ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    วิธีตรวจสอบ"ทองแท้"กับ"ทองปลอม"

    [​IMG]

    คลิปวิดีโอ : วิธีการดูทองปลอม โพสต์โดย Foxconn
    http://video.mthai.com/player.php?id=6M1200419430M0

    เทคนิคการดูทองปลอม

    ปัญหาที่ร้านค้าทองทุกร้านกังวลอยู่ในใจก็คือกลัวจะเจอมิจฉาชีพ นำทองปลอม ทองยัดไส้ หรือ ทองด้อยคุณภาพ มาขาย หรือ ขายฝาก นี่คือคำแนะนำที่จะทำให้ท่านรอดพ้นจากทองปลอมดังกล่าว มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

    1.สังเกตดูยี่ห้อภาษาจีนว่ารู้จักหรือไม่ ถ้ายี่ห้อดูไม่ชัดเจน หรือตอกตัวอักษรจีนแบบมั่วๆ อ่านไม่รู้เรื่อง ก็ให้ระวังตัวให้ดีว่าเป็นทองปลอม แต่ก็ อย่าเพิ่งชะล่าใจเพราะปัจจุบัน มิจฉาชีพ บางคนปลอมแปลงยี่ห้อร้านชื่อดัง หรือตัดต่อหัวท้าย ของจริงมาใส่กับทองปลอมที่ทำขึ้นมาด้วย

    2.สังเกตขนาดของทองรูปพรรณคือ ถ้าทองที่มาขาย น้ำหนัก 1บาท แต่มีขนาดเท่ากับทอง 2 บาท (ต้องเปรียบเทียบกับทองลวดลายเดียวกัน)ก็ขอให้ระวังตัวให้ดี เพราะทองคำเป็นโลหะที่มีมวลหนักเกือบที่สุดในโลก ส่วนโลหะเงิน จะมีมวลมากกว่าทองคำเท่าตัวดังนั้นถ้าหากมิจฉาชีพนำสร้อยเงินชุบทองมาขายก็จะมีขนาดใหญ่กว่าทองจริงเท่าตัว

    3.ลองโยนดูในมือ ดูน้ำหนักทองที่ตกกระทบกับมือเรา ถ้าเป็นมืออาชีพที่มีประสบการณ์มานานจะสามารถบอกได้เลยว่าเป็นทองปลอมหรือไม่ เพราะถ้าทองจริงจะมี น้ำหนักที่คุ้นมือ ถ้าทองปลอมจะมีน้ำหนักเบาในมือ แต่ขอให้ระวังในกรณีที่เป็นทองยัดไส้เงิน หรือ ยัดไส้น้ำประสานทองเพราะจะโยนแล้ว หน่วงมือผิดปกติ ขอให้ใช้วิจารณญานด้วยว่าทองที่ลูกค้านำมาขายนั้น เป็นลายโปร่งหรือลายตัน ถ้าเป็นลายโปร่งแต่โยนแล้วหนักมือผิดปกติ ให้สันนิษฐานว่ามีการยัดไส้เงิน หรือ น้ำประสานทองไว้ภายใน

    4.ถ้าเป็นแหวนหรือกำไลเงินหุ้มทองให้ใช้วิธีการโยนให้แหวนตกกระทบลงกับตู้กระจก หรือโยนลงบนพื้นบ้าน แล้วฟังเสียงเวลาตกกระทบเปรียบเทียบกับแหวนทองจริงน้ำหนักเดียวกันของร้านเรา ว่ามีเสียงแตกต่างกันหรือไม่เพราะถ้าแหวนเงินยัดไส้จะมีเสียงตกกระทบกับกระจกหรือพื้นบ้านที่ดังกว่าเพราะหนากว่าแหวนทองจริง ที่เสียงจะเงียบกว่ามาก

    5.ระวังลูกค้าที่ทำให้เราวุ่นวาย หมุนไปหมุนมา เปลี่ยนใจบ่อยๆ หรือ ทำท่ายื้อยักว่าจะขายแล้วเปลี่ยนใจไม่ขาย เอาทองที่ให้เราดูขึ้นๆลงๆจากกระเป๋า เพราะคนร้ายกำลังเปลี่ยนเส้น จากทองจริงที่ให้เราดูทีแรก กับทองปลอมที่เตรียมมากะเวลาเราเผลอไม่ทันสังเกตอีกที ก็เจอทีเด็ดทองปลอมจากเขาเลย

    ข้อสำคัญที่สุดคืออย่าโลภ ถ้าลูกค้าคนไหนดูผิดปกติ วอกแวก น่าสงสัย บอก น้ำหนักทองที่มาขายไม่ถูกต้อง หรือบอกว่าตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของทองแต่เพื่อนขอร้องให้เขานำมาขาย หรือให้คนแก่ หรือเด็กมาขาย ก็ขอให้ระวังเพราะเขาอาจจะโดนหลอกให้มาขาย แล้วเป็นแพะรับบาป ปฏิเสธการซื้อทองเก่าจากเขาจะเป็นการดีที่สุด

    DOLPHIN:

    ที่มา เทคนิคการดูทองปลอม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pic01374.jpg
      pic01374.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.7 KB
      เปิดดู:
      87
    • pic18988.jpg
      pic18988.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.7 KB
      เปิดดู:
      82
    • pic26699.jpg
      pic26699.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.1 KB
      เปิดดู:
      75
    • pic28673.jpg
      pic28673.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.3 KB
      เปิดดู:
      93
    • pic29429.jpg
      pic29429.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.6 KB
      เปิดดู:
      88
    • pic44490.jpg
      pic44490.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.7 KB
      เปิดดู:
      81
    • pic33550.jpg
      pic33550.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.7 KB
      เปิดดู:
      106
    • pic45779.jpg
      pic45779.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.5 KB
      เปิดดู:
      77
    • pic46990.jpg
      pic46990.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.4 KB
      เปิดดู:
      79
    • pic48884.jpg
      pic48884.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.4 KB
      เปิดดู:
      76
    • pic53227.jpg
      pic53227.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.8 KB
      เปิดดู:
      77
    • pic55520.jpg
      pic55520.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.5 KB
      เปิดดู:
      77
    • pic60245.jpg
      pic60245.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30 KB
      เปิดดู:
      76
    • pic62931.jpg
      pic62931.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.7 KB
      เปิดดู:
      1,867
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ตนพึ่งตน ****

    ท่านต้องช่วยตัวเองก่อน
    ท่านต้องพึ่งผลการกระทำที่ได้ทำไปแล้ว
    การกระทำที่พึ่งได้จริง คือ การกระทำเที่ยง
    การกระทำเที่ยงเกิดขึ้นได้อย่างไร ท่านต้องศึกษา
    เมื่อท่านช่วยตัวเองได้แล้ว ท่านจึงจะช่วยเหลือผู้อื่นได้ต่อไป

    เด็ก...คือ ผู้ที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. pooh&tigger

    pooh&tigger สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +0
    :z12
    เมื่อใดที่เราเห็นคนทุกข์ยากไม่ว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหน
    เชื้อชาติอะไร ต่ำต้อยเพียงใด อย่าได้เบือนหน้าหนี
    ขอให้เปิดใจรับรู้ความทุกข์ของเขา
    แล้วถามตัวเองว่าเราจะช่วยเขาได้หรือไม่และอย่างไร
    เพราะนี้คือโอกาสดีที่เราจะได้ทำบุญ
    ลดละอัตตาตัวตนและบำรุงพระศาสนาอย่างแท้จริง
    โดยพระไพศาลวิสาโล


    คัดลอกจาก...มติชน ฉบับเดือน มีนาคม 2552
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อุปกรณ์ลี้ภัย
    โดยคุณ Kati

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    จำได้ว่าเมื่อตอนเป็นเด็กเล็ก ผมยังอยู่ในยุคสมัยสำคัญที่บ้านเมือง ยังหวั่นไหวใจกับทุกสิ่งอย่าง มีสงครามอยู่รอบข้างประเทศเรา แม้แต่ในประเทศของเรา สงครามของคนในชาติก็ยังคุกรุ่น ให้ได้หวั่นไหวใจกับทุกสิ่งอย่างของแต่ละวันคืน หรือแม้แต่เรื่องราวเรื่องเล่าของผู้ลี้ภัยสงครามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเขมร ลาว ญวน หรือพม่า ที่ต่างอพยพหนีภัยแห่งความโหดร้าย สู่ดินแดนซึ่งเขาคิดว่าปลอดภัยกว่า แม้ว่าจะไม่จริงเสมอไปสำหรับทุกคน แต่แผ่นดินไทยก็ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางเหมือนเช่นที่รับรู้รับฟัง

    ตำนานการพกเงินพกทอง ทองเป็นเส้นเป็นก้อน เงินเป็นสร้อยเป็นแหวน หรือแม้แต่การรีดเงินรีดทอง ให้อยู่ในรูปร่างต่างๆ เพื่อเข้าพกเข้าห่อได้สะดวก ก็ยังเป็นหนึ่งเรื่องที่ผมจำฝังใจ จำได้กระทั่งว่า ตัวเองเคยเห็นทองและเงิน ที่เตรียมไว้สำหรับการหนี ทองมักเป็นเรื่องจริงมากกว่านิยายของเงินตราใดๆ เท่าที่อำนาจทองคำแท้จะก้าวล่วงถึง ทองจึงเป็นหนึ่งสิ่งของความจริง ยามเกิดภัยสงคราม หรือยามชีวิตผู้คนตัวเล็กตัวน้อยต้องลี้ภัยสงคราม ลี้ภัยการเมือง กระทั่งลี้ภัยจากทุกสิ่งอย่าง อันไม่ปลอดต่อชีวิตและทรัพย์สินของตน

    ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่จริงก็ตาม ชีวิตผู้คนล้วนรับรู้ได้ดี ว่าที่ใดที่ตนจะมีชีวิตรอดชีวิตของประชาชนบนเรือน้อย กลางคลื่นลมแรงกลางทะเล ยังไม่น่ากลัวเท่าใจคน ยิ่งในยามที่เราได้เห็นศพของผู้คน ลอยมาติดชายฝั่ง ยังไม่ต้องนับที่พอมีลมหายใจ และชีวิตเล็ดรอดพอ เพียงเพื่อบอกเล่าความโหดร้ายของผู้คนกลางทะเล ยามคนที่มีอาวุธมีอำนาจมีความเข้มแข็ง แย่งชิงสมบัติชิ้นสุดท้ายของผู้อพยพภัยสงครามมากมาย แม้สิ่งสุดท้ายคือชีวิตอาจเหมารวมไม่ได้ว่า คนทำเป็นคนไทยหรือโจรสลัดหรือเป็นโจทย์ทั่วไป ที่ฉกฉวยวิกฤติของผู้คนหากินบนความทุกข์ยาก ชะตากรรม หยาดน้ำตา และความเจ็บปวด จะปล้นฆ่าข่มขืน หรือเพียงฉกชิงทรัพย์สินเงินทองก็ตามแต่

    แต่สุดท้ายความเลวร้ายเหล่านั้น ย่อมถูกรับรู้ รู้เห็น และตระหนักในความจริงอันเจ็บปวด อุปกรณ์มากมายเพื่อการหนีภัย จึงเพิ่มเติมความจริงมากขึ้นกระเป๋าเดินทางที่ดีที่สุดในการหลบหนี ต้องสามารถประกอบใหม่ได้ทุกคราจนสามารถหยิบสอยอย่างอื่นได้ จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็น กระเป๋าและพกห่อเหล่านั้น ที่ทำจากผ้าขาวม้า หยิบจับหยิบห่อจับปลายมัดปม พอที่จะเก็บเสื้อผ้า และเงินทองยัดใส่พกใส่ห่อมาได้สะดวก หรือกระทั่งการเย็บชายขากางเกง ขอบเอว ชายกระโปรง เพื่อเก็บสร้อยแหวนเงินทอง หรือของมีค่าต่างต่างสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความจริงในการเอาชีวิตรอด ของผู้คนแทบจะไม่แตกต่างจากทุกวันนี้

