ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    วันนี้ไปดูหนัง 2022 สีนามิ มารู้สึกว่าหนังมันถูกตัดเหตุการณ์บางอย่างไป

    แต่ก็สยองดีแค่ได้ยินเสียงน้ำท่วมใหญ่ขนาดนั้น
     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775


    จริงครับเมื่อคืนนี้มีไหวครับผมรู้สึกได้ชัดเจนเช่นกัน
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อ้างอิงเรื่องลูกเห็บยักษ์ขนาด 50 กิโลกรัม

    [​IMG]
    ภาพประกอบคำทำนายจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ล

    ภิกษุรูปนั้น(พระอาจารย์รัตน์)ได้เคยเล่าให้ผมฟังอย่างเป็นทางการว่าอีกไม่นานนัก มนุษย์คงค้นพบเรื่องแสงแล้วมาทำเป็นอาวุธยิงจากอวกาศ อาวุธที่เป็นแสงนี้จะมีลักษณะเป็นเหมือนอาวุธชีวภาพ คือทำให้ผู้คนที่โดนแสงเจ็บป่วยล้มตายได้ ท่านถึงกับบอกว่า “ในอนาคตข้างหน้า โรคภัยไข้เจ็บต่อไปจะเป็นอิทธิพลของแสงเท่านั้น” แต่มนุษย์ผู้คิดค้นอาวุธแสงออกมาได้ คงนึกไม่ถึงว่าอาวุธแสงนี้ จะเป็นตัวการก่อให้เกิดแผ่นดินไหว มันจะไปดึงดูดในโมเลกุลของน้ำบนบรรยากาศ ที่อยู่ใต้กรีนเฮ้าส์เอฟเฟค เคลื่อนตัวตกลงมาเป็นน้ำแข็งก้อนใหญ่ จนทำให้น้ำท่วมโลกได้..........

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แล็บมะกันยิง "ซูเปอร์เลเซอร์" ร้อนเท่าใจกลางดาวดวงน้อย หวังทดลอง "นิวเคลียร์ฟิวชัน"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 มิถุนายน 2552 10:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันบนโลกเกิดขึ้นที่ห้องปฏิบัติการในสหรัฐฯ (บีบีซีนิวส์)

    สหรัฐฯ เดินเครื่อง "ซูเปอร์เลเซอร์" ยิงลำแสงได้ 192 ลำ สร้างความร้อน-ความดันได้เท่าใจกลางดาวดาวฤกษ์ สร้างความหวังในการทดลอง "นิวเคลียร์ฟิวชัน" เพื่อสร้างแหล่งพลังงาน ที่นักวิทยาศาสตร์ทุ่มเทศึกษามาเกินครึ่งศตวรรษ

    หน่วยงานการเผาไหม้เครื่องยนต์แห่งสหรัฐฯ หรือเอ็นไอเอฟ (The US National Ignition Facility : NIF) ได้ทดลองจุดการเผาไหม้จาก "ซูเปอร์เลเซอร์" ซึ่งสร้างความร้อนได้สูงพอๆ กับดวงอาทิตย์ดวงหนึ่งไปเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตามรายงานโดยเอเอฟพีระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ทั้งระดับรัฐและระดับชาติของสหรัฐฯ นับพันเข้าร่วม โดยนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่าการทดลองดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อผลิตพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันที่มีความปลอดภัย

    [​IMG]
    เอ็นไอเอฟเปิดให้เข้าชมห้องปฏิบัติการลอว์เรนซ์ลิเวอร์มอร์เมื่อวันเดินเครื่องยิงลำแสงซูเปอร์เลเซอร์ (เอพี)

    สถาบันเอ็นไอเอฟเป็นสถาบันที่มีระบบเลเซอร์ที่มีพลังงานสูงที่สุดในโลก ซึ่งระบบดังกล่าวตั้งอยู่ภายในห้องปฏิบัติการลอเรนซ์ลิเวอร์มอร์แห่งสหรัฐฯ (Lawrence Livermore National Laboratory) โดยเครื่องมือเชื่อมต่อภายในห้องทรงกลมขนาดเท่าบ้านและโฟกัสลำแสงเลเซอร์ไปยังจุดเล็กๆ ได้ถึง 192 ลำ ซึ่งทำเกิดความร้อนและความดันได้เท่ากับใจกลางดาวฤกษ์หรือดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ได้​

    อีกทั้งห้องปฏิบัติการของเอ็นไอเอฟ ยังสร้างเงื่อนไขและชักนำให้เกิดการทดลองที่ไม่เคยทำได้มาก่อนมาบนโลก อย่างปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันซึ่งเหนี่ยวนำด้วยซูเปอร์เลเซอร์ที่เกิดจากการชนกันของอะตอมไฮโดรเจน และผลิตพลังงานได้มากเกินที่ต้องการสำหรับเตรียมพร้อมใน "การจุดระเบิดเผาไหม้" กิริยา ซึ่งระหว่างสร้างปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันนั้นบีบีซีนิวส์ระบุว่า ลำเลเซอร์ทั้งหมดจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ที่มีขนาดเท่าลูกปืนกลมๆ เม็ดเล็กๆ ได้สร้างกำลังไฟฟ้ามากกว่า 50 ล้านล้านวัตต์ ซึ่งมากกว่าการใช้ในช่วงสูงสุดของสหรัฐฯ ทั้งหมดเสียอีก​

    นี่คือเป้าหมายจากการค้นหาอันยาวไกลเพื่อ "พลังงาน" ซึ่งเป็นเป้าหมายของนักวิจัยด้านนิวเคลียร์ฟิวชันมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ความสำเร็จของเอ็นไอเอฟจะเป็นการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่มีนัยสำคัญต่อประวัติศาสตร์ ที่การพิสูจน์ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันเกิดขึ้นครั้งแรก และกระบวนการที่สร้างพลังให้กับดวงดาวได้เกิดขึ้นบนโลก" เอ็ดวาร์ด มอเซ็ส (Edward Moses) ผู้อำนวยการเอ็นไอเอฟให้ความเห็น​

    ทั้งนี้ เอ็นไอเอฟก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2540 โดยองค์การความมั่นคงทางนิวเคลียร์ (National Nuclear Security Administration: NNSA) ของกระทรวงพลังงานแห่งสหรัฐฯ ขณะที่ห้องปฏิบัติการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2495 โดยเป็นสถาบัน ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประยุกต์เพื่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากเป้าหมายทางด้านพลังงานแล้ว สถาบันแห่งนี้ยังมีพันธสัญญาที่จะทำการค้นพบวิทยาศาสตร์ทางด้านดวงดาวและฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ด้วยการสร้างเงื่อนไขที่มีอยู่ในซูเปอร์โนวา หลุมดำและใจกลางดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ด้วย​

    “เพื่อเข้าใจการค้นพบเราเองในเอกภพและอะไรที่สร้างเราขึ้นมา สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งก็คือทำความเข้าใจการระเบิดของดวงดาว" บีบีซีินิวส์อ้างคำพูดของ ศ.พอล แดรค (Professor Paul Drake) จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan) ซึ่งเป้นหนึ่งในนักวิจัยไม่กี่คน ที่ได้นั่งคอยการทดลองในตึกของเอ็็นไอเอฟ และคาดหวังที่จะได้ทดสอบทฤษฎีของพวกเขาด้วยอุปกรณ์ขนาดใหญ่นี่​

    ขณะที่ ดร.อีริค สตอร์ม (Dr Erik Storm) จากห้องปฏิบัติการลอว์เรนซ์ลิเวอร์มอร์กล่าวว่า เราสามารถกำหนดตารางการเกิดซูเปอร์โนวาได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกในเอ็นไอเอฟ แทนที่จะต้องนั่งรอการเกิดสักครั้งอย่างไม่ตั้งใจในเอกภพ ขณะเดียวกันภายในห้องปฏิบัติการเรายังสามารถเปลี่ยนแปลงการทดลองในแต่ละครั้งได้ เราจึงสร้างระเบิดซูเปอร์โนวาได้อย่างซ้ำๆ​

    [​IMG]
    หนึ่งในลำแสงซูเปอร์เลเซอร์ซึ่งเอ็นไอเอฟได้เดินเครื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อจุดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันที่ให้ความร้อนพอๆ กับใจกลางดาวฤกษ์ (เอเอฟพี)

    พร้อมกันนี้ บีบีซีนิวส์ยังได้อธิบายการทำงานของซูเปอร์เลเซอร์ ซึ่งทำให้เกิดอุณหภูมิได้สูงถึง 100 ล้านองศาเซลเซียสและสร้างความดันได้มากกว่าความดันของชั้นบรรยากาศโลกอีกหลายพันล้านเท่า โดยการบังคับให้นิวเคลียสของไฮโดรเจนหลอมรวม จากนั้นพลังงานมหาศาลก็จะถูกปลดปล่อยออกมา​

    ในส่วนของการทดลองทางด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์นั้น ศ.แดรคอธิบายว่า ก้อนเชื้อเพลิงถูกออกแบบให้เป็นชั้นๆ รูปครึ่งวงกลม เพื่อเลียนแบบใจกลางของดวงดาว จากนั้นยิงลำเลเซอร์เข้าสู่ใจกลางก้อนเชื้อเพลิง แล้วทำให้เกิดคลื่นกระแทกที่พัดให้ก้อนเชื้อเพลิงแยกกระจาย ซึ่งการทดลองดังกล่าวใช้เวลาเพียงในหลายพันล้านวินาที ดังนั้นรายละเอียดของการระเบิดจะถูกจับตาด้วยเซนเซอร์ที่เหมาะสม​

    ส่วนนักวิทยาศาสตร์ทางด้านดวงดาวก็ตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมกับเอ็นไอเอฟเช่นกัน โดยปรารถนาที่จะใช้เครื่องมือไฮเทคทดสอบทฤษฎีของพวกเขา โดย ศ.เดวิด สตีเฟนสัน (Prof. David Stevenson) จากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology) กล่าวว่า ดาวพฤหัสบดีมีบทบาทสำคัญต่อระบบสุริยะ เนื่องจากแรงดึงดูดของดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ทำให้เกิดเมฆฝุ่นและเศษซากอวกาศกลุ่มใหญ่ในอวกาศใกล้ๆ กับเรา และก่อเกิดเป็นดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ รวมทั้งโลกของเรา​

    อีกทั้ง มีการค้นพบดาวเคราะห์ก๊าซขนาดยักษ์กว่า 300 ดวง ทั้งที่มีมวลใกล้เคียงและมากกว่าดาวพฤหัส โคจรอยู่รอบดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างไกล ซึ่งการเข้าใจว่าดาวก๊าซยักษ์เหล่านี้ก่อตัวขึ้นอย่างไรและเมื่อไหร่ ช่วยฉายภาพวิวัฒนาการระบบดาวเคราะห์อื่นๆ ได้ แต่การจะเข้าใจเช่นนั้นได้นักวิทยาศาสตร์ต้องช่วยเอ็นไอเอฟทำความเข้าใจเกี่ยวกับอุณหภูมิสุดขั้วและวามดันที่ใจกลางดาวกลาง รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสสารในสภาวะดังกล่าว​

    [​IMG]
    ภาพจำลองก้อนเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ฟิวชัน (บีบีซีนิวส์)

    กลไกการจุดระเบิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน

    - เติมเชื้อเพลิงปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันในแคปซูลทรงกลมขนาดเท่าเม็ดถั่ว ซึ่งประกอบด้วยส่วนผสมของดิวเทอเรียมและตริเทียม 150 ไมโครกรัม​

    - เลเซอร์ถูกกำหนดให้ยิงคลื่นสั้นที่มีความเร็ว 1 ใน 2 หมื่นล้านส่วนของวินาที ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้เกิดกำลังไฟฟ้าสูงถึง 50 ล้านล้านวัตต์ หรือเทียบเท่ากับพลังงานที่ทำให้หลอดไป 100 วัตต์จำนวน 50 ล้านล้านดวงสว่างพร้อมกัน​

    - กำลังเลเซอร์ทั้งหมดจะโฟกัสไปที่ผิวของแคปซูล โดยที่เชื้อเพลิงภายในจะถูกอัดแน่นให้มีความหนาแน่นมากกว่าตะกั่ว 100 เท่า​

    - แคปซูลจะถูกให้ความร้อนด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่า 100 ล้านองศาเซลเซียส ซึ่งภายใต้เงื่อนไขที่สุดขั้วขนาดนี้ จะทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันขึ้น.​

    ที่มา http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000061221
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2009
  4. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    ชอบไอเดียนี้จัง ^-^
     
  5. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390

    ทำสำเร็จแล้วหรอ เง้อ น่ากลัวดีวุ้ย
     
  6. k_karn

    k_karn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +149
    ภาคตะวันออกมีฝนตกหนักระวังน้ำท่วมฉับพลัน/ใต้ทะเลคลื่นสูง2-3เมตร <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" valign="baseline" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="baseline" align="left">4 มิถุนายน 2552 06:17 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2552 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง

    ทำให้บริเวณทางด้านตะวันตกของประเทศ และภาคตะวันออก หรือด้านรับลมมรสุม มีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งอาจมีน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัด ระนอง และชุมพร ส่วนคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 4-6 มิ.ย.นี้
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกิดแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย

    [​IMG]

