ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สธ.เตือน"โรคฉี่หนู"ป่วยแล้วกว่าพันราย

    [​IMG]
    นพ.ไพจิตร์ วราชิต

    ขณะที่ยอดคนตาย 14 ศพ ภาคอีสานครองแชมป์ป่วยสูงสุด ส่วนภาคใต้มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ในชุมชนแออัด มีหนูชุกชุม ระบุ เพศชายมีโอกาสป่วยมากกว่าเพศหญิง 4 เท่า...

    นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าววันนี้ (27 มิ.ยง) ว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลการระบาดของโรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) หรือ โรคไข้ฉี่หนู ที่โดยปกติจะพบได้ตลอดปีแต่จะพบมากในช่วงก.ค.-ก.ย.ของทุกปีซึ่งเป็นฤดูกาล ทำนา มีฝนตก น้ำขังเฉอะแฉะ โรคนี้มีสาเหตุมาจากหนูโดยเชื้อโรคซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียจะอยู่ในฉี่ของหนู และปนเปื้อนอยู่ตามแหล่งน้ำขังชื้นแฉะทั่วไป ในปี 2553 ตั้งแต่เดือนม.ค.-มิ.ย.สำนักระบาดวิทยารายงานผู้ป่วยโรคฉี่หนูทั่วประเทศ 1,209 ราย เสียชีวิต 14ราย โดยพบผู้ป่วยมากที่สุดในภาคอีสานประมาณ 69%

    ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า จังหวัดที่พบมากที่สุดได้แก่ บุรีรัมย์ 168 ราย รองลงมาคือศรีสะเกษ 154 ราย และสุรินทร์ 124 ราย ส่วนภาคใต้มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ในชุมชนแออัด มีหนูชุกชุม โดยพบผู้ป่วยในเพศชายมากกว่าหญิง 4 เท่า แม้ในปีนี้หลายพื้นที่จะประสบปัญหาภัยแล้ง โรคอาจลดน้อยลงบ้าง แต่ในพื้นที่ที่เคยมีรายงานการระบาดซ้ำในรอบ 10ปีที่ผ่านมาและมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆเช่น มีหนูชุกชุม มีน้ำท่วมขังหรืออยู่ในที่แออัด จะต้องระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการย่ำน้ำหรือการแช่น้ำนานๆ

    นพ.ไพจิตร์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอสม.ทั่วประเทศเฝ้าระวังโรคฉี่หนูอย่าง ใกล้ชิดหากมีรายงานผู้ป่วยที่สงสัยจะป่วยด้วยโรคฉี่หนูให้ส่งทีมเคลื่อนที่ เร็วลงไปสอบสวนเพื่อควบคุมโรคอย่างทันท่วงที เพื่อลดการเสียชีวิต

    ด้าน นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อโรคฉี่หนูเข้าสู่ร่างกายได้ 2 ทาง คือกินอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป และเชื้อไชเข้าทางรอยแผล รอยขีดข่วน หรือผ่านผิวหนังปกติที่แช่น้ำนานๆ ซึ่งผิวจะอ่อนนุ่ม เชื้อชนิดนี้มีชีวิตอยู่ในน้ำได้หลายเดือน โดยทั่วไปมักติดเชื้อขณะเดินย่ำดินโคลน เดินลุยน้ำท่วม หลังติดเชื้อประมาณ4-11 วัน จะเริ่มมีอาการ โดยจะมีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะปวดตามกล้ามเนื้อมาก ปวดน่อง หากมีอาการให้รีบพบแพทย์ทันทีและแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้ทราบด้วย เนื่องจากโรคนี้มียารักษาหายขาดหากไม่รีบรักษาและปล่อยไว้นานจนอาการมากขึ้น เช่น ไอเป็นเลือด ตัวเหลืองอาจเสียชีวิตจากไตวาย ตับวายได้

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2553

    มึน!วัวตายปริศนา เดือนเดียวกว่า 10 ตัว

    [​IMG]

    ชาวบ้านสตูลสุดมึน เดือนเดียววัวเลี้ยงไว้ตายโดยไม่รู้สาเหตุ 11 ตัว แล้วมีพ่อค้ามาขอซื้อถึงบ้านราคา 700-2,00 บาท เชื่อถูกลอบวางยาพิษ...

    เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์วัวของชาวบ้านตายโดยไม่ทราบสาเหตุต่อเนื่องกันหลายตัว ในพื้นที่ ม.7 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล พบวัวเพศเมีย อายุประมาณ 5 ปี สภาพเพิ่งตาย ร่างกาย อ้วนท้วนสมบูรณ์ ไม่มีบาดแผลและร่องรอยผิดปกติ เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าของนำวัวตัวดังกล่าวไปเลี้ยงในทุ่งหญ้า ม.1 บ้านควนดินแดง ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล จากนั้น ท้องเกิดบวมอืดและตายลง โดยมีลิ้นและเลือดออกมาจากปาก

    ด้านนายอี อาดำ อายุ 71 ปี เจ้าของวัวตัวดังกล่าว อยู่บ้านเลขที่ 431 ม.7 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ให้ข้อมูลว่าตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีวัวตายเฉียบพลันลักษณะคล้ายถูกวางยาเบื่อหรือยาพิษมากว่า 10 ตัวแล้ว

    นายหมาน อาดำ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 900 ม.7 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล กล่าวว่า วัวที่ตายเป็นวัวในโครงการเอสเอ็มแอล โดยกลุ่มของตนได้วัวมาทั้งหมด 56 ตัว ตามโครงการเลี้ยงวัวพื้นเมืองคลองขุดเหนือ ซึ่งใน ปี 2552 ได้มา 26 ตัวและปี 2553 ได้มา 30 ตัว แต่ตายไปแล้ว 5 ตัว นอกจากนั้น ยังมีวัวของชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 และม.7 ต.คลองขุด ตายแล้วรวม 11 ตัว ซึ่งมีลักษณะเดียวกันคือ ตายแบบเฉียบพลันและไม่มีร่องรอยหรือบาดแผล
    นายหมาน กล่าวต่อว่า วัวที่เลี้ยงเป็นวัวแข็งแรงและช่วงนี้ไม่มีโรค ก่อนหน้านี้ เชื่อว่าวัวถูกยาเบื่อหรือยาพิษจึงให้กินน้ำมะพร้าวปรากฏว่าวัวสำรอกออกมาเป็นเปลือกกล้วยและตายลง

    ส่วนนายเหม กาสา ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล กล่าวว่า ชาวบ้านใน ต.คลองขุดนำวัวมาเลี้ยงในทุ่งหญ้านานแล้ว และไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งกัน ส่วนใหญ่เป็นผู้เลี้ยงวัวเหมือนกัน แต่ในช่วง 1 เดือน ที่ผ่านมา มีวัวตายไปกว่า 10 ตัวแล้ว จึงเป็นเรื่องผิดสังเกต และตลอดเวลาที่วัวตายจะมีกลุ่มผู้รับซื้อซากวัวมาขอซื้อซากวัวจากชาวบ้านตัวละ 700-2,000 บาท ซึ่งชาวบ้านเห็นว่า ดีกว่าต้องขุดหลุมฝัง เนื่องจากวัวที่ถูกวางยาส่วนใหญ่เป็นวัวของชาวมุสลิม ซึ่งไม่รับประทานวัวหรือสัตว์ที่ตายเอง โดยให้ผู้เสียหายไปแจ้งความ ไว้ที่ สภ.เมืองสตูลแล้ว

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2553

    หนุ่มอ่างทองหัวใส สร้างรถจักรยานไฟฟ้าขนผัก

    [​IMG]

    ชูแนวคิดไม่ต้องใช้น้ำมัน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เดือนละหลายพันบาท ออกแบบและประกอบเองใช้ต้นทุน 4 พันบาท ชาร์จไฟ 1 ครั้งเสียค่าไฟ 1-2 บาท แต่วิ่งได้ 40 กิโลเมตร...

    ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งวันนี้ (27 มิ.ย.) ว่า มีพ่อค้าผักสมองใสในตลาดเกษตรสุวพันธุ์เมืองทอง ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่มีความคิดสร้างสรรค์โดยการออกแบบและประดิษฐ์รถจักรยานไฟฟ้าจากเศษเหล็ก ที่ไร้ค่า ไว้ขนผักส่งให้ลูกค้า โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เดือนละหลายพันบาท หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบชายคนหนึ่กำลังขับขี่จักรยานสองล้อที่มีรูปร่างคล้ายรถจักรยานยนต์ วิ่งขนผักไปส่งตามร้านค้าในตลาด และตามรถของลูกค้าที่มาซื้อบริเวณลานจอดรถ ทั้งนี้รถจักรยานที่ใช้มีรูปร่างแปลกสะดุดตาของผู้ที่พบเห็น หลังจากส่งผักเสร็จจึงเข้าไปสอบถาม ทราบชื่อนายเมธี เพชรพ่วง อายุ 26 ปี เป็นชาว อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

    เจ้าของจักรยานไฟฟ้าที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง กล่าวว่า ส่วนตนมีอาชีพค้าขายผักสดอยู่ในตลาดเกษตรสุวพันธุ์ฯ และมีความจำเป็นต้องใช้รถจักรยานยนต์ สำหรับใช้ขนผักส่งให้ลูกค้าทั้งในตลาด และลูกค้าที่ขับรถมาซื้อไปขายตามหมู่บ้าน ต้องเสียเงินเป็นค่าน้ำมันเติมรถจักรยานยนต์วันละร่วม 100 บาท และในขณะนี้ น้ำมันมีราคาแพงขึ้นมาก จึงเกิดความคิดที่จะลดต้นทุนในการขนส่ง และเมื่อคิดที่จะซื้อรถจักรยานไฟฟ้ามาใช้ เมื่อไปดูที่โชว์รูมแต่ไม่ถูกใจ เพราะรถไฟฟ้าที่มีวางขาย ไม่เหมาะสมที่จะใช้ขนส่งสินค้าของตนได้

    นายเมธี กล่าวต่อว่า เมื่อคำนึงถึงการใช้งานในกิจการของตน จึงมีความคิดที่จะสร้างรูปแบบขึ้นมาเอง เพื่อให้ตรงกับการใช้งาน ประกอบกับพอมีความรู้เรื่องมอเตอร์ไฟฟ้าบ้าง จึงได้ไปหาซื้อเศษเหล็กที่ร้านขายของเก่า และนำมาประกอบโครงสร้างเป็นรถจักรยานในรูปแบบที่เราต้องการสำหรับการใช้ขนส่งผักให้ได้มาก จากนั้นจึงได้ไปหาซื้ออุปกรณ์มอเตอร์ และแผงควบคุมวงจรไฟฟ้า ที่ร้านขายอุปกรณ์ที่แถวตลาดบ้านหม้อในกรุงเทพ จากนั้นจึงนำมาติดตั้งประกอบเป็นจักรยานไฟฟ้าตามแบบที่คิดไว้หมดเงินไป ประมาณ 3-4 พันบาท

    เจ้าของจักรยานไฟฟ้าที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง กล่าวด้วยว่า เมื่อทดลองใช้งานดูปรากฎว่า รถมีกำลังขับเคลื่อนและวิ่งได้อย่างมั่นคง สามารถนำมาใช้งานได้เป็นอย่างดี และเมื่อแบตเตอรีหมดกระแสไฟ ก็จะนำมาชาร์ทใหม่ สำหรับการชาร์ทแบตเตอรีครั้งหนึ่งครั้ง จะเสียค่าไฟฟ้าประมาณ 1-2 บาท แต่สามารถวิ่งใช้งานได้ถึง 40 กิโลเมตรทีเดียวสำหรับรถจักรยานไฟฟ้าแบบของผมนั้น นอกจากประหยัดเงินค่าใช้จ่าย แล้วยังไม่ต้องใช้น้ำมันให้เสียดุลการค้า และที่สำคัญยังไม่มีมลพิษมาทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย หากใครสนใจที่คิดจะสร้างขึ้นมาใช้บ้าง ตนก็ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเหลือ

