ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เรียนคุณคณานันท์ ผู้ดูแลห้องภัยพิบัติและการเตรียมการ​

ผมเห็นว่ามันชักจะเลยเถิดออกนอกจุดมุ่งหมาย ของห้องภัยพิบัติและการเตรียมการณ์ไปกันใหญ่แล้ว ถ้ายังไงผมคิดว่าน่าจะคัดเรื่องที่เป็นข้อถกเถียงเรื่องพระห้ามจับเงินทองนี้ออกไปตั้งกระทู้ต่างหาก ให้ไปอยู่นอกห้องภัยพิบัติและการเตรียมการนี้จะดีกว่านะครับ

ขืนปล่อยให้ถกเถียงกันไปมันก็ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะต่างก็มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน อีกทั้งยังมีการกล่าวปรามาสล่วงเกินพระอริยะสงฆ์เข้าอีกด้วย ทั้งๆ ที่ผมก็ได้เขียนเตือนเอาไว้แล้ว ว่าจะมีโทษหนักตามกฎแห่งกรรม แต่ก็ยังมีคนพยายามจะเอาชนะกันด้วยมานะทิฐิกันอีก ขืนปล่อยเอาไว้อย่างนี้ก็จะทำให้มีคนต้องตกนรกมากขึ้น ถ้าเผลอไปให้ดีเห็นงามกับผู้ที่กล่าวปรามาสพระอริยะสงฆ์ท่านครับ

 

คุณ เกษม เสนอข่าวภัยพิบัติ ต่อเลยครับ (ขอเยอะๆ)

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เลื่อนทดลองวัคซีนหวัด 2009 ในคน เป็น 24 ก.ย. เหตุพบฝีที่ปอดหนู </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 กันยายน 2552 17:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“หมอวิชัย” เผยเลื่อนการทดลองวัคซีนหวัดใหญ่ 2009 กับอาสาสมัคร เหตุพบฝีที่ปอดหนู แต่ไม่น่ากังวล เจอแค่ตัวเดียว รอผลพิสูจน์ คาดไม่เกี่ยวกับวัคซีน รวมถึงรอลุ้นผลการเจาะเลือดหนูทดลองครั้งสุดท้าย 23 ก.ย.รู้ผลกรระตุ้นภูมิคุ้มกัน ก่อนถือฤกษ์ดี 24 ก.ย. ฉีดในคน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จากเชื้อเป็นว่า

ขณะนี้การทดลองวัคซีนในหนูโดยวิธีการพ่นเข้าจมูกและฉีดเข้าท้องหนูดำเนินการเสร็จแล้ว โดยการทดสอบฉีดวัคซีนเข้าท้องหนู เพื่อดูความเป็นพิษ พบว่าหลังจากสละชีพสัตว์ทดลอง มีหนู 1 ตัว ในจำนวนหลายตัวเกิดความผิดปกติที่ปอดโดยมีเม็ดเล็กๆ คล้ายฝี ซึ่งจะต้องนำชิ้นเนื้อจากหนูตัวดังกล่าวไปตรวจสอบอีกครั้งว่าเกิดจากอะไร

แต่เบื้องต้นไม่น่ากังวลเพราะในหนูกลุ่มที่ฉีดวัคซีนปริมาณสูงไม่พบความผิดปกติ แต่พบในกลุ่มที่ฉีดปริมาณน้อยและอาจจะเกิดจากขบวนการอื่นหรือเป็นไปตามธรรมชาติไม่ใช่เกิดจากผลของวัคซีน โดยกรณีดังกล่าวเหมือนกับการทดลองในหนูที่ประเทศรัสเซียซึ่งพบความผิดปกติเล็กน้อยที่ปอดของหนูเช่นกัน และไม่พบความผิดปกติในการพ่นเข้าจมูกหนู

“หลังจากฉีดและพ่นวัคซีนแล้ว จะต้องทดสอบการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของหนูโดยการเจาะเลือดไปตรวจ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทำยากเนื่องจากเส้นเลือดของหนูมีขนาดเล็กมาก ทำให้การทดสอบเลื่อนจากกำหนดเดิม คือ วันที่ 15 ก.ย. คาดว่ากระบวนการทดสอบในสัตว์ทดลองทั้งหมดจะเสร็จในวันที่ 23 ก.ย.นี้ เพื่อจะนำไปทดลองในอาสาสมัครครั้งแรกได้ในวันที่ 24 ก.ย.ซึ่งถือเป็นวันที่ดีเราะตรงกับวันมหิดล ที่เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก” นพ.วิชัย กล่าว

นพ.วิชัย กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการจริยธรรมของกระทรวงสาธารณสุข และมหาวิทยาลัยมหิดล อนุมัติขั้นตอนการคัดเลือดอาสาสมัครแล้ว โดยมีการประชุมเตรียมความพร้อมไปเมื่อวันที่ 7 ก.ย. โดยคณะทำงานกำกับการวิจัย ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากประเทศฟิลิปปินส์ และผู้เชี่ยวชาญของประเทศไทยอีก 2 คนมาตรวจความพร้อมของโครงการทั้งหมด และความพร้อมของอาคารปฏิบัติการที่คณะสัตว์แพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยผ่านมาตรฐานที่กำหนดไว้ทุกประการ

โดยจะใช้เป็นสถานที่ทดสอบและสังเกตอาสาสมัครทั้งหมด โดยได้เริ่มกระบวนการคัดเลือกอาสาสมัครวันแรกเมื่อวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 ถือเป็นฤกษ์ดี โดยอาสาสมัครจะต้องผ่านการทดสอบคุณสมบัติอย่างละเอียดประมาณ 20 ข้อ โดยมีผู้สนใจเข้าคัดเลือกเป็นอาสาสมัครจำนวนมาก สำหรับวันแรกมีผู้ผ่านการทดสอบแล้วจำนวน 2 คน ซึ่งจะคัดเลือกให้เหลือ 50 คนและคัดเลือกครั้งสุดท้ายให้เหลือ 24 คน ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถคัดเลือกอาสาสมัครได้ตามที่กำหนดไม่มีปัญหาแต่อย่างใด


</TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000105364

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปาปัวนิวกินีเกิดโรคระบาด 3 โรคซ้อน ทางการประกาศภาวะฉุกเฉิน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 กันยายน 2552 17:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เอเอฟพี - ปาปัวนิวกินี เร่งควบคุมการระบาดพร้อมๆ กันของอหิวาตกโรค, ไข้หวัดใหญ่และท้องร่วง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 100 ราย จนทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข สื่อท้องถิ่นรายงาน

ผู้ตรวจการด้านสาธารณสุข ถูกสั่งให้ปิดโรงเรียนและตลาดหลายแห่ง ตลอดจนขุดส้วมที่ถูกสุขลักษณะ และจำกัดการเคลื่อนย้ายของประชาชนใน 3 จังหวัดที่อยู่ห่างไกล หนังสือพิมพ์เดอะเนชันเนลรายงาน ขณะที่องค์การอนามัยโลก (ฮู) และทางการออสเตรเลียเร่งให้ความช่วยเหลือ

ประเทศยากจนในมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้ ออกประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวานนี้ (9) หลังจากยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในหนึ่งสัปดาห์

“ภายใต้ประกาศภาวะฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข, หน่วยงานของรัฐและกลุ่มเอ็นจีโอทั้งหมดในภารกิจครั้งนี้ มีอำนาจในการปรับปรุงสุขลักษณะและสุขอนามัย ตลอดจนจำกัดการระบาดของโรคดังกล่าว” ซาซา ไซบี รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแถลง

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานด้วยว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่อย่างน้อย 51 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 3,000 คน และมีผู้เสียชีวิตอีก 29 รายจากโรคท้องร่วง

ด้านผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำปาปัวนิวกินีกล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ “น่าเป็นห่วงมาก เพราะปกติระบบสาธารณสุขของประเทศแห่งนี้ย่ำแย่อยู่แล้ว”

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000105343

 

-มายกมือ สนับสนุนเห็นด้วยอย่างแรง ห้องนี้ ."ภัยพิบัติและการเตรียมการ"

 

อยากถามคุณเกษมหน่อยครับ ที่ผมอยู่ที่ลพบุรี บริเวณใกล้เขาตัดตรงอำเภอพัฒนานิคม แต่มีเขาล้อมรอบที่สังเกตุจากบริเวณโดยรอบ จะปลอดภัยจากน้ำไหมครับ

 

เรือล่มในเซียร์ราลีโอน มีผู้สูญหาย 200 คน



​

ฟรีทาวน์ 10 ก.ย.- เกิดเหตุเรืออับปางในแม่น้ำที่ประเทศเซียร์ราลีโอน ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา มีผู้โดยสารประมาณ 200 คนสูญหาย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก

นายออสมอนด์ แฮนซิเลส ผู้ช่วยรัฐมนตรีคมนาคมเซียร์ราลีโอน กล่าวว่า เรือลำนี้มีผู้โดยสารที่ขึ้นบัญชีอย่างเป็นทางการ 241 คน แต่ในเรืออาจมีผู้โดยสารและลูกเรือรวมกันกว่า 300 คน เรือได้อับปางลงเมื่อคืนวันอังคาร ทางตะวันออกของกรุงฟรีทาวน์ ทางการประกาศเมื่อวานนี้ว่าพบผู้เสียชีวิต 8 ศพ และช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้แล้ว 37 คน

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการค้นหา แต่นักประดาน้ำก็ยังคงค้นหาผู้สูญหายในแม่น้ำเซียร์ราลีโอนใกล้หมู่บ้านทอมโบ ห่างจากกรุงฟรีทาวน์ไปทางทิศตะวันออก 80 กิโลเมตร ขณะที่รัฐบาลก็เริ่มสอบสวนหาสาเหตุของเรืออับปาง

ประธานาธิบดีเออร์เนส โคโรมา ของเซียร์ราลีโอน เสียใจอย่างมากต่อเหตุการณ์นี้ และได้สั่งการให้กองทัพบกและกองทัพเรือระดมกำลังเต็มที่เพื่อช่วยเหลือกู้ภัยผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่บอกว่าเรืออับปางลงในเวลาเพียง 2-3 นาที หลังจากถูกพายุฝนพัดถล่ม ผู้รอดชีวิตให้การว่าเรือลำนี้มีผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนมากที่กำลังเดินทางไปสมัครเรียนหนังสือที่กรุงฟรีทาวน์ เรือได้หยุดแวะรับผู้โดยสารในหลายจุดตามทาง โดยในบริเวณที่เรืออับปางมีหมู่บ้านอย่างน้อย 10 แห่ง.-สำนักข่าวไทย

2009-09-10 17:53:21

ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในอิสตันบูลเพิ่มเป็น 31 คน​

​

ตุรกี 10 ก.ย. - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 31 คน

นครอิสตันบูล เมืองใหญ่ที่สุดของตุรกี เผชิญฝนตกหนักที่สุดในรอบ 80 ปี ตลอด 2 วันที่ผ่านมา จนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันบนทางหลวงในย่านอิคิเตลลี ทำให้เส้นทางสัญจรจากเมืองไปยังสนามบินนานาชาติ รวมถึงเส้นทางเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกรีซและบัลแกเรีย จมอยู่ใต้น้ำสูงกว่า 2 เมตร ผู้ใช้รถหลายคนต้องรีบหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคารถ ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก เพื่อรอเจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์ดึงร่างไปยังที่ปลอดภัย

ผู้ว่าการนครอิสตันบูล แถลงว่า พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คน หลายคนเสียชีวิตเพราะถูกน้ำท่วมในรถของตัวเองจนขาดอากาศหายใจ และยังมีอีก 8 คน สูญหาย ด้านนายกรัฐมนตรีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน เตรียมเดินทางไปยังนครอิสตันบูล เพื่อตรวจเยี่ยมความเสียหายในวันนี้. - สำนักข่าวไทย

2009-09-10 02:00:00

เกิดเหตุเหยียบกันตายในโรงเรียนที่อินเดีย ตาย 5 เจ็บ 30​

​

อินเดีย 10 ก.ย.-เกิดเหตุเหยียบกันตายในโรงเรียนแห่งหนึ่งของอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และบาดเจ็บอีก 30 คน

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ขณะที่นักเรียนหลายร้อยคนมาเข้าสอบ สำนักข่าวเพรสทรัสท์ของอินเดีย รายงานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บันไดทางแคบ โดยนักเรียนซึ่งมีอายุระหว่าง 8-16 ปี วิ่งหนีตายกันด้วยความตื่นตระหนก หลังได้รับคำสั่งให้ออกนอกห้องเรียน เพราะเกรงว่าน้ำท่วมจากฝนที่ตกหนักจะทำให้เกิดไฟดูด เพราะมีกระแสไฟฟ้ารั่วจากปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร เป็นเหตุให้เกิดการเหยียบกัน ส่งผลให้มีนักเรียนเสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และบาดเจ็บอีก 30 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-09-10 15:23:33

มีผู้เสียชีวิต 17 คนจากเหตุระเบิดรถบรรทุกในอิรัก​

​

โมซุล 10 ก.ย. - ตำรวจอิรักกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน และบาดเจ็บ 25 คน จากเหตุรถบรรทุกระเบิดที่หมู่บ้านชาวเคิร์ดในเมืองโมซุล ทางเหนือของอิรัก เมื่อช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น

