ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งญี่ปุ่น 6.3 ไม่เตือนสึนามิ

    [​IMG]

    แผ่นดินไหว 6.3 ริคเตอร์ นอกชายฝั่งหมู่เกาะคูริล ทางตอนเหนือของฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ไม่ประกาศเตือนสึนามิ ก่อนหน้านี้ราว 1 ช.ม. แผ่นดินที่ไต้หวัน ความรุนแรง 4.8 ริคเตอร์ ไม่มีรายงานความเสียหายเช่นกัน...

    สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว แจ้งว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว วัดระดับความรุนแรงได้ 6.1 ริกเตอร์ ( ขณะที่สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ วัดความรุนแรงครั้งนี้ได้ 6.3 ริกเตอร์ ) บริเวณหมู่เกาะคูริล ห่างจากเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น ทางตอนเหนือราว 280 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 02.23 น. วันที่ 18 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ท้องทะเลราว 53 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิ

    ก่อนหน้านี้ราว 1 ชั่วโมง เกิดเหตุแผ่นดินไหวไต้หวัน วัดระดับความรุนแรงได้ 4.8 ริกเตอร์ ห่างจากเมืองหัว-เหลียง ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 25 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปราว 10 กิโลเมตร แต่ไม่มีรายงานความเสียหายเช่นกัน

    ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2553

    จีนฝนตกหนัก-ดินถล่ม คนตายเกิน 100 ราย

    [​IMG]

    ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ของจีนตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พุ่งเกินกว่า 100 ศพ ชาวบ้านได้รับผลกระทบต้องลี้ภัยออกนอกพื้นที่อันตรายมากกว่า 1.4 ล้านคน

    รัฐบาลจีนประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 952 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลกระทบจากน้ำท่วมก่อความเสียหายแก่พื้นที่การเกษตรบริเวณกว้าง เครือข่ายการจราจรได้รับผลกระทบ ระบบสื่อสารในหลายพื้นที่ถูกตัดขาด ทางการระดมกำลังทหารช่วยอพยพชาวบ้าน โดยเฉพาะนักเรียนประถมในสถานศึกษาหลายแห่ง อุตุนิยมวิทยาของจีน รายงานเตือนภัยอาจเกิดพายุฝนรุนแรงขึ้นอีกในช่วง 2-3 วันข้างหน้า

    นอกจากนั้น ฝนอาจตกหนักกว่าระดับปกติถึง 3 เท่า พื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมรุนแรงมากที่สุดอยู่ในมลฑลฟูเจี้ยน เจียงสี หูหนาน กวางตุ้ง เสฉวน กุ้ยโจวและเขตปกครองตนเองกวงสี ซึ่งรวมประชากรได้รับผลกระทบมากกว่า 5.5 ล้านคน

    ทั้งนี้ ฤดูมรสุมของจีน เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ค. ภายหลังจากเมื่อหลายเดือนก่อน พื้นที่ตอนใต้ของประเทศเพิ่งเผชิญสภาพความแห้งแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี โดยเฉพาะพื้นที่มลฑลยูนนาน กุ้ยโจวและเขตปกครองตนเองกวงสี ก่อผลกระทบแก่ชาวบ้านมากกว่า 61 ล้านคน ชาวบ้านมากกว่า 12 ล้านคน ไม่มีแม้กระทั่งน้ำดื่ม และนับตั้งแต่ภาวะความแห้งแล้งเกิดขึ้นเมื่อช่วงปีท่ีแล้ว ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบมากกว่า 30 ล้านไร่

    ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ.2553

    'พม่า-บังกลาเทศ'อ่วม น้ำท่วมดินถล่มดับเพียบ

    [​IMG]

    ฤดูมรสุมพาฝนซัดกระหน่ำ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของพม่า จนน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม คร่าชาวบ้านกว่า 57 ชีวิต ส่วนบังคลาเทศ เผชิญสภาวะเดียวกัน ดับแล้วอย่างน้อย 50 ศพ...

    เหตุน้ำท่วมดินถล่มในพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของพม่า หลังฝนตกหนักตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา คร่าชีวิตชาวบ้านแล้วกว่า 57 ราย ชาวบ้านต้องอพยพละทิ้งถิ่นฐานมากกว่า 2,000 คน แม้ระดับน้ำท่วมในหลายพื้นที่เริ่มลดลงแล้ว แต่ทางการยังเร่งระดมความช่วยเหลือสู่ชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง

    ขณะเดียวกัน เหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมในบังคลาเทศ คร่าชีวิตชาวบ้านแล้วมากกว่า 50 ราย ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนพ.ค.ปี 2551 พม่าเผชิญไซโคลนนาร์กีซ คร่าชีวิตชาวบ้าน รวมทั้งสูญหายมากกว่า 140,000 ราย

    ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ.2553

    แก๊สระเบิดเหมืองถ่านหินโคลอมเบีย ตายแล้ว 18 ศพ

    [​IMG]

    เกิดเหตุแก๊สระเบิดที่เหมืองถ่านหินของโคลอมเบีย มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย18ศพ แต่คาดจะเพิ่มถึง70ศพ เนื่องจากยังมีคนงานติดอยู่ภายใน...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. เกิดเหตุแก๊สระเบิดที่เหมืองถ่านหิน ของโคลอมเบียวานนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 คน ท่ามกลางความกังวลว่า จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นกว่า 70 คน เนื่องจากคนงานจำนวนดังกล่าวติดอยู่ภายในเหมืองขณะที่เกิดเหตุระเบิด ซึ่งอาจจะกลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรมในการทำเหมืองถ่านหินในแอนดีนเคาน์ตี้ครั้ง เลวร้ายที่สุด

    หลังเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว มีการคาดการณ์ว่า จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปภายในเหมืองได้ลำบาก เนื่องจากภายในเหมืองยังมีแก๊ส และซากปรักหักพังกีดขวาง และมีความจำเป็นต้องใช้เวลาราว 4-5 ชั่วโมงกว่าจะสามารถเข้าไปเคลียร์พื้นที่ภายในได้

    ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เฌ

    เฌ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +415
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ชื่อเดิม เมทิกา เจ้าค่า

    ^
    ^

    สวัสดีอีกครั้ง หลังจากที่ท่านได้ห่างหายจากบอร์ดนี้ไปหลายปี ผมยังชื่นชอบผลงานที่เป็นปกรณัมของท่านเสมอมามิเสื่อมคลาย ว่างๆก็มาเล่าให้ฟังอีกสิครับ สนุกกว่าพวกประโคมข่าวภัยพิบัติ โดยเอาหมอดูเป็นบรรทัดฐาน ดั่งเช่นหลายต่อหลายคนที่กำลังทำกรรมอยู่ในกระทู้นี้

    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2010
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "กฏแห่งกรรม" ไม่เคยยกเว้นให้ผู้ใด!!

    [​IMG]
    พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกริยา


    ไปมาแล้ว ก็กลับไปใหม่ได้ นี่เป็นคำเตือนมิใช่คำขู่

    ที่ผมจำเป็นต้องเตือน เพราะคุณเฌ กำลังชักจูงสมาชิก

    เว็บพลังจิต อีกหลายๆ ท่าน ให้ลงนรกตามไปกับคุณเฌ

    ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผมจึงขออนุญาตนำเรื่อง

    วิบากกรรมของพระพุทธเจ้า องค์ปัจจุบันนี้มาเป็นเครื่องเตือนใจ

    ให้สมาชิกท่านอื่นๆ ที่กำลังจะคล้อยตาม เห็นดีเห็นงามไปกับการทำผิด

    ครั้งยิ่งใหญ่ของคุณเฌ จะได้รู้ว่ากฏแห่งกรรมนั้นมันน่ากลัวเพียงใด

    [​IMG]

    วิบากกรรมของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่เกี่ยวกับเรื่องของวจีกรรม

    กรรมที่ต้องกระทำทุกรกิริยา

    ในสมัยพระกัสสปะพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ โชติปาละ ไม่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ทราบว่าพระกัสสปะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ได้กล่าวว่า "การตรัสรู้ของสมณะโล้น จักมีมาแต่ที่ไหน"

    ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น พระโพธิสัตว์ต้องเสวยทุกข์ในอบายภูมิเป็นเวลานาน ด้วยเศษกรรมยังเหลืออยู่ แม้ในภพสุดท้ายก่อนจะได้ตรัสรู้ พระองค์ยังต้องหลงเดินทางผิด บำเพ็ญทุกรกิริยาทรมานพระองค์เองด้วยวิธีการต่างๆ อันเป็นวัตรของเดียรถีย์ มีการอดอาหาร เป็นต้น จนสรีระผอมเหลือแต่กระดูก ได้รับทุกขเวทนากล้าอันเกิดจากความเพียรเป็นเวลานานถึง ๖ ปี กว่าจะได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ

    กรรมที่ทำให้ถูกกล่าวตู่

    ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดเป็นนักเลงสุราชื่อ มุนาลิ ได้กล่าวตู่ พระนันทะ สาวกของพระสัพพาภิภู ปัจเจกพุทธเจ้าว่า "เป็นสมณะทุศีล"

    ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น พระโพธิสัตว์ต้องเสวยทุกข์ในอบายภูมิเป็นเวลานาน แม้ในปัจจุบันจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ด้วยเศษกรรมที่ยังเหลืออยู่ พระพุทธเจ้าจึงต้องถูกกล่าวตู่โดยนาง จิญจมาณวิกา

    เรื่องมีว่าเหล่าเดียรถีย์เกิดความริษยา ที่เห็นพระพุทธเจ้ามีบุคลลเลื่อมใสศรัทธาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ลาภสักการะของพวกตนน้อยลง จึงหาทางทำลายพระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้า ด้วยการใช้นางจิญจมาณวิกา สาวิกาของพวกตน เป็นผู้ดำเนินการตามอุบาย กล่าวคือในตอนเย็น ขณะที่เหล่าชนกำลังเดินทางกลับเข้าเมือง ก็ให้นางเดินสวนทางออกไป ตอนเช้าขณะเหล่าชนเดินทางออกจากเมือง ก็ให้นางเดินสวนทางกลับเข้ามา

    ทำเช่นนี้เป็นประจำ จนชาวเมืองเกิดความสงสัย ถามว่านางออกไปนอกเมืองทุกเวลาเย็นด้วยเหตุอันใด นางตอบว่า เราออกไปตามความประสงค์ของพระสมณะโคดมผู้เป็นศาสดาของพวกท่าน และพำนักอยู่ในพระคันธกุฏีในพระเชตวัน เวลาล่วงมาหลายเดือน นางจิญจมาณวิกาจึงนำท่อนไม้มาผูกติดเอว สวมเสื้อคลุมทับไว้