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
    <SMALL></SMALL>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2010
  2. tianhui

    tianhui Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +59
    ตอนนี้ที่บ้านฉางฝนตกหนักมากและลมก็แรง

    pity_pigอยากบอกเพราะเข้ามาเวปพลังจิตแล้วอุ่นใจดี;k06
     
  3. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    เรียนพี่เกษม Matthew Ward ต้องรูปล่างนี้ค่ะ
    เขาเสียชีวิตเมื่ออายุ 17 ปี ถ้ายังอยู่ตอนนี้ก็ 47 ปี ส่วนรูปลุงคนนั้น
    เขาชื่อและนามสกุลเหมือนกัน เคย search เจอเหมือนกัน

    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ต้องขอขอบคุณมากครับที่ช่วยแจ้งให้ทราบ เพราะตอนที่เข้าไปค้นหารูปภาพในกูเกิ้ล ก็สงสัยอยู่เหมือนกัน คิดว่าเป็นรูปตอนเด็ก เลยไม่ได้นำมาโพสต์ เดี๋ยวผมจะแก้ไขให้ถูกต้องนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2010
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table style="border-collapse: collapse;" align="center" border="0" bordercolor="#669933" cellpadding="3" cellspacing="0" width="600"><tbody><tr bgcolor="#669933"><td width="130" nowrap="nowrap">วัน-เวลา</td> <td width="40" nowrap="nowrap">ขนาด</td> <td width="50" nowrap="nowrap">lat</td> <td width="50" nowrap="nowrap">long</td> <td width="120" nowrap="nowrap">บริเวณที่ เกิด</td> <td nowrap="nowrap">ข้อมูลอื่นๆ</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td valign="top">2553-06-27 23:39:45</td> <td valign="top">2.7</td> <td valign="top">19.85</td> <td valign="top">98.45</td> <td valign="top">ประเทศพม่า</td> <td valign="top"> - ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 35 กม.</td> </tr> <tr bgcolor="#ccffcc"> <td valign="top">2553-06-27 18:19:29</td> <td valign="top">2.7</td> <td valign="top">14.64</td> <td valign="top">99.22</td> <td valign="top">บ้านนาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี</td> <td valign="top"> - รู้สึกสั่นไหวบริเวณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี</td></tr></tbody></table>
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    บางส่วนของบทความ โลกหลังปี 2012 สู่มิติที่ 5
    โดยคุณ ~WaSaBi~:

    [​IMG]


    เนื่องจากนี่เป็นเพียงข้อสมมติฐานของนักเขียนบางคนเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามนะ อันว่าสิ่งที่ชาวมายาทิ้งไว้นั้นเป็นเรื่องท้าทายวงการวิทยาศาสตร์อย่างหนัก เราจำเป็นต้องวางแนวคิดยึดติดวัตถุในรูปแบบเดิมเอาไว้เสียก่อน แล้วลองมามองจักรวาลอย่างที่ชาวมายาเขามองกัน ยกตัวอย่างปฏิทินของชาวมายากันสักเล็กน้อย เช่นเดียวกับพวกเราครับ ชาวมายาวัดขนาดของเวลาจากเล็กไปสู่ใหญ่ จากวินาทีเป็นนาที ชั่วโมง วัน เดือน ฯลฯ อารยธรรมตะวันตกวัดเวลาตามปฏิทินเกรเกอเรียนซึ่งกินเวลา 365 วัน/ปี อันเป็นคาบเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ถัดจากปีเราก็มายืนอยู่บนเลขฐาน 10 นั่นคือ 10 ปีต่อ 1 ทศวรรษ, 10 ทศวรรษต่อ 1 ศตวรรษ, 10 ศตวรรษต่อ 1 สหัสวรรษ บลา บลา บลา...

    แต่ปฏิทินของชาวมายานั้นแตกต่างออกไปเพราะตั้งอยู่บนค่าของเลข 20 เป็นหลัก 1 คินจะแทนค่าแทน 1 วัน นับตามแบบของเราคือโลกหมุนรอบตัวเองครบ 1 รอบ อุยนัลแทนค่า 1 เดือนประกอบด้วย 20 คิน ส่วนปีของมายาแทนด้วนทันอันประกอบด้วย 18 อุยนัลหรือ 360 คิน(ใกล้เคียงกับ 365 วันของพวกเรามากทีเดียว) 1 คาทันของชาวมายาเทียบได้กับทศวรรษของพวกเราเพียงแต่ยาวกว่า 2 เท่า เพราะระบบเลขของพวกเขาคือฐาน 20

    ดังนั้น 1 คาทันจะมีความยาวประมาณ 19.5 ปี สำหรับ 1 แบ็กทันจะยาว 20 คาทันหรือประมาณ 394.5 ปี จุดเริ่มการสร้างสรรค์ของชาวมายาตามบันทึกของพวกเขาซึ่งบันทึกเวลาได้เที่ยงตรงมากนั้นจะอยู่ประมาณ 3116 ปีก่อน ค.ศ. วงจรนี้จะกินเวลา 13 แบ็กทันของพวกเขาหรือ 5129 ปีของพวกเรา แบ็กทันที่เก้าสิ้นสุดลงราวปี ค.ศ. 830

    ดังนั้นจุดสิ้นสุดของแบ็กทันที่ 13 จึงน่าจะอยู่ที่ ค.ศ. 2012 โดยประมาณ ทีนี้ก็มาถึงประเด็นสำคัญล่ะว่า หนึ่งวงจรของชาวมายานั้นมีความสำคัญอย่างไร
    และนี่คือปฏิทินเทียบระหว่างปฏิทินของเรากับวงจรของชาวมายา รอบแบ็กทัน ปฏิทินมายา ปฏิทินเกรเกอเรียน เหตุการณ์สำคัญ

    1 1.0.0.0.0 3116-2734 BC จุดเริ่มต้น
    2 2.0.0.0.0 2734-2339 BC ยุคปิระมิด
    3 3.0.0.0.0 2339-1944 BC ยุคล้อ
    4 4.0.0.0.0 1944-1550 BC อารยธรรมอียิปต์
    5 5.0.0.0.0 1550-1155 BC อารยธรรมบ้านเชียง
    6 6.0.0.0.0 1155 - 761 BC สงครามม้า
    7 7.0.0.0.0 761-366 BC ยุคปรัชญา
    8 8.0.0.0.0 366 BC - ค.ศ. 28 ยุคเมสไซอาห์
    9 9.0.0.0.0 ค.ศ. 28-422 อาณาจักรโรมัน
    10 10.0.0.0.0 ค.ศ. 422-817 มายา
    11 11.0.0.0.0 ค.ศ. 817-1211 สงครามครูเสด
    12 12.0.0.0.0 ค.ศ. 1211-1606 ยุคล่าอาณานิคม
    13 13.0.0.0.0 ค.ศ. 1606-2012~ ยุคอุตสาหกรรมใหม่

    หลังจากปี 2012 มีสี่ประการที่จะเกิดขึ้นคือ..

    1. มนุษยชาติจะก้าวล่วงเทคโนโลยีที่เราใช้และรู้จักในขณะนี้ แทบทั้งหมด
    2. มนุษยชาติจะก้าวล่วงรูปแบบของเวลาและเงินในรูปที่ใช้กัน ในขณะนี้
    3. เราจะผ่านเข้าสู่มิติที่ห้าอันเป็นมิติจิตวิญญาณ - จากมิติที่สี่ - วิกฤติที่เจ็บปวด
    4. ระนาบของระบบสุริยะจะอยู่ในระนาบเดียวกับระนาบของ กาแล็กซี

    ปฏิทินมายาบอกด้วยว่า ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 1987 กระทั่งถึงช่วงปี 2012 เป็นช่วงเวลาระหว่างกลางของมิติที่ 4 สู่มิติที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงอันตราย เพราะเป็นช่วงที่จะมีความล่มสลายในทางธรรมชาติ และจิตวิญญาณของชาวโลกส่วนใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการเปลี่ยน แปลงทางจิตวิญญาณของคนอีกส่วนหนึ่ง (apocalypse แปลว่าการเปิดเผยที่ หมายถึงวิวัฒนาการทางจิตอีกด้วย)

    น่าแปลกที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของ เวลาจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของความถี่ของกระแสแม่เหล็กโลก ที่สะท้อนออกมาตามการหมุนรอบตัวเองของโลก (Schumann Resonance ที่เคยคงที่ที่ความถี่ 7.8 เฮิรตซ์ หรือรอบต่อวินาทีทุกวันนี้ได้สูงขึ้นเป็น 11.8 รอบต่อวินาที)

    โดยปฏิทินของชาวมายา มิติที่ 5 หรือหลังปี 2012 คือช่วงเวลาที่มนุษยชาติส่วนหนึ่ง จะมีวิวัฒนาการสู่แสงใสกระจ่าง (แปลกอีกที่ใช้คำว่า clear light เช่นเดียวกับในคัมภีร์พีระมิดของอียิปต์ และคัมภีร์มรณศาสตร์ของทิเบต ที่มีความหมายสู่จิตวิญญาณบริสุทธิ์)

    ที่มา http://atcloud.com/stories/41954

    ลำดับชั้นของมิติในจักรวาลคืออะไร?

    [​IMG]

    เราคือ Guetzal (มนุษย์ต่างดาว) จะขอร่วมการสนทนาด้วย เพราะคุณได้เตรียมคำถามบางคำถามไว้แล้ว และเราจะขอเป็นผู้ตอบคำถามเหล่านั้นให้ท่านเอง<O></O>

    ถาม: ลำดับชั้นของมิติในจักรวาลคืออะไร มันมีอยู่กี่มิติ และในจำนวนนั้นมีมิติไหนบ้างที่มีผู้มายังดาวเคราะห์โลกแล้วในปัจจุบันนี้?<O></O>

