ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

มองคนอื่นแต่ในแง่ร้าย จิตใจจะไร้ซึ่งความสุข​

"คิดจากความว่าง" โดยดังตฤณ

เรื่องร้ายมีจริง แต่สิ่งที่ไม่จริง คือความคิดว่าโลกนี้มีแต่แง่ร้าย

เรื่องร้ายมีให้ระวัง แต่ถ้าตั้งตาระแวงไปหมด ก็อดเป็นสุขกับใครเขา

เรื่องร้ายมีไว้ช่วยกันแก้ แย่ที่มีแต่คนบ่น มีแต่คนนั่งวิจารณ์ มีแต่การด่าคนแก้ไม่สำเร็จ

เป็นวายร้าย เลี้ยงคนใกล้ตัวให้ร้าย งอมืองอเท้าเอาแต่ปากร้ายวิจารณ์โลก แล้วโลกนี้จะมีแง่ร้ายแต่ถ่ายเดียว

เป็นคนดี เลี้ยงคนใกล้ตัวให้ดี อย่าปล่อยให้คนดีโดดเดี่ยว แล้วโลกนี้จะมีแง่ดีให้มองเอง

จากหนังสือคิดจากความว่าง โดยคุณดังตฤณ

ที่มา http://dungtrin.com/empty/mobile/Empty20.htm

หมายเหตุ

การบรรยายให้ความรู้เรื่องภัยพิบัติของ อ.ปริญญา ตันสกุล นั้นใครๆ ก็ทราบดีว่าเป็นการบรรยายให้ฟังกันฟรีๆ โดยคนที่เข้ารับฟังการบรรยาย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น แต่การจัดให้ความรู้ในแต่ละครั้ง ก็ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายในการเช่าห้องของโรงแรม ค่าอาหารว่าง ค่าอุปกรณ์เครื่องเสียง ฯลฯ เพื่อจัดอบรมในแต่ละครั้ง ซึ่งนับเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว

การหารายได้เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อจัดให้มีการอบรมในแต่ละครั้ง จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่เรื่องของการมาแสวงหาผลประโยชน์ จากเรื่องของภัยพิบัตินี้แต่อย่างใด เหมือนอย่างเว็บพลังจิต ก็จำเป็นต้องหารายได้ จ่ากการโฆษณา จากการขายเสื้อ มาเป็นค่าดำเนินงานในด้านต่างๆ เช่นเดียวกัน เพราะถ้าจะรอแต่เงินบริจาคอย่างเดียว ย่อมไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ในการดำเนินงานของเว็บพลังจิตครับ

 

ขออนุญาตฝากกิจกรรมดีๆ ค่ะ

เอากำลังใจมาให้
ทุกท่านที่ทำงานเพื่อส่วนรวม
ทุกท่านที่ทำงานเพื่อแผ่นดิน
พ่อหลวงท่านทรงรับรู้ในสิ่งที่พวกเราทุกคนทำ



ขอเชิญเข้าไปเยี่ยมชมบล๊อกกับเรื่องราวดีของพระเจ้าองค์แสน

กำเนิดพระเจ้าองค์แสน
http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...roup=2&gblog=1

วัตถุประสงค์โครงการพระเจ้าองค์แสน
http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...roup=2&gblog=3

คุณคือบุคคลสำคัญ
http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...roup=2&gblog=4

ครูบาอาจารย์เมตตา
http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...roup=2&gblog=5

ร่วมเขียนคำอธิษฐาน
http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...roup=2&gblog=2<!-- google_ad_section_end -->

 

อุตุฯเตือนภัยฉ.4 ทุกภาคมีฝนชุก 18จว.ระวังน้ำท่วม




กรมอุตุฯประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย" ฉ.4 ทั่วทุกภาคมีฝนตกชุกหนาแน่น และหนักในหลายพื้นที่ เตือน ปชช.18 จว. อาทิ เชียงราย, อุตรดิตถ์, จันทบุรี และภูเก็ต ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ...

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย" ฉบับที่ 4 (135/2552) ลงวันที่ 17 กันยายน 2552 หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวตอนบน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ประกอบกับมีปริมาณฝนตกหนักสะสมอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในระยะนี้

 

พระราชทานถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมอีสาน-เหนือ​

​

ภูมิภาค 15 ก.ย.- มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก นำถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อุบลฯ-ศรีสะเกษ-น่าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะที่แม่น้ำบางสายยังอยู่ในภาวะเอ่อล้นตลิ่ง

นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ลงพื้นที่ จ.อุบราชธานี มอบถุงพระราชทานจำนวน 400 ชุด ช่วยเหลือราษฎรและพระสงฆ์ในอำเภอวารินชำราบ ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา จากแม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งไหลท่วม 2 ชุมชน คือ ชุมชนเกตุแก้ว และชุมชนท่าบ้งมั่ง ราษฎรเดือดร้อนเกือบ 3,000 ครอบครัว ล่าสุดแม่น้ำมูลยังคงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากฝนตกมาหลายวัน ประกอบกับจังหวัดอุบลราชธานีเป็นพื้นที่ปลายน้ำ ทำให้มีน้ำจากด้านเหนือไหลลงมาบรรจบก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ อ.โขงเจียม ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ส่วนความเสียหายด้านสาธารณูปโภคอยู่ระหว่างการสำรวจ

นอกจากนี้ ยังมอบถุงยังชีพพระราชทานอีก 1,000 ถุง ช่วยราษฎรประสบภัยน้ำท่วม ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเกิดฝนตกหนักมาสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ลุ่มน้ำห้วยทับทันและลุ่มน้ำห้วยสำราญเอ่อท่วมบ้านเรือน 4 ตำบล 20 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตร 7,700 ไร่ ราษฎรเดือดร้อน 2,345 ครัวเรือน
เช่นเดียวกับ จ.น่าน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พล.อ.อ.โยธิน ประยูรโภคราช ประธานที่ปรึกษากองงานพระวรชายาฯ นำถุงยังชีพพระราชทาน 1,000 ถุง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนราษฎรพื้นที่น้ำท่วม 4 หมู่บ้าน 2 ตำบล อ.เมือง โดยเฉพาะตำบลสะเนียนถูกน้ำท่วมถึง 3 หมู่บ้าน ส่วน ต.เรือง 1 หมู่บ้าน.-สำนักข่าวไทย

2009-09-15 17:12:18

ฝนถล่มน้ำเอ่อท่วมหลายพื้นที่เมืองลำปาง​

​

ลำปาง, นครสวรรค์ 17 ก.ย. - ฝนที่ลงมาอย่างหนักทำให้ระบายน้ำไม่ทัน เอ่อท่วมหลายพื้นที่ในเขตเมืองลำปาง ทหารต้องออกไปช่วยขนสัมภาระให้ชาวบ้าน พร้อมระดมเครื่องสูบน้ำช่วย

เขตตัวเมืองลำปาง ถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครลำปางเกิดน้ำท่วมขัง เนื่องจากท่อระบายน้ำไม่ทัน หมู่บ้านฝั่งตรงข้ามสนามกอลฟ์ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ต.พิชัย เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมด้วยทหารกว่า 30 นาย ออกช่วยเหลือ นำเครื่องสูบน้ำมาระบายน้ำให้กับประชาชนในชุมชนบ้านพิชัย