    ทำประหนึ่งว่าตนกำลังมีครรภ์เดินเข้าไปหาพระพุทธเจ้าในพระเชตวันวิหาร ท่ามกลางบริษัทที่กำลังพระธรรมเทศนา กล่าววาจาตู่พระพุทธเจ้าว่า เป็นผู้ที่ทำให้นางตั้งครรภ์ พระพุทธเจ้ามิได้โต้ตอบแต่ประการใด ทำให้ชนบางกลุ่มในที่นั้นเกิดความสงสัย คิดว่าหากไม่เป็นความจริง นางคงมิกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ต่อหน้ามหาชนเป็นอันมากแน่นอน

    พระอินทร์ทราบความ จึงแปลงร่างเป็นหนูไปกัดเชือกที่นางผูกเอวไว้ขาดออก ท่อนไม้หลุดลงมาทับเท้าของนางจนหลังเท้าแตก เหล่าชนในพระเชตวันวิหารเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น พากันขับไล่นางออกไป เมื่อพ้นประตูวิหาร นางก็ถูกเปลวเพลิงนรกฉุดลงไปสู่อเวจีมหานรก

    กรรมที่ทำให้ถูกกล่าวหา

    ในอดีตกาลพระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์ ชื่อ สุตวา บวชเป็นดาบสสั่งสอนศิษย์ในป่าหิมพานต์ ต่อมามีดาบสผู้สำเร็จอภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ มายังสำนักของตน ด้วยความริษยาที่เห็นว่ามีวิชาความรู้มากว่าตน จึงกล่าวหาดาบสนี้ว่า "ดาบสนี้หลอกลวง ดาบสนี้บริโภคกาม" และยังแนะให้ศิษย์ของตนกระทำตาม

    ด้วยวิบากแห่งกรรมที่กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่เป็นจริง พระโพธิสัตว์และเหล่าศิษย์ต้องเสวยทุกข์ในอบายภูมิเป็นเวลานาน แม้ในปัจจุบันด้วยเศษกรรมที่ยังเหลืออยู่ พระพุทธเจ้าและสงฆ์สาวก จึงถูกกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่านางสุนทรี

    เรื่องมีว่า เหล่าเดียรถีย์ยังคิดที่จะทำลายพระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้า ต่อมา จึงใช้ให้นางสุนทรี สาวิกาของพวกตนอีกคนหนึ่งไปดำเนินการ ตามวิธีเช่นเดียวกับนางจิญจมาณวิกา จากนั้นได้ว่าจ้างเหล่าโจรให้ฆ่านาง นำศพไปหมกไว้ใกล้พระเชตวันวิหาร แล้วส่งคนของตนไปร้องเรียนต่อพระราชาว่า สาวิกาผู้หนึ่งของพวกตนหายไป พระราชาจึงมีรับสั่งให้ค้นหา พบศพหมกอยู่ใกล้พระเชตวันวิหาร เหล่าเดียถีย์จึงนำศพวางบนแคร่หาม ออกเดินประกาศไปทั่วพระนครว่า "เหล่าศากยะสมณะร่วมกันฆ่านาง" พระอานนท์ทูลความให้พระพุทธเจ้าทรงทราบ พระพุทธองค์ตรัสว่า อีก ๗ วัน เรื่องนี้จะปรากฏความจริง

    ฝ่ายพระราชา แม้จะมีหลักฐานปรากฏเช่นนั้นก็ยังไม่แน่พระทัย รับสั่งให้เจ้าพักงานออกทำการสืบสวนหาความจริง เจ้าพนักงานไปพบกับเหล่าโจรซึ่งกำลังเมามาย ต่างก็อวดตัวว่าเป็นคนฆ่านางสุนทรี จึงคุมตัวไปเฝ้าพระราชา ทรงสอบถามจนได้ความจริงว่า เหล่าเดียรถีย์เป็นผู้ว่าจ้างพวกตน พระราชามีรับสั่งให้จับเหล่าเดียรถีย์คุมตัวไปเดินประจานไปทั่วพระนคร พร้อมทั้งให้ร้องประกาศว่า "พวกตนเป็นผู้สั่งให้ฆ่านาง มิใช่เป็นการกระทำของเหล่าศากยสมณะ" จากนั้นจึงนำตัวไปลงโทษสถานหนักทั้งหมด

    ชื่อว่า กรรม แม้จะเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม เมื่อถึงวาระที่กรรมนั้นให้ผล แม้แต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐสุดในไตรภพ ก็ยังมิอาจหลีกเลี่ยงให้พ้นไปได้ด้วยประการฉะนี้

    ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๓ อรรถกถาพุทธวรรค พุทธาปทาน, ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓

    ที่มา http://www.gumara.com/node/228<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. เฌ

    เฌ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +415
    ถูกต้องผมก็ยินดีและชมเชย หากผิดเพี้ยนไปผมก็ตำหนิ และแสดงทัศนะคติความคิดเห็นลงไป โดยทั้งนี้ทั้งนั้นผมมิได้กระทำผิดกฏหมายแต่อย่างใด นี่เป็นบอร์ดสาธารณะซึ่งใครๆก็เสนอความคิดหรือไอเดียได้ เป็นประชาธิปไตยในด้านความคิด

    หากท่านไม่พอใจก็แบนผมไปเลยสิ เหมือนอย่างที่เคยๆทำยังไง!
    (f)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2010
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    อนุโมทนาด้วยนะ ถือว่าช่วยคนแ่ก่คนนั้นนะ :cool:
     
  6. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ชมพูทวีปเขาไม่ได้หมายความว่า โลก ทวีปที่หมายความว่าแหล่งที่พร้อมด้วยการเห็นทุกข์ เห็นการเวียนว้ายตายเกิด การเจ็บไข้ได้ป่วยของคนในแหล่งนั้นๆ และสุดท้ายถึงพร้อมด้วยการเห็นการดับทุกข์อย่างสิ้นเชิงหรือครับ ชมพูทวีปอะไรหมายถึงแค่อินเดีย นั้นมันหนัังจีนกับพวกที่เขาคิดว่าชมพูทวีปนั้นเป็นเพียงทวีปเล็กๆที่พระพุทธศาสนากำเนิดมั้งและเอามาเป็นสิ่งที่พูดต่อๆกันมาตามสารคดีตามทีวีเขามีให้ตั้งแต่เล็กจนโตแค่อินเดียจริงแล้ว คือแหล่งที่คนในยุคแห่งการหลุดพ้นในกัปนี้นะจ้า แงะ
     
  7. เฌ

    เฌ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +415
    ผมไม่ได้ปฏิเสธในเรื่องของกรรม เพราะสิ่งนี้มันคือกฏแห่งธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ และไม่มีใครฝ่าฝืนไปได้ และไม่จำเป็นต้องเอานรกสวรรค์มาขู่ผมหรอกท่าน

    พระพุทธเจ้า มีกรรมที่ผูกพันเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ...

    ๑. พระนางสิริมหามายา พระมารดาเจ้าชายสิทธัตถะ ต้องสิ้นพระชนม์ตั้งแต่เจ้าชายยังเป็นทารก เพียง ๗ วัน ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะต้องกำพร้าพระมารดา

    ๒. พระนางพิมพา ชายาแห่งเจ้าชายสิทธัตถะ เพิ่งกำเนิดโอรส แต่เจ้าชายสิทธัตถะก็ได้ทอดทิ้งไปเข้าป่าเป็นนักบวช ซึ่งหญิงที่โดนสามีทิ้งจะรู้สึกอย่างไร มีเพียงพระโอรสที่เพิ่งกำเนิดใหม่ แต่โดนพระบิดาทิ้งไป กำพร้าบิดาตั้งแต่เล็กนี่คือกำเนิดชาติของเจ้าชายราหุล

    ๓. พระเจ้าสุทโธทนะ ซึ่งเป็นพระบิดาของเจ้าชายสิทธัตถะ คาดหวังไว้ว่าพระโอรสของพระองค์คือจักรพรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่ สร้างปราสาท ๓ ฤดูให้ประทับ พร้อมสรรพด้วยความสำราญ แต่ปรากฎว่าเจ้าชายสิทธัตถะมิได้ดูแลราชสมบัติ แถมเข้าป่าไปบวช จะรู้สึกในพระทัยเยี่ยงไร?

    ๔. ราชวงศ์แห่งศากยะวงศ์ของพระพุทธองค์ถูกล้างบาง โดนฆ่าตายหมด และผู้ที่ดำเนินการฆ่าล้างราชวงศ์นั่นก็คือศิษย์สของพระองค์เอง ทำให้พระพุทธองค์ถึงขั้นกับปวดเศียรอย่างแรง ซึ่งถ้าหากเป็นใครๆ จะไม่ทุกข์อย่างนั้นหรือ?

    ๕. เอกอัครสาวกฝั่งซ้ายผู้ที่มีฤทธิ์เดชมาก ก็ยังต้องพ่ายแพ้กฏแห่งกรรม

    ๖. องคุลิมาร ผู้ที่ได้เป็นพระอรหันต์ฆ่าคนตายไป ๙๙๙ ยังต้องชดใช้หนี้กรรมเช่นกัน แต่โชคดีที่ยังไม่ได้ทำอนันตรกรรม มิเช่นนั้นคงต้องสูญเสียโอกาสไปอีกนานแสนนาน

    ๗. มีอีกแยะ ... เอาแค่นี้ก่อน

    แต่ในที่สุดพระพุทธองค์ท่านก็ได้ตรัสรู้ และได้สอนเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ด้วยสัจธรรมที่จริงแท้ ซึ่งในเรื่องกฏแห่งกรรมนั้นไม่มีใครฝืนกฏกติกาอันนี้ได้ ไม่ว่าเทวดา อินทร์ พรหม ล้วนต้องชดใช้กรรมกันทั้งนั้น และผมก็ยอมรับในสัจธรรมแห่งพระพุทธองค์ มากกว่าเชื่อหมอดูที่ท่านเกษมได้พยายามยกย่อง ประหนึ่งว่าเป็นที่พึ่งของท่านเกษมในยามตกยาก ... เยี่ยงนี้หรือ?