    ตอบ: <O></O>สำหรับคำถามที่สองของท่าน เราขอบอกว่าในจักรวาลนี้มีมิติอยู่หลายมิติ ดังนั้นมันจึงถูกใช้เป็นพื้นฐานในการจัดระบบตามลำดับขั้นของการพัฒนาของสิ่งมีชีวิต ภายใต้กฎอันทรงประสิทธิผลของจักรวาล มิติต่างๆเหล่านี้ประกอบด้วย;
    <O></O>
    1. มิติที่ 1 ซึ่งเป็นมิติที่ต่ำที่สุด จะพบอยู่ในส่วนที่มืดมิดของจักรวาล และที่นั่นสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย จะเป็นพวกที่มีพัฒนาการที่ต่ำมาก นั่นคือ เป็นสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด ซึ่งท่านรู้จักมันในนามของ “หลุมดำ” หลุมดำเหล่านี้เป็นทางผ่านเข้าออกของพวกสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้าย (Negative Being) เพื่อไปก่อความเดือดร้อนให้แก่มิติอื่นๆในบางครั้งคราว<O></O>
    <O></O>
    2. มิติที่ 2 ก็เป็นมิติมืดเช่นเดียวกัน ที่นั่นสิ่งมีชีวิตจะมีพัฒนาการสูงขึ้นมาอีกหน่อย<O></O>
    <O></O>
    3. มิติที่ 3 เป็นมิติของสิ่งมีชีวิตที่มีพัฒนาการสูงขึ้นมาอีก ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่พบในมิตินี้ก็ได้แก่พวกท่านเอง มนุษย์บนดาวเคราะห์โลกทั้งหลาย<O></O>
    <O></O>
    4. มิติที่ 4 เป็นมิติของสิ่งมีชีวิตชั้นสูง พวกเขามีร่างกายเนื้อ แต่พวกเขาก็เป็น “ประชาชนของจักรวาล” (Cosmic People) พวกคุณจะรู้จักพวกเขาในรูปแบบของ UFO ผู้คนบนโลกนี้ส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นพวกเขาได้เมื่อพวกเขาเดินทางลงมายังมิติที่ต่ำกว่า เพื่อมาช่วยยกระดับของสิ่งมีชีวิตในมิตินั้นๆให้สูงขึ้นจากระดับที่เป็นอยู่เดิม พวกเขามาช่วยเหลือด้วยความรัก และความเสียสละ<O></O>
    <O></O>
    5. มิติที่ 5 จะเป็นพวกที่มีร่างกายกึ่งกายเนื้อ กึ่งกายละเอียด ร่างกายของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้บางส่วน จะเปล่งแสงสว่างออกมาได้ พวกเขาก็เป็นอีกพวกหนึ่งที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือด้านจิตวิญญาณ แก่สิ่งมีชีวิตที่มีระดับพัฒนาการที่ต่ำกว่าด้วย ดังเช่น ที่ท่านเห็นที่นี่<O></O>
    <O></O>
    6. มิติที่ 6 เป็นที่ที่อาศัยอยู่ของรูปธรรมชีวิตที่เป็นจิตวิญญาณล้วนๆ ปราศจากร่างกายเนื้อ แต่มีกายทิพย์แทน ระดับความสั่นสะเทือนของกายทิพย์ของพวกเขาสูงจนกระทั่งแม้แต่อะตอมยังไม่สามารถจะอยู่ได้ ดังนั้นพลังงานแสงสว่างจึงต้องเข้ามาทำหน้าที่แทนอะตอม<O></O>

    รูปธรรมชีวิตเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วง เพราะธรรมชาติของพวกเขาปราศจากวัตถุธาตุ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเนรมิตกายเนื้อขึ้นมาเองในรูปแบบใดก็ได้ตามใจปรารถนา เพื่อลงมาให้ความช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยูในมิติที่ต่ำกว่า และเพื่อให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นสามารถสัมผัสกับพวกเขาได้<O></O>
    <O></O>
    7. มิติที่ 7 เป็นมิติที่รูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง (Being of Light) อาศัยอยู่
    พวกเขามีลักษณะคล้ายลูกบอลที่เปล่งแสงสว่าง พวกเขาดูดซับความรู้และข้อมูลข่าวสารต่างๆในจักรวาลข้างเคียง และพวกเขาก็ให้ความช่วยเหลือกับสิ่งมีชีวิตที่มีระดับพัฒนาการต่ำกว่าด้วยเช่นกัน<O></O>
    <O></O>
    เราจะขอไม่กล่าวถึงมิติอื่นๆที่เหลืออีกในตอนนี้ เพราะแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับวัตถุประสงค์ของการฝึกฝนทั้งหมด พวกเราจะสามารถสัมผัสรูปธรรมชีวิตได้ แค่ใน 7 มิติแรกนี้เท่านั้น<O></O>

    (ผู้รับข้อมูล: Ivo Benda, วันที่ 11 ตุลาคม 1997 เวลา 6:50 – 8:07 p.m)<O></O>

    ที่มา http://palungjit.org/threads/การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก-เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก-ของมิตรจากต่างพิภพ-และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/
    <O>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1_original.jpg
      1_original.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.6 KB
      เปิดดู:
      1,402
    • obr1031.jpg
      obr1031.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.3 KB
      เปิดดู:
      1,520
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2010
  7. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    <table id="post3471848" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);">[​IMG] เมื่อวานนี้, 03:34 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->crimsonn<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3471848", true); </script>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Mar 2010
    ข้อความ: 106
    Groans: 0
    Groaned at 5 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 8
    ได้รับอนุโมทนา 277 ครั้ง ใน 77 โพส
    พลังการให้คะแนน: 28 [​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_3471848" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->V : ผู้มาเยือน (2009) Season 1 [ซับไทย]<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->V : ผู้มาเยือน (2009) Season 1 [ซับไทย]




    <img onclick="if(this.width>=700) window.open('http://cdn.picapp.com/ftp/Images/a/3/d/b/Summer_TCA_Tour_7d66.jpg');" src="http://cdn.picapp.com/ftp/Images/a/3/d/b/Summer_TCA_Tour_7d66.jpg" onload="if(this.offsetWidth>'700')this.width='700';if(this.offsetHeight>'700')this.height='700';" border="0">


    เรื่องย่อ
    ทั่วทั้งโลกต่างต้องตื่นตกใจ กับการมาถึงของยานอวกาศยักษ์ 29 ลำ ที่มาจอดลอยอยู่เหนือเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกในตอนรุ่งเช้าของวันธรรมดาๆ วันหนึ่ง หลังจากการประกาศว่าเป็นการอย่างสันติ พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอเพื่อ แลกเปลี่ยนแร่ธาตุและน้ำ กับการมอบความรู้ด้านเทคโนโลยีอันก้าวหน้า และการรักษาโรคให้มนุษย์ชาว โลกส่วนใหญ่จึงเห็นดีเห็นงามกับการมาของ "ผู้มาเยือน" เหล่านี้ แต่ระหว่างนั้นมีเพียงกลุ่มคนเล็กๆ นำโดยเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง "เอริก้า เอวาน" ที่ยังคงสงสัยในจัดประสงค์ของพวกมัน จนได้สืบรู้ว่าข้อเสนอทั้งหลายนั้น เป็นเพียงเรื่องโกหกแต่พวกเขาจะทำให้คนทั้งโลกเชื่อและร่วมกันต่อต้านเหล ่า "ผู้มาเยือน" ได้อย่างไร...

    V : ผู้มาเยือน (2009) Season 1 [ซับไทย] | USA-Series - ดูหนัง ดูหนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ฟรี ซีรีย์ series การ์ตูน cartoon<!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px 1px; border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("3471848")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-width: 0px 1px 1px 0px; border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> [​IMG] [​IMG] [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    แผ่นดินกาฬทวีปแตกแยก ออกเป็น 2 ส่วน เกิดมหาสมุทรใหม่

    [​IMG]

    ทวีปแอฟริกากำลังเป็นประจักษ์พยานของการอุบัติของมหาสมุทรใหม่ ซึ่งจะแบ่งกาฬทวีปออกเป็น 2 ส่วนในที่สุด อาจจะต้องกินเวลานานประมาณ 10 ล้านปี

    นักธรณีวิทยาของราชสมาคมอังกฤษ ได้กล่าวเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "เหลือเชื่ออย่างแท้จริง" หลัง จากที่ได้เดินทางไปสำรวจที่บริเวณอฟาร์ ของเอธิโอเปีย อันห่างไกลมา 5 ปีแล้ว พวกเขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่ง ซึ่งทวีปกำลังแยกตัวออก แทบจะเกือบใต้เท้าที่ยืนอยู่นั่นเอง รอยแยกได้ปรากฏยาวไกลถึง 60 กม. และกว้างถึง 8 เมตร ในช่วงระยะเวลา 10 วันเท่านั้น หินร้อนที่อยู่ลึกลงไปในใจกลางของโลก ได้ซึมขึ้นมาถึงพื้นผิวและเป็นตัวก่อให้แผ่นดินแยกออกมากขึ้น ลึกลงไปใต้พื้น การแตกแยกยังคงดำเนินอยู่ และในที่สุดทวีปแอฟริกาจะถูกแบ่งแยกออก และเกิดมหาสมุทรใหม่ขึ้น

    ดร.เจมส์ แฮมมอนด์ นักธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยบริสตัล ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ แจ้งว่าบริเวณที่แผ่นดินแยกนั้นอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล "มันจะแยกออกจากกันในที่สุด และทะเลก็จะไหลเข้ามาท่วมเต็มหมด กลายเป็นมหาสมุทรใหม่" มันจะยิ่งแยกออกห่างออกจากกัน จมลึกลงไป และในที่สุดส่วนของภาคใต้เอธิโอเปียกับโซมาเลียจะแยกออกจากกัน กลายเป็นเกาะใหม่ และจะเห็นทวีปแอฟริกาที่มีขนาดเล็กลง กับเกาะใหญ่มาก ลอยอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    เกิดแผ่นดินไหว 5.6 ริกเตอร์ ที่ชิลี

    [​IMG]

    วอชิงตัน 27 มิ.ย. - ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ ทางเหนือของชิลี เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย

    แผ่นดินไหวครั้งนี้มีศูนย์กลางอยู่ห่างไปทางตะวันออกถึงตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองอาริกา ราว 127 กิโลเมตร ที่ความลึก 80 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตเหมืองทองแดงขนาดใหญ่ของชิลี เจ้าหน้าที่ศูนย์ฉุกเฉินชิลี กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหายจากแผ่นดินไหวปานกลางดังกล่าว

    แผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้งในชิลี ซึ่งแผ่นดินไหวขนาด 8.8 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คนในชิลี .- สำนักข่าวไทย


    พายุอเล็กซ์พัดเข้าฝั่งเบลิซแล้ว อาจทำให้การขจัดคราบน้ำมันบีพีลำบากขึ้น

    ไมอามี 27 มิ.ย.- พายุโซนร้อนอเล็กซ์ ซึ่งเป็นพายุลูกแรกในมหาสมุทรแอตแลนติกประจำฤดูนี้ ขึ้นฝั่งเบลิซในอเมริกากลางแล้ว ค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น สร้างความวิตกว่าอาจทำให้การขจัดคราบน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกเกิดความยุ่งยากมากขึ้น

    ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ คาดว่า พายุคงไม่พัดผ่านบริเวณที่น้ำมันรั่วหากยังเคลื่อนที่ในทิศทางปัจจุบัน แต่อาจทำให้เกิดคลื่นเป็นอุปสรรคต่อการขจัดคราบน้ำมัน ตาพายุซึ่งมีความเร็วลมคงที่ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ห่างจากเมืองเบลิซซิตี้ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพียง 30 กิโลเมตร เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ตามเวลาในไทย

    ศูนย์เฮอร์ริเคนฯ พยากรณ์ว่า พายุอเล็กซ์จะอ่อนกำลังลงขณะเคลื่อนผ่านคาบสมุทรยูกาตัง ของเม็กซิโก ในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น แต่จะทวีกำลังแรงขึ้นขณะเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกในค่ำวันเดียวกัน พร้อมเตือนว่าพายุจะทำให้มีฝนตกหนักทั่วคาบสมุทรยูกาตังตลอดทั้งวัน และอาจทำให้แถบเทือกเขามีปริมาณน้ำฝนสะสมมากถึง 15 นิ้ว เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มได้ ด้านทางการเม็กซิโกประกาศให้คาบสมุทรยูกาตัง อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมแล้ว.-สำนักข่าวไทย
     
  10. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    ระดับน้ำในพื้นที่ประสบอุทกภัยในจีนเริ่มลดลงแล้ว

    ปักกิ่ง 27 มิ.ย. - กระทรวงกิจการพลเรือนจีน รายงานว่า ระดับน้ำท่วมในพื้นที่ประสบอุทกภัยทางภาคใต้ของจีนเริ่มบรรเทาลงแล้วในวันนี้ ขณะที่คนงานซ่อมแซมเขื่อนแตกร้าวใกล้เสร็จสิ้นแล้ว หลังจากทำให้ชาวบ้านต้องอพยพ 100,000 คน

    พายุฝนพัดกระหน่ำทั่วพื้นที่ภาคใต้ของจีน ทำให้ประชาชนกว่า 3 ล้านคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อุทกภัยครั้งนี้ยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงคิดเป็นมูลค่า 53,000 ล้านหยวน (254,000 ล้านบาท) สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานว่า น้ำท่วมเริ่มลดลงถึงระดับที่ประชาชนบางส่วนเดินทางกลับมาตรวจดูสภาพบ้านเรือนที่เสียหายได้ในสุดสัปดาห์นี้ ในแต่ละปีจีนประสบอุทกภัยตามลุ่มแม่น้ำแยงซีและเส้นทางน้ำสายหลักอื่น ๆ แต่ภาวะน้ำท่วมในปีนี้สร้างความเสียหายมากมาย มีผู้เสียชีวิต 235 คน และสูญหายอีก 109 คน .- สำนักข่าวไทย

    ที่มา MCOT - NEWS
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พายุอเล็กซ์อ่าวเม็กซิโกคร่าชีวิต 8 ศพ กระทบเก็บกวาดน้ำมัน

    [​IMG]

    พายุโซนร้อนอเล็กซ์ พัดกระหน่ำนิการารัว และเอลซัลวาดอร์ คร่าประชาชน 8 ชีวิต และกำลังมุ่งหน้าสู่อ่าวเม็กซิโก อาจส่งผลกระทบต่อความพยายามเก็บกวาดคราบน้ำมัน...

