ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ฮือฮา! พายุสุริยะทะลุเกราะแม่เหล็กโลกแถบสแกนดินีเวีย วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ.2553

    [​IMG]

    เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม Mr.Vop's Blog ได้แสดงภาพถ่ายการลุกสว่างของแถบออโรร่า ที่กล้องบนดาวเทียม F17 ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สามารถจับภาพไว้ได้ โดยเหตุการณ์การลุกสว่างของแถบออโรร่านี้ เกิดขึ้นบนน่านฟ้าทางเหนือของประเทศแถบแสกนดิเนเวีย หลังเกิดปรากฎการณ์กลุ่มพายุสุริยะขนาด G1 เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ในจังหวะที่กระแสแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์หันขั้วใต้เข้าหาโลก ทำให้เกิดรูทะลุบนเกราะแม่เหล็กของโลก

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ Paul McCrone ได้นำปรากฎการณ์พายุสุริยะทะลุเกราะแม่เหล็กของโลกครั้งนี้ ไปวิเคราะห์ โดยใช้ข้อมูลทั้งจากระดับแสงที่ตามองเห็นได้ และจากระดับแสงในช่วงคลื่นอินฟาเรด มาประมวลผล เพื่อศึกษาและใช้ประโยชน์ต่อไป เนื่องจากการทะลุเข้ามาของพายุสุริยะที่มีระดับ 60 โปรตรอนต่อตารางเซนติเมตรเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก

    http://hilight.kapook.com/view/52424

    ความเห็นที่ 1 โดยคุณ lord seyren Member [29-12-2010 21:47]

    สนามแม่เหล็กอ่อนกำลังลงมากแล้วครับ....ถึงเกิดเหตุการณ์นี้ได้ โดยเมื่อคืนวานที่ผ่านมา(28 ธันวาคม) พายุแม่เหล็กที่เกิด มีลมสุริยะเพียง 380 กม./วินาที เท่านั้นซึ่งถือเป็นลมสุริยะความเร็วต่ำ โอกาสที่จะสร้างพายุแม่เหล็กแทบไม่มีเลย แต่มันก็ยังเกิดได้ จึงคาดจากขั้วแม่เหล็กใต้ขั้วที่ 2 ผลักกันกับขั้วแม่เหล็กใต้ขั้วหลักที่อยู่บริเวณยุโรป มิหนำซ้ำยังเจอปรากฎการณ์สนามแม่เหล็กโลกแปรปรวน ตามที่ลงไว้กระทู้ที่แล้ว ก็ทำให้อำนาจแม่เหล็ก ประจุต่างๆเข้ามาเยอะยิ่งขึ้นไปอีก

    เอ่อเสริมนิดนึงครับจากข่าวนะครับ ไม่ได้เรียกพายุสุริยะนะครับที่เกิดขึ้น แต่เรียกว่าพายุแม่เหล็กโลก พัดอยู่เหนือยุโรปไปราว 500-700 กิโลเมตร จึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อเมืองในทวีปยุโรป

    ......พายุสุริยะ ( solar storm ) คือ เปลวไฟโคโรน่าดวงอาทิตย์ ที่ถูกกระแสแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ พัดออกมาอย่างรุนแรง ภายในบรรจุโปรตอน แก๊สร้อน รังสีคอสมิก และสนามแม่เหล็กความเข้มสูง เมื่อปะทะกับสนามแม่เหล็กโลก (ถ้ารุนแรง) จะทำให้เกิด การสั่นของสนามแม่เหล็กบริเวณขั้วโลก แล้วค่าอำนาจแม่เหล็กบริเวณขั้วโลกจะแปรปรวน มาจนถึง ในระดับผิวโลก ทำให้เกิดค่าความต่างศักย์ ขึ้นในบรรยากาศ ( อันนี้แหละครับการกำเนิดพายุแม่เหล็ก Geomagnetic storm ตามในข่าวต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษ )

    มีผลทำให้บริเวณที่โดนพายุแม่เหล็กปกคลุม วัตถุทุกชนิดที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า จะเกิดไฟฟ้าขึ้นได้เองโดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก ค่าโวลล์ไฟฟ้าสูงกว่าปกติเยอะมาก ซึ่งเป็นสาเหตุให้หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด เนื่องจากต้องรับกระแสไฟฟ้าปริมาณมากเกินไปจากความต่างศักย์ที่เพิ่มขั้นนั่นเอง .....

    ที่มา http://www2.tmd.go.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. suriyawibool

    suriyawibool Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +25
    เท่าที่รู้มาถ้าเป็นรังสีจากในอวกาศก็เป็นพวกไมโครเวฟอะไรพวกนี้(อันนี้ผมขอศึกษาดูก่อนครับ จบFood science มา ฮ่า..ฮ่า..) แต่ถ้าเป็นรังสีจากในโลกเราก็คงเป็นนิเคลียร์ ซึ่งถ้าเราอยู่ในรัสมีของการระเบิดและอยากรอดชีวิตเราต้องอยู่ลึกลงไปใต้ดินอย่างน้อยประมาณ 200 ฟุตถ้าจำไม่ผิด และส่วนของนอกรัสมีการระเบิดจะได้รับพิษจากรังสี การป้องกันจะต้องอยู่ในอาคารคอนกรีตหนาหรือแผ่นตะกั่วหนา(รังสีแกมม่าและX-rayไม่สามารถทะลุแผ่นตะกั่วได้)และมีระบบกรองอากาศเพื่อป้องกันฝุ่นรังสี ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ลองหาใน Googleดูครับผมก็กำลังหาอยู่เหมือนกัน
    โดยสรุปคือกล่องนมกันได้แค่ความร้อนและรังสีUVจากดวงอาทิตย์ครับ
     
  3. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    มีผลทำให้บริเวณที่โดนพายุแม่เหล็กปกคลุม วัตถุทุกชนิดที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า จะเกิดไฟฟ้าขึ้นได้เองโดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก ค่าโวลล์ไฟฟ้าสูงกว่าปกติเยอะมาก ซึ่งเป็นสาเหตุให้หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด เนื่องจากต้องรับกระแสไฟฟ้าปริมาณมากเกินไปจากความต่างศักย์ที่เพิ่มขั้นนั่นเอง .....
    ******************************************************

    นี่แหละที่จะเป็นสาเหตุให้สายส่งไฟฟ้าแรงสูง (Power grid) เกิดไฟลุกลามไปทั่วบริเวณที่ถูกลมนี้ แล้วก็เป็นหายนะภัยที่ร้ายแรงกว่าโรงไฟฟ้าถูกทำลายเสียอีก เพราะการซ่อมบำรุงสายไฟฟ้าที่มีระยะทางยาวนับพันกิโลเมตรไม่ใช่เรื่องง่าย

    นักวิทยาศาสตร์ทุกคนนรู้ ก็ได้แต่ภาวนาไม่ให้เกิดขึ้นเท่านั้นเอง เพราะไม่มีทางป้องกัน
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เจ้าหน้าที่กู้ภัยบราซิลเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    [​IMG]

    บราซิล 15 ม.ค. - เจ้าหน้าที่กู้ภัยบราซิลนำเฮลิคอปเตอร์และเรือเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ขณะยอดผู้เสียชีวิตพุ่งไปอยู่ที่ 514 คน

    เจ้าหน้าที่บราซิล เผยว่า ขณะนี้ทางการได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ และเรือกู้ภัย เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้านห่างไกล ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากเผชิญกับภัยน้ำท่วม และดินถล่มครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปีแล้ว โดยตัวเลขของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 514 คน และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใน 4 เมือง ทางตอนเหนือของนคร ริโอ เดอ จาเนโร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบางพื้นที่ที่ประสบกับเหตุดินถล่มได้ และยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้รอดชีวิต ระบุว่า บ้านเรือนในพื้นที่อยู่อาศัยของตนถูกทำลายทั้งหมด และเรียกร้องให้ทางการส่งอาหาร และน้ำ ไปยังพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วนด้วย. -สำนักข่าวไทย

    วันเสาร์ ที่ 15 ม.ค. 2554

    ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเหยียบกันตายในอินเดียเพิ่มเป็นกว่า 100 คน

    [​IMG]

    โกจิ 15 ม.ค.- ตำรวจอินเดียเปิดเผยวันนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเหยียบกันตายในขณะที่นักแสวงบุญเดินทางกลับจากเทศกาลสำคัญของชาวฮินดูเพิ่มเป็นอย่างน้อย 102 คน และบาดเจ็บอีก 44 คน

    เหตุเหยียบกันตายเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อรถของนักแสวงบุญกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้าไปในฝูงชนที่กำลังเดินไปตามทางเดินแคบ ๆ ขณะกลับจากพิธีละมาดบนยอดเขาในรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของอินเดีย ตำรวจกล่าวว่า ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วแต่มีบางรายอาการสาหัส และพบศพผู้เสียชีวิต 102 ศพ ขณะเกิดเหตุพื้นที่ดังกล่าวเต็มไปด้วยนักแสวงบุญและจุดที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากศาสนสถานราว 80 กม.