    จาการ์ตา 4 มิ.ย.- ศูนย์ศึกษาแผ่นดินไหวของสหรัฐ รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 5.1 ริกเตอร์ ที่เกาะฟลอเรส อินโดนีเซีย เมื่อเวลา 02.16 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 01.16 น.ตามเวลาในไทย ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองเอนเดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 65 กิโลเมตร และอยู่ที่ความลึกจากพื้นดิน 15 กิโลเมตร

    อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ หมู่เกาะของประเทศอินโดนีเซียตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า “วงแหวนแห่งไฟ” ซึ่งเป็นการมาบรรจบกันของเปลือกทวีป จึงมักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดอยู่เป็นประจำ.- สำนักข่าวไทย

    2009-06-04 07:49:52

    เผยเครื่องบินแอร์ฟรานซ์อาจแตกกลางอากาศก่อนดิ่งลงสู่ทะเล

    [​IMG]

    เฟอร์นันโด เดอ โนโรนญา 4 มิ.ย.-ทีมค้นหาได้พบชิ้นส่วนของเครื่องบินโดยสารแอร์ฟรานซ์ กระจัดกระจายเป็นรัศมีกว่า 90 กิโลเมตรในมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้เชื่อว่าอาจมีความเป็นไปได้ว่าเครื่องบินมรณะลำนี้อาจแตกกลางอากาศก่อนร่วงลงสู่ทะเล

    ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอย่างรุนแรงของบรรยากาศหรือความดันของอากาศที่ลดลง อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก ขณะเดินทางจากนครริโอเดอจาเนโรในบราซิลไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 228 ชีวิต

    เรือลำแรกของกองทัพเรือบราซิลกำลังเข้าใกล้จุดที่เครื่องบินตก เพื่อเริ่มการเก็บกู้ซากเครื่องบิน เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสยอมรับว่า อาจไม่สามารถล่วงรู้สาเหตุที่แท้จริงของเครื่องบินตกได้ เนื่องจากกล่องบันทึกการบิน (กล่องดำ) อาจสูญหายอยู่ที่ก้นมหาสมุทร

    นายเคิร์ค โคนิก นักบินเครื่องบินพาณิชย์และประธานบริษัท Expert Aviation Consulting ในรัฐอินดีแอนา สหรัฐ กล่าวว่า ถ้าสาเหตุเกิดจากความดันอากาศลดลง ปัญหาก็จะต้องอยู่ที่โครงอากาศยาน เพราะการที่เครื่องบินจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ และกระจายเป็นวงกว้างได้นั้น สภาพอากาศจะต้องเลวร้ายอย่างมาก อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าจากสายการบินแอร์ฟรานซ์ ว่า ก่อนหน้าเครื่องบินตกได้ 4 วัน ได้รับโทรศัพท์ลึกลับขู่วางระเบิดบนเครื่องบินที่จะเดินทางออกจากกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม แต่การตรวจค้นก็ไม่พบระเบิดตามคำขู่

    ทางด้านเครื่องบินตรวจการณ์ รายงานว่า ไม่พบสัญญาณผู้รอดชีวิต ส่วนการพบศพอาจเป็นสิ่งที่ยากมาก เนื่องจากบริเวณจุดตกเต็มไปด้วยฉลาม และหากศพจมอยู่ใต้น้ำก็คงใช้เวลาอีกนานหลายวันจึงจะลอยบนผิวน้ำ อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสได้ส่งเรือดำน้ำขนาดเล็กที่สามารถดำลงไปสำรวจได้ลึกถึง 6,000 เมตร เพื่อพยายามหากล่องดำ ทั้งนี้กล่องดำได้รับการออกแบบให้สามารถส่งสัญญาณระบุตำแหน่งกลับมาที่ศูนย์ควบคุมภายใน 30 วัน แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่ากล่องดำจะไม่เสียหายจากการตกกระแทกในทะเล

    เจ้าหน้าที่ค้นหา กล่าวว่า นอกจากพบคราบน้ำมันลอยเป็นทางยาวในทะเล ยังพบชิ้นส่วนอีกหลายชิ้นกระจายอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร หนึ่งในนั้นเป็นวัตถุทำจากโลหะขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 เมตร.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-04 08:07:33

    ญาติเหยื่อแอร์ฟรานซ์ประกอบพิธีไว้อาลัย

    [​IMG]

    ฝรั่งเศส 4 มิ.ย. - ครอบครัวและญาติมิตรของผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบินมรณะของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ร่วมประกอบพิธีไว้อาลัยที่โบสถ์ในกรุงปารีส

    พิธีไว้อาลัยให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิตชาวฝรั่งเศส จัดขึ้นที่วิหารนอตเตอร์ดามในกรุงปารีส โดยมีญาติมิตรและสมาชิกในครอยครัวเหยื่อผู้สียชีวิต รวมถึงเจ้าหน้าที่สายการบินแอร์ฟรานซ์เดินทางมาร่วมในพิธี ขณะที่ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ผู้นำฝรั่งเศส และนางคาร์ลา บรูนี ภริยา จะเดินทางมาร่วมประกอบพิธีไว้อาลัยด้วย ส่วนที่โบสถ์ในเมืองลีโมก ก็มีการจัดพิธีไว้อาลัยให้กับเหยื่อของเครื่องบินตก 10 คน ที่เป็นพนักงานขายของบริษัท CGE ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส เนื่องจากที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทอยู่ในเมืองแห่งนี้

    ทั้งนี้ หากผู้โดยสารและลูกเรือ 228 คนเสียชีวิตทั้งหมดจากเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ จะถือเป็นเหตุเครื่องบินตกครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ 70 ปีของแอร์ฟรานซ์ และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544 . -สำนักข่าวไทย

    2009-06-04 02:05:29

    ยอดผู้เสียชีวิตจากหวัดใหญ่ 2009 ในเม็กซิโก เพิ่มเป็น 103 คน

    [​IMG]

    เม็กซิโกซิตี้ 3 มิ.ย. - เม็กซิโกพบผู้ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 6 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเพิ่มเป็น 103 คน

    กระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโก เปิดเผยข้อมูลล่าสุดเมื่อวานนี้ ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ทั่วประเทศ อยู่ที่ 5,563 คน ในจำนวนนี้รวมทั้งผู้เสียชีวิตแล้ว ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยรวมเริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่มียอดผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเพิ่มขึ้นเนื่องจาก นักวิทยาศาสตร์ทยอยทดสอบตัวอย่างจากคนไข้ที่ยังคั่งค้างอยู่

    ส่วนฮอนดูรัส พบผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มจาก 2 คน เป็น 34 คน หลังเพิ่งได้รับผลการตรวจเมื่อวานนี้ นายคาร์ลอส อากีลาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขฮอนดูรัส กล่าวว่า คนไข้มีอายุระหว่าง 15-35 ปี ส่วนใหญ่หายป่วยแล้ว. -สำนักข่าวไทย

    2009-06-03 11:51:08

    ยุงภัยร้ายของเต่ายักษ์กาลาปากอส

    [​IMG]

    ลอนดอน 3 มิ.ย.- นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ยุงกำลังเป็นภัยร้ายของเต่ายักษ์ที่หมู่เกาะกาลาปากอส โดยระบุว่า มนุษย์ที่นิยมไปท่องเที่ยวหมู่เกาะดังกล่าว เป็นผู้นำสัตว์นำโรคชนิดนี้

    วารสารโพรซีดดิ้งส์ออฟเดอะเนชั่นแนลอคาเดมีออฟไซเอินซ์ ลงพิมพ์ผลการศึกษาของอาร์โนด์ บาเทล นักวิจัยมหาวิทยาลัยลีดส์ ในอังกฤษ ว่า ยุงอาศัยอยู่ที่หมู่เกาะกาลาปากอส ตั้งแต่ 2 แสนปีก่อน ช่วงนั้นเหยื่อของยุงคือแมวน้ำเ พราะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวบนหมู่เกาะ ต่อมา เต่าบนเกาะวิวัฒนาการจนมีขนาดใหญ่ เพราะขาดนักล่าตามธรรมชาติ ทำให้ยุงต้องปรับตัวเปลี่ยนจากดูดเลือดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไปดูดเลือดสัตว์เลื้อยคลาน นักวิจัยเป็นห่วงว่า กระแสการท่องเที่ยวทำให้มีคนเดินทางไปหมู่เกาะแห่งนี้เพิ่มขึ้นพร้อมกับนำยุงที่นำโรคร้าย เช่น มาลาเรีย ไข้เวสต์ไนล์ ไปแพร่ยังสัตว์เลื้อยคลานท้องถิ่นซึ่งเป็นสัตว์หายากและไม่มีภูมิคุ้มกันโรคต่างถิ่น

    ด้านรัฐบาลเอกวาดอร์ หาทางลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ด้วยการกำหนดให้เครื่องบินทุกลำที่เดินทางไปยังหมู่เกาะกาลาปากอส ต้องฉีดพ่นยาฆ่าแมลง แต่ยังไม่มีการบังคับใช้มาตรการนี้กับเรือที่เดินทางไปท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-03 11:52:44

    ราคาน้ำมันดิบพุ่งเฉียด 70 ดอลลาร์สหรัฐ

    [​IMG]

    นิวยอร์ก 3 มิ.ย.- ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีตพุ่งเฉียด 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวาน แต่หลังจากนั้นราคาก็ร่วงลงเล็กน้อย หลังมีรายงานว่าบางประเทศที่เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก แอบผลิตน้ำมันเกินโควตา

    โดยระหว่างการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวาน ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีต งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม พุ่งแตะ 69.05 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะร่วงลงมาปิดที่ 68.55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นราคาที่ลดลงจากวันก่อนหน้าเพียง 3 เซนต์

    ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ ตลาดลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 68.17 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
    นักวิเคราะห์มองว่า ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีตลดลงเล็กน้อยเมื่อวาน เป็นเพราะมีการเทขายทำกำไรในบางส่วน รวมถึงรายงานข่าวที่ว่ากลุ่มโอเปกมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน สะท้อนให้เห็นว่าน่าจะมีสมาชิกโอเปกบางประเทศแอบผลิตน้ำมันเกินโควตาที่กำหนดไว้

    ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญของโลก และความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะหลุดพ้นจากความเลวร้ายที่สุดมาได้แล้ว แต่นักวิเคราะห์มองว่าราคาน้ำมันในขณะนี้พุ่งขึ้นอย่างไม่สมเหตุสมผล เพราะไม่ได้อ้างอิงมาจากความต้องการใช้พลังงานที่แท้จริง. -สำนักข่าวไทย