เจ้าหน้าที่อิรักกล่าวว่า เหตุระเบิดรถบรรทุกเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืนเศษ หรือเวลา 04.00 น. เช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาในไทย ที่หมู่บ้านวอร์ดัก โดยผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแล้ว ส่วนเหตุระเบิดระลอก 2 ถูกกองกำลังรักษาความมั่นคงสกัดเอาไว้ได้ โดยเจ้าหน้าที่ยิงคนขับรถก่อนที่เขาพยายามจุดระเบิดรถบรรทุกที่ขับมา ทหารและตำรวจอิรักรวมถึงกองกำลังชาวเคิร์ดได้ปิดล้อมพื้นที่โดยรอบหมู่บ้านในเมืองโมซุล ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่อันตรายที่สุดในอิรัก การโจมตีในพื้นที่แห่งนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเกือบเป็นการโจมตีรายวัน ซึ่งยังรวมถึงความขัดแย้งระหว่างชุมชนชาวอาหรับกับชาวเคิร์ดด้วย. -สำนักข่าวไทย

2009-09-10 10:17:34

ชาวอังกฤษกว่าครึ่งไม่เห็นด้วยในการส่งทหารเข้าไปในอัฟกานิสถาน ​

​

ลอนดอน 10 ก.ย.-ผลการสำรวจครั้งใหม่ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคมที่ผ่านมา พบว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่คัดค้านปฏิบัติการทางทหารในอัฟกานิสถาน

ผลการสำรวจชาวอังกฤษ 2,000 คนโดยพิพิธภัณฑ์กองทัพแห่งชาติของอังกฤษ พบว่า ร้อยละ 53 ไม่เห็นด้วยในการส่งทหารไปในอัฟกานิสถาน มีเพียงร้อยละ 25 ที่สนับสนุน ขณะนี้อังกฤษมีทหารประมาณ 9,000 นาย ในอัฟกานิสถานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังพันธมิตรนานาชาติ

ส่วนใหญ่ของทหารอังกฤษประจำการอยู่ที่จังหวัดเฮลมันด์ทางภาคใต้ ซึ่งสถานการณ์มีความผันผวนยากต่อการคาดการณ์ ทหารอังกฤษเสียชีวิตในอัฟกานิสถานแล้ว 213 นายนับตั้งแต่กองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ บุกโจมตีอัฟกานิสถานในปี 2544 ล่าสุดเมื่อวันพุธมีทหารอังกฤษเสียชีวิต 1 นาย ในระหว่างส่งกำลังบุกชิงตัวผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์ที่ถูกตอลีบานจับเป็นตัวประกันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากชาวอังกฤษกว่าครึ่งไม่เห็นด้วยในการส่งทหารไปในอัฟกานิสถานแล้ว ชาวอังกฤษร้อยละ 60 ไม่เห็นด้วยในการส่งทหารอังกฤษเข้าไปที่อิรัก มีเพียง 20% ที่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามว่ารู้สึกอย่างไรถ้ามีลูกหลานขอไปรบในอัฟกานิสถานและอิรัก ปรากฏว่า ชาวอังกฤษร้อยละ 64 บอกว่าจะสนับสนุน มีเพียงร้อยละ 32 ที่บอกว่าจะขัดขวาง.-สำนักข่าวไทย

2009-09-10 09:03:11

เมืองเนเปิลส์ห้ามจูบขวดเลือดนักบุญในงานประจำปีป้องกันหวัดใหญ่ 2009 ระบาด​

​

เนเปิลส์ 9 ก.ย.- เมืองเนเปิลส์ของอิตาลีประกาศห้ามคริสต์ศาสนิกชนจูบขวดแก้วใส่เลือดของนักบุญเจนนาโรในงานประจำปีเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาด ด้านนักการเมืองท้องถิ่นตำหนิคำสั่งห้ามดังกล่าว

นักบวชและเจ้าหน้าที่เมืองเนเปิลส์ตัดสินใจอย่างลำบากใจ ห้ามผู้ร่วมงานจูบขวดแก้วใส่เลือดของนักบุญเจนนาโรที่จะตั้งไว้ในวิหารประจำเมืองเนเปิลส์เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนนี้ และจะให้ใช้หน้าผากสัมผัสขวดเท่านั้น ด้านนักการเมืองพรรคสังคมนิยมตำหนิว่า คำสั่งห้ามจะยิ่งกระพือกระแสวิตกจริตเกี่ยวกับโรคนี้ และได้ขอให้อาร์คบิชอปเมืองเนเปิลส์ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว อิตาลีเพิ่งมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นชายวัย 51 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเมืองเนเปิลส์

นักบุญเจนนาโรถูกชาวโรมันตัดศีรษะเมื่อปี คศ.503 ตรงกับปี พ.ศ.1046 สตรีคนหนึ่งนำฟองน้ำซับเลือดของเขาเก็บไว้ในขวดแก้ว เชื่อกันว่าเลือดที่แห้งอยู่ในขวดจะละลายเป็นน้ำเลือดปีละ 2 ครั้ง คือวันเสาร์แรกของเดือนพฤษภาคม และวันที่ 19 กันยายน โดยพบปรากฏการณ์พิศวงนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1389 ตรงกับปี พ.ศ.1932 ชาวเนเปิลส์บางคนเชื่อว่าปีใดที่เลือดไม่ละลาย เมืองจะเกิดหายนะ ส่วนผู้ที่มองในแง่วิทยาศาสตร์คิดว่า สารเคมีในขวดเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดละลายเมื่อเขย่าขวด.-สำนักข่าวไทย

2009-09-09 18:08:44

ที่มา http://news.mcot.net

 

ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับโลกมนุษย์ สามารถแยกออกเป็นภัยที่เกิดขึ้นในรูปของธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

1. ดิน ภัยที่เกิดขึ้นในรูปของดิน คือ แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก ถล่มทลาย ฯลฯ
2. น้ำ ภัยที่เกิดขึ้นจากน้ำ ได้แก่ ภาวะฝนแล้งติดต่อกันยาวนานในบางประเทศ และเกิด ภาวะน้ำท่วมในบางประเทศ ในระหว่างที่เกิดการซ้อนกันของดวงดาวต่างๆ ทำมุม ๑๘๐ องศาอีก น้ำแข็งขั้วโลกจะละลาย น้ำทะเลจะหนุนเนื่องท่วมสูงมาก จนเกิดคลื่นขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ ๑,๐๐๐ ถึง ๒,๐๐๐ ฟุต เนื่องจากคลื่นใต้น้ำซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเล
3. ลม ภัยที่เกิดขึ้นในรูปของลม ก็มีลมพายุชนิดต่างๆเช่น ทอร์นาโด ลมไต้ฝุ่น เกิดขึ้นในท้องที่ต่างๆทั่วโลก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวและแผ่นดินแยกนี้จะมีอากาศบางชนิดเป็นพิษอย่างร้ายแรงขึ้นจากใต้พิภพ ทำให้มนุษย์ที่สูดอากาศเหล่านี้เข้าไปต้องตายหมด
4. ไฟ ภัยที่เกิดขึ้นจากไฟ ได้แก่ ภูเขาไฟระเบิดมีไฟพลุ่งขึ้นจากใต้พิภพตามรอยแผ่นดินแยกหรือมีคลังเชื้อเพลิง บ่อน้ำร้อน ท่อแก๊สระเบิด และลุกเป็นไฟ

• ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทย
  
  ภาคใต้
  จะพบกับพายุน้ำท่วม แผ่นดินไหว และคลื่นขนาดยักษ์พัดเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างจะสูญสิ้นไปหมดแผ่นดินจะหายไปหมด คนที่อาศัยอยู่จะเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เหลือแต่เกาะไม่กี่เกาะ น้ำอาจท่วมถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ของภาคใต้
  
  ภาคกลาง
  จะพบพายุฝนตกอย่างหนัก แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงแผ่นดินจะจมลง เนื่องจากแผ่นดินไหวและทรุดตัวลงกลายเป็นทะเล (ทางไปภาคใต้น้ำจะท่วมถึงจังหวัดนครปฐม ทางเหนือจะถึงนครสวรรค์ )
  
  ภาคตะวันอกเฉียงเหนือ
  จะพบภัยพิบัติน้อยกว่าภาคอื่น ๆ เพราะว่าภาคนี้ประสบเคราะห์กรรมอยู่เสมอ เป็นการใช้หนี้กรรมอยู่เป็นประจำ.โดยภาคนี้จะพบลมพายุและแผ่นดินไหวบ้างเล็กน้อย จังหวัดที่ปลอดภัย ก็มี อุดรธานี อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ขอนแก่น ชัยภูมิ เป็นต้น แต่ปัญหาสำหรับภาคนี้ก็คือ ผู้คนที่รอดตายจะต้องพบกับโรคระบาดและอดอยาก เพราะพืชพันธุ์ธัญญาหารจะถูกภัยธรรมชาติทำลาย
  
  ภาคเหนือ
  จะพบกับภัยธรรมชาติ คือแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก มีไฟพลุ่งขึ้นมาจากใต้พิภพ มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก เช่นเดียวกับภาคใต้และภาคกลาง จังหวัดที่ปลอดภัยได้แก่ น่าน แพร่อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และพิษณุโลกบางส่วน
  
  ภาคตะวันออก
  พื้นที่ริมทะเลจะถูกน้ำท่วมหมด

• ที่มา http://www.4floor.com/nextcom/sawasdee3/2000/book1-3.html

 

ที่ๆปลอดภัย เท่าที่ลุงรู้มา หลานๆลอง หาที่ๆอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลซัก 1,000 เมตร ขึ้นไป นะหลานๆ
เห็นเค้าว่าน่าจะปลอดภัยที่สุดนะหลานเอ้ย ถ้าอยู่ต่ำกว่านั้น คงรอดยากนะหลาน เตรียมไปเกิดใหม่ได้เลย
อัตราการอดนะหลาน เค้าว่ากันว่า ตาย 9 รอด 1

 

อืม คุณก็ลองไปย้อนอ่านดีๆ ที่ผมยกมานะ จากพระไตรปิฏก ซึ่งเป็นพุทธพจน์ คำสอนของพุทธองค์ทั้งนั้น ถ้าชาวพุทธไม่ศึกษาคำสอนของพระองค์ ยึดคำสั่งสอนของพระองค์เป็นหลักในการปฏิบัติในศาสนาของพุทธองค์ คุณจะเรียกตัวเองว่าชาวพุทธได้หรือ...
การยึดถือตามคำสอนของครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามคำสอนของพุทธองค์นะดีครับ... ครูบาอาจารย์ที่คุณยกมาผมก็นับถือ ได้ทำบุญกับท่านแล้ว ก็ไม่น้อย...แล้วก็เชื่อด้วยว่าพระที่ท่านยกมาท่านสิ้นอาสวะกิเลส ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกแล้ว....ท่านพ้นจากภัยในวัฏฏะสงสารแล้ว แล้วเราท่านละ มีดีแค่ไหน ยังเป็นปุถุชนกิเลสหนากัน ยังไม่พ้นภัยแล้วใยจะเอาภัยมาใส่ตัวเอง เพราะเหตุแห่งการศึกษาน้อย ไม่ถ้วนถี่ แล้วลงมือปฏิบัติ โดยไตรสรณคมภ์ ก็ไม่ดี ศีลก็ขาดๆ วิ่นๆ กรรมฐานก็ไม่ศึกษาว่าอันไหนเหมาะควรกับจริตตัวเอง กังวลสิบอย่าง ก็ไม่ละ ก็เวียนเกิดเวียนตาย หาทางพ้นไปไม่ได้ซะที

ผมก็ถึงกับอึ่งเหมือนกันว่าคุณกล้าปฏิเสธ คำสอนของพุทธองค์แล้วนับตัวเองว่าเป็นชาวพุทธ ภัยพิบัตินี่ละ ครับภัยพิบัติ ความเสื่อมลงแห่งพุทธบริษัทสี่ นี่ละภัยอันแท้จริง ผมก็ได้แต่หวังใจว่าผู้ที่มีใจเป็นธรรม จะหันมาศึกษาแก้ไข เริ่มจากตัวเอง ครอบครัวไป สู่สังคมพุทธ ที่มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เจริญในศีล สมาธิ ปัญญา อันแท้จริง

สุดท้ายก็ขออภัยถ้าเห็นว่าข้อความผมโพสต์ เป็นการป่วนห้องภัยพิบัติ แต่ผมก็มีความเห็นว่า ความเห็นผิด มิจฉาทิฐิ เป็นการทำลายศาสนา ก่อภัยในศาสนาของพุทธองค์ นำภัยมาอีกอย่างหนึ่ง...ถ้าคิดว่าไม่เหมาะสมจะย้ายไปไหน ก็แล้วแต่ท่านเจ้าของเว๊ป ผู้ดูแลเว๊ปจะพิจารณาด้วยใจเป็นธรรม...ขอบคุณ

 

ลุงเห็นด้วยกับหลาน Denverguy นะ
ที่ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนา โดยยกพุทธพจน์จากพระไตรปิฏก อย่างถูกต้องนะหลานเอ้ย
ทำดีแล้วๆๆ ลุงขอสาธุๆๆๆ

ศาสนาพุทธจะเสื่อมก็เพราะ พุทธบริษัท4 นี่เองแหละหลานเอ้ย ไม่ใช่ใครอื่นทำให้เสื่อมหรอก
ชาวพุทธสมัยนี้ รวมถึงพระบางรูปด้วย ไม่ศึกษาพระธรรม พระวินัย อยากทำอะไรก็ทำตามอำเภอใจ
นึกๆคิดๆเอาเอง โดยไม่ปฏิบัติตามพระวินัยอย่างเคร่งครัด