    สำนักข่าวเพรสทรัสต์ของอินเดีย รายงานว่าเหตุเหยียบกันตายครั้งนี้เกิดขึ้นในวันสุดท้ายของเทศกาลประจำปีที่มีระยะเวลาสองเดือน ซึ่งมีนักแสวงบุญหลายล้านคนเดินทางมาร่วมเทศกาล และคาดว่าในขณะเกิดเหตุมีนักแสวงบุญอยู่ในบริเวณทางเดินแคบ ๆ ดังกล่าวราว 150,000 คน .-สำนักข่าวไทย

    วันเสาร์ ที่ 15 ม.ค. 2554

    ฟิลิปปินส์ฝนตกกว่า 2 สัปดาห์ เสียชีวิตแล้ว 47 คน

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    มะนิลา 15 ม.ค. - รัฐบาลฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า เกิดฝนตกหนักติดต่อกันนานกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มแล้วอย่างน้อย 47 คน

    สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ ระบุว่า ฝนมรสุมตกกระหน่ำในหลายพื้นที่ของฟิลิปปินส์นับตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมปีที่แล้ว และคาดว่าจะยังคงมีพายุฝนฟ้าคะนองในพื้นที่เหล่านี้อีก

    สำนักบริหารและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งฟิลิปปินส์ รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากฝนเพิ่มขึ้นเป็น 47 คน โดยเป็นการเสียชีวิตจากการจมน้ำและถูกดินถล่มทับ ขณะเดียวกันยังมีผู้สูญหายอีก 4 คน และมีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากดินถล่มเพิ่มอีก 8 คน และว่ายังคงมีประชาชนพักอาศัยในศูนย์อพยพของรัฐบาลประมาณ 18,000 คน. - สำนักข่าวไทย

    วันเสาร์ ที่ 15 ม.ค. 2554

    บังกลาเทศหนาวหนัก ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 คน

    [​IMG]

    บังกลาเทศ 15 ม.ค. - อุณหภูมิในกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ ลดลงต่ำถึง 9.8 องศาเซลเซียส ต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 12.5 องศาเซลเซียส

    ขณะที่กระแสลมเย็น และหมอก จากสภาวะอากาศดังกล่าว ยิ่งสร้างความลำบากแก่ชาวบังกลาเทศที่ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน และจำต้องก่อไฟเพื่อให้ความอบอุ่น นักอุตุนิยมวิทยาเผยว่า อุณหภูมิในบางพื้นที่ลดต่ำลงถึง 4.6 องศาเซลเซียส หรือต่ำสุดในรอบ 8 ปี และบังกลาเทศจะเผชิญคลื่นความเย็นต่อเนื่องไปอย่างน้อย 3 วัน อากาศหนาวผิดปกติครั้งนี้ทำให้ชาวบังกลาเทศหลายรายป่วยเป็นไข้หวัด และโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ และพบผู้เสียชีวิตจากภัยหนาวครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 20 คน. -สำนักข่าวไทย

    วันเสาร์ ที่ 15 ม.ค. 2554

    น้ำท่วมรัฐควีนส์แลนด์ เหมืองถ่านหินหยุดทำงาน

    [​IMG]

    บริสเบน 15 ม.ค. - บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่น (เอ็นเอชเค) รายงานว่า น้ำท่วมในออสเตรเลียสร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางต่ออุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินของประเทศ

    รายงานแจ้งว่ามีประชาชน 26 คนเสียชีวิต และ 53 คนสูญหาย จากเหตุน้ำท่วมบ้านเรือนกว่า 30,000 หลัง ที่เกิดมาจากฝนตกหนักที่สุดในรัฐควีนส์แลนด์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม ฝนได้หยุดตกเมื่อวานนี้ และน้ำกำลังลดระดับลง ซึ่งทหารประมาณ 1,200 นาย เริ่มปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือฟื้นฟู

    น้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเหมืองถ่านหิน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในพื้นที่บริเวณนี้ เหมืองถ่านหินเกือบ 50 แห่ง จาก 54 แห่ง ในรัฐควีนส์แลนด์ถูกน้ำท่วมและต้องหยุดการดำเนินงาน

    ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ส่งออกถ่านหินโค้กใหญ่ที่สุดของโลก โดยกว่าร้อยละ 90 มาจากรัฐควีนส์แลนด์ ผู้สังเกตการณ์บางรายกล่าวว่า จะต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน จึงจะทำให้เหมืองถ่านหินกลับมาดำเนินกิจการได้อย่างเต็มที่ และอุตสาหกรรมเหล็กกล้าของญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบเพราะพึ่งพาถ่านหินจากออสเตรเลียเป็นส่วนใหญ่.- สำนักข่าวไทย

    วันเสาร์ ที่ 15 ม.ค. 2554

    เผยจีนจะประจำการทหารในเกาหลีเหนือ

    [​IMG]

    โซล 15 ม.ค.- หนังสือพิมพ์โชซอนอิลโบของเกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า จีนกำลังหารือเกาหลีเหนือเกี่ยวกับการประจำการทหารในเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกนับแต่เมื่อปี 2537

    รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่า รัฐบาลจีนและเกาหลีเหนือได้หารือในรายละเอียดเกี่ยวกับการประจำการทหารจีนในเมืองราซอนทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีเหนือเมื่อไม่นานมานี้ โดยทหารเหล่านั้นจะทำหน้าที่ปกป้องท่าเรือของจีน แต่จุดประจำการดังกล่าวสามารถทำให้ทหารเหล่านั้นสามารถเข้าไปถึงทะเลญี่ปุ่นได้ ด้านเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจเป็นการเปิดทางให้จีนเข้ามาแทรกแซงหากเกาหลีเหนือขาดเสถียรภาพ

    จีนได้รับสิทธิ์ให้ใช้ท่าเทียบเรือที่เมืองราซอนเมื่อปี 2551 ขณะที่เกาหลีเหนือยังคงต้องพึ่งพาจีนต่อไปท่ามกลางการเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์กับสหรัฐและพันธมิตร ทหารจีนกลุ่มสุดท้ายเดินทางออกจากเกาหลีเหนือเมื่อปี 2537 เมื่อจีนถอนตัวออกคณะกรรมาธิการกำกับดูแลการสงบศึกซึ่งเป็นการสิ้นสุดสงครามเกาหลีระหว่างปี 2493-2496 .-สำนักข่าวไทย

    วันเสาร์ ที่ 15 ม.ค. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. M78

    M78 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +55

    แล้วถ้าเป็นแผ่นอลูมิเนียมฟรอย ( ที่เค้าใช้เวลาทำปลาเผาละครับ ) หรือว่าพวกแผ่นฉนวนกันความร้อน ที่ติดใต้หลังคา พวกนี้กัยพวกรังสีจากนอกโลกได้มั่งไหมครับ
    ( ส่วนรังสีจากนิวเคลีย คงต้องหาสิ่งศักสิทธิ์ มาช่วยแทนล่ะครับ )
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำทำนายเหตุการณ์ ตลอดปี ๒๕๕๔

    [​IMG]

    โสรัจจะ นวลอยู่
    'โสรัจจะ นวลอยู่'...คำทำนายปี 2554 กระต่ายไฟ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

    ซินแสภาณุวัฒน์
    ฟันดวง 2554 ปีแห่งกระต่ายไฟ...ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

    ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯชี้เหนืออีสานหนาว-กลางตอ.กทม.ใต้เย็น </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>อุตุฯเผยเหนือ อีสานยอดดอยอากาศ ถึงหนาวจัด อุณหภูมิลดลง ภาคกลาง ตะวันออก กรุงเทพฯ และใต้อากาศเย็น


    วันนี้(16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ประกอบกับคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้ภาคเหนือมีฝนตกในระยะแรกต่อจากนั้นอุณหภูมิลดลง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาและมีลมแรง สำหรับภาคใต้คลื่นลมจะมีกำลังแรงขึ้น

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 3-6 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา และมีลมแรง ตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-14 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-14 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ชาวมุกดาหารเดือดร้อนอากาศหนาว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>มุกดาหารกำลังประสบภัยหนาว มีอากาศหนาวเย็น จนชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนเป็นย่างมาก

    วันนี้(16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นในปีนี้ก็ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง ชาวบ้านอยู่ติดริมแม่น้ำโขง บ้านนาโปน้อย อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก และต้องก่อไฟในเตา แล้วเอาเข้าไปนั่งพิงอยู่ภายในบ้านกันตลอดทั้งวัน โดยชาวบ้านบอกว่าในช่วง2 -3 วันที่ผ่านมา อากาศทั้งหนาว และมีลมพัดแรงจากแม่น้ำโขง ยิ่งเพิ่มความหนาวเย็นลงไปอีก

    นาย ลึก อาจหาญ อายุ 53 ปี ถนน สำราญชายโขงเหนือ บ้านนาโปน้อย ในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารกล่าวว่า

    ถึงแม้จะก่อไฟพิง แต่สภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด ส่งผลให้ชาวบ้านโดยเฉพาะคนชราถึงกับนอนไม่หลับ และต้องลุกขึ้นมานั่งพิงไฟอยู่ข้างเตา ซึ่งก็ทำให้ในช่วงฤดูหนาวปีนี้ชาวบ้านต้องเสียเงินซื้อถ่านและไม้เพิ่มขึ้นขณะที่ชาวบ้านบางส่วนที่ไม่กล้าก่อไฟพิงอยู่ภายในบ้าน เนื่องจากกลัวเพลิงไหม้ ก็ได้อาศัยผ้าห่มกันคนละ 2-3 ผืน ห่มนอนตอนกลางคืน แต่ก็ยังไม่คลายหนาวเท่าใดนัก

    ในตอนเช้า และตลอดทั้งวันชาวบ้านก็จะออกมานั่งผิงแดดอยู่หน้าบ้านเพื่อคลายความหนาวเย็น ซึ่งชาวบ้านบอกว่า ในปีนี้อากาศหนาวทั้งหนาวต่อเนื่อง และมีลมพัดแรง กว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก เด็ก และคนชรา ก็เจ็บป่วยกันเป็นจำนวนมากแล้ว.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อินเดียไว้อาลัยเหตุผู้แสวงบุญเหยียบกันตาย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ชาวอินเดียร่วมไว้อาลัยเหตุผู้แสวงบุญชาวฮินดูแตกตื่นเหยียบกันตายมากกว่า 102 คน ระหว่างร่วมเทศกาลศาสนา


    วันนี้(16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวอินเดียร่วมไว้อาลัยเหตุผู้แสวงบุญชาวฮินดูแตกตื่นเหยียบกันตายมากกว่า 102 คน ระหว่างร่วมเทศกาลทางศาสนา ชาวอินเดียทั้งประเทศต่างแสดงความอาลัย หลังเกิดเหตุผู้แสวงบุญชาวฮินดูแตกตื่นเหยียบย่ำกันตายมากกว่า 102 ราย บาดเจ็บมากกว่า 44 คน ระหว่างร่วมเทศกาลทางศาสนาในรัฐคีราลา ทางภาคใต้ เหตุร้ายเกิดขึ้นภายหลังรถจี๊ปคันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนกลุ่มผู้แสวงบุญ ก่อให้เกิดความแตกตื่นอลหม่านหนีเหยียบย่ำกันบริเวณทางลงเขาแคบ ๆ

    ทั้งนี้ เทศกาลดังกล่าวจัดขึ้นทุกปี นาน 2 เดือน แต่ละปีมีผู้แสวงบุญร่วมงานมากหลายล้านคน

    ทางการระดมกำลังตำรวจเฝ้ารักษาความปลอดภัยมากเกือบ 2,000 นาย ขณะที่เหตุผู้คนเหยียบย่ำกันตายในอินเดียเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาการรวมตัวของผู้แสวงบุญจำนวนมาก



