ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

วันที่ 07 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6734 ข่าวสดรายวัน


ครูสาวมะกัน! เซ่นหวัดอีกศพ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ป้องกัน - จนท.สาธารณสุขระนอง แปะแผ่นวัดอุณหภูมิตรวจนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางผ่านด่าน เพื่อเฝ้าระวังเชื้อไข้หวัดเม็กซิโก ล่าสุดองค์การอนามัยโลกแถลงมีผู้เสียชีวิตแล้ว 31 ราย และเชื้อลุกลามใน 22 ประเทศ

</TD></TR></TBODY></TABLE>3 น.ร.เอเอฟเอสกลับบ้านได้แล้ว หลังตรวจไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หมอยังห่วงสั่งเฝ้าระวังอาการอีก7 วัน สธ.ยืนยันผลตรวจทางห้องแล็บ สาวเยอร มันพร้อม 2 หนุ่มไทยไร้เชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นแค่ไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ให้กลับบ้านเช่นกัน แต่ต้องติดตามอาการ 7 วัน ครม.อนุมัติ 100 ล้านแก้ไข้หวัดใหญ่ 2009 ครูสาวมะกันเสียชีวิตอีกรายเซ่นไข้หวัดใหญ่ 2009 อนามัยโลกระบุตายแล้ว 31 ราย เชื้อลาม 22 ประเทศ

เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 6 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเม็กซิโกว่า ขณะนี้เฝ้าระวังอยู่ 3 คน ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ เหลือเพียงรอการตรวจสอบยืนยันก็ปล่อยตัวกลับได้ ส่วนกลุ่มครูและนักเรียนไทยที่เดินทางกลับจากเม็กซิโกที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 3 คนนั้น ขณะนี้กลับบ้านแล้ว 2 คน เหลืออีก 1 คนที่ยังมีอาการไข้หวัดธรรมดา อยู่ที่ร.พ.บำรุงราษฎร์ คาดว่าวันที่ 6 พ.ค.คงกลับ บ้านได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าองค์การอนามัยโลกระบุให้เฝ้าระวังการระบาดโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่รอบ สองที่อาจจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ประเทศไทยจะเฝ้าระวังอย่างไร นายวิทยากล่าวว่า ประเทศไทยจะเฝ้าระวังจนกว่าองค์การอนามัยโลกจะส่งสัญญาณว่าวิกฤตและการแพร่ระบาดหมดไป หรือสามารถคิดวัคซีนรักษาโรคได้ คิดว่าคงใช้เวลาอีกนานพอสมควร อาจเป็นหลังจากที่คิดวัคซีนได้แล้ว

นายวิทยากล่าวต่อว่า วันเดียวกันนี้คณะกรรม การระดับชาติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ที่มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ เป็นประธาน จะขออนุมัติ ครม.จัดซื้อเครื่องวัดเทอร์โมสแกน 10 เครื่อง ติดตั้งที่ด่านแนวชายแดนที่มีประชาชนและรถเดินทางเข้าออกจำนวนมากวันละ 500-1,000 คน หากมีความจำเป็นในภายหลังจะขอจัดซื้อเพิ่มเติม ส่วนด่านที่มีคนเดินทางเข้าออกจำนวนไม่มากจะใช้ปรอท ทั้งนี้ การเฝ้าระวังของประเทศไทยอาจจะต้องเพิ่มความเข้มข้นอีกเล็กน้อย และปรับปรุงระบบการเฝ้าระวังทั้งหมดให้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนการควบคุมสถานการณ์โรคไข้หวัดสาย พันธุ์ใหม่นั้น ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ การขยายตัวไม่รุนแรงเท่าที่ควร

เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ให้ความร่วมมือในการเฝ้าระวังเท่าที่ควร นายวิทยา กล่าวว่า เป็นความจริง เพราะมีการนิ่งเฉย ละเลย และรายงานให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบแล้ว ตนไปเจอมากับตัว บอกได้เลยว่าใช้ไม่ได้ เพราะไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอนักท่องเที่ยวมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่กลับให้ถอดหน้ากากป้องกันออกเฉย และ ตัวเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ใส่หน้ากากป้องกัน ถ้าตายคนแรกที่ตายคือเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจ คงต้องอบรมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยาน คิดว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะรู้เรื่อง สุด ท้ายก็ต้องอบรม คงต้องให้พล.ต.สนั่นสั่งเจ้าหน้า ที่กรมควบคุมโรคไปอบรมเรื่องการเฝ้าระวังให้

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กระทรวงสาธารณ สุข น.พ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวัง แก้ไข ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของกระทรวงสาธารณ สุขว่า นักเรียนทุนเอเอฟเอสที่เฝ้าระวังโรคที่ ร.พ.บำราศนราดูร จำนวน 3 คน ในจำนวนนี้กลับบ้านไปแล้วตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา 2 คน คือชาย 1 คน และหญิง 1 คน แต่จะต้องเฝ้าระวังโรคที่บ้านอีก 7 วัน ส่วนนักเรียนหญิงอีก 1 ราย ที่ก่อนหน้านี้มีไข้สูง แพทย์ต้องให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ตามกระบวนการรักษาที่ต้องให้ยาภายใน 48 ชั่วโมงนั้นล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว ไม่มีไข้ แพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ภายในวันเดียวกันนี้ แต่ต้องเฝ้าระวังโรคที่บ้านต่ออีก 7 วัน และต้องทานยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ต่ออีก 5 วัน วันละ 2 เม็ด เพื่อไม่ให้เกิดการดื้อยา

น.พ.สุพรรณกล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยเฝ้าระวังจำนวน 3 ราย ได้แก่หญิงชาวเยอรมัน อายุ 50 ปีที่ร.พ.ราชวิถี และชายไทยอีก 2 ราย อายุ 60 ปี อยู่ที่ร.พ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ และอีกรายอายุ 34 ปี อยู่ที่ร.พ.สรรพสิทธิประ สงค์ จ.อุบลราชธานี ผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการทั้ง 3 รายพบว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ทั่วไป ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 อาการวันนี้ไม่มีไข้ แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านและให้เจ้าหน้าที่สาธารณ สุขติดตามอาการที่บ้าน 7 วัน

น.พ.สุพรรณกล่าวว่า สถานการณ์โรคขณะนี้มีบางประเทศพบว่าผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยที่ไม่มีประวัติเดินทางไปประเทศเม็กซิโก จนมีการตั้งข้อสังเกตว่าการเฝ้าระวังโรคนี้ไม่ควรมุ่งแต่ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากประเทศเม็กซิโกเท่านั้น สำหรับประเทศไทยขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังที่เข้มข้นขึ้น เนื่องจากโดยปกติผู้ที่ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยทุกคนจะต้องตรวจวิเคราะห์เชื้ออยู่แล้วว่าเป็นชนิดใด หากเป็นชนิดเอจะวิเคราะห์ต่อว่าเป็นเอช 1 เอ็น 1 หรือไม่ จึงเชื่อมั่นว่าระบบการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ของไทยมีคุณภาพและมาตรฐาน

"วันนี้ สธ.ส่งเอกสารโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งภาษาไทยและอังกฤษถึงสนามบินนานาชาติทุกแห่งจำนวน 2.5 ล้านฉบับ ให้แจกแก่ผู้เดินทางเข้าประเทศ พร้อมบัตรคำแนะนำด้านสุขภาพ และจะเร่งผลิตเพิ่มแจกจ่ายประชาชนทั่วประเทศต่อไป ให้มีความรู้ความ เข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ และประสานสถานทูตไทยประจำพื้นที่ที่มีโรคระบาด 21 ประเทศเพื่อจัดส่งเจลล้างมือ คำแนะนำการดูแลสุขภาพ หน้ากากอนามัย และยาต้านไวรัสโอเซลทามีเวียร์แห่งละ 100 เม็ดไปให้เพื่อเป็นสต๊อก ใช้รักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ นอกจากนี้จะเร่งจัดมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศทางรถไฟระหว่างประเทศ ผ่านด่านภาคใต้ 3 ขบวน ได้แก่บัตเตอร์เวิร์ธ-กรุงเทพฯ กัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่ และสิงคโปร์-กรุงเทพฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเข้าประเทศครบทุกช่องทาง" น.พ.สุพรรณกล่าว