ลุงเป็นห่วงคนพวกนี้จริงๆนะหลานนะ พวกเค้ายังไม่รู้ถึงโทษทัณฑ์ที่พวกเขาจะต้องได้รับ หลังจาก
ชาตินี้ไปแล้ว น่าสงสารสัตว์โลกยุคนี้จริงๆหลานเอ้ย

พวกที่ผิดพระวินัย พวกนี้ทำกรรมหนักมากเหลือเกิน อีกพวก คือพวกที่รู้ไม่จริงแล้วชอบออกมาแสดงความเห็น
แบบผิดๆ นึกๆคิดๆเอาเอง หรือพวกกล้าวตู่พุทธพจน์นั่นเอง พวกนี้มีนรกเป็นที่ไปแน่นอน ลุงถึงเป็นห่วงคนกลุ่มนี้

ลุงฝากข้อคิดให้หลานๆอีกนิดนะ ถ้าหลานๆยังรู้อะไรไม่จริง โดยเฉพาะเรื่องพระธรรม, พระวินัย ได้โปรดอย่า
แสดงความเห็นแบบมั่วๆนะหลาน อันตรายจะเกิดกับหลายในชาติต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย

ลุงเห็นเถียงกันอยู่ได้ เรื่องพระรับเงิน ทั้งที่ในพระวินัยปิฏก ก็มีข้อห้ามอยู่แล้ว ไม่รู้จะเถียงกันเพื่ออะไร
หรือเพื่อแสดงความเก่ง เก่งแบบมิจฉาทิฐฐิ ก็เตรียมไปนรกได้เลยหลานๆเอ้ย

นิสสัคคิยปาจิตตีย์ มี 30 ข้อ ถือเป็นความผิดได้แก่ (ดูที่ลุงทำตัวแดงๆนะหลานๆเอ้ย)
1.เก็บจีวรที่เกินความจำเป็นไว้เกิน 10 วัน
2.อยู่โดยปราศจากจีวรแม้แต่คืนเดียว
3.เก็บผ้าที่จะทำจีวรไว้เกินกำหนด 1 เดือน
4.ใช้ให้ภิกษุณีซักผ้า
5.รับจีวรจากมือของภิกษุณี
6.ขอจีวรจากคฤหัสถ์ที่ไม่ใช่ญาติ เว้นแต่จีวรหายหรือถูกขโมย
7.รับจีวรเกินกว่าที่ใช้นุ่ง เมื่อจีวรถูกชิงหรือหายไป
8.พูดทำนองขอจีวรดีๆ กว่าที่เขากำหนดจะถวายไว้แต่เดิม
9.พูดให้เขารวมกันซื้อจีวรดีๆ มาถวาย
10.ทวงจีวรจากคนที่รับอาสาเพื่อซื้อจีวรถวายเกินกว่า 3 ครั้ง
11.หล่อเครื่องปูนั่งที่เจือด้วยไหม
12.หล่อเครื่องปูนั่งด้วยขนเจียม (ขนแพะ แกะ) ดำล้วน
13.ใช้ขนเจียมดำเกิน 2 ส่วนใน 4 ส่วน หล่อเครื่องปูนั่ง
14.หล่อเครื่องปูนั่งใหม่ เมื่อของเดิมยังใช้ไม่ถึง 6 ปี
15.เมื่อหล่อเครื่องปูนั่งใหม่ ให้เอาของเก่าเจือปนลงไปด้วย
16.นำขนเจียมไปด้วยตนเองเกิน 3 โยชน์ เว้นแต่มีผู้นำไปให้
17.ใช้ภิกษุณีที่ไม่ใช้ญาติทำความสะอาดขนเจียม
18.รับเงินทอง
19.ซื้อขายด้วยเงินทอง
20.ซื้อขายโดยใช้ของแลก
21.เก็บบาตรที่มีใช้เกินความจำเป็นไว้เกิน 10 วัน
22.ขอบาตร เมื่อบาตรเป็นแผลไม่เกิน 5 แห่ง
23.เก็บเภสัช 5 (เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย)ไว้เกิน 7 วัน
24.แสวงและทำผ้าอาบน้ำฝนไว้เกินกำหนด 1 เดือนก่อนหน้าฝน
25.ให้จีวรภิกษุอื่นแล้วชิงคืนในภายหลัง
26.ขอด้ายเอามาทอเป็นจีวร
27.กำหนดให้ช่างทอทำให้ดีขึ้น
28.เก็บผ้าจำนำพรรษา (ผ้าที่ถวายภิกษุเพื่ออยู่พรรษา) เกินกำหนด
29.อยู่ป่าแล้วเก็บจีวรไว้ในบ้านเกิน 6 คืน
30.น้อมลาภสงฆ์มาเพื่อให้เขาถวายตน

 

พระวินัยมีไว้แล้ว ว่าควรรับ ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่ถ้าอยากถวายก็ให้ในนามวัดแล้ว ให้เงินทองไว้กับอุบาสก อุบาสิกาที่รับเป็นโยมอุปัฏฐากวัดนั้นๆ ไปถึงจะเหมาะจะควร ไม่ผิดพระวินัยในพุทธศาสนา

ส่วนใครจะว่าก็เห็นพระอริยะหลางท่านก็รับเอง ท่านทำได้เพราะท่านไม่มีจิต ยึดติดให้ ลาภยศ เหล่านั้น ท่านเห็นสิ่งเหล่านั้นเป็นธาตุสี่ เท่านั้น แต่วินัยก็คือวินัย วินัยก็เปรียบเหมือนกฏหมายของพระ ทำผิดย่อมมีโทษ สำหรับพระอรหันต์จิตท่านไม่รับบาปกรรมนั้น มีผลก็เพียงแต่สังขารท่านที่ได้รับผลของการผิดวินัย เจ็บป่วยได้ ก็เพียงกาย ละสังขารท่านก็นิพพาน พ้นไป แต่พระปุถุชนนั้น จะไปเอาอย่างท่าน ไปเห็นท่านตอนสบายแล้ว แล้วก็จะเอาอย่างท่านไม่ถึงมันละวินัย จะเร่งภาวนาไปให้พ้น แต่เพียงฝ่ายเดียวมันไม่รอดนะครับ เพราะกว่าครูอาจารย์ท่านจะมาถึงจุดนี้ได้ ท่านก็รักษาวินัยดุจชีวิต เร่งศึกษาปฏิบัติในกายในใจ จนถึงที่สุดได้อย่างที่เราท่านได้มาเห็นกัน