    สำนักข่าวต่าง ประเทศรายงานเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ว่า ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ รายงานว่า พายุโซนร้อนอเล็กซ์ ลูกแรกของฤดูเฮอริเคนที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติก พัดกระหน่ำประเทศนิการารัว และเอลซัลวาดอร์ จนทำให้ฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน เคลื่อนตัวไปถึงคาบสมุทรยูกาตังแล้ว และก่อให้เกิดพายุฝนตกหนักบริเวณดังกล่าว

    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ความเร็วลมลดลงเหลือเพียงดีเปรสชัน แต่อาจทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ขณะเคลื่อนตัวผ่านอ่าวเม็กซิโก และทำให้เกิดลมกระโชกแรง อาจส่งผลกระทบต่อความพยายามเก็บกวาดคราบน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกได้

    ขณะนี้พายุดีเปรสชั่นอเล็กซ์ เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกถึงวันตกเฉียงเหนือในเม็กซิโก ด้วยความเร็วลมราว 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อนขณะมุ่งสู่อ่าวเม็กซิโก

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2553

    พายุถล่มสิงห์บุรี อ.เมือง-อินทร์บุรีไฟฟ้าดับทั้งวัน

    [​IMG]

    พายุซัดถล่มพื้นที่ จ.สิงห์บุรี เสาไฟฟ้าริมถนนสายเอเชียหักโค่นร่วม 30 ต้น ทับร้านค้า ร้านอาหารและโชว์รูมขายรถยนต์พังยับ อ.เมือง-อินทร์บุรีไม่มีไฟฟ้าใช้...

    เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2553 เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จ.สิงห์บุรี ออกสำรวจความเสียหายของอุปกรณ์การจ่ายกระแสไฟฟ้าหลังจากเมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี พบว่า บริเวณริมถนนสายเอเชียฝั่งขาล่องพื้นที่ ม.1 ม.3 และ ม.4 ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดความยาว 14 เมตร หักโค่นจำนวน 21 ต้น นอกจากนั้น ยังมีเสาไฟฟ้าปกติหักโค่นอีก 9 ต้น ทำให้เขต อ.เมือง และ อ.อินทร์บุรี ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ รวมทั้งมีร้านค้า ร้านอาหารและโชว์รูมขายรถยนต์ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับจนได้รับความเสียหายจำนวนมาก

    ด้าน นายสุรินทร์ ผลนารักษ์ ผู้จัดการ กฟภ.สิงห์บุรี กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า เสาไฟฟ้าแรงดันสูงขนาดใหญ่ความยาว 14 เมตร หักโค่นทั้งหมด 21 ต้น เสาไฟฟ้าแรงดันต่ำหักโค่น 9 ต้น ทำให้เขต อ.เมืองสิง และ อ.อินทร์บุรี ไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ประกอบการที่ถูกเสาไฟฟ้าหักโค่นได้รับความเสียหาย กฟภ. จะให้การช่วย เหลือ และชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมนำเครื่องปั่นไฟมาให้บริการบรรเทาการเดือดร้อนชั่วคราว เบื้องต้นคาดว่า เวลาประมาณ 17.00 น.วันนี้ ประเมินมูลค่าความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2553

    หวั่น'อหิวาต์-ไข้เลือดออก'ระบาด สธ.สั่งจับตาทั่วประเทศ

    [​IMG]

    กระทรวงสาธารณสุข จับตาอหิวาต์-ไข้เลือดออกระบาด สั่งคุมเข้มทุกจังหวัด พร้อมตรวจอาหารแช่แข็งคัดกรองการปนเปื้อนแบคทีเรีย ก่อนส่งออกต่างประเทศ

    เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุขเปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขติดตามดูแลโรคติดต่อที่ต้องเฝ้า ระวังเป็นพิเศษในขณะนี้ 2 โรคคือไข้เลือดออก และอหิวาตกโรค โดยไข้เลือดออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. –22 มิ.ย. 2553 มีผู้ป่วยสะสม 26,185 ราย เสียชีวิต 30 รายเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน จำนวน 6 ราย ได้แก่ สงขลา 2 รายนครศรีธรรมราช นครราชสีมา อุดรธานี และชัยนาทจังหวัดละ 1 รายโดยจำนวนผู้ป่วยรายภาคมีดังนี้ ภาคใต้ 6,976 ราย รองลงมาคือภาคกลาง 9,823ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6,579 ราย และภาคเหนือ 2,807 ราย สำหรับอหิวาตกโรคตั้งแต่ 1 ม.ค.–20มิ.ย. 2553 พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 982 ราย เป็นคนไทย 708 ราย และต่างด้าว274 ราย โดยพบในภาคใต้จำนวน 505 ราย ภาคเหนือ 279 รายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 166 ราย และภาคกลาง 32 ราย มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย อยู่ที่จังหวัดปัตตานี 3 ราย สงขลาและตราดจังหวัดละ 1 ราย จังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือจังหวัดตากและปัตตานี คิดเป็นร้อยละ 82.3ของผู้ป่วยทั้งประเทศซึ่งผู้ตรวจราชการประจำเขตจะได้ลงพื้นที่ดูแลแก้ไข ปัญหาอย่างใกล้ชิดต่อไป

    ด้านนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่าสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา พบผู้ป่วยในกลุ่มเด็กเล็กแต่ในปีนี้กลุ่มที่ต้องระวังคือกลุ่มวัยรุ่น โดยพบว่ากลุ่มอายุที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกมากที่สุดคือ 15-24 ปีรองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 10-14 ปี ซึ่งอยู่ในวัยเรียนระดับมัธยมศึกษาและกลุ่มอายุ 5-9 ปีซึ่งอยู่ในวัยเรียนระดับประถมศึกษา ในการป้องกันควบคุมโรคขณะนี้ประเทศไทยได้ส่งเสริมชุมชนท้องถิ่นเข้ามามีส่วน ร่วมเช่นการใช้นวตกรรมใช้น้ำเกลือหยอดที่ขาโต้ะ ขาตู้กับข้าวเพื่อป้องกันการวางไข่ยุงลาย ซึ่งพบว่าได้ผลเป็นอย่างดี

    นพ.มานิตย์ ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค โรคอหิวาตกโรคเป็นโรคประจำถิ่นของไทย พบรูปแบบการระบาดใหญ่เป็นแบบ 1ปีเว้น 2 ปี โดยการระบาดใหญ่ครั้งล่าสุดอยู่ในปี 2550 มีผู้ป่วย 986 รายเสียชีวิต 7 ราย และลดลงในปี 2551-2552 เหลือปีละประมาณ 200-300 รายเสียชีวิต 2-3 ราย ดังนั้นในปีนี้จึงน่าห่วง เพราะเพียง 6เดือนแรกของปีนี้ พบผู้ป่วยอหิวาตกโรคเท่าๆ กับจำนวนผู้ป่วยที่พบในปี 2550 ซึ่งมีการระบาดใหญ่ทั้งปี

    จึงขอให้ประชาชนป้องกันตนเองโดยระมัดระวังการรับประทานอาหาร ให้กินร้อน ใช้ช้อนกลางและล้างมือบ่อย ๆ และกินอาหารที่สุก ร้อนและสะอาด ส่วนธุรกิจการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งนั้นสถานประกอบการได้มีการควบคุม ป้องกันโรคอหิวาตกโรคอย่างเข้มข้นร่วมกับควบคุมโรค โดยโรงงานมีมาตรการตรวจหาการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียในผลิตภัณฑ์ก่อนจะส่งออก ไปจำหน่าย ทั้งนี้หากจังหวัดใดพบการระบาดของอหิวาตกโรคจะไม่สามารถส่งออกได้
    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2553

    'ไทย-มาเลย์'ซ้อมรบแปซิฟิก'RIMPAC'

    [​IMG]

    กองทัพไทยและมาเลเซีย ร่วมภารกิจซ้อมรบระหว่างประเทศทางทะเล ในมหาสมุทรแปซิฟิกนำโดยกองทัพสหรัฐฯ เป็นปีแรก จุดประสงค์การซ้อมรบเพื่อร่วมมือแก้วิกฤติของโลก...

    การซ้อมรบระหว่างประเทศทางทะเลรายการใหญ่ที่สุดของโลกในมหาสมุทรแปซิฟิก หรือ “ริมแพค” (Rim of the Pacific Exercise -- RIMPAC) จัดขึ้นทุก 2 ปี นำโดยกองทัพสหรัฐฯ ปีนี้เริ่มตั้งแต่วันพุธ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ระยะเวลานาน 6 สัปดาห์ บริเวณนอกชายฝั่งรัฐฮาวาย จุดประสงค์การซ้อมรบเพื่อร่วมมือแก้วิกฤติของโลก ไม่ว่าจากปัญหาภัยธรรมชาติหรือปัญหาจากมนุษย์ กองทัพไทยกับมาเลเซียร่วมภารกิจซ้อมรบปีนี้ด้วยครั้งแรก เช่นเดียวกับโคลอมเบียและฝรั่งเศส

    ทั้งนี้ กองเรือที่ 3 ของสหรัฐฯ ระบุการซ้อมรบใช้ทหารมากราว 20,000 นาย รวมทั้งทหารจากออสเตรเลีย แคนาดา ชิลี อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ใช้เครื่องบินร่วมภารกิจมากกว่า 150 ลำ เรือรบ 34 ลำ เรือดำน้ำ 5 ลำ ส่วนบราซิล อินเดียกับนิวซีแลนด์ ร่วมสังเกตุการณ์ การซ้อมรบ “ริมแพค” ปีนี้ รวมถึงภารกิจปราบโจรสลัดบริเวณน่านน้ำช่องแคบมะละกา แต่ไม่เกี่ยวข้องสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณคาบสมุทรเกาหลี

    การซ้อมรบ “ริมแพค” เริ่มดำเนินการครั้งแรกเมื่อปี 2514 ขณะที่ไทยในฐานะชาติพันธมิตรแนบแน่นกับสหรัฐฯมายาวนาน เพิ่งร่วมภารกิจซ้อมรบ “คอบรา โกลด์” ประจำปีนี้ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับมาเลเซีย อยู่ระหว่างเร่งรื้อฟื้นนับตั้งแต่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ โดยมาเลเซียประกาศพร้อมร่วมภารกิจซ้อมรบ “คอบรา โกลด์” กับสหรัฐฯและไทยด้วย

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากชาวดาว Arcturus

    [​IMG]

    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากชาวดาว Arcturus
    ประจำเดือน มิถุนายน – กรกฎาคม 2010
    ผู้รับการสื่อสาร: Deb Graves / Araznu
    ที่มา: www.bluerayhealing.com
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --> สมาชิกเว็บพลังจิต แปลและเรียบเรียง