น.พ.สุพรรณกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ในประเทศไทยผลการเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้าประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิวานนี้ ผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิทั้ง 6 จุด จำนวน 32,067 คน พบ อุณหภูมิสูง 1 คน วัดซ้ำไม่มีไข้ ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพตนเองเป็นระยะ 7 วัน ผลการตรวจสะสมรอบ 9 วันที่ผ่านมา มีการตรวจวัดอุณหภูมิทั้งหมด 311,729 คน ยังไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1

ด้านพ.ญ.ศิริพร กัญชนะ รอง ปลัดสธ. กล่าวถึงการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนและกลุ่มบวก 3 ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค. ที่โรง แรมดุสิตธานีว่า กรอบความร่วมมือระหว่างประ เทศสมาชิกมีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ คือ 1.เฝ้าระวังสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในแต่ละประเทศ โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล วางแผนรับมือเตรียมความพร้อมเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และไม่กลัวมากจนเกินเหตุ 2.ให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นลำดับแรกของประเทศ และ 3.การแสดงท่าทีในการตกลงความร่วมมือกันของภูมิภาค

น.พ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบ คุมโรค กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายเฝ้าระวังโรคในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ประกอบด้วย ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน (ยูนนาน) ที่ผ่านมามีความร่วมมือกัน โดยมีหน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนา มัยโลก หน่วยประสานความร่วมมือเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNSIC) องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐ อเมริกา (USAID) และมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว โดยเฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดนก และโรคตามแนว ชายแดน เช่น เอดส์ มาลาเรีย วัณโรค ดังนั้น การประชุมครั้งนี้อาจจะต้องมีการเพิ่มการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพิ่มขึ้นด้วย

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย ศุภรักษ์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตาม ที่พล.ต.สนั่นในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบ คุมแก้ไขสถานการณ์ระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ขออนุมัติงบกลางจำนวนกว่า 100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าตอบแทนบุคลากร 10 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายควบคุมการแพร่ระบาด 4 ล้านบาท ค่าใช่จ่ายในการประชุมรัฐ มนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวกสาม 15 ล้านบาท ค่าวัสดุเวชภัณฑ์ 23 ล้านบาท ค่าครุภัณฑ์ 16 ล้านบาท และงบประชาสัมพันธ์ 32 ล้านบาท

วันเดียวกัน เอพีรายงานความคืบหน้าภัยไวรัส ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดและต้องสงสัยว่าระบาดใน 36 ประเทศทั่วโลกว่า สถานการณ์ในกรุงเม็กซิโก ซิตี เมืองหลวงเม็ก ซิโก ซึ่งเผชิญโรคระบาดหนักสุดเริ่มกลับสู่ภาวะ ปกติ หลังจากรัฐบาลยกเลิกคำสั่งปิดเมือง อนุ ญาตให้กิจการร้านค้า รวมถึงสถานที่สาธารณะ ต่างๆ เช่น โรงเรียน สวนสาธารณะ เปิดใช้งานตามปกติอีกครั้ง ถนนหนทางเริ่มมีรถแล่นคึกคัก รัฐบาลเชื่อมั่นว่าวิกฤตไวรัส 2009 ผ่านพ้นไปแล้ว เพราะไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ส่วนยอด ผู้เสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวยืนยันเป็นทางการ 29 ศพ

นายออกุสติน คาร์สเทนส์ รัฐมนตรีคลังเม็กซิโก ประเมินว่า กรณีโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาด ทำให้ระบบเศรษฐกิจเสียหายไม่ต่ำกว่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 77,000 ล้านบาท และรัฐบาลเตรียมอัดฉีดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 45,500 ล้านบาทเข้าสู่ภาคอุตสาห กรรมสำคัญๆ ที่ทรุดไปในช่วงโรคระบาด อาทิ ท่องเที่ยว เอสเอ็มอี และหาทางหว่านล้อมให้นานาชาติยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์หมูเม็กซิโกโดยเร็ว

ส่วนที่สหรัฐอเมริกาทางการแถลงพบชาวอเมริกันเสียชีวิตเพราะติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายแรก เป็นครูวัย 33 ปี ซึ่งบ้านอยู่ในรัฐเท็กซัส ใกล้พรมแดนเม็กซิโก จากการสอบประวัติพบมีร่างกายอ่อนแอป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ก่อนสิ้นใจเพิ่งคลอดลูกชายและมีสุขภาพแข็งแรงดี ส่วนโรงเรียนเมอร์เซเดซ อินดีเพนเดนต์ สคูล ซึ่งผู้ตายสอนอยู่ถูกสั่งปิดชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดทั่วสหรัฐมีมากกว่า 600 ราย

ที่กรุงมะนิลา เมืองหลวงฟิลิปปินส์ นาย ฟรานซิสโก ดูเกอ ที่ 3 รัฐมนตรีสาธารณสุข ขอร้องให้ "แมนนี่ ปาเกียว" สุดยอดนักชกฟิลิปปินส์พักอยู่ในนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิ ฟอร์เนียของสหรัฐไปจนถึงวันอังคารหน้า อย่าเพิ่งรีบกลับฟิลิปปินส์ในวันศุกร์นี้ตามกำหนด การเดิม เพื่อร่วมขบวนแห่ฉลองชัยชนะชกกระ ชากเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นไลต์เวลเตอร์เวตขององค์กรมวยนานาชาติมาจาก "ริกกี้ ฮัตตั้น" นักชกอังกฤษ เพราะเกรงว่าปาเกียวหรือทีมงานอาจติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2009 ในสหรัฐและนำกลับมาแพร่ใส่ชาวบ้านที่มารอต้อนรับปาเกียว จึงอยากให้กลับมาต่อเมื่อเลยระยะโรคฟักตัว และไม่แสดงอาการใดๆ

วันเดียวกัน องค์การอนามัยโลกประกาศว่า ข้อมูลการสำรวจ ณ วันที่ 5 พ.ค. พบทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เสียชีวิต 31 ราย ติดเชื้อ 1,655 ราย ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ 1,616 ราย สำหรับชาติที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อแน่นอนแล้วมี 22 ชาติ คือสหรัฐ เม็กซิโก แคนาดา สเปน อังกฤษ เยอรมนี นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี อิสราเอล เอลซัลวาดอร์ เกาหลี ใต้ โคลัมเบีย สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย คอส ตาริกา โปรตุเกส เดนมาร์ก ฮ่องกง (จีน) ไอร์ แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และกัวเตมาลา

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ส่วนราชการ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน แถลงว่ากลุ่มชาวจีน 119 คนซึ่งติดอยู่ในเม็กซิโกช่วงไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดหนัก โดยสารเครื่องบินโบอิ้ง 777 กลับถึงสนามบินผู่ตงของเซี่ยงไฮ้แล้ว แต่ต้องนำตัวเข้ากระบวนการกักกันโรคเพื่อรอดูอาการต่อไป