    เมื่อเราเห็นการจับกุมชาวพม่า ชาวเขมร หรือผู้ลักลอบเข้าประเทศไทย เมื่อเขาแต่ละคน ต่างคาดหวังถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เริ่มต้นชีวิตในดินแดนอันปลอดภัย พอที่เขาจะลืมตาอ้าปาก หรือมีชีวิตอยู่ด้วยความเป็นธรรม โดยไม่ถูกใครข่มเหงรังแก กระทั่งไม่ล้มหายตายจากไป เพราะการเข่นฆ่าของใครที่มีอำนาจในมือ ความจริงของอุปกรณ์ลี้ภัย จึงเป็นหนึ่งภาพสะท้อนของความจริงสำคัญ ความจริงอันเจ็บปวด ที่ทำให้เราตระหนักได้เสมอว่า โลกนี้ยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ

    เหมือนเช่นยุคสมัยหนึ่งที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ทั้งที่เป็นจีนอพยพหรือจีนโพ้นทะเล ต่างรู้สึกดีถึงคำว่า บ้านแตกสาแหรกขาด การเริ่มต้นชีวิตด้วยเสื่อผืนหมอนใบ กับลมหายใจตัวเอง สำหรับความจริงในการเอาตัวรอดเอาชีวิตรอด ล้วนเป็นความจริงที่ไม่มีใครอยากจดจำเหมือนเช่น สงครามเวียดนาม สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สงครามในอินโดจีน ได้ทำให้คนไทยเห็นถึงน้ำตา และรอยเลือดของพี่น้องรอบบ้านอุษาคเนย์ ขณะที่คนไทยบางท้องถิ่นก็เคยตระหนักถึงความเจ็บปวดเหล่านี้ได้ดี เท่ากับความจริงในความอยุติธรรมที่เราไม่ปรารถนา สำหรับการพลัดที่นา คาที่อยู่ การพลัดพรากจากบ้านล้วนคือความเจ็บปวด จะปรารถนาหรือไม่ปรารถนาก็ตามแต่

    แต่เมื่อถึงวันหนึ่งแห่งการหลบหนี หลบเร้นหนีหาย ลี้ภัย และมุ่งหน้าสู่ดินแดนใหม่ เพื่อให้ชีวิตและลมหายใจยังคงเดินทางต่อไป เพียงเพื่อคาดหวังจะกลับมานอนตายในแผ่นดินเกิด หรือคิดเพื่อว่า เมื่อชีวิตยังไม่ดับดิ้นไป เราก็ยังจะมีโอกาสสำหรับเรื่องราวในความจริง ของสินทรัพย์ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามโลกอันเร่งรัด ความจริงของนวตกรรมแห่งสินทรัพย์ ได้ทำให้เราตระหนักถึงตำนานแบบเทพนิยาย ที่ตัวพระตัวเอกสามารถหลบหนีไปได้ หากเขาเหล่านั้นปรารถนาที่เหาะเหินเดินอากาศ ไปยังที่ใดก็ได้บนโลกใบนี้ หรือบางทีอาจจะมุดดินมุดน้ำก็ได้

    หากมีคาถาอาคมอันวิเศษวิโสพอ ใครหลายคนในตำนาน นิทาน และนิยายปรัมปรา ต่างเคยบอกเล่าให้ได้ยินเหมือนเช่นทุกวันนี้ ที่ผู้ลี้ภัยการเมืองสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ทั่วโลกหากเขาเพียงต้องการ เช้าวันแรกแห่งสัปดาห์นี้ ไม่รู้เป็นไร สำหรับการมองเห็นสินทรัพย์ที่เคลื่อนตัวไป พร้อมผู้ลี้ภัยมากมาย ที่อ้างอิงว่าตนถูกข่มเหงรังแก พร้อมกับความจริงบางอย่างที่ทำให้ผมนึกถึงชีวิตวัยเด็ก กับพรมวิเศษ และไม้กวาดเหาะได้ ผมกลับนึกถึงความวิเศษของผู้คน ยามได้บินหนีหลบหายไป

    วันนี้ผมเพียงเรียนรู้ ว่าในความจริงของการลี้ภัยในโลกปัจจุบัน ทำให้คนลี้ภัยในแต่ละชีวิตไม่ใช่เป็นเพียงคนยากไร้เท่านั้น แต่สามารถเป็นคนร่ำรวยได้อย่างมหาศาลตามแต่ที่สินทรัพย์ของเขา จะบินตามไปเหมือนไม้กวาดกายสิทธิ์ข้างตัวเขา

    Posted by Kati วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม 2551

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=300215
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2009
  5. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    อวิชชาย่อมเกิดได้ความรู้แจ้งยอมเกิดได้ แม้ว่าเกิดแล้วย่อมยังไม่รู้ก็มากมายนัก ใครเล่าจะเตือนสอนได้ดีมากเท่าตนเองโปรดคิดใหม่ใช้ปัญญาการที่ดีติเตียนผู้อื่นแต่เจือด้วยอวิชชาย่อมไม่เกิดผลดีมีแต่จะชักพาผู้อื่นให้เข้าใจผิดด้วย ย่อมเห็นผิดเป็นชอบได้ แม้ว่าความตั้งใจนี้อาจจะมีส่วนดีแต่ข้าพเจ้าจะขออ้างอิงความฝัน หรือนิมิต จากความฝันซึ่งไม่มีใบประกาศว่าคือจากนักวิชาการแขนงไหนเลย เพียงความฝันเดียวซึ่งข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้มีความรู้อะไรอื่นนอกจากพระสุบิน จาก พระมารดา ของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเท่านั้นที่ผมเข้าใจ ผมความรู้น้อยจึงไม่สามารถจะอธิบายให้เข้าใจมากกว่านี้ได้แต่มาแจ้งให้ข้อความข้างบนนี้มีความคิดเห็นจากที่เขาเข้าใจอีกข้อนะค๊าฟ
    ปล.ดูเรื่อยๆอ่านเรื่อยๆ ทุกข้อมูลข้อความล้วนมีเหตุผลมีคุณเจืออยู่ทั้งสิ้นอยู่ที่มากหรือน้อย เอาที่เจืออยู่มากเป็นกากๆอย่าไปจำอย่าเอามาคิดมาใส่ใจ อย่าขัดขวางการทำดีควมมีเมตตาพิมพ์แม้ว่าจะจริงหรือไม่จริงเขาก็เล่าสู่กันฟังอยากให้คนอื่นรู้การระวังตัวความระแวดระวังภัยเป็นคนดูข้างหลังให้ คุณก็ไม่น่าจะว่ามาด่าเขาแค่เขาบอกว่าเขาอาจจะได้ยินเสียงเสือเสียงช้างตกมันจากป่าข้างหลังในขณะที่คุณนอนหลับอุตุไม่ได้คิดระแวดระวังอะไรเลยไปด่าเขาอีกหูแว้วมั้งคิดไปเองมั้งแกอย่ามาทำเป็นบอกไอความแว้วของแกอีกน่ะทั้งๆที่เสือมันอาจจะได้อาหารพอดีแล้วไม่มาให้เห็นตะหากเพราะทุกอย่างล้วนคาดเดาไม่ได้เลยจริงไหมแล้วต่อไปใครเขาอยากจะไปเตือนคุณอีกละค๊าฟเฮ้อ
    ปล.อ่านเรื่อยๆดูเรื่อยๆเอาแต่ดี กากๆอย่าหยิบมามันหนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2009
  6. littlelucky

    littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    เข้ามาบอกกล่าวครับ
    มีสัญญาณอันตรายเข้ามาในช่วงนี้ ขอให้ทุกท่านระมัดระวังตัวด้วยครับ
    ถ้ามีโอกาสทำบุญอย่าลืมถวายบุญให้กับในหลวงด้วยครับ
    ขอบคุณมากครับ
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    น้ำท่วมแอฟริกาตะวันตก คร่า 70 ชีวิต ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 2 แสนคน

    [​IMG]

    แอฟริกา 7 ก.ย.-ฝนที่ตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในแอฟริกาตะวันตก จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 70 คน และอีกหลายแสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย

    สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติระบุว่า ฤดูฝนที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของแอฟริกาตะวันตก เช่น บูร์กินาฟาโซ กานา และอีกหลายประเทศ จนถึงขณะนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วราว 70 คน และยังมีชาวบ้านอีกกว่า 250,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย สหประชาชาติจึงเรียกร้องให้นานาประเทศให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย ที่กำลังขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำดื่ม นอกจากนี้ ยังเผยว่าสะพานและถนนในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ทำให้ปฏิบัติการส่งความช่วยเหลือของสหประชาชาติเป็นไปอย่างยากลำยาก.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-07 14:23:16

    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คน จากแผ่นดินไหวในอินโดนีเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน

    [​IMG]

    จาการ์ตา 7 ก.ย. - นายปริยาดี คาร์โดโน โฆษกสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติ เปิดเผยว่า อาจมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คน จากแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริคเตอร์ ที่เกาะชวาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้รับคำยืนยันจากทางการ ล่าสุดมี 74 คน แต่มีอีก 34 คนที่เชื่อว่าถูกฝังอยู่ใต้ดินและก้อนหินที่หมู่บ้านซิกังกาเรง ทางใต้ของกรุงจาการ์ตาและน่าจะเสียชีวิตแล้วด้วย

    นายคาร์โดโน กล่าวว่า ร่างผู้เสียชีวิตอาจถูกบดละเอียดถ้าใช้เครื่องจักรกลหนักในการขุด ใช้ได้เพียงรถเกลี่ยดินในการแผ้วถางซากปรักหักพัง และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการค้นหาด้วยมือและสุนัขดมกลิ่น ซึ่งต้องใช้เวลามากในการค้นหา

    แผ่นดินไหวทำให้ประชาชนกว่า 88,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งเกิดจากบ้านเรือนและอาคารกว่า 54,000 หลัง ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-07 15:18:36

    ยอดตายเหตุเรือเฟอร์รี่ล่มในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 9 คน

    [​IMG]

    ฟิลิปปินส์ 7 ก.ย. - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือเฟอร์รี่ล่มทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้นเป็น 9 คน และอีกมากกว่า 30 คน ยังคงสูญหาย

    หัวหน้าเจ้าหน้าที่ยามฝั่งฟิลิปปินส์ ระบุว่า จนถึงขณะนี้สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือ 926 คน เอาไว้ได้ จากเหตุเรือซูเปอร์เฟอร์รี่ 9 ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 968 คน ล่มลงเมื่อช่วงเช้าวานนี้ นอกชายฝั่งเมืองซัมบวงกา ระหว่างเดินทางจากเมืองเจเนอรัล ซานโตส บนเกาะมินดาเนา เมื่อวันเสาร์ มุ่งหน้าไปยังเมืองอิโลอิโล ทางตอนกลางของประเทศ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 9 คน และอาจเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีก 33 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังหวังว่า ทั้งหมดอาจได้รับความช่วยเหลือไปแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งมายังทางการ

    ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายต่อไป ขณะที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่เรือล่ม แต่มีรายงานว่า ขณะเกิดเหตุเครื่องกำเนิดไฟฟ้าบนเรือเกิดขัดข้อง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศแต่อย่างใด. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-07 03:27:51

    เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เร่งค้นหาผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    [​IMG]

    เกาหลีใต้ 6 ก.ย.- เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาหลีใต้เร่งค้นหาชาวเกาหลีใต้ 6 คน ที่หายสาบสูญหลังระดับน้ำในแม่น้ำที่ติดกับพรมแดนเกาหลีเหนือ เพิ่มสูงขึ้นกะทันหันจนท่วมพื้นที่ตั้งค่ายพักใกล้พรมแดน