    ในเมื่อเราคือพุทธศาสนิกชน ทำให้เราต้องใช้สุตตยปัญญาหรือโยนิโสมนสิกา และเป็นโอปนยิโก นี่คือหลักแห่งการเสวนาธรรม ดั่งเช่นบัณฑิตหรือนักปราชญ์ต่างๆ พึงได้กระทำ นับแต่อดีตกาลที่ผ่านมา

    การเตือนก็คือการเตือน ผมก็ยอมรับฟังได้ทั้งหมด หากแต่การเตือนด้วยการบิดพลิ้ว บิดเบือนคำสอนแห่งศาสดา แล้วอ้างว่าเป็นไปในคำสอน โดยเฉพาะคำทำนายที่จะเกิดภัยพิบัติของหมอดูนั้น ผมไม่เห็นด้วยประการทั้งปวง

    ควรที่เหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย พึงศึกษาสัจธรรมที่มีอยู่ในพระไตรปิฏกเพียงแหล่งเดียวให้ถ่องแท้เถิด เพื่อความเป็นบุญกุศลที่เอนกอนันต์สืบต่อไป

    ปล. พระสงฆ์บางรูปก็ไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าศรัทธา ทำกรรมไว้มากเช่นกัน ดูดวง สะเดาะเคราะห์ เป่ายันต์ ใบ้หวย ประท้วง เล่นคุณไสย์ ทำพิธีทางไสยศาสตร์ ทำนายทายทักเหตุการณ์ต่างๆ นาๆ เสพย์ตัณหายิ่งกว่าฆราวาสปุถุชนคนธรรมนั้นมีอีกมากมาย ... อย่าไปเชื่อมาก เพราะพวกนี้เดี๋ยวอีกหน่อยกรรมจะจัดสรรเอง และไม่นานเกินรอ ....
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรียนท่านผู้อ่านกระทู้นี้ทุกๆ ท่านโปรดทราบ

    [​IMG]
    พระพุทธเจ้าต้องทรงทรมานกายถึง 6 ปี เพราะวจีกรรม​

    พระอรหันต์ท่านมีคุณอนันต์ หากใครได้ทำบุญด้วย

    พระอรหันต์ท่านมีโทษมหันต์ หากใครได้ทำบาปด้วย

    ก่อนที่ท่านจะเสนอความคิดเห็นใดๆ โปรดอ่านข้อความนี้ให้ขึ้นใจ แล้วท่านจะได้ไม่ต้องทำบาปกับพระอรหันต์ โดยเฉพาะพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นจอมอรหันต์ของพระอรหันต์ทั้งปวง คำทำนายของพระพุทธเจ้านี้จะเป็นของจริงหรือไม่ก็ตาม ท่านอย่าได้เอาตัวเข้ามาเสี่ยงโดยไม่จำเป็นเลย

    ถ้าคำทำนายนี้ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า ท่านก็เพียงเสมอตัว แต่ถ้าคำทำนายนี้เป็นของพระพุทธเจ้าจริงแล้ว หากท่านยังใช้คำพูดว่าร้ายไปด้วยประการต่างๆแล้วไซร้ ก็เท่ากับท่านได้ทำบาปกับพระอรหันต์เข้าให้แล้ว ผมจึงขอเตือนว่าอย่าเสี่ยงจะดีกว่า เพราะมันไม่คุ้มค่าเลยที่ต้องไปใช้กรรมอย่างยาวนานในนรก เพียงเพราะการกล่าวคำปรามาสไป โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังตัวอย่างวิบากกรรมของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่ท่านได้กล่าวเตือนสติสาธุชนทั้งหลาย ให้ระวังเรื่องของวจีกรรมให้ดี ว่ามันมีโทษหนักหนาสาหัสเพียงใด

    ผมจึงขอเตือนว่ามันอันตรายจริงๆ นะครับ ขอบอก<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พระ(มีสมณศักดิ์)ใหญ่ลงอเวจี
    (พระธรรมเทศนาโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    [​IMG]
    ภาพพระเทวทัตถูกธรณีสูบลงอเวจีมหานรก

    หลังจากฉันฟื้นจากตายได้ไม่ครบ ๑ ปีดี พระที่ท่านยายกับท่านแม่ชอบนิมนต์มาเทศน์ และเป็นพระองค์เดียวกันกับที่ท่านหาว่าฉันมีอารมณ์ใกล้บ้า เพราะชอบเอาเรื่องของคนตกนรกมาเล่าให้ท่านยายฟังเกือบทุกวัน ​

    ทั้งนี้เพราะท่านยายชอบฟังเรื่องคนตกนรก และเขาทำอะไรมาจึงลงนรก เพราะท่านยายชอบฟังเรื่องนรกนี่เอง ฉันก็เลยต้องลงนรกเป็นประจำวัน เวลาไปนรกฉันไปไหนไม่ได้ นอกจากยืนอยู่ที่ยอดเขาที่ตาลุงแกสั่งว่าห้ามเข้า ​

    ความจริงมีสิทธิ์จะไปได้ แต่ทว่าตอนนั้นฉันเป็นเด็กไม่รู้เรื่องธัมมะธัมโมอะไรกับเขาเลย ปกติก็เป็นคนเคารพในคำสั่งของท่านยายและท่านแม่เคร่งครัดอยู่แล้ว เรื่องคำสั่งไม่เคยละเมิด เว้นไว้แต่เป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็เลยไม่ถูกลงโทษเพราะขัดคำสั่ง แม้อยู่โรงเรียนเรื่องขัดคำสั่งไม่เคยถูกลงโทษเลย เมื่อไปเมืองนรกก็เลยไม่กล้าขัดคำสั่งตาลุง แต่ก็ทำให้ตาลุงคนนั้นลำบากไม่น้อย เพราะถ้าฉันเกิดสงสัยไม่เข้าใจอะไร ฉันก็นึกถึงตาลุงคนนั้น เมื่อนึกถึงแก ๆ ก็มาหาทันที ถามอะไรแกก็บอกให้ฟังละเอียดตามที่ต้องการรู้ ​

    เมื่อฉันได้ยินข่าวว่าท่านเจ้าคุณที่คุณยายนับถือมาตาย ท่านเจ้าคุณองค์นี้ฉันไม่ไหว้และไม่ยอมประเคนของ ด้วยเกลียดท่านที่ท่านหาว่าเรื่องนรกที่ฉันเล่าให้ท่านยายฟังเป็นเรื่องโกหกพกลม ตัวท่านเองท่านพูดว่า บวชมา ๓๐ ปีเศษแล้ว ไม่เคยเห็นนรกสักนิด ฉันเลยเกลียดท่าน ด้วยคิดว่าพระแบบนี้หลอกลวงชาวบ้านหากิน เป็นความคิดของเด็กโง่ที่ยังไม่ได้ศึกษาธรรม เลยไม่ยอมเคารพ แม้แต่นิ้ว ๑๐ นิ้ว ก็เสียดายเวลาที่จะยกมือไหว้ท่าน ​

    เมื่อท่านมา ท่านยายให้ประเคนของก็ไม่ยอมประเคน โดยเรียนท่านยายต่อหน้าท่านว่า พระที่มีความสามารถไม่เท่าเด็กไม่อยากให้อะไร ท่านโกรธมาก เพราะท่านเป็นเจ้าคุณ วัดอยู่ฝั่งพระนคร ท่านมีศักดิ์ใหญ่ แต่ท่านจะทำอะไรฉันได้ในเมื่อฉันไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของท่าน ท่านยายไม่กล้าขัดใจฉัน ​

    เมื่อทราบข่าวว่าท่านเจ้าคุณตาย ท่านยายไปเยี่ยมศพท่าน ไม่ได้ชวนฉันไป ถ้าชวนฉันก็ไม่ไปเพราะเกลียดมาก เมื่อท่านอยากไปเยี่ยมศพท่านเจ้าคุณ ฉันว่างเพราะไม่มีคนสั่งงาน ฉันไปนั่งเล่นที่ชานบ้าน บ้านอยู่ริมน้ำ มีต้นจากที่ปลายสะพาน ๑ ต้น ฉันไปนั่งในต้นจาก เอากระดานพาดทางจาก ด้วยจากต้นนั้นท่านยายปลูกไว้นาน ต้นใหญ่มาก เมื่อลมพัดเย็นสบายใจก็เลยคิดว่าท่านเจ้าคุณท่านตายแล้วท่านจะไปทางไหน จะไปถามตาลุงดู ​

    จึงนึกถึงพระรูปสวยองค์ที่เคยมาหาฉัน พอภาวนาว่าพุทโธ ๓ คำ ท่านก็มาหา ท่านยิ้ม ก็กราบเรียนท่านว่าผมอยากไปดูนรก ท่านยิ้มอีกครั้ง ฉันก็ปรากฏตัวอยู่บนยอดเขาลูกที่เคยไป เมื่อไปถึงก็นึกถึงตาลุงๆก็มาหา แกถามว่าหลานต้องการพบทำไม บอกแกว่าได้ข่าวว่าพระตาย ๑ องค์ มีชื่อว่า.... เขามีชื่อว่าอะไรจะบอกชาวบ้านทำไม ไม่บอกให้รู้แต่บอกให้ตาลุงรู้ เมื่อตาลุงทราบแล้วก็บอกว่าเขาตัดสินแล้ว ขณะนี้อยู่ในอเวจี ​

    ถามแกอีกว่าพระตกนรกด้วยหรือ แกตอบว่า พระตกนรกเป็นประจำ เพราะพระบวชแล้วไม่ทำตัวเป็นพระก็ต้องตกนรก ถามแกว่า พระเทศน์สอนชาวบ้านเรื่องนรกสวรรค์ได้ ทำไมต้องตกนรก แกตอบว่า ก็พระดีแต่สอนชาวบ้าน ตัวเองไม่ได้ปฏิบัติตนตามที่สอนเขา บอกให้คนอื่นทำดี แต่ตัวไม่ทำด้วย พระอย่างนี้ลงนรกหมด และมีโทษหนักมาก ฉันอยากเห็นท่านเจ้าคุณ ก็บอกตาลุงว่าผมอยากเห็นท่านเจ้าคุณ แกก็บอกว่าได้ แล้วก็ร่ายเวท แกยกมือขึ้นเท่านั้นเองแล้วก็ปรากฏว่าภาพอเวจีมาปรากฏใกล้ตัวฉัน ฉันเห็นท่านเจ้าคุณฉันก็จำได้ ภาพของท่านที่ปรากฏมีดังนี้​

    ๑. ยืนกางแขน มีหอกปักจากเพดานเหล็กด้านบนปักติดอยู่ที่มือทั้ง ๒ ข้าง ปลายด้ามหอกติดเพดาน หัวหอกติดพื้นเหล็กด้านล่างที่เป็นพื้น​

    ๒. หอกปักด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้าง ตรงหัวสลับกัน ส่วนหอกด้านปลาย และด้าม ตรึงติดกำแพงเรื่องหอกเว้นพรรณนา เป็นอันว่าปักยึดจนขยับเขยื้อนไม่ไหว ถามท่านลุงว่า ท่านเจ้าคุณมีโทษอะไร มีหอกปักตรึงแล้วมีเปลวไฟละเอียดร้อนมากกว่านรกทุกขุมพุ่งมาเผาตลอดเวลา ตาลุงบอกว่าลุงจะไม่บอก จะให้ท่านบอกเอง ​