ส่วนบริเวณถนนซูเปอร์ไฮเวย์ลำปาง-เชียงราย น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ต่ำกว่าระดับถนน สูงกว่า 1 เมตร ทรัพย์สินภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างถูกน้ำท่วมเสียหาย เนื่องจากเจ้าของบ้านขนย้ายไม่ทัน กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่นำป้ายเตือนน้ำท่วมซึ่งมีสัญญาณไฟไปวางขวางถนน เพื่อให้ประชาชนที่จะผ่านบริเวณนี้ใช้ความระมัดระวัง การจราจรขณะนี้จึงวิ่งได้เพียง 1 ช่อง ทาง

ขณะที่เมืองปากน้ำโพ นครสวรรค์ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ถนนหลายสายเกิดน้ำท่วมขังสูงกว่า 50 เซนติเมตร โดยเฉพาะถนนสายหลักพหลโยธิน ทางเข้าศูนย์ท่ารถนครสวรรค์มีน้ำท่วมขัง ผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาอย่างยากลำบาก ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำมาขึ้นรถโดยสาร และบางส่วนเริ่มอพยพสิ่งของขึ้นที่สูงแล้ว. -สำนักข่าวไทย

2009-09-17 02:03:43

ลำปางฝนตกหนัก-อ่างเก็บน้ำชำรุดท่วมแม่เมาะ​

​

ภูมิภาค 16 ก.ย.- ปภ.ลำปาง เข้าพื้นที่แม่เมาะติดตามน้ำท่วมฉับพลัน 3 ตำบล จากฝนตกหนัก อ่างเก็บน้ำบนเขารับน้ำไม่ไหวเกิดชำรุด ขณะที่ยโสธรสั่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอาจล้นตลิ่งอีก

นายนคร คำวงค์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฎิบัติการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง พร้อมนายนิวัฒน์ อินแฝง ปลัดฝ่ายป้องกัน อ.แม่เมาะ เข้าพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายในเบื้องต้น หลังเกิดน้ำป่าหลากท่วมฉับพลัน เมื่อเช้ามืดวันนี้ (16 ก.ย.) ใน 3 ตำบล อ.แม่เมาะ บ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 20 หลังคาเรือน รวมทั้งสะพานขาด 2 แห่ง และถนนเข้าหมู่บ้าน 1 แห่ง โดยเฉพาะบ้านสวนป่าแม่เมาะ ม.7 ต.บ้านดง ที่มีอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กตั้งอยู่บนเขา ความจุกว่า 40,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้ผลิตประปาหมู่บ้าน และที่ผ่านมารับปริมาณน้ำฝนตกต่อเนื่องมาหลายวัน ทำให้สันเขื่อนดินเกิดชำรุดและน้ำไหลทะลักเข้าบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว ล่าสุดน้ำลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว

ปลัดฝ่ายป้องกัน อ.แม่เมาะ กล่าวว่า นอกจากพบความเสียหายสะพานขาดที่ ต.จางเหนือ และ ต.สบป้าด ยังพบว่าโรงผลิตอิฐบล็อกหมู่บ้านสวนป่าแม่เมาะเสียหายทั้งหลัง เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง กัดเซาะพื้นดิน ทำให้ทรัพย์สินและอุปกรณ์ทำอิฐบล็อกพังทั้งหมด ซึ่งได้ให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด เพื่อให้การช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ส่วนความเสียหายเบื้องต้นคาดว่ากว่า 500,000 บาท

ส่วน จ.ยโสธร ฝนตกหนักมาตลอดคืน ส่งผลให้ลำน้ำชีมีน้ำเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ทางจังหวัดยโสธรเตือนประชาชนบริเวณลุ่มน้ำ 4 สาย คือ ลำน้ำโพง ลำน้ำเซบาย ลำน้ำยัง และลำน้ำชี เตรียมป้องกันน้ำท่วม ขณะเดียวกันนายจีระศักดิ์ ดอกจัน อายุ 35 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านคุยสำโรง หมู่ 2 ต.เขื่องคำ อ.เมือง เรียกประชุมลูกบ้านให้ติดตามสถานการณ์น้ำไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีแนวโน้มจะล้นตลิ่งอีกในไม่ช้า เนื่องจากฝนยังตกต่อเนื่อง และระมัดระวังเด็กเล็กไม่ให้ลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด ส่วนอุทกภัยที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ใน 9 อำเภอ เบื้องต้นมีนาข้าวเสียหายสิ้นเชิง 8,000 ไร่ น้ำกัดเซาะถนนขาด 1,079 สาย คอสะพาน 20 แห่ง ราษฎรเดือดร้อน 83,467 ครอบครัว.-สำนักข่าวไทย

2009-09-16 14:21:11

น้ำป่าน่านพัดท่อนซุงซัดบ้านเรือนเสียหาย​

​

ภูมิภาค 16 ก.ย.-ฝนยังคงกระหน่ำหนักพื้นที่ จ.น่าน น้ำป่าทะลักท่วมฉับพลัน อ.ปัว บ้านเรือนถูกท่อนซุงซัดกระแทกเสียหาย 10 หลัง สัตว์เลี้ยงถูกน้ำพัดหายนับร้อยตัว ด้าน ปภ.เขต 10 ย้ำ 4 จังหวัดตอนบนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝนตกหนักนานหลายชั่วโมงตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ (16 ก.ย.) ในพื้นที่ จ.น่าน ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากลงสู่ลำน้ำห้วยมัด ต.อวน อ.ปัว จนเอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎรริมฝั่งกว่า 300 หลังคาเรือน คือ บ้านไร่สามัคคี หมู่ 1 จำนวน 197 หลังคาเรือน และบ้านไร่พัฒนา หมู่ 9 จำนวน 176 หลังคาเรือน ชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในพื้นที่สูง ล่าสุด อบต.อวน จัดเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายเบื้องต้น หลังจากระดับน้ำลดลงแล้ว พบว่ามีคราบโคลนและกิ่งไม้กระจายทั่วพื้นที่ นอกจากนี้ ท่อนซุงขนาดใหญ่ที่ไหลมากับน้ำป่ากระแทกตัวบ้านเป็นรอยร้าวประมาณ 10 หลัง รวมทั้งพัดพาเป็ดไก่หายไปกว่า 100 ตัว ระบบประปาหมู่บ้านและพื้นที่การเกษตรเสียหาย อย่างไรก็ตาม นายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ย้ำเตือนว่าแม้สถานการณ์สู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่ เนื่องจากสภาพอากาศบนท้องฟ้ายังคงปกคลุมด้วยเมฆฝน

ด้านนายอนุสรณ์ แก้วกังวาน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง กำชับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทั้ง 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน) เตรียมพร้อมในการเข้าช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมหากเกิดเหตุฉับพลัน และให้มิสเตอร์เตือนภัยตรวจวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ที่มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้จังหวัดทางภาคเหนือตอนบนมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัย จ.เชียงใหม่ มีจำนวน 896 หมู่บ้าน 24 อำเภอ ลำปาง 307 หมู่บ้าน 13 อำเภอ ลำพูน 284 หมู่บ้าน 8 อำเภอ และแม่ฮ่องสอน 239 หมู่บ้าน 7 อำเภอ ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านอยู่ใกล้กับเชิงเขา.-สำนักข่าวไทย

2009-09-16 15:18:45

7 ชุมชนในเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จมอยู่ใต้น้ำ​

​

ศรีสะเกษ 16 ก.ย. - บ้านเรือนใน 7 ชุมชน เทศบาลเมืองศรีสะเกษต้องจมอยู่ใต้น้ำ บางรายต้องอพยพย้ายสิ่งของขึ้นไปอาศัยบนหลังคาบ้าน