อย่าลืมว่าพระวินัยที่พระพุทธองค์บัญญัตินั้น บัญญัติหลังจากเกิดการกระทำผิดเป็นที่ติเตียนของชาวพุทธ แล้วพระพุทธองค์พิจารณาเห็นสมควรจะบัญญัติเป็นวินัยขึ้น แม้พระอรหันต์สมัยนั้นเอง ก็ยังทำให้เกิดข้อติเตียนจนเป็นที่มาของพระวินัยที่พระพุทธองค์บัญญัติได้...
มีเพียงพุทธองค์เท่านั้น ที่ไม่มีผิดมีพลาด พระอรหันต์เองก็ยังผิดพลาดได้ พลาดแต่เพียงภายนอก แต่ภายในท่านบริสุทธิ์ ไม่มีประมาณ นอกเหตุเหนือผลไปแล้ว แต่เราท่านละครับ ยังไม่ได้กระพีกของท่านอย่าเอาไปเปรียบกัน ดุจนกกระจอกจะไปเห็นวิสัยของพญาเหยี่ยวได้เช่นไรฉันนั้น

ขอตอบคุณรวยเพียงเท่านี้ก่อน และเห็นดีด้วยกับความเห็นของคุณที่เราชาวพุทธควรมาศึกษา แลกเปลี่ยนความรู้กันด้วยธรรม ของพุทธองค์ เพื่อเป็นความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ต่อไปชั่วลูกหลานเราชาวพุทธ

 

;aa26โดย ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโกภิกฺขุ)

วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ​

คำว่า"ไม่สบายใจ" อย่าใช้ และอย่าให้มีขึ้นในใจต่อไป
"Let it go and get it out!"

ก่อนมันจะเกิดต้อง "Let it go"
ปล่อยให้มันผ่านไป อย่ารับเอาความไม่สบายใจไว้

ถ้าเผลอไปมันแอบเข้ามาอยู่ในใจได้
พอมีสติรู้สึกตัวว่า ความไม่สบายใจเข้ามาแอบอยู่ในใจต้อง Get it out!
ขับมันออกไปทันที อย่าเลี้ยงเอาความไม่สบายใจไว้ในใจ
มันจะเคยตัว ทีหลังจะเป็นคนอ่อนแอออดแอด
ทำอะไรผิดพลาดนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่สบายใจเคยตัว

เพราะความไม่สบายใจนี้แหละ เป็นศัตรู เป็นมาร
ทำให้ใจไม่สงบ ประสาทสมองไม่ปกติ
เป็นเหตุให้ร่างกายผิดปกติ พลอยไม่สงบไม่สบายไปด้วย
ทำให้สมองทึบไม่ปลอดโปร่งแจ่มใส
เป็น habit ความเคยชินที่ไม่ดี
เป็นอุปสรรคกีดกั้นขัดขวางสติปัญญาไม่ให้ปลอดโปร่งแจ่มใส

ต้องฝึกหัดแก้ไขปรับปรุงจิตใจเสียใหม่
ทั้งก่อนที่จะทำอะไรหรือกำลังกระทำอยู่ และเมื่อเวลากระทำเสร็จแล้ว
ต้องหัดให้จิตใจแช่มชื่นรื่นเริง เกิดปีติปราโมทย์
เป็นสุขสบายอยู่เสมอ
เป็นเหตุให้เกิดกำลังกาย กำลังใจ "Enjoy living"
มีชีวิตอยู่ด้วยความเบิกบาน สมองจึงจะเบิกบาน
จะศึกษาเล่าเรียนก็เข้าใจง่าย
เหมือนดอกไม้ที่แย้มบานต้องรับหยาดน้ำค้าง และอากาศอันบริสุทธิ์ฉะนั้น

 

ภัยพิบัติที่กำลังเกิดและจะเกิดต่อไปในอนาคตนะ ก็เกิดจากผลในอดีตละปัจจุบัน คืออะไรนะหรือครับ ก็คือ ความโกรธ ความโลภ ความหลง ของคนในปัจจุบันนี้ไงละครับ ที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ ต่างๆ นาๆ

ความโลภ โกรธ หลงทำให้คนแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้องของตัว โดยไม่คิดถึงผลที่กระทบต่อใครอะไร ทำให้เกิดความเสียสมดุลย์ในโลกนี้ ไม่ต้องหาที่ไหนไกล ถ้าช่วยกันลด ละเลิก ความโกรธ โลภ หลง กันได้จริงๆ เริ่มจากตัวเอง ไปถึงครอบครัว ขยายไปถึงสังคมรอบๆ ตัว ตำบล อำเภอ จังหวัด ประเทศ ภัยพิบัติที่ไหนมันก็ไม่มีไม่เกิดหรอก เพราะเรารักษาความสมดุลย์ในจิตใจ เราเองได้ เข้าใจไหมละครับ ที่ว่าเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว เป็นตัวอย่างที่ดี...ไฟกิเลสมันเผาใจ เผาตัวเราเอง แล้วก็พลอยเผาคนรอบข้างไปจน ทำให้เสียสมดุลย์ในไปหมด โลกถึงได้วุ่นวายกันอยู่เช่นทุกวันนี้...

ถ้าไม่เริ่มจากเราๆ ท่านๆ นะเดี๋ยวนี้ แล้วจะไปหวังป้องกันภัยอะไรกัน ในเมื่อตัวเองยังไม่เห็นทางดำเนินที่ถูกที่ควร แล้วจะไปสอนใครให้ดำเนินถูกทาง...พาก็กันหลง ไม่รู้จักกิเลสอันแท้จริง ไม่ดำเนินตามความสอนของพระพุทธองค์เป็นหลัก สักแต่ว่าไปรับศีลที่วัด พอคล้อยหลังก็ทำผิดศีลทันที ความเจริญจะมีได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จักประมาณตนเอง... ศีลห้าสักแต่ว่ารับมาแต่รักษาไม่ได้ ก็ไม่ควรไปรับมา ทำข้อไหนได้แน่แท้ ไม่ผิดเพี้ยนแน่ก็ตั้งใจรับข้อนั้น มันก็ไม่มีผิด ยังทำอาชีพที่ต้องฆ่าสัตว์ ยังผิดศีลอยู่แต่ดันไปรับข้อไม่ฆ่าสัตว์ มันก็ไปกันใหญ่สิ...เห็นไหมว่ามันจะไม่เพี้ยนกันไปหมดได้ไง...สิ่งที่ควรกลัวกับกล้าทำ(บาป) สิ่งที่ควรรักษากลับทำลาย...สังคมมันถึงได้ผิดเพี้ยน...ภัยต่างๆ จึงมีอยู่มากมาย ทั้งภายนอก ภายในจิตดวงเดียวอันนี้...น่าสสดเสียใจสำหรับผู้ที่เรียกตัวเองว่าชาวพุทธ...