ครม.ลุยขึ้นภาษี เหล้าเบียร์ คอทองแดงอ้วก

ควักเพิ่มอีกขวดละ2-19บ. รัฐอ้างกระตุ้นเศรษฐกิจ! เล็งบี้น้ำมัน-บุหรี่อีกระลอก



ครม.ไฟเขียวอนุมัติขึ้นภาษีเหล้าเบียร์ ตามแผนเพิ่มรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจ คอสุราอ้วกจ่ายเพิ่มอีก 2-19 บาท เผยเหล้าขาวปรับขึ้น 1.75-2.5 บาทต่อขวด เหล้าผสม 4-5 บาทต่อขวด บรั่นดี 19 บาท ส่วนเบียร์ขึ้นขวดละ 4-5 บาท คลังรอสรุปภาษีสรรพสามิตน้ำมัน-บุหรี่ ถ้าปรับเพิ่มได้ทั้ง 3 รายการ คาดรายได้เพิ่ม 7 หมื่นล้านต่อปี

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสินค้าประเภทเบียร์ สุราขาว สุราผสม และบรั่นดี เพื่อเพิ่มฐานการจัดเก็บรายได้ให้กับรัฐบาล เพิ่มความจูงใจในการลดการบริโภครวมทั้งลดค่าใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุขของรัฐบาลในอนาคต โดยมติ ครม.ในครั้งนี้มีผลในเวลา 24.00 น.ของวันที่ 6 พ.ค.2552

"การปรับเพิ่มภาษีเหล้า เบียร์ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเพิ่มรายได้ของรัฐบาลเพื่อนำมาใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวตามแผนปฏิบัติการ : ไทยเข้มแข็ง 55 เพื่อเสริมฐานรายได้ของรัฐบาลให้ปรับเพิ่มสูงขึ้น และในการปรับเพิ่มภาษีแต่ละประเภทรัฐบาลจะคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างเป็นหลัก โดยในครั้งนี้จะเน้นการปรับเพิ่มภาษีเฉพาะในส่วนที่กรมสรรพสามิตดูแลเท่านั้น ซึ่งจากนี้อยู่ระหว่างพิจารณาภาษีอื่นเพิ่มเติม คาดจะมีรายได้จากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตทั้งระบบกว่า 7 หมื่นล้านบาทต่อปี" นายกรณ์กล่าว

ทั้งนี้ การเพิ่มภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งนี้ ได้ปรับเพิ่มภาษีเบียร์ จาก 55 บาท/ลิตร เป็น 60 บาท/ลิตร ซึ่งจะเต็มเพดานการจัดเก็บที่ระบุไว้ ส่วนสุราขาวปรับเพิ่มจาก 110 บาท/ลิตร เป็น 120 บาท/ลิตร สุราผสม ปรับเพิ่มจาก 280 บาท/ลิตร เป็น 300 บาท/ลิตร และบรั่นดีจาก 45% เป็น 48% ซึ่ง 3 รายการหลังยังไม่เต็มเพดานจัดเก็บ และสัดส่วนที่ปรับเพิ่มดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ 7-9% คาดจะจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นต่อปี 6.3 พันล้านบาท ส่วนการปรับเพิ่มภาษีประเภทอื่นอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดทั้งหมด ซึ่งโดยรวมจะทำให้รายได้ปรับเพิ่มถึง 7 หมื่นล้านบาทต่อปี

น.พ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง กล่าวว่า อัตราภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ประกาศขึ้นในครั้งนี้จะส่งผลต่อราคาขายปลีกของเบียร์ เหล้าและบรั่นดี ดังนี้ ราคาขายปลีกเบียร์จะปรับเพิ่มขึ้น 4-5 บาทต่อขวด เหล้าขาวปรับขึ้น 1.75-2.5 บาทต่อขวด เหล้าผสมปรับขึ้น 4-5 บาทต่อขวด และบรั่นดีเพิ่มขึ้น 19 บาทต่อขวด

น.พ.พฤฒิชัยกล่าวว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวตามแผนที่รัฐบาลวางไว้ กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิตมีแผนปรับขึ้นภาษีในส่วนของกรมสรรพสามิตอีกครั้งในเร็วๆ นี้เพื่อให้รายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีก 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังมองภาษีที่จะต้องมีการปรับเพิ่มขึ้นควรจะอยู่ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่อยู่ในความดูแลของกรมสรรพสามิต โดยตามแผนมีอยู่หลายรายการที่เตรียมปรับขึ้นเพื่อให้รายได้เป็นไปตามเป้าที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เผยว่า รายการภาษีสรรพสามิตอื่นที่จะปรับขึ้นจะเป็นภาษีบุหรี่ และภาษีสรรพสามิตน้ำมัน โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างสรุปรายละเอียด แต่เฉพาะภาษีสรรพสามิตน้ำมันจะปรับขึ้นในอัตรา 2 บาท/ ลิตร ทุกรายการน้ำมัน ซึ่งพบว่าหากมีการปรับภาษีน้ำมันทุกชนิดขึ้น 1 บาท/ลิตร จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่ม 2 พันล้านบาทต่อเดือน หรือ 2.4 หมื่นล้านบาทต่อปี และหากปรับขึ้น 2 บาท/ลิตร จะทำให้มีรายได้เพิ่ม 4.8 หมื่นล้านบาทต่อปี

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.ได้รายงานถึงแหล่งรายได้ภาษีของรัฐบาล โดยเบื้องต้นคาดว่าหากรัฐบาลมีการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และน้ำมัน รวม 3 รายการนี้ จะทำให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มอีกประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับในที่ประชุม ครม. ว่า เรื่องการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตนั้นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว รอบคอบ และที่สำคัญคือ ประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันว่า ขณะนี้ยังไม่ทำอะไรที่ส่งผลกระทบไปถึงราคาหน้าปั๊ม เมื่อถามว่าแนวทางหมายถึงอาจจะต้องไปลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อไม่ให้กระทบกับราคาหน้าปั๊มใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "วันนี้ผมยืนยันว่าในช่วงระยะข้างหน้าตรงนี้ไม่มีอะไรกระทบราคาหน้าปั๊มแน่"

รายงานข่าวแจ้งว่า น.พ.วรรณรัตน์เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เป็นกรณีพิเศษหลังจากประชุม ครม. แล้วเสร็จ โดยแนวทางที่กระทรวงพลังงานเตรียมไว้ดูแลคือการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขณะนี้มีอยู่ถึง 16,000 ล้านบาทในการเข้าไปดูแล ซึ่งวันที่สรรพสามิตน้ำมันมีผลปรับขึ้น กระทรวงพลังงานจะปรับลดการนำส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ทันทีเพื่อช่วยไม่ให้ราคาน้ำมันหน้าปั๊มปรับขึ้นจนกระทบประชาชน หลังจากนั้นจะดูจังหวะราคาน้ำมันช่วงขาลงในการปรับขึ้นกองทุนน้ำมันฯ ที่ลดให้ไป หรืออาจจะใช้วิธีทยอยปรับขึ้นราคาเป็นช่วงๆ ครั้งละไม่เกิน 50 ส.ต./ลิตรเพื่อไม่ให้กระทบประชาชน หากปรับขึ้นภาษี 2 บาทจะต้องใช้เงินในการดูแลราคาน้ำมันประมาณ 4,000 ล้านบาท/เดือน อย่างไรก็ตามขณะนี้คงต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงการคลังว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบการขยับกรอบเพดานภาษีสรรพสามิตน้ำมันให้ขึ้นอีก 2 บาท/ลิตรทุกประเภท แต่จะขึ้นเมื่อใดนั้นต้องให้ทางกรมสรรพสามิตออกประกาศอัตราใหม่ที่ชัดเจนเสียก่อนคาดว่าจะมีผลในเร็วๆ นี้ และการที่ยังไม่มีการประกาศที่ชัดเจนก็เพราะหวั่นเกรงว่าจะมีการกักตุนน้ำมัน