น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก เข้าท่วมบ้านเรือนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 11 เมตร 20 เซนติเมตร ทะลักเข้าท่วม 7 ชุมชน จาก 45 ชุมชน ของเทศบาล ล่าสุดไหลเข้าท่วมชุมชนโนนทรายทอง ชาวบ้านของหนีน้ำขึ้นมาอาศัยอยู่บนริมฟุตบาธ บางรายขึ้นไปอาศัยหลับนอน หุงหาอาหาร อยู่บนหลังคาบ้าน

สำนักงานเทศบาลเมืองศรีสะเกษ นำรถสุขาเคลื่อนที่และเต็นท์มากางไว้เป็นที่อาศัยชั่วคราว พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่มาดูแลเป็นระยะ.-สำนักข่าวไทย

2009-09-16 11:09:21

พายุถล่มพิจิตรต้นไม้โค่นขวางถนน ​

​

พิจิตร 16 ก.ย. - เกิดพายุพัดกระโชกอย่างรุนแรงในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางถนนสายหลักสู่ภาคเหนือ

เจ้าหน้าที่เร่งตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งหักโค่นขวางถนนอินทร์บุรี-แพร่ เส้นทางสายหลักจากภาคกลางมุ่งสู่ภาคเหนือ เพื่อเร่งเปิดทางให้รถสามารถสัญจรได้ตามปกติ หลังเกิดพายุฝนพายุคะนองและลมกระโชกแรงพร้อมกันทั้ง 12 อำเภอ ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่น นอกจากนี้ยังเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อพลิกคว่ำบริเวณถนนตะพานหิน-บางลาย พื้นที่ตำบลทับหมัน อ.ตะพานหิน แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่ทางจังหวัดประกาศเตือนให้ชาวบ้านระมัดระวังอันตรายจากเหตุฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในระยะนี้. -สำนักข่าวไทย

2009-09-16 02:59:05

ดักระเบิดทหารคุ้มครองครูใต้-ยะลาปะทะเจ็บ 3​

​

ภูมิภาค 16 ก.ย.- ทหารชุดคุ้มครองครูยะลายิงปะทะกลุ่มลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.รามัน บาดเจ็บ 3 นาย ซ้ำโรยตะปูเรือใบสกัดชุดเข้าตรวจสอบ ส่วนนราธิวาสดักระเบิดทหารคุ้มครองครู ไม่มีผู้บาดเจ็บ

เมื่อเวลา 14.15 น. วันนี้ (16 ก.ย.) ร.ต.ต.ศรายุทธ กรกัณต์ ร้อยเวร สภ.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ประสานหน่วยทหาร ฉก.ยะลา 12 และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา ร่วมตรวจสอบเหตุระเบิดและยิงปะทะกันระหว่างทหาร ร้อย ร 15223 ฉก.ยะลา 12 ชุดคุ้มครองครูโรงเรียนบ้านจำปูน จำนวน 7 นาย กับกลุ่มไม่ทราบฝ่ายในพื้นที่หมู่ 6 บ้านจำปูน ต.ท่าธง อ.รามัน แต่ระหว่างการเดินทางพบว่ามีตะปูเรือใบโรยอยู่และวัตถุต้องสงสัยบนถนนสายวังพญา-สาเมาะ เจ้าหน้าที่จึงเร่งเก็บกู้และตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงกล่องบรรจุดินเหนียวห่อด้วยผ้า ส่วนเหตุระเบิดและยิงปะทะกันมีทหารบาดเจ็บ 3 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา คือ ส.อ.อารีฟ เด็ง อายุ 26 ปี ส.อ.บุญญา นิเลาะ อายุ 25 ปี และ ส.อ.จตุรงค์ บังแก้ว อายุ 25 ปี นอกจากนี้ ยังพบสายไฟใช้จุดชนวนระเบิดกับแบตเตอรี เป็นระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 3-5 กิโลกรัม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วน จ.นราธิวาส เกิดเหตุระเบิดเวลา 14.30 น. ขณะที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดนราธิวาสจำนวน 8 นาย ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ปฏิบัติหน้าที่รับ-ส่งครูโรงเรียนบ้านจูดแดง ม.6 ต.มะนังตายอ อ.เมือง บนถนนหมู่บ้านจูดแดง เคราะห์ดีระเบิดทำงานไม่เต็มที่ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ การตรวจสอบพบชิ้นส่วนระเบิดชนิดแสวงเครื่องประกอบไว้ในถังดับเพลิงน้ำหนัก 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยสายไฟฟ้าลากเข้าไปในป่าข้างทางประมาณ 50 เมตร.-สำนักข่าวไทย

2009-09-16 17:13:27

ตำรวจสงขลาเพิ่มความเข้มเฝ้าระวังร้านทองหลังราคาทองพุ่ง​

​

สงขลา 17 ก.ย.-กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาสั่งการให้ตำรวจภูธรทุกแห่งในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการโจรกรรมทรัพย์สินภายในร้านทองทุกแห่ง หลังราคาทองพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นบาทละ 16,000 บาท ประกอบกับเข้าสู่ช่วง 2 เทศกาลใหญ่ ทั้งฮารีรายอและบุญสารทเดือนสิบ ซึ่งประชาชนมักจะหาซื้อทองรูปพรรณสวมใส่และมอบให้เป็นของขวัญแก่ลูกหลาน เกรงคนร้ายจะแฝงตัวเป็นลูกค้าในการก่อเหตุ โดยเน้นย้ำให้สายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งสายตรวจเดินเท้า เพิ่มความถี่ในการออกตรวจพื้นที่

ขณะเดียวกัน ก็ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านทองทุกแห่งให้ทำการตรวจสอบการทำงานของกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในร้านให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา .-สำนักข่าวไทย

2009-09-17 10:06:33

ไข้เลือดออกเมืองสองแควยังระบาดต่อเนื่อง เสียชีวิตแล้ว 1 ราย​

​

พิษณุโลก 17 ก.ย.- จังหวัดพิษณุโลกเร่งฉีดพ่นสารเคมีกำจัดยุงลาย พร้อมกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำ หลังฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลยอดผู้ป่วยไข้เลือดออกพุ่งสูงกว่า 500 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ในวันนี้ (17 ก.ย.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก จะร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฉีดพ่นสารเคมีทั้งชนิดหมอกควันและฝอยละออง เพื่อกำจัดยุงลายในหมู่บ้าน แหล่งชุมชน และโรงเรียนต่าง ๆ ที่พบการแพร่ระบาดไข้เลือดออก เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้แหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายเพิ่มขึ้น ล่าสุดพบผู้ป่วยไข้เลือดออกในพื้นที่แล้ว 550 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 15 – 24 ปี รองลงมา 10 – 14 ปี และ 5 – 9 ปี แพร่กระจายอยู่ใน 10 ชุมชน เขตเทศบาลนครพิษณุโลก และ 279 หมู่บ้าน 78 ตำบล ในพื้นที่ 9 อำเภอของจังหวัดพิษณุโลก โดยมีผู้ป่วยสูงสุดที่อำเภอนครไทย รองลงมาอำเภอชาติตระการ และอำเภอเนินมะปราง และมีผู้เสียชีวิตจากไข้เลือดออกแล้ว 1 ราย ที่อำเภอวังทอง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังพบผู้ป่วยไข้เลือดออกเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐอย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือประชาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในบริเวณหมู่บ้าน และบ้านเรือนของตนเองทุกสัปดาห์ เพื่อช่วยป้องกันการระบาดของโรค และหากพบบุตรหลานป่วย มีไข้สูง ขอให้รีบนำไปพบแพทย์ เพื่อจะได้วินิจฉัยโรค และรับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

2009-09-17 09:25:37

ที่มา http://news.mcot.net

 

จิตวิทยา ลาง-หลอน สัตว์บอกเหตุ​

<table width="415" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr></tr> </tbody></table> <table width="415" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td height="10"> </td></tr> </tbody></table> <script language="JavaScript" src="http://horoscope.sanook.com/global_js/global_function.js"></script><!--START-->

​

'ดี-ร้าย' ใจกำหนด ??