    2009-06-03 07:44:59

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ผมก็เหมือนรู้สึกนะครับ
     
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    พบปลาประหลาดสีเงินมีหงอนตัวแบนยาวคล้ายพญานาค ผวาตำนานอาจเกิดแผ่นดินไหวใหญ่
        • [​IMG] 3 มิ.ย. 52 23.03 น.
        • [​IMG] อ่าน<SCRIPT src="http://app.sanook.com/weblog/counter/js/?site_id=71&weblog_id=21&entry_id=769631" type=text/javascript></SCRIPT> 58,482 ครั้ง
      • เลือกขนาดตัวอักษร : [​IMG] [​IMG]
    • [​IMG]สนับสนุนเนื้อหา
    <!-- ตะลึง เรือประมงไต้หวันพบปลาประหลาด"มีหงอน"ตัวแบนยาว5เมตร เชื่อมโยงพญานาคของไทย ไต้ก๋งเชื่อเป็น "ปลาราชามังกร" ตามตำนาน
    -->[​IMG]
    ภาพตัวอย่างจากอินเตอร์เน็ต
    ตะลึง เรือประมงไต้หวันพบปลาประหลาด"มีหงอน"ตัวแบนยาว5เมตร เชื่อมโยงพญานาคของไทย ไต้ก๋งเชื่อเป็น "ปลาราชามังกร" ตามตำนาน เจ้าของแผงปลาไม่ยอมแล่ขายหวั่นหายนะ สุดท้ายได้2พันจากชายซื้อไปสตัฟฟ์ ธรณ์ เตือนอย่าตระหนกสึนามิ
    สำนักข่าวซีเอ็นเอของไต้หวันรายงานเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนว่า ลูกเรือประมง เซิง ฝ่าไซ้ จับปลาประหลาดได้ตัวหนึ่งในทะเลนอกชายฝั่งเขตไถตง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวัน ระหว่างการออกเรือหาปลาในน่านน้ำนอกฝั่งเมือง เฉิงกง เมื่อคืนก่อนหน้านั้น
    ทั้งนี้ นาย ถง ฉิ่น ซิ่ง ไต้ก๋งเรือลำดังกล่าว เปิดเผยว่า ลูกเรือของตนเห็นปลาประหลาดตัวนี้ เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. เพราะเกล็ดสีเงินของมันสะท้อนแสงวูบวาบกลางน้ำในยามกลางคืน เมื่อจับขึ้นเรือได้จึงพบว่าเป็นปลาหายากที่มีชื่อเรียกหลายชื่อแตกต่างกันออกไปในหลายท้องถิ่น ลูกเรือประมงชาวไต้หวันบางคนเรียกว่า ปลาอานนท์ หรือ ปลาแผ่นดินไหว เพราะเชื่อว่า เป็นปลาที่เป็นต้นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหว
    อย่างไรก็ตาม ในบางท้องถิ่นเรียก มังกรทะเล หรือ ซี เซอร์เพนท์ บางท้องถิ่นเรียก ปลาราชามังกร แต่ชื่อสามัญที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปในหมู่ชาวประมงนานาชาติ คือ คิง ออฟ เดอะ เฮอร์ริ่ง หรือ ราชาแห่งฝูงปลาเฮอร์ริ่ง
    รายงานข่าวระบุว่า ปลาประหลาดที่จับได้มีความยาวถึง 5 เมตร ลำตัวแบนยาวเป็นสีเงิน มีจุดสีฟ้า และดำประปราย มีครีบหลังสีชมพูแดง พร้อม "หงอน" ที่ลูกเรือเชิง ฝ่าไซ้ อ้างว่า เมื่อยืดออกจนสุดแล้ววัดความยาวได้ถึง 11 เมตร ทั้งนี้ นายถง ไต้ก๋งเรือประมงลำนี้ เชื่อว่า นี่คือปลาราชามังกรที่มีระบุไว้ในตำนานพื้นบ้านของไต้หวัน และเปิดเผยด้วยว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็น "ราชามังกร" ในตำนานนี้หลังทำประมงมา 30 ปี
    นายถง และลูกเรือ พยายามขอร้องให้แผงขายปลาที่ท่าเรือซินกังแล่ปลาตัวนี้เพื่อนำเนื้อจำหน่าย แต่ไม่มีเจ้าของแผงรายไหนกล้าจัดการกับปลาตัวนี้ หลายคนไม่ยอมแตะต้องตัวปลาด้วยซ้ำ เพราะเชื่อว่า ถ้าหากไปแตะต้องปลาชนิดนี้จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว หรือหายนะภัยครั้งใหญ่เหมือนที่ระบุไว้ในตำนาน ที่ถือว่า ปลาชนิดนี้คือ "ผู้นำสารจากวังมังกร" แม้ว่าชาวประมงบางคนจะเชื่อว่าปลามังกรนี้จะนำโชคดีมาให้ แต่ก็ไม่กล้าแตะต้องเช่นเดียวกัน
    เจ้าของแผงปลารายหนึ่งบอกว่า เมื่อไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าปลานี้ดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็อย่าไปแตะต้องมันเลยจะดีกว่า สุดท้ายแล้ว ชายผู้หนึ่งซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ขอซื้อปลาตัวนี้จากนายถงด้วยราคา 2,000 เหรียญไต้หวัน (ราว 2,000 บาท) โดยบอกว่า จะนำไปสตัฟฟ์เก็บไว้โชว์ที่บ้านพัก
    ทางด้าน นาย โฮ หยวน ซิ่น นักวิจัยจากศูนย์วิจัยชีววิทยาทางทะเลตะวันออกของไต้หวัน เปิดเผยว่า ปลาชนิดนี้เป็นปลาทะเลน้ำลึก มักอาศัยอยู่ในเขตทะเลน้ำอุ่นที่ความลึกระหว่าง 50-250 เมตร จึงพบเห็นได้ยากมาก แต่มีผู้พบเห็นกันเป็นระยะๆ ในหลายพื้นที่ ตั้งแต่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของออสเตรเลีย เรื่อยไปจนถึงทะเลนอกชายฝั่งเม็กซิโก และแถบหมู่เกาะเบอร์มิวดา ส่วนใหญ่มักถูกคลื่นซัดออกมาเกยหาด หรือไม่ก็เกิดอาการผิดปกติขึ้นกับปลา เช่น ป่วย หรือใกล้ตาย น้อยครั้งที่จะมีการพบเห็นขณะมีชีวิตอยู่
    ปลาประหลาดชนิดนี้เคยถูกทหารเรืออเมริกันจับได้ในลำน้ำโขง เมื่อวันที่ 28 กันยายนปี 2539 มีการถ่ายภาพตีพิมพ์เผยแพร่อ้างว่ามีความยาวถึง 10 เมตร ทั้งนี้ เชื่อว่า ปลาตัวดังกล่าวพลัดหลงเข้ามาในเขตน้ำจืดและกำลังจะเสียชีวิต เพราะมีรายงานว่า ทหารอเมริกันส่งปลาดังกล่าวกลับสหรัฐอเมริกาแต่ไม่รอดชีวิต เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปมีการพูดถึงปลาประหลาดตัวนี้ว่า เป็น พญานาค และนำไปเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคในบริเวณลำน้ำโขงในเขต จ.หนองคาย และอ้างกันว่า "นางพญานาค" ที่จับได้นั้นผิวหนังเป็นเลื่อมประกาย 7 สี และมีเลือดเป็นสีเขียวอ่อน
    อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบใน เอ็นไซโคลพิเดีย บริเทนนิกา ระบุว่า ปลาชนิดนี้เรียกชื่อสามัญว่า "คิง ออฟ เดอะ เฮอร์ริ่ง" หรือ "ออร์ ฟิช" (ปลาใบพาย เข้าใจว่ามาจากลักษณะของลำตัวแบนแคบและลักษณะการว่ายสะบัดพลิ้วเหมือนริบบิ้นของมัน) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "รีกัลเลคุส เกลสเน" อยู่ในวงศ์ "รีกัลซิเด" อาจโตได้สูงสุดยาวถึง 9 เมตร และหนัก 300 กิโลกรัม แต่ก็มีบันทึกไว้ใน กินเนสส์ บุ๊ก ออฟ เวิร์ลด์ เรคคอร์ด ด้วยว่า ปลาชนิดนี้เป็นปลาชนิดที่มีกระดูกสันหลังที่ยาวที่สุดในโลก โดยอาจยาวได้ถึง 11 เมตร ในขณะที่รายงานไม่ยืนยันอีกบางกระแสระบุว่าอาจยาวถึง 15 เมตร หรือกว่านั้น โดยทั่วไปแล้วออร์ฟิชกินแพลงตอนเป็นอาหาร ไม่เป็นอันตรายและไม่ทำร้ายมนุษย์ แม้จะมีรายงานไม่ยืนยันจากนักวิจัยในนิวซีแลนด์ที่ระบุว่าถ้าหากแตะไปที่ตัวของมันขณะยังมีชีวิตออร์ฟิชจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาช็อตได้
    ด้าน นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า หากเป็นปลาชนิดเดียวกับที่เคยรู้จัก เข้าใจว่า เป็น ปลามังกรทะเลลึก หรือ Dragons of The Deep ปลาชนิดนี้เป็นปลาน้ำลึกอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึก และเป็นปลาชนิดเดียวกับที่ทหารอเมริกันช่วยกันอุ้มตั้งแต่หัวถึงหางไปถ่ายรูปยืนยิ้มเรียงหน้ากัน และมักจะมีคนอ้างว่ารูปดังกล่าวคือ พญานาค และจับได้จากแม่น้ำโขง ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วไม่ใช่ แต่เป็นปลาที่จับได้แถวอเมริกาใต้ ในมหาสมุทรแปซิฟิก
    "หากเรื่องการเจอปลาพญานาคเป็นเรื่องเดียวกับที่มีการพูดว่า จะเกิดคลื่นสึนามิขึ้นที่อ่าวไทยในช่วง 3-4 เดือนที่จะถึงนี้ ก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน แต่ว่ากันตามภูมิประเทศแล้ว หากเกิดแผ่นดินไหวมีศูนย์กลางอยู่แถวหมู่เกาะสุมาตรา กว่าคลื่นจะมาถึง จ.สงขลา ก็ใช้เวลา 14 ชั่วโมง ขณะที่ไปถึงพัทยาใช้เวลา 20 ชั่วโมง และมีการคำนวณว่า หากไหวด้วยความแรง 9 ริคเตอร์ ความสูงของคลื่นที่พัทยาจะสูงเพียงครึ่งเมตรเท่านั้น แต่ถึงอย่างไร หากจะหาทางป้องกันเหตุความเสียหายจากคลื่นสึนามิที่จะเกิดในอ่าวไทยก็ทำได้ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาล หรือต้องตื่นตระหนกจนเกินกว่าเหตุ" นายธรณ์กล่าว


    <!-- Gallery --><!--?php include("../object/image-gallery.html"); ?-->
     
  10. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เกษม [​IMG]
    อ้างอิงเรื่องลูกเห็บยักษ์ขนาด 50 กิโลกรัม


    จ่าหัว ซะ นึกถึง ถุงปูน ถุงละ 50 กิโลกรัมพอดีเลยอะ ตกใส่ หลังคาบ้าน

    โห . . . . ต้องปรับ หลังคาบ้านให้แบบแข็งแรงซะแล้ว
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    นิมิตเรื่องน้ำท่วมกรุงเทพฯ และเรื่องทำไมอาจารย์ไก่ต้องเปลี่ยนชื่อ

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->รักไร้พ่าย<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2140975", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เรื่องราวของคนมีญาณได้แวะเวียนมาให้ผมต้องได้รับรู้อีกแล้ว บางทีผมเองก็อยากจะหยุดรับรู้เรื่องแบบนี้สักพัก แต่ก็มีเหตุให้ได้พบได้เจอจนได้ เหมือนถกจงใจให้มารับรู้ เมื่อรู้แล้วเก็บไว้คนเดียว ก็เสียดาย จึงต้องนำมาเล่า มาแชร์ประสบการณ์กันให้ฟัง

    ผมได้มีโอกาสเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ผู้มีญาณทิพย์ มีสัมผัสที่หก ที่สามารถล่วงรู้อดีตชาติ เห็นวิญญาณในต่างภพภูมิได้เห็นกรรมของคนอื่น และสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้และเห็นภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ เด็กหนุ่มคนนี้ มีชื่อเล่นว่าน้อง "แบงค์"

    เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อไม่นานมานี้เอง ผมได้เข้าไปดูเวบเกี่ยวกับญาณได้พบคนในเว็บได้มาเล่าเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นกับเขา เพราะได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้มีญาณทิพย์ กำลังช่วยเหลือผู้ที่มีทุกข์จากวิบากกรรมให้กับคนในเว็บ โดยดูให้ทางอีเมล์ เขาชื่อว่า แบงค์ อายุประมาณ 22 ปี

    เมื่อผมได้อ่านการตอบปัญหาของแบงค์ให้กับผู้คน ก็คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลย ผมจึงหาทางติดต่อกับแบงค์ ในที่สุดก็ได้เบอร์มือถือมา

    ผมจึงติดสินใจโทรไปหาแบงค์ทันที ในช่วงกลางวันและได้พูดคุยเรื่องราว ความเป็นมาเป็นไปของแบงค์และผมรุ้สึกว่า ผม กับแบงค์ พูดคัยกันถูกคอมากเป็นพิเศษ เพราะได้คุยกันนานมาก แต่ผมมารู้ทีหลังว่า แบงค์ กับ ผม นับถือองค์พระพิฆเษณศเป็นบรมครูเหมือนกัน

    เมื่อสอบถามเรื่องราวต่างๆของแบงค์ที่ได้ญาณทิพย์ตลอดจนถึงการช่วยดูกรรมให้คนอื่นนั้น ผมคิดว่าเรื่องของแบงค์จะมีส่วนคล้ายกับ "ซัน" มากเลย

    ผมขอสรุปเรื่องราว ความเป็นมาเป็นไปของแบงค์ คร่าวๆ ดังนี้แบงค์ได้เริ่มมีญาณ หรือมีสัมผัสพิเศษตั้งแต่เขายังเด็กคือเริ่มเห็นวิญญาณครั้งแรก โดยเริ่มเห็นวิญยาณในบ้านของเขาเป็นเจ้าที่ผู้หญิงใส่ชุดแดง

    แต่ด้วยที่แบงค์ยังเด็ก จึงยังไม่รู้ว่า นั่นคือการเห็นวิญญาณจากนั้นก็เห็นวิญยาณเรื่อยๆมา ตามท้องถนน หรือสถานที่ทั่วไปเมื่อแบงค์โตขึ้นมาก็เริ่มสับสนกับสิ่งที่ตัวเองเห็น และไม่รุ้ว่า สิ่งที่เขาเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น คืออะไรกันแน่เขาจึงไปหาจิตแพทย์ เพื่อหาคำตอบในเรื่องนี้แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่เขาพอใจ

    ญาณที่เขาเห็นนั้น ไม่ได้เกิดจากการฝึกสมาธิ ปฎิบัติธรรมแต่เกิดขึ้นเองอัตโนมัติ เมื่อเขาได้พูดคุยสนทนาปรกติกับคนอื่น ภาพเกี่ยวกับคนๆนั้นจะเกิดขึ้นมาเองในดวงจิตของแบงค์ จนเขาเองไม่อาจทราบสาเหตุที่มาที่ไปได้

    เมื่อแบงค์บอกสิ่งที่เขาเห็นจากญาณกับคนต่างๆ ปรากฎว่าคนเหล่านั้นก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงเช่น เรื่องราวในอดีตของคนนั้น และ แบงค์สามารถรู้ได้ถึงสิ่งที่คนเหล่านั้นไม่อาจพิสูจน์ด้วยประสาทสัมผัสปรกตินั่นคือ เรื่องราวใน อดีตชาติ ของคนๆนั้น แต่คนเหล่านั้นจะรู้ได้คร่าวๆเพียงผลจากกรรมในอดีตชาติ ส่งผลมาถึงชาตินี้ให้คนนั้นได้รับวิบากรรมเป็นเช่นไร