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=483 height=291>
























    <embedtype="application/x-shockwave-flash" width="483" height="291" src="http://www.youtube.com/v/qFMDJNQiCyI?fs=1&hl=en_US&color1=0x5d1719&color2=0xcd311b" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></OBJECT></P>ระทึก! รถบัสวิ่งชน ผู้ประท้วง บนถนน เวเนซูเอล่า
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันศุกรืที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ที่เมืองกัวเรนาส ประเทศเวเนซูเอล่า กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งอาศัยอยู่ที่ศูนย์ ผู้ไร้ที่อยู่ข้าง ๆ ทางหลวงได้นำฟูกที่นอนและกิ่งไม้ออกมาขวาง เพื่อปิดกั้นเส้นทางจราจร แต่กลับเกิดเหตุระทึกขวัญเมื่อรถบัสคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วไม่ยอมหยุดรถ ทำให้รถคันดังกล่าวชนทับผู้ประท้วง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ประท้วงและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก
    [​IMG]
    อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะพยายามหยุดรถคันที่ก่อเหตุ แต่คนขับกลับขับหลบหนีไป
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]

    [​IMG] ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว


    16 ม.ค. 54 รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ที่ สน.หัวหมาก พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. ได้ออกมาเปิดเผยถึงการดำเนินงานตามนโยบายกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่ห้ามเด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ออกจากบ้านหลังเวลา 22.00 น. โดยไม่มีเหตุอันควร ผ่านผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ว่า

    ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบ แหล่งเสี่ยงที่เป็นที่มั่วสุมต่างๆ ที่อยู่รอบบชน. อาทิ เช่น ร้านยาดอง ร้านเกม รวมไปถึงร้านอินเทอร์เน็ต ซึ่งจากการลงพื้นที่ดังกล่าวสามารถจับกุมร้านยาดองทที่ทำผิดกฎหมาย พร้อมของกลางได้เกือบ 100 แห่ง
    ส่วนพื้นที่เสี่ยงที่เป็นร้านเกมนั้น ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ในท้องที่ต่างๆ เข้มงวดกวดขันทำความเข้าใจให้ดำเนินการป้องกันไม่ให้มีเยาวชนหลงเหลืออยู่ในร้านหลังเวลา 22.00 น. เพราะเด็กเยาวชนอาจถูกทำร้าย เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
    เหตุที่ทางตำรวจเริ่มกวาดล้างร้านยาดองก่อนนั้น เนื่องจากเหล้ายาดองหาซื้อดื่มกินได้ง่าย ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีเยาวชนหันมาซื้อเหล้ายาดองมากขึ้น เมื่อมีการหาซื้อได้ง่ายมีการดื่มกินจนมึนเมาสิ่งที่ตามมาคือการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย ทำให้บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต ถือว่าเป็นปัญหาอาชญากรรม ทำให้สังคมไม่มีความสงบสุข และเชื่อการตรวจสอบดังกล่าวเป็นอีกทางที่จะช่วยลดปัญหาอาชญากรรมลงได้
    นอกจากนี้ รอง ผบช.น. ยังได้กล่าวต่ออีกว่า แม้การกวาดล้างร้านยาดองครั้งนี้ ไม่พบมีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี มาใช้บริการก็ตาม แต่ต่อไปจะซุ่มตรวจสถานที่สุ่มเสี่ยง อาทิ โต๊ะสนุ๊กเกอร์ ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านเกม และสถานบริการต่างๆ กันไปต่อเนื่อง
    ซึ่งหลังจากมีมาตราการดังกล่าวออกมา ก็มีเสียงตอบรับในทางที่ดีจากผู้ปกครองจำนวนมาก เพราะบางครั้งผู้ปกครองก็ไม่สามารถบังคับบุตรหลานได้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยก็ทำได้ง่ายขึ้น พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าว

    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แห่ดูโบสถ์ดัง-วาดรูปฝาผนัง'โดเรมอน'</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ฮือฮา'โดเร มอน-โนบิตะ' การ์ตูนญี่ปุ่นโผล่แจมภาพพุทธประวัติในโบสถ์วัดดังเมืองสุพรรณ

    มีทั้งรูปตกกระทะทองแดง ขึ้นสวรรค์ เล่นน้ำ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ชาวบ้านชอบใจพากันนำบุตรหลานไปจะได้ศึกษาพุทธประวัติในตัว ชี้เป็นปริศนาธรรมทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ด้านศิลปินเจ้าของไอเดียระบุเป็นรูปสอดแทรกเพื่อดึงดูดใจให้เด็กๆ เข้าถึงธรรม

    เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดสำปะซิว หมู่ที่ 3 ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

    มีประชาชนที่เดินทางไปกราบไหว้หลวงพ่อสม ปรารถนา ซึ่งเป็นพระประธานที่ประชาชนต่างให้ความเสื่อมใสศรัทธา ประดิษฐานอยู่ภายใน อุโบสถ ต่างก็ต้องแปลกใจ เมื่อพบว่า ภาพวาดบนฝาผนังภายในอุโบสถ มีการวาดรูปและเรื่องราว เกี่ยวกับพระพุทธประวัติ และเรื่องราวของพระพุทธเจ้าสิบชาติ แต่เป็นที่ฮือฮาและแปลกตา เนื่องจากภาพวาดมีการวาดภาพสอดแทรกตัวการ์ตูนโดเรมอนและโนบิตะ การ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่นอยู่ด้วย เช่น วาดรูปภาพโดเรมอนตกกระทะทอง แดง โนบิตะตกนรก โดเรมอนเฝ้าพระพุทธเจ้า โดเรมอนเล่นน้ำ และรูปภาพของคนสองคนในร่างเดียวกัน แต่สวมใส่เสื้อเหลืองและเสื้อแดง พื้นด้านหลัง เป็นรูปของธงชาติไทย ภาพวาดทั้ง หมดมีลักษณะกลมกลืนกับสีที่ระบายลงบนพื้นผนังซึ่งถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็น

    ผู้สื่อข่าวได้พบกับชาวบ้านที่เข้ามากราบไหว้หลวงพ่อสมปรารถนา

    ซึ่งก็ต่างบอกว่า เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่จิตรกรได้วาดเขียนรูปภาพสอดแทรกลูกเล่นให้เหมาะสมกับยุคสมัย ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร เหมือนกับว่า ถ้าโดเรมอน ทำดี ก็จะได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าหากทำไม่ดีก็จะตกนรกลงกระทะทองแดง อย่างไรก็ตาม ภาพวาดการ์ตูนเหล่านี้ถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็นรูป น่าจะพาบุตรหลานมาเที่ยวชม ให้รู้เรื่องราวของพระพุทธประวัติ เนื่องจากเด็กสมัยใหม่ ไม่ค่อยรู้พระพุทธประวัติ เห็นภาพการทำดี การทำชั่ว ถ้าเกิดทำดี จะได้ขึ้นสวรรค์ ทำชั่วก็จะตกนรก เหมือนโดเร มอน เหมือนเป็นการสอนลูกหลานไปในตัว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีภาพหลายภาพที่สอดแทรกอยู่ในภาพเขียนฝาผนัง เช่น เทวดาถูกกำแพงทิ่มตา ซึ่งผู้เขียนได้ไอเดียมาจากแก๊งสามช่า ภาพโดเรมอน โนบิตะ ตกกระทะทองแดง ภาพเกย์ระหว่างชายกับชายในหลายจุดบริเวณกำแพงอุโบสถ หมาสามขา หมู จระเข้ พระใช้ไม้จิ้มอวัยวะเพศชาย โดเรมอนเล่นน้ำ โดเรมอนแอบมองเทวดา

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับพระมหาอนันต์ เจ้าอาวาส เปิดเผยว่าวัดสำปะซิว ซึ่งก็เป็นวัดที่คู่เมืองสุพรรณบุรี มา 600 กว่าปีแล้ว

    ซึ่งมีองค์หลวงพ่อทองสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยทวารวดี อายุราวพันกว่าปี ซึ่งประดิษฐานอยู่ นอกจากนี้ยังมีหลวงพ่อสางบัญชี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อสมปรารถนา ซึ่งเป็นพระ พุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งอยู่ภายในอุโบสถ ซึ่งมีอายุราว 696 ปี ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถด้วย

    พระมหาอนันต์ เปิดเผยด้วยว่าสำหรับภายในอุโบสถ ก่อนหน้าผนังเป็นผนังเปล่าๆ

    แต่เมื่อปี 2548 จึงได้ติดต่ออดีตศิษย์เก่าจากช่างวิทยาลัยในวังชาย มาลงสีวาดรูปในผนังอุโบสถ เพื่อให้ภาย ในสวยงดงามยิ่งขึ้น จนกระทั่งได้ช่างมาคนหนึ่ง ก็เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ และเรื่องพระพุทธเจ้าสิบชาติ ซึ่งก็ยังไม่แล้วเสร็จ ยังขาดอยู่ ช่างกำลังวาดเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์ และเพิ่งทราบข่าวจากผู้สื่อข่าวนี่แหละ ก็ไม่ได้ตำหนิช่างแต่อย่างใด ซึ่งช่างก็มีฝีมืออยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการให้เด็กสมัยนี้ได้รู้ถึงการทำดี ทำชั่ว เพราะเด็กในปัจจุบันนี้ดูแต่การ์ตูน ถ้าสอดแทรกตรงนี้เข้าไปถึงการทำดี จะได้ขึ้นสวรรค์ ทำชั่วจะตกนรกเหมือนทองแดง เหมือนการวาดรูปการ์ตูนและรูปการ์ตูนไม่ได้โดดเด่นเห็นอย่างชัดเจน ถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็นด้วยช้ำไป

    ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พบกับช่างที่เขียนวาดรูปดังกล่าว พบว่าช่างกำลังเปิดวิทยุฟังพระเทศน์อยู่ พร้อมวาดภาพเขียนเพิ่มเติมผนังด้วย จากการสอบถามทราบชื่อนายรักเกียรติ เลิศจิตสกุล อายุ 34 ปี

    นายรักเกียรติ กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากหลวงพ่อให้มาซ่อมแซม และเขียนภาพวาดฝาผนังภายในอุโบสถแห่งนี้ ตนเคยมีผลงานวาดภาพในวัดหลวงดังๆ มาแล้วหลายแห่ง เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอนงคาคราม และวาดภาพในวัดต่างๆ อีกเป็นจำนวนหลายวัด สำหรับวัดสำปะซิว ได้รับการติดต่อเมื่อปี 2548