    แล้วตาลุงก็บอกให้แกขึ้นมาหา พอตาลุงเรียก ปรากฏว่าเครื่องพันธนาการหลุดหมด ไฟดับ ท่านเดินขึ้นมา ท่านเห็นฉันเข้า ท่านกล่าวขออภัย ท่านลุงบอกว่าการขออภัยขณะนี้ไม่มีประโยชน์ เพราะโทษที่เหยียดหยามผู้ทรงฌาน ถูกตัดสินแล้ว ฉันถามท่านลุงว่าใครเป็นผู้ทรงฌาน ท่านลุงบอกว่าเธอนั่นแหละเป็นผู้ทรงฌาน คำนี้ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันคิดว่าเมื่อฉันจะมาฉันเดินไปที่ชานบ้านไปที่สะพานติดกับชาน ฉันเอาสะพาน พาดก้านจาก เพราะเหตุนี้กระมังที่เขาเรียกว่าผู้ทรงฌาน แต่ฉันก็ไม่ได้ถามเรื่องนี้กับตาลุง ตาลุงบอกให้ท่านเจ้าคุณนรกบอกเรื่องที่ตนทำผิดเมื่อตายแล้วลงอเวจี ท่านเจ้าคุณบรรยายให้ฟังดังนี้​

    ๑. เมื่อบวชแล้วไม่สนใจในการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ สมถะ วิปัสสนา ไม่เคยสนใจ ผิดความหมายของพระ ด้วยพระเป็นสรณะที่พึ่งระดับ ๑ ใน ๓ ระดับ เมื่อทำตนไม่สมควร จัดเป็นความผิด คือ เป็นคนลวงโลกหลอกลวง ชาวบ้านว่าเป็นพระ เอาเปรียบชาวบ้าน​

    ๒. ศึกษาพระปริยัติธรรมแล้วไม่ยอมประพฤติตามธรรม มุ่งเอาความรู้ไปสอนชาวบ้าน เป็นทางนำทรัพย์สินให้เกิดแก่ตน ไม่เคยนำทรัพย์นั้นๆ ไปสงเคราะห์ส่วนสาธารณะประโยชน์หรือบำรุงพระศาสนา เอาไปซื้อที่ดิน ซื้อทอง ให้กู้ อันเป็นวิสัยของฆารวาส พระท่านห้ามไม่ให้ทำ แต่ฝืนทำ​

    ๓. เมื่อมีทรัพย์ก็มีความทะเยอทะยานอยากได้ยศ เมื่อมียศแล้วก็เมายศคิดว่าตัววิเศษ แม้แต่ผู้ทรงฌานแกพูดแล้วแกชี้มาที่ฉัน ก็ยังกล้าคัดค้านเหยียดหยาม เป็นการทำลายพระพุทธศาสนาโดยตรง​

    ๔. ในฐานะที่ท่านเป็นพระทรงสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ สมัยนั้นพระราชาคณะ ไม่มีสะพรั่งเหมือนดอกเห็ดอย่างสมัยนี้ ใครเป็นพระครูหรือเจ้าคุณ ศักดิ์ศรีท่านใหญ่น่าดู เจ้าคุณหายากเหมือนหาหัวอุตพิด และมีพิษมาก ฃเพราะจะไปที่ไหนต้องต้อนรับกันอย่างเจ้า (เจ้าไม่มีศาล) เมื่อเป็นพระมีศักดิ์ใหญ่ อำนาจก็ต้องใหญ่ ครองความเป็นใหญ่ไว้มาก ลูกน้องใต้บังคับบัญชาก็มาก ใครอยากได้ยศได้ตำแหน่งก็ต้องเสียเงินตามอัตราของตะกร้าใหญ่ ต้องนิมนต์เทศน์ติดเงินก้อนใหญ่ๆ เวลามาขอยศขอตำแหน่งก็ต้องหาพานมาประเคนมีแบงค์ใบใหญ่ๆ ท่านก็เลยกลายเป็นพระมหาเศรษฐีใหญ่ มีลูกหนี้ใหญ่ ๆ คือมีเงินให้กู้มาก ๆ มีทองจำนำเส้นใหญ่ๆ มีกระเป๋าใส่เงินใบใหญ่ ๆ แล้วก็เลยตกนรกขุมใหญ่ มีความทุกข์ทรมานใหญ่ รวมความแล้วท่านเป็นพระใหญ่ หลอกลวงใหญ่ เป็นมหาเศรษฐีใหญ่ ตกนรกขุมใหญ่ สมกับวาสนาบารมีใหญ่​

    ได้ถามท่านว่า ขณะนี้มีทรัพย์สินอะไรที่พอจะเป็นเครื่องยืนยันความใหญ่ของท่านบ้าง ท่านตอบว่า ตามที่คณะกรรมการสำรวจสิ่งของที่ได้แล้วขณะนี้ มีเงินสดอยู่ ๗๓,๐๓๒.๗๕ บาท ทองคำที่รับจำนวนไว้ ๓๕ บาท ทองคำที่ซื้อไว้เองเพื่อเตรียมหมั้นแม่สาวน้อยเจ้าของร้านขายของมีค่ามีน้ำหนัก ๕๐ บาท ของที่คณะกรรมการตรวจพบไม่ได้ คือ เงินที่ชาวบ้านกู้ไปอีก ๔ หมื่นบาทเศษ อันนี้ไม่มีหลักฐาน ถามท่านว่าของที่ว่ามีขณะนี้อยู่ที่ไหน ท่านบอกว่าคณะกรรมการควบคุมไว้ ถามท่านอีกว่าวันนี้คุณยายไปเยี่ยมศพท่าน คุณยายจะทราบเรื่องนี้ไหม ท่านตอบว่าทราบ เพราะกรรมการเขาเขียนทรัพย์สินที่ค้นได้ใส่แผ่นกระดาษประกาศไว้ ดีใจที่ได้หลักฐานมายืนยันกับท่านยาย​

    ๕. ที่ท่านว่าเป็นกรรมหนักในฐานะที่ท่านเป็นพระปลอม คือ บวชแต่ตัว และมัวเมาในลาภ ยศ สรรเสริญ และกามสุข มีพระที่มีศีลบริสุทธิ์บ้าง มีสมาธิตั้งมั่นบ้าง มีวิปัสสนาดีที่เป็นอริยเจ้ามาไหว้ท่าน ท่านก็เลยทำใหญ่ในฐานะเป็นเจ้าคุณ กรรมนี้อีกข้อหนึ่งที่ชวนท่านลงอเวจี​

    เมื่อได้เรื่องแล้วก็ดีใจมาก ลาตาลุงกลับ ท่านเจ้าคุณก็ลงนรกไปตามตำแหน่งใหญ่ของท่าน เมื่อคุณยายกลับก็เอาเรื่องทรัพย์สินของท่านเจ้าคุณออกบรรยาย คุณยายตกใจมาก ถามว่า พ่อเล็กรู้มาได้อย่างไร เรียนท่านว่าเมื่อคุณยายไปฝั่งโน้น ฝั่งพระนคร ชาวธนบุรีเรียกว่าฝั่งโน้น สมัยนั้นจากตลิ่งชันก็ไปลำบาก ต้องมีเรือยนต์หรือไปเรือโดยสาร ที่บ้านไม่มีเรือยนต์ก็ต้องอาศัยเรือโดยสารขนาดเล็กของพระยาภิรมย์ภักดี ออกเป็นเวลา วันหนึ่งเรือออกไม่เกิน ​

    ๕ เที่ยว การที่จะแอบอ่านป้ายเอามาเบ่งนั้นไม่มีทางทำได้แน่ เมื่อคุณยายท่านฟังแล้วท่านจึงแปลกใจถามว่าทราบมาได้อย่างไร จึงเรียนท่านว่า เมื่อคุณยายไปเยี่ยมศพท่านเจ้าคุณ ผมก็ไปสืบทางเมืองนรก พบท่านเจ้าคุณลงอเวจี ท่านลุงเรียกมาให้เล่าความประพฤติเมื่อท่านมีชีวิต ท่านเจ้าคุณบอกให้ฟัง ผมจึงทราบ เมื่อพูดจบท่านยายก็เรียกน้าสมใจที่ไปด้วยให้เอากระดาษที่จดทรัพย์สินท่านเจ้าคุณที่คณะกรรมการเขียนประกาศไว้ น้าสมใจอ่านให้ท่านฟัง เมื่ออ่านแล้วน้าสมใจก็บอกว่าตรงกันทุกอย่าง ท่านยายถึงกับเปล่งอุทานว่าไม่น่าเลย พระใหญ่พระโตทำไมเลวทรามอย่างนี้ พ่อเล็กไม่เคารพนั้นถูกแล้ว ยายเองเสียอีกยังโง่กว่าพ่อเล็ก​

    นี่เป็นมุมหนึ่งของนรกที่ใคร ๆ ก็สามารถเห็นได้บวชเพื่อความเป็นพระ แต่ถ้าท่านบวชกันเพื่อแสวงหาความรู้มาเป็นอาชีพ หรือเพื่อยศศักดิ์ เพื่อลาภผล เพื่อเป็นเหยื่อล่อสตรีที่เห็นว่าดีว่างาม ท่านไปตามท่านเจ้าคุณองค์นี้ ถ้าบวชแล้วปฏิบัติตามคำปฏิบัติตามคำปฏิญาณที่ให้ไว้เมื่อวันบวชว่า "นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา ปัพพาเชถะ มัง ภันเต" เขียนตัวหนังสืออาจพลาดจังหวะบ้างก็ช่างมัน แปลความว่า ท่านทั้งหลาย ข้าฯ ขอรับผ้ากาสาวพัสตร์เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน เป็นอันว่าท่านที่บวชเพื่อเข้าถึงพระนิพพานทุกองค์ เรื่องเห็นนรกสวรรค์เป็นเรื่องกล้วย ๆ ไม่มีอะไรหนักเลย ถ้าทำไม่เห็นก็จงทำตามแบบเจ้าเล็กเด็กอายุ ๑๒ ปี เอาแบบฉบับของเจ้าเด็กคนนี้เป็นครู มันก็คงไม่ยากอะไรเลย คุณยายหลังจากทราบเกียรติความดีเด่นระดับอเวจีของท่านเจ้าคุณแล้ว ต่อนั้นมาท่านพยายามหาแต่พระที่ควรบูชาเท่านั้น คนที่เป็นนักดูพระก็คือเจ้าเล็กคนเดนตายนั่นเอง เมื่อท่านยายปรึกษาจะหาพระมาเทศน์ เจ้าเล็กก็ต้องไปหาตาลุง ตาลุงก็ชี้พระพอที่จะพบได้ในสมัยนั้น อยู่ไม่ไกลเกินไป ก็คือ​