    ในเดือนที่จะมาถึงนี้ และเดือนกรกฎาคม (2010) มันจะมีการเปลี่ยนระดับของสนามแม่เหล็กโลกครั้งใหญ่ เกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งการเปลี่ยนระดับเหล่านี้ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกจะสามารถรับรู้ได้ และหลายๆชีวิตอาจจะเลือกที่จะจากไปในช่วงเวลานี้ แล้วเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 5 ล่วงหน้าก่อนคนอื่นๆก็ได้

    การเปลี่ยนระดับมิติของคุณ ไปสู่มิติที่ 5 จะเป็นการยกระดับจิตสำนึกที่หลายๆคนกำลังพูดถึงกันอยู่ คุณได้เลือกพิมพ์เขียวศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของชีวิตคุณในภพชาตินี้เอาไว้แล้ว ซึ่งพิมพ์เขียวแต่ละอย่าง ก็ได้ถูกเขียนไว้ในจุดต่างๆที่เป็นทางออก (exit points) แล้ว คุณมีทางเลือก ที่จะออกไปในช่วงเวลานี้ หรือจะรอไปจนถึงทางออกถัดไปก่อนก็ได้ คุณสามารถอยู่รอจนกระทั่งไกอา หรือดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ก้าวหน้าต่อไปจนกระทั่งสามารถเลื่อนระดับขึ้นไปถึงมิติที่ 5 ได้สำเร็จก่อนก็ได้

    ภาพสะท้อน ของเดือนนี้ แสดงให้เห็นว่าดาวเคราะห์โลกกำลังใกล้เข้าไปสู่ทางเข้าของประตูมิติบานหนึ่ง มากขึ้นไปอีกแล้ว หลายคนอาจจะถามว่า เมื่อไหร่มันถึงจะเกิดขึ้น หรือว่าจะต้องรอให้ถึงปี 2012 ซะก่อน? กาลเวลาในแบบที่พวกคุณรู้จัก ไม่ได้มีอยู่จริง ในขอบข่ายทั้งหมดของ “ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่” (All That Is) แต่การเปลี่ยนระดับในครั้งนี้ได้ถูกพยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยชนเผ่าต่างๆ ผ่านทางคำสอน และขนบธรรมเนียมประเพณีของพวกเขา ซึ่งคำพยากรณ์ที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือปฏิทินของชนเผ่ามายา และคำพยากรณ์เกี่ยวกับปี 2012 นั่นเอง

    ในเวลานี้ พวกเราอยากจะขอให้ผู้ปฏิบัติงานแห่งแสงสว่าง (lightworkers) ทั้งหลายบนโลก จงยึดมั่นแต่สัจธรรมไว้ในความเชื่อของตนเอง และจงดูดซับพลังงานจากมิติที่ 5 เอาไว้ จงเชื่อมต่อกับไก อา/ดาวเคราะห์แม่ของพวกคุณ รวมถึงพระผู้สร้าง, แหล่งกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง,แหล่งพลังงาน หรือชื่อไหนๆก็ตามแต่ที่คุณเลือกที่จะใช้เรียกสิ่งนี้ และทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ เพื่อความดีที่สูงสุดและยิ่งใหญ่ที่สุดของตัวคุณเอง จงยอมให้พลังงานอันน่าอัศจรรย์เหล่านี้ ไหลผ่านตัวคุณ และยกระดับความสั่นสะเทือนของคุณ ขึ้นไปสู่ช่วงคลื่นความถี่ที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งมันจะช่วยให้คุณมีความสมดุล และรวมศูนย์ได้ (balanced and centered)​

    พวกเราชาวดาว Arcturus มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อที่จะคอยให้ความช่วยเหลือพวกคุณ ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนรูปแบบนี้ พวกคุณสามารถขอความช่วยเหลือจากพวกเราชาวอาร์คทูเรี่ยน (Arcturian) ได้ทุกเมื่อ เพราะพวกเราคือรูปธรรมชีวิตต่างมิติที่มีวิวัฒนาการสูงมากแล้ว และได้คอยเฝ้าสังเกตการณ์ดูพัฒนาการของมนุษย์โลกมานานแสนนานแล้ว และพวกเราก็คอยนำทางพวกคุณให้ไปถึงศักยภาพสูงสุดของตัวคุณเองอยู่​

    พวกคุณหลายคนที่ตื่นรู้แล้ว, เช่น เหล่าผู้ปฏิบัติงานแห่งแสงสว่าง (lightworkers), เหล่าเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว (starseeds) กำลังรู้สึกถึงแรงผลักดันให้แบ่งปันภูมิปัญญาที่พวกคุณมีอยู่ ให้กับคนอื่นๆมากมาย ที่พร้อมจะยอมรับฟังพวกคุณ แต่ไม่ใช่ในแบบของการเทศนาให้พวกเขาเปลี่ยนความเชื่อ, จงปล่อยให้เป็นอิสระแห่งความปรารถนา และทางเลือกของพวกเขาในการเชื่อมต่อกับพวกเรา​

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    จงรวมกันเป็นกลุ่มเพื่อเพิ่มระดับการสั่นสะเทือนของทุกๆคน เพื่อความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนระดับที่กำลังจะมาถึง จงช่วยเหลือกันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อลดพลังงานของความกลัวลง จงให้พวกเขาได้รู้วิธีที่จะเติมพลังแห่งความรักที่ปราศจากเงื่อนไข ให้กับตัวพวกเขาเอง เพื่อที่จะช่วย ให้ร่างกายเนื้อของพวกคุณดูดซับพลังงานที่สูงกว่าได้

    จงดื่มแต่น้ำดื่มที่บริสุทธิ์ให้เพียงพอ จงรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักขม, ผลอินทผลัม, ถั่วต่างๆ เพราะว่าอาหารเหล่านี้ จะช่วยปรับพลังงานของพวกคุณให้เข้ากับพลังงานแม่เหล็กโลก (the geomagnetic forces) ได้

    สำหรับเดือนกรกฎาคม 2010: หินและคริสตัลจากธรรมชาติทั้งหลาย เช่น เฮมาไตท์ (Hematite), นิล (jet), หินออบซิเดียนดำ (black obsidian), โกเมน (garnet), หินดอกเบญจมาศ (chrysanthemum stone), หินสโมกกี้ควอตซ์ (smoky quartz), และหินทัวร์มาลีน (tourmaline) จะช่วยคุณได้

    จงสุภาพกับตัวคุณเอง จงพักผ่อนเมื่อรู้สึกว่าจำเป็น หลายคนอาจจะมีอาการเหมือนมีอะไรมากดทับที่ด้านหลังของศรีษะ, คลื่นไส้, และเวียนศรีษะมาสักระยะหนึ่งแล้ว อาการเหล่านี้ทั้งหมดเป็นอาการของพลังงานที่กำลังเปลี่ยนระดับ และมันจะหายไปเมื่อคุณหลอมรวมกับพลังงานที่กำลังจะมาถึงได้แล้ว​

    ด้วยรักที่มากล้นและด้วยความปรารถนาดี​

    Araznu / Deb Graves
    www.bluerayhealing.com


    บทบาทของสนามแม่เหล็กโลกต่อสุขภาพ
    โดย : นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล

    [​IMG]

    ในญี่ปุ่น นักวิจัยชื่อ ไคโออิชิ นาคากาวา พบว่าคนงานก่อสร้างตึกสูงที่ต้องใช้โครงเหล็กเป็นจำนวนมาก มักป่วยด้วยอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง นอนไม่หลับ เขาพบว่าโครงเหล็กที่เป็นแผ่นของตึก ทำหน้าที่เป็นฉนวนที่กันเอาสนามแม่เหล็กโลกออกไปจากพื้นที่ภายในอาคาร เป็นผลให้คนงานเกิดอาการป่วยเจ็บได้ ประเด็นนี้เป็นเรื่องน่าคิดต่อไปว่า ทุกวันนี้ชาวสำนักงานทำงานอยู่ในตึกสูงเสียโดยส่วนมาก อาการเจ็บป่วยจำนวนไม่น้อย อาจเกิดจากภาวะพร่องสนามแม่เหล็กโลกก็ได้​

    และเหตุฉะนี้เอง การพักผ่อนตากอากาศ พาตัวเองไปอยู่ในท่ามกลางภูเขา แม่น้ำ ทะเล จึงเปิดโอกาสให้คนเราได้รับการอาบไล้จากสนามแม่เหล็กโลก เพิ่มพลังชีวิตสำหรับการทำงานอันตรากตรำในวันต่อๆ ไป และขณะเดียวกันการใช้อุปกรณ์ที่ให้สนามแม่เหล็กอ่อนๆ แก่ร่างกายของคนที่เจ็บป่วยด้วยภาวะพร่องสนามแม่เหล็ก ก็จะพบว่าอาการป่วยเจ็บดีขึ้น​

    นักสัตววิทยายังสังเกตว่า สัตว์แต่ละชนิดรับรู้ต่อสนามแม่เหล็กโลกที่แตกต่างกัน นกพิราบสื่อสารสามารถหาทางบินกลับรังได้ ก็เพราะบางส่วนในสมองของมันรับรู้ต่อความเข้มจางของสนามแม่เหล็กโลกในจุดต่างๆ ที่แตกต่างกัน มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งทดลองใช้เครื่องปล่อยสัญญาณวิทยุขนาดเล็กติดไว้ที่หัวนกพิราบ สัญญาณดังกล่าวรบกวนการรับรู้สนามแม่เหล็กโลกของนกพิราบ ทำให้นกไม่สามารถบินกลับรังได้ ข้อคิดจากเรื่องนี้มีอยู่ว่า​

    คนสมัยนี้ขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้าน แต่มัวหลงระเริงโทรศัพท์มือถือคุยกับแฟนอยู่ตลอดเวลา อาจถึงกับหลงทิศผิดทาง กลับบ้านไม่ถูกก็เป็นได้ ทีนี้มาถึงก้อนหินและแร่ธาตุบ้าง นักธรณีวิทยาเชื่อว่า สนามแม่เหล็กโลกเกิดขึ้นโดยเหล็กหลอมละลายที่เป็นลาวาอยู่ใต้พื้นโลก เมื่อภูเขาไฟระเบิดลาวาที่พุขึ้นแล้วเย็นตัวลงเป็นก้อนหินชนิดต่างๆ และกลายเป็นเปลือกโลกทีละชั้นๆ เปลือกโลกซึ่งก็ประกอบด้วยก้อนหินที่ปนธาตุเหล็กเหล่านี้จึงแฝงไว้ด้วยสนามแม่เหล็กแรงบ้าง ค่อยบ้าง อยู่ภายในหินชั้นต่างๆ เหล่านี้ ขณะเดียวกันสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ซึ่งวิวัฒนาการมาควบคู่กับกำเนิดของโลก ต่างก็มีอิทธิผลของสนามแม่เหล็กโลกแฝงอยู่ในทุกๆ อณูของชีวิตอยู่ด้วย​

    นี่เป็นคำอธิบายว่าทำไมนกพิราบจึงรับรู้สนามแม่เหล็กได้ เหตุเพราะว่าในสมองบางพื้นที่ของนก ปรากฏมีแร่ธาตุแมกเนไตต์อยู่มากเป็นพิเศษ และงานวิจัยในระยะหลังก็พิสูจน์ด้วยว่าสมองของคนเราก็มีแมกเนไตต์อยู่ในพื้นที่บางส่วน รวมทั้งที่ต่อมหมวกไตด้วย ตรงนี้เป็นข้อสันนิษฐานด้วยว่า นักเพ่งพลังจิตบางคนที่สามารถใช้ไม้รูปตัววาย หาแหล่งน้ำใต้ดินได้ก็อาศัยแมกเนไตต์ในสมองบางส่วน และความสามารถนี้จะหมดไปทันทีถ้าให้เขาสวมหมวกและปิดพื้นที่ต่อมหมวกไตด้วยเครื่องป้องกันสนามแม่เหล็ก​