ที่ตลาดประชานิเวศน์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง ครม.มีมติให้ปรับขึ้นราคาสุรามีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนวันที่ 7 พ.ค.ปรากฏว่า จากการสำรวจพบว่าร้านค้าสะดวกซื้อ ทั้งเซเว่นอีเลฟ เว่น และท็อปซูเปอร์มาเก็ต ยังคงราคาเดิม เนื่องจากยังไม่ปรับเปลี่ยนป้ายราคาที่จำหน่ายสุราในขณะนี้ได้ทัน ต้องรอช่วงเปลี่ยนผลัดเวรพนักงานชุดใหม่ที่มาทำหน้าที่ ซึ่งจะมีการเช็ก สต๊อกตอนนั้นอาจจะมีการปรับราคาขึ้น ประกอบกับช่วงเวลาที่ให้ขึ้นราคาเหล้านั้นเป็นช่วงเที่ยงคืน ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถจำหน่ายได้ ดังนั้น หากจะขึ้นราคาก็ต้องเป็นช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ค. ส่วนร้านค้าประเภทค้าส่งก็ยังไม่มีการปรับราคา เนื่องจากสินค้าที่ได้สั่งมานั้นพอดีกับที่จะต้องจำหน่ายให้ลูกค้าประจำ ซึ่งหากจะมีการปรับต้องรอวันที่ 7 พ.ค.เช่นกัน

สำหรับการขึ้นภาษีดังกล่าวนั้น เบียร์ จาก 55 บาทต่อลิตรเป็น 60 บาทต่อลิตร หรือเพิ่มขึ้น 5.5% หรือเพิ่มขึ้นขวดละ 4-5 บาท สุราขาว จาก 110 บาทต่อลิตรเป็น 120 บาทต่อลิตร หรือเพิ่มขึ้น 9.1% หรือขวดละ 1.75-2.50 บาท สุราผสม จาก 280 บาทต่อลิตรเป็น 300 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 7.1% หรือเพิ่มขึ้นขวดละ 4-5 บาท และบรั่นดี จาก 45% เป็น 48% เพิ่มขึ้น 6.7% หรือเพิ่มขึ้นขวดละ 19 บาท

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้ของกรมจัดเก็บรายได้ที่สำคัญ 3 แห่ง ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 52 สามารถเก็บรายได้ทั้งสิ้น 714,412 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ประมาณไว้ที่ 817,405 ล้านบาท จำนวน 102,993 ล้านบาท หรือ 12.59% โดยกรมศุลกากรจัดเก็บต่ำกว่าเป้ามากที่สุด 18.13% โดยผลการจัดเก็บประกอบด้วย กรมสรรพากรจัดเก็บได้ทั้งสิ้น 518,693 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 61,933 ล้านบาท หรือ 10.67% ขณะที่กรมศุลกากรจัดเก็บรายได้ทั้งสิ้น 47,426 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 10,504 ล้านบาท หรือ 18.13% และกรมสรรพสามิตจัดเก็บได้ทั้งสิ้น 148,293 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 30,556 ล้านบาท หรือ 17.08%

ยัน"ศึกชิงนาง"ตุรกีบุกฆ่าหมู่44ศพ



เมื่อ 6 พ.ค. เอพีรายงานความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญในตุรกี กลุ่มมือปืนบุกยิงกราดกลางพิธีหมั้นในหมู่บ้านบิลเจ จังหวัดมาร์ดิน ชุมชนชาวเคิร์ด ฝั่งตะวันออกของประเทศ สังหารเหยื่อ 44 ศพ ว่า ตำรวจเพิ่มผู้ต้องสงสัยจาก 8 เป็น 12 ราย สั่งฟ้องแล้ว 8 ราย ผลการสอบสวนเริ่มเน้นไปที่ปมศึกชิงนางที่เป็นปมแค้นระหว่างตระกูล ส่วนเหยื่อผู้เสียชีวิต มีข้อมูลแก้ไขว่า คู่หมั้นเสียชีวิตทั้งคู่ จากเดิมที่คิดว่า ฝ่ายหญิงรอด นอกจากนี้ยังมีหญิงท้อง 3 รายเสียชีวิตด้วย พร้อมเด็ก 6 ราย

จากคำให้การของชาวบ้านในพื้นที่เกิดเหตุได้ความตรงกันว่า สาเหตุของเหตุการณ์ฆ่าล้างโคตรครั้งนี้ มาจากความบาดหมางของสองตระกูล คือครอบครัวของกลุ่มมือปืน และครอบครัวของว่าที่เจ้าสาว ซึ่งมีประวัติที่ไม่ถูกกันอยู่แล้วจากศึกพิพาทฟาร์มประมงในพื้นที่ กลุ่มมือปืนต้องการให้ น.ส.เซฟจี เซเลบี ว่าที่เจ้าสาวแต่งงานกับสมาชิกในกลุ่ม แต่บ้านฝ่ายหญิงไม่ยอม จึงบุกไปล้างแค้น

ไม่รู้ผู้หญิงจะสวยขนาดไหนถึงตายกันมากจังข่าวนี้เครียดนะ

จีนล้มแผนพิลึก-พ่นบุหรี่



เมื่อ 6 พ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ทางการท้องถิ่นเมืองกงอัน มณฑลหูเป่ย ของจีน ยอมยกเลิกคำสั่งบังคับให้ข้าราชการในพื้นที่สูบบุหรี่รวมกันให้ได้ปีละ 230,000 ซองเพื่อเอาเงินภาษีบุหรี่มากระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นแผนซึ่งสังคมรุมต่อต้าน จนรัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่งต้องยื่นมือเข้ามาบีบให้ล้มเลิก

"เฟียต"รอด

รุ้งตัดแวง

สปาย-กลาส



ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกย่ำแย่ อาทิ จีเอ็ม ไครสเลอร์ และฟอร์ด ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เลหลังกิจการบางส่วนเพื่อปรับโครงสร้าง

เฟียต เอสพีเอ ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากอิตาลี ผู้จำหน่ายรถยนต์เฟอร์รารี่และมาเซราติ กำลังรุกคืบสวนทางชาวบ้าน

นายแซร์จิโอ มาร์ชิโอนเน่ ซีอีโอเฟียต เชื่อมั่นเฟียตจะรอด แม้ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกตกต่ำ และหากบริษัทรถยนต์แห่งไหนต้องการอยู่รอดจะต้องมียอดขายรวมทั่วโลกต่อปีไม่ต่ำกว่า 5.5 ล้านคัน

เป็นตัวเลขที่มากกว่ายอดขายของเฟียตในปี 2008 ซึ่งอยู่ที่ 2.2 ล้านคันกว่า 2 เท่าตัว

แต่เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายเฟียตยอมขายกิจการบางส่วนเอาเงินมาลงทุนเพิ่ม หรือควบกิจการกับเจ้าอื่น

หลังจากบรรลุข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับไครสเลอร์สัปดาห์ก่อน เฟียตเข้าถือหุ้น 20% ของไครสเลอร์ ซึ่งเฟียตจะใช้โรงงานไครสเลอร์ในอเมริกาเหนือและใช้เครือข่ายไครสเลอร์ในการจำหน่ายแบรนด์รถยนต์อัลฟาโรมิโอ และรถยนต์มินิ เฟียต 500 ในสหรัฐ

เฟียตยังมุ่งความสนใจไปยังโอเปิ้ล รถยนต์เยอรมันในเครือจีเอ็มที่กำลังปรับโครงสร้าง และจำเป็นต้องใช้เงินราว 151,000 ล้านบาทเพื่อฟื้นตัว

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะจับคู่กับไครสเลอร์หรือโอเปิ้ลตัวเลขก็ยังไม่ทะลุตามเป้า เนื่องจากมีการประเมินว่าไครสเลอร์จะมียอดขายปีนี้เพียงแค่ 1.7 ล้านคันเท่านั้นจากเดิมปี 2008 อยู่ที่ 2 ล้านคัน

ส่วนโอเปิล ยอดขายทั้งแบรนด์โอเปิ้ลและวอกซ์ฮอลล์รวมกันในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 1.3 ล้านคัน