    ๑. ท่านพระครูพิทักษ์สุวรรณบรรพต คณะ ๑๑ วัดสระเกศ จ.พระนคร
    ๒. ท่านอาจารย์พริ้ง วัดมะกอก จ.พระนคร
    ๓. หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ จ.ธนบุรี
    ๔. หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๕. หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๖. หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๗. หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
    ๘. หลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี​

    แกบอกว่ามีอีกมาก เป็นพระอริยะก็มี เป็นพระโพธิสัตว์ก็มี ที่บอกมาแล้วนั้นมีทั้งพระอริยะและพระโพธิสัตว์ ทำบุญด้วยผลมากกว่าการลงทุน ท่านยายเคยรู้จักหลวงพ่อปานมาก่อน เมื่อเห็นหลวงพ่อปานติดอยู่ในบัญชีพระดีก็เลยไม่ไปไหน เกาะหลวงพ่อปานแจ คือ ยึดความรู้ที่หลวงพ่อปานสอนแบบง่าย ๆ ท่านภาวนาคำว่าพุทโธจนท่านสิ้นลมปราณ คือ พอขาดเสียง ท่านก็หมดลมพอดี ตอนจะตายถามท่านว่าคุณยายเห็นอะไร ท่านตอบว่าเห็นพระพุทธ ถามท่านว่าสวยไหมครับ ท่านบอกว่าสวยมาก และท่านก็บอกว่าพระท่านสวยมากขึ้นทุกที ​

    ในที่สุดหลวงพ่อองค์ยิ้มท่านก็มา ท่านใกล้จะสิ้นลมปราณเต็มที แต่ท่านสติดีมาก ท่านยิ้มทั้ง ๆ ที่ปากก็ว่าพุทโธ ท่านบอกว่า พ่อเล็ก หลวงพ่อองค์ยิ้มของหลานมาหายายแล้ว ถามว่าคุณยายอยากไปไหนครับ คุณยายบอกท่าน ท่านพาไปได้ ท่านยายบอกว่ายายไม่อยากเกิด ยายเบื่อเกิด ถามว่าท่านว่าอย่างไร ท่านยายบอกว่า ท่านยิ้มแล้วบอกว่าจะเอาไปพักในที่ไม่ต้องกลับมาเกิด ต่อไปจะสบายมาก ท่านยายเรียก พ่อเล็กจุดธูปให้ยาย ๕ ดอก เอาดอกบัวมา ๕ ดอก จุดเทียนด้วย ยายจะเอาไปไหว้พระจุฬามณี ยายเห็นบ้านยายแล้ว พระท่านชี้ให้ดู เมื่อจุดธูปเสร็จบอกท่านให้ทราบ ท่านบอกว่า ท่านขอลาทุกคน อะไรที่ล่วงเกินกันขอให้ต่างอภัยกัน แล้วท่านก็ว่าพุทโธ ๆ ๆ จนท่านสิ้นลมปราณ เมื่อคุณยายตายก็เลยถือโอกาสไปหาท่านลุง เมื่อพบแล้วถามท่านว่าคุณยายไปอยู่ที่ไหน ท่านลุงบอกว่าอยู่ดาวดึงส์ ถามว่าท่านยายจะมาเกิดอีกไหม ท่านลุงบอกว่า บารมีเขาดี เขาจะนิพพานบนสวรรค์ ฉันฟังแล้วไม่รู้เรื่องเลยว่านิพพานเป็นอย่างไร ​

    คัดลอกมาจากหนังสือ ประวัติหลวงปู่ปาน หน้าที่ 17-19


    [​IMG]

    หมายเหตุ

    ที่ผมจำเป็นต้องนำเรื่อง"พระ(มีสมณศักดิ์)ใหญ่ลงอเวจี" นี้มาโพสไว้ในกระทู้นี้ก็เพื่อจะเตือนสติให้ผู้ที่ชอบใช้ "วจีกรรม" ทำร้ายจิตใจของผู้อื่นอยู่เป็นอาจิณกรรม จะได้รู้ว่า จะต้องรับผลแห่งการใช้คำพูด ทิ่มแทงจิตใจของคนอื่นนั้น จะต้องได้รับผลกรรมอย่างไรบ้าง เนื่องด้วยคำทำนายส่วนใหญ่ในกระทู้นี้ เป็นคำบอกเตือนมาจากพระอริยเจ้าผู้ทรงศีลทรงธรรมอันบริสุทธิ์ และจาก "ผู้ทรงฌาน" ทั้งที่เป็นพระและฆราวาสอีกหลายท่านด้วยกัน

    การแสดงความคิดเห็นที่ "ไม่เห็นด้วย" ด้วยถ้อยคำที่สุภาพนั้นไม่ผิด แต่การเลือกใช้ถ้อยคำที่ เสียดสี กระทบกระแทก แดกดัน เยาะเย้ย ถากถาง ประชดประชัน อาฆาตมาดร้าย ให้ผู้ฟังเกิดความเจ็บช้ำน้ำใจนั้น เป็นการล่วงละเมิดในกรรมบถ 10 ด้านวจีกรรม เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ทรงฌาน และพระอริยสงฆ์อีกหลายองค์ด้วย

    เพราะฉะนั้นท่านที่ตั้งใจ กดปุ่มอนุโมทนา (ร่วมยินดีในการกระทำ) ให้กับคำพูดที่เหยียดหยามผู้ทรงฌานเหล่านั้น ก็ย่อมจะได้รับผลกรรมนั้นร่วมกันไปด้วย ผมจึงจำเป็นต้องนำเรื่องพระ(มีสมณศักดิ์)ใหญ่ลงอเวจีนี้ มาโพสเอาไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ไม่ให้ผู้ใดทำตามและไม่ให้ผู้ใดเอาเป็นเยี่ยงอย่างครับ


    **********************************************​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2010
  10. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446

    เราไม่ว่า ไม่เเบนหรอก เราไม่มีสิทธิ์เเละเราก็เฉยๆด้วย เมื่อกี้ลืมเขียนกำกับว่าถามดูเฉยๆ :)
    ความจริงข้อความอื่นเราก็ไม่รู้สึกอะไรกับข้อความอื่นๆหรอกเเต่ไม่เห็นด้วย
    เเต่อันสุดท้ายที่คุณเขียนกะเเนะกะเเหนอ่ะคะ เเล้วตอนท้ายก็บอกว่าไม่พอใจเเบน เหมือนอย่างที่เคย งง มากเราเเบนได้หรือเเบนที่ไหน? งง เพราะเราก็ไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น บอกตรงๆเราเฉยๆเเต่เเค่เรา งงๆ

    เราถามดูเฉยๆ ก็ งงๆ เฌเป็นผู้หญิงหรือเปล่าทำไมประชดประชันเก่งจัง ขนาดชมคุณเมทิกา ยังมีเเอบว่าคนอื่นตอนท้ายด้วย ส่วนความรู้เรื่องอื่นที่ให้มา หรือการเตือนสติก็ขอบคุณมาก เเต่มาตอนเดียวที่มันไม่เเฟร์นี่เเหละคือประชดประชันตอนท้ายเนี่ย ป.ล.ที่พูดไม่ได้หมายถึงสนับสนุนให้ทุกคนมายึดหมอดูเป็นสรณะ เเค่พูดถึงนิสัยเฉยๆ การกระทำที่คุณทำไม่ผิดกฎหมายหรอก เเต่มันเเค่ทำให้คนเขาเสียกำลังใจเฉยๆ
    จะทำอะไรต่อก็ได้เราไม่ไรหรอก เเต่ขอเสนอเเนะนิดหนึ่งนะคะ

    การที่เราจะชี้เเนะคนอื่นเเละเราไม่เห็นด้วยนั้นสามารถทำได้ อย่างยกเหตุผลยกข้อมูลมาชี้เเจงกันก็ถูกเเล้วอันนี้เราก็เห็นชอบด้วย เเต่ถ้าประโยคเเห่งการประชดประชันมันอยู่นอกเกมส์เเละไม่เป็นประชาธิปไตยที่น่าสรรเสริญสักเท่าใด เราเล่นในเกมส์เราก็ควรจบในเกมส์ ไม่มีทิ้งท้ายโยนลูกบอลใส่ฝ่ายตรงข้าม
    ออ บางทีการที่เราจะชี้เเนะหรือสอนคนก็ไม่จำเป็นต้องด่าหรือประชดประชันเสมอไป เพราะบัวมีสี่เหล่าเเละเเต่ละคนก็จริตไม่เหมือนกัน เเต่ยังไงก็ขอบคุณในความหวังดีที่มีต่อทุกคน

    เท่านี้เเหละค่ะ

    อ่อมีดอกไม้มาฝากด้วย
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2010
  11. ธีรยุทธ

    ธีรยุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +750

    รู้สึกเหมือนจะเกี่ยวข้อง กับการ ที่ เขมร จะ บุก ไทย ในอนาคต อันใกล้นี้
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เขื่อนสิรินธรเจอวิกฤต เกรงกระทบทำนาปี

    [​IMG]

    สถานการณ์ภัยแล้ง ทำให้เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำลดลงกว่าครึ่ง พร้อมหยุดจ่ายน้ำส่งไปหล่อเลี้ยงการปลูกข้าวนาปรังของเกษตรกรที่อยู่ในเขตชลประทาน เพื่อรักษาระดับน้ำในเขื่อนไม่ให้ลดต่ำจนเข้าสู่ระดับวิกฤต.....

    เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.นายชาญณรงค์ จันทร์มงคล วิศวกรระดับ 10 ผู้ช่วยหัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธรและปากมูล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ ทำให้เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีความจุอ่าง 1,966 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลงเหลือ 880 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 44.87 เนื่องจากเจอกับวิกฤตภัยแล้ง ระดับน้ำลดลงกว่าครึ่ง โดยในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมาเขื่อนสิรินธรได้ทำการจ่ายน้ำให้กรมชลประทาน ส่งไปหล่อเลี้ยงการปลูกข้าวนาปรังของเกษตรกรที่อยู่ในเขตชลประทานกว่า 150 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้หยุดจ่ายน้ำหลังสิ้นฤดูการเพาะ ปลูกข้าวนาปรังไปแล้ว เพื่อรักษาระดับน้ำในเขื่อนไม่ให้ลดต่ำจนเข้าสู่ระดับวิกฤต

    สำหรับระดับน้ำในปัจจุบันยังเพียงพอแก่การอุปโภคและบริโภคของประชาชนที่ อาศัยอยู่สองฝั่งลำน้ำ ส่วนการจ่ายน้ำเพื่อใช้ทำนาปีที่กำลังจะเริ่มขึ้นนั้น ต้องพิจารณาจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอีกครั้งว่าจะมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการ กักเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้าด้วยหรือไม่ จึงขอให้เกษตรตรวจดูปริมาณน้ำที่ที่กักเก็บไว้ในบ่อ หรือลำห้วย ก่อนลงมือทำนาปีเพื่อลดการสูญเสียหากเขื่อนไม่สามารถจ่ายน้ำได้

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2553

    มนุษย์แมลงดีขึ้น รักษาทางจิต หมอเล็งแจงญาติ

    [​IMG]

    จิตแพทย์ รพ.ลำปางและรพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ แถลงอาการของ 'มนุษย์แมลง' รักษาอาการทางจิตดีขึ้น ยัน ไม่ได้กล่าวหาเป็นบ้า ขณะไม่มีแมลงบินออกจากตัวผู้ป่วยแล้ว...

    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. 2553 ที่ห้องประชุม 1 รพ.ลำปาง นายแพทย์ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ นายแพทย์เวชกรรมป้องกันสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้แถลงข่าวร่วมกับแพทย์ฝ่ายสุขภาพจิต นายแพทย์สุวัฒน์ นิรันดร์กุล แพทย์หญิงศศิธร ยิ่งเสรี จิตแพทย์รพ.ลำปาง และแพทย์หญิงนิภาวรรณ พรมอุทัย ติตแพทย์จากรพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่

    กรณีนายบุญธรรม สุริยวงค์ อายุ 52 ปี ชาวบ้านดอกสะบันงา หมู่ 8 ต.ป่าตัน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ที่ป่วยมีตุ่มออกตามตัวและมีแมลงไม่ทราบชนิดบินออกจากตุ่มจนประชาชนหวาดกลัวกัน ซึ่งทางนายแพทย์ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ นายแพทย์ด้านเวชกรรมป้องกันสาธารณะสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ภายหลังจากที่ทางผู้เชี่ยวชาญจากฝ่ายจิตแพทย์ได้นำตัวผู้ป่วยเข้ามาบำบัดรักษาด้านสุขภาพจิตที่ รพ.ศูนย์ลำปาง เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา อาการของ นายบุญธรรม สุริยะวงค์ ก็มีอาการดีขึ้นพูดคุยกับจิตแพทย์อย่างสนุกสนาน อีกทั้งตุ่มที่ออกตามแขนบางตุ่มก็แห้งตกเกล็ด บางตุ่มยังสุกแด งและไม่พบว่ามีแมลงบินออกจากตุ่มเหมือนที่เข้ารักษาตัวที่ รพ.อำเภอแม่ทะ เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับแมลงที่พบในตัวของคนป่วยทางผู้เชี่ยวชาญด้านแมลงจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ตรวจสอบแมลงที่ผู้ป่วยบอกว่า บินออกมาจากร่างกายพบว่าเป็นแมลงตามธรรมชาติของไทยไม่ได้เป็นแมลงประหลาดหรือแปลกใหม่ไม่มีอันตรายเป็นพิเศษ จากข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปางจึงขอสรุปว่า อย่าได้ตื่นกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งทางคณะแพทย์จะได้เฝ้าดูแลอาการของคนป่วยอย่างใกล้ชิด และ จะได้ให้ทางจิตแพทย์วางแนวทางในการดูแลรักษาคนป่วยรายนี้ให้ดีที่สุด

    ส่วนทางด้านของญาติพี่น้องของผู้ป่วย ที่ไม่พอใจกับทางแพทย์ที่กล่าวหาว่าคนป่วยเป็นโรคจิต ทั้งๆ ที่ตามข้อเท็จจริงทางแพทย์ รพ.อำเภอแม่ทะ ซึ่งเป็นคนรับคนไข้เข้ามารักษาเป็นคนแรกเห็นแมลงบินออกจากตุ่มอย่างชัดเจน จึงเคลือบแคลงว่าแพทย์ รพ.ลำปางด่วนสรุปหนีความจริง นายแพทย์ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ แพทย์ด้านเวชกรรมป้องกันสาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ทางคณะแพทย์ผู้รักษามีจรรยาบรรณของแพทย์ ระบุสาเหตุตามข้อเท็จจริงว่า คนไข้รายนี้มีสุขภาพจิตไม่ปกติ อาจมีการเหม่อลอยอยู่เป็นบางครั้ง และยังวิเคราะห์ตรวจพบว่ามีสารของยาเสพติดตกค้างอยู่ในร่างกายของผู้ป่วยอีกด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ทางจิตแพทย์ทั้ง 3 ท่าน จะได้พูดคุยกับทางญาติของผู้ป่วยตามความเป็นจริงอีกครั้ง และ ขอยืนยันว่า ขณะนี้ไม่มีแมลงบินออกจากตุ่มของคนป่วยแล้ว ขอให้ประชาชนอย่าได้วิตกกับเรื่องนี้ให้มากเกินและขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ร่วมกันแก้ไขและนำเสนอข่าวให้ประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2553

    โจรใต้ยิงโหด!อดีตทหารพรานดับพร้อมเมีย

    [​IMG]

    คนร้ายซุ่มอยู่ริมถนนในหมู่บ้านสุหงาการี ม.7 ต.ปุยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี ก่อนใช้อาวุธปืนกราดยิงอย่างไม่ยั้ง อดีตทหารพราน และภรรยา เสียชีวิตจมกองเลือดบนถนน ส่วนลูกบาดเจ็บสาหัส.....

    เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.เวลา 20.30 น. พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา ผกก.เมือง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุเหตุยิงกันบนถนนในหมู่บ้านสุหงาการี ม.7 ต.ปุยุด อ.เมือง จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบในพื้นที่ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าจอดอยู่บนถนน สภาพถูกยิงพรุนรอบคัน และมีผู้เสียชีวิต 2 รายจมกองเลือดบนถนน ทราบชื่อนายมูฮัมหมัดสุกรี อาเด็ง อายุ 32 ปี อดีตทหารพรานที่ 44 และนางอามีเนาะ อาเด็ง 25 ปี ภรรยา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามหลายนัด นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บคือ ด.ญ.โซเฟีย อาเด็ง อายุ 2 ขวบ กระสุนถูกข้อมือ ซึ่งได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บปลอกอาก้าจำนวนหลายปลอกไว้เป็นหลักฐาน

    จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งหมดกำลังเดินทางด้วยรถยนต์กลับบ้านพักซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงอีก 500 เมตร แต่ระหว่างทางมีกลุ่มคนร้ายซุ่มอยู่ริมถนนและใช้อาวุธปืนกราดยิงอย่างไม่ยั้ง ทำให้ทั้งคู่พยายามวิ่งหนีออกจากรถแต่ถูกตามยิงจนเสียชีวิตจมกองเลือดบนถนน จากนั้นชาวบ้านได้ยินเสียงปืนจึงได้พยายามออกมาช่วยเหลือแต่พบว่าทั้งคู่ เสียชีวิตแล้ว จึงได้นำเด็กส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุนั้น เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2553

    สเปรย์น้ำหวาน ขนมอันตราย กินถึงเป็นมะเร็ง

    [​IMG]

    สธ. เต้น สั่งเก็บ "สเปรย์น้ำหวาน" หลังทำ 15 นร.หนองบัวลำภู เข้า รพ. พบไม่มี อย. เตรียมดำเนินคดีผู้ผลิตฐานผลิตอาหารอันตราย พบเด็กนิยมกินเพราะทำลิ้นเปลี่ยนสีได้...

    วันที่ 19 มิ.ย. 2553 นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกรณีที่มีข่าวนักเรียนโรงเรียนบ้านกุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู 15 คน เข้ารักษาในโรงพยาบาล ด้วยอาการปวดท้องและปวดศีรษะ หลังจากซื้อเครื่องดื่มที่มีลักษณะเป็นสเปรย์กลิ่นผลไม้ ฉลากแสดงภาพเด็กแลบลิ้นสีแดงและมีข้อความภาษาอังกฤษคำว่าฟรุ๊ต แฟลเวอร์ (Fruits Flavor) หรือกลิ่นรสผลไม้ เด็กซื้อมาจากร้านค้านอกโรงเรียนราคาขวดละ 5 บาท นำมากินโดยการฉีดเข้าไปในปาก

    จากการตรวจสอบพบเป็นเครื่องดื่มบรรจุในขวดพลาสติกหลายสี ไม่พบเครื่องหมาย อย. เมื่อฉีดใส่ปากจะทำให้ลิ้นเปลี่ยนเป็นสี ตามที่ซื้อมา และมีกลิ่นรสผลไม้ ทำให้เด็กชอบและนิยมซื้อมากิน เด็กบางคนดื่มเข้าไปมากถึง 3 ขวด ซึ่งหลังจากที่ครูประกาศเตือนอันตรายจากเครื่องดื่มชนิดดังกล่าว ปรากฏว่ามีเด็กนำส่งครู 110 ขวด ว่า เรื่องของขนมเด็กและอาหารสำเร็จรูปที่ไม่มีเครื่องหมาย อย. จัดเป็นอาหารผิดกฎหมาย มีความเสี่ยงอันตราย ทั้งในเรื่องมาตรฐานความสะอาด สารเคมี โลหะหนักอันตราย ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภูและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เฝ้าระวังและออกตรวจสอบตามแหล่งที่น่าจะมีวางขาย เช่นในหมู่บ้าน ตลาดนัด ตลาดทั่วไป รวมทั้งบริเวณหน้าโรงเรียน หากพบให้ดำเนินการตามกฎหมายผู้ค้าอย่างเฉียบขาด เพราะถือว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ขายสินค้าที่เป็นภัยต่อผู้บริโภค

    และขอย้ำเตือนให้ครูและผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องการลักลอบกระทำผิด หากพบขอให้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ และแจ้งสายด่วน อย. 1556 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ที่พบผลิตภัณฑ์