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 1,100 คน ระดมกำลังทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศ โดยใช้ทั้งเฮลิคอปเตอร์และเรือ เพื่อค้นหาผู้สูญหายทั้ง 6 คน ที่กำลังตกปลาและปักเต้นท์พักบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอิมจิน ที่ไหลมาจากเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่ระบุว่าระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 2.3 เมตรเป็น 4.6 เมตร ภายในเวลาคืนเดียว จนล้นฝั่งพัดเอาผู้ที่กำลังตั้งแคมป์หายไป 6 คน

    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจมาจากการที่เกาหลีเหนือปล่อยน้ำจากเขื่อนที่อยู่เหนือแม่น้ำขึ้นไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้า แม้จะยังไม่มีการยืนยันจากทางการเกาหลีเหนือก็ตาม ขณะที่ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ไม่มีฝนตกในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 60 กิโลเมตร.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-06 22:31:45

    เกาหลีใต้เรียกร้องเกาหลีเหนือป้องกันเหตุปล่อยน้ำเขื่อนโดยไม่แจ้งล่วงหน้า

    [​IMG]

    เกาหลีใต้ 7 ก.ย. - รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ปล่อยน้ำเขื่อนโดยไม่แจ้งล่วงหน้าซ้ำขึ้นอีก

    หลังเกิดเหตุการณ์ชาวเกาหลีใต้ถูกกระแสน้ำพัดสูญหายไป 6 คน เมื่อวานนี้ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำอิมจิน ที่ไหลมาจากเกาหลีเหนือ เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างกะทันหัน ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวกำลังตั้งแคมป์ตกปลากันอยู่
    รัฐบาลเกาหลีใต้คาดว่าสาเหตุที่ทำให้น้ำแม่น้ำอิมจีน เพิ่มระดับสูงขึ้นกว่าเท่าตัวอย่างกะทันหัน น่าจะเกิดจากการที่เกาหลีเหนือปล่อยน้ำออกจากเขื่อนโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งในวันนี้รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมจะยื่นหนังสือต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือเพื่อแจ้งถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้เกาหลีเหนือหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดซ้ำรอยขึ้นอีก .-สำนักข่าวไทย

    2009-09-07 09:31:56

    น้ำท่วมหนักจากท่อประปาแตกในลอสแองเจลิส

    [​IMG]

    สหรัฐ 7 ก.ย. - พื้นที่ย่านกลางนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก เนื่องจากท่อประปาสายหลักในพื้นที่แตกโดยไม่ทราบสาเหตุ

    ท่อประปาสายหลักขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 64 นิ้ว ในย่านเวนทูรา บูเลอวาร์ด ของลอสแองเจลิส เกิดแตกขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้น้ำประปาหลายพันแกลลอนทะลักเข้าท่วมถนนอย่างรวดเร็ว บ้านเรือนหลายหลังจมอยู่ใต้น้ำลึกหลายเมตร

    เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง จึงสามารถซ่อมท่อประปาได้ โดยไม่มีรายงานผู้ได้รับอันตราย เว้นเพียงชายคนหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากรถยนต์ที่ถูกกระแสน้ำพัดไปหลายสิบเมตร ขณะที่ชาวบ้านหลายสิบครอบครัวต้องอพยพไปอาศัยยังเต็นท์ชั่วคราว ภายในโรงเรียนอนุบาลใกล้จุดเกิดเหตุ. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-07 00:25:01

    ยูเอ็นวิจารณ์รัฐบาลเกาหลีเหนือละเมิดสิทธิมนุษยชน

    [​IMG]

    สหประชาชาติ 6 ก.ย.-ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติวิจารณ์รัฐบาลเกาหลีเหนือว่ากระทำละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง

    ศาสตรจารย์วิทิต มันตาภรณ์ ผู้เขียนรายงานพิเศษของสหประชาชาติระบุในรายงานประจำปีว่า เกาหลีเหนือยังคงมีปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน และกล่าวหาด้วยว่าเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อสันติสุขและความมั่นคงของโลก โดยระบุว่าเกาหลีเหนือทำการลักพาตัวชาวต่างชาตินับสิบประเทศเพื่อนำคนเหล่านั้นไปฝึกเป็นสายลับ และเพื่อใช้งานในวัตถุประสงค์อื่นๆ ซึ่งปัญหาการลักพาตัวหลายกรณียังไม่ได้รับการแก้ไข

    ขณะที่ชาวเกาหลีเหนือเกือบ 8 ล้านคนกำลังเสี่ยงที่จะอดอยาก ซึ่งเป็นผลจากการที่เกาหลีเหนือปฏิเสธความช่วยเหลือด้านอาหารจากสหรัฐในปีนี้ นอกจากนี้ การที่ทางการใช้มาตรการเข้มงวดเกินไปไม่ว่าจะเป็นการทำทารุณกรรมและบังคับใช้แรงงาน ก็ทำให้ประชาชนต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-06 13:19:58

    ข้อตกลงร่วมสหรัฐ-รัสเซีย ในอัฟกานิสถาน เริ่มวันนี้

    [​IMG]

    วอชิงตัน 6 ก.ย. - สหรัฐสามารถส่งกำลังทหารและอาวุธไปยังอัฟกานิสถานโดยผ่านน่านฟ้ารัสเซียได้แล้วตามข้อตกลงที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์นี้ ภายหลังจากที่ผู้นำสหรัฐและรัสเซียบรรลุข้อตกลงกันเมื่อเดือนกรกฎาคม

    เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐ แถลงว่า ข้อตกลงร่วมสหรัฐ-รัสเซียมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายนนี้เป็นต้นไป หลังจากเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ เห็นชอบร่วมข้อตกลงกับ ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย เพื่ออนุญาตให้สหรัฐส่งกำลังไปอัฟกานิสถานโดยผ่านน่านฟ้าของรัสเซียได้

    สำหรับข้อตกลงนี้ อนุญาตให้เที่ยวบินทหารสหรัฐผ่านน่านฟ้าได้ถึงปีละ 4,500 เที่ยว โดยก่อนหน้านี้รัสเซียยอมให้เพียงขนส่งด้านการทหารที่ปราศจากอาวุธร้ายแรงผ่านดินแดนทางรถไฟได้เท่านั้น .- สำนักข่าวไทย

    2009-09-06 11:53:23

    สหรัฐขายอาวุธให้ต่างชาติมากที่สุดในโลก

    [​IMG]

    วอชิงตัน 7 ก.ย. - หนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า สหรัฐขายอาวุธให้ต่างชาติคิดเป็นกว่า 2 ใน 3 ของยอดขายอาวุธให้ต่างประเทศในปี 2551 ซึ่งเป็นปีที่ยอดขายอาวุธตกต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี

    รายงานอ้างการศึกษาของสภาคองเกรส ที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พบว่า สหรัฐมียอดส่งออกอาวุธคิดเป็นร้อยละ 68.4 ของการขายอาวุธทั่วโลก โดยเมื่อปีก่อนมียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 เป็น 37,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 ล้านล้านบาท) แม้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ปี 2550 มียอดขาย 25,400 ล้านบาท (ราว 863,600 ล้านบาท) เนื่องจากมีคำสั่งซื้ออาวุธใหม่จากลูกค้าในภูมิภาคตะวันออกใกล้และเอเชีย ทั้งยังมีสัญญาต่อเนื่องในการขายอุปกรณ์ และบริการสนับสนุนกับลูกค้าทั่วโลก

    นอกจากนี้สหรัฐยังมียอดขายอาวุธให้ประเทศกำลังพัฒนามากที่สุดในโลก คือร้อยละ 70.1 ของข้อตกลงขายอาวุธมูลค่า 29,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท) เมื่อปีก่อน อาทิ ข้อตกลงขายระบบป้องกันภัยทางอากาศมูลค่า 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 221,000 ล้านบาท) ให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สัญญาขายเครื่องบินขับไล่มูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 71,400 ล้านบาท) ให้โมร็อกโก และสัญญาขายเฮลิคอปเตอร์โจมตีให้ไต้หวันมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 68,000 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีข้อตกลงขายอาวุธให้ อินเดีย อิรัก ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ เกาหลีใต้ และบราซิล

    อย่างไรก็ดี ยอดขายอาวุธทั่วโลกเมื่อปีก่อนลดลงร้อยละ 7.6 อยู่ที่ 55,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 ล้านล้านบาท) เป็นระดับต่ำสุดนับแต่ปี 2548 โดยอิตาลีเป็นประเทศที่ส่งออกอาวุธมากเป็นอันดับที่ 2 คือ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 125,800 ล้านบาท) ขณะที่รัสเซียตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 119,000 ล้านบาท) ลดลงจากเมื่อปี 2550 ที่มียอดขาย 10,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 367,200)

    สำหรับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดของประเทศกำลังพัฒนาเมื่อปีก่อน มีมูลค่า 9,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 329,800 ล้านบาท) อันดับที่ 2 คือซาอุดีอาระเบีย มีมูลค่า 8,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 295,800 ล้านบาท) ส่วนโมร็อกโกซื้ออาวุธมากเป็นอันดับ 3 มูลค่า 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 183,600 ล้านบาท). -สำนักข่าวไทย

    2009-09-07 09:34:16

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    คาดยอดตายแผ่นดินไหวอินโดนีเซียสูงถึง 100 ราย <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">7 กันยายน 2552 14:57 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table align="Right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table width="300" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="300" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี - น่าจะมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 รายจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.0 ริกเตอร์บนเกาะชวาของอินโดนีเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยวันนี้ (7)

    เจ้าหน้าที่หลายคนยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 74 ราย จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะชวา ปริยาดี การ์โดโน โฆษกสำนักงานบรรเทาสาธารณภัยบอกกับเอเอฟพี

    อย่างไรก็ตาม คาดว่าน่าจะมีเหยื่อที่ถูกฝังและเสียชีวิตใต้ซากปรักหักพังและดินถล่มอีก 34 รายในหมู่บ้านจิกังกาเรง ทางตะวันตกของเกาะชวา การ์โดโนกล่าว

    "ร่างผู้เสียชีวิตจะถูกบดขยี้ หากเราใช้เครื่องจักรกลหนัก เช่น เครื่องขุดเจาะ"

    มีประชาชนมากกว่า 88,000 รายไร้ที่อยู่อาศัยจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ การ์โดโนกล่าว

    ที่มา Around the World - Manager Online
     
  9. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ภัยขากใจคน

    หายไปสองวัน ธุระทางโลก
    กลายเป็นถูกทดสอบขันธ์อย่างแรง

    เช้าวันอาทิตย์ ได้รับเมล์ แจ้งว่าถ้าไม่ส่งอีเมล์ พาสเวอร์ด ชื่อที่อยู่และ วดปเกิดไปให้เขาทาง yahoo admin จะถือว่าเป็น inactive account และลบ account ของเราออกหมด จึงได้ส่งให้เขาไป

    ยังติดใจอยู่นิดๆ ว่าอีเมลล์ทำไมมีนามสกุลเป็นจีเมลล์ yahooaccountservice@gmail.com
    เลยคิดว่าเขาจะทำความสะอาดเซอร์เว่อร์จึงต้องไปเช่าที่คนอื่นอยู่ก่อน

    พอสองทุ่มเพื่อนโทรมา บอกว่าเธอเปลี่ยนชื่อแล้ว มีอีเมลล์ชื่อเดิมมาอ้างว่าอยู่อังกฤษ ขอยืมเงิน 1400 euro เธอโดน cyber crime เข้าแล้ว

    ขณะนี้แอคเคานต์ถูกยาฮูฟรีซไว้
    ได้ไปแจ้งความแล้ว กำลังติดต่อกระทรวงไอที และสื่อ จะได้กระจายข่าวคนอื่นจะได้ไม่โดนอุ้มแอคเคานต์ไป
    เพราะชื่อเพื่อนฝูงในแอคเคานต์มีค่ากว่าทองคำ

    ขออภัยทุกท่านที่ได้รับเมลล์ทั้งหมดนี้ และขอขอบคุณสำหรับความเป็นห่วง
    บอกต่อๆ กันไปด้วยว่า ถ้าใครให้ส่งอีเมลลืและพาสเวอร์ดไปให้ อ้างว่าไม่งั้นจะลบแอคคานต์ ก็อย่าส่งนะคะ