    เมื่อถามว่ามีแนวคิดอย่างไรในการเขียนภาพโดเรมอนตกนรกขึ้นสวรรค์ นายรักเกียรติ กล่าวว่า ตนเป็นคนเขียนเองเพื่อเข้ากับยุคสมัยเหมือนกับเป็นการสอดแทรก

    แต่ไม่เด่นชัด ถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็น เหมือนกับจิตรกรสมัยก่อน ที่เขียนรูปและเรื่องราว มีการสอดแทรกภาพเกี่ยวกับการร่วมเพศ หรือภาพเชิงสังวาส ซึ่งตนเห็นว่าไม่ได้เสียหายอะไร และน่าจะเป็นแรงดึงดูดให้เด็กสมัยนี้ได้มีความสนใจ ได้เห็นถึงการทำดี การทำชั่ว ได้รู้ถึงเรื่องราวพระพุทธประวัติพระพุทธศาสนาว่าเป็นอย่างไร และให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาดูโดเรมอน แต่ไม่ได้บอกว่า โดเรมอนอยู่จุดไหน แต่ให้ดูตั้งแต่เริ่มต้น จะได้รู้ถึงการทำดี ทำชั่ว จะได้รู้ว่าทำดี จะได้ขึ้นสวรรค์ ทำชั่วตกนรกกระทะทองแดง เหมือนโดเรมอนกับโนบิตะ

    นายรักเกียรติ เปิดเผยว่าหลังจากรองพื้นแบบโบราณด้วยดินสอพองน้ำอ้อยและใบขี้เหล็ก มาไล่ความชื้นเมื่อปี 2547 และลงมือวาดเมื่อปี 2548

    จนถึงในปัจจุบันซึ่งบางช่วงบางเวลาก็มีสถานการณ์เข้ามา อย่างภาพเทวดาสองเศียร แดง-เหลืองและด้านบนเป็นรูปธงชาติไทย ซึ่งอยากให้คนไทยหันหน้ามารักกัน มีภาพเกย์ระหว่างชายกับชายเรียกกันว่าภาพเชิงสังวาส มีรูปโดเรมอน ซึ่งจะเป็นการสอดแทรกตลอดอยู่หลายจุด ไม่ถือว่าเป็นการทำลายพุทธประวัติ แต่อยากให้ผู้ที่เข้ามาดูภาพแต่ละวัยได้คิดได้สัมผัสแก่นแท้ของเรื่องราวทางพุทธศาสนา

    พระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี

    กล่าวว่ายังไม่ได้ไปดูภาพเขียนในอุโบสถวัดสำปะซิวแต่ทราบว่ามีหลายจุดที่เขียนสอดแทรกลงไปในภาพพุทธประวัติ อย่างเทวดาเหลืองแดง โดเรมอน หรืออีกหลายจุดที่ทราบแต่เชื่อว่าเป็นเจตนาดีของช่างเขียนที่เขียนเล่าเรื่องราวปัจจุบันแทรกเข้าไปด้วยเพื่อให้เป็นประวัติศาสตร์มีความหลากหลาย เป็นการประเทืองปัญญาของผู้ชมที่เข้ามาชมภาพเขียน ซึ่งทุกอย่างก็เป็นการสอนให้คนมุ่งทำดีทั้งนั้น คำสอนของพระพุทธเจ้าที่เราต้องนำมาประยุกต์ยึดถือปฏิบัติให้เข้ากับยุคสมัย ใครมองว่าดีก็เป็นเรื่องดี ใครมองว่าเสียว่าเสื่อมก็เสื่อมแล้วแต่มุมมองแต่เชื่อว่าทุกฝ่ายล้วนเจตนาดีทั้งสิ้น เจ้าคณะจังหวัดกล่าว

    นายศราวุธ ปทุมสูตร ชาวบ้านจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าตนเห็นภาพแล้วทำไมโดเรมอนจึงตกนรกอยู่ในกระทะทองแดงซึ่งถ้าสอนเด็กดึงดูด

    เด็กก็ถูกแต่อาจทำให้เด็กเข้าใจผิดก็เป็นได้แล้วถ้าเด็กถามพระว่าทำไมโดเรมอนถึงตกนรก โดเร มอนทำผิดอะไร พระจะมีคำตอบให้เด็กไหม ทำไมเทวดาจึงถูกกำแพงทิ่มตาทั้งๆที่เทวดาเป็น ผู้วิเศษ แล้วโดเรมอนไปเล่นน้ำอยู่ได้อย่างไร หลายคำถามจะเกิดขึ้นแล้วพระจะตอบเด็กอย่างไร คงต้องหาทางออกหาคำตอบให้เด็กหรือผู้ที่เข้าชมภาพเขียนให้ดี

    นายวิศรุต อินแย้ม ผอ.ททท.สุพรรณบุรี กล่าวว่า เรื่องราวภายในวัดสำปะซิวก็ได้ทราบจากนักท่องเที่ยวมาบ้างแล้ว

    การวาดรูปโดเรมอน และนักท่องเที่ยวไปเห็น และนำมาบอกเล่าให้ฟัง เท่าที่คุยกับจิตรกร ก็เหมือนกับกุศโลบายของภาพวาดปริศนาธรรม ซึ่งเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่ได้สอดแทรกเข้าไป น่าจะเป็นจุดดึงดูดของวัดให้เด็กๆ ได้ค้นหาถึงการทำดี ทำชั่ว ถ้าทำดี ก็ได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าทำชั่วก็จะตกนรกลงกระทะทองแดงเหมือนกับโดเรมอนในภาพเขียนดังกล่าวได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ขอนแก่นประกาศ 26อำเภอเขตภัยพิบัติหนาว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>จังหวัดขอนแก่น ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 26 อำเภอ เป็นเขตภัยพิบัติภัยหนาว มีชาวบ้านขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม

    วันนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดขอนแก่น ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 26 อำเภอ เป็นเขตภัยพิบัติภัยหนาว และมีชาวบ้านกว่า 150,000 คน ยังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ซึ่งชาวบ้านที่บ้านขามเจริญ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ต้องหาฟืนมาก่อไฟผิงให้ความอบอุ่นก่อนเข้านอน หลังสภาพอากาศหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง

    โดยเฉพาะที่ อ.ภูผาม่าน โคกโพธิ์ไชย เวียงเก่า ภูเวียง และหนองนาคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ล่าสุดที่จังหวัดประกาศให้เป็นเขตประสบภัยพิบัติจากภัยหนาว.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เตรียมตัวรับกับภัยพิบัติปี ค.ศ.2011-2013

    [​IMG]

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ทิพย์เทพ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4253504", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ขอกล่าวเตือนพี่น้องชาวไทยทั้งหลาย ที่บางคนยังไม่ได้รับรู้ถึงความหายนะครั้งยิ่งใหญ่ที่มันจะมาเยือนชาวโลกในอีกไม่ช้านี้ มันถึงเวลาแล้วที่ชาวไทยทุกคนจะต้องตื่นจากความไม่รู้ว่า วันหายนะที่ร้ายแรงที่สุดมันใกล้จะมาถึงแล้ว คำว่าน้ำจะท่วมฟ้า ปลาจะกินดาวนั้นมันไม่ใช่คำพูดที่ล้อเล่นแต่อย่างใด ที่กล่าวมานี้ก็เพราะว่าอยากจะให้ชาวไทยทุกคน เตรียมตัวและเตรียมใจกับเหตุการณ์ที่ใกล้จะมาถึงในอีก 2 ปีข้างหน้านี้

    ณ ตอนนี้แกนขั่วโลกได้ค่อยๆเคลื่อนแล้ว นกและปลาได้ตายลงอย่างมากมายอย่างไม่มีสาเหตุที่ต่างประเทศ และได้เกิดน้ำท่วมในหลายๆประเทศในเวลานี้รวมทั้งในประเทศไทย ต่างประเทศหลายๆประเทศตื่นตัวและได้เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์เลวร้าย ที่มันจะมาถึงในอีกไม่นานนี้แล้ว แต่ทิพย์เทพเป็นห่วงชาวไทยทุกคนที่ยังไม่รู้ชะตากรรม ภายในปีนี้ถึงปีหน้าประเทศไทยเราจะมีหิมะตก

    แต่ไม่ต้องดีใจหรอกนะ เพราะว่ามันบ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เป็นลางร้ายที่ชาวไทยทุกคนจะต้องเจอ ถ้าสภาพอากาศถึงขั้นติดลบถึงขนาดลบ 10-15 องศา ชาวไทยทุกคนคงจะตั้งรับไม่ทันแน่นอนกับสภาพร่างกาย ณ ตอนนี้ประเทศรัสเซียรัฐบาลเขาได้เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ ที่สุดแสนหฤโหดที่มันใกล้จะมาเยือนชาวโลกแล้วในอีกไม่ช้านี้ ปี 2011-2013 หายนะจะมาถึงแล้ว 21/12/2012 และ 14/02/2013 ขอให้ชาวไทยทุกคนจงเตรียมตัวเตรียมใจ มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอนโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันอวสานของชาวโลก(ยุคเก่า)

    12-01-2011, 09:27 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tossapornk<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4253809", true); </SCRIPT> สมาชิก

    มรณานุสสติและพุทธานุสสติดีที่สุด จิตจะได้ไม่ติดยึดว่าตัวเองต้องรอด แล้วจิตจะอิสระมากขึ้น ปัญญาญานก็จะเกิดตามมา อย่าไปกังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง รู้แล้วก็วางลงเสียทุกอย่างก็จะว่างๆสบายๆ เพราะทุกคนก็ต้องตายเมือถึงเวลา<!-- google_ad_section_end -->

    12-01-2011, 10:34 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ยัย fame<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4256256", true); </SCRIPT> สมาชิก

    จะเตรียมตัวยังไงดีละคะ อ๋อ..ต้องเตรียมซื้อเสื้อขนเป็ดไว้ใส่ในหน้าหนาวที่อุณหภูมิติลบ เตรียมอาหาร นอกจากนี้ก็เตรียมใจคะ เพราะไม่รู้ว่าจะเตรียมอะไรนอกจากที่กล่าวมา แต่ภัยพิบัติที่บอกว่าจะเกิดปี 2012 นี้คงไม่ใช่อุปทานหมู่นะคะ(ตามกระแสไปเรื่อย)<!-- google_ad_section_end -->