    เมื่อแบงค์เริ่มโตเป็นวัยรุ่น และเข้าเรียนในมหาลัยศิลปากรเพราะแบงค์เป็นคนชอบ วาดรูป ชอบศิลปะมาก วันหนึ่งแบงค์ได้มาอธิษฐานต่อองค์รูปปั้นพระพิฆเณศที่ตั้งอยู่บริเวณมหาลัย ตอนนั้นเขาก็ขอแบบไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แบงค์ขอกับองค์ท่านว่า ขอให้เขาได้มีญาณสัมผัสที่มีอยู่ให้ชัดเจนขึ้น และหากพระพิฆเณศได้ช่วยเขาในเรื่องนี้แล้วก็ขอให้เขาได้รับรู้ ในทางใดทางหนึ่ง

    หลังจากนั้น สิ่งที่เขาขอนั้นก็ได้ปรากฎให้เขาได้รับรู้ วันหนึ่งขณะที่แบงค์กำลังนอนดูทีวีที่บ้าน แบงค์รู้สึกว่าเขาขยับตัวไม่ได้ เหมือนโดนผีอำ เขานอนตะแครง และแบงค์พยายามดิ้นให้หลุด แต่ก็ไร้ผล พยายามสวดมนต์เพื่อหวังจะไล่ผี แต่แบงค์ได้สัมผัสถึงพลังที่มากระทบจิตเขานั้นไม่ใช่พลังที่น่ากลัวของวิญญาณร้าย แตกลับเป็นพลังแห่งความเมตตาเหลือประมาณ

    และเสียงหนึ่งดังก้องจนแบงค์ได้ยินชัดเจน เป็นเสียงของชายเผู้มีอำนาจมหาศาลแต่เปี่ยมด้วยเมตตาอย่างล้นประมาณเสียงนั้นได้ดังขึ้นว่า

    " สิ่งที่เธอขอ เราได้มอบให้เธอแล้ว !! "

    จากนั้น เสียงนั้นก็ได้หายไป แบงค์จึงรู้ทันที่ว่า สิ่งที่เขาอธิษฐานได้รับการขานตอบแล้วจากองค์ท่าน จากนั้นแบงค์จึงได้นับถือองค์ท่านเรื่อยมา

    เมื่อแบงค์รู้ว่าญาณของเขาแก่กล้าขึ้นมาก จึงได้ช่วยเหลือผู้คนที่มีทุกข์จากวิบากกรรม ที่หาสาเหตุไม่พบ หรือคนประสบความเดือดร้อนที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรคนนั้นตาม เล่นงานคนที่มาตรวจกรรมกับแบงค์มีหลากหลาย บางคนก็อยู่เมืองนอกโทรมาก็มี เช่น มีคนหนึ่งโทรมาหาแบงค์จากเมืองนอก แบงค์เห็นภาพในนิมิต ว่าเธอเป็นมะเร็งมดลูก แบงค์จึงทักไป แล้วเธอก็ตกใจที่แบงค์รู้ได้ไง

    แต่มีสิงหนึ่งที่แบงค์มักทำเสมอ ขณะที่ตรวจกรรมให้กับผู้คน นั่นคือแบงค์จะวาดภาพที่เห็นในนิมิตดวงจิตของคนๆนั้นลงในกระดาษเพราะแบงค์เป็นคนชอบวาดรูป จึงมักวาดรูปกรรม ประกอบการอธิบายด้วย นี่จึงเป็นสาเหตุที่เรียกว่า แบงค์ สเกทช์กรรม ( Sketch )(จริงๆคำนี้ผมตั้งขึ้นเองครับ เลียนแบบ สแกนกรรม )

    แต่เวลาในการช่วยเหลือคนของแบงค์นั้นมีไม่เต็มที่มากนัก เพราะหลังจากแบงค์เรียนจบมหาลัย ก็ต้องมาทำงานหาเลี้ยงตัวเอง โดยเป็นอาจารย์สอนภาษา ซึ่งเป็นสิ่งที่แบงค์รักมาก จนเวลาในการช่วยเหลือคนลดน้อยลงไป และอีกอย่างหนึ่งแบงค์เป็นคนที่รับความกดดันจากสังคมไม่ค่อยได้ เพราะการมาพูดเรื่องกรรมนี้อาจถูกโจมตีจากสังคมด้วย จึงได้แต่ดูกรรมให้กับผู้คนที่บอกกันปากต่อปากมากกว่า และจะดูแค่วันศุกร์วันดียว เพราะเป็นวันหุดงานของเขา นี่คือเรื่องราวย่อๆของแบงค์ครับ

    หลังจากที่ผมได้คุยกับแบงค์วันนั้น ก็ติดต่อพูดคุยกันมาเรื่อยๆ ผมจึงให้แบงค์ช่วยตรวจกรรมให้ผมผ่านมือถือ แบงค์ทักผมว่า ผมมีองค์พระพิฆเณศคุ้มครองอยู่เหมือแบงค์เลย และผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นผู้หญิงที่คอยรบกวนเรื่องครอบครัวและเรื่องควมรักของผม แต่แบงค์บอกว่าเจ้ากรรมนายเวรนั้นเหมือนจะเริ่มอโหสิกรรมให้ผมแล้วเพราะผมได้ทำบุญให้เธอแล้ว

    ผมก็บอกแบงค์ว่า ก่อนหน้านี้ผมได้ไปตรวจกรรมกับคุณหม่อมซึ่งได้ทักเหมือนกันว่า ผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นูผู้หญิงที่ผมเคยทำร้ายจิตใจในอดีตชาติและคุณหม่อมแนะนำให้ผมทำบุญแล้วขออโหสิกรรมให้ ซึงผมก็ทำตามนั้น แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเธออโหสิกรรมให้ผมหรือยัง จนมาได้รับคำตอบจากแบงค์นี่แหละ

    แบงค์ได้คุยกับผมหลายเรื่องมากที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องของภัยพิบัติ แบงค์บอกว่าภัยพิบัติที่เคยเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สึนามิ พายุนากิสที่ถล่มพม่า แผ่นดินไหวที่มีคนตายที่จีน แบงค์บอกว่าเขาได้เห็นภาพนั้นในนิมิตความฝัน ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น ซึ่งจะเห็นติดๆกันหลายวันก่อนเหตุการณ์ นั้นจะเกิดขึ้นไม่นาน และเป็นภาพทีชัดเจนมาก รามถึงเห็นเหตุการณ์ผับซานติก้าด้วย แต่แบงค์เห็นเป็นภาพ แต่ไม่รู้ชื่อว่า ผับนั้นชื่ออะไร

    แบงค์ก็ได้ทำนายถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย เพราะแบงค์จะพูดตามภาพที่เห็นในนิมิต แบงค์ทำนายให้ผมฟังหลายเรื่องมาก เช่น อีกไม่นาน กรุงเทพฯ จะพบภัยพิบัติครั้งใหญ่ คือจะต้องจมอยู่ใต้น้ำ ธุรกิจการค้า ธนาคาร ประกันภัย ปิดตัวไปหมด คนที่ทำเกี่ยวกับที่ดิน บ้านจัดสรร แทบไม่เหลือเลย

    และแบงค์ยังทำนายเรื่องสำคัญที่จะเกิดไว้อีก ซึ่งผมไม่อาจนำมาเผยแพร่ที่นี่ได้ เพราะเป็นเรื่องสะเทือนใจมาก

    ผมได้ขออนุญาติเรื่องราวของแบงค์มาเผยแพร่ ตอนแรกเขาก็หวั่นๆเหมือนกัน แต่เห็นว่าผมต้องการเผยแพร่เป็น การให้ความรู้ แบงค์จึงยินยอมครับ

    นี่คือเรื่องราวของแบงค์คนมีญาณ ขอให้คนที่อ่านให้วิจารญาณด้วยนะครับ
    เพราะเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น

    29-05-2009, 11:10 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->k_karn<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2142783", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เรื่องภัยพิบัติ คนที่รู้พูดไม่ได้เต็มปาก เพราะเป็นวาระที่ต้องเอาคนมีกรรมหนักไปลงโทษเหมือนมีบ่อนไพ่เถื่อน คุณเห็นตำรวจมา ถ้าตะโกนเตือนคนในบ่อนก็หนีหมด แล้วก็เล่นอีก เป็นหนี้ก็ไปกู้ยืมเขา ก่อกรรมทำเข็ญต่อไป ตอนนี้ก็ต้องปล่อยให้ตำรวจจับบ่อนไป

    ถึงบอกว่า ให้รักษาศีล มันเป็น keyword
    ดิฉันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รู้ว่าลางบอกเหตุคืออะไร ให้ไปที่ไหนเมื่อลางเกิด แต่บอกใครไม่ได้ บอกได้แต่ให้รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ และสวดมนต์ภาวนาสร้างบารมี เมื่อมีตรงนี้คุณจะได้ไม่ไปเล่นไพ่ ไม่ไปใกล้บ่อนไพ่ เวลาตำรวจมาจับจะได้ไม่เจอลูกหลงไง เข้าใจไหมคะ

    เรื่องสะเทือนใจ... เมื่อมีคนตายก็มีเรื่องสะเทือนใจ ยิ่งคนที่มีคนรักเยอะๆตาย ก็สะเทือนใจมาก ขนาดนักร้องตายที่วัดยังมีน้ำตาเป็นโอ่งๆ แต่มีใครไหมที่ไม่ตาย...ถ้าคนตายมากก็สะเทือนใจมาก...ต้องอุเบกขา ตัวเราก็ให้ทำดี รักใครก็บอกกัน ทำสิ่งดีๆให้กันวันนี้...เขามีกรรมของเขา เรามีกรรมของเรา เราอาจตายก่อนเขาก็ได้ไม่ต้องตีตนไปก่อนไข้

    เอ้า เอาบทสวดมนต์ไปใช้ดีกว่าถ้าไม่เชื่อก็ไม่ต้องสวดนะคะ

    บทระลึกถึงคุณสมเด็จพระพุทธองค์ศรีอริยเมตไตรย

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ )
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทะทะทะ โรโรโร อะอะอะ สะสะสะ โสโสโส โนโนโน นะโมพุทธายะ
    อิกะวิติ พุทธะสังมิ อะระหังพุทโธ อะระหังธัมโม อะระหังสังโฆ
    พุทโธอะระหัง ธัมโมอะระหัง สังโฆอะระหัง อะทิกะอะ ทะอะกะอิ ติฆะอะฆะ วันทามิ อาจาริโย จะมะหาเถโร เทวะปูชิโต โอมมะณีมาณี
    ปัตเตฮุงหิริ โอมวัชระศัตระโฮม ( ๙ จบ )

    (กราบแบบ นิ้วโป้งข้างซ้าย แตะ นิ้วนางข้างขวา แล้วกราบแบบคนจีน คำนับลงกับพื้น ๑๐๙ ครั้ง )

    กระทู้สัมมนาภัยพิบัติ ๒ (ไฟล์เสียง)
    http://palungjit.org/threads/%E0%...AF.143813/

    กระทู้ ถ้าภัยพิบัติมาถึง
    http://palungjit.org/threads/%E0%...%87.92724/

    กระทู้ สัมมนาภัยพิบัติ ๑ (ไฟล์เสียง)
    http://palungjit.org/threads/%E0%...-a.104580/

    เราไม่มีเวลาอีกแล้ว ทุกวันนี้ทุกคนอยู่ด้วยความประมาท แต่ถ้าไม่สร้างความดีเองสิ่งศักดิ์สิทธิืก็ช่วยอะไรคุณและครอบครัวไม่ได้

    เรียนเชิญทุกท่านที่บ้านรามอินทรา ซอย ๓๙ ๖-๗ มิย. นี้ ครูบาอาจารย์จะมาโปรดที่บ้าน แนะนำการสวดมนต์และปฏิบัติธรรม ส่งอีเมล์มาทางพีเอ็ม จะส่งแผนที่ไปให้นะคะจะถามอะไรถ้าตอบได้ก็จะตอบค่ะ

    กรณ์กาญจน์ (เดิมชื่อสุธาทิพ)

    ย้ำอีกครั้ง ให้ไปดูภาพยนต์สึนามิ วันโลกสังหาร (ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้สร้าง)
    ขอบคุณข้อมูลทั้งปวงและเจตนาดีจากคุณรักไร้พ่ายค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

    30-05-2009, 06:18 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Lazaza<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2143793", true); </SCRIPT> สมาชิก

    อ้าว อ.ไก่ ไหงเปลี่ยนชื่อล่ะคะ สงสัยอยู่เหมือนกัน พักหลังๆไม่เห็นอ. ที่ไหนได้ มามาดใหม่ เรื่องภัยพิบัติ ส่วนตัวเตรียมใจไว้แล้วล่ะค่ะ แต่ถามเป็นข้อมูลเฉยๆ ไม่ซีเรียสนะคะ<!-- google_ad_section_end -->

    30-05-2009, 03:20 PM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->k_karn<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2143991", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เรียนคุณ lazaza

    แต่ก่อนไม่เข้าใจธรรมะค่ะ รู้เรื่องภัยพิบัติจากเอกสารอื่นๆ ก็พูดตรงๆ ว่า ไม่อยากตาย แต่อยากช่วยเหลือคนอื่นด้วย แต่ต่อมาได้เข้าใจเรื่องการละวางอัตตาตัวตน จึงไม่เดือดร้อนกับเรื่องภัยแล้ว

    เมื่อจิตปล่อยวาง คิดว่าภัยพิบัติเป็นผลแห่งกรรมของคนหมู่มาก ก็เริ่มวางตนเป็นอุเบกขา เมื่อไม่ส่งจิตออกนอกความอยากโพสต์อยากคุย (ที่เป็นตัวเรา) ก็จางๆไป .. และจางไปมาก...