    ยังอยู่เมืองไทยค่ะ ภาษาอังกฤษในเมล์เหมือนคนเมา ไม่ใช่สำนวนอ. ไก่ค่ะ
    พี่สุดใจบอกรักชื่อเสียงและ contact list ก็โดนทดสอบเรื่องนี้

    เทพบุตรชาวดินว่า หรือระบบให้เลิกใช้ชื่อสุธาทิพเสียที

    คงได้เปลี่ยนคราวนี้นะคะ
     
  10. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ไม่ใช่ฟิชชิ่งค่ะ
    เขามาขอเราไปเนียนๆ เราส่งให้เขาเองกับมือ
    นั่นคือที่น่ากลัว

    ถ้าใครโดนอาชญากรรมไซเบอร์ ให้ลงบันทึกประจำวัน และโทรแจ้งกระทรวงไอซีทีที่ ๑๒๑๒ นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2009
  11. goldbell

    goldbell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,340
    สหรัฐขายอาวุธให้ต่างชาติมากที่สุดในโลก

    <TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    หนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า สหรัฐขายอาวุธให้ต่างชาติคิดเป็นกว่า 2 ใน 3 ของยอดขายอาวุธให้ต่างประเทศในปี 2551 ซึ่งเป็นปีที่ยอดขายอาวุธตกต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี

    รายงานอ้างการศึกษาของสภาคองเกรส ที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พบว่า สหรัฐมียอดส่งออกอาวุธคิดเป็นร้อยละ 68.4 ของการขายอาวุธทั่วโลก โดยเมื่อปีก่อนมียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 เป็น 37,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 ล้านล้านบาท) แม้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ปี 2550 มียอดขาย 25,400 ล้านบาท (ราว 863,600 ล้านบาท) เนื่องจากมีคำสั่งซื้ออาวุธใหม่จากลูกค้าในภูมิภาคตะวันออกใกล้และเอเชีย ทั้งยังมีสัญญาต่อเนื่องในการขายอุปกรณ์ และบริการสนับสนุนกับลูกค้าทั่วโลก

    นอกจากนี้สหรัฐยังมียอดขายอาวุธให้ประเทศกำลังพัฒนามากที่สุดในโลก คือร้อยละ 70.1 ของข้อตกลงขายอาวุธมูลค่า 29,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท) เมื่อปีก่อน อาทิ ข้อตกลงขายระบบป้องกันภัยทางอากาศมูลค่า 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 221,000 ล้านบาท) ให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สัญญาขายเครื่องบินขับไล่มูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 71,400 ล้านบาท) ให้โมร็อกโก และสัญญาขายเฮลิคอปเตอร์โจมตีให้ไต้หวันมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 68,000 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีข้อตกลงขายอาวุธให้ อินเดีย อิรัก ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ เกาหลีใต้ และบราซิล


    อย่างไรก็ดี ยอดขายอาวุธทั่วโลกเมื่อปีก่อนลดลงร้อยละ 7.6 อยู่ที่ 55,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 ล้านล้านบาท) เป็นระดับต่ำสุดนับแต่ปี 2548 โดยอิตาลีเป็นประเทศที่ส่งออกอาวุธมากเป็นอันดับที่ 2 คือ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 125,800 ล้านบาท) ขณะที่รัสเซียตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 119,000 ล้านบาท) ลดลงจากเมื่อปี 2550 ที่มียอดขาย 10,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 367,200)


    สำหรับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดของประเทศกำลังพัฒนาเมื่อปีก่อน มีมูลค่า 9,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 329,800 ล้านบาท) อันดับที่ 2 คือซาอุดีอาระเบีย มีมูลค่า 8,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 295,800 ล้านบาท) ส่วนโมร็อกโกซื้ออาวุธมากเป็นอันดับ 3 มูลค่า 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 183,600 ล้านบาท


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 07 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6857 ข่าวสดรายวัน


    รถแข่งรีไซเคิล

    เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>คณะนักวิจัยมหา วิทยาลัยฮัลส เตอร์ ไอร์แลนด์เหนือ นำโดย ดร.จูลี่ โซเด็น สร้างรถแข่งคันแรกของโลก ที่ใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรีไซเคิลทั้งคัน

    ทั้งยังวิ่งได้จริง ทำความเร็วสูงถึง 336 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ดร.โซเด็น กล่าวว่า รถแข่งรุ่นนี้มีชื่อว่า "เดอะ ฟอร์มูลา ทรี วีฮิเคิล"

    โครงสร้างแปรรูปมาจากเปลือกถั่วหิมพานต์ ปอ ถั่วเหลือง แป้งมันฝรั่ง ขวด และวิ่งด้วยเชื้อเพลิงไบโอดีเซล

    อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในรถฟอร์มูลา ทรี ไม่ได้ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เพราะต้องคำนึกถึงความแข็งแรงทนทานเป็นหลัก

    สธ.เปิดอบรมแซะห์ก่อนไปแสวงบุญที่เมกกะ-สู้หวัด2009



    พังงา - นายเจษฎา ฉายคุณรัฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณ สุขดำเนินมาตรการป้องกันไข้หวัดใหญ่ สำหรับชาวไทยมุสลิมที่ร่วมแสวงบุญในพิธีฮัจญ์เปิดอบรมความรู้ให้แซะห์หรือผู้นำกลุ่ม ให้เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขฮัจญ์ (อสม.ฮัจญ์) ประจำปี 2552 จำนวน 200 คนให้คำปรึกษาแนะนำการดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิม ที่จะเดินทางไปแสวงบุญที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ทำงานร่วมกับหน่วยแพทย์/พยาบาล มอบกระเป๋ายาให้ อสม.ฮัจญ์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลให้ทุกคนก่อนเดินทางโดยไม่คิดมูลค่า แจกคู่มือประชาชนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ พร้อมหน้ากากอนามัยชนิดกระดาษ ให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมจัดเตรียมหน้ากากอนามัยชนิดผ้าอย่างน้อย 7 ชิ้น ซึ่งหลังใช้แล้วสามารถนำมาซักและใช้ซ้ำอีกได้เนื่องจากต้องอยู่นานหลายสัปดาห์

    จัดระบบติดตามเฝ้าระวังสุขภาพภายหลังพี่น้องชาวไทยมุสลิมเดินทางกลับประเทศไทย เป็นเวลา 15 วัน ส่งหน่วยแพทย์/พยาบาลให้ดูแลสุขภาพพี่น้องชาวไทยมุสลิมตลอดพิธีแสวงบุญโดยไม่คิดมูลค่า สำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์นำไปด้วยและสามารถจัดส่งเพิ่มได้อีกตามความจำเป็น

    นายเจษฎากล่าวอีกว่า ในปีนี้ทางการซาอุดีอาระเบียออกข้อกำหนดห้ามบุคคลที่มีความเสี่ยงป่วยรุนแรง หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้แก่ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ฯลฯ ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้ที่ภูมิต้านทานต่ำ ภาวะอ้วนและหญิงมีครรภ์ หากผู้แสวงบุญมีโรคประจำตัวและมีอาการของไข้หวัดต้องรีบแจ้งผู้ดูแลกลุ่มหรือแซะห์ทันที เพื่อประสานการรักษากับหน่วยพยาบาลไทยไปพบแพทย์ทันที

    โหรชี้ 09-09-09 ฤกษ์"พ่อค้ามหาเศรษฐี" ธุรกิจแห่เปิดกิจการ

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    จากกระแสความเชื่อที่เกิดขึ้นทางโหราศาสตร์" 09-09-09 "วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 ที่กำลังจะมาถึง
    ถือเป็นวันดีแห่งปี ทำให้มีบรรดาเจ้าของกิจการ และภาคธุรกิจ พากันถือฤกษ์เปิดกิจการ เปิดโครงการ
    ใหม่ หรือสำนักงานใหม่ รวมถึงการจัดกิจกรรมพิเศษกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือดีแทค ที่แม้จะเป็นบริษัทข้ามชาติ ก็ถือฤกษ์ 09-09-09 ทำพิธีเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ที่ตึกจามจุรีสแควร์ ที่ลงทุนเฉพาะค่า ตกแต่งไปกว่า 450 ล้านบาท

    บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์นำเข้าก็ทำพิธีเปิดโชว์รูมใหม่ สาขา 3 ย่านทองหล่อ นอกจากนี้ตระกูลภิรมย์ภักดี เจ้าของ"สิงห์ คอร์ปอเรชั่น" ก็เตรียมเปิดสนามกอล์ฟแห่งใหม่ที่จังหวัด ขอนแก่นด้วย

    นายกนก สุวรรณวิสูตร์ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มโรงแรมดิเอ็มเพรส และเอ็มเพรส คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เชียงใหม่เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 เดือน 9 กลุ่มที่ถือเป็นฤกษ์มงคล ให้ความสนใจจองพื้นที่จัดงานมากที่ สุด คืองานวิวาห์ซึ่งจองเข้ามา 4 งานเต็มความจุของศูนย์ฯ

    ส่วนที่จังหวัดตรังจะมีพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้ง 38 "ตรังเกมส์" ในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009
    เวลา 19.19 น. มีทัพนักกีฬาจากทั่วประเทศ มากที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันกีฬาแห่งชาติฯ ถึง
    12,007 คน

    นายโสรัจจะ นวลอยู่ นักโหราศาสตร์ชื่อดัง กล่าวว่า วันที่ 9 จะตรงกับวันพุธ ถือเป็นวันอธิบดี ส่วน เดือน 9 กันยายน เป็นเดือนดีที่มีมาแต่โบราณ ถือว่า เหมาะกับฤกษ์ใช้ปลูกบ้าน ยกเสาเอก เหมาะกับ
    การทำพิธีการมงคลต่างๆ ถือว่าเป็นวันดีของปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีเจ้าของกิจการเข้ามาปรึกษาหาฤกษ์ เยอะมากเป็นหลักร้อยคน โดยฤกษ์ที่ใช้มากที่สุดก็คือ เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที เพื่อเปิดกิจการ มีทั้ง กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การส่งออกที่เป็นกิจการใหญ่ ร้านอาหาร ผู้ผลิตอัญมณี รวมถึงเปิดปั้ม น้ำมัน

    ด้านนายพัฒนา พัฒนาศิริ ผู้อำนวยสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ลักษณ์ เรขานิเทศ เปิดเผยว่าวันที่ 9 เดือน 9 ปี 09 เป็นวันที่มีเลข 9 ถึง 3 ตัวและเมื่อนำมารวมกันจะได้ 27 เอาเลข2ตัวบวกกันก็ยังเป็น 9 ถือว่า
    วันพิเศษ
    "ฤกษ์ในวันนั้นจะเป็น มหัทธโน เป็นฤกษ์พ่อค้ามหาเศรษฐี" นายพัฒนากล่าว
    .....
    อ่านรายละเอียดใน
    ˹ѧ

    "สวทช."หนุนธุรกิจพลังแสงอาทิตย์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วท. แถลงว่า จากความสำเร็จของบริษัทของไทย คือ บริษัทบางกอกโซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด และบริษัทลีโอนิคส์ จำกัด ที่สามารถวิจัยและพัฒนา ผลิตแผงโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า จนสามารถนำมาสร้างเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่สุดใน เอเชีย มานานกว่า 2 ปี ล่าสุด สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ได้ให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ทำให้ปัจจุบันมีผู้สนใจลงทุนเพื่อขอเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ถึงกว่า 800 เมกะวัตต์แล้ว ซึ่งหากการขยายตัวในการสร้างโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้น และผู้ผลิตเลือกใช้สินค้าไทยในระบบที่ติดตั้ง ก็นับเป็นการช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งขึ้นมากตามไปด้วย

    ทั้งนี้ ปัจจุบันพลังงานแสงอาทิตย์กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลกในการนำมาเป็นแหล่งผลิตพลังงานใหม่ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาวิกฤตพลังงานในขณะนี้ เนื่องจากเป็นพลังงานสะอาด และเป็นแหล่งพลังงานธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุด จึงมีบทบาทสำคัญในแผนพัฒนาพลังงานไทย ทำให้ลดการพึ่งพลังงานสิ้นเปลืองได้ด้วย

    "ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบเรื่องการพลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ เพราะอยู่ในเขตร้อน ได้รับแสงอาทิตย์มากกว่าภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00-13.00 น. ที่จะมีแสงอาทิตย์ส่องตรงลงมามากที่สุด โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่ได้พลังงานสูงสุดถึง 5.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อตารางเมตร เหมาะใช้ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากที่สุด แต่ที่ผ่านมาพบว่าผู้ประกอบการมีปัญหาเรื่องของราคาที่ดิน เพราะพื้นที่กรุงเทพฯ ค่อนข้างแคบและมีราคาแพง จึงจำเป็นต้องเลือกพื้นที่อื่นแทน เช่น จ.ลพบุรีที่ให้พลังงานสูงถึง 5.3 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อตารางเมตร รวมถึง จ.อุดรธานี อุบลราชธานี อ่างทอง หนองคาย เป็นต้น" คุณหญิงกัลยา กล่าว

    โลกร้อนส่งผล100ปีระดับน้ำทะเลพุ่ง1ม.