ไตรมาสแรกปีนี้ เฟียตขาดทุนมากถึง 18,400 ล้านบาท และถือเป็นการขาดทุนช่วงไตรมาสแรกของปีเป็นครั้งแรกนับจากปี 2004

ไครสเลอร์และโอเปิ้ลคงยังไม่พอสำหรับเฟียต ต้องจับตาดูกันต่อไป

มะกันเผยโฉม"เฟซออฟ"เหยื่อสามีปืนโหด



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
เฟซออฟ- นางคอนนี่ คัลป์ หญิงชาวอเมริกันวัย 46 ปี เปิดตัวในงานแถลงข่าวเป็นคนไข้รายแรกของสหรัฐที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าจากศพสตรีที่บริจาคไว้ ที่คลินิกคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ แม้ใบหน้าเปลี่ยนจากเดิมมาก (ภาพเล็ก) แต่ช่วยให้ใช้ชีวิตได้ปกติขึ้น เมื่อ 5 พ.ค. (เอพี)

</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 6 พ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า แพทย์สหรัฐอเมริกาแถลงข่าวเปิดตัวคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าประสบความสำเร็จเป็นรายแรกของประเทศ ตอกย้ำความมหัศจรรย์ให้กับวงการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะโลก คนไข้รายนี้ชื่อนางคอนนี่ คัลป์ อายุ 46 ปี เป็นคุณแม่ลูกสอง ชาวรัฐโอไฮโอ ถูกสามียิงเสียโฉมเมื่อ 5 ปีก่อนจนหน้าพังยุบหาย ไม่เหลือจมูก เพดานปากและหนังตาล่าง ต้องกินอาหารกับหายใจผ่านท่อทางที่ใส่ในหลอดลม กระทั่งได้ใบหน้าใหม่จากสตรีที่เสียชีวิตไปแล้วและขอสงวนนาม <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

ดร.มาเรีย ซีมิโอนาว หัวหน้าทีมแพทย์คลินิกคลีฟแลนด์ ในรัฐโอไฮโอ กล่าวว่า นางคอนนี่ คัลป์ เป็นคนไข้ที่ได้รับการปลูกถ่ายใบหน้าคนแรกของประเทศ การผ่าตัดใช้ใบหน้าบริจาคถึงร้อยละ 80 แม้ว่าตอนนี้ยังดูหนาแข็ง แต่ช่วยให้นางคัลป์พูดได้ ยิ้มได้ ดมกลิ่น และรับรสชาติได้

สาเหตุที่ทำให้ใบหน้านางคัลป์ เสียโฉมอย่างร้ายแรง เนื่องจากถูกนายโธมัส สามี ยิงแสกหน้า แล้วจึงยิงตัวตาม แต่ไม่ตาย ไปติดคุกอยู่ 7 ปี ส่วนนางคัลป์ต้องทนทุกข์อยู่กับอาการบาดเจ็บร้ายแรงจากใบหน้าที่ยับเยิน ต่อมาได้พบดร.ไรซาล โยฮัน แพทย์ที่มาตรวจคนแรก บอกว่าจะพยายามช่วยเท่าที่ทำได้

"ฉันเป็นก็อย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะ หลัง 5 ปีผ่านมา ฉันมีจมูกแล้ว" นางคัลป์กล่าวติดตลก พร้อมให้แง่คิดว่า "บางคนอาจมีใบหน้าบิดเบี้ยว ไม่ได้ดูดีอย่างที่คุณมี โปรดอย่าตั้งแง่รังเกียจ เพราะคุณไม่รู้หรอกว่า เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา"

นางคัลป์เข้ารับการรักษาเมื่อเดือนธ.ค.ปีก่อน ผ่าตัดมาแล้ว 4 ครั้ง ใช้ศัลยแพทย์ 11 คน ครั้งแรกใช้เวลาลงมีด 22 ชั่วโมง แพทย์นำเนื้อเยื่อใบหน้าจากหญิงที่เสียชีวิตแล้วมาปลูกถ่ายใส่เสมือนหน้ากากที่ครอบลงไปเกือบทั้งหน้า โดยพยายามรักษาเส้นเลือด เส้นประสาท เนื้อเยื่อและโครงสร้างกระดูกเดิมไว้ โดยก่อนกรณีของนางคัลป์ บุคคลแรกที่ได้รับการปลูกถ่ายใบหน้า เป็นหญิงชาวฝรั่งเศส ตามด้วยชายชาวจีน

 

ไข้หวัดระบาดฮ่องกง ติดเชื้อคนแรก งดทักทายแบบ'ฮองกี'

นิวซีแลนด์ส่งหนังสือแจ้งพระนักบวชทั่วประเทศ งดการวางขนมปังบนลิ้นของคริสตศาสนิกชนที่ร่วมพิธีศีลมหาสนิท ขณะที่ส.ส.ตัวแทนชนเผ่าเมารี ร้องขอให้งดทักทายแบบจมูกชนจมูก..

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่า นายโธมัส อับราฮัม โฆษกขององค์กรอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า แม้ปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสยังน่าเป็นห่วง แต่ WHO ยังไม่ได้กำหนดวันประชุมของคณะกรรมการฉุกเฉินขององค์กรแต่อย่างใด ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าว สามารถให้คำแนะนำแก่นางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนการยกระดับเตือนภัยการระบาดของไวรัสได้ ซึ่ง WHO เพิ่งยกระดับขึ้นเป็นระดับ 5 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (29 เม.ย.)

ส่วนการพยายามป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสเพิ่มเติมในเม็กซิโก ต้นตอการระบาดประเทศแรก ล่าสุดทางการเม็กซิโก เรียกร้องชาวเม็กซิกันอยู่แต่ในบ้านในช่วงวันหยุดยาว "ซินโก เดอ มาโย" ระหว่างวันที่ 1-5 พ.ค. ป้องการการระบาดของไวรัส ขณะที่นายโฮเซ แองเกล คอร์โดวา รัฐมตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของเม็กซิโก เผยว่ายอดผู้มาเข้ารับการรักษาที่มีอาการไข้หวัดตามโรงพยาบาลรัฐเกือบทั่วประเทศมีเพียง 46 ราย ลงจาก 212 รายที่เคยพบเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ถือเป็นสัญญาณบวกที่ชี้ว่าสถานการณ์การระบาดเริ่มอยู่ตัว

สำหรับตัวอย่างที่ส่งตรวจในห้องทดลองที่สหรัฐฯ แคนาดาและเม็กซิโก พบว่าในกลุ่มผู้เสียชีวิต 176 คนในเม็กซิโก ได้รับการยืนยันว่าติดไวรัสเพียง 12 คน แต่ตัวเลขของผู้เสียชีวิตที่ถูกยืนยันว่าติดเชื้อในเม็กซิโก น่าจะมีเพิ่มอีก ขณะที่ผู้ล้มป่วยต้องสงสัยติดไวรัสหวัดหมูของประเทศ มีกว่า 3,000 คนแล้ว

เยอรมนี พบผู้ป่วยติดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ติดเชื้อภายในประเทศเป็นกรณีแรก ทั้งนี้ นายจอร์ก แฮคเกอร์ ประธาน "โรเบิร์ต โคช อินสติจิว" เผยว่า ผู้ป่วยเป็นพยาบาล วัย 42 ปี ติดเชื้อขณะให้การดูแลผู้ป่วยชาย วัย 37 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเม็กซิโกในเมืองแลนชุต ตอนนี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลโรเซนบอร์กแต่อาการไม่น่าเป็นห่วง ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแคว้นบาวาเรีย ยืนยันพบผู้ป่วยติดไวรัส 1 คนในเมืองฟายซิง ทำให้เยอรมนีมีผู้ป่วยไวรัสที่ได้รับการยืนยันเพิ่มเป็น 5 ราย

