถามมานี่ก็ค้นกันคีย์บอร์ดควันขึ้นแล้วครับ..

อักษร "รูเน่น" เป็นภาษาเก่าของชนชาติ "แกร์มัน" Germann หรือพวกเยอรมันในปัจจุบันนี่เอง
แต่สมัยก่อน ประมานปี คศ 100 (หนึ่งร้อย) - ถึง คศ. 1100 ชนชาตินี้จะอยู่กระจายกันมากแถบทางใต้ของแสกนดิเนเวียน
เป็นภาษาที่พบแกะสลักเอาไว้บนแผ่นหินบนแผ่นไม้ตามอนุสรณ์สถานต่างๆ
แต่พบน้อยมากในแถบยุโรปตอนกลางที่อยู่ใต้แสกนดิเนเวียนลงมา

ภาษารูเน่นสมัยก่อนใช้ประโยชน์ในความหมายต่อไปนี้

1) ชั้นแรกเป็นสื่อความหมายเสมือนภาพ-สัญลักษณ์-(เหมือนภาษาจีน-คือไม่ใช่ตัวอักษร เป็นตัวหนังสือแทนความหมายเป็นคำๆ)

2)เริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นตัวอักษรศักดิสิทธิ เชื่อยโยงกับการกระทำพิธีกรรมของพวกแกร์มัน หรือไวกิ้ง

3)เป็นตัวอักษรเพื่อสื่อสารถึงกัน ใช้หลายๆตัวผสมกันเป็นคำ เป็นประโยค

ตัวอักษรเริ่มแรกมี 24 ตัว (เมื่อราวคศ. 50 หรือ คศ. 100)

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/8/80/Runic_letters_elder_futhark.svg

การอ่านเขียนในสมัยไวกิ้งจะทำจากซ้ายไปขวา แต่บางเอกสารจะเห็นว่าอ่านจากขวาไปซ้ายก็มี

แต่นักอักษรศาสตร์พบว่า..ตัวอักษรที่แกะสลักตามเครื่องปั่นด้ายจากขนแกะ-เครื่องทอผ้าบางชิ้น จะเป็นตัวอักษรที่สลักโดยไม่ได้สื่อความหมายเป็นประโยค..น่าสงสัยว่าจะแกะสลักเพียงเพื่อให้ดูขลังเท่านั้น

หลังจากศาสนาคริสต์เริ่มแพร่กระจายขึ้นมาจนถึงถิ่นไวกิ้ง ภาษารูนเน่น ก็เริ่มหายไป กลายเป็นภาษาละตินแทน (หมายถึงตัวอักษรเขียน)


ขอตอบแค่เนี๊ยนะครับ..ใครตอบได้ดีกว่าก็ไม่ว่ากันครับ..แหะแหะ..

ตัวอักษร 11 ตัว ที่ใช้บ่อยๆ มีความหมายด้านความขลัง เขาแปลเอาไว้ให้ด้วย
http://www.runenmagie.de/formeln.html

รายละเอียด(ยิบ) อยู่ตรงนี้ครับ
http://de.wikipedia.org/wiki/Runen
http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20090208085902AAO3ljv

 

...สามภาพข้างล่างนี้...เป็นภาพพระอาทิตย์ดวงที่สอง ถ่ายได้ ใน ญี่ปุ่น และ จีน เมื่อวานนี้...กลุ่มเซต้าส์ อธิบายว่า เกิดจาก การสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ โดยกลุ่มอนุภาคฝุ่นของพวยหาง PX ...

 

เมื่อวานก็ผ่านลิ้งค์จากในเว็บของซีต้ากลายเป็นภาษาญี่ปุ่นหมดก็เลยพิมพ์ภาพที่สองของคุณลุงที่โพสต์ข้างบนแทน เห็นแล้วก็ต้องทึ่งเพราะถ้านี่คือแกลร์ของฝุ่นอวกาศดวงจันทร์บริวารของเนบิรุก็ต้องขอเดาว่าเจ้าพลาเน็ทเอ๊กซ์จะต้องมีขนาดใหญ่อลังการหฤโหดเต็มคับทั่วท้องฟ้าในปีนี้เป็นแน่แท้ เมื่อกี้ก็เข้าทู้ของบ้านโพลชิฟดอทนิ้งภาพครอปเซอร์เคิ่ลของชาวเยอรมันที่สเก็ทไว้ในปี๒๐๐๘ เค้าเดาใหม่ว่าแกนโลกสลับขั้วความน่าจะเป็นใหม่คือระหว่าง September - December 2011 ครับผม ถ้าจริงก็ยังมีเวลาให้หายใจหายคอได้อีกพอสมควรทีเดียว _/|\_

 

ถ้าปีนี้เห็นดาวนิบิรุจริง ๆ มันจะเกิดอะไรขึ้น...คนในโลกจะตายกันหมดหรือเปล่า จะต้องมีการเตรียมตัวยังไงบ้าง
แกนโลกสลับขั้ว เราก็ตายนะซิ...ใช่ไหม ช่วยอธิบายอีกนิดนะ

เกิดขึ้นเมื่อไร....ขอยานอนหลับ.....ก็แล้วกันนะ นี้แหละคือ การเตรียมตัวที่ดีที่สุด..ไม่ทรมานใจ..และทรมารร่างกาย ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

 

ใช่ค่ะ..เรื่องแบบนี้คิดว่าเขาจะไม่มีการแถลงการณ์ใดๆทั้งสิ้น...เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน..หากคนไม่เข้าใจ..ก็จะเกิดการจาราจล..โกลาหลไปทั่ว..ลองนึกภาพดู..บางคนอยากทำอะไรๆทั้งดีและร้ายก่อนตาย..บางคนอาจจะสติแตกไปเลย..และเมื่อไรที่โลกหยุดหมุน..ชั่วขณะอะไรจะเกิดขึ้น...
ทุกสิ่งทุกอย่างอาจจะลอยขึ้นไปบนอวกาศ..เพราะปราศจากแรงโน้มถ่วงก็ได้นะ..ถึงเวลานั้นคงสนุกดีพิลึก...(ความเห็นส่วนตัวนะคะ)...

 

Strange Hole-Punch Cloud Seen In Sacramento - Sacramento Weather News Story - KCRA Sacramento

เจอลิงค์นี้มาครับ

 

ยังติดตามลุ้นตอนกลางปีอยู่ครับ

 

อะ แฮ่ม ประเด็นคือ โลกจะเปนไง แตกเพราะอะไร ทำไม

ตอบด้วยครับถาม 2 รอบละ