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชื่อดังของโลก ประเมินว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงกว่า 1 เมตร ในราว 100 ปีข้างหน้า

    กองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ "ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ" (WWF) ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2643 หรือเกือบ 100 ปีข้างหน้า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นถึง 1.2 เมตร ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่สหประชาชาติคาดการณ์เอาไว้ที่ 59 เซนติเมตรถึง 1 เท่าตัว

    "ภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลก ทั้งขั้วโลกเหนือและใต้ละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นและเกิดน้ำท่วม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชา กรถึง 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรโลก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจแจ้งเตือนเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะมีการประชุมแก้ปัญหาโลกร้อนที่ประเทศเดนมาร์ก ในเดือนธันวาคม 2552" รายงานกองทุนสัตว์ป่าโลก ระบุ

    บ.มะกันยื่นขอวางตลาด ระบบมองเห็นภาพผ่าน"ลิ้น"!



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>บริษัทไวแคบ เมืองมิดเดลตัน รัฐวิสคอนซิน สหรัฐ ยื่นเรื่องกับสำนัก งานอาหารและยาสหรัฐ ขอวางจำหน่ายอุปกรณ์ช่วยให้คนตาบอดมองเห็นภาพได้โดยการส่งสัญญาณผ่าน "ลิ้น" ไปให้สมองตีความออกมาเป็นรูปภาพ

    อุปกรณ์ของไวแคบ มีชื่อว่า "เดอะ เบรนพอร์ต ดีไวซ์" ส่วนประกอบหลัก ได้แก่ 1. แว่นตาที่มีกล้องรับภาพติดตั้งอยู่ในตัว 2. หน่วยประมวลผลคอมพิวเตอร์ 3. แผ่นขั้วอิเล็กโทรดขนาดพอๆ กับตราไปรษณียากร วิธีการใช้งาน คนตาบอดต้องสวมใส่แว่นเพื่อให้กล้องจับภาพวัตถุ หรือสิ่งที่ปรากฏอยู่ข้างหน้า จากนั้นกล้องจะถ่ายทอดสัญญาณภาพเข้าไปยังเครื่องประมวลผลเพื่อส่งข้อมูลผ่านสายเคเบิลไปยังแผ่นขั้วอิเล็กโทรดที่อมไว้อยู่ในปาก ประกบติดกับลิ้น

    สำหรับอิเล็กโทรด หรือวัสดุตัวนำไฟฟ้าจะประกอบด้วยขั้วขนาดเล็ก 400 ขั้ว ซึ่งสามารถขยับได้ตามคำสั่งที่ตั้งโปรแกรมเอาไว้เพื่อหลอกให้สมองแปรสัญญาณจากอิเล็กโทรดที่สั่นสะเทือนอยู่บนลิ้นไปเป็นภาพ 3 สีด้วยกัน คือ สีขาว สีดำ และสีเทา ช่วยให้คนตาบอดพอมองเห็นลักษณะของวัตถุ รวมถึงตัวอักษร

    ดร.วิลเลียม ไซเพิล จักษุแพทย์และนักวิจัยประจำสถาบันไลต์เฮาส์ ผู้ร่วมทดสอบประสิทธิภาพของไวแคบ กล่าวว่า โดยเฉลี่ยผู้พิการทางสายตาจะใช้เวลาฝึกฝนเรียนรู้การทำงานของไวแคบภายใน 1 วัน แต่บางคนใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็สามารถมองเห็นภาพได้เลย

    ด้านโรเบิร์ต เบ๊กแมน หนึ่งในทีมคิดค้นไวแคบ กล่าวว่า นวัตกรรมนี้ช่วยให้คนตาบอดมองเห็นสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว แยกแยะวัตถุ และพอจะอ่านตัวอักษรแบบคร่าวๆ ได้ เช่น อ่านป้ายเตือน ป้ายบอกทิศทางต่างๆ ซึ่งจะทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันสะดวกขึ้น แม้ไม่ถึงขั้นใช้ไวแคบนำทางแทนไม้เท้า หรือสุนัขก็ตาม ราคาราว 330,000 บาท

    ยุโรปช็อกหนังเอดส์"ฮิตเลอร์"



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ไม่เหมาะสม- ภาพบางส่วนจากหนังโฆษณารณรงค์ให้ประชาชนสวมถุงยางอนามัยป้องกันเอดส์ จัดทำโดยกลุ่มเฝ้าระวังโรคเอดส์ในประเทศเยอรมนี นำเอาเผด็จการฮิตเลอร์และ ซัดดัมมาใช้เป็นสัญลักษณ์ เรียกเสียงต่อต้านจากองค์กรสาธารณสุขหลายแห่งทั่วทวีปยุโรป

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 6 ก.ย. เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานว่า องค์กรและมูลนิธิที่ทำงานด้านสาธารณสุขหลายแห่งทั่วทวีปยุโรป ออกโรงต้านหนังโฆษณาประชาสัมพันธ์ลดการติดเชื้อเอดส์ในเยอรมนี ซึ่งมีเนื้อหาและภาพไม่เหมาะสมอย่างรุนแรง เขียนบทให้คนหน้าตาเหมือนเผด็จการคนสำคัญในประวัติศาสตร์โลก เช่น ฮิตเลอร์ มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันกับหญิงสาว ก่อนเขียนข้อความข่มขู่ตบท้าย "เอดส์ คือ จอมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" หรือ "AIDS is a mass murderer"

    หนังโฆษณาอื้อฉาวดังกล่าว ยาว 45 วินาที องค์กรเฝ้าระวังภัยโรคเอดส์ "เรเกนโบเก้น" ของเยอรมนี ว่าจ้างบริษัทโฆษณา "ดาส คอมิตี" ในเมืองฮัมบวร์ก รับหน้าที่ผลิตออกฉายภายใต้แนวคิดต้องการขู่ให้คนเยอรมนี โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นรู้จักสวมถุงยางอนามัยก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพราะโรคเอดส์เป็นภัยร้ายแรงต่อมนุษยชาติยิ่งกว่าอาชญากรฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในอดีต ทั้งฮิตเลอร์ผู้นำพรรคนาซี อดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน แห่งอิรัก และโจเซฟ สตาลิน จอมเผด็จการโซเวียต

    ก่อนหน้านี้ โฆษณาชุดที่มีปัญหาเคยเผยแพร่ในลักษณะสิ่งพิมพ์เรียกเสียงฮือฮามาแล้วครั้งหนึ่ง ล่าสุด เริ่มออกฉายทางโทรทัศน์ในเยอรมนีหลังเวลา 21.00 น. เพราะมีเนื้อหาทางเพศ อย่างไรก็ตาม นายฮานส์ ไวส์เฮาล์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์บริษัทดาส คอมิตี โต้ว่า เมื่อได้รับโจทย์จาก กลุ่มเรเกนโบเก้น จึงเสนอไปว่าควรเลือกใช้หน้าฮิตเลอร์มาขู่ผู้ชม เนื่องจากเป็นใบหน้าของความชั่วร้าย เพื่อทำให้คนดูช็อกและจดจำสารที่ส่งไปถึง

    "มีบางคนในเรเกนโบเก้นแย้งว่าการรณรงค์ด้วยโฆษณาชิ้นนี้อาจส่งผลกระทบทางลบในหมู่ผู้ป่วย แต่สุดท้ายเราเห็นตรงกันว่าผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ากว่า" ไวส์เฮาล์ กล่าว

    พิพิธภัณฑ์"พ่อคูณ" แฝงธรรม"ยิ่งสละ-ยิ่งได้"

    ฉัตรชัย สุนทรส



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>"ทุกวันนี้ กูมีเงินเพราะพวกมึงช่วยเหลือ

    พวกมึงบริจาคกันเป็นล้านๆ

    กูก็เอาไปให้คนที่มันลำบากเดือดร้อน

    แต่ถ้ากูเห็นแก่ได้ เก็บเอาไว้คนเดียว

    ใครจะมาบริจาคให้กูอีก

    เพราะให้มาไม่เอาไปเผื่อแผ่แก่คนทุกข์ยาก

    ยิ่งเอามันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมดมันยิ่งได้"

    หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ



    เป็นภาพที่เห็นกันชินตา พระเกจิอาจารย์ชื่อดังรูปหนึ่ง ถือกิ่งไม้ขนาดเล็กๆ ในมือ เดินเคาะศีรษะลูกศิษย์ลูกหาที่เลื่อมใสศรัทธา ไม่เว้นแม้แต่นักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ก็ต้องมาให้ท่านเคาะหัวให้ เพื่อความเป็นสิริมงคล

    ด้วยความเมตตาเปี่ยมล้น จนได้ชื่อว่า "เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด"

    พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

    เนื่องในโอกาสที่ท่านมีสิริอายุครบ 7 รอบ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2550 คณะศิษยานุศิษย์และสาธุชนที่เคารพในหลวงพ่อคูณ ได้ดำริที่จะจัดสร้าง "พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ" เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความศรัทธาและบารมีทานอันยิ่งใหญ่ของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่และพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของมหาชนทั่วทุกสารทิศ

    พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ตั้งอยู่ที่ศาลาการเปรียญ (หลังเดิม) ณ วัดบ้านไร่ จัดสร้างขึ้นเพื่อนำเสนอเรื่องราวชีวประวัติของหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่เยาว์วัย การอุปสมบทเป็นพระภิกษุ วัตรปฏิบัติในสมณเพศที่ถือสันโดษและเป็นพระนักพัฒนา แรงศรัทธามหาชนที่มีต่อหลวงพ่อคูณ รวมทั้งการบริจาคทานจำนวนมหาศาล เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศและบางส่วนในต่างประเทศ

    การจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ได้สะท้อนเรื่องราวต่างๆ ของหลวงพ่อคูณ ผ่านภาพจิตรกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้น บอกเล่าภาพชีวิตในอดีต สิ่งของเครื่องใช้จำนวนมากมาย ซึ่งผู้มีจิตศรัทธานำมาถวาย อัฐบริขารและเครื่องใช้จำเป็นในการครองสมณเพศ

    ภาพเสมือนจริงที่จำลองบรรยากาศการออกธุดงค์ของหลวงพ่อคูณ แสดงให้เห็นถึงบารมีธรรมอันยิ่งใหญ่ ประติมากรรมที่สื่อถึงผลบุญของการให้ทานอันเป็นวัตรปฏิบัติสำคัญของหลวงพ่อ มหาทานของหลวงพ่อคูณที่ได้บริจาคเงินจำนวนมหาศาล เพื่อสาธารณประโยชน์