    ความรู้ต่อมาว่าด้วยสนามแม่เหล็กกับสิ่งมีชีวิตยังพบอีกด้วยว่า ทิศทางและการหันขั้วของสนามแม่เหล็กมีผลที่แตกต่างกันต่อการเจริญเติบโตและการเผาผลาญภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต นักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองปลูกเมล็ดข้าวรายด้วยการวางเมล็ดตามยาว และตามขวางต่อสนามแม่เหล็กโลกแล้วพบว่า เมล็ดที่วางไว้ให้ทอดตัวตามแนวเหนือใต้สามารถงอกและเติบโตดีกว่าเมล็ดที่ถูกวางไว้ตามขวาง ความรู้ละเอียดกว่านั้นยังพบอีกว่า ความเข้มจางของสนามแม่เหล็กโลกแปรเปลี่ยนตามแต่ละสถานที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของเปลือกโลกในแต่ละแห่งที่แตกต่างกัน รวมทั้งปริมาณแร่ธาตุใต้พื้นดินแต่ละแห่งที่แตกต่างกันด้วย นักธรณีวิทยาพบว่าสนามแม่เหล็กโลกที่อเมริกาหรือรัสเซีย มีความเข้มกว่าสนามที่บราซิล​

    สนามแม่เหล็กยังเปลี่ยนแปรตามช่วงเวลาอีกด้วย เวลากลางคืนสนามแม่เหล็กโลกจะเข้มกว่าเวลากลางวัน สาเหตุเพราะอิทธิพลของดวงอาทิตย์ ยามกลางวันพื้นโลกส่วนนั้นหันเข้าหาดวงอาทิตย์ แรงจากดวงอาทิตย์ทำให้สนามแม่เหล็กโลกไม่อาจเปล่งพลังสู่พื้นโลกเท่าที่ควร ยามกลางคืนพื้นโลกส่วนนั้นหันออกจากดวงอาทิตย์ แรงสนามแม่เหล็กโลกจึงเปล่งพลังสู่พื้นโลกได้เต็มที่ และเนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกช่วยจรรโลงสุขภาพ ดังนั้น การนอนกลางคืนร่างกายมีโอกาส "ชาร์จพลัง" เพิ่มขึ้น ทำให้ตื่นด้วยความสดใสกระปรี้กระเปร่า ส่วนการนอนกลางวันร่างกายมีโอกาส "ชาร์จพลัง" ได้น้อยกว่า และใครที่ทำงานกลางคืนนอนกลางวัน สุขภาพจึงมักจะโทรมเร็ว​

    วัยรุ่นวัยหวานโปรดฟังทางนี้ การนอนดึกๆ เล่นเน็ต ไม่หลับไม่นอนนั้น โทรมเร็วสุดสุดเด้อ...สิบอกไห่....

    สนามแม่เหล็กโลกโดยปกติจะสั่นสะเทือนด้วยความถี่ 7.8 รอบ/วินาที ขณะเดียวกันยังมีการสั่นสะเทือนขนาดจิ๋วที่แปรเปลี่ยนอยู่ในระหว่างคลื่นสั่นสะเทือนพื้นฐานอีกด้วย มันมีขนาด 1 รอบจนถึง 25 รอบ/วินาที นักธรณีวิทยายังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าความเข้มของสนามแม่เหล็กโลกแปรเปลี่ยนเป็นวัฏจักรคือลดลงและเพิ่มขึ้น ทั้งนี้โดยมีรอบระยะของการลดและการเพิ่มรอบละ 500,000 ปี และโลก ณ ขณะนี้อยู่ในระยะที่ความเข้มกำลังลดลง จากขนาดความเข้ม 4 เกาส์ เหลือเพียง 0.4-0.5 เกาส์ในปัจจุบัน เขารู้เรื่องนี้ได้โดยเก็บตัวอย่างของฟอสซิลอายุต่างๆ กันมาเทียบปริมาณความเข้มของสนามแม่เหล็กที่แฝงอยู่ในฟอสซิลเหล่านี้​

    สมมติฐานจึงมีอีกว่า ปัจจัยอะไรก็ตามที่ไปลดความเข้มสนามแม่เหล็กโลก จะไม่ดีต่อสุขภาพ และปัจจัยที่เพิ่มสนามแม่เหล็กโลกที่มีต่อตัวเรา ด้วยความเข้มที่พอประมาณ จะช่วยจรรโลงสุขภาพ และตรงนี้เองเกิดมีข้อสันนิษฐานเพิ่มเติมว่า ศาสตร์โบราณว่าด้วยการจัดทิศทางของอาคารบ้านเรือน ประตู หน้าต่าง การตกแต่งด้วยต้นไม้ สระน้ำ และก้อนหินในบ้านหรือสำนักงาน ที่เรารู้จักกันในนาม "เฟิงสุ่ย" หรือ "ฮวงจุ้ย" นั้น น่าจะมีอิทธิพลต่อสนามพลังของแม่เหล็กโลก​

    ข้อสงสัยมีว่า เพียงแค่ก้อนหิน ต้นไม้ คอนกรีต จะไปมีแรงเหนี่ยวนำอะไรต่อสนามแม่เหล็กโลก จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ต้องรู้จักเรื่องของปฐพีวิทยา เขาแบ่งสิ่งต่างๆ ที่ไม่ได้เป็นโลหะ ออกตามคุณสมบัติทางแม่เหล็กออกเป็น ไดอาแมกเนติก (diamagnetic) คือสารที่ถูกปฏิเสธหรือผลักดันโดยพลังแม่เหล็กแรงๆ และสารพาราแมกเนติก (paramagnetic) มีคุณสมบัติที่ถูกดูดดึงได้โดยสนามแม่เหล็กแรงๆ ชนิดหลังนี้ได้แก่ แกรนิต ดิน หินทราย ซึ่งล้วนเป็นวัสดุก่อสร้างแต่ครั้งโบราณจนปัจจุบัน สารพาราแมกเนติกแม้จะไม่ได้กลายเป็นแม่เหล็กในตัวมันเองได้เหมือนเหล็กหรือโคบอลต์ แต่มันก็ยอมรับและดูดซับพลังแม่เหล็กระดับหนึ่ง และวัสดุก่อสร้างเหล่านี้มีผลต่อคน สัตว์ และพืชที่อาศัยอยู่ในอาคารสิ่งก่อสร้างเหล่านี้​

    นี่คือความลับของสิ่งก่อสร้างโบราณนับตั้งแต่พีระมิดหรือแท่งหินโอเบลิสก์ของอียิปต์ สโตนเฮนช์ ในอังกฤษ สุสานซื่อซานหลิงในจีน รวมถึงตึกกลมในไอร์แลนด์ ซึ่งมีชื่อเสียงมากในแง่ของสนามพลัง และมีงานวิจัยที่สนุกสนานมากว่าด้วยสนามพลังเหล่านี้ ติดตามตอนต่อไป​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2010
  13. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ผวา! หลุมยุบ เป็นทางยาวโผล่ร้อยเอ็ด


    <!-- CSS = "article-detail partners" -->
    [​IMG]
    ผวา! หลุมยุบ เป็นทางยาวโผล่ร้อยเอ็ด
    ชาวบ้านอุ้มเม้า ต.เมืองทอง อ.เมืองร้อยเอ็ด ผวาเหตุแผ่นดินยุบตัวเป็นทางยาวจากหมู่บ้านถึงทุ่งนาท้ายบ้าน หวั่นบ้านและคนถูกธรณีสูบ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด่วน
    ที่บริเวณบ้านของ นายเจริญ พนมเขต อายุ 62 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านอุ่มเม้า หมู่ 8 และบ้านคุณยายน้อย เวียงธรรม อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ พบรอยยุบตัวของดินจากหน้าบ้านผ่านเข้าไปภายในบ้าน มีร่องรอยการนำดินมาถมและเทปูนอุดรอยยุบตัวเป็นทางยาวเข้าไปภายในบ้าน บานประตูหน้าต่างแตกทรุดตัว หลังคากระเบื้องแตกร้าว
    นอกจากนี้รอยยุบตัวยังผ่านเข้าไปในสวนข้างบ้าน และเป็นแนวยาวไปสู่ทุ่งนาท้ายบ้าน เจ้าของบ้านบอกว่าก่อนหน้านี้เนื่องจากดินยุบตัวเป็นหลุมลึกจึงนำดินมาถมไว้แล้ว พร้อมกล่าวด้วยว่านอนไม่ค่อยหลับกลัวว่าดินจะยุบทำให้บ้านจมลงไปด้วย นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านเกิดแผ่นดินทรุดตัว เป็นทางยาวอีกกว่า 10 หลัง หนักที่สุดคือบ้านของ นางม้วน โคตะรุท อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 41 ม.8 และ บ้านของนางช่วง สิงห์อุ่มเม้า บ้านเลขที่ 31/2 ม.8 พื้นบ้านและหลังคามีรอยร้าว และแผ่นดินทรุดตัวลงเป็นทางยาวเช่นกัน
    หลังจากนั้น นายเจริญ พนมเขต ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านอุ่มเม้า และยายน้อย เวียงธรรม ได้นำสื่อมวลชนเดินตามรอยแยกและทรุดตัวของแผ่นดิน ลัดเลาะป่าไม้ท้ายบ้านไปยังทุ่งนา พบยังมีอยู่อีกหลายหลุม เป็นหลุมขนาดความกว้าง 1-2 เมตร ความยาว 5-7 เมตร และเป็นรอยยุบตัวเป็นจุดๆ จำนวนกว่า 20-30 หลุม ซึ่งเป็นหลุมที่เหลือจากชาวบ้านช่วยกันนำดินมาถมแต่ยังไม่หมด ชาวบ้านบอกว่าน่ากลัวมากหวั่นคนและสัตว์เลี้ยงเดินมาเกิดแผ่นดินยุบตัวหรือชาวบ้านเรียกว่า "ธรณีสูบ" เสียชีวิต อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจพิสูจน์ และไขข้อสงสัยของชาวบ้านว่า สาเหตุเกิดจากอะไร และแก้ไขอย่างไร ขณะนี้ชาวบ้านหวาดผวาไม่เป็นอันกินอันนอนแล้ว




    <!-- Gallery -->
    • [​IMG]
    • [​IMG]
    • [​IMG]
    • [​IMG]
    • [​IMG]
    • [​IMG]
    • [​IMG]
    อ้างอิง
    ผวา! หลุมยุบ เป็นทางยาวโผล่ร้อยเอ็ด
    <!-- /Gallery --><!-- Tags --><!-- Tags -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2010
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>มรสุมกำลังแรงส่งให้ฝนตกเพิ่มขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง ปกคลุมอ่าวไทย และอันดามันทำให้มีคลื่นลมแรง เหนือ อีสาน ภาคใช้ ยังมีฝนกระจาย 60% ของพื้นที่ เช่นเดียวกับ กทม....

    กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 29 มิ.ย.2553 ลักษณะ อากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 36 องศาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี และนครราชสีมาอุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 36 องศาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 36 องศาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผักตบชวาเบ่งบานเต็มลำคลองทั่วประเทศ เหตุแล้งจัด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายเกื้อกูล ด้านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงคมนาคม

    ที่กำกับดูแลกรมเจ้าท่าซึ่งร่วมรับผิดชอบเส้นทางน้ำได้เดินทางไปยังท่าน้ำวัดย่านอ่างทอง และประตูน้ำผักไห่ ในเขต ต.บ้านใหญ่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี นายเรวัต ประสงค์ นายอำเภอผักไห่ และ นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมคณะในการตรวจสอบปัญหาผักตบชวาเต็มลำคลองสาขาแม่น้ำน้อย

    ซึ่งพบว่า ลำคลองสาขาของแม่น้ำน้อย หน้าประตูน้ำผักไห่ยาว 8 กม. เต็มไปด้วยผักตบชวาแน่นไปทั้งลำคลอง

    และพบว่าหลังประตู ผักไห่เข้าไปในทุ่งนาก็พบปัญหาผักตบชวาแน่นลำคลองระยะทางยาวกว่า 5 กม. โดยรวมแล้วมีผักตบชวายาวกว่า 13 กม. จนสร้างความเดือนร้อนต่อพี่น้องประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจชุมชน ด้านการเกษตร ด้านสุขภาพ และส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนท้องทุ่ง ทำให้วิถีชีวิตของคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่พายเรือหากันได้ พายเรือมาทำบุญที่วัดได้ ก็ถูกตัดขาดออกจากกัน และต้องใช้เส้นทางถนนแทนโดยต้องขับรถอ้อมเป็นระยะทางกว่า 10 กม.


    รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับลำคลองสาขาแม่น้ำน้อยที่ อ.ผักไห่นี้ แนวทางแก้ไขคือ

    ต้องตักผักตบชวาขึ้นจากลำคลองให้หมด เพื่อเปิดทางน้ำไหล โดยสั่งการให้นำเครื่องจักรของกรมเจ้าท่ามาสนธิกำลังกำลังกรมชลประทานและฝ่ายปกครอง เพื่อเร่งดำเนินการตักผักตบชวาระยะทางกว่า 12 กม.ขึ้นจากน้ำให้หมด ประเมินแล้วระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 60 วันในการดำเนินการ ทั้งนี้ต้องเร่งดำเนินการก่อนที่น้ำ จะเน่าเสียมากกว่านี้ และเพื่อเป็นการคืนวิถีชีวิตให้ชุมชน ได้กลับมาใช้สายน้ำนี้เพื่อทำมาหากินตามสภาพท้องทุ่งต่อไป


    นายเกื้อกูล กล่าวอีกว่า ทางกรมเจ้าท่าได้ติดตามปัญหาผักตบชวาแน่นเต็มลำคลองและแม่น้ำทั่วประเทศ

    พบว่ามีปัญหาในหลายลุ่มน้ำ ทั้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำราชบุรี แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำสุพรรณบุรี ฯ ซึ่งในปีนี้พบปัญหาหนักที่สุดแบบที่ไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งทางกรมเจ้าท่าได้สืบค้นปัญหาพบว่า สาเหตุหนึ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญคือปัญหาภัยแล้ง จนเขื่อนไม่มีน้ำเพื่อปล่อยน้ำลงใต้เขื่อน เพื่อใช้น้ำไล่น้ำใต้เขื่อนลงทะเลเหมือนแต่ก่อน คือ ภาครัฐมีความสามารถกำจัดผักตบชวา 30% ส่วนอีก 70% ใช้กลไกลธรรมชาติช่วย คือ เมื่อมีการปล่อยน้ำเหนือเขื่อนลงพื้นที่ใต้เขื่อน น้ำก็จะพักพาผักตบชวาในคลองและในแม่น้ำ ไหลไปลงทะเล หรือพื้นที่ปากอ่าว ซึ่งตามธรรมชาติ เมื่อผักตบชวาไหลไปถึงพื้นที่น้ำเค็ม ก็จะตายทั้งหมดแยะย่อยสลายไป แต่เมื่อไม่มีน้ำจากเหนือเขื่อนมาไล่น้ำ ผักตบชวาจึงไม่ไหลลงพื้นที่ด้านล่างของแม่น้ำ และอัดแน่นตามลำคลองและลุ่มน้ำต่าง ๆ และแพร่พันธ์อย่างรวดเร็ว และปีนี้เป็นปัญหาหนักสุดที่เคยพบมา ซึ่งสอดคล้องกับปัญหาภัยแล้งที่พบหนักสุดเช่นกัน จนไม่มีน้ำจากเหนือเขื่อน เพื่อปล่อยไล่น้ำลงปากแม่น้ำเหมือนทุกปีที่ผ่านมา


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ระบุอีก30ปีอุณหภูมิไทยเฉลี่ยเพิ่มอีก 2องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สผ.เดินสายเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น (ร่าง)แผนแม่บทภูมิอากาศแห่งชาติ แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก ปี2632 เฉลี่ยสูงขึ้น 4 องศา

    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->

    นางสาวอาระยา นันทโพธิเดช รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)

    กล่าวปาฐกถานำ เรื่อง"ประเทศไทยกับการดำนินงานด้นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับชาติและระดับนานาชาติ" ในการประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นต่อ(ร่าง)แผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ พ.ศ.2553 - 2562 จัดขึ้นที่โรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว จ.เชียงใหม่ วันนี้( 28 มิ.ย.) ว่า ย้อนหลังไป 30 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส แต่ในอีก 30 ปีข้างหน้านับตั้งแต่ปี 2553 อุณหภูมิเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 2 องศาเซลเซียส


    ทั้งนี้ อุณหภูมิที่สูงขึ้นมีผลกระทบกับภาคเหนือซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีภูมิอากาศหนาวเย็น เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ฤดูหนาวมีระยะเวลาสั้นลง

    นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และความหลากหลายของพันธุ์พืชของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เพราะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 องศาเซลเซียสจะกระทบกับระบบนิเวศน์ทำให้สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพในธรรมชาติไป นางสาวอาระยา กล่าวว่า อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นในปัจจุบันเป็นผลจากก๊าซเรือนกระจก ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกมีไม่มากนักแต่ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและด้อยพัฒนา มีอัตราการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วค่อนข้างมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนาต้องหันมาลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง

    สำหรับภาคเหนือในปัจจุบันมีแนวโน้มอุณหภูมิสูงขึ้นต่อเนื่อง ภายในปี 2632 อุณหภูมิของภาคเหนือจะเพิ่มขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยของพื้นที่ 4 องศาเซลเซียส

    คือ แม่ฮ่องสอน ตาก และพิษณุโลก ส่วนจังหวัดที่มีจำนวนวันที่มีอากาศร้อนเพิ่มสูงจากปีฐานในปัจจุบันมี 4 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ ซึ่งในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) และพิธีสารเกียวโต (Kyoto Protocol) กำหนดให้มีการดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของโลกร้อนอย่างจริงจัง รวมทั้งเร่งทำความเข้าใจ-การปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกให้มากขึ้น

    นางสาวอาระยา กล่าวอีกว่า การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น(ร่าง)แผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ

    ซึ่งมีทั้งหมด 3 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ยุทธศาสตร์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยุทธศาสตร์การบริหารจัดการ จะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นอีก 2 ครั้ง ที่ภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี และภาคกลาง กรุงเทพฯ ในเดือน ก.ค.นี้ จากนั้นจะนำเสนอ ครม.พิจารณา

    ด้านนายอภิวัฒน์ คุณารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 กล่าวว่า แม้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยและภาคเหนือเป็นพื้นที่เกษตรกรรม

    แต่กิจกรรมที่เกิดขึ้นในภาคเกษตร โดยเฉพาะในฤดูแล้งที่มีการเผาเป็นส่วนหนึ่งทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ใน(ร่าง)แผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ อาจมีการบรรจุวิธีการและแนวทางแก้ปัญหาการเผาในภาคเกษตร เนื่องจากปัญหาดังกล่าวสร้างผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว

    ส่วนกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น การขยายตัวของพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตามเมืองชายแดน ที่มีผลต่อการขยายตัวของการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

    ปัจจุบันกำลังมีการศึกษาว่าการเกิดขึ้นของเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองชายแดนในอนาคตจะมีความสามารถในการรองรับและจัดการกับปัญหามลพิษได้มากน้อยเพียงใด ใน(ร่าง)แผนแม่บทฯจะมีการกำพหนดเกณฑ์มาตรฐานไว้แต่อาจไม่ถึงขั้นเข้มงวดเหมือนในประเทศยุโรป แต่มีการกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำไว้เพื่อควบคุม
    <!-- Tags Keyword -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** คนบ้านเดียวกัน ไม่ควรคิดทำลายกันเอง ****

    เรียนถาม คุณเกษม...

    ประเทศกัมพูชา จะนำประวัติศาสตร์เรื่องใด ตอนไหน
    มาใช้อ้าง ในเรื่องดินแดนที่ประเทศไทยครอบครองในปัจจุบัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ฝนตกโคลนถล่ม ดับเพียบ มังกรวิกฤตหนัก

    [​IMG]

    โคลนถล่มเนื่องจากฝนตกหนักในหมู่บ้านทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ฝังร่างชาวบ้านทั้งเป็นอย่างน้อย 107 คน เจ้าหน้าที่เชื่อทั้งหมดอาจเสียชีวิตแล้ว ทางการเผยว่า มีผู้เดือดร้อนจากฝนตกหนักเกือบ69ล้านคน....

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุโคลนถล่มเนื่องจากฝนตกหนักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองต้าไจ มณฑลกุ้ยโจว ของจีน โดยโคลนถล่มทับบ้านเรือนจำนวนมาก หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน มีผู้ที่ติดอยู่ใต้โคลนอย่างน้อย 107 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัย กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายอยู่ แต่การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากฝนตกหนักมาก ทำให้เกรงว่าอาจไม่มีผู้รอดชีวิต

    รายงานข่าวระบุว่า พื้นที่ทางตะวันออก ทางตอนกลางและตอนใต้ของจีนมีฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน ทางการเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีผู้เดือดร้อนแล้วเกือบ 69 ล้านคน และช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้วอย่างน้อย 379 คน สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 82,400 ล้านหยวน (ราว 412,000 ล้านบาท)

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2553

    คราบน้ำมันถึงฝั่งมะกันทำสัตว์น้ำตายอื้อ

    [​IMG]

    ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลส่วนท้องถิ่นและหน่วยลาดตระเวนชายฝั่งรัฐมิสซิสซิปปีระบุการทำความสะอาดคราบน้ำมันรั่วบริเวณชายฝั่งต้องรอให้ตัวแทนบริษัทบีพีเป็นผู้รับผิดชอบ....