คนไทยเราให้ความสนใจกับเรื่องราว “ความเชื่อ” ที่ สืบทอดกันมาเรื่อย ๆ นับแต่โบราณกาลจนปัจจุบัน ดังนั้น...แม้เมืองไทยยามนี้จะมีปัญหาใหญ่ ๆ ทั้งทางการเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม ที่น่าเป็นห่วง แต่...กระแส “นกแสกผี” ก็สามารถที่จะแทรกเข้ามาครองพื้นที่ความสนใจของคนไทยได้อย่างแพร่หลายในวงกว้าง

“ลางบอกเหตุ” “ลางดี-ลางร้าย” ยังมีคนไทยเชื่อกันอยู่

และกับ “สัตว์” คนไทยก็เชื่อกันว่า “บอกเหตุ” ได้ ?!?

ทั้งนี้ กรณี “สัตว์บอกเหตุ” เป็นลางดี-ลางร้ายนี้ ก็มีสัตว์หลายชนิดที่เชื่อกันว่าบางพฤติกรรมของมันนั้นสามารถบ่งบอกสิ่งที่ จะเกิดได้ ซึ่งจะว่าไปแล้วกรณีที่มีการพิสูจน์หรือติดตามเก็บข้อมูลกันอยู่ในเชิง “วิทยาศาสตร์” ที่เกี่ยวโยงกับ “ปรากฏการณ์ธรรมชาติ” ก็ดูจะคล้าย ๆ กันอยู่เหมือนกัน ไม่ ว่าจะเป็นสัตว์อย่าง... มด, แมลงต่าง ๆ, กบ, หิ่งห้อย, นก, สัตว์ป่าต่าง ๆ ฯลฯ กับการที่จะเกิด... ฝนตก, น้ำท่วม, น้ำป่า หรือแม้แต่ แผ่นดินไหว

อย่าง ไรก็ตาม กล่าวสำหรับความเชื่อของคนไทยเรื่องลางดี-ลางร้ายที่จะเกิดกับคนอันเนื่อง จากพฤติกรรมของสัตว์นั้น ก็ยกตัวอย่างเช่น... จิ้งจก ก็มีความเชื่อเรื่องจิ้งจกร้องหรือ “จิ้งจกทัก” ก่อนจะออกจากบ้าน ก็จะมีทั้งแบบที่เชื่อว่าเป็นลางดีและลางร้าย ซึ่ง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” เคยนำเสนอไปบ้างแล้วเมื่อไม่นานมานี้

ตุ๊กแก เมื่อมาอยู่ในบ้าน คนโบราณส่วนหนึ่งเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับวิญญาณบรรพบุรุษมาช่วยคุ้มครอง แต่ถ้า “ตุ๊กแกร้องตอนกลางวัน” ตั้งแต่ เช้ามืดถึงก่อนพลบค่ำ เชื่อว่าเป็นการบอกเหตุร้าย และบางคนก็มีสูตรความเชื่อนอกเหนือจากนี้โดยนับจำนวนครั้งการร้องของตุ๊กแก แล้วจึงตีความว่าเป็นลางดีหรือลางร้ายกันแน่

แมว และสัตว์อื่น ๆ ถ้าเป็น สีดำ ถ้าก่อนออกจากบ้านมันวิ่งตัดหน้าจากด้านขวาไปซ้าย เชื่อกันว่าเดินทางจะมีอันตราย เจออัปมงคล ต้องแก้เคล็ดโดยเปลี่ยนไปออกทางอื่น และกับ “แมวดำ” ใครเคยดูหนังไทยแนวผี ๆ สมัยก่อนคงจะคุ้น ๆ กับฉากแมวดำกระโดดข้ามโลงศพแล้วทำให้เกิด “ผีเฮี้ยน”

ผึ้ง ถ้า “ผึ้งทำรังในเขตบ้าน” เชื่อว่าเจ้าของบ้านจะมีโชค และเชื่อว่าถ้าไปไล่ทำลายรังจะเกิดหายนะ, สัตว์ป่าต่าง ๆ ถ้าเข้ามาในเขตบ้านจากทางทิศเหนือและตะวันตก เชื่อว่าจะให้ลาภ แต่ถ้าเป็นทิศอื่น ๆ จะอัปมงคล, ตัวเงินตัวทอง-ตะกวด-เหี้ย เชื่อว่าเป็นอัปมงคล แต่ถ้าเข้าบ้านให้พูดแต่สิ่งดี ๆ ก็เชื่อว่าจะแก้เคล็ดให้เกิดสิ่งดี ๆ ได้

ที่ว่ามาก็ตัวอย่างความเชื่อเรื่อง “สัตว์บอกเหตุ”

และกับ “นก” ก็มีความเชื่อเรื่องการ “บอกเหตุ”

เช่น... “นกถ่ายมูลรดหัว” จะเป็นนกอะไรก็ตาม ถ้าคนอยู่บริเวณบ้านแล้วนกบินมาถ่ายรดหัว เชื่อว่าจะมีเหตุร้ายให้เดือดร้อน และถ้ากำลังจะออกจากบ้านแล้วโดนนกถ่ายรดหัว เชื่อว่าจะไปเจออันตราย อุบัติเหตุ

อีกาดำ จริง ๆ แล้วกาชนิดต่าง ๆ เป็นนกที่อายุยืน แต่กลับมีความเชื่อว่า “กาดำเป็นนกนำสารจากดินแดนแห่งความตาย” บาง คนก็มองมันเป็นสัญลักษณ์ของความ “ดุร้าย-สกปรก-ขี้ขโมย” ซึ่งกับสถานที่สำคัญ ทางการเมืองของไทยอย่าง ทำเนียบรัฐบาล ก็เคยมีอีกาดำมาทำพฤติกรรมแปลก ๆ ให้ฮือฮา ให้วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่เนือง ๆ อย่างเช่นบินมาจิกตีกันบนยอดตึกไทยคู่ฟ้า ภายในทำเนียบฯ

กับพฤติกรรมแปลกของนกที่เกิดที่ทำเนียบฯ ก็เคยมีเหตุ “นกเอี้ยงตามจิกตีตัวเหี้ยขนาดใหญ่” ราวกับโกรธแค้นสุด ๆ ซึ่งก็วิจารณ์กันแซดว่าเป็นอาเพศ-ลางไม่ดี และนักการเมืองซีกรัฐบาลขณะนั้นก็ถูกแนะนำให้แก้เคล็ด

สำหรับ นกแสก นี่ดูจะโดนหนักหน่อย เพราะถูกเชื่อว่าเป็น “นกผี” ซึ่งนอกจากกรณีที่เพิ่งเป็นข่าวดังแล้ว โบราณก็เชื่อกันว่าถ้านกแสกบินผ่านหลังคาบ้านแล้วร้อง หรือเกาะหลังคาบ้านไหน “เป็นลางบอกเหตุว่าจะมีคนตาย” ซึ่งก็มีเรื่องเล่าที่ไม่มีการยืนยัน ประมาณว่าบางคนกำลังป่วยหนักอยู่ พอเจอลางแบบนี้ก็ยิ่งใจเสียไปเลย !!