    13-01-2011, 02:22 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->marine24<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4260153", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ปีทีแล้วประเทศเวียตนาม มีหิมะตก ชาวเวียตนามคนหนึ่งพยายามขี่รถมอเตอร์ไซต์ผ่านหิมะ ปรากฏว่า หนาวตาย หรือเขา ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ผมได้รับคำเตือนจากพระท่าน 2 ท่าน(ขอสงวนนาม) ท่านหนึ่งบอกพวกผมมีเวลา 2 ปีต้องฝึกสมาธิให้สำเร็จถึงขั้นใช้งานได้ อีกท่านบอกอาจจะได้เห็นหิมะตกในไทย ผมเตรียมเสื้อกันหนาวแบบเล่นสกี (ผ้าโกรเท็กซ์) กันหนาวและกันน้ำ และเสื้อแจ็คใช้ในสภาพหนาวจัด หมวกไหมพรม ถุงมือหนัง อุปกรณ์ดำรงชีพ ทั้งแบบอยู่ในเมืองและอาจจะต้องเดินทางรอนแรมในป่า/ชนบท<!-- google_ad_section_end -->

    13-01-2011, 11:28 PM

    เกษม สมาชิก

    ถ้ามีหิมะตกในประเทศไทยจริง แสดงว่าอากาศต้องหนาวจัดเป็นอย่างมาก คนไทยเราไม่คุ้นเคยกับอากาศหนาวเย็นขนาดนี้มาก่อน อาจทำให้ล้มป่วยได้ง่าย ควรเตรียมหาเครื่องป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ ในสมัยผมยังเป็นเด็กเห็นคุณแม่ท่านใช้กระเป๋าน้ำร้อนพันด้วยผ้าขนหนู มากอดนอนในยามที่ไม่สบาย หรือตอนที่อากาศหนาวเย็นอยู่เสมอๆ แต่คนสมัยนี้ไม่ค่อยนิยมใช้กันแล้ว อาจเป็นเพราะฤดูหนาวของประเทศไทยไม่หนาวเย็นมากเหมือนเมื่อสมัย 20-30 ปีก่อน

    ประโยชน์ของกระเป๋าน้ำร้อน

    ทุกบ้านควรมีกระเป๋าน้ำร้อน ใว้ประจำเวลาที่เป็นหวัดเอากระเป๋าน้ำร้อนวางใว้ที่เท้าจะช่วยให้สบายขึ้น หรือเวลาที่ปวดหลังเอากระเป๋าน้ำร้อนวางใว้ที่หลังจะช่วยให้หายปวด หรือวางกระเป๋าน้ำร้อนใว้ที่ท้ายทอย เวลาปวดศรีษะจะช่วยให้ทุเลาอาการปวดลงได้

    16-01-2011, 17:38 PM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เตรียมตัวรับกับภัยพิบัติปี-2011-2013-a.275420/<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2011
  11. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ชงปิดเกาะฝั่งอันดามันด่วน วิกฤตหนักปะการังฟอกขาว ชี้เสียหายหนักกว่าสึนามิ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">16 มกราคม 2554 19:27 น.</td></tr></tbody></table>


    <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"><tbody><tr><td align="center" valign="Top" width="350">[​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ปะการังฟอกขาว (ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ทช.เตรียมชงเรื่อง ขอปิดเกาะฝั่งอันดามันด่วน เหตุวิกฤต “ปะการังฟอกขาว” รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ชี้อาจแรงกว่าคราวเกิดสึนามิ ระบุเกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเลสูงต่อเนื่องและของเสียจากเรือ ผนวกซ้ำน้ำเสียจากชั้นใต้ดิน เผย บางเกาะปะการังตาย 99.9% และบางแห่งไม่พบปะการังอ่อน ด้าน อธ.กรมอุทยานฯ ชี้อาจถึงขึ้นปิดอุทยาน

    นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ขณะนี้ กรมฯ เตรียมทำหนังสือเสนอกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อขอให้ปิดอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันและอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะ สุรินทร์ ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา บางส่วน เนื่องจากเกิดปัญหาปะการังฟอกขาวทั้งหมด ถือเป็นความเสียหายของปะการังในฝั่งอันดามันที่รุนแรงที่สุดเป็น ประวัติการณ์ สาเหตุเกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นถึงกว่า 30 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2553 ที่ผ่านมาต่อเนื่องกันถึง 3 เดือน รวมทั้งจากของเสียที่ถูกถ่ายเทลงน้ำและของเสียที่ไหลซึมผ่านชั้นดิน ผนวกกับปัญหานักท่องเที่ยวเหยียบปะการัง ทิ้งสมอเรือในแนวปะการัง ทิ้งของเสียจากเรือ และการให้อาหารปลาในแนวปะการังเป็นสาเหตุให้มีสาหร่ายขึ้นคลุมปะการังเนื่อง จากปลาเปลี่ยนพฤติกรรมไปกินอาหารจากนักท่องเที่ยว แทนที่จะกินสาหร่ายที่ขึ้นคลุมปะการัง

    <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="384"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="384"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> นายเกษมสันต์ กล่าวอีกว่า จากการสำรวจในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.2553 โดยเฉพาะที่หมู่เกาะสุรินทร์-สิมิลัน จ.พังงา รวมทั้งหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ และเกาะราชา จ.ภูเก็ต พบว่าแหล่งแนวปะการังเสียหายจากการฟอกขาวมาก ทั้งที่ เกาะสุรินทร์เหนือ หน้าช่องแคบตอนใน ปะการังตายถึง 93.6% เกาะสุรินทร์เหนือ อ่าวแม่ยายทิศเหนือ ตายถึง 99.9% เกาะปาชุมบาตะวันออกเฉียงเหนือ ตายถึง 95% เกาะตาชัย ตายถึง 84% เกาะสุรินทร์ใต้ตาย 85% เกาะสิมิลัน หน้าประภาคาร ตาย 89.3% เกาะตาชัย ตะวันออกเฉียงใต้ ตาย 84% ขณะที่เกาะพีพีและใกล้เคียงพบปะการังตายมากกว่าปะการังมีชีวิตประมาณ 2-3 เท่า ในหลายพื้นที่ไม่พบปะการังวัยอ่อนเลย อาจกล่าวได้ว่าความเสียหายครั้งนี้รุนแรงมากกว่าความเสียหายจากสึนามิเมื่อ เดือนธ.ค.2547

    ด้านนายสุนันท์ อรุณนพรัตน์ อธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชกล่าวว่าหากสำรวจแล้วพบเสียหายมาก อาจจะต้องปิดทั้งอุทยานฯ ทั้งหมู่เกาะสิมินลัน และสุรินทร์ รวมทั้งพีพี บางจุด แม้จะเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่า นี้ และในวันที่ 20 ม.ค.นี้ จะพื้นที่สำรวจที่ จ.ภูเก็ต โดยนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ จะเรียกประชุมหัวหน้าอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทางทะเลทั้ง 26 แห่งเข้ารายงานสถานการณ์ด้วย
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เยอรมนีสั่งปิดฟาร์มหมูและสัตว์ปีกเกือบพันแห่ง จากกระแสวิตกสารไดออกซิน

    [​IMG]

    เบอร์ลิน 16 ม.ค. - กระทรวงเกษตรเยอรมนี แถลงว่า ทางการได้สั่งปิดฟาร์มสัตว์ปีกและฟาร์มหมู 934 แห่งจากกระแสวิตกพบสารไดออกซินปนเปื้อนอยู่ในอาหาร

    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นภายหลังเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ประกอบการด้านอาหารเลี้ยงสัตว์ในรัฐโลเวอร์ แซกโซนี ระบุรายชื่อบริษัทที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังไม่ครบ และยังส่งผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ไปจำหน่ายถึงรัฐนอร์ท ไรน์-เวสต์ฟาเลีย บาวาเรีย และบรานเดนบวร์กด้วย กระแสวิตกเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีการเปิดเผยว่า บริษัทในเยอรมนีอาจจัดส่งอาหารเลี้ยงสัตว์ที่มีสารพิษไดออกซินปนอยู่ราว 3,000 ตันตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว และอาหารสัตว์ปนสารพิษเหล่านั้นได้รับการจัดส่งไปทั่วแล้ว . -สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 16 ม.ค. 2554

    เมืองโรเชสเตอร์ของออสเตรเลียจมใต้น้ำประชาชน 2 ใน 3 ต้องอพยพหนี

    [​IMG]

    ออสเตรเลีย 16 ม.ค.-พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองโรเชสเตอร์ในรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียต้องจมอยู่ใต้น้ำหลังระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้เอ่อล้นเข้าท่วม

    พื้นที่ของเมืองโรเชสเตอร์ถึงร้อยละ 80 ต้องจมอยู่ใต้น้ำหลังแม่น้ำสายสำคัญที่ไหล่ผ่านเมืองได้เพิ่มระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 9.50 เมตร ถนนสายต่าง ๆ ภายในเมืองดังกล่าวถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทางการระบุว่าประชาชนราว 2 ใน 3 ต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือน ส่วนที่เมืองชาร์ลตัน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐวิกตอเรียประชาชน 400 ครัวเรือนต้องอพยพ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำอโวคากำลังเพิ่มระดับสูงขึ้น พื้นที่ถูกตัดขาดทางการต้องใช้เฮลิคอปเตอร์จัดส่งอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานอุตุนิยมวิทยารายงานว่าตลอด 5 วันที่ผ่านมาในบางพื้นที่มีปริมาณฝนตกหนักถึง 200 มิลลิเมตร.-สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 16 ม.ค. 2554

    น้ำท่วมออสเตรเลียทำให้สัตว์พื้นเมืองตายจำนวนมาก

    [​IMG]

    บริสเบน 16 ม.ค. - ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า น้ำท่วมใหญ่ทั่วพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลียทำให้สัตว์พื้นเมืองจำนวนมากตาย มีทั้งจมน้ำและอดอยากเพราะขาดอาหารและถิ่นอาศัย