ขณะที่อังกฤษ กำลังรอลุ้นผลตรวจผู้ป่วยต้องสงสัยรายหนึ่งว่าจะติดเชื้อไวรัสผ่านคนสู่คนภายในประเทศเป็นกรณีแรกหรือไม่ โดยผู้ป่วยคนดังกล่าว สื่ออังกฤษระบุว่าชื่อนายแกรม ปาซิตติ วัย 24 ปี เป็นเพื่อนของคู่สามีภรรยา แต่งงานใหม่ที่เพิ่งกลับจากการไปฉลองฮันนีมูนในเม็กซิโกและถูกตรวจพบติดไวรัสเป็นกรณีแรกของเมืองผู้ดี

ด้านนิวซีแลนด์ ประเทศแรกในแถบเอเชีย-แปซิฟิกที่พบการระบาดของไวรัสและมีตัวเลขผู้ป่วยยืนยันติดไวรัสเพิ่มเป็น 4 คนเมื่อวันศุกร์และต้องสงสัย 12 คน เพื่อร่วมป้องกันการระบาดของไวรัส โบสถ์โรมัน คาทอลิค ส่งหนังสือแจ้งพระนักบวชทั่วประเทศ งดการวางขนมปังกรอบหรือเวเฟอร์ บนลิ้นหรือในปากของคริสตศาสนิกชน ผู้มาร่วมพิธีศีลมหาสนิท ส่วนราฮุย คาเทน ส.ส.ตัวแทนชนเผ่าเมารี ร้องขอให้ว่างเว้นชั่วคราวการทักทายแบบ "ฮองกี" ทำเนียมการทักทายของชนเผ่าเมารีที่ใช้จมูกชนจมูก

ขณะที่นายนิค สมิธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของนิวซีแลนด์ เผยว่าเขาและภรรยาจะอยู่แต่ในบ้านและเว้นพบปะผู้คน สักระยะหลังถูกตรวจพบมีไข้หวัดหลังเพิ่งกลับจากการฮันนีมูนในแถบเอเชีย แต่นายโทนี ไรอัล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ เผยว่าแม้พวกเขาจะเป็นไข้หวัด แต่ไม่คิดว่าจะต้องวิตกกังวลว่าจะเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่

ข่าวรายงานด้วยว่าการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในปัจจุบัน ทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีทางโลกไซเบอร์ฉวยโอกาส กระจายไวรัสลงระบบเล่นงานคอมพิวเตอร์เป็นว่าเล่น อาศัยอ้างว่ามีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ลวงล่อให้ผู้รับเมล์ คลิกเมาส์ยอมรับเมล์ซึ่งกลับกลายเป็นไวรัสคอมพิวเตอร์แทนรวมทั้งไวรัสตัวใหม่ที่ชื่อว่า Conficker Stormc และไวรัสร้ายตัวอื่นๆ บางกรณีเป็นการโฆษณาแฝงขายยาเพิ่มพลังทางเพศหรือยาเพิ่มขนาดของอวัยวะเพศก็มี

ด้านสถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติของญี่ปุ่น เตือนระวังติดไวรัสคอมพิวเตอร์จากเมล์ภาษาญี่ปุ่นต้องสงสัยที่มาพร้อมการแนบ แฟ้มเอกสาร (ไฟล์) เข้ามาที่ชื่อว่า "information on swine flu" ที่กำลังถูกส่งเวียนทางอินเตอร์เนตอยู่ในขณะนี้ด้วย นอกจากนี้ การสั่งซื้อยาออนไลน์ตามเมล์โฆษณาทางอินเทอร์เน็ต ก็ต้องระวังไม่แพ้กัน เพราะอาจถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวจำพวกเลขบัตรเครดิตและอื่นๆ ไปหาประโยชน์ได้

ข่าวระบุต่อไปว่าว่านายโดนัลด์ จ้าง ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ออกมาเปิดเผยว่าฮ่องกง พบผู้ป่วยติดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการยืนยันแล้วเป็นรายแรกของเกาะเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) ผู้ป่วยเป็นชาวเม็กซิกัน เพิ่งเดินทางมาถึงฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสและก่อนมาฮ่องกง ได้แวะพักที่นครเซี่ยงไฮ้ของจีนด้วย ขณะที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตว่านจ๋ายที่เขาเข้าพักในฮ่องกง ถูกเจ้าหน้าที่ปิดกั้นบริเวณไว้แล้ว

วันเดียวกัน นายเอลเซ สมิธ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแห่งชาติของเดนมาร์ก เผยว่าเดนมาร์ก ตรวจพบผู้ป่วยติดไวรัสเป็นรายแรกของประเทศเช่นกัน ด้านแคนาดา พบผู้ติดไวรัสเพิ่มอีก 1 คน ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยติดไวรัสเพิ่มเป็น 35 คนแล้ว


<OBJECT class=sIFR-flash id=sIFR_replacement_2 height=18 width=190 classid=clsid27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>
























</OBJECT>ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวต่างประเทศ
• 2 พฤษภาคม 2552, 05:00 น.

tags:
ไข้หวัด ระบาด ฮ่องกง

ไข้หวัดใหญ่2009 ลามเกาหลี-ฝรั่งเศส จีนห้ามบินเม็กซิโก

ฮู ยันตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ 2009 ที่ 367 ราย ขณะที่เกาหลีพบผู้ป่วย 1 รายและฝรั่งเศส 2 ราย ส่วนจีน สั่งระงับเที่ยวบินจากเม็กซิโกแล้ว...
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวานนี้ (1 พ.ค.) ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009? ทั่วโลก ยังคงทยอยเพิ่มขึ้น ท่ามกลางสัญญาณแห่งความหวัง ในการยับยั้งการแพร่ระบาด โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลก ขณะนี้อยู่ที่ 367 ราย รวมถึง 141 ราย ในสหรัฐฯ และ 156 ราย ในเม็กซิโก ขณะเดียวกัน บรรดานักวิจัยกำลังเร่งทำงาน เพื่อพัฒนาวัคซีนสำหรับเชื้อไข้หวัดใหญ่ดังกล่าว
ขณะที่ไมเคิล ชอว์ หัวหน้าทีมวิจัย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) คาดหวังว่า จะสามารถผลิตวัคซีนได้ ภายใน 1 เดือน ซึ่งนักวิจัยจะทำงานอย่างดีที่สุด และเร็วที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้

อย่างไรก็ตาม วานนี้ โรซาลีน บาเชลโลต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศส ยืนยันว่า ผู้ป่วย 2 ราย ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ส่วนที่เม็กซิโก ซึ่่งเป็นประเทศที่เกิดการแพร่ระบาดแห่งแรกนั้น ภาคธุรกิจจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน บริษัทห้างร้าน โรงงาน และหน่วยงานราชการ ต่างปิดให้บริการ เป็นเวลา 5 วันแล้ว ตามคำสั่งของประธานาธิบดีเม็กซิโก ที่ขอให้ประชาชนในประเทศอยู่แต่ในบ้าน เพื่อชะลอการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

ขณะที่มาร์เซโล เอบราร์ด นายกเทศมนตรี กล่าวว่า มาตรการฉุกเฉินเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด กำลังจะประสบผล และนำไปสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น ในทุกๆ วัน

ด้านสำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้ รายงานว่า ทางการเกาหลีใต้รายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เป็นรายแรก เป็นแม่ชีอายุ 51 ปีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข เกาหลีใต้ระบุว่า แม่ชีคนดังกล่าวถูกกักตัวไว้รอดูอาการตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา หลังเดินทางกลับมาจากเม็กซิโก และได้รับการยืนยันแล้วว่า พบเชื้อไวรัสไข้หวัดดังกล่าว นับเป็นผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกของประเทศ แม่ชีรายนี้ยังเป็น 1 ใน 3 ของผู้ต้องสงสัยติดเชื้อที่มีรายงานในสัปดาห์นี้ ซึ่งอีก 2 คนเป็นหญิงวัย 44? ปี และ คนขับโดยสาร วัย 57 ปี โดยผลการตรวจคนขับรถโดยสารไม่พบเชื้อ ขณะที่หญิง วัย 44 ปี พบว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ

ส่วนสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า จีนสั่งระงับเที่ยวบินขาเข้าจากเม็กซิโกไปลงยังนครเซี่ยงไฮ้แล้ว หลังจากพบชายคนหนึ่งมีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ซึ่งนับเป็นรายแรก ในเอเชีย ผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือชนิดเอ เอช1 เอ็น1 อยู่ในเที่ยวบินที่มาจากเม็กซิโก ทางการจีนจึงได้ตัดสินใจสั่งไม่ให้เที่ยวบินจากเม็กซิโกไปลงจอดยังนคร เซี่ยงไฮ้ทางภาคตะวันออกของจีน และว่า ทางการจีนได้แจ้งคำสั่งระงับเที่ยวบินไปยังรัฐบาลเม็กซิโกและสายการบินต่าง ๆ แล้ว จนกว่าจะสามารถควบคุมการระบาดได้

เปิดสายด่วน 1212 รับแจ้งเว็บไม่เหมาะสม


พร้อมอีเมล 1212@ mict.mail.go.th ไอซีทีหวังเปิดช่องทางประชาชนมีส่วนร่วมแจ้งเบาะแสให้ทางราชการ ขจัดปัญหาเว็บผิดศีลธรรม และเว็บการพนัน ขณะที่รอลุ้นทีโอทีพิจารณาเปิดสัญญาณสถานีดี สเตชั่น...

ร.ต.ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงไอซีที จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยอินเทอร์เน็ต หรือ Internet Security Operation Center :ISOC เพื่อเป็นศูนย์กลางการประสานงานของหน่วยงานต่างๆ โดยมีเครือข่ายความร่วมมือ ส่วนกลาง ส่วนภูมิถาค และระดับท้องถิ่น สำหรับใช้เป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพ และทันต่อสถานการณ์ในการป้องกัน

รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า กระทรวงไอซีทีได้เปิดโทรศัพท์สายด่วน 1212 จำนวน 5 คู่สาย เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมแจ้งเบาะแสเว็บไม่เหมาะสมให้กับทางราชการ อาทิ เว็บด้านความมั่นคง เว็บลามก และเว็บการพนัน โดยมีเจ้าหน้าที่รับแจ้งข้อมูลจำนวน 20 คน ตลอด 24 ชั่วโมง และอีเมล์ 1212@mict.mail.go.th คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยลดปัญหาเว็บไม่เหมาะสมลงได้

ร.ต.ระนองรักษ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงไอซีที ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการค้นหาข้อมูลและจัดการอย่างเด็ดขาดกับเว็บที่ไม่เหมาะสม ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หรือ พ.ร.บ.คอมฯ อีกทั้ง เร่งปราบปรามการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมาย และไม่เหมาะสมผ่านระบบไอซีที ขณะที่ศูนย์ ISOC สามารถช่วยลดความรุนแรง หรือโอกาสที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยในประเทศ

รมว.ไอซีที กล่าวด้วยว่า ปัญหาเรื่องการปิดสัญญาณสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ดี สเตชั่น อยู่ระหว่างจัดทำผังรายการเพื่อส่งให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบ เนื่องจากสถานีฯ ทำผิดสัญญาเดิมที่ให้ไว้ ในเรื่องปลุกระดมประชาชนให้เกิดความไม่สงบสุข อย่างไรก็ตาม หากสถานีฯ ขอต่อสัญญาการออกอากาศอีก คณะกรรมการจากทีโอทีจะเป็นผู้พิจารณา ทั้งนี้ ไม่สามารถระบุได้ว่าจะได้รับการพิจารณาให้ออกอากาศได้อีกหรือไม่

ทหารพม่าจับกุม หนุ่มใหญ่มะกัน ว่ายน้ำบุกเข้าบ้านซูจี


สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหภาพพม่า อ้างว่าเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าวจากหนังสือพิมพ์พม่า เจ้าหน้าที่สถานทูตอยู่ระหว่างติดต่อขอพบผู้ต้องหา ถือเป็นงานปกติของสถานทูต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (7 พ.ค.) ว่า ทางการพม่าเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบบ้านพักริมทะเลสาบกลางนคร ย่างกุ้งของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านรัฐบาลทหารพม่า วัย 63 ปี หลังจับกุมชายชาวอเมริกัน ทราบชื่อภายหลังคือนายจอห์น วิลเลียน เยียตทอว์ วัย 53 ปี ใช้วิธีว่ายน้ำข้ามทะเลสาบอินยา แอบเข้าบ้านนางซูจีและหลบอยู่ภายในบ้านนานถึง 3 คืน ก่อนว่ายน้ำออกมาทางเดิม จนถูกทหารพม่าจับกุมตัวเอาไว้ได้

หนังสือพิมพ์นิว ไลต์ ออฟ เมียนมาร์ กระบอกเสียงรัฐบาลทหารพม่า รายงานระบุนายจอห์น ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมขึ้นจากทะเลสาบอินยาเมื่อเช้าวันพุธ 6 พ.ค. หลังเดินทางเข้าประเทศสหภาพพม่าด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. จากนั้นนายจอห์นแอบว่ายน้ำขึ้นบ้านนางซูจีในช่วงกลางคืน หลบอยู่ในบ้านนางซูจีถึง 3 คืน กระทั่งว่ายน้ำกลับออกมาจากบ้านพักนางซูจี โดยได้รับความช่วยเหลือให้ถังน้ำดื่มขนาดบรรจุ 5 ลิตร ติดตัวมาด้วย แต่ถูกจับได้เมื่อช่วงเช้าเวลา 05.30 น.ของวันพุธ

เจ้าหน้าที่พม่าพบหลักฐานติดตัวนายจอห์น ได้แก่ หนังสือเดินทาง เป้สะพายหลังสีดำ ไฟฉาย คีมมีดพับ กล้องถ่ายรูปและธนบัตรดอลลาร์สหรัฐฯ200 เหรียญกับเงินพม่าอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนเหตุจูงใจนายจอห์นจากการกระทำดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นางซูจี ถูกรัฐบาลพม่าสั่งกักบริเวณมาตลอดช่วง 13 ปี จากกว่า19 ปี นับตั้งแต่พรรคการเมืองของเธอชนะการเลือกตั้งในสหภาพพม่าเมื่อปี 2533

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหภาพพม่า อ้างว่าเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าวจากหนังสือพิมพ์พม่า เจ้าหน้าที่สถานทูตอยู่ระหว่างติดต่อขอพบผู้ต้องหา ถือเป็นงานปกติของสถานทูตเมื่อมีพลเมืองถูกจับกุมในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เหตุชาวอเมริกันบุกบ้านพักนางซูจี ทำให้พรรคสันติบาตชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดีของนางซูจี แถลงแสดงความวิตกกังวลถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่นางซูจี เธอพักอยู่ในบ้านกับแม่บ้านอีก 2 คน โดยมีเพียงแพทย์ได้รับอนุญาตเข้าตรวจสุขภาพนางซูจีบางครั้งเท่านั้น ขณะที่นางซูจี ยังอยู่ระหว่างถูกกักบริเวณ โดยกำหนดการกักบริเวณของเธอจะสิ้นสุดลงในวันที่ 27 พ.ค.นี้ แต่รัฐบาลทหารพม่ายังไม่ยอมให้อิสระภาพแก่เธอ

 

หนังภัยทางธรรมชาติ ฝีมือสร้างของคนไทย​

​

​

​

ใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 3 ปี ตอนนี้ภาพยนตร์ 2022 สึนามิวันโลกสังหาร พร้อมฉายให้ชมปลายเดือนเมษายนนี้ โดย ทรนง ศรีเชื้อ ผู้กำกับฯ เผยว่า