    ที่เปลี่ยนชื่อเพราะครูบาอาจารย์แนะ ถูกเจ้ากรรมนายเวรทวงเยอะ สามีไม่สบาย ตกงาน และอื่นๆ ครูบาอาจารย์บอกให้เปลี่ยนชื่อและนามสกุล ท่านว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ตอนแรกจะไม่เปลี่ยน แต่เมื่อนึกว่าขันธ์ห้ายังไม่ใช่ของเรา ชื่อก็เป็นแค่สิ่งสมมุติเช่นกัน

    วันที่รับปากว่าจะเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุล พบว่าวันรุ่งขึ้นเขาเรียกสามี สัมภาษณ์งานทันที (ดองเค็มมากว่าเดือน) สุดท้ายได้งานสมใจหลังตกงานมากว่าหกเดือน

    วันที่ไปเปลี่ยนชื่อและตั้งนามสกุลใหม่ที่อำเภอนั้นไม่ได้กลับคอนโด ไปค้างที่บ้านสวนรามอินทรา วันรุ่งขึ้นพบลูกสาวตอนเย็น รีบมากอดใหญ่ บอกว่า "หนูฝันร้าย หนูกลัว หนูฝันเมื่อคืนว่าหม่าม้าตายแล้ว" ตายจากที่เป็นสุธาทิพมังคะ แปลกจริงๆ

    ชื่อใหม่ ขันธ์เดิม ยินดีรับใช้เช่นเดิมค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

    30-05-2009, 04:49 PM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->kaninpatt<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2145143", true); </SCRIPT> สมาชิก

    แบงค์เองครับ ขอบคุณครับ พี่รักไร้พ่าย ที่นำเรื่องผมมาบอกเล่า จริงๆ สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือ การที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผมอยากได้มากที่สุดเช่นกัน เพราะหากคนรู้จักเราเยอะขึ้น เราก็สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้เยอะขึ้นเช่นกัน และคงมีคนที่เชื่อในคำเตือนของเรามากขึ้นกว่าเดิม แต่สิ่งที่เผชิญไปด้วยกันนั้นคงไม่พ้นการทดสอบ ลองของจากหลายๆคน ที่จับผิดผม...

    ผมไม่อยากเสียเวลา ไปกับการทำให้ใครเชื่อว่าสิ่งที่ผมเป็น สิ่งที่เห็นมันจริง หรือไม่อย่างไร ผมจะรอให้ทุกคนเจอกับมันด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้นจะไม่ต้องเหนื่อยอธิบายอะไรอีก เพราะไม่มีใครหนีความจริงของจักรวาลได้พ้น...

    ความตาย และโลกหลังความตายมีอยู่จริง...สักวันทุกคนก็ย่อมเจอด้วยตนเอง...อยากรู้เรื่องผมเพิ่มเติม หาในกูเกิ้ลได้ครับ คำว่า แบงค์ทาโร่ต์ หรือ BankTarot ก็จะเจอเอง

    เรื่องที่ผมลงไว้ให้อ่าน จะอยู่ในเว็บเด็กดี ค้นหาคำว่า "บ่าวรับใช้กรรม"ก็จะเจอเอง ผมลงไว้หลายที่อยู่คงหาไม่ยากครับ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงจากประสบการณ์ของผมเอง

    จริงๆ เคยลงให้อ่านในเว็บพลังจิตบ้างแล้ว เมื่อนานมาแล้วแต่ไม่ได้รับการตอบรับเท่าไหร่ อาจเพราะมีคนเก่งกว่าผมอยู่อีกเยอะ เรื่องผมคงด้อยไปเลย

    ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ และขอฝากถึงพี่รักไร้พ่าย ผมชอบคำนี้จัง แบงค์สเกทช์กรรม ขอบคุณที่ตั้งให้ผมครับ เรื่องของผมเผยแพร่เป็นวิทยานบ้างนะครับ เผื่อใครให้คำแนะนำอะไรผมได้บ้าง<!-- google_ad_section_end -->

    31-05-2009, 09:18 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->รักไร้พ่าย<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2150379", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่าน และเป็นกำลังใจให้ผมเสมอมา พูดเหมือนเป็นคนดังเลย ว่าแต่แบงค์ มาตอบเองเลย ดีครับ

    เรื่องภัยพิบัติ ได้ฟังข่าวจากการทำนายของผู้มีญาณ หรือ จากทางนาซ่า ทำให้บั่นทอนความรู้สึก ผมไม่น้อย บางทีก็ท้อกับชีวิตไปเลย เพราะผมคิด และหวังว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัว มีธุกิจที่มั่นคง แต่พอได้ข่าวจะเจอภัยพิบัติ เหมือนความฝันของผมพังทลายลง

    จะมีประโยชน์อะไรหากมีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ต้องรอวันที่จะถูกทำลายจากธรรมชาติ

    นั่นคือความคิดของผมเมื่อก่อนนี้ แต่เมื่อได้พิจารณาในความเป็นจริงของสัจธรรมมากขึ้น ผมกลับคิดว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามีนัยแฝงอยู่ เพียงแต่เรายังไม่เข้าใจ จึงตีความไปตามความรู้สึก ยึดมั่นถือมั่นของอัตตา เพราะธรรมชาติมักมอบสิ่งที่ดีให้เราเสมอ แม้ดูเหมือนว่า เป็นการทำลายก็ตาม แต่แท้จริงคือการช่วยปรับวิถีชีวิตของคนเรา ให้เดินถูกทางแห่งธรรมชาติมากขึ้น<!-- google_ad_section_end -->

    02-06-2009, 03:37 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->GenerationXXX<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2151760", true); </SCRIPT> สมาชิก

    อย่าเพิ่งท้อครับ ผมเองก็เป็นคนนึง ที่ผ่านประสบการณ์พิเศษ หรือเกี่ยวกับญาณมาพอสมควร บอกได้เลยว่า สิ่งที่ตั้งใจจะทำไว้ไม่ถึงกับสิ้นหวังนะครับ เพียงแต่อาจจะชลอไปบ้าง คือ ระบบเศรษฐกิจหยุดไปก็จริงแต่เพียง 1 ปีเท่านั้นครับ เพราะช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ผู้คนจะเข้าหากัน ช่วยเหลือกันอย่างเต็มความสามารถ รวมไปถึงกลุ่มคนที่ได้อภิญญา ซึ่งผมก็รู้จักอยู่หลายคน และไม่ใช่เฉพาะจะช่วยแค่คนในประเทศนะครับ บางคนยังมีหน้าที่ๆ จะต้องไปช่วยชาวต่างชาติที่เขามีบุญกุศลถึงทำให้รอด

    ตอนนี้ผมยังออกตัวไม่ได้มาก รอไว้ผมได้อภิญญาครบก่อน ให้ชัวร์ก่อนครับ แล้วจะมาช่วยเต็มที่ คนอย่างผมถ้าไม่เลวจนแตะไม่ได้ผมช่วยหมด ประเทศไทยเราได้รับภัยพิบัติผ่อนชำระ มาหลายครั้งแล้วครับ ภัยพิบัติหลักๆ ทางน้ำจะไม่เกิดหนักเท่าที่คาดการณ์กันไว้ จะมีเหตุตามธรรมชาติบางอย่าง ที่มาช่วยให้ไม่หนัก แต่ที่น่าหนักใจน่าจะเป็นสงครามใหญ่มากกว่า เพราะประเทศพวกนั้นต่างก็อาศัยจังหวะช่วงที่ แต่ละประเทศกำลังประสบภัยพิบัติ ก็ซ้ำเติมด้วยการประกาศทำสงครามเต็มรูปแบบ ทั้งนิวเคลียร์ ชีวะภาพ ฯลฯ ไทยเราแค่โดนปลายๆ ก็พวกรังสีและเชื้อตกค้าง

    สรุปโดยรวมประเทศไทยเราจะเสียหายหนักสุดก็ไม่เกิน 30% ซึ่งดีกว่าประเทศอื่นๆ เยอะมากๆ ภัยสงครามนี้จะเริ่มเกิดช่วงปลายปี 2555 ส่วนภัยธรรมชาติจะเกิดหลังจาก 2555 ไป 4 เดือน จุดเริ่มภัยสงครามให้สังเกตประเทศที่ทะเลาะกันคือ ประเทศแถบตะวันตก กับประเทศในโซนเอเชีย และภัยพิบัติธรรมชาติให้สังเกตฝนตก ถ้าตกติดต่อไม่หยุดเลยกันเกิน 7 วันให้รีบเก็บข้าวของได้เลย น้ำทะเลที่จะท่วมจะสูงขึ้นจากระดับปกติราวๆ 30-50 เมตร เสียหายหนักเพียงไม่กี่จังหวัด คงไม่ต้องบอกแล้วนะครับว่าที่ไหนบ้าง

    ตอนนี้ใครจะเชื่ออย่างไรก็แล้วแต่ละคนแล้วครับ แต่จะให้เก็บเงียบไม่บอกอะไรเลย บางคนที่เขามีกุศลพอมีสติพอ ที่จะปรับเปลียนวิถีชีวิตให้ถูกต้อง และรอดพ้นจากภัยพิบัติมีอยู่เยอะครับ คนที่จะตายแน่ๆ 100% คือคนที่มีความถือตัวถือตนสูง พวกนี้ตายเยอะมากๆ ถ้ารอดก็เป็นบ้าไปตลอดชีวิต คนที่จะรอดจริงๆ ถ้าวิบากกรรมเก่าไม่หนักเกินไป ก็คือรักษาศีล 5 เป็นปกติ พวกนี้ต่อให้โดนภัยพิบัติเต็มๆ ก็ต้องมีเหตุพิเศษให้โดนช่วยจนได้ อันนี้พระพุทธเจ้าท่านรับรองเอง ตั้งแต่สมัยที่พระองค์ยังทรงพระชนชีพอยู่ ผมไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าสิ่งที่ผมกล่าวไปทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ตอนนี้ผมยังไม่ได้อภิญญา ถ้าสงสัยจะตอบให้ตามความเป็นจริง คุยกันได้ ortoff@hotmail.com<!-- google_ad_section_end -->

    02-06-2009, 01:25 PM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ได้พบคนญาณทิพย์-แบงค์-สเกทช์กรรม-และทำนายภัยพิบัติ.189878/page-3
    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2009
  12. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นายกฯ เปิดงาน “Cool Earth Seminar” สัมมนาแก้ปัญหาโลกร้อน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 มิถุนายน 2552 13:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธานกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานสัมมนาโครงการ Cool Earth Seminar ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยงานดังกล่าวถือเป็นงานสัมมนาที่รัฐบาลไทยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกับประเทศญี่ปุ่น โดยมีนายเคียวจิ โคมาชิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าร่วมเป็นเกียรติในงานด้วย


    วันนี้ (4 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานสัมมนาโครงการ Cool Earth Seminar ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนายอภิสิทธิ์ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่จัดงานสัมมนาครั้งนี้ขึ้นที่กรุงเทพฯ พร้อมได้กล่าวยกย่องความพยายามของญี่ปุ่นซึ่งมีบทบาทอย่างสูงในการแก้ไขโลกร้อน ผ่านโครงการ Cool Earth Promotion Programme ซึ่งการสัมมนาในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ประเทศไทยได้เรียนรู้เกี่ยวกับโครงการและความร่วมมือต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และใช้โอกาสนี้ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กับประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้เกิดแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว


    นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อนเช่นเดียวกับญี่ปุ่น เพราะไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมและต้องพึ่งพิงกับฤดูกาล ซึ่งปัญหาโลกร้อนจะก่อให้เกิดผลที่เลวร้ายต่อสิ่งแวดล้อม การเติบโตเศรษฐกิจ และการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อที่จะสนับสนุนโลกในการต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ประเทศไทยได้ลงนามใน UNFCCC ในปี 1992 และได้เข้ามามีส่วนร่วมกับที่ประชุมของ UN ภายหลังการให้สัตยาบันในปี 1994 ในเวลาต่อมา ประเทศไทยได้เป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาเกียวโต ในปี 2002 และในเดือนตุลาคมปีนี้ ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมการหารือในประเด็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ณ กรุงเทพฯ ก่อนที่จะมีการประชุมที่เมืองโคเปนเฮเกนในเดือนธันวาคม โดยเป็นการดำเนินรอยตามความสำเร็จของการประชุมในรอบแรกเมื่อปี 2008