    หลวงพ่อคูณยังได้บริจาคร่างกายเพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษา แสดงให้เห็นถึงความ แน่วแน่ในวิถีสันโดษอันเป็นวัตรปฏิบัติที่หลวงพ่อคูณได้ยึดถือมาตลอด <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ แบ่งเป็น 2 ชั้น 11 โซน

    ชั้นที่ 1 - โซน 1 ศรัทธามหาชน, โซน 2 ภิกษุสมถะแห่งดินแดนอีสาน, โซน 10 เครื่องยึดเหนี่ยวใจใฝ่ทำดี, โซน 11 ให้แล้วรวย

    ชั้นที่ 2 - โซน 3 กำเนิดผู้มีบุญ, โซน 4 ตั้งจิตช่วยคนพ้นทุกข์, โซน 5 ออกธุดงค์, โซน 6 พัฒนาวัดบ้านไร่, โซน 7 ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัว, โซน 8 มรดกทาน มรดกธรรม, โซน 9 ทานบารมีทวีคูณ

    ส่วนรายละเอียดในแต่ละโซน มีดังนี้

    โซน 1 ศรัทธามหาชน จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณท่านั่งยองๆ ขนาดเท่าจริง มีภาพจิตรกรรมและแสดงภาพประชาชนจากภาคต่างๆ มากราบนมัสการหลวงพ่อ มีบอร์ดกราฟิกเรื่อง เอกลักษณ์หลวงพ่อคูณ อาทิ การนั่งยอง รับปัจจัยใบเดียว เหยียบโฉนด เคาะหัว วัตถุมงคล เป็นต้น

    ตู้จัดแสดงสิ่งของที่ผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายหลวงพ่อ ภายใต้หัวข้อ "กูทำดี เขาจึงให้ของ ดีแก่กู"

    โซน 2 ภิกษุสมถะแห่งดินแดนอีสาน จัดแสดงสิ่งของจำลองบรรยากาศเหมือนห้องนอนเดิมของหลวงพ่อ พร้อมเสียงบรรยาย มีบอร์ดเล่าเรื่อง "ธรรมะข้างบันได" และภาพแสดงในหัวข้อ เทพเจ้าแห่งที่ราบสูง แบบอย่างของผู้บำเพ็ญทานบารมี

    โซน 3 กำเนิดผู้มีบุญ จัดแสดงหุ่นจำลอง ประกอบเทคนิคแสงเสียง ตอนโยมแม่ฝันเห็นดวงแก้ว อันเป็นนิมิตหมายอันดีของผู้มีบุญที่กำลังจะถือกำเนิด และภาพจิตรกรรม กำเนิดผู้มีบุญ

    โซน 4 ตั้งจิตช่วยคนพ้นทุกข์ จัดแสดงภาพจิตรกรรมเมื่อครั้งที่หลวงพ่อได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ และตั้งจิตปณิธานช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์

    โซน 5 ออกธุดงค์ จัดแสดงหุ่นจำลองย่อส่วนประกอบเทคนิคภาพเคลื่อนไหวและแสงเสียง จำลองเหตุการณ์เทศนาโปรดสัมภเวสี เมื่อครั้งออกธุดงค์ ในช่วงปี พ.ศ.2492-2495 และบอร์ดกราฟิก "จาริกบุญ จาริกธรรม" นำเสนอเรื่องเส้นทางธุดงค์ 3 ประเทศ ไทย-ลาว-เขมร

    โซน 6 พัฒนาวัดบ้านไร่ จัดแสดงหุ่นจำลองย่อส่วน 4 เหตุการณ์ ได้แก่ หลวงพ่อคูณสร้างโบสถ์ไม้เพื่อใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจของพระลูกวัด, หลวงพ่อคูณนำชาวบ้านขุดสระน้ำเพื่อเป็นที่เก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง, หลวงพ่อคูณปีนขึ้นเจิมป้ายโรงเรียนวัดบ้านไร่เพื่อความเป็นสิริมงคล และหลวงพ่อคูณใช้ยอดสากตำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ นำมาสร้างพระเครื่องให้ศิษยานุศิษย์ได้บูชา มีบอร์ดแสดงภาพของการพัฒนาวัดบ้านไร่ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    โซน 7 ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัว ประมวลภาพพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ การจัดแสดงวัตถุอันเป็นที่ระลึก วีดิทัศน์ประมวลภาพพระมหากรุณาธิคุณ

    โซน 8 มรดกทาน มรดกธรรม จัดแสดงรูปหล่อสำริดหลวงพ่อคูณท่านั่งวิปัสสนา การจัดแสดงวัตถุอันเป็นที่ระลึกถึงคุณูปการ เกียรติคุณของหลวงพ่อคูณที่ได้รับการเชิดชูยกย่องจากหน่วยงาน สถาบันและองค์กรต่างๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ รวมทั้งข้อความในพินัยกรรม (มรณานุสติ)

    โซน 9 ทานบารมีทวีคูณ แสดงงานกราฟิกบนประติมากรรมต้นไม้แห่งทานบารมี วีดิทัศน์ประมวลภาพคอมพิวเตอร์ แสดงข้อมูลเรื่องการบริจาคทานของหลวงพ่อคูณในด้านต่างๆ

    โซน 10 เครื่องยึดเหนี่ยวใจใฝ่ทำดี มีตู้จัดแสดงวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ คอมพิวเตอร์เพื่อค้นคว้า สำหรับให้ผู้ชมได้อ่านข้อมูลวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ที่ได้รวบรวมไว้

    โซน 11 ให้แล้วรวย จัดแสดงวีดิทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับการทำบุญทำทาน ซึ่งเป็นภาพที่พบเห็นคุ้นตาในวิถีชีวิตของคนไทยเมื่อไปทำบุญ สอดแทรกคำสอนของหลวงพ่อคูณที่พูดถึงการทำบุญมาเป็นประโยคปิดท้ายในแต่ละช่วง ประติมากรรมต้นไม้แผ่ความรวย สื่อความหมายถึงการงอกงามของบุญกุศลที่ผู้มีจิตศรัทธาทุกคนได้ร่วมสร้างกับหลวงพ่อคูณ นอกจากนี้ ได้จัดแสดงผนังภาพ "๙ บุญคูณลาภ" แนะนำจุดทำบุญภายในวัดบ้านไร่ 9 แห่ง เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากได้ชมพิพิธภัณฑ์แล้ว และตู้หยอดเหรียญที่ระลึกของพิพิธภัณฑ์

    "ณัฐธร ธรรมบุตร" ที่ปรึกษาบริษัท Aesthetics Architects GO Group Co.,Ltd. ในฐานะหัวหน้าทีมออกแบบพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า ก่อนออกแบบพิพิธภัณฑ์ เราได้มองภาพของหลวงพ่อคูณ พระเกจิชื่อดังแห่งด่านขุนทด เป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ดังนั้นการรังสรรค์ตัวอาคารและภายในพิพิธภัณฑ์ ควรจะต้องสื่อออกมาให้คนที่เข้ามาชมได้เห็นมิติแห่งพลังความเมตตาของหลวงพ่อคูณ สถาปัตยกรรมที่เรานำเสนอ จะเน้นถึงความสงบเรียบง่ายเป็นหลัก วัสดุที่ใช้เรียบง่ายให้เหมาะสมกับการดำรงสมณเพศของท่าน แฝงด้วยหลักธรรม ประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ผู้ที่เข้าชมพิพิธภัณฑ์จะได้รับทราบข้อมูลในทุกแง่มุมของหลวงพ่อคูณได้อย่างลึกซึ้ง

    "สถาปัตยกรรมที่เราได้ออกแบบ เป็นสถาปัตยกรรมยุคกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะเราเห็นว่าท่านเป็นพระเกจิชื่อดังรูปหนึ่งแห่งยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ที่คนไทยให้การยกย่องและเลื่อมใสศรัทธายิ่ง สำหรับทีมงานผู้ออกแบบพิพิธภัณฑ์ทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับงานออกแบบครั้งนี้ ได้ตั้งใจทำงาน ให้ผลงานออกมาดี และสมเกียรติของพระเกจิที่ได้รับการขนานนามว่าเทพเจ้าแห่งด่านขุนทด"

    ประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานมูล นิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ กล่าวว่า การก่อสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 90 โดยเน้นเพียงงานตกแต่งภายในเป็นหลัก ส่วนการจัดตกแต่งด้านนอกยังเหลือการจัดแต่งอีกเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเสร็จไม่ทันฉลองวันเกิดครบ 86 ปีของหลวงพ่อคูณ ในวันที่ 4 ตุลาคม 2552 แต่ทั้งนี้ คณะกรรมการมูลนิธิได้แจ้งให้หลวงพ่อคูณท่านทราบแล้วว่า พิพิธภัณฑ์ไม่สามารถเปิดได้ทันในวันเกิด ท่าน โดยหลวงพ่อท่านทราบ และยังได้ฝากบอกว่า ไม่ต้องรีบร้อน ให้ค่อยๆ ทำให้งานสำเร็จออกมาดี และได้มอบหมายให้ นายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ นายอำเภอด่านขุนทด ในฐานะกรรมการและเลขานุการประธานมูลนิธิหลวงพ่อคูณ เข้าไปดูแลการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ในการเก็บรายละเอียดของงานให้เรียบร้อย และรายงานให้ตนทราบทุกระยะทันที เพื่อให้สามารถเปิดพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณได้อย่างเป็นทางการก่อนสิ้นปี พ.ศ.2552

    "คณะกรรมการมูลนิธิหลวงพ่อคูณ คณะศิษย์และชาวเมืองโคราชทุกคนรู้สึกภูมิใจกับงานพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณครั้งนี้ สำหรับเป็นอนุสรณ์สถานและอุทยานธรรมแก่อนุชนคนรุ่นหลังได้ใช้เป็นที่ปฏิบัติและศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาต่อไป"

    ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนพิพิธภัณฑ์ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ โดยโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ "ผ้าป่าเพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วัดบ้านไร่" ธนาคารกรุงไทย สาขาด่านขุนทด เลขที่ 305-0-12285-4, ธนาคารกรุงเทพ สาขาด่านขุนทด เลขที่ 564-0-27374-3, ธนาคารออมสิน สาขาด่านขุนทด เลขที่ 06-4313-20-086539-4 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-4425-3113

    พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณแห่งนี้ เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของวัดบ้านไร่ที่ได้จารึกตำนานของหลวงพ่อคูณ เพื่อเป็นแบบอย่างให้สาธุชนได้เจริญรอยตามปณิธานแห่งทาน บารมีของหลวงพ่อคูณให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2009
  13. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    Summary:
    <TABLE style="MARGIN-TOP: 10px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=point>Magnitude</TD><TD class=point2>mb 6.1</TD></TR><TR><TD class=point>Region</TD><TD class=point2>SOUTH OF JAVA, INDONESIA</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=point2></TD></TR><TR><TD class=point>Date time</TD><TD class=point2>2009-09-07 at 16:12:23.3 UTC</TD></TR><TR><TD class=point>Location</TD><TD class=point2>10.33 S ; 110.57 E</TD></TR><TR><TD class=point>Depth</TD><TD class=point2>30 km</TD></TR><TR><TD class=point>Distances</TD><TD style="VERTICAL-ALIGN: top; TEXT-ALIGN: left">284 km S Yogyakarta (pop 636,660 ; local time 23:12 2009-09-07)
    264 km S Wonosari (pop 27,458 ; local time 23:12 2009-09-07)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
     