    สมาคมสัตวแพทย์ออสเตรเลียเตือนว่า น้ำท่วมใหญ่จะส่งผลกระทบต่อสัตว์พื้นเมืองไปอีกนานเพราะสัตว์ที่รอดชีวิตไม่จมน้ำตายก็จะขาดถิ่นอาศัย โดยเฉพาะจิงโจ้ และ วัลลาบีที่ยังไม่โตเต็มวัยจะตายในอีกไม่กี่เดือน เพราะติดเชื้อปรสิตและยังเกิดความเครียด เนื่องจากแหล่งอาหารและถิ่นอาศัยถูกน้ำท่วมเสียหาย ขณะที่เต่าและกบพื้นเมืองก็จะลดลงมากเช่นกัน เพราะน้ำท่วมได้ซัดไข่ที่แม่เต่าขึ้นมาวางไว้ตลอดชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์หายไปและทำลายแหล่งอาศัยของกบ
    ด้านศูนย์บริการความรู้ การช่วยเหลือและข่าวสารสัตว์ป่าเผยว่า ลูกนกจำนวนมากถูกน้ำท่วมซัดหายจากรัง ส่วนนกที่โตแล้วก็หาอาหารลำบาก ลูกจิงโจ้บางตัวถูกน้ำซัดหลุดออกจากกระเป๋าหน้าท้อง และบางตัวจมน้ำตายทั้งที่ยังอยู่ในกระเป๋าหน้าท้องแม่ เนื่องจากจิงโจ้เมื่อเปียกน้ำจะไม่สามารถกระโดดได้สูงเหมือนปกติและขาอาจบวม มีความเป็นได้สูงว่าสัตว์จะอดอยากล้มตายในอีกไม่กี่เดือนเพราะแหล่งอาหารเช่นทุ่งหญ้าตายหมด.- สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 16 ม.ค. 2554

    ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในศรีลังกาพุ่งขึ้น 37 คนแล้ว

    [​IMG]

    ศรีลังกา 16 ม.ค.-ยอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมในศรีลังกาเพิ่มขึ้นเป็น 37 คนแล้ว ขณะที่เกือบ 4 แสนคนไร้ที่อยู่อาศัย

    มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมในศรีลังกาเพิ่มอีก 10 คนส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 37 คนแล้ว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 49 คน และสูญหายอีก 12 คน ขณะที่เกือบ 390,000 คนยังคงไร้ที่อยู่อาศัย มีบ้านเรือนพังเสียหายราบคาบจำนวน 3,744 หลัง ด้านข้าหลวงใหญ่อินเดียประจำศรีลังกาได้ส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์กว่า 25 ตันให้แก่รัฐมนตรีพัฒนาเศรษฐกิจของศรีลังกา ขณะที่รัฐบาลประเมินว่าความเสียหายจากน้ำท่วมน่าจะอยู่ที่ราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 16 ม.ค. 2554

    ผู้นำเกาหลีใต้ร้องยูเอ็นตรวจสอบโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเกาหลีเหนือ

    [​IMG]

    เกาหลีใต้ 16 ม.ค.-ผู้นำเกาหลีใต้เรียกร้องให้สหประชาชาติเข้าไปตรวจสอบโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมของเกาหลีเหนือ

    ประธานาธิบดีลี มยอง-บัก ของเกาหลีใต้เสนอความคิดต้องการให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เข้าไปตรวจสอบโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมของเกาหลีเหนือ ระหว่างการเยือนกรุงโซลของนายเซอิจิ มาเอะฮาหร่ะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกันว่าเกาหลีเหนือจะต้องดำเนินการล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ให้เห็นรูปธรรมก่อนที่จะมีการรื้อฟื้นการเจรจา 6 ฝ่าย พร้อมกับยืนยันถึงความสำคัญในการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐในการแก้ปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 16 ม.ค. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หน่วยเหนือคือใคร?

    [​IMG]

    พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระพิฆเณศ ฯลฯ มีจริงนะ แต่เป็นเพียง “ตำแหน่ง”

    อาตมา พ.ธรรมรังสี หรือ พระศิวพล วชิโร อาตมามีคติอยู่ว่า อย่ารอให้ความรู้-บุญกุศล-ครูบาอาจารย์วิ่งมาหาเรา เราต้องวิ่งไปหาของเราเอง แต่ไม่ใช่ไปยึดติดความรู้-บุญกุศล-ครูบาอาจารย์ เมื่อได้แล้วก็เร่งปรับปรุงแก้ไขตนเองพัฒนาตนเอง อันไหนที่ครูบาอาจารย์ท่านเห็นว่าต้องเพิ่มเติมท่านก็จะช่วยต่อยอดให้เราเอง หน้าที่ของเราคือหมั่นทำและไม่ประมาท ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วตายแล้วไม่สูญ ทำยังไงถึงจะย่นภพย่นชาติตัวเองให้ได้จนถึงความวิมุติหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารการเวียนว่ายตายเกิด อย่ามัวแต่หลงอยู่ในโลกมนุษย์หรือเวียนตายเวียนเกิดกันอยู่เลย เทพพรหมครูบาอาจารย์ท่านไม่ได้ช่วยเราให้หลงอยู่ในโลกจมอยู่ในโลก มีแต่จะช่วยเราให้พ้นไปจากโลก

    อันดับแรกก็ช่วยเราแก้ปัญหาที่เราแก้เองไม่ได้ก่อน พอเราช่วยตัวเองได้แล้วท่านก็ปล่อยแล้วไปช่วยคนอื่นต่อ เวลาว่างท่านไม่มีหรอก เพราะท่านมีเมตตาเสมอเหมือนกันหมด คุณธรรมท่านสูงบารมีท่านสูงท่านก็ช่วยหมดทุกคนนั่นแหละ

    พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระพิฆเณศ ฯลฯ มีจริงนะ แต่เป็นเพียง “ตำแหน่ง” ในทางโลกวิญญาณโลกทิพย์ภูมิทิพย์เท่านั้น

    เป็นตำแหน่งของมหาพรหมผู้ใหญ่ที่ปกครองอยู่บนพรหมโลกสุทธาวาสโน่น (ไกลมาก) ทำหน้าที่คล้ายองคมนตรีส่วนพระอินทร์ และ เทวดาชั้นผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ ก็มีหน้าที่ต่างกันออกไป พระอินทร์ก็เหมือนนายกฯ นั่นแหละ ส่วนพระฤาษีก็เป็นที่ปรึกษาเป็นครูบาอาจารย์ของเหล่าเทวดาอีกทีมีมานานมากอายุเป็นกัปๆ(กัปหนึ่งนับเป็นปีได้ประมาณร้อยล้านปีโลกมนุษย์ ยังมี “มหากัป” และ “อสงไขย” อีก ขี้เกียจนับแต่อย่าเอาเวลาโลกมนุษย์ไปเทียบกับเวลาเบื้องบนนะคนละเรื่อง)

    ที่มา ธรรมะนอกคัมภีร์ - Scratchpad Wiki Labs - Free wikis from Wikia

    พระวิษณุ(พระนารายณ์)

    พระวิษณุ (อังกฤษ: Vishnu , อักษรเทวนาครี : विष्णु) หรือเรียกอีกอย่างว่า พระนารายณ์ เป็น 1 ใน 3 มหาเทพ มีหน้าที่คุ้มครองแลดูแลรักษาทั้ง 3 โลกตามความเชื่อของชาวฮินดู จากคัมภีร์พราหมณ์ รูปร่างลักษณะมีพระวรกายจะมีสีที่เปลี่ยนไปตามยุค ฉลองพระองค์ดั่งกษัตริย์ มีมงกุฎทอง อาภรณ์สีเหลือง มี 4 กร ถือ สังข์ จักร ตรี คทา แต่ที่จะพบเห็นได้บ่อยที่สุดคือถือ จักร์ สังข์ คทา ส่วนอีกกรจะถือ ดอกบัวบ้าง หรือ ไม่ถืออะไรเลยบ้าง (โดยจะอยู่ในลักษณะ"ประทานพร")

    โดยปรกติ พระวิษณุ จะทรงประทับอยู่ที่เกษียรสมุทร โดยส่วนมากจะทรงบรรทมอยู่บนหลัง อนันตนาคราช โดยมีพระชายาคือ พระลักษมีมหาเทวี คอยฝ้าดูแลปรนิบัติอยู่ข้างๆเสมอ พาหนะของพระวิษณุคือ พญาครุฑ พระวิษณุ มีอีกชื่อหนึ่งว่า "หริ" แปลว่าผู้ดูแลแห่งจักรวาลถือเป็นเทพสูงสุด เพราะทุกอย่างเกิดจาก "หริ" โดย"หริ"ได้แบ่งตนเองออกเป็น 3 คือ
    • พระพรหม มีหน้าที่สร้างและลิขิตสรรพสิ่งทั้งปวงในทั้งสามโลก
    • พระวิษณุ หรือ พระหริ มีหน้าที่ดูแลทั้งสามโลกให้อยู่ในความเรียบร้อย และสมดุล
    • พระศิวะ มีหน้าที่ทำลายสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายทั้งปวงในโลกทั้งสาม
    การอวตารของพระวิษณุ
    การอวตารของพระวิษณุนั้นทรงอวตารเป็นทั้งมนุษย์และสัตว์ และการอวตารของพระองค์จะเป็นไปตามศิวะโองการ (คำสั่งของพระศิวะ) และการอัญเชิญขอร้องของหมู่เทวดา การอวตารของพระวิษณุบ้างก็ว่ามีมากจนนับได้ยาก แต่ปางที่มีจุดประสงค์เพื่อมาช่วยเทวดา และมนุษย์โลกนี้มีทั้งหมด 25 ปาง แต่ปางที่ถือเป็นปางที่สำคัญที่สุดมี 10 ปาง ดังนี้
    • ปางที่ 1 มัตสยาวตาร (อวตารเป็นปลา) เพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์และสัตว์ให้พ้นจากน้ำท่วมโลก
    • ปางที่ 2 กูรมาวตาร (อวตารเป็นเต่า) เพื่อช่วยเหล่าเทวะและอสูรกวนเกษียรสมุทร
    • ปางที่ 3 วราหาวตาร (อวตารเป็นหมูป่า) มีสองตำนานหลักๆคือ 1) เพื่อปราบอสูรนาม"หิรัณยากษะ"ซึ่งลักเอาแผ่นธรณีไปโดยการม้วนแล้วเหน็บไว้ที่ข้างกาย และ 2) เพื่อยุติการประลองพลังอำนาจกันระหว่าง พระศิวะ และ พระพรหม
    • ปางที่ 4 นรสิงหาวตาร (อวตารเป็นครึ่งคนครึ่งสิงโตอินเดีย) เพื่อปราบอสูรนาม "หิรัณยกศิปุ" ผู้เป็นน้องชายของ "หิรัณยากษะ"
    • ปางที่ 5 วามนาวตาร (อวตารเป็นพราหมณ์เตี้ย) เพื่อปราบอสูรนาม "พาลี" ผู้เป็นเหลนของ "หิรัณยกศิปุ"
    • ปางที่ 6 ปรศุรามาวตาร (อวตารเป็นพราหมณ์ผู้ใช้ขวานเป็นอาวุธ) เพื่อปราบกษัตริย์ (ผู้เป็นมนุษย์) นาม "พระเจ้าอรชุน" หรือ "พระเจ้าสหัสอรชุน" ผู้มีใบหน้า 1พันหน้า ผู้ก่อยุคเข็ญและทำลายล้างศาสนา
    • ปางที่ 7 รามาวตาร หรือ รามจันทราวตาร (อวตารเป็นพระราม กษัตริย์แห่งอโยธยา) เพื่อปราบอสูรนาม "ราวณะ" หรือ "ราพณ์" หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม "ทศกัณฐ์" กษํตริย์ แห่งกรุงลงกา - ปางนี้เป็นหลักในการจัด จารีต และ ขนบธรรมเนียม ประเพณีของสังคมอินเดีย
    • ปางที่ 8 กฤษณาวตาร (อวตารเป็นพระกฤษณะ) เพื่อขับรถม้าให้ "พระอรชุน" และสอนวิถี และวิธีการดำเนินชีวิต ให้แก่พระอรชุน
    • ปางที่ 9 พุทธาวตาร (อวตารเป็นพระพุทธเจ้า) ชาวฮินดูมีความเชื่อว่าพระนารายณ์อวตารในปางนี้เพื่อหลอกลวงให้พวกนอกรีตที่ไม่นับถือวรรณะแยกออกไปจากศาสนาพราหมณ์ ; ในบางแห่งเชื่อว่าปางที่เก้านี้คือ พลรามาวตาร (อวตารเป็นพลราม) หรือพระพลรามซึ่งเป็นน้องชายของพระกฤษณะ เป็นการอวตารคู่กับพระกฤษณะ
    • ปางที่ 10 กัลกยาวตาร หรือ กัลกิยาวตาร (อวตารเป็นมนุษย์ผู้ขี่ม้าขาว หรือ กัลกี) เป็นอวตารที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่เป็นการทำนายอนาคตไว้ว่า ในยามที่เป็นปลายแห่งกลียุค ที่ที่เมื่อผู้คนไม่รู้จักธรรมะ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอีกต่อไป โลกทั้งโลกต้องเผชิญกับยุคเข็ญไปทุกหย่อมหญ้า จะมีบุรุษขี่ม้าปรากฏตัวขึ้นเพื่อปัดเป่าความทุกข์ยาก และนำธรรมะกลับมาสู่มวลมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง
    ที่มา วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    http://th.wikipedia.org