ทั้งนี้ กับเรื่องลางบอกเหตุจากสัตว์นี้ ถ้าจะว่ากันในเชิงจิตวิทยา ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นัก จิตวิทยา บอกว่า... ถ้าเป็นเรื่องของเสียงนกแสกที่ร้องตอนกลางคืน ทางด้านจิตวิทยาแล้วเสียงจะเป็นรูปธรรม เป็นเหมือนตัวแทนของอารมณ์ ซึ่งความมืดของเวลากลางคืนที่เงียบสงัดจะควบคู่กับความกลัวของมนุษย์อยู่ แล้ว ยิ่งมีเสียงร้องที่ฟังดูน่ากลัวของสัตว์ต่าง ๆ ก็ยิ่งทำให้เป็นการ “กระตุ้นอารมณ์ความกลัวของมนุษย์” ให้มีมากขึ้นไปอีก

นัก จิตวิทยาระบุอีกว่า... เรื่องของเสียงนั้นเป็นเรื่องของความรู้สึกทางความคิด เมื่อมีเสียงที่กระตุ้นอารมณ์กลัว จิตของมนุษย์ก็จะอุปาทานไปเอง ทำให้เกิดอาการ “หลอน” ได้ ยิ่งเป็นเสียงร้องของสัตว์ในเวลากลางคืนที่มักจะฟังดูโหยหวน ก็ยิ่งกระตุ้นความกลัวของมนุษย์ เพราะเสียงโหยหวนจะคู่กับความน่ากลัว อย่างเช่นเสียงของสุนัขที่เห่าหอนหาคู่ในเวลากลางคืนที่มีผลกับอารมณ์ของคน “ทำให้นึกถึงเรื่องผี” ก็คล้าย ๆ กรณีเสียงนกแสก

“ความ เชื่อว่าพฤติกรรมของสัตว์เป็นลางบอกเหตุ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทย แต่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งจากเรื่องความเชื่อนั้น ก็นำไปสู่เรื่องของจิตใต้สำนึกสะสม สัตว์ที่ถูกกำหนดว่าเป็นลางบอกเหตุร้าย อาจจะมีส่วนเชื่อมโยงกับการที่เคยคุกคามมนุษย์ หรือเกี่ยวพันในเหตุการณ์ร้าย ๆ มาก่อน จึงถูกตั้งหรือกำหนดให้เป็นลางบอกเหตุร้าย” ...ดร.วัลลภระบุทิ้งท้ายในทางหลักจิตวิทยา

ณ ที่นี้...มิใช่จะมาหักล้างความเชื่อเรื่อง “ลาง-สัตว์บอกเหตุ”

เป็นแต่เพียงสะท้อนถึงความเชื่อ...ควบคู่กับศาสตร์จิตวิทยา

“ดี-ร้าย” บางทีก็ “จิตใจมนุษย์” นี่แหละ...ที่ “กำหนด”.

 

ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ในบราซิลเพิ่มเป็น 899 คน​

​

บราซีเลีย 17 ก.ย. – กระทรวงสาธารณสุขบราซิลแถลงว่า บราซิลมียอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ถึง 899 คน ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเลวร้ายที่สุด

แต่ขณะเดียวกัน รายงานจากกระทรวงสาธารณสุขก็ระบุว่า สถิติการเสียชีวิตดังกล่าวได้เริ่มลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 แล้ว เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เริ่มลดลง อย่างไรก็ตาม บราซิลกลายเป็นประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตสูงสุดเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยแซงหน้าสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันมียอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ราว 593 คน ขณะที่อาร์เจนตินา ประเทศเพื่อนบ้านของบราซิล พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสดังกล่าว 512 คน

รายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลกเมื่อนับถึงวันที่ 6 ก.ย. ระบุว่า ไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลก ไปแล้วอย่างน้อย 3,205 คน นับตั้งแต่พบไวรัสดังกล่าวเป็นครั้งแรกในเม็กซิโกเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย

2009-09-17 10:19:03

ไต้ฝุ่นคอปปุพัดถล่มจีน มีผู้เสียชีวิต 7 คน สูญหาย 4 คน​

​

ปักกิ่ง 17 ก.ย. – สำนักข่าวซินหัวของทางจีนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 7 คน และสูญหาย 4 คน จากเหตุพายุไต้ฝุ่นคอปปุพัดถล่มมณฑลกวางตุ้งเมื่อต้นสัปดาห์นี้

รายงานระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คนจากเหตุโคลนถล่มหลังเกิดฝนตกหนัก แต่ยังไม่มีรายงานให้รายละเอียดถึงผู้เสียชีวิตที่เหลือ เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาในมณฑลกวางตุ้งเปิดเผยว่า พายุได้สลายตัวแล้ว สำหรับไต้ฝุ่นคอปปุ เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 15 ซึ่งพัดถล่มจีนในปีนี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศและทางตอนเหนือของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่อย่างไรก็ตามพายุดังกล่าวได้ช่วยบรรเทาความแห้งแล้งในบางพื้นที่ของมณฑลกวางตุ้ง -สำนักข่าวไทย

2009-09-17 12:04:18

เกิดน้ำท่วมฉับพลันในกัมพูชา มีผู้เสียชีวิต 7 คน​

​

พนมเปญ 16 ก.ย. – รัฐบาลกัมพูชาเปิดเผยในวันนี้ว่า มีชาวกัมพูชา 7 คนเสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลัน หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนหลายร้อยหลังและทำลายนาข้าวได้รับความเสียหาย

รายงานจากคณะกรรมการบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติระบุว่า ฝนเริ่มตกตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมาในพื้นที่ 5 จังหวัดของประเทศ และทำให้ประชาชนรวม 7 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 คน จมน้ำเสียชีวิตในเหตุน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนถึง 1,409 หลัง ถูกน้ำท่วม และพื้นที่นาข้าวเกือบ180,000 ไร่ ได้รับความเสียหาย ล่าสุดเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว -สำนักข่าวไทย

2009-09-16 16:51:02

กัมพูชาร้องไทยสอบทหารยิงวัยรุ่นตาย​

​

กัมพูชา 16 ก.ย. -กัมพูชาเรียกร้องไทยสอบสวนกรณีที่มีข่าวว่าทหารไทยยิงและเผาทั้งเป็นวัยรุ่นเขมรที่ไปตัดไม้ฝั่งไทย

นายเอาค์ บ่อริต รมช.ต่างประเทศกัมพูชา แถลงเรียกร้องให้ทางการไทยเข้ามาสอบสวนกรณีที่ทหารไทยยิง นายยน ริต วัยรุ่นกัมพูชาอายุ 16 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าไปตัดไม้ในเขตไทยและจุดไฟเผาทั้งเป็น นอกจากนี้ ยังยิงวัยรุ่นชาวกัมพูชาอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณจังหวัดอุดรมีชัยติดพรมแดนของไทย

โดยสื่อในกัมพูชายังได้แพร่ภาพถ่ายของวัยรุ่นชายคนหนึ่ง ที่อ้างว่าอยู่ในกลุ่มชาวกัมพูชาที่ถูกทหารไทยลอบยิง แต่สามารถหลบหนีกลับไปยังฝั่งกัมพูชาได้ และว่าขณะนี้ ทางการกัมพูชาได้เร่งหาทางช่วยเหลือครอบครัวของวัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเตรียมทำหนังสือประท้วงไปยังกระทรวงการต่างประเทศของไทยแล้ว. -สำนักข่าวไทย