 

ผมไม่สนับสนุนคนที่ไม่ยอมหยุดคือโต้กันไปโต้กันมา หยุดเพ่งโทษผู้อื่นเถอะครับ ผมอยากเห็นสันติในหมู่สมาชิกเว็บนี้

ผมสนับสนุนคุณเกษมเต็มที่ครับ เพราะถ้าอยากจะโต้อะไรกันก็ให้ไปเปิดหัวข้อเรื่องใหม่ไม่ใช่ในหัวเรื่องนี้ สาธุ

คุณเกษมลุยต่อเลยครับ

 

ผมไม่สนับสนุนคนที่ไม่ยอมหยุดคือโต้กันไปโต้กันมา หยุดเพ่งโทษผู้อื่นเถอะครับ ผมอยากเห็นสันติในหมู่สมาชิกเว็บนี้

ผมสนับสนุนคุณเกษมเต็มที่ครับ เพราะถ้าอยากจะโต้อะไรกันก็ให้ไปเปิดหัวข้อเรื่องใหม่ไม่ใช่ในหัวเรื่องนี้ สาธุ

คุณเกษมลุยต่อเลยครับ

 

พอดีมีรูป ดอยภูคา จังหวัดน่าน มาฝาก อิอิ

อ้อ อีกอย่าง ขอแสดงความคิดเห็น เรื่องพูด-ถกปัญหากัน เรื่อง รับเงิน ไม่รับเงิน ผมแนะนำแยกไปตั้งกระทู้ใหม่ดีกว่าครับ เพราะ ผมเห็นว่าเกินพอดีไปแล้ว บรรยากาศเพื่อนๆ เขาเริ่มอึดอัดกัน ก็น่าจะพอแล้ว ไม่งั้นมันเกินพอดี ก็จะไม่งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง และงามในบั้นปลายนะ ไม่งั้นเราเองจะกลายเป็นคนที่ดันทุรัง มุทะลุ และขาดความเกรงใจ ให้เกียรติต่อเพื่อนๆ ไปเสียเอง ว่าไหมหละ พอเถอะครับ

 

ทหารไทยลาดตระเวนเข้มแนวชายแดนด้านปราสาทตาเมือน​

​

สุรินทร์ 11 ก.ย. - ทหารไทยเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยรอบปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ หลังทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือเคลื่อนพลเข้าใกล้ชายแดนไทย

ตลอดทั้งวัน ทหารพรานสังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 961 พร้อมอาวุธครบมือ ออกลาดตระเวนดูแลความสงบเรียบร้อย บริเวณปราสาทตาเมือน ซึ่งอยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังทหารกัมพูชากว่า 50 นาย พร้อมอาวุธครบมือ เข้ามายังบันไดทางขึ้นปราสาทฯ แต่ทหารไทยเจรจาให้ทหารกัมพูชาถอนกำลัง โดยการเจรจาใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ทหารกัมพูชาจึงยอมกลับฐานปฏิบัติการในเขตกัมพูชา ห่างจากทางขึ้นปราสาทฯ ประมาณ 100 เมตร. - สำนักข่าวไทย

2009-09-11 03:23:43

พันธมิตรฯ อีสานเตรียมเคลื่อนขบวนร้องปัญหาเขาพระวิหาร​

​

นครราชสีมา 10 ก.ย.- นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ แกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.อุดรธานี เปิดเผยภายหลังนำเครือข่ายพันธมิตรฯ จาก 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) จ.นครราชสีมา เย็นวันนี้ (10 ก.ย.) ว่า

กลุ่มพันธมิตรฯ ภาคอีสานที่นัดรวมตัวที่ จ.นครราชสีมา วันนี้ (10 ก.ย.) เพื่อเริ่มเคลื่อนขบวน “รวมใจไทยทวงคืนเขาพระวิหาร” เช้าวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) ผ่านพื้นที่จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ทั้งบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ โดยจะจัดกิจกรรมรณรงค์เช่นเดียวกันทุกจุดที่ขบวนผ่านและพักค้างแรม ก่อนเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันที่ 17 ก.ย. และปักหลักพักค้างแรม เพื่อรอผู้ที่จะมาสมทบ จากนั้นจะยื่นหนังสือต่อรัฐบาลขอให้ออกมาตรการที่ชัดเจน กรณีมีชาวกัมพูชาบางส่วนรุกล้ำเข้ามาในเขตไทย บริเวณรอบปราสาทเขาพระวิหาร.- สำนักข่าวไทย

2009-09-10 19:44:43

รวบผู้ต้องหาเผาโรงเรียนที่นราฯ​

​

นราธิวาส 11 ก.ย. - ตำรวจและทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส บุกจับกุมผู้ต้องหาวางเพลิงเผาโรงเรียนใน จ.นราธิวาส

ตำรวจภูธรบาเจาะ จ.นราธิวาส และทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 กองทัพเรือ กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 14/2 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ หลังสืบทราบว่า ผู้ต้องหาลอบเผาโรงเรียนบ้านบาเระ ต.บาเระใต้ ใช้หลบซ่อนตัว จากการตรวจค้นสามารถจับกุมนายอาหามะ มะลือกะ

เบื้องต้นนายอาหามะ รับสารภาพว่า ลอบเผาโรงเรียนจริง ทั้งยังเคยร่วมกับพวกที่กำลังหลบหนี ก่อเหตุลอบวางระเบิดทหารชุดคุ้มครองครูในพื้นที่ ต.บาเระใต้ ลอบวางระเบิดทหารที่ อ.ระแงะ และใช้อาวุธสงครามยิงทหารที่มัสยิดบ้านแยะ ต.บาเจาะ อ.ยี่งอ เมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังให้การซัดทอดว่า นายต่วนอาซูวี ต่วนสะมะแอ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านตันหยง ต.บาเระใต้ ร่วมก่อเหตุเผาโรงเรียนด้วย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผล แต่เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ. - สำนักข่าวไทย

2009-09-11 02:16:29

ระเบิดชุดคุ้มครองครูนราฯ รถหุ้มเกราะเสียหาย​

​

นราธิวาส 10 ก.ย.- เมื่อเวลา 15.20 น. วันนี้ (10 ก.ย.) ร.ต.ท.แดนชัย มูลป้อม ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุระเบิดบนถนนสายรือเสาะ-ปาลี บ้านปาลี ม.10 ต.รือเสาะ

จึงประสาน พ.ต.ท.พชรพล ณ นคร รอง ผกก.ป.สภ.รือเสาะ พร้อมนายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอรือเสาะ นำกำลังเข้าตรวจสอบทราบว่าขณะที่รถยนต์หุ้มเกราะแบบวี 150 และรถจักรยานยนต์ 4 คัน ของตำรวจ สภ.รือเสาะ จำนวน 9 นาย ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยรับ-ส่งครูโรงเรียนบ้านปาลี เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุข้างทางเป็นป่าสวนยางพารา ผู้ก่อเหตุที่หลบซ่อนตัวอยู่กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในถังแก๊สและพ่วงสายไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ ทำให้รถยนต์หุ้มเกราะเสียหาย พื้นถนนเป็นหลุมลึก 80 เซนติเมตร กว้าง 150 เซนติเมตร ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย.-สำนักข่าวไทย