    หมายเหตุ

    พระนารายณ์ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ในความเป็นจริงแล้วก็คือตำแหน่งพระมหาโพธิสัตว์อันดับหนึ่งของชาวพุทธเรานั่นเอง ตำแหน่งพระนารายณ์นี้เดิมทีก็เป็นอดีตชาติของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือพระสมณโคดม ที่พระองค์ได้เคยเสวยพระชาติเป็นพระราม กษัตริย์แห่งอโยธยา (มีหลักฐานยืนยันอยู่ในพระไตรปิฏก) เมื่อพระสมณโคดมได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ตำแหน่งพระมหาโพธิสัตว์อันดับหนึ่ง จึงเป็นของพระศรีอาริยเมตไตรย ที่พระองค์ได้จุติลงมาเกิดเป็นพระกัลกี(พระเจ้าจักรพรรดิราช) เพื่อปัดเป่าความทุกข์ยาก และนำธรรมะกลับมาสู่มวลมนุษย์อีกครั้งหนึ่งนั่นเอง -เกษม-
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0911.jpg
      DSCN0911.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.1 KB
      เปิดดู:
      2,419
    • DSCN0913.jpg
      DSCN0913.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.3 KB
      เปิดดู:
      132
    • IMG_4552.JPG
      IMG_4552.JPG
      ขนาดไฟล์:
      280.2 KB
      เปิดดู:
      108
    • ju.jpg
      ju.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.2 KB
      เปิดดู:
      115
    • 450px-Bangkok_Airport_06.jpg
      450px-Bangkok_Airport_06.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.9 KB
      เปิดดู:
      133
    • 1713.jpg
      1713.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.2 KB
      เปิดดู:
      124
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2011
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือนแทบทุกภาคอุณหภูมิลดลงอีก1-2องศา กทม.เย็นสุด17-19องศา ลมแรง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 17 มกราคม 2554 ดังนี้
    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอุณหภูมิลดลง มีอากาศหนาวเย็นและมีลมแรง สำหรับอ่าวไทยคลื่นลมมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือบริเวณควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
    อนึ่ง คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้ภาคเหนือมีฝนตกในระยะแรกต่อจากนั้นอุณหภูมิลดลง

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศา
    มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด
    และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 3-6 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-13 องศา
    อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา และมีลมแรง
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด
    อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    ภาคกลาง อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ตอนบน: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ตอนล่าง: มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
    บริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
    อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีลมแรง
    อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หนาวปกคลุม ภูกระดึง-ภูเรือ เหลือ 5 องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อ 16 ม.ค. จากความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน

    ซึ่งแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว
    ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไป โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1- 3 องศา

    พยากรณ์อากาศตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 16 ม.ค. ถึงเวลา 06.00 น. วันที่ 17 ม.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อากาศหนาว

    อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด ประมาณ 26 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 10 องศาเซลเซียส

    นายคำพัน บุตราช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาเลย กล่าวถึงพยากรณ์อากาศบริเวณจังหวัดเลย

    ขณะนี้ ลักษณะอากาศ อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรงและมีหมอกตอนเช้า บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด รายงานอุณหภูมิต่ำสุดตามอำเภอต่างๆ เมื่อเช้าวันนี้ 16 มกราคม 54 ที่ อ..เมืองเลยวัดได้ 11.8 องศา อ.วังสะพุง 11.8 องศา อ.ด่านซ้าย 11.0 องศา อ.ท่าลี่ 13.0 องศาอ.ภูเรือ 10.5 องศา อ.นาแห้ว 10.5 องศา อ.ผาขาว 12.0 องศา อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 5.0 องศา อุทยานแห่งชาติภูเรือ 5.0 องศา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 6.0 องศา สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ 7.5 องศา อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ.นาแห้ว 10.0 องศาเซลเซียส



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ชาวเชียงรายขาดแคลนเครื่องกันหนาวอีกนับแสนคน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เชียงราย 17 ม.ค. - อากาศที่หนาวเย็นระลอกใหม่ส่งผลให้ประชาชนและพระสงฆ์ใน จ.เชียงราย ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากขาดแคลนเครื่องกันหนาวเป็นจำนวนมาก

    พระสงฆ์และสามเณรที่อาศัยตามวัดบนดอยสูงในพื้นที่ จ.เชียงราย ต้องออกมาก่อไฟ คลายหนาว

    หลังอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมต้มน้ำสมุนไพรแจกจ่ายให้กับพระสงฆ์ที่ชราภาพและประชาชนดื่มบำรุงร่างกาย และป้องกันโรคหวัด สำหรับในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังมีประชาชนใน 18 อำเภอ และวัดบนดอยสูง ที่ยังขาดแคลนเครื่องกันหนาว และยังไม่ได้รับความช่วยเหลืออีกกว่า 180,000 ราย

    ส่วนที่ตลาดนัดคลองถม เขาไร่ยา ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี

    ประชาชนจำนวนมากสนใจเลือกซื้อเครื่องกันหนาวมือสองราคาถูก ไม่ว่าจะเป็น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ผ้าห่มนวม หมวกไหมพรม ถุงเท้า และถุงมือ ทำให้สินค้าขาดแคลน จนทางร้านต้องสั่งซื้อเพิ่ม. - สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฮือฮา!เจอ"พระเกศ"โบราณ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สุดฮือฮาตำนานพระประธานโบราณจมน้ำเป็นจริง 25 นักประดาน้ำงมพบ "พระเกศ" โบราณ อายุกว่า 200 ปี


    จากกรณีพระประเทืองฐานะวิโร พระลูกวัดบุดดา จ.สิงห์บุรี ฝันว่ามีคนชื่อจำปีซึ่งเสียชีวิตไปแล้วบอกให้ช่วยนำพระพุทธรูป ซึ่งถูกโบสถ์ทับอยู่ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดโบสถ์ย่านซื่อ หลังที่ทำการอบต.ย่านซื่อ หมู่ที่ 4 ต.ย่านซื่อ จากนั้นได้บอกเล่าเรื่องราวดังกล่าวจนข่าวแพร่สะพัด กระทั่งมีนักประดาน้ำงมไปค้นหาและพบหลักฐานเป็นก้อนอิฐสมัยเก่าและมีลักษณะคล้ายเศียรพระบางส่วน นำขึ้นมาเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

    ความคืบหน้า เมื่อเวลา 07.19 น. วันที่ 16 ม.ค. ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดโบสถ์ย่านซื่อ หลังที่ทำการ อบต.ย่านซื่อ

    ได้มีการทำพิธีบวงสรวงเพื่อทำการงมค้นหาพระประธานจากนักประดาน้ำ 25 คน จากทั่วประเทศ ภายในพิธีมีพระและประชาชนกว่า 400 คนเดินทางมาร่วมพิธีจนหนาตา บางคนได้ตั้งกล้องวีดีโอจับภาพทุกขั้นตอน หลังจากเสร็จพิธีสงฆ์แล้วในเวลา 08.19 น.นักประดาน้ำได้เริ่มทำการงมค้นหา จนกระทั่งเวลา 12.00 น. นักประดาน้ำได้หยุดการค้นหา เนื่องจากพบเพียงก้อนอิฐลักษณะคล้ายกำแพงเป็นจำนวนมาก จึงได้ทิ้งทุ่นไว้ตามจุดต่าง ๆ จากนั้นได้ดำน้ำค้นหาอีกครั้ง กระทั่งเวลา 15.30 น. ทางชุดประดาน้ำได้งมพบพระเกศขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 30 เซนติเมตรขึ้นมาได้ ทำให้ประชาชนต่างเบียดเสียดแย่งกันดูให้เห็นกับตา

    โดย พระครูกิตตยาภูมินันท์ เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ย่านซื่อ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อที่นักประดาน้ำค้นพบชิ้นส่วนของพระประธานที่จมมานาน