    ด้าน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า สิ่งที่เป็นกังวลเกี่ยวกับน้ำหวานรสผลไม้ที่ใส่สี มี 2 เรื่องใหญ่คือ การลักลอบใส่สีที่ไม่ใช่สีผสมอาหารแต่ใช้ในการย้อมผ้า ย้อมกระดาษ ซึ่งมีโลหะหนัก ทำให้เป็นมะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ รวมทั้งยังมีพิษจากโลหะหนักที่ผสมในสีประเภทนี้ ทำให้เป็นโรคโลหิตจาง และไตวายได้ หรือในกรณีที่ใช้สีผสมอาหาร อาจมีปริมาณสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งอย. ได้กำหนดไม่เกิน 50-70 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม อาหารที่มีสีเกินมาตรฐาน เมื่อกินเข้าไป สีเหล่านี้จะไปเคลือบที่ผนังกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบการดูดซึมสารอาหารไม่ดี

    หากเด็กเล็กที่กินอาหารเหล่านี้ติดต่อกันอาจเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร ส่งผลให้การเจริญเติบโตช้าได้ นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อปัญหาการใส่วัตถุกันเสียเกินมาตรฐาน ซึ่งเป็นอันตรายต่อไต โดยอย. กำหนดให้ใส่ในอาหารทั่วไปได้ไม่เกิน 200 ส่วนใน 1 ล้านส่วน หรือ 200 พีพีเอ็ม (PPM.) ซึ่งอาหารดังกล่าวเป็นอาหารที่ฝ่าฝืนกฎหมายมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2553

    'กวาง-กิ๊ก'สมานฉันท์ ชวนทำบุญไหว้พระ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เจอะหน้ากันเป็นต้องเกิดเรื่องวิวาท แต่พอนอกจอ 2 คุณแม่นางเอก กวาง กมลชนก กับนังร้าย กิ๊ก สุวัจนี จากละคร "ไทรโศก" กลับสมานฉันท์ ว่างปุ๊บชวนทำบุญไหว้พระ ที่วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร เทเวศร์

    "ทีมข่าวบันเทิง" ไม่รอช้า ขอติดสอยคล้อยตามไปด้วย กิ๊ก ขนเครื่องสังฆทานเซตใหญ่ ทั้งพระประจำวันเกิด ยาสามัญประจำบ้าน กระติก ไฟฉาย บาตรพระ ทุกอย่าง กิ๊ก ลงแรงสลักชื่อหมด เล่นเอา กวาง แอบขำ เพื่อน "เยอะตลอด" ส่วน กวาง หอบเครื่องสังฆทานกล่องพลาสติกใหญ่ ที่ขนของมาเต็มที่เหมือนกัน หลังจากเตรียมของเสร็จสรรพ พระเทพคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสและคณะ รวมทั้งพระลูกวัด หน้าคุ้นๆ พระโก้ ธีรศักดิ์ นั่นเอง มารับเครื่องสังฆทานเพื่อนดารา

    หลังจากนั้น พระโก้ รับหน้าที่เป็นพระประชาสัมพันธ์ ประจำวัดเทวราชฯ แห่งนี้ พาทัวร์ไหว้ พระมณฑป บอกเล่าประวัติให้แก่ คณะฟัง 2 คุณแม่ ยังสาวชวนปิดทองรอยพระพุทธบาทไหว้พระอุปคุต เถระ กิ๊ก ช็อปเครื่องรางฝากวงศาคณาญาติเต็มพิกัด ถึงคิวทำทาน ปล่อยปลา กิ๊ก มีสูตรปล่อยขนานใหญ่ ทั้งปลาไหล ปลาช่อน ปลาบู่ กบ เต่า หอยขม ไม่ รวมออเดอร์ ของสาวกิ๊ก ที่หาซื้อไม่ได้ ปลาดำราหู ปลาขาว ฯลฯ เล่นเอา กวาง ขอเผาเพื่อน ซึ่งๆหน้า "ดีนะไม่คิดปล่อยปลาโลมา ปลาฉลาม ไม่งั้นคงยุ่ง" ปล่อยสรรพสัตว์เสร็จสิ้น ได้เวลาท้องร้องจ๊อกๆประท้วง เลยชวนนั่งกินข้าวริมเจ้าพระยาอย่างชิลด์ๆ...โห! แบกบุญกลับบ้านกันทั่วหน้า

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. ชัยธนันท์

    ชัยธนันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    859
    ค่าพลัง:
    +1,488
    อนุโมทนาสาธุ ขอบคุณครับ
    ดาราต้องเร่งทำบุญมากๆครับ เพราะการแสดงชี้นำคนได้หลายแบบมากมาย
     
  14. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    คนเฒ่าคนแก่ท่านบอกไว้ ทักไว้นานมาแล้วเราก็จำขึ้นใจแม้พระจะดีหรือผิดวินัยจับได้จับเอาผิดได้เอาผิดแต่อย่าไปด่าว่าหรือนินทาเชียว กรรมเราเองดีไม่ดีดันไปด่าพระสุติปันโนเข้าจะกรรมใหญ่ เพราะเราไม่รู้จริงรู้ดีหรอกว่าจิตใจเขาคือใคร จะดีจะเลวไม่สนใจ กรรมดีพาไปเจอพระอรหันต์เอง กรรมดีพอเหมาะ ก็เจอพระดีนิดนึง แล้วไง เจอพระไม่ดีไปโทษพระหรือไงโทษกรรมตัวเองโทษความเลวของตัวเองบ้างสิคนเห็นกรรมเอย เพ่งโทษคนอื่นอย่างไรเจ้าจะได้เช่นนั้นเองรู้อยู่แก่ใจยังอยากจะทำก็จงรับไปไม่ต้องหารเลยเนอะ
     
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table style="border-collapse: collapse;" align="center" border="1" bordercolor="#666666" cellpadding="3" cellspacing="0" width="600"><tbody><tr bgcolor="#cccc66"><td align="center" width="70" nowrap="nowrap">วันที่</td> <td align="center" width="60" nowrap="nowrap">เวลา</td> <td align="center" nowrap="nowrap">ขนาด</td> <td align="center" width="50" nowrap="nowrap">lat</td> <td align="center" width="50" nowrap="nowrap">long</td> <td align="center" width="120" nowrap="nowrap">บริเวณที่เกิด</td> <td align="center" nowrap="nowrap">ข้อมูล อื่นๆ</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" nowrap="nowrap">2553-06-19</td> <td align="center" valign="top" nowrap="nowrap">01:05:17</td> <td align="center" valign="top">
    3.7
    </td> <td align="center" valign="top">20.890</td> <td align="center" valign="top">98.610</td> <td valign="top">ประเทศพม่า</td> <td valign="top"> - ทางทิศเหนือของ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 147 ก.ม.</td></tr></tbody></table>
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** การสะสาง ****

    ปัจจุบัน กรรมติดจรวด
    มาเร็วมาก อดทนกันหน่อย
    รักษาอารมณ์ ให้อยู่ในความสงบ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การแสดงชี้นำคนได้หลายแบบมากมาย<!-- google_ad_section_end --> ​

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    "การแสดงชี้นำคนได้หลายแบบมากมาย" ผมเห็นด้วยกับประโยคนี้จริงๆครับ จึงขออนุญาตนำดาราที่กำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ มาเป็นแบบอย่างในการต่อสู้ฝ่าฟันกับภัยพิบัติต่างๆ<!-- google_ad_section_end --> จนสามารถเอาชีวิตรอด(ในภาพยนต์) มาให้ได้ชมกันนะครับ เพื่อเป็นกำลังให้หลายๆ คนนำไปเป็นแบบอย่าง เฉพาะในเรื่องการต่อสู้กับภัยพิบัตินะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. ezenwa

    ezenwa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +110
    ใช่ค่ะ การชี้นำมีหลายแบบ แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละเอกบุคคล อนุโมทนาค่ะ ทุกท่านล้วนมีเจตนาดี
     
  19. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ^
    ^
    กล้าที่จะรับผิดชอบ กล้าที่จะเสี่ยงภัย กล้าที่จะเสียสละ และกล้าที่จะตายไปเพื่อแลกกับสิ่งที่สูงค่ากว่า คือส่วนรวมและผู้อื่นแม้ว่าจะสำเร็จหรือไม่แฮ๊ปปี้ ก็ล้วนแล้วยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เตือนภัยสารหนูเปื้อนแหล่งน้ำ บังกลาเทศขั้นวิกฤติ

    [​IMG]

    ชาวบังกลาเทศกว่า 70 ล้านคน เสี่ยงปนเปื้อนสารหนู หลังแหล่งน้ำกินน้ำใช้ เกิดภาวะปนเปื้อน ด้าน WHO สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤติ..

    เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. วารสารการแพทย์ของอังกฤษ ระบุชาวบังกลาเทศมากกว่า 77 ล้านคน หรือราวครึ่งประเทศ ใช้ชีวิตเสี่ยงตกอยู่ภายใต้ ภาวะปนเปื้อนของสารหนู ในแหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ แม้ปริมาณสารหนูปนเปื้อนไม่มาก แต่ยังเสี่ยงต่ออันตราย ทั้งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่อาศัยแหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ จากบ่อน้ำบาดาล ซึ่งมักขุดไม่ลึก ทำให้ปนเปื้อนสารหนูได้ง่ายตามธรรมชาติ องค์การอนามัยโลก ระบุ สถานการณ์สารหนูปนเปื้อนแหล่งน้ำในบังกลาเทศ อยู่ในขั้นวิกฤติและเกี่ยวข้องกับประชากรจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พม่าเร่งเยียวยาเหยื่อพายุตาย 55 ราย ควายถูกฟ้าผ่าตายอีก 10 ตัว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 มิถุนายน 2553 06:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ภาพแฟ้มวันที่ 7 พ.ค.2551 ไซโคลนนาร์กิส ที่พัดถล่มเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีในวันที่ 1 เดือนเดียวกัน ทิ้งศพราษฎรผู้เคราะห์ร้ายเอาไว้เกลื่อนทุ่ง ในเขตเมืองลาบุตตา (Labutta) ปะปนกับซากวัวควาย เนื่องจากความช่วยเหลือกับการกู้ภัยเป็นไปอย่างล่าช้า แต่พม่ามีบทเรียน เหยื่อพายุและน้ำท่วมทางภาคเหนือของประเทศในสัปดาห์นี้ได้รับการช่วยเหลืออย่างฉับไว

    ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- หลายหน่วยงานทั้งภาคราชการและเอกชนในพม่า เร่งระดมความช่วยเหลือไปยังเขตที่ประสบอุทกภัย และวาตภัย ในหลายอาณาบริเวณทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 55 คน และยังมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ราษฎรอีกราว 2,000 ต้องอพยพไปอาศัยยังที่อื่น

    ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทำลายบ้านเรือนราษฎรไปหลายร้อยหลังคาในรัฐระไค (Rakhine) หรือ ยะไข่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และบางส่วนของเขตมัณฑะเลย์