2009-09-16 23:02:02

ยอดผู้ป่วยโรคหัวใจพุ่งขึ้นในอินเดีย​

​

อินเดีย 17 ก.ย. - อินเดียกำลังก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยโรคหัวใจมากที่สุดในโลก และในปีหน้าอินเดียจะมีผู้ป่วยโรคหัวใจมากถึงร้อยละ 60 ของผู้ป่วยโรคหัวใจทั่วโลก

ที่อินเดียในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจมากกว่า 2,500,000 คน จำนวนผู้ป่วยที่สูงมากเช่นนี้ ทำให้องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่าภายในปีหน้า อินเดียจะมีผู้ป่วยโรคหัวใจมากถึงร้อยละ 60 ของจำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจทั่วโลก

ดร.เดนิส ซาเวียร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของศูนย์การแพทย์วิทยาลัยเซนต์ จอห์น ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะนักวิจัยของ WHO ยังได้แสดงความวิตกที่พบว่าผู้ป่วยโรคหัวใจในอินเดียมีอายุเฉลี่ยน้อยกว่าผู้ป่วยโรคหัวใจในประเทศที่ร่ำรวย

สำหรับปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจในอินเดียเหมือนกับในประเทศอื่น ๆเช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว และภาวะความดันโลหิตสูง แม้ว่าชาวอินเดียส่วนใหญ่จะบริโภคอาหารมังสวิรัติตามหลักความเชื่อทางศาสนา ที่ทำให้มีแน้วโน้มว่าสุขภาพจะดีกว่าการรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ แต่เนื่องจากผักและผลไม้มีราคาแพง คนอินเดียจึงยังคงรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่นพวกแป้งและน้ำตาลมากเกินไป

นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังวิเคราะห์หาปัจจัยทางพันธุกรรมที่อาจมีส่วนทำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปีนี้พบว่า ชาวอินเดียร้อยละ 4 มีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่อาจพัฒนาเป็นโรคหัวใจได้ต่อไปในอนาคต ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ พบมากกับผู้ที่อาศัยอยู่แถบเอเชียใต้

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหัวใจจึงไม่ได้อยู่ที่ปัจจัยแวดล้อมด้านอาหารการกินอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมได้โดยตรง. -สำนักข่าวไทย

2009-09-17 00:31:26

ชาเวซ เผยได้ทำข้อตกลงขุดเจาะน้ำมันกับบริษัทจีน​

​

เวเนซุเอลา 17 ก.ย. - ผู้นำเวเนซุเอลาเผยได้ทำข้อตกลงขุดเจาะน้ำมันในประเทศกับบริษัทจีน มูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท

ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ของเวเนซุเอลา เปิดเผยว่า เวเนซุเอลา ได้ลงนามทำข้อตกลงกับบริษัทจีน เพื่อลงทุนขุดเจาะน้ำมันนาน 3 ปี ในพื้นที่แถบลุ่มน้ำออริโนโค ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันที่สำคัญของเวเนซุเอลา โดยโครงการนี้มีมูลค่าการลงทุน 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 5 แสน 6 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะช่วยให้เวเนซุเอลา เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันได้วันละหลายแสนบาร์เรล

ชาเวซ ยังเผยด้วยว่า นอกจากข้อตกลงระหว่างเวเนซุเอลา กับจีนแล้ว การได้ลงนามทำสัญญากับรัสเซียไปเมื่อเร็วๆ นี้ จะช่วยให้ปริมาณการผลิตของเวเนซุเอลา เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 9 แสนบาร์เรล.-สำนักข่าวไทย

2009-09-17 10:13:49

ที่มา http://news.mcot.net

 

หายนะใต้ฝุ่นมรกต
รูปขนาด 990 x 642 pixel

รูปขนาด 990 x 583 pixel



ความคิดเห็นที่ 2 : ผายุใต้ฝุ่นมรกต 13 Sep 2009, 14:20
รูปขนาด 693 x 460 pixel
รูปขนาด 624 x 440 pixel



ความคิดเห็นที่ 3 : ผายุใต้ฝุ่นมรกต 13 Sep 2009, 14:20
รูปขนาด 693 x 426 pixel
รูปขนาด 693 x 457


ความคิดเห็นที่ 4 : ผายุใต้ฝุ่นมรกต 13 Sep 2009, 14:22
รูปขนาด 693 x 539 pixel
รูปขนาด 693 x 432 pixel

ความคิดเห็นที่ 5 : ผายุใต้ฝุ่นมรกต 13 Sep 2009, 14:23


รูปขนาด 693 x 469 pixel
รูปขนาด 693 x 469


ความคิดเห็นที่ 6 : ผายุใต้ฝุ่นมรกต 13 Sep 2009, 14:24
รูปขนาด 693 x 443 pixel
รูปขนาด 693 x 427 ความคิดเห็นที่ 7 : ผายุใต้ฝุ่นมรกต 13 Sep 2009, 14:24


รูปขนาด 693 x 416 pixel
รูปขนาด 693 x 453 ความคิดเห็นที่ 8 : ผายุใต้ฝุ่นมรกต 13 Sep 2009, 14:26


รูปขนาด 693 x 436 pixel
รูปขนาด 693 x 453


ความคิดเห็นที่ 9 : ผายุใต้ฝุ่นมรกต 13 Sep 2009, 14:27
รูปขนาด 693 x 406 pixel
รูปขนาด 693 x 434


ความคิดเห็นที่ 10 : ผายุใต้ฝุ่นมรกต 13 Sep 2009, 14:28
รูปขนาด 693 x 461 pixel
รูปขนาด 693 x 402 pixel




ความคิดเห็นที่ 11 : ผายุใต้ฝุ่นมรกต 13 Sep 2009, 14:29
รูปขนาด 693 x 423 pixel

 

สัญญาณอันตรายเมื่อไปเที่ยวน้ำตก
รูปขนาด 894 x 595 pixel

รูปขนาด 894 x 650 pixel



รูปขนาด 894 x 595 pixel
รูปขนาด 894 x 595 pixel



รูปขนาด 894 x 595 pixel
รูปขนาด 894 x 595 pixel



รูปขนาด 894 x 647 pixel
รูปขนาด 894 x 595 pixel



รูปขนาด 894 x 595 pixel
รูปขนาด 894 x 595 pixel



รูปขนาด 894 x 595 pixel
รูปขนาด 894 x 595 pixel




รูปขนาด 894 x 595 pixel

สัญญาณต่อไปนี้ ให้รีบขึ้นจากน้ำตก
1. ฟ้าฝนครึม
2. ลมเย็นพัดมาจากที่อื่น
3. ฝนลงเม็ด
4. เสียงน้ำดังขึ้นกว่าเดิม จะดังมาแว่วๆไกลๆก่อน
5. น้ำตกมีน้ำเพิ่ม อุณหภูมิน้ำเปลี่ยน
6. น้ำแดง
---------------------------------------------

ปล. 2 คนที่เข้าไปใต้น้ำตกปลอดภัยขอรับ

 