    ประชาชนในรัฐมิสซิสซิปปีของสหรัฐฯ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนชายฝั่งเร่งขจัดปัญหาคราบน้ำมันรั่ว หลังพายุโซนร้อน "อเล็กซ์" ก่อตัวบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก และซัดขึ้นฝั่งติดกับช่องแคบยูทากันของเม็กซิโกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เกิดคลื่นแรงซัดคราบน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกเข้าเกยฝั่งในรัฐมิสซิสซิปปีเป็นครั้งแรก เมื่อ 27 มิ.ย. ส่งผลให้นกกระทุง เต่าทะเล และปลา ติดอยู่ในคราบน้ำมันจนตายเป็นเบือ และทำลายสิ่งแวดล้อมของชายหาดอีก 7 แห่งในรัฐซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว

    ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลส่วนท้องถิ่นและหน่วยลาดตระเวนชายฝั่งรัฐมิสซิสซิปปีระบุการทำความสะอาดคราบน้ำมันรั่วบริเวณชายฝั่งต้องรอให้ตัวแทนบริษัทบีพีเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะบีพีต้องรับภาระค่าใช้ จ่ายในปฏิบัติการทำความสะอาดทั้งหมดตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งยอดขณะนี้สูงกว่า 2,650 ล้านดอลลาร์แล้ว ส่งผลให้ประชาชนในรัฐมิสซิสซิปปีไม่พอใจอย่างหนัก ขณะที่พื้นที่อื่นๆ ซึ่งได้รับผลกระทบ จากคราบน้ำมันในรัฐหลุยเซียนา อลาบามา และชายหาดอ่าวเม็กซิโกของรัฐฟลอริดา ยังไม่อาจทำความสะอาดคราบน้ำมันได้หมดเช่นกัน

    วันเดียวกัน ศูนย์พายุเฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯระบุว่าพายุโซนร้อนอเล็กซ์จะไม่พัดผ่านอ่าวเม็กซิโกในรัฐฟลอริดา แต่จะพัดผ่านไปทางตอนกลางของทวีปอเมริกา โดยคาดว่าเม็กซิโก กัวเตมาลา และเอลซัลวาดอร์เป็นกลุ่มประเทศที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งยังประเมินอีกว่าพายุอเล็กซ์จะทวีความรุนแรงขึ้นภายใน 48 ชม. จนกลายเป็นพายุเฮอริเคน ขณะที่สถิติผู้เสียชีวิตเพราะพายุกระหน่ำ น้ำท่วม และดินถล่มในกลุ่มประเทศอเมริกากลางเพิ่มเป็น 11 ศพในสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2553

    บุกตรวจยึดพื้นที่ ป่าสงวนรอยต่อ 5 จังหวัด มีทุนใหญ่หนุน

    [​IMG]

    ทหารกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด (ค่ายตากสิน) พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ 615 สังกัดฉก.นย. บุกตรวจยึดพื้นที่บุกรุกแผ้วถางป่าสงวนเขตรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ได้ผู้ต้องหากัมพูชา 6 คน พร้อมของโดยมีนายทุน ใหญ่หนุนหลังจันทบุรี

    เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 615 สังกัด ฉก.นย.อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดย รอ.มนัสพันธ์ ปัญญาใจ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ ม.8 บ้านหินดาด ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่บุกรุกแผ้วถางป่าสวงนเขตรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก เมื่อเดือนเมษายน 2553 ที่ผ่านมา โดยถูกโค่นทำลายและตัดไม้ในพื้นที่ป่า จำนวนหลายพันไร่ เป็นวงกว้าง บริเวณเขาหินดาด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้น มีการถูกเผาทำลายหลักฐานเหลือแต่เศษขี้เถ้า และได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ไว้เพื่อป้องกันและปราบปรามในการบุกรุก โดยได้สืบทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีผู้มีอิทธิพลเข้าไปดูแล และเป็นนายทุนอย่างผิดกฎหมาย

    จากนั้นได้นำกำลังทหารการชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 615 สังกัด ฉก.นย. อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จำนวนหนึ่ง พร้อมอาวุธ เข้าตรวจสอบซ้ำซึ่งได้รายงานไปยังพลเรือโท สุวิทย์ ธาระรูป ผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (ค่ายตากสิน) พร้อมเข้าตรวจสอบว่า มีการนำแรงงานจำนวนหนึ่งเข้าบุกรุกในพื้นที่อีก โดยใช้ต้นกล้ายางพารา จำนวนหลายร้อยต้น ปลูกในพื้นที่ป่าสงวน บ้านหินดาด เพื่อเตรียมยึดพื้นที่และบุกรุกต่อ

    ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารได้วางแผนเข้าจับกุมได้ผู้ต้องหา จำนวน 6 คน เป็นชาวกัมพูชาพร้อมของกลาง รถ จยย.ไม่ติดทะเบียนยี่ห้อ ฮอนด้าสีแดง 1 คัน ถังฉีดยาฆ่าหญ้า 1 ถัง มีขอ 2 เล่ม จอบ 1 อัน พร้อมบ้านไม้ไม่มีเลขที่ และเป็นไม้แปลรูป 1 หลัง จึงทำการตรวจยึดและจับกุมตัว โดยเบื้องต้นในครั้งนี้ มีนายทุนเป็นผู้มีอิทธิพล หนุนหลัง ในการกระทำผิด ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แก่งหางแมวดำเนินคดีต่อไป

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2553

    งานบ้านป้องกันมะเร็ง ทำครัว ซักรีดเสื้อผ้า สกัดเนื้อร้ายได้ถึง 1 ใน 3

    [​IMG]

    [​IMG]


    ผู้หญิงที่หมั่นทำงานบ้านจะพลอยได้ประโยชน์ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านมได้ แถมการกวาดถู และทำงานบ้าน ยังให้ผลดีกว่าการออกกำลังเสียด้วย

    การศึกษาวิจัยด้วยงบอุดหนุนของสำนักวิจัยโรคมะเร็งของอังกฤษ พบว่าแม่บ้านตามชาติในยุโรป 9 ชาติ เรือนไม่ต่ำกว่า 200,000 คน จะหมดเวลาไปกับงานบ้าน ตั้งแต่ทำครัว ทำความสะอาด และซักรีดเสื้อผ้า อาทิตย์ละสัก 16-17 ชม. งานบ้านยังช่วยปกป้องจากโรคร้ายได้มากกว่าการเล่นกีฬาเสียอีก ถ้าหากเป็นสตรีวัยมีบุตร จะป้องกันโรคได้มากถึงร้อยละ 30 และกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ก็จะป้องกันได้ร้อยละ 20

    พวกผู้เชี่ยวชาญรู้มานานแล้วว่า การออกกำลังช่วยป้องกันโรคมะเร็งทรวงอก อาจจะเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนของฮอร์โมนและการเผาผลาญอาหาร แต่ยังไม่ค่อยกระจ่างนักว่า การออกกำลังอย่างไหนถึงจะช่วยป้องกันโรคร้ายได้มากที่สุด

    ดร.เวสลี่ วอกเกอร์ แห่งสถานวิจัยโรคมะเร็ง กล่าวว่า "เรารู้กันแล้วว่า ผู้หญิงที่รักษาน้ำหนักตัวปกติเอาไว้ได้ จะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง แต่ในการศึกษาครั้งนี้แสดงว่า การออกกำลังก็ช่วยได้เช่นกัน แม้แต่ของง่ายๆ และไม่ได้แพงอะไรเลย เช่น การทำงานบ้านก็ยังช่วยได้"

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    “ฉะเชิงเทรา” มีต้นเค้าหนึ่งมาจากหนังสือชุมนุมพระนิพนธ์ภาคปกิณกะ ภาค 1 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีความพาดพิงถึงเมืองฉะเชิงเทราว่า “...ชื่อบ้านเมืองเหล่านี้เป็นชื่อไทยบ้าง ชื่อเขมรบ้าง เป็นสองชื่อทั้งไทยทั้งเขมรบ้าง อย่างเมืองฉะเชิงเทราเป็นชื่อเขมร แปดริ้วเป็นชื่อไทย...” นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีบางท่านจึงมีความเห็นว่า “ฉะเชิงเทรา” น่าจะเพี้ยนมาจากคำเขมรว่า “สตึงเตรง” หรือ “ฉ่ทรึงเทรา” ซึ่งแปลว่า “คลองลึก”

    ความเห็นนี้คงอาศัยเหตุผลทางภูมิศาสตร์ด้วย เพราะเมืองฉะเชิงเทราตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำบางปะกง เมื่อครั้งที่ขอมยังมีอำนาจปกครองแผ่นดินไทยอยู่นั้น เมืองนี้เป็นเมืองหนึ่ง ที่อยู่ในอำนาจการปกครองของขอมมาก่อน เป็นไปได้ว่าชาวเมืองในสมัยโบราณอาจจะเรียกแม่น้ำบางปะกงว่า “คลองลึก” หรือคลองใหญ่ ตามลักษณะที่มองเห็น และด้วยอิทธิพลเขมรจึงได้เรียกชื่อแม่น้ำเป็นภาษาเขมรว่า “สตรึงเตรง” หรือ “ฉ่ทรึงเทรา” ครั้งเรียกกันไปนานๆ เสียงก็เพี้ยนกลายเป็น “ฉะเชิงเทรา” เมืองที่อยู่บนฝั่งแม่น้ำก็พลอยได้ชื่อว่า “ฉะเชิงเทรา” ไปด้วย

    อย่างไรก็ตาม คนจำนวนมากมักมีความเห็นต่างออกไปว่า ชื่อ “ฉะเชิงเทรา” น่าจะเพี้ยนจาก “แสงเชรา” หรือ “แซงเซา” หรือ “แสงเซา” อันเป็นชื่อเมืองที่สมเด็จพระบรมราชาธิราชเสด็จไปตีได้ ตามที่พงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐกล่าวไว้มากกว่า เพราะการออกเสียงใกล้เคียงกันมาก ยิ่งเมื่อประกอบความคิดที่ว่า เมืองตั้งขึ้นในตอนต้นกรุงศรีอยุธยา อันเป็นเวลาที่ชื่อเสียงเรียงนามต่างๆ น่าจะเป็นคำไทยหมดแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน อย่างนนทบุรี นครไชยศรีและสาครบุรี ซึ่งล้วนแต่มีเชื้อสายไทยอิทธิพลอินเดีย ยิ่งทำให้น่าเชื่อว่าเมืองนี้ไม่ใช่คำเขมร หากแต่เป็นคำไทยที่เพี้ยนมาจากชื่อเมืองในพงศาวดารนี่เอง

    ที่มา http://www.sothorn.com/index.php?option=com_content&view=article&id=76&Itemid=87
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2010
  18. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    28 มิ.ย. 53


    เช้ามืดเมื่อวานนี้ ได้ฝันเห็นน้ำสีดำ คล้ายน้ำตามท่อระบาย ได้ไหลท่วม
    ตามถนนใหญ่ ไหลเร็วและแรงมาก จำนวนน้ำมากมายทีเดียว


    ฟ้าสั่ง

    ฟ้าได้บอก-------เวลาคน---------นั้นใกล้หมด
    แต่ขอโทษ------คนส่วนใหญ่------กลับนิ่งเฉย
    มัวแต่กอด-------ทรัพย์สมบัติ------ดั่งเช่นเคย
    ไฉนเลย---------ชีวิตตัว----------จะปลอดภัย

    ฟ้าได้ส่ง-----------เหล่าขุนศึก------ลงทำงาน
    คอยบอกความ------เหล่าคนดี-------มีที่ไป
    แต่ผู้คน------------กลับคิดเอง------เป็นส่วนใหญ่
    ขอบอกไว้----------คิดเช่นนี้--------ตัวใครก็ตัวมัน

    คอยติดตามชม อติกานต์ หนุนภักดี (จิ๊บ พิธีกรช่องยูบีซี) จะออกรายการ

    วู๊ดดี้ เกิดมาคุย ทางทีวีช่อง 9 ทุกคืนวันอาทิตย์ เวลา 22.31น.
    เกี่ยวกับคำสั่งฟ้าเรื่องภัยพิบัติ เร็วๆนี้






    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น
     
  19. 1stdec

    1stdec เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2010
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +112
    เมื่อสองคืนก่อนก็ฝันแบบนี้เหมือนกัน ผู้คนสับสนอลหม่าน บางคนหนี บางคนไม่ค่อยเดือดร้อนอะไร น้ำไหลมาเรื่อยๆ ฝนตกหนัก ตัวเราอยู่บนตึกสูงมองลงมา แล้วมันจะยังไงคะเนี่ย
     
  20. Jurassic_Park

    Jurassic_Park เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +288
    ชอบครับ ตรงใจมากเลยครับ เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
    แต่คนส่วนมากยังกอดทรัพย์สมบัติกันอยู่เลย แถมบางคน
    ยังปลอบใจตัวเองว่า มันคงไม่เกิดขึ้นจริงมั้ง แล้วก็นิ่งเฉยต่อไป
    นี่แหละครับ "ตัวใครก็ตัวมัน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...