    รัฐบาลไทยมีแนวทางนโยบายเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ในฐานะเป็นหนึ่งในวาระสำคัญของชาติ และในฐานะประธานคนปัจจุบันของคณะกรรมการว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ได้มีการวางแนวทางยุทธศาสตร์ระดับชาติในประเด็นเกี่ยวกับ ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศสำหรับปี 2008-2012 ซึ่งจะสร้างกรอบการทำงานสำหรับการนำนโยบายไปปฏิบัติให้บรรลุผลในระดับประเทศและการมีมาตรการต่อปัญหาดังกล่าว ผ่านแรงจูงใจทาง ด้านภาษีสำหรับพลังงานทางเลือก การปลูกป่า และการใช้เทคนิคในการเกษตรกรรมที่ให้ก๊าซมีเทนต่ำ รัฐบาลยังได้ผลักดันโครงการธนาคารต้นกล้าเพื่อที่จะเพิ่มความสามารถในการดูดซับก๊าซคาร์บอนและเพิ่มศักยภาพในการดูดซับก๊าซเรือนกระจก

    นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนในระยะยาวที่จะสนับสนุนการบริโภคพลังงาน ที่มีความสะอาดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รัฐบาลกำลังผลักดันแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจแผนที่สองที่มีมูลค่า 45 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งปรับใช้ต่อแนวทางที่ไม่ใช่แค่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหรือการพัฒนาการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังเพื่อขยายความเป็นไปได้ในขอบเขตของทางเลือกของพลังงานสะอาด โดยเฉพาะในด้านการผลิตพลังงานจากพืช เช่น ปาล์มและมันสำปะหลัง


    สำหรับความพยายามของรัฐบาลไทยในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง ด้วยนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการฝนเทียมในพระราชดำริ และแนวคิดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นเครื่องป้องกันที่จำเป็นในการต่อสู้กับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ และการพัฒนาเศรษกิจและสังคม ของคนไทย โดยเฉพาะช่วงแห้งแล้งหรือเกิดอุทกภัย


    ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นอีกครั้งที่ประกาศโครงการ “Cool Earth Promotion Programme” ไว้ในปีที่แล้ว โดยกำหนดเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพภายใต้ กรอบPost-2012 เพื่อลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Post-2012 Framework on Climate Change) ซึ่งประเทศเศรษฐกิจทั้งหลายต้องร่วมมือกันเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก และในขณะเดียวกันต้องจัดหาเทคโนโลยี่ที่สนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้กับประเทศที่กำลังพัฒนาในการลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก โดยปราศจากการต่อรองด้วยขนาดการเติบโตทางเศรษฐกิจ


    ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การรวมตัวกันในวันนี้ไม่เพียงแต่เหมาะสมต่อโอกาสเวลาเท่านั้น พรุ่งนี้วันที่ 5 มิถุนายนก็เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก แต่สาระสำคัญที่จะได้จากการสัมมนาในครั้งนี้ ยังเป็นการย้ำเตือนว่า ขณะนี้โลกของเรากำลังอยู่ในจุดเชื่อมต่อที่วิกฤต นั่นคือ จากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยและจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างฉับพลัน (climate change) ซึ่งวิกฤตการณ์ทั้งสองอย่างนี้ ถูกเริ่มขึ้นโดยมนุษย์และจะหยุดได้โดยมนุษย์เท่านั้น ในขณะนี้เราไม่มีเวลาสำหรับที่จะเสียกันต่อไปอีกแล้ว เราต้องให้ความพยายามและใส่ใจในเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอีกเป็นสองเท่า หากเราต้องการที่จะประสบความสำเร็จในช่วงเวลาที่วิกฤต
     
  13. 108man

    108man เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,794
    ถึงจะเกิดก็คงห้ามไม่ได้
    แต่กำลังจะมีเมืองใหม่แห่งหนึ่ง อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ ในอีกไม่นาน
    น่าจะปลอดภัยดี และร่มเย็นดี เพราะมีป่่า
    ทำให้ประเทศไทย ยังคงอยู่ต่อไป โดยมี พระมหากษัตริย์
    เมืองนี้อาจมีชื่อที่เราได้ยินแล้วมั่นใจเพราะเราจะรู้จักดีว่ากู้ชาติได้แน่

    บอกได้เท่านี้ครับ

    สาธุ
     
  14. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    น้อยใจคนไทยไม่ดูหนัง เหตุ ทรนง หวิดฆ่าตัวตาย




    [​IMG]


    น้อยใจคนไทยไม่ดูหนัง เหตุ ทรนง หวิดฆ่าตัวตาย (สยามดารา)

    "ทรนง" เครียด หนัง "สึนามิฯ" ไม่เปรี้ยง เผยนาทีคิดสั้น ช้าอีก 3 วิ. มั่นใจไม่รอด บ่นน้อยใจคนไทยไม่สนใจหนังคุณภาพ แจงทุ่มกว่า 160 ล้านแต่ได้กลับมา 3 ล้าน มั่นใจตนเองทำหนังมีประโยชน์ ไม่สนเรื่องรายได้ เพียงอยากให้คนดูมากๆ ฟุ้งอยากสร้างพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลกปากอ่าวพระประแดง พร้อมยันไม่ได้โปรโมตหนัง เพราะโปรโมตยังไงก็ไม่มีคนดู

    ทำเอาแฟนๆ ถึงกับตกอกตกใจไปตามๆ กัน หลังจากที่เมื่อทราบข่าวว่า ทรนง ศรีเชื้อ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง "2022 สึนามิ วันโลกสังหาร" คิดสั้นยิงตัวตายลาโลก โดยสาเหตุเบื้องต้น มีอาการเครียดเนื่องจากยอดรายได้ของหนังไม่ได้ตรงตามเป้าที่ตั้งเอาไว้ อีกทั้งยังถูกโจมตีในเรื่องของผลงานทั้งเก่าทั้งใหม่ โดยถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแบบเสียๆ หายๆ ผ่านเว็บไซต์ จนเจ้าตัวเกิดความเสียใจและเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนเป็นที่มาของการคิดสั้นฆ่าตัวตายดังกล่าว เดชะบุญมีคนมาช่วยทัน และนำตัวส่งโรงพยาบาลรามคำแหงเพื่อระงับสติอารมณ์ เมื่อคืนก่อน

    ล่าสุด 3 มิถุนายน เวลา13.00 น. ผู้กำกับฯ สึนามิ "2022 สึนามิ วันโลกสังหาร" ทรนง ศรีเชื้อ ได้นัดผู้สื่อข่าวเพื่อแถลงข้อข้องใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ตัดสินใจคิดสั้น โดยนัดแถลงที่ห้องพักฟื้นเลขที่ 28 ชั้น 6 อาคาร 2 โรงพยาบาลรามคำแหง โดยผู้กำกับฯ สึนามิกล่าวถึงสาเหตุในการฆ่าตัวตาย โดยบอกว่า สาเหตุที่ตนคิดสั้น เพราะรู้สึกโมโหและน้อยใจที่คนไทยไม่สนใจดูหนังที่ตนสร้าง ซึ่งตนลงทุนและทุ่มเทกับหนังเรื่องนี้มาก พร้อมกับกล่าวว่าอยากให้คนไทยหันมาดูภาพยนต์ที่มีสาระกันบ้าง

    "ตอนนี้ผมรู้สึกละอายใจจริงๆ ที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ผมเกิดอาการจิตตก 4 ปีใช้เงินไป 160 ล้าน ทุนที่ใช้ทำหนังเรื่องนี้ แต่ได้กลับมาแค่ 3 ล้าน ผมทุ่มทุกอย่างทำหนังเพื่อคนไทย อยากทำอะไรใหม่ๆ ให้คนไทยได้ดู เมื่อ 2 ปีที่แล้วได้รอบฉายหนังสึนามิ แต่ก็ไม่ได้ฉาย ต่อมาเกิดปัญหาการเมืองก็ไม่ได้ฉายอีก ผมเสียใจมากตอนหนังได้เข้าฉาย ผมไปยืนอยู่หน้าโรง ไม่มีใครสนใจหนังผม มันมีความรู้สึกเหมือนน้ำตาตกใน ตนผิดหวังกับคนไทยที่ไม่ยอมรับในผลงานของตน ผมยอมรับครับว่าเอาปืนจ่อหัวเพื่อคิดฆ่าตัวตาย แต่เมื่อหลับตาผมเห็นพระพุทธรูปปรากฏขึ้นมาในจิตใต้สำนึก ประกอบกับหลานผมมาเคาะประตู เลยได้สติขึ้นมา หากช้ากว่านี้ซักสามวินาที ผมยืนยันว่าจะได้เจอผมในสภาพนั้นแน่นอน"

    ผู้กำกับหนังสึนามิยังกล่าวต่ออีกว่า "ไอ้ตัวเลข 160 ล้าน ที่ลงไปแล้วได้คืนมา 3 ล้าน มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม แต่ที่ผมเสียใจก็คือว่าทำไมคนไม่สนใจในสิ่งที่ผมบอกเขา เรามีปัญหาเรื่องการเมืองเศรษฐกิจเราก็ควรสนใจในเรื่องการเมืองเศรษฐกิจ เราสนใจในเรื่องภัยพิบัติเราก็ควรสนใจในเรื่องภัยพิบัติ แล้วถ้าไปดูหนังผมแล้วบอกว่าหนังผมไม่ดีเอาต้นขั้วมา ผมจะคืนเงินให้ ผมทำสตูดิโอมา ไม่ได้ตั้งใจจะมาทำหนังตลก ผมจะสร้างหนังเกี่ยวกับคนยากจนเกี่ยวกับชนชั้นเกี่ยวกับอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นปัญหาสังคม ผมอายุ 58 แล้ว ผมจะทำแต่หนังอย่างนี้อย่างเดียวถ้ามันจะล้มละลายก็นั่นไม่ใช่ปัญหาผมไม่ได้ ฆ่าตัวตายเพราะจะล้มละลาย แต่ที่ผมฆ่าตัวตายเพราะผมกำลังทำเพื่อคนทั้งหมด แต่คนทั้งหมดไม่ได้ใส่ใจเลยว่าผมทำอะไรกับเขา คุณไปดูหนังตลกคุณหัวเราะ 2 ชั่วโมง แต่ปัญหาชีวิตปัญหาประเทศชาติรออยู่หน้าโรง"

    "ผมยกตัวอย่างถ้าเรามีหนังที่เกี่ยวกับการเมืองอยู่ซัก 50 เรื่อง ป่านนี้เราคงเลือก ส.ส. มาอยู่ในสภาอย่างมีคุณภาพแล้ว ก็เหมือนกัน ถ้าเรารู้เรื่องสิ่งแวดล้อมเราก็จะเข้าใจว่าเวลาสึนามิมาทะเลมันจะแห้ง เราก็จะเข้าใจว่าแผ่นดินไหวเป็นยังไงผมสร้างหนังไม่ได้เพื่อหนัง ผมพยายามเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับประชาชน ถามว่าเจ็บปวดไหม เจ็บปวดแต่ไม่ได้ขมขื่นกับรายได้ เห็นไหมครับผมไม่ได้พูดเรื่องแผ่นผีเลย ผมไม่เคยโจมตีแผ่นผีเลย เพราะผมมีความรู้สึกว่า ใครที่ซื้อแผ่นผีไปดูก็ยังดีว่ะ อย่างน้อยก็ยังมีคนได้ดูงานของตัวเอง ซึ่งผู้สร้างหนังที่เขาทำมาหากินจริงๆ เขาจะโกรธแผ่นผี แต่ผมไม่โกรธแผ่นผี และผมก็จะไม่พูดเรื่องแผ่นผีด้วย''

    ต่อข้อถามว่าอาการตอนนี้คุณหมอว่าอย่างไรบ้าง "ตอนนี้หมอกลัวว่าถ้าผมอยู่คนเดียวแล้วจะคิดสั้น เพราะว่าประวัติผมที่นี่ มันมีตัดนิ้ว มีเรื่องทำร้ายตัวเอง ที่ผมทำตัวเองมีเหตุผลอย่างเดียวคือดีกว่าทำร้ายผู้อื่น ตอนนี้คนใกล้ตัวก็เก็บอะไรหมดแล้ว"

    นอกจากนี้ผู้กำกับฯ สึนามิยังเล่าว่า ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ได้โทร.มาให้กำลังใจ

    "เมื่อวานนี้สิ่งที่ผมอยากจะกราบเท้าบุคคลคนหนึ่งก็คือท่านมุ้ย ท่านโทร.มาให้สติผม ท่านบอกว่าให้ผมทำงานต่อไปนะ ท่านบอกว่าผมมาถูกทางแล้ว ถ้าว่างท่านจะมาเยี่ยม ผมก็บอกท่านไปว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอกครับ มันอยู่ที่ว่าผมทำหนังให้คน 10 ล้านคนดู แต่มีคนให้ความสนใจมาดูแค่ 2 หมื่นคน"

    "ขอโทษนะครับผมขอย้ำความคิด ถ้าผมยังไม่ตายด้วยการฆ่าตัวตายหรือใครฆ่าผม ผมจะสร้างพระพุธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูง 109 เมตร ถ้าใครได้ไปดูหนังเรื่องนี้จะเห็นพระพุทธรูปปางห้ามภัยพิบัติแห่งชาติที่ ใหญ่ที่สุดในโลกที่อยู่ในหนัง ผมจะสร้างที่อ่าวพระประแดง จริงๆ แล้วผมเป็นคนมีหนี้เป็นพันล้าน แต่ผมยังอยากจะสร้าง ถามว่าผมสร้างแล้วได้อะไร ไม่ได้อะไรหรอกครับ แต่ผมต้องการให้มีสิ่งยึดเหนี่ยว และอีกอย่างผมเห็นว่าคนอเมริกามีเทพีเสรีภาพได้ ทำไมเราจะมีพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลกไม่ได้ จะเห็นว่าใจผมอยู่กับศาสนามาตลอด"