สัญญาณอันตรายเมื่อไปเที่ยวน้ำตก
รูปขนาด 894 x 595 pixel

รูปขนาด 894 x 650 pixel



รูปขนาด 894 x 595 pixel
รูปขนาด 894 x 595 pixel



รูปขนาด 894 x 595 pixel
รูปขนาด 894 x 595 pixel



รูปขนาด 894 x 647 pixel
รูปขนาด 894 x 595 pixel



รูปขนาด 894 x 595 pixel
รูปขนาด 894 x 595 pixel



รูปขนาด 894 x 595 pixel
รูปขนาด 894 x 595 pixel




รูปขนาด 894 x 595 pixel

สัญญาณต่อไปนี้ ให้รีบขึ้นจากน้ำตก
1. ฟ้าฝนครึม
2. ลมเย็นพัดมาจากที่อื่น
3. ฝนลงเม็ด
4. เสียงน้ำดังขึ้นกว่าเดิม จะดังมาแว่วๆไกลๆก่อน
5. น้ำตกมีน้ำเพิ่ม อุณหภูมิน้ำเปลี่ยน
6. น้ำแดง
---------------------------------------------

ปล. 2 คนที่เข้าไปใต้น้ำตกปลอดภัยขอรับ

 

ฟังคุณคณานันท์พูดถึงการสังเกตสิ่งรอบตัว ตกใจเลย พบกับตัวเองอย่างจัง
พฤหัสที่แล้ว (10 กย) ข้ามฟากไปรพ. ศิริราช สามีถามว่าทำไมน้ำมันสูงจัง
บอกเขาว่าไม่รู้หรอกว่าปรกติสูงแค่ไหน
ฝรั่งเห็นแล้ว (เขาช่างสังเกต ขี้สงสัย) เราสิไม่เห็น...

ทราบแต่ว่าต้นไม้ทางต้นน้ำหายไปเยอะแล้ว
เมื่อสามสิบปีก่อนอยู่โรงเรียนริมน. เจ้าพระยา ก็เห็นน้ำออกเขียวๆ ยังบ่นว่าน้ำทำไมสีเขียว
เดี๋ยวนี้ข้ามสะพานพุทธฯทุกวัน เห็นน้ำสีโคลนทุกวัน สีเหมือนน้ำชะดินลูกรัง
คือน้ำที่ชะหน้าดินออกมานั่นเอง

อย่างนี้เมื่อลงน้ำแม่น้ำลงทะเล ตะกอนดินที่น้ำพาไปทำให้น้ำทะเลขุ่น แสงส่องไม่ถึงด้านล่าง สาหร่ายเซลล์เดียวสังเคราะห์แสงไม่ได้ แพลงค์ตอนสัตว์ในทะเลตายเพราะไม่มีแพลงค์ตอนพืชบริโภค ลูกปลา ลูกกุ้งไม่มีอาหาร ปลาใหญ่ไม่มีปลาเล็กบริโภค เสียสมดุลระบบนิเวศน์
แล้วสัตว์โลกจะดำรงอยู่ได้หรือ...

ไม่มีป่าซับน้ำ ดูข่าวน้ำท่วม น้ำป่า พิจิตร เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ทางใต้ด้วย มีน้ำป่าน้ำท่วมทุกวัน
บางที่น้ำสูงถึงเข่า หรือถึงหน้าอก ข้าวและผลิตผลการเกษตรเสียหายหลายพันไร่แล้ว
น้ำ น้ำ น้ำ...

ข่าวมดขึ้นน้ำเปล่าในแก้ว ที่บ้านก็พบค่ะ
ไปนึกว่าล้างแก้วไม่สะอาด ฮิฮิ
คอนโดชั้นเจ็ดก็สูงแล้ว เดี๋ยวนี้มดมาอยู่ในร่องกระเบื้องฝาห้องน้ำ
หรือเขาอพยพขึ้นที่สูงก่อนน้ำท่วม ฮา

ประเทศไทย..ภัยจากน้ำ...มาแล้ว...วันนี้
มาจากมนุษย์ทั้งนั้น

 

ปริมาณน้ำในเขื่อนลำปะทาวเกินความจุ ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรชัยภูมิ​

​

ชัยภูมิ 18 ก.ย. - ปริมาณน้ำ ในเขื่อนลำปะทาวเกินความจุ ไหลทะลักเข้าท่วมส่วนราชการจังหวัดชัยภูมิ และมีจระเข้กว่า 100 ตัว หลุดจาฟาร์ม สร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก

น้ำป่าจากเทือกเขาภูแลคา และเทือกเขาภูเขียว ไหลเข้าเขื่อนลำปะทาว อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ จนเต็มความจุ ล้นสปริงเวล์ เข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน และส่วนราชการ ทั้งศาลากลางจังหวัด โรงพยาบาล สำนักงานที่ดินจังหวัด และสำนักงานอัยการจังหวัด ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูง

นอกจากนี้ น้ำป่ายังไหลลงสู่แม่น้ำชี เอ่อล้นเข้าท่วมฟาร์มหมู ทำให้จระเข้กว่า 100 ตัว ซึ่งเจ้าของฟาร์มเลี้ยงไว้กินซากหมู หลุดออกจากบ่อ ชาวบ้านที่ออกหาปลา ยืนยันว่าพบจระเข้ความยาวประมาณ 1- 2 เมตร ลอยอยู่ลำน้ำชีหลายตัว สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด แจ้งเตือนชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังจากน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ ตำบลห้วยต้อน อำเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งอยู่ติดกับห้วยชีลอง ลำน้ำสาขาแม่น้ำชี ขณะนี้ถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม บ้านเรือนเสียหายกว่า 400 หลัง ถนนและสะพานถูกน้ำท่วมสูง หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก. -สำนักข่าวไทย

2009-09-18 09:37:48

เชียงใหม่น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรแล้วใน อ.แม่ออน​

​

เชียงใหม่ 17 ก.ย. - นายอมรพันธ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องในระยะ 1-2 วันนี้ จังหวัดได้วิทยุแจ้งด่วนทุกอำเภอให้เฝ้าระวังภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานว่า พื้นที่ ต.แม่ทา อ.แม่ออน เกิดน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง จากลำน้ำทามีระดับน้ำสูงขึ้น เนื่องจากฝนที่ตกหนักมีปริมาณมากกว่า 100 มิลลิเมตร เมื่อคืนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือเชียงใหม่ยังประกาศเตือนภัยประชาชนจากอิทธิพลของความกดอากาศต่ำที่พัดปกคลุมระยะนี้ จะทำให้มีฝนตกหนัก 60-70% ของพื้นที่ บางพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตร และจะเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงปลายสัปดาห์ นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า สถานการณ์น้ำในลำน้ำสำคัญในเชียงใหม่ ขณะนี้มีหลายสายน่าเป็นห่วง คือ ลำน้ำแจ่ม และลำน้ำแม่วาง ซึ่งมีระดับน้ำสูง หากมีฝนตกหนัก อาจจะเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนราษฎรได้ ขณะที่แม่น้ำปิงยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก. - สำนักข่าวไทย

2009-09-17 14:28:35

ลำปางน้ำท่วม 3 อำเภอระดับน้ำลดลงกลับสู่ภาวะปกติแล้ว​

​

ลำปาง 17 ก.ย.-นายสมบูรณ์ ก๋าใจ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง เปิดเผยหลังลงตรวจพื้นที่น้ำท่วมในจังหวัดลำปาง ว่า มีพื้นที่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากน้ำในลำห้วยเอ่อล้น กับมีน้ำป่าไหลหลากลงมาสมทบกับฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง รวม 3 อำเภอ คือ อ.เมืองปาน มีน้ำท่วม 7 หมู่บ้านใน ต.ทุ่งกว๋าว อ.เมืองลำปาง น้ำท่วม 8 หมู่บ้านใน ต.บ้านค่า และ อ.แม่เมาะ น้ำท่วม 3 หมู่บ้าน ใน ต.บ้านดง รวมมีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมกว่า 120 หลัง