  14. pooh&tigger

    pooh&tigger สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +0
    การปฏิบัติธรรมคือการเรียนรู้ตัวเอง เราจะเรียนรู้จนกระทั่งวันนึงนะ
    เราสามารถมีชีวิตอยู่แบบไม่ทุกข์ มีความทุกข์น้อยๆ หรือไม่ทุกข์เลย
    ไม่ทุกข์เลยนี่ฆราวาสทำยาก ชีวิตของฆราวาสมันปนเปื้อนมาก
    อยู่ที่เราจะเรียนรู้ตัวเองนะ ความทุกข์มันอยู่ที่กาย ความทุกข์มันอยู่ที่ใจเรา
    จะเรียนรู้ลงที่กายที่ใจ จนกระทั่งสามารถไม่ทุกข์ได้
    กายกับใจมันทุกข์นะ แต่เราไม่ทุกข์กับมันด้วย
    อยู่ที่ความไม่ยึดถือ ไม่ยึดถือแล้วไม่ทุกข์ เป็นศาสตร์ที่แปลกมาเลย
    ศาสตร์ทั้งโลกต้องการความพ้นทุกข์ ต้องการหนีทุกข์ ไม่อยากเจอทุกข์
    ศาสนาพุทธกลับสอนให้รู้ทุกข์ ให้เรียนรู้ไป
    ถ้าทำตัวเป็นผู้สังเกตการณ์นะ เห็นปรากฏการณ์มันผ่านต่อหน้าต่อตา
    เราเป็นแค่คนดูไม่ได้เดือดร้อนด้วย
    มนุษย์จริงๆนะ เป็นแค่เศษธุลีขี้ผงเล็กๆในจักรวาลในโลกเท่านั้น เล็กนิดเดียว
    จะว่าไปแล้วมนุษย์เหมือนสัตว์เลี้ยงของโลกนะ
    มนุษย์เป็นของโลกแต่มนุษย์คิดว่าโลกเป็นของฉัน มันทุเรศๆนะ
    คิดว่าโลกเป็นของเรา จริงๆเราเป็นของโลก เป็นเศษขี้ฝุ่นขี้ผงอยู่นะ
    ร่างกายนี้ไม่นาน หน้าตาในห้องนี้ไม่เกินร้อยปีต้องคืนใช่มั้ย คืนร่างกายนี้ให้โลกไป
    งั้นร่างกายนะไม่ใช่ตัวเราเพราะมันเป็นวัตถุ เป็นก้อนธาตุ
    ยืมโลกเขามาใช้ชั่วคราว ถึงวันหนึ่งก็ต้องคืน
    พอเราเห็นความจริงว่าร่างกายนี้มันยืมเขามาใช้นะ
    วันนึงต้องแตกสลายไป รู้ความจริงอย่างนี้แล้วไม่ทุกข์
    ร่างกายนี้จะแก่จะเจ็บจะตาย จิตไม่ทุกข์ไปด้วย
     
  15. pooh&tigger

    pooh&tigger สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +0
    การปฏิบัติธรรมคือการเรียนรู้ตัวเอง เราจะเรียนรู้จนกระทั่งวันนึงนะ
    เราสามารถมีชีวิตอยู่แบบไม่ทุกข์ มีความทุกข์น้อยๆ หรือไม่ทุกข์เลย
    ไม่ทุกข์เลยนี่ฆราวาสทำยาก ชีวิตของฆราวาสมันปนเปื้อนมาก
    อยู่ที่เราจะเรียนรู้ตัวเองนะ ความทุกข์มันอยู่ที่กาย ความทุกข์มันอยู่ที่ใจเรา
    จะเรียนรู้ลงที่กายที่ใจ จนกระทั่งสามารถไม่ทุกข์ได้
    กายกับใจมันทุกข์นะ แต่เราไม่ทุกข์กับมันด้วย
    อยู่ที่ความไม่ยึดถือ ไม่ยึดถือแล้วไม่ทุกข์ เป็นศาสตร์ที่แปลกมาเลย
    ศาสตร์ทั้งโลกต้องการความพ้นทุกข์ ต้องการหนีทุกข์ ไม่อยากเจอทุกข์
    ศาสนาพุทธกลับสอนให้รู้ทุกข์ ให้เรียนรู้ไป
    ถ้าทำตัวเป็นผู้สังเกตการณ์นะ เห็นปรากฏการณ์มันผ่านต่อหน้าต่อตา
    เราเป็นแค่คนดูไม่ได้เดือดร้อนด้วย
    มนุษย์จริงๆนะ เป็นแค่เศษธุลีขี้ผงเล็กๆในจักรวาลในโลกเท่านั้น เล็กนิดเดียว
    จะว่าไปแล้วมนุษย์เหมือนสัตว์เลี้ยงของโลกนะ
    มนุษย์เป็นของโลกแต่มนุษย์คิดว่าโลกเป็นของฉัน มันทุเรศๆนะ
    คิดว่าโลกเป็นของเรา จริงๆเราเป็นของโลก เป็นเศษขี้ฝุ่นขี้ผงอยู่นะ
    ร่างกายนี้ไม่นาน หน้าตาในห้องนี้ไม่เกินร้อยปีต้องคืนใช่มั้ย คืนร่างกายนี้ให้โลกไป
    งั้นร่างกายนะไม่ใช่ตัวเราเพราะมันเป็นวัตถุ เป็นก้อนธาตุ
    ยืมโลกเขามาใช้ชั่วคราว ถึงวันหนึ่งก็ต้องคืน
    พอเราเห็นความจริงว่าร่างกายนี้มันยืมเขามาใช้นะ
    วันนึงต้องแตกสลายไป รู้ความจริงอย่างนี้แล้วไม่ทุกข์
    ร่างกายนี้จะแก่จะเจ็บจะตาย จิตไม่ทุกข์ไปด้วย

    พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    ;aa41
     
  16. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table style="" width="80%" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr></tr><tr><td class="c1" width="4" height="4">
    </td> <td style="border-top: 1px solid gray;" width="97%"> <table width="100%"><tbody><tr><td height="1">
    </td></tr></tbody></table> </td> <td class="c2" width="4">
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="border-left: 1px solid gray; border-right: 1px solid gray;" width="100%" align="center"> [SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย
    "ฝนตกหนัก"
    [/SIZE]
    ฉบับที่ 3 (124/2009) ลงวันที่ 04 กันยายน 2552
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="border-left: 1px solid gray; border-right: 1px solid gray; padding: 10px;" width="100%" align="center"> <dd>ร่อง ความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณชายฝั่ง ประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออกและภาคตะวันออกมีฝนตก หนาแน่น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มบริเวณจังหวัดนครราชสีมา ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ จันทบุรี และตราดระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ </dd><dd>สำหรับ คลื่นลมในบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย </dd></td></tr></tbody></table>
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tamsak<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1668610", true); </SCRIPT>
    ทีม พระไตรปิฏก

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ถาม: ......................................

    ตอบ: เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เราสัมผัสได้อยู่แล้ว เพราะความรู้สึกของเรามี แต่ว่ารับรู้ไว้เฉยๆ อย่าไปยินดียินร้ายกับมัน หลวงพ่อท่านสรุปสั้นๆ ว่า อย่าติดในสุขและอย่ากังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ให้ได้ ถ้าวางเฉยในร่างกายนี้ยังไม่ได้ ก็ให้เบื่อร่างกายนี้ให้ได้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง เรื่องอะไรที่จะขวนขวายแบกเพิ่มไม่ต้องหาแล้ว ทำเฉพาะหน้าให้ดีที่สุด แล้วก็ยอมรับกฎของกรรม ถ้าบอกว่าเป็นพระอรหันต์ก็เอากันแค่นี้แหละ ไม่เอาเยอะหรอก การยอมรับกฎของกรรมทำยากที่สุด ถ้าคนปัญญาไม่ถึงจะยอมรับแบบโง่ๆ

    ลูกศิษย์ หลวงพ่อชา ซึ่งเป็นพระด้วย พายุฝนมันตีหลังคากุฏิเปิงไป ท่านก็ปล่อยให้ฝนมันรั่ว ให้แดดมันเผาอยู่อย่างนั้นแหละ จนหลวงพ่อชาทนไม่ได้ ไปถึงบอกว่าคุณซ่อมหลังคาหน่อย พระท่านบอกว่าผมปล่อยวางแล้วครับหลวงพ่อ หลวงพ่อชาท่านบอกว่า ปล่อยวางแบบควายนะสิ ควายมันทนแดดทนฝนกว่าคุณอีก อะไรก็ตามถ้ายังสามารถแก้ไขด้วยกำลังกาย กำลังสติปัญญา กำลังคน กำลังทรัพย์ แม้มีช่องทางเพียงหนึ่งเปอร์เซนต์ก็ต้องแก้ไขก่อน ถ้าดิ้นรนจนครบทุกวิถีทางและไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว ค่อยยอมรับว่าสิ่งนั้นมันเป็นกฎของกรรม เกินกำลังที่เราจะแก้ไข ฟังง่ายไม่ยากเกินความสามารถ ถ้าหากว่ายากท่านไม่ไปนิพพานกันเยอะแยะ ต้องทบทวนตัวเองอยู่เสมอๆ

    วันก่อนด่า หลวงตากอล์ฟ ไปบอกว่าขึ้นอยู่ที่สูงต้องหมั่นเหลียวมองหลังไว้เสมอ การจะไปนิพพานคือเราค่อยๆ ไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ ใช่ไหม ต้องเหลียวมองหลังไว้เสมอ เพราะจะได้ทบทวนตัวเอง สิ่งที่ผ่านมามันผิดถูกอย่างไร เอามาเป็นบทเรียนเพื่อแก้ไขปัจจุบันให้ดี แล้วในปัจจุบันนี้เรายืนอยู่จุดไหน ห่างไกลจากเป้าหมายเท่าไหร่ เราต้องรีบเร่งขวนขวายอีกเท่าไหร่ หรือสบายใจนอนทอดหุ่ยได้แล้ว หลวงพ่อท่านบอกว่า ขนาดพระอรหันต์ท่านยังไม่คิดเลยว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ท่านตั้งหน้าตั้งตาทำไปเรื่อยด้วยความไม่ประมาท

    เพราะฉะนั้นที่คิดจะนอนทอดหุ่ยจริงๆ ส่วนใหญ่ไม่ใช่พระอรหันต์หรอก ยิ่งเป็นพระอริยเจ้าแล้วยิ่งขยันเพราะท่านไม่ประมาท เช่น หลวงปู่มหาอำพัน ใส่บาตรทุกวัน เวลาช่วยท่านเตรียมของมันก็เหนื่อย ถามว่าหลวงปู่ครับจะทำไปอะไรนักหนา บุญของหลวงปู่ก็กินไม่ไหวใช้ไม่หมดอยู่แล้ว ท่านบอกว่ามันจะไปประมาทได้อย่างไรล่ะ คนเราเมื่อไต่ถึงปากเหวแล้วมีแต่ตะกายให้มันพ้นๆ ขืนเอ้อระเหยมันกลิ้งตุ๊บลงไปใหม่แล้วจะทำอย่างไร ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย เพราะว่าอายุมาก พรรษามาก ตำแหน่งสูง อยู่วัดใหญ่

    แต่ท่านไม่เคยเอาอะไรทั้งหลายเหล่านี้มาอยู่ในจิตในใจของท่านเลย ยศช้างขุนนางพระอย่างไรก็อย่างนั้น คำว่า ยศช้างขุนนางพระเป็นการสรรเสริญความดียศช้าง ช้างศึกเมื่อพระเจ้าแผ่นดินออกทำศึกทำสงคราม ชนะขึ้นมาก็ปูนบำเหน็จแม้กระทั่งช้าง ช้างเป็นเจ้าพระยาเจ้าพระยาไชยานุภาพ เจ้าพระยาปราบไตรจักร ตำแหน่งเจ้าพระยานี้เจ้าคุณใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มเลย แค่พระยาก็เจ้าคุณแล้ว เจ้าพระยาสูงกว่านั้น มีอีกชั้นเดียว สมเด็จเจ้าพระยานอกนั้นก็จะเป็นวังหลัง วังหน้า พระมหากษัตริย์