    ต่อข้อถามว่า ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คาดหวังเราจะทำยังไง โดยทรนงกล่าวโดยยกตัวอย่างนักเขียนชาวญี่ปุ่นที่ฆ่าตัวตายและบอกเปรยว่าการฆ่าตัวตายไม่ใช่เรื่องผิด

    "อย่าตกใจนะครับ ถ้าวันนึงผมเป็นแบบนักเขียนมิชามาแบบญี่ปุ่นหรือวันนึงผมจบชีวิตลงแบบคุรุซาวา การฆ่าตัวตายในความรู้สึกไม่ได้รู้สึกของผมเป็นความผิด และผมพร้อมไปเสมอ หากว่าวันนึงผมผิดหวัง เพียงแต่ตอนนี้ผมยังทำงานอยู่ นี่ถ้าผมเดินออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่ ผมจะเดินถือป้ายรอบกรุงเทพฯ จนกว่าผมจะหมดแรง ที่ผมรอดตายในคราวนี้เพราะพุทธรูป ทันทีที่ผมหลับตา พระพุทธรูปลอยขึ้นมาจากในน้ำให้ผมเห็นตลอดเวลา แล้วในใจเหมือนบอกว่าถ้าผมตายแล้วใครจะเป็นคนสร้าง"

    ต่อข้อถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการโปรโมตหนังหรือเปล่า โดยผู้กำกับฯ ทรนงตอบปฏิเสธว่า โปรโมตอย่างไรก็ช่วยไม่ได้

    "อ้อไม่ใช่หรอกครับ ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องไปเคารพศพแล้วครับ ผมไม่ต้องการโปรโมตหนัง เพราะโปรโมตยังไงก็ช่วยไม่ได้ละครับ"

    ทรนง ศรีเชื้อ เกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2495 มีชื่อจริงว่า สุวัฒน์ ศรีเชื้อ เดิมเคยเป็นช่างภาพและจัดทำนิตยสารมอเตอร์มาร์ต ด้วยการถ่ายภาพนางแบบกับรถยนต์ด้วยตัวเอง มีผลงานกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2523 จากเรื่อง สัตว์สงคราม ซึ่งได้รับรางวัลตุ๊กตาทองบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และหลังจากนั้นก็ได้มีผลงานมากมาย ทั้งภาพยนตร์แอ็กชั่นและภาพยนตร์อีโรติก ซึ่งสำหรับภาพยนตร์อีโรติกนั้น ถือว่าเป็นภาพยนตร์แนวที่สร้างชื่อให้กับทรนง ศรีเชื้อ อย่างมาก เช่น กลกามแห่งความรัก ทั้ง 2 ภาค โดยสามารถปั้นดารานำหญิง 2 คนให้มีชื่อเสียงขึ้นมาได้ คือ ดาริน กรสกุล และ ขวัญภิรมย์ หลิน และได้รับชื่อเล่นจาก ฉลอง ภักดีวิจิตร ว่า โทนี่




    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
     
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775

    พี่วิจิตรได้โทรมาแจ้งแต่เช้าในข่าวเรื่องนี้ครับ

    ซึ่งเรื่องที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือ


    ตำนานเมืองล่มของหลายพื้นที่ และหลายอารยะธรรมนั้น ระบุว่า

    เมื่อชาวเมืองนั้นเริ่มเสื่อมจากศีลธรรม คุณธรรม

    และมี พญานาคบ้าง ปลาไหลเผือกบ้าง ใน,ักษณะคล้ายกับที่ปรากฏนั้น

    และชาวเมืองจับกิน

    คืนนั้น เมืองดังกล่าวก็เกิดธรณีพิบัติล่มสลาย โดนน้ำบ่าถล่มบ้าง ด้วยกันทั้งสิ้น ผู้ไม่ร่วมฆ่า หรือร่วมกินเนื้อนั้นด้วยรอด

    ตำนานดังกล่าวมี

    โยนกนคร

    หนองหาร

    เวียงกาหลง

    วาโยนคร

    ส่วนศรีเทพ แจ้งว่าเจอวััวไฟ ของฤาษีผู้บำเพ็ญตบะสาป

    ซึ่งนั่นคือพบทั้งแผ่นดินไหวและ ลาวาผุดขึ้นมาด้วย

    แต่ตำนานต่างๆล้วนมีนัยยะสำคัญหลายอย่าง


    -ศีลธรรม คุณธรรมที่เสื่อมโทรมลง

    -การปรากฏสัญญานที่ช่วยคัดกรองผู้มีความแยกแยะดีชั่ว ถูกผิดออกมา จากผู้เต็มด้วยโมหะ

    ประวัติศาสตร์ก็ปรากฏซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่เสมอ
     
  16. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    อยู่ย่านไหนค่ะ บ้านอยู่บางขุนเทียนด้วยซิ
    ส่วนเรื่องรู้สึกว่าแผ่นดินไหวทั้งที่อยู่กรุงเทพ ก็รู้สึกนะ แปลว่ามันไหวน้อย เลยไม่เป็นข่าวใช่ไหม ที่เรารู้สึกกันมันไหวขนาดเท่าไหร่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2009
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุกระหน่ำจีนเพิ่มเป็น 22 ราย เจ็บหนักนับร้อย

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 5 มิ.ย. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า พายุกระหน่ำและลมแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 117 คนทางภาคกลางของจีน

    ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและลมพัดแรงถึง 108 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระหน่ำทั่วเมืองซางชิว และไคเฟิง ในมณฑลเหอหนาน เมื่อค่ำวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้ต้นไม้หักโค่นและล้มทับบ้านเรือนหลายแห่ง เมืองต่าง ๆ ในมณฑลอันฮุยที่อยู่ใกล้เคียงยังได้รับผลกระทบตามไปด้วย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่ถูกต้นไม้ล้มใส่และบ้านพังทับ และอีกสองคนถูกฟ้าผ่า พายุฝนทำลายบ้านเรือน 9,800 หลัง รวมทั้งทำให้เกิดไฟดับและน้ำประปาขัดข้องในพื้นที่ที่มีประชากรกว่า 3 ล้านคน .-สำนักข่าวไทย

    2009-06-05 08:43:52

    แอร์ฟรานซ์ยอมรับเหยื่อเที่ยวบินมรณะเสียชีวิตยกลำ

    [​IMG]

    ฝรั่งเศส 5 มิ.ย. - สายการบินแอร์ฟรานซ์ ของฝรั่งเศส ระบุไม่มีโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิต จากเหตุเครื่องบินแอร์ฟรานซ์สูญหาย ซึ่งคาดว่าตกนอกชายฝั่งของบราซิลเมื่อ 4 วันก่อน

    ปิแอร์-อองรี กูญอง ซีอีโอสายการบินแอร์ฟรานซ์ บอกกับญาติของผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินโดยสารมรณะว่า เครื่องบินน่าจะระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซึ่งอาจเกิดขึ้นกลางอากาศหรือเกิดหลังเครื่องบินกระแทกกับพื้นน้ำ ทำให้ทุกคนบนเครื่องน่าจะเสียชีวิตทั้งหมด ด้านโฆษกกองทัพฝรั่งเศสยืนยันว่า ยังไม่พบซากเครื่องบินเพิ่มเติม หลังจากที่มีการพบชิ้นส่วนของเครื่องบินรวมถึงคราบน้ำมันเมื่อ 2 วันก่อน และว่าการพบซากเครื่องบินมีความสำคัญมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนต้องการทราบจุดที่เครื่องบินตก

    แม้จะแทบไม่มีหวังที่จะพบกล่องบันทึกข้อมูลการบินหรือกล่องดำ เนื่องจากอาจจะตกอยู่ใต้มหาสมุทรลึกอย่างน้อย 3,000 เมตร อีกทั้งพื้นที่ค้นหายังกินบริเวณถึง 200 กิโลเมตร อย่างไรก็ดี เรือของกองทัพเรือบราซิลได้เดินทางถึงจุดที่เชื่อว่าเครื่องบินตกแล้ว และพบซากเครื่องบินเพิ่มเติมอีกหลายชิ้น แต่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของเครื่องบินตก. -สำนักข่าวไทย

    2009-06-05 01:04:40

    เรือตรวจการณ์เกาหลีเหนือล่วงล้ำน่านน้ำเกาหลีใต้

    [​IMG]

    โซล 4 มิ.ย.-คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุว่า เรือตรวจการณ์ลำหนึ่งของเกาหลีเหนือล่วงล้ำเข้าไปในน่านน้ำเกาหลีใต้ แล้วแล่นกลับออกไปในน่านน้ำฝั่งตนเองหลังได้รับสัญญานเตือน

    เรือตรวจการณ์เกาหลีเหนือแล่นข้ามเส้นนอร์เทิร์น ลิมิต ไลน์ (เอ็นแอลแอล) ซึ่งแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างสองประเทศในทะเลเหลืองเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ และลอยลำอยู่นาน 50 นาทีก่อนกลับออกไปยังน่านน้ำเกาหลีเหนือ เพราะได้รับสัญญาณเตือนจากเรือเกาหลีใต้

    เส้นแอ็นแอลแอลเป็นจุดที่มีความตึงเครียดสูง โดยนับแต่เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา และยิงขีปนาวุธีพิสัยใกล้อีก 6 ลูก พร้อมประกาศจะไม่ผูกมัดกับข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวซึ่งทำให้สงครามเกาหลียุติลง และขู่จะโจมตีเกาหลีใต้ ส่งผลให้กองกำลังสหรัฐและเกาหลีใต้ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีอย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ระดมเรือตรวจการณ์ความเร็วสูงติดตั้งขีปนาวุธยิงจากเรือสู่เรือไปลอยลำบริเวณเส้นเอ็นแอลแอล ซึ่งเป็นจุดที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีเหตุปะทะนองเลือดกันมาแล้วเมื่อปี 2542 และ 2545 สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า มีเรือประมงจีนราว 70-90 ลำแล่นออกจากน่านน้ำดังกล่าวเมื่อคืนนี้

    ก่อนหน้านี้มีเรือของเกาหลีเหนือล่วงล้ำเข้าไปในน่านน้ำเกาหลีใต้เป็นระยะ ๆ โดยเมื่อเดือน มิ.ย. 2551 เรือตรวจการณ์เกาหลีเหนือลำหนึ่งแล่นเข้าไปในน่านน้ำเกาหลีใต้ และลอยลำอยู่นานราว 30 นาที ก่อนแล่นออกไปหลังได้รับวิทยุเตือน.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-04 16:44:12

    สหรัฐว่าการเจรจาเรื่องอาวุธกับรัสเซียคืบหน้า

    [​IMG]

    เจนีวา 4 มิ.ย. - ทางการสหรัฐแถลงว่า การเจรจากับรัสเซียโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการสะสมอาวุธนิวเคลียร์มีความคืบหน้า ก่อนที่จะมีการเจรจาสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีทั้งสองฝ่ายในเดือนกรกฎาคมนี้

    นางโรส กอธทีโมลเลอร์ ผู้นำคณะเจรจาฝ่ายสหรัฐ กล่าวต่อที่ประชุมว่าด้วยการลดอาวุธของสหประชาชาติในนครเจนีวาซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ระบุว่า เธอได้เจรจากับคณะทำงานของรัสเซียเพื่อผลักดันข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์ให้คืบหน้าต่อไปแล้ว ทั้งนี้ สหรัฐ และรัสเซียกำลังเจรจาเพื่อทำข้อตกลงแทนที่ข้อตกลงลดอาวุธ สตาร์ท วัน ซึ่งทำขึ้นเมื่อปี 2534 และจะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้ .-สำนักข่าวไทย

    2009-06-04 16:22:25

    ผู้นำสูงสุดอิหร่านระบุสหรัฐเป็นที่เกลียดชังยิ่งในตะวันออกกลาง

    [​IMG]

    เตหะราน 4 มิ.ย. - อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ระบุวันนี้ว่า สหรัฐเป็นที่เกลียดชังยิ่งในภูมิภาคตะวันออกกลาง และว่า ความรู้สึกนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยคำพูดสวยหรู แต่จำต้องใช้การกระทำ

    อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี กล่าวเรื่องนี้ผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ พร้อมกับเรียกอิสราเอล ซึ่งอิหร่านไม่เคยให้การยอมรับว่า เป็นเนื้อร้ายในหัวใจโลกมุสลิม คำพูดของผู้นำสูงสุดอิหร่านมีขึ้นในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ มีกำหนดจะกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญต่อโลกมุสลิม ในกรุงไคโร ของอียิปต์ และตรงกับวาระครบรอบ 20 ปี การเสียชีวิตของอยาตอลเลาะห์ รูโฮลลาห์ โคไมนี ผู้ก่อตั้งอิหร่าน

    ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโอบามา ต้องการสร้างความร่วมมือกับบรรดารัฐบาลชาติมุสลิม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความพยายามของเขาในการรื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพ และช่วยสหรัฐควบคุมโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งรัฐบาลอิหร่าน ระบุว่า มีจุดประสงค์เพื่อสันติ แต่ชาติตะวันตกระบุว่า เป็นโครงการผลิตอาวุธ. -สำนักข่าวไทย

    2009-06-04 15:14:54

    ผู้คนร่วมแสดงความเสียใจกับดารากังฟูที่เสียชีวิตในไทย

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ, ลอสแองเจลิส 5 มิ. ย. - ลอรี่ ไบเดอร์ ตัวแทนของเดวิด คาราดีน ในนครลอสแองเจลิสของสหรัฐ แถลงว่า เดวิด คาราดีน นักแสดงฮอลลีวูด วัย 72 ปี เสียชีวิตระหว่างมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Stretch” (สเตรทช์) ในไทย แต่ไม่กล่าวถึงสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ขณะที่ผู้คนต่างส่งข้อความแสดงความเสียใจมายังเว็บไซต์ของดารารุ่นใหญ่ผู้นี้

    เดวิด คาราดีน นักแสดงฮอลลีวูด มีชื่อเสียงจากบทไคว ชาง เคน ในหนังทีวีช่วงทศวรรษปี 1970 เรื่อง “กังฟู” ซึ่งทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมี่ อวอร์ด ซึ่งเป็นเวทีรางวัลโทรทัศน์สูงสุดของสหรัฐ รวมทั้งยังมีผลงานในละครบรอดเวย์ ละครโทรทัศน์ และได้เครดิตจากบทวายร้ายบิล ในภาพยนตร์เรื่อง “คิลบิล” ทั้ง “Kill Bill : Vol. 1” และ “Kill Bill : Vol. 2” ซึ่งทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำด้วย

    เดวิด คาราดีน ถูกพบเสียชีวิตในสภาพเกือบเปลือย และมีเชือกรัดอยู่ภายในโรงแรมหรูในกรุงเทพฯ เมื่อวันพฤหัสบดี คาดว่าอาจเป็นการฆ่าตัวตาย ก่อนหน้านี้เขาเปิดเผยชีวิตส่วนตัวว่า เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วเมื่ออายุ 5 ขวบ ทั้งยังเล่าว่าเคยใช้ยาเสพติดและติดสุราด้วย ล่าสุดมีข้อความมากมายแสดงความเสียใจเข้ามาทางเว็บไซต์ www.david-carradine.com ทั้งขอให้นักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ไปสู่สุขคติ และว่าเขาเป็นไอคอนกังฟูของตะวันตก .- สำนักข่าวไทย

    2009-06-05 07:55:01

    ที่มา http://news.mcot.net/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ข่าวลับ! องค์การนาซ่าเตรียมสร้างเมืองใต้ดินไว้หลบภัยในปี ค.ศ.2012

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ตไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับเนื้อหาข่าว

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->< NASA ><!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2155877", true); </SCRIPT> สมาชิก

    นักวิทยาศาสตร์องค์การ NASA บอกเล่าถึงเรื่องภัยพิบัติ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอีก 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า<O:p</O:p

    นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกร่วมกับ NASA ศึกษาเรื่องภัยพิบัติมาตั้งแต่ พ.ศ. 2540 เรื่องภัยพิบัติใหญ่นี่ ทางกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเค้ารู้กันมาเป็น 10 ปีแล้วกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ เค้าได้คำนวนการละลายของน้ำแข็งที่ขั้วโลก

    เพราะเนื่องจากอุณหภูมิโลกสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือละลายเร็วอย่างมาก เพราะเกิดจากองศาการเอียงของโลกนั้น ปัจจุบันอยู่ที่ 26 องศา (ในปี พ.ศ. 2552)

    ซึ่งเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มันเอียงที่ 23.5 องศาจะเห็นว่าโลกมันเอียงลงเรื่อยๆ โดยการที่ องศาการเอียงลงนั้น ขั้วโลกเหนือจะชี้ไปหาดวงอาทิตย์เรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือ จึงมีอัตตราส่วนการละลายมากกว่าที่ขั้วโลกใต้

    นักวิทยาศาสตร์ที่ NASA ก็ลงความเห็นตรงกันว่า ภัยพิบัติน่าจะเกิดขึ้นจริงๆ ในปีค.ศ. 2012 ค่อนข้างแน่นอน <O:p</O:pแต่ก็มีโอกาสที่จะคำนวนพลาดแต่ค่าความผิดพลาดนั้นน้อยครับประมาณ (+/-) 2 ปี

    หมายความว่าภัยพิบัติอาจเกิดในปี 2010 ก็ได้ หรืออาจเกิดในปี 2014 ก็ได้แต่ความเป็นไปได้มากที่สุดน่าจะเกิดปี 2012 มากกว่า ภัยพิบัตินี้จะเกิดจากจากน้ำ พอแกนโลกเอียง ขั้วโลกเหนือจะหันเข้าหาดวงอาทิตย์แบบพอดีเป๊ะใน วันที่ 22 Dec 2012 (เป็นการคาดการณ์ อาจจะคลาดเคลื่อนได้บ้าง)
    <O:p</O:p
    ในวันนั้น น้ำแข็งจากขั้วโลกจะละลายอย่างรวดเร็วมาก ถาโถมเข้าท่วมแผ่นดินอย่างน่ากลัว รุนแรงแบบไม่เคยมีมาก่อน <O:p</O:pถ้าน้ำแข็งจากขั้วโลกละลายหมด จะทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นประมาณ 80 - 120 เมตร ภาคกลาง และภาคใต้ จมน้ำแน่นอน และรวมไปถึง มาเลเซีย สิงค์โปร์ ฟิลิปปินส์อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และอีกมากหลายประเทศ พวกนี้จมน้ำทั้งหมด<O:p</O:p

    ภาคเหนือ กับ ภาคอีสานก็ยัง จะไม่ปลอดภัย เพราะการทะลักของระดับน้ำทะเลที่สูง 80 -120 เมตร จะทำให้ ภาคเหนือ กับภาคอีสานของไทย โดนน้ำป่าไหลหลากที่รุนแรงแบบไม่เคยมีมาก่อน คนในภาคเหนือ กับภาคอีสาน จะตายกันมากไม่น้อยกว่า ภาคกลาง และภาคใต้ ของไทย
    <O:p</O:p
    อธิบายแบบวิทยาศาสตร์นะครับ เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย น้ำเย็นจากขั้วโลกเหนือ จะมากระทบกับน้ำอุ่น ในแถบเส้นศูนย์สูตรก่อให้เกิดพายุที่รุนแรงไปทั่วทั้งโลก พูดง่ายๆคือ วันนั้นฝนจะตกพร้อมๆกันทั่วทั้งโลกเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน
    <O:p</O:p
    ระดับน้ำทะเลที่สูง 80 -120 เมตร ถ้าจังหวะนั้นมีใครไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม หรืออยู่บนยอดเขาที่สูงกว่า 80 -120 เมตร ก็มีสิทธิ์รอด หรือ จังหวะที่น้ำทะเลทะลักเข้ามา ถ้ามีใครอยู่ในเรือเดินสมุทรลำใหญ่ๆ ที่อยู่กลางทะเลก็มีสิทธิ์รอด แต่ ถ้าเรือที่จอดอยู่ริมฝั่งรับรองได้เลยว่า เรือพลิกคว่ำแน่ๆ นอกจาก เรือจะต้องอยู่กลางทะเลแล้ว เรือก็ต้องลำใหญ่มาก จึงจะปลอดภัย

    ทางเมืองนอกประชาชนเค้าไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ เพราะทางผู้ใหญ่เขาปิดข่าว ทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกา และยุโรป เขาประชุมกับ NASA แล้วลงความเห็นว่า ให้ปิดข่าวเพราะถ้าประกาศออกไปรับรองว่า โลกวุ่นวายแน่นอนครับ แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์ของ NASA บางคนเอาข่าวออกมาบอกชาวโลกให้รู้แต่ก็ยังมีชาวโลกหลายคนที่ยังไม่เชื่อ

    <O:p</O:pทางรัฐบาลสหรัฐอเมริการ่วมกับ NASA มีการขุดหลุมเพื่อสร้างโดมหลบภัยน้ำท่วมขนาดยักษ์ อยู่ใต้ดิน ในโดมนี้จะจุได้ ประมาณ 2,000 คนเท่านั้น เค้าจะเอาไว้ให้พวกผู้นำรัฐบาล, ผู้นำกองทัพ, ผู้บริหารหน่วยงานสำคัญ, นักธุรกิจที่มีเงินหนา จะมาหลบกันที่นี่<O:p</O:p


    ช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ โลกเราจะมืดราวๆ 1 เดือน เพราะขั้วโลกเหนือจะหันเข้าหาดวงอาทิตย์ เพราะฉนั้นประเทศต่างๆ จะไม่ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์และขั้วโลกเหนือจะค่อยๆมุดหัว ไปแทนขั้วโลกใต้ ซึ่งจะใช้เวลาราวๆ 1 เดือน

    โดยประมาณช่วง 1 เดือนนั้นจะมืดสนิท <O:p</O:pนอกจากมืดแล้ว ยังจะหนาวจัดแบบสุดโหด ขาดแคลนอาหาร ไม่มีน้ำจืด (มีแต่น้ำทะเลเต็มไปหมด) <O:p</O:pเราควรเตรียมอาหารกระป๋อง, น้ำจืด, เสื้อกันหนาว, เสื้อชูชีพ, ไฟฉาย ฯลฯ<O:p</O:p

    จะมีคนรอดตาย 1 ใน 3 ส่วนเท่านั้นของประชากรโลก นอกเสียจากว่าเวลานั้น บุคคลนั้น จะไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยจากน้ำ แต่ปัจจัยมันเยอะ เช่น ถึงจะไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยจากน้ำแต่อาจจะหนาวตาย, หิวตาย, ป่วยตาย, ปอดบวมตาย, ฯลฯ

    อนาคต เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน จงทำความดีและรักษาความดีให้มากเพื่อ อนาคต ในชาตินี้และชาติหน้า<!-- google_ad_section_end --> ​

    03-06-2009, 07:01 PM ​

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ที่สุดของ-คำทำนายอวสานโลก.190725/

    หมายเหตุ

    ข่าวลับชิ้นนี้เป็นเพียงคำบอกเล่าต่อๆกันมา ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารนี้ อย่าเพิ่งตืนตกใจไปจนเกินเหตุ และอย่ารีบด่วนปฏิเสธในทันที

    ควรใช้ สติ ปัญญา พิจารณาข้อมูลด้านอื่นๆ เอามาประกอบกันไปด้วย ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงไร เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจของท่าน ให้พร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • moscow19.jpg
      moscow19.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.4 KB
      เปิดดู:
      1,298
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2009
  19. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    หมายเหตุ

    ข่าวลับชิ้นนี้เป็นเพียงคำบอกเล่าต่อๆกันมา ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารนี้ อย่าเพิ่งตืนตกใจไปจนเกินเหตุ และอย่ารีบด่วนปฏิเสธในทันที

    ควรใช้ สติ ปัญญา พิจารณาข้อมูลด้านอื่นๆ เอามาประกอบกันไปด้วย ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงไร เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจของท่าน ให้พร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  20. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    หมายเหตุ

    ข่าวลับชิ้นนี้เป็นเพียงคำบอกเล่าต่อๆกันมา ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารนี้ อย่าเพิ่งตืนตกใจไปจนเกินเหตุ และอย่ารีบด่วนปฏิเสธในทันที

    ควรใช้ สติ ปัญญา พิจารณาข้อมูลด้านอื่นๆ เอามาประกอบกันไปด้วย ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงไร เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจของท่าน ให้พร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตครับ



    เเล้วทำไมองค์การนาซ่าไม่ย้ายไปอยู่ในที่สูง

    ที่ หาจุดพิกัดเเล้วปลอดภัยเเน่ๆ หรือ สร้างเรือดำน้ำเเทนอ่ะคะ

    ไปอยู่ใต้ดินทำไม? หรือ สร้าง เกาะลอยน้ำ เตรียมรอเเถว มหาสมุทรอินเดีย

    หรือ เรือไททานิค จอดรอกลางมหาสมุทรเเปซิฟิคเสียก่อน

    ทำไมเลือกฝังตัวเองซะงั้น

    ไม่มีอะไร คิดเเบบ คนช่างสงสัย เฉยๆ งง ทำไมช่วยได้ แค่ 2,000 คน

    สหรัฐออกจะรวยเเถมมีเเต่ อัจฉริยะ ตั้งเยอะ

    เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ เตรียมไว้เลย พอเกิด เหตุการณ์จริง ก็บินเลย

    เเล้วก็ หนีไปอยุ่บนเกาะลอยน้ำง่ะ ดีกว่า ขุดหลุมฝังตัวเองเป็นไหนๆ

    ไม่มีเเดด ก็ใช้พลังลม พลังน้ำ ทดเเทนก็ได้ มีเยอะไม่ใช่หรอ

    :z2
    -*- ข้อมูลเอามาจาก Forward Mail อีกเเล้ว ซินะคะ (เชื่อจัง Forward Mail เนี๊ย)<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...