นอกจากนี้ ในพื้นที่ อ.แม่เมาะ มีน้ำท่วมคอสะพานขาด 1 จุด ถนนเข้าหมู่บ้านถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหายหลายเส้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ใน 3 อำเภอดังกล่าว ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ที่ยังน่าเป็นห่วงคือ หมู่บ้านในพื้นที่ท้ายน้ำที่ปริมาณน้ำยังไหลไปไม่ถึง อาจจะได้รับผลกระทบ เช่น ต.บ้านเอื้อม ต.บ้านเป้า และ ต.บ่อแฮ้ว ซึ่งได้ประกาศเตือนภัยไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-09-17 14:23:45

นอภ.ท่าวังผา สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหลาก 24 ชั่วโมง​

​

น่าน 17 ก.ย.- นายมนัส ขันใส นายอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำตามลำน้ำสาขาในอำเภอปัว อาทิ ลำน้ำยอด ลำน้ำปัว ลำน้ำแหน และน้ำไคร้ เริ่มมีปริมาณและระดับสูงขึ้น สถานีตรวจวัดระดับน้ำน่านบริเวณสะพานบ้านผาขวาง อ.เมืองน่าน ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 3.50 เมตร ซึ่งถือว่ากำลังเข้าสู่ระดับที่จะต้องเตรียมตัว หากยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง อาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือ น้ำท่วมฉับพลันได้ อีกทั้งอำเภอท่าวังผาเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ มีแม่น้ำสายต่าง ๆ ไหลผ่าน จึงเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยในการรองรับน้ำจากอำเภอทางหนือ

ขณะนี้ได้แจ้งเตือนประชาชนพื้นที่ราบลุ่ม หรือติดริมน้ำ หรือที่ลาดภูเขา ให้เตรียมพร้อมในการขนย้ายข้าวของ หรือพร้อมอพยพไปอยู่พื้นที่สูงในช่วงระยะเวลาดังกล่าว พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่เคลื่อนที่เร็วในระดับอำเภอ ตำบล และมิสเตอร์เตือนภัยในหมู่บ้าน เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฝ้าระวังระดับน้ำฝน ระดับน้ำที่แม่น้ำ และแม่น้ำสาขาต่าง ๆ ที่ต้องไหลมารวมที่อำเภอท่าวังผา ทั้งนี้ หากเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก จะได้ดำเนินการช่วยเหลือได้ทันที.-สำนักข่าวไทย

2009-09-17 19:18:47

บุรีรัมย์เตือนรับมือน้ำป่าไหลหลากหลังเกิดน้ำท่วมแล้ว 2 อำเภอ​

​

บุรีรัมย์ 17 ก.ย.- นายพรเชษฐ์ แสงทอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดบุรีรัมย์ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ริมลำน้ำมาศ อ.ลำปลายมาศ และลำน้ำมูล อ.สตึก แคนดง คูเมือง และ อ.พุทไธสง ให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ หลังมีหย่อมความกดอากาศต่ำแผ่ปกคลุมทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่หลายอำเภอ ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานมีน้ำท่วมไร่นา บ่อกบ บ่อปลา และถนนในหมู่บ้านได้รับความเสียหาย ใน 2 อำเภอ คือ อ.บ้านกรวด และ อ.หนองหงส์ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 400 ครัวเรือน

เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเข้าไปตรวจสอบความเสียหาย เพื่อรายงานจังหวัดพิจารณาให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน หรือหากราษฎรรายใดที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนกระหน่ำ ให้แจ้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มอำเภอ หรือจังหวัดได้ทันที นอกจากนี้ ปภ.จว. ยังได้แจ้งเตือนประชาชนไม่ควรจะใช้โทรศัพท์มือถือขณะมีฝนตกฟ้าร้อง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดฟ้าผ่าเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ส่วนราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมอพยพสิ่งของ สัตว์เลี้ยง ขึ้นบนที่สูง เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น หากเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก.-สำนักข่าวไทย

2009-09-17 15:39:26

กทม.เตรียมพร้อมรับมือชุมนุม นปช. 19 ก.ย.นี้​

​

กรุงเทพฯ 17 ก.ย.- ผู้ว่าฯ กทม.เตรียมพร้อมรับการชุมนุมใหญ่กลุ่ม นปช. 19 ก.ย.นี้ เผยใช้มาตรการเดิมรักษาความปลอดภัยเช่นเดียวในวันที่ 5 ก.ย. เตรียมศูนย์ปฏิบัติการ 24 ชั่วโมง พร้อมสั่งเขตใกล้เคียงเตรียมพร้อมหากมีการขยายการชุมนุมออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียง

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ กทม.หลังกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) จะมีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่เขตดุสิต ระหว่างวันที่ 18-22 กันยายน 2552 โดยให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เป็นแกนหลักในการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งตนเองในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน. กทม.) เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้แล้วจึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

โดยจะมีศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในตั้งอยู่ที่ศาลาว่าการ กทม. และมีปลัด กทม.เป็น ผอ.ศูนย์ฯ ซึ่งจะประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง และจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเหมือนวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา อาทิ การจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เทศกิจจำนวน 300 นาย ไว้สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ จัดเตรียมรถดับเพลิง รถสุขาเคลื่อนที่ ทีมแพทย์-พยาบาล และให้โรงพยาบาลในสังกัดทั้ง 9 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่ง เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมงหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ปลัด กทม.แจ้งให้ทุกสำนักงานเขตเตรียมพร้อมเนื่องจากไม่ทราบว่าสถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร และขอให้ทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมหากมีการนำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ ไปบังคับใช้ในพื้นที่อื่น กรณีที่มีการขยายการชุมนุมออกไปยังพื้นที่อื่น เช่น เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตพระนคร ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกัน นอกจากนี้ ยังได้สั่งระงับโครงการสำนักงานเขตเคลื่อนที่ที่กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์นี้ออกไปก่อนเพื่อให้สำนักงานเขตต่างๆ สามารถเตรียมการได้เต็มที่ และ ในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ย.) เวลา 10.00 น.จะมีการประชุม กอ.รมน.กทม.เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย

2009-09-17 16:07:03

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

ข้อความจาก Twitter by ข่าวสารภัยพิบัติ (paipibat) on Twitter

น้ำล้นเขื่อนท่วมตัวเมืองชัยภูมิสั่งปิด รร. 7 แห่ง ใครเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ/ถุงยังชีพโทรติดต่อ 044-813325 -คมชัดลึก

 

มดละเอียด คือ อะไรอะ ไม่รู้จัก

 

catt3คุณFalkmanแหมตอบไปได้ จริง ๆ ก็คือ มดละเอียด เป็นน้องมดหยาบ มดป่น เป็น น้องของมดละเอียดอีกที น้องสุดท้อง คือ มดผงไงครับ

 

วันก่อนเจอมด 1 คู่บนใบต้นพุด แปลกมากที่ บั้นท้ายเป็นสีเขียว ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ทราบว่าเป็นมดประเภทไหนคะ...

 

18 ก.ย. 52

เลือดออก ยางตก บ้านกระดาษ เอพีเอส