    เพราะฉะนั้นตำแหน่งผู้ที่ไม่ใช่ราชวงศ์สูงสุดก็คือ สมเด็จเจ้าพระยา นี่แค่ช้างเป็นเจ้าพระยาแล้ว เขาเรียก เจ้าคุณใหญ่ พระยาก็เรียก เจ้าคุณเล็ก พระยาถือเป็นเจ้าคุณลำดับแรก ถ้าเป็นพระเฉยๆ เขายังไม่เรียกเจ้าคุณ เขาเรียกคุณพระ คุณหลวง ท่านขุน ปรากฎว่ายศช้างขุนนางพระก็คือเขาตั้งยศให้ช้าง ช้างมันเคยยินดียินร้ายไหมล่ะ ตูก็กินหญ้ากินกล้วยของตูไปเรื่อยอยากตั้งก็ตั้งไป ขุนนางพระก็เหมือนกัน ท่านทำความดีสงเคราะห์คนหมู่มาก เท่ากับเป็นการแบ่งเบาภาระพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดินเห็นความดี ก็แต่งตั้งยศให้เป็นพระครู เป็นเจ้าคุณ เป็นสมเด็จ

    สมัยก่อนพระเจ้าแผ่นดินท่านตั้งให้เองจริงๆ จะเห็นว่าในสมัยหลวงปู่ปานเป็นพระครู ใหญ่เบ้อเร่อยืดได้ทั่วประเทศ มาสมัยนี้ขนาดเป็นเจ้าคุณราช เจ้าคุณเทพ คนยังไม่ค่อยเห็นหัวเท่าไหร่ เพราะระยะหลังนี้มันเป็นการเสนอจากหน่วยงานขึ้นไป คนเส้นดีก็ได้ คนเงินดีก็ได้ ไม่ต้องมีความดีอะไรมากมายหรอก แล้วมาตอนหลังยิ่งเละหนักเข้าไปใหญ่ ทำความดีคิดเป็นจำนวนเท่าไหร่ขอชั้นยศไหนได้ อาตมาถ้าจะเอาเป็นเจ้าคุณไปนานแล้ว ก่อสร้างไม่รู้หมดไปกี่สิบล้าน แต่ว่าพระที่รับชั้นยศท่านก็ไม่ได้ติดในยศนั้น เพราะท่านเป็นผู้เสียสละอย่างไรก็ยังสละอย่างนั้น ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เป็นเรื่องของโลก พระเจ้าแผ่นดินถวายมาก็รับไว้ด้วยความเคารพในฐานะไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินผู้หนึ่ง รับมาเสร็จก็เก็บไว้ในตู้

    ไปหา หลวงพ่อสมเด็จวัดอนงค์ สมัยก่อนดูสิ ไปถึงถามหลวงพ่อสมเด็จอยู่ไหมครับหลวงตา หลวงตาบอกอยู่ตรงบันไดโน่นแน่ะ อยู่ข้างในห้องนั่นแหละ เข้าไปในห้องไม่เจอใครเลย ออกมาต่อว่าหลวงตาไหนว่าหลวงพ่อสมเด็จอยู่ในห้อง เป็นพระโกหกได้อย่างไร ท่านบอกอยู่ในนั้นจริงๆ ไปดูสิเก็บใส่ตู้ไว้ดิบดีเลยทั้งตราตั้ง ทั้งพัดยศ มันมาหาหลวงพ่อสมเด็จ แต่ถ้ามาหาหลวงตามันเจอตั้งแต่ตีนบันไดแล้ว นั่นแหละยศช้างขุนนางพระ คือสักแต่ว่ารับเอาไว้และก็ไม่ได้ไปยึดไปติดอะไร แต่สมัยนี้แหม มันแข่งกันเป็น แข่งกันเป็นไม่พอ ใครจะอยู่กุฏิหลังใหญ่กว่ากัน ใครจะขี่รถยี่ห้อแพงกว่ากัน ไปกันเตลิดเปิดเปิงเลย อันนี้เป็นตัวอย่างของโลกธรรม ญาติโยมจำนวนมากโชคดีปฏิบัติไปถึงระดับพยายามลด ละ เลิก ในสิ่งต่างๆ ที่จะผูกพันทำให้เรายึดติดอยู่กับโลก แต่ว่าบรรดานักบวชที่ควรจะลด ละ เลิก กลับพยายามจะสะสมให้มันมากขึ้นๆ

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกันยายน ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ปล่อยวางแบบควาย.159445/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2009
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เงินฝากในธนาคารของท่านจะไร้ค่า เมื่อเกิดสภาวะศึกสงคราม !!!

    [​IMG]

    ค่าเงินใน ซิมบับเว

    ธนาคาร กลางซิมบับเวพิมพ์ธนบัตรชนิดใหม่ออกใช้หลายครั้งในปี นี้ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมโหฬาร โดยเริ่มพิมพ์ในราคาใบละ 10 ล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม และเพิ่มราคาเป็น 50 ล้านดอลลาร์จนมาถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และล่าสุดได้ตีพิมพ์ธนบัตรใบละ 100,000 ล้านดอลลาร์

    [​IMG]
    1 ล้านดอลลาร์ซิมบับเว

    [​IMG]
    ซื้อไก่หนึ่งตัวนับกันเพลินเลย

    [​IMG]
    ประเทศไทยให้เด็กไปเรียนเป็นใบ แต่ที่นี่ให้เป็นฟ่อน

    [​IMG]
    ข้าว 1 มื้อต้องจ่ายเท่านี้
    [​IMG]
    50 ล้านดอลลาร์ซิมบับเว

    [​IMG]
    ลูกอมราคา 10 ล้าน

    [​IMG]
    500 ล้านดอลลาร์ซิมบับเว

    [​IMG]
    กว่าจะได้1ดอลลาร์
    [​IMG]
    10 ล้านดอลลาร์

    [​IMG]
    100,000 ล้านดอลลาร์ซื้อไข่ได้ 3 ฟอง

    [​IMG]
    100,000 ล้านดอลลาร์ซิมบับเว

    [​IMG]
    25 ล้านกับ 100 ล้าน

    [​IMG]
    ธนบัตรที่มีมูลค่าหลักล้าน
    เงิน1แสนล้านดอลลาร์ซิมบับเว สามารถขึ้นรถประจำทางได้ เพียง 2 เที่ยว หรือซื้อขนมปังได้เพียง 2 ก้อนเท่านั้น

    1 $ = 35.14 ฿
    1 $ = 800,000,000 ดอลล่าซิมบับเว
    1 ฿ = 800,000,000 หารด้วย 35.14 = 22766078.54 ดอลล่า วิมบับเว = 1 บาท

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1_display ..jpg
      1_display ..jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.4 KB
      เปิดดู:
      23,064
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2009
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เวียนว่ายตายเกิด ****

    พระ...ทำผิดมาก เอาของชาวบ้านมาก ไม่มีอะไรชดใช้ให้....ตายไป...เกิด....กล้วยน้ำว้า

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ควรออมเงิน หรือเก็บทอง ?

    [​IMG]

    ทองคำผันผวน ไปในทางขึ้นเอ๊าขึ้นเอา แถมอาการ “ตื่นทอง” ยังทำให้ ใครๆอยากซื้อทองมาตุน เพราะเล็งเห็นว่า เก็บทองคำให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่าฝากเงินสด ไว้ในสถาบันการเงินตั้งแยะ คนรวยจึงสามารถเก็บทั้งเงินทั้งทอง ขณะที่ชนชั้นกลางก็ต้องเลือกเอาว่า จะเก็บทองหรือฝากตังค์ เพราะไม่มีงบเหลือมากพอที่จะเก็บทั้งสองอย่างนี่หว่า ส่วนคนจนน่ะเรอะ อย่าว่าแต่ทองเท่า หนวดกุ้งจะเก็บไม่ได้เลย บางรายแม้แต่บ้านก็ไม่มี เพราะไอ้สิ่งที่มีน่ะคือหนี้จมหูเลยน่ะสิ ​

    ส่วนใครอยู่ในวัยทำงานแล้วรู้จักเก็บรู้จักออมอย่างมีวินัย ขอซูฮกให้เป็นผู้ที่น่าชมเชย ถือเป็นคนมองการณ์ไกล รู้ว่าอนาคตไม่แน่ไม่นอน เพราะใครจะไปรู้ล่ะว่า เหตุการณ์แบบฟองสบู่จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่? จึงตั้งหน้า ตั้งตาเจียดรายได้มาเก็บเป็นเงินก้นถุง ไว้เผื่อจำเป็นต้องนำมาใช้จะได้ไม่ติดขัด ดังนั้น คนกลุ่มนี้ย่อมมองหารูปแบบ ของการเก็บออมที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดไว้ก่อนน่ะสิ

    ซึ่ง การซื้อทอง เป็นอีกช้อยส์ที่น่าสนใจ แต่ถ้าคิดจะเก็บเป็น “ทอง” ก็มีสิ่งควรคำนึงถึงไว้มั่ง ก่อนตัดสินใจกว้านซื้อทองเมื่อเทียบกับการฝากเงิน ดังนี้...

    1. บ้านช่องห้องหอของคุณนั้นมีความ ปลอดภัยพอ ที่จะซื้อทองมาเก็บไว้รึเปล่า? เพราะถ้าไม่ปลอดภัย แถมขโมยขโจรก็ชุกชุม คุณยังจะกล้าซื้อทองมาเก็บไว้อีกเหรอ? ของมีค่าเหล่านี้เวลาหายแล้วหายเลยนะ ไอ้ที่โดนขโมยไปแล้วจะตามของกลับคืนได้สักกี่รายเชียว ยิ่งสมัยนี้เงินทองหายาก จึงยิ่งทำให้เกิดโจรหลาก หลายรูปแบบ ก็ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังกันเข้าไปใหญ่

    ส่วนที่คิดว่า งั้นไปหาเช่าตู้นิรภัยของธนาคาร ไว้เก็บของมีค่าละกัน สงสัยจะช้าไปแล้วแต๋วเอ้ยต๋อย เพราะคนอื่นเค้าแห่กันไปเช่าไว้เต็มแล้วมั้ง เห็นธนาคารบางแห่งรีบบอกเลยว่าตู้เต็ม แถมยังไม่มีตู้พอให้เช่า หนำซ้ำธนาคารมักเปิดสาขาย่อยในห้างสรรพสินค้ามากกว่า ดังนั้น พื้นที่ที่จะให้บริการเช่าตู้นิรภัยมีที่ไหนล่ะ โอ้โห เห็นบางบ้านถูกขโมยบุกและถูกยกเค้าทรัพย์สินไปแล้วเสียดายแทน

    2. เห็นใครๆเค้าว่า ถ้าจะซื้อทองเก็บไว้ละก็ ให้ซื้อทองคำแท่งจะได้ไม่เสียค่ากำเหน็จ แต่ผู้ที่ไม่ได้มีเงินก้อน แต่มีเงินเก็บเล็กๆน้อยๆในแต่ละเดือน แล้วจะเอาเงินเยอะๆ แถมยังต้องเป็นเงินเย็นซะด้วยที่ไหนไปซื้อทองคำแท่งละเพ่ เพราะถ้าจะซื้อทองคำแท่ง ร้านก็ขายที 5 บาท 10 บาทขึ้นไป

    ผู้มีเงินน้อยก็จ๋อยอีกแล้วเห็นมะ เมื่อไหร่จะมีเงินก้อนก็บ่ฮู้ ในเมื่อพวกเรามีเงินในมือได้ที่ไหนเล่า เพราะส่วนใหญ่ เห็นแต่พวกมีเงินไม่ได้ เป็นต้องเอาไปช็อปฯกระจายทุกที...มากกว่า

    3. แต่การมีทองคำไว้มั่งย่อมเป็นเรื่องดีแน่ๆ เพราะถึงไงก็เป็นสิ่งมีค่ามีราคา แถมซื้อง่ายขายคล่อง ไม่เหมือนการสะสมอย่างอื่น โดยเฉพาะหุ้นนี่บางตัวผันผวนกว่าทองซะอีก

    ที่มา http://www.hometophit.com/hometh/interresting.php?news_id=300&key=%A4%C7%C3%CD%CD%C1%E0%A7%D4%B9%20%CB%C3%D7%CD%E0%A1%E7%BA%B7%CD%A7
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...