2009-09-10 19:09:19

ชาวศรีสะเกษเสริมกระสอบทรายกันน้ำท่วมบ้าน​

​

ศรีสะเกษ 11 ก.ย. - ชาวอำเภอขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เร่งเสริมกระสอบทราย ป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือน

ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าตามเทือกเขาแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านต้องช่วยกันเสริมกระสอบทราย ทำเป็นพนังกั้นน้ำ ป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือน และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ชาวบ้านยังช่วยกันวิดน้ำออกจากตัวบ้าน เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะท่วมบ้าน

นางสมร จินตานันท์ บอกว่า บ้านถูกน้ำท่วมนานกว่า 4 วันแล้ว ก่อนนอนสมาชิกภายในบ้านต้องช่วยกันวิดน้ำออกจากบ้าน และจัดเวรคอยวิดน้ำตลอดทั้งคืน. - สำนักข่าวไทย

2009-09-11 02:09:07

น้ำป่าเขาค้อหลากท่วมน้ำตกในเพชรบูรณ์​

​

เพชรบูรณ์ 10 ก.ย. - น้ำป่าจากเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ไหลหลากเข้าท่วมน้ำตกวังหินหอ ทำให้นักศึกษาสาว 2 คน ติดค้างอยู่ที่น้ำตกนานเกือบ 2 ชั่วโมง

หน่วยกู้ภัยต้องใช้เชือกโรยตัวจากตลิ่งน้ำตกวังหินหอ บ้านโพธิ์เงิน ต.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เข้าช่วยเหลือนักศึกษาสาวชั้น ปวช. วิทยาลัยเทคนิคเพชรบูรณ์ 2 คน ซึ่งติดค้างอยู่ภายในน้ำตกวังหินหอ หลังน้ำป่าจากเทือกเขาค้อไหลหลากเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสามารถช่วยเหลือนักศึกษาทั้ง 2 คน ออกมาได้อย่างปลอดภัย

ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาชายแดนไทย-กัมพูชา ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยตาจู ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จนล้นสปริงเวย์ ไหลหลากลงลำห้วยจันทร์และลำห้วยตาจู เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านและพื้นที่การเกษตรกว่า 500 ไร่ นอกจากนี้ น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักยังไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ เป็นบริเวณกว้าง หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และโรงเรียนหลายแห่งถูกน้ำท่วมสูง

เช่นเดียวกับที่ จ.อุบลราชธานี ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวันทำให้เกิดน้ำท่วมขัง บ้านเรือนชาวบ้านและโรงเรียนกองบินอุบลสงเคราะห์ ต.ไร่น้อย อ.เมือง รวมทั้งถนนบริเวณสี่แยกกลางหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 80 ซม. รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ชาวบ้านและนักเรียนจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก. - สำนักข่าวไทย

2009-09-10 02:24:06

น้ำป่าหลากล้นอ่างเก็บน้ำห้วยศาลา จ.ศรีสะเกษเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร-บ้านเรือน​

​

ศรีสะเกษ 10 ก.ย.- น้ำป่าจากเทือกเขาหลายแห่งไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา จังหวัดศรีสะเกษจนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนของชาวบ้าน

ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก และเทือกเขาตามเขตแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ จนปริมาณเพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้านสปิลเวย์ ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านปรือใหญ่ บ้านปรือคัน และท่วมบ้านเรือนราษฎร รวมทั้งถนนสายลุมพุก-โคกตาล มีน้ำท่วมเป็นช่วง ๆ นอกจากนี้ ถนนสายโชคชัย-เดชอุดม ช่วงกิโลเมตรที่ 222 น้ำท่วมสูง ถึง 40 เซนติเมตร.-สำนักข่าวไทย

2009-09-10 11:12:21

ลูกทรพีฟันหัวพ่อดับ ฉุนไม่ให้เงินซื้อกาว​

​

นครปฐม 11 ก.ย. - เกิดเหตุลูกทรพีขอเงินไปซื้อกาว แต่พ่อไม่ยอมให้ จึงใช้ขวานฟันศีรษะเสียชีวิต

นายเทิง แซ่อึ้ง อายุ 70 ปี ถูกนายนกทา แซ่อึ้ง อายุ 32 ปี ใช้ขวานฟันศีรษะเสียชีวิตอยู่ห่างจากบ้านพัก ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม ประมาณ 5 เมตร บริเวณเกิดเหตุยังพบจอบและขวานเปื้อนเลือด ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายนกทาขอเงินพ่อไปซื้อกาว แต่พ่อไม่ยอมให้และดุด่าว่ากล่าว จึงบันดาลโทสะใช้ขวานฟันศีรษะจนเสียชีวิต และพยายามขุดหลุมฝัง แต่ชาวบ้านมาพบ จึงช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ จากการตรวจค้นภายในตัว พบเงินสดประมาณ 7,000 บาท คาดว่าเป็นเงินของผู้ตาย. - สำนักข่าวไทย

2009-09-11 01:21:15

นอมินี ที่ดินต่างชาติ​

​

ภูเก็ต 10 ก.ย.-คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ตั้งข้อสงสัยที่ดินแปลงหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ที่กำลังก่อสร้างโรงแรม มีการอำพรางให้นายทุนต่างชาติเป็นเจ้าของที่ดิน โดยมีคนไทยเป็นนอมินี ขณะที่นายกสมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ระบุว่าการใช้นอมินีถือครองที่ดินของชาวต่างชาติในพื้นที่มีมากถึงร้อยละ 70.-สำนักข่าวไทย

ดูคลิ๊ปวีดิโอได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

นอมินี ที่ดินต่างชาติ
2009-09-10 | 19:11:09

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

*** วินัยข้อปฏิบัติรักษาด้วยสัจจะทำ ****

จะทำสิ่งใด ก็ขอให้ทำด้วยสัจจะ
โลภ โกรธ หลง มันคือนิสัยของตัวเราเอง
ถ้าเราไม่หมั่นพยายามตัดลดให้ได้จริง ทุกวัน
นิสัยโลภ โกรธ หลง มันก็ไม่มีทางหมดไปได้
วันนี้จะทำความไม่โลภให้แก่ตัวเอง ก็ตั้งสัจจะว่าไม่โลภ มีกำหนดเวลาทำที่ชัดเจน
วันนี้จะทำความไม่หลงให้กับตนเอง ก็ตั้งสัจจะว่าไม่หลง มีกำหนดเวลาทำที่ชัดเจน

วินัยข้อปฏิบัติที่ดี...คือ ข้อที่ทำให้หยุดนิสัยตนเองได้
วินัยข้อปฏิบัติที่ดี....เมื่อปฏิบัติเป็นประจำ จะทำให้นิสัยนั้นลดลง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ช่วยย้ายไปรวมกันที่ "พระรับเงินได้ไหม" ให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