    การคมนาคมขนส่งระหว่างรัฐและเขตปกครอง ถูกตัดขาดตั้งแต่วันอังคาร (15 มิ.ย.) เนื่องจากอุทกภัย สร้างความเสียหายให้แก่ถนนและสะพานหลายแห่ง ทั้งนี้ เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์

    ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตเมืองเมงเบียะ (Minbya) รัฐยะไข่ บ้านเรือนราษฎร 25 หลัง ถูกทำลายอย่างราบคาบ อีก 14 หลัง กับมัสยิดอีก 1 หลัง ถูกพายุพัดหลังคาหายไป มีผู้ได้รับผลกระทบเกือบ 200 คน สะพานข้ามลำน้ำเล็กๆ สายหนึ่ง ถูกน้ำพัดขาดหายไป ควายถูกฟ้าผ่าตายไปอีก 10 ตัว

    ที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งมีผู้เสียชีวิต 31 ราย จากโคลนถล่มและดินเลื่อน ราษฎร 214 คนต้องอพยพไปยังที่สูง ในอีกหมู่บ้านหนึ่งมีผู้เสียชีวิต 4 คน เป็นชาย 2 หญิงอีก 2 เมื่อบ้านทั้งหลังพังลงทับ คนเจ็บอีกจำนวนมากถูกนำส่งโรงพยาบาล ราษฎร 1,865 คนจาก 152 ครอบครัว ต้องอพยพ

    นอกจากนั้น ยังเกิดเหตุการณ์ดินถล่มที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 20 คน เป็นชาย 12 คน หญิงอีก 8 อีก 4 คนได้รับบาดเจ็บ หนังสือพิมพ์ของรัฐบาลกล่าว

    การคมนาคมทั่วอาณาบริเวณถูกตัดขาดเพราะสะพานถูกทำลายไปหลายแห่ง และถนนชำรุดเสียหายหนักเนื่องจากถูกน้ำเซาะ

    ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องกันหลายวันทำให้ที่ตั้งกองพันทหารแห่งหนึ่งในเมืองสิตต่วย (Sittwe) ได้รับความเสียหายหนัก อาคารถูกทำลายไปถึง 80 หลัง ทหารเสียชีวิต 1 คน หนังสือพิมพ์ของรัฐบาลกล่าว

    เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน และทหารจากที่ตั้งใกล้เคียงได้ระดมความช่วยเหลือกู้ภัย เข้าไปยังเขตภัยพิบัติรวมทั้งเร่งซ่อมแซมสะพาน ถนน บ้านเรือนราษฎร ตลอดจนค่ายทหาร เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ กลับสู่ภาวะปรกติโดยเร็ว นิวไลท์ออฟเมียนมาร์ กล่าว

    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000084416

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.เตือนภัย ช่วง 5 เดือนมีผู้เสียชีวิตจากพิษสุนัขบ้า 13 ราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 มิถุนายน 2553 11:59 น</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    สธ.เผยโรคพิษสุนัขบ้าน่าห่วง รอบ 5 เดือน มีผู้เสียชีวิต 13 ราย 1 ใน 3 ถูกลูกสุนัขกัด ย้ำ โรคนี้เกิดได้ทุกฤดูกาล กทม.และกาญจนบุรีเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง เตือนผู้เลี้ยงลูกสุนัขอายุยังไม่ถึง 3 เดือน และไม่รู้ประวัติ นำมาเลี้ยงใหม่ยังไม่ควรเลี้ยงคลุกคลีกับสุนัขตัวอื่นในทันที สุนัขที่เคยฉีดวัคซีนมาแล้ว หากถูกสุนัขที่สงสัยเป็นบ้ากัด ต้องไปฉีดวัคซีนซ้ำทันที

    ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2553 มีผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้แล้ว 13 ราย ใน 7 จังหวัดได้แก่ กทม.6 ราย กาญจนบุรี 2 ราย สระบุรี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี ตาก และ ชลบุรี จังหวัดละ 1 ราย โดย 12 รายถูกสุนัขกัด เกินครึ่งเป็นสุนัขมีเจ้าของ อีก 1 ราย ถูกแมวจรจัดกัด โรคนี้เกิดได้ทุกฤดูกาล ไม่เฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น พื้นที่เสี่ยงพิเศษมี 2 จังหวัด คือ กทม. และกาญจนบุรี เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตเกือบทุกปี เมื่อคนถูกสุนัขกัด ไม่ว่าจะบ้าหรือไม่ ต้องรีบล้างแผลให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำหลายๆ ครั้ง เพื่อชะล้างเชื้อโรคต่างๆออกจากแผล และบาดแผลแม้จะไม่ใหญ่หรือเป็นเพียงรอยขีดข่วน หากสัตว์ที่กัดเป็นโรคพิษสุนัขบ้าก็สามารถติดโรคได้ เพราะเชื้อที่อยู่ในน้ำลายของสัตว์เข้าสู่ร่างกายได้ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการฉีดวัคซีน และดูประวัติการฉีดวัคซีนของสุนัขหรือสัตว์อื่นที่กัด

    ในการลดปัญหาคนเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า ในปีนี้ สธ.เน้นที่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดยร่วมมือกับกรมปศุสัตว์และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ทั้งสุนัขและแมว ให้ได้ครอบคลุมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของสุนัขและแมวทั้งหมดทุกพื้นที่ ติดต่อกันทุกปี ที่ผ่านมาพบว่าสุนัขได้รับการฉีดวัคซีนยังไม่ถึงร้อยละ 60 เมื่อสุนัขไม่มีเชื้อโรคคนก็จะไม่เป็นโรค เป็นวิธีที่คุ้มค่าที่สุดและเป็นที่ยอมรับขององค์กรระดับโลก

    ขณะเดียวกัน สธ.ทบทวนการจัดเขตปลอดโรคพิษสุนัขบ้าใหม่ ร่วมกับกรมปศุสัตว์ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนเพื่อประเมินความเสี่ยงของโรคพิษสุนัขบ้าในทันที คือ โซนเอเป็นโซนที่ไม่มีรายงานโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์และคนติดต่อกัน 2 ปี พร้อมที่จะดำเนินการให้เป็นเขตปลอดโรคได้ โซนบีมีรายงานโรคในสัตว์แต่ไม่มีรายงานโรคในคนติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี และโซนซีมีรายงานโรคทั้งในสัตว์และคน เป็นพื้นที่ที่ต้องเร่งรัดควบคุมโรคในสัตว์เป็นอย่างยิ่ง โดยในปีนี้ได้จัดอบรมองค์กรส่วนท้องถิ่นไปแล้ว 12 จังหวัด เพื่อให้ไปสำรวจพื้นที่ของตนเองว่าอยู่ในโซนใด และดำเนินการสร้างพื้นที่เขตปลอดโรคพิษสุนัขบ้า โดยทุกจังหวัดที่อบรมไปมีแผนและงบประมาณ อย่างน้อย 3 ปี

    นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ต้นตอโรคพิษสุนัขบ้า เกิดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยร้อยละ 90 มาจากสุนัข ในสุนัขหากติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจะมีอาการภายใน 1-2 เดือน บางตัวอาจนานถึง 6 เดือน อาการที่ปรากฏได้แก่ หางตก คอแข็ง น้ำลายฟูมปาก ลิ้นห้อย ไม่กินน้ำ ตื่นเต้น กระวนกระวาย อาจมีอาการดุร้ายกัดทุกสิ่งที่ขวางหน้า บางตัวอาจมีอาการเซื่องซึม ไม่กินอาหาร จากนั้นจะเสียชีวิตภายใน 10 วันหลังมีอาการ

    ในการเลี้ยงสุนัขไม่ให้เป็นโรคพิษสุนัขบ้า โดยทั่วไปกำหนดให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคเมื่ออายุ 3 เดือนขึ้นไป ฉีดทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ในกรณีที่นำลูกสุนัขที่อายุยังไม่ถึง 3 เดือนมาเลี้ยง เพราะเชื่อว่า สุนัขจะสอนง่าย เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะลูกสุนัขอาจติดเชื้อมาก่อน หากเป็นลูกสุนัขที่ไม่มีคนดูแลและแม่สุนัขไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือไม่รู้ประวัติแม่สุนัขเลย คาดว่า ลูกสุนัขจะไม่มีภูมิคุ้มกันโรค แต่ถ้าลูกสุนัขที่แม่มีประวัติฉีดวัคซีน จะมีภูมิคุ้มกันโรคพิษสุนัขบ้านานประมาณ 11 สัปดาห์ การนำสุนัขตัวใหม่ที่ไม่รู้ประวัติมาเลี้ยง ในระยะแรกควรแยกจากสุนัขตัวอื่น เพราะอาจจะติดเชื้อโรคต่างๆ ไปสู่สุนัขอื่น รวมทั้งโรคพิษสุนัขบ้าได้

    นอกจากนั้น จะต้องไม่ให้สุนัขมาเลียหรือกัดนิ้วเล่น เพราะอาจมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ในน้ำลาย และควรนำไปปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและสังเกตอาการต่อไปจนครบ 6 เดือน จึงจะมั่นใจว่าสุนัขไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า เพราะที่ผ่านมา 1 ใน 3 ของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคนี้เกิดจากถูกลูกสุนัขกัด และไม่เฉลียวใจไปฉีดวัคซีน เพราะเชื่อว่าลูกสุนัขไม่มีเชื้อ และบาดแผลเป็นแค่รอยเล็กๆ หรือเล็บข่วน ไม่ใช่แผลใหญ่ จึงไม่ได้ใสใจนึกถึงโรคนี้

    “สุนัขเลี้ยงที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว ไปถูกสุนัขที่สงสัยว่าอาจบ้ากัด จะต้องนำสุนัขไปฉีดวัคซีนซ้ำทันทีหลังถูกกัด เพราะภูมิต้านทานโรคที่ได้รับจากวัคซีนจะค่อยๆ ลดลง การได้รับวัคซีนซ้ำจะทำให้สุนัขที่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อนจะมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้นโดยเร็ว ทำให้ป้องกันโรคได้ แต่ถ้าสุนัขตัวที่ถูกสุนัขบ้ากัดยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน เมื่อพาไปฉีดวัคซีนหลังจากถูกสุนัขบ้ากัด ภูมิคุ้มกันจะขึ้นช้า อาจป้องกันโรคไม่ทัน ตามหลักวิชาการจะต้องถูกกำจัดทิ้ง ดังนั้น ผู้ใดที่เลี้ยงสุนัขไว้ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น ต้องพาสุนัขไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ป้องกันไว้ก่อนเป็นการดีที่สุด” นพ.มานิต แนะนำ

    ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000084798
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...