    ซึ่งเท่าที่เห็นเป็นพระเกศทำด้วยเนื้อปูน แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นเนื้ออะไรเพราะจมอยู่ในน้ำนาน คงต้องส่งไปพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง การพบพระเกศในครั้งนี้สันนิษฐานว่าพระประธานที่ยังไม่พบน่าจะมีหน้าตักกว้างประมาณ 2.5 เมตร ก็เป็นไปได้ นอกจากนี้ สิ่งที่นักประดาน้ำนำขึ้นมายังมีครกโบราณ ปืนโบราณ มีด สิ่ง เครื่องโลหะจำนวนหนึ่ง โดยหลังจากนี้ จะได้ประสานไปยังกรมศิลปากรให้เข้าตรวจสอบพระเกศโบราณ และสิ่งของเครื่องใช้โบราณเหล่านี้อีกครั้งหนึ่ง

    นายเผือก คันทรง อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่46 หมู่ที่ 4 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง กล่าวว่า

    เรื่องราวที่มีพระจมอยู่ในน้ำเป็นเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า เมื่อก่อนบริเวณแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่และตั้งอยู่เกือบกลางแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ด้วยสภาพพื้นที่น้ำกัดเซาะทำให้ริมตลิ่งฝั่งนี้ดินทรุดหายไปเรื่อย ๆ จนวิหารและโบสถ์พังลงแม่น้ำไปทำให้พระที่อยู่ในวิหารและโบสถ์จมลงไปด้วย

    ด้านนางทุเรียน สุขคำผิว อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 4 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีอยู่จริง

    โดยช่วงตนอายุประมาณ 20 กว่าปี ได้มีคนแห่ดำลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา พบพระพุทธรูปจมนอนคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ จากนั้นได้มาบอกชาวบ้านและดำลงไปใช้เชือกผู้กับเศียรพระชาวบ้านหลายสิบคนช่วยกันดึงจนเชือกขาดแต่ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ จนมาถึงวันนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับตนและประชาชนในละแวกนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าตำนานที่เล่าขานกันมาจากปู่ย่าตายายเป็นความจริง.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. ~:*พนมวัน*:~

    ~:*พนมวัน*:~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +1,214
    ลิงหนาว สัตว์ต่างๆ หนาว ลำบากนะคะ สัตว์ไม่มีเครื่องกันหนาวอย่างคน มีแค่ขนบางๆ


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ลิงพนาหนาว! ยอมอด ไม่ออกขออาหาร นักท่องเที่ยว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>17 มกราคม 2554 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=right>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=bottom background=/images/linedot_hori.gif align=center>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=center>[​IMG]</TD><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=center>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=center>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=center>หลังจากในจังหวัดอำนาจเจริญ มีอากาศหนาวอุณหภูมิเฉลี่ย 13-14 องศาฯติดต่อกันมาหลายวัน ส่งผลให้กลุ่มลิงแสม ที่อาศัยอยู่ในอุทยานดงลิง ดอนเจ้าปู่ อ.พนา จ.อำนาจเจริญกว่า 5,000 ตัว ต้องนั่งตากแดด บางตัวนั่งกอดลูกเพื่อคลายความหนาว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>อุบลราชธานี - สภาพอากาศที่หนาวเย็นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้ฝูงลิงแสมกว่า 5,000 ตัว ที่อาศัยอยู่ในอุทยานดงลิงดอนเจ้าปู่ อ.พนา อำนาจเจริญ หลบลมหนาวอยู่ในป่าลึก

    ไม่ออกมาเร่ร่อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว ตามถนนหน้าอุทยานเหมือนปกติ ด้านพ่อค้าแม่ค้าอาหารลิงวอน กฟภ.นำมิเตอร์ลูกใหม่มาติดตั้งแทนลูกเก่าที่ชำรุด เพราะไฟรั่วดูดลิงตายไปหลายตัวแล้ว

    ที่อุทยานดงลิงดอนเจ้าปู่ อ.พนา จ.อำนาจเจริญ หลังในจังหวัดมีอากาศหนาวอุณหภูมิเฉลี่ย 13-14 องศาเซลเซียส ติดต่อกันมาหลายวัน

    ส่งผล ให้กลุ่มลิงแสมที่อาศัยอยู่ในอุทยานกว่า 5,000 ตัว หนีภัยหนาวหลบเข้าไปอยู่ในป่า ไม่ออกมาเร่ร่อนขออาหารตามริมถนนจากนักท่องเที่ยวเหมือนปกติ

    ผู้จำหน่ายอาหารลิงหน้าอุทยานลิงดอนเจ้าปู่กล่าวว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสภาพอากาศหนาวเย็นมาก ฝูงลิงแสมจำนวนมากไม่ยอมออกมาปรากฏตัวตามท้องถนน

    โดยจะพักอาศัยอยู่ตามต้นไม้ในป่าลึกในอุทยาน เพราะให้ความอบอุ่นแก่ลิงได้มากกว่าในที่โล่ง

    แต่ก็ยังมีลิงกลุ่มเล็กๆจำนวนไม่กี่สิบตัว ซึ่งทนหิวไม่ไหวพากันออกมารอรับอาหารจากนักท่องเที่ยว โดยลิงกลุ่มนี้ใช้วิธีเกาะกลุ่มนั่งหันหลังพิงกัน เพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย

    แต่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวผ่านมาในช่วงนี้ เพราะอากาศช่วงเช้าและเย็นอากาศค่อนข้างเย็นมาก ทำให้ลิงส่วนใหญ่ต้องอดอาหารกลับสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าทุกปีที่ผ่านมา

    ขณะเดียวกันพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารลิงยังได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว กรณีมิเตอร์จ่ายไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่บนเสาไฟหน้าอุทยานดงลิงดอนเจ้าปู่ ซึ่งชำรุดเสียหายมานานกว่า 3 เดือน

    แม้แจ้งเรื่องให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคประจำอำเภอพนา ซึ่งเป็นเจ้าของมิเตอร์มาดูแล้ว ก็ยังไม่นำมิเตอร์ลูกใหม่มาติดตั้งให้ ทำให้ไฟฟ้ารั่วดูดลิงที่ขึ้นไปปีนป่ายเสียชีวิตไปหลายตัวแล้ว

    พร้อมทั้งเกรงว่า ถ้านักท่องเที่ยวที่มาให้อาหารไม่ระวัง เมื่อร่างกายไปสัมผัสกับมิเตอร์ที่ชำรุด อาจทำให้ถูกไฟฟ้าดูดได้ จึงขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอพนารีบนำมิเตอร์ลูกใหม่มาติดตั้งให้ด้วย เพื่อความปลอดภัยทั้งลิงและนักท่องเที่ยว


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=10 vAlign=top align=right>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ลิงโกสัมพีทนไม่ไหวนั่งตากแดดคลายหนาว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>17 มกราคม 2554 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=center>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดในวันนี้ (17 ม.ค.) ทำให้ลิงที่อาศัยอยู่ภายในบริเวณวนอุทยานโกสัมพี อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ต่างพากันมานั่งตากแดดเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> มหาสารคาม - จากสภาพอากาศที่หนาวจัด ลิงที่อาศัยอยู่บริเวณวนอุทยานโกสัมพี อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ต่างพากันมานั่งตากแดด เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น หลังจากที่อุณหภูมิลดลงอยู่ที่ 12 องศาเซลเซียส

    ที่วนอุทยานโกสัมพี อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ลิงที่อาศัยอยู่ภายในบริเวณวนอุทยาน ต่างพากันมานั่งตากแดด เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น บางตัวก็นั่งกอดลูก เพื่อคลายความหนาว

    จากสภาพอากาศที่หนาวเย็น โดยอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 12 องศาเซลเซียส และในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีลมพัดแรงตลอดทั้งวัน

    จากสภาพภัยหนาวส่งผลให้อาหารตามธรรมชาติขาดแคลน เพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง อาหารตามธรรมชาติเริ่มหมดไป และเมื่อก่อนหน้านี้ที่บริเวณวนอุทยานฯ ก็ถูกน้ำท่วม

    ทำให้ไม่มีแหล่งอาหารตามธรรมชาติให้ลิงหาอาหาร ต้องออกหาอาหารริมถนน และจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเท่านั้น ซึ่งจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่องยังส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวลดน้อยลง


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    เปิดไม่ได้เค้าให้แต่สมาชิกน่ะ ต้องสมัครก่อน?
     
  17. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    ดีใจจังทียังไม่ทิ้งกระทู้หน้านี้ไป
     
  18. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    17 ม.ค. 54


    ที่มา.....ผาแบ่น

    23 ธ.ค. 46----สองเทวดาโดดร่ม
    ทางเทวโลกได้เริ่มลงมาเก็บกวาดสิ่งสกปรกบนโลก

    20 ส.ค. 47----พบสองกษัตริย์ 011
    จะได้พบกษัตริย์สองพระองค์ (รหัส 11 คือภัยพิบัติ)

    1 ม.ค. 50----พบกษัตริย์ พระองค์แรก
    มีพระนามว่ากมลา 1001 ในนิมิตที่บ้านที่กรุงเทพฯ

    13 ก.พ. 50----พบกษัตริย์พระองค์ที่สอง
    วัดบนภูเขาในอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
    มีพระนามว่าพ่อนาคะราชา ทางนิมิต ทางหู
    ต่อมาได้ทราบว่าพระองค์ท่านเป็นพระอนุชา
    ของพ่อนารายณ์(ภาพยนต์ ตรีมูรติ)

    ตัวผมเองขึ้นอยู่กับหน่วยเหนือสายปราบปราม จึงอาสา
    มาตั้งฐานผาแบ่น เพื่อรองรับผู้มีบุญที่จะมาอาศัยอยู่





    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    [​IMG]

    คำทำนายค่อนข้างรุนแรงเกินความจริงไปมาก ผมจึงไม่ได้นำมาลงในกระทู้นี้ครับ แต่ก็ใช้เป็นแนวทางให้พอรู้ว่าเดือนไหนจะเกิดเหตุร้ายด้านไหนบ้าง จะได้ระวังตัวได้ถูกต้อง เพราะประเทศไทยยังมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องอยู่มาก จึงไม่เกิดเหตุร้ายมากเหมือนอย่างที่ทำนายกัน เมื่ออ่านคำทำนายแล้วต้องหารสองหรือหารสามครับ จึงจะได้เหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง

    หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เค้าจะบริการให้อ่านข่าวย้อนหลังได้ 1 ปี เฉพาะผู้ที่สมัครเป็นสมาชิก ข่าวเรื่องไหนที่ลงไว้เกิน 15 วันไปแล้ว ก็จะมีแต่สมาชิกของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่เข้าไปอ่านได้ครับ
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** สิ่งที่เราเคยกล่าวไว้ ****

    กำลังใกล้เข้ามา
    เพราะ บ้านเมืองขาดสัจจะ
    คนในประเทศ ขาดสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...