"สำหรับ หนังเรื่อง 2022 สึนามิวันโลกสังหาร ถ่ายเสร็จไปแล้วประมาณ 4 เดือน ตอนนี้ตัดต่อและทำคอมพิวเตอร์กราฟิก ซึ่งกำหนดฉายจะเป็นวันที่ 30 เม.ย.52 สำหรับหนังเรื่องนี้พอใจมาก เพราะเป็นหนังที่ไม่เกี่ยวกับหนังตลาด และเป็นหนังที่พูดถึงโลกในวันนี้ได้ชัดเจนที่สุด เพราะ เราจะพูดถึงวิกฤตของโลกในปัจจุบัน ซึ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับน้ำมือของมนุษย์ทั้งสิ้น เรื่องนี้เอาประเทศไทยเป็นตัวละครเอก นักแสดงในเรื่องเป็นแค่ตัวประกอบเท่านั้น ใช้ทุนสร้างถึง 160 ล้านบาท ถ่ายกันนานถึง 3 ปี"

โดยส่วนใหญ่ก็จะถ่ายที่โรงถ่ายของผม ที่แก่งกระจาน คันทรีคลับ ในหนังเรื่องนี้คนจะได้เห็นน้ำท่วมกรุงเทพฯ ได้เห็นสึนามิ และอะไรอีกหลายๆอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เรื่องนี้จะไม่มีเสียงหัวเราะ ดูแล้วจะกดดัน ยิ่งคนที่ได้ผ่านเหตุการณ์สึนามิมาดูแล้วจะต้องร้องไห้ แต่ก็จะมีฉากที่เป็นโรแมนติกให้ได้ผ่อนคลายบ้าง และจะแฝงไว้ด้วยปรัชญาและความเชื่อทางพระพุทธศาสนาเรา เริ่มขายหนังเรื่องนี้ในต่างประเทศบ้างแล้ว อย่างเช่น อินเดีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เยอรมัน รัสเซีย ได้เงินมาจำนวนหนึ่งแล้ว ซึ่งประเทศที่เราขายไปส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศที่เคยเกิดสึนามิทั้งนั้น พอเห็นตัวอย่างหนังเขาซื้อเลยครับ"

ส่วนโรงถ่ายตอนนี้ก็เสร็จเกือบหมดแล้วครับ ก็ใช้ถ่ายหนังเรื่องนี้และก็จะมีถ่ายเรื่องอื่นๆอีก ซึ่งโรงถ่ายนี้ตอนนี้ก็เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปในตัวด้วย เพราะมีทั้งที่พัก สนามบีบีกัน เอทีวี และอื่นๆ อีกมากมายครับ"

ที่มา http://movie.sanook.com/news/news_15357.php

เรื่องย่อหนัง 2022 สึนามิ วันโลกสังหาร

ภายหลังเหตุธรณีพิบัติภัยครั้งยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2004 (พ.ศ. 2547) ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสภาวะโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์เอลนีโย่ ลานีนย่า ทุพภิกขภัย อุทกภัย แผ่นดินไหว นับครั้งไม่ถ้วนและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ในปี 2022 (พ.ศ.2565) รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ "นายกรัฐมนตรีไตรภพ" (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) ได้ออกพระราชกำหนดฉุกเฉินจัดอันดับความรุนแรงของภัยพิบัติและวางแผนการเตือนภัย โดยจัดตั้ง "ศูนย์เตือนภัยภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย" ภายใต้การดูแลของ "ด๊อกเตอร์สยาม" (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ซึ่งมีหนุ่มสาวรุ่นใหม่ไฟแรงสามคน คือ "ภูเก็ต" (พิศาล ศรีมั่นคง) "ซินดี้" (สิรินดา เจนเซ่น) และ "พีพี" (นิชาภา ประกรณ์กิจวัฒนา) ทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันด้วยอุดมการณ์รักธรรมชาติอันมุ่งมั่น ทั้งสามคนทำงานกันอย่างสนิทสนมเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน

นายกรัฐมนตรีไตรภพ เชื่อถือและเชื่อมั่นการคาดการณ์ภัยพิบัติของด็อกเตอร์สยามอย่างมาก แต่ด้วยลักษณะของภัยธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามินั้นไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และที่ไหน ด้วยเหตุนี้ทำให้ด็อกเตอร์สยามคำนวณการเกิดแผ่นดินไหวที่มีผลต่อชีวิตประชาชนผิดพลาด สร้างความตระหนกให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ เขาจึงถูกกดดันอย่างหนักจากพรรคการเมือง

เมื่อมีการเตือนภัยครั้งต่อมา ด็อกเตอร์สยามรู้ตัวดีว่าเขาคือตัวแปรสำคัญของความน่าเชื่อถือและอนาคตทางการเมือง ของนายกรัฐมนตรีไตรภพ และไตรภพ ก็ต้องเลือกระหว่างลาภยศสรรเสริญ กับ ชีวิตของประชาชนทั้งประเทศที่เขาเป็นผู้นำ

แต่ไม่ว่าเขาจะเลือกสิ่งใดก็ตาม มหันตภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดก็เกิดขึ้นจากอ่าวไทย มุ่งหน้าถล่มใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างย่อยยับ พวกเขาจะมีแผนรับมือกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่นี้อย่างไร แรงศรัทธาจะทำให้มนุษย์รอดพ้นจากหายนะครั้งนี้หรือไม่ หรือธรรมชาติเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินและชี้ชะตา หาคำตอบ 30 เมษายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

ที่มา http://www.kidstarclub.net/board/index.php?showtopic=6007

หมายเหตุ

2022 สึนามิ วันโลกสังหาร เลื่อนกำหนดฉายในโรงภาพยนต์ จากกำหนดเดิมไปเป็นวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2552

 

"ทรนง" ทำนายภัยพิบัติลงแผ่นฟิล์ม
<TABLE class=tborder style="MARGIN: 10px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 425><THEAD><TR><TD class=tcat style="TEXT-ALIGN: center" colSpan=2></TD></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=panelsurround align=middle><EMBED src=http://www.youtube.com/v/wZQWWqTxuNU width=425 height=350 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" wmode="transparent"></EMBED></TD></TR></TBODY></TABLE>
​

​

​

​

​

ร้างลาจากการกำกับหนังไปนาน เพราะมัวแต่ทุ่มทุนสร้างโรงถ่ายหนังขนาดใหญ่ ผู้กำกับรุ่นเก๋า ทรนง ศรีเชื้อ เลยวางโครงการโรงถ่ายหนังที่ จ.เพชรบุรี ลุยงานหนังสุดระทึกเรื่องใหม่ 13-04-2022 สึนามิ วันโลกสังหาร ให้คอหนังได้ดูกันอีกครั้ง หลังศึกษาเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติและคำทำนายวันสิ้นโลก พร้อมทุ่มทุนสร้างมหาศาล ​

"หนังเรื่องนี้เกิดจากความสนใจกี่ยวกับเรื่องราวของสิ่งแวดล้อมโลกของผม และระหว่างที่ผมกำลังศึกษาอย่างลึกซึ้ง เหตุการณ์สึนามิก็เกิดขึ้นในเมืองไทยจริงๆ ผมเลยตัดสินใจทำหนังสิ่งแวดล้อม เพื่อเตือนให้คนไทยทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในสิ่งต่างๆ เหล่านี้ และช่วยกันปกปักรักษาและดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว เหตุการณ์ภัยพิบัติแบบนี้ก็อาจเกิดขึ้นกับพวกเราได้อีก ​

ซึ่งในหนังเรื่องนี้ ผมจะพูดถึงภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ เมืองที่ผู้คนอยู่กันมากมายแต่ไม่มีใครใส่ใจดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า ซึ่งผมได้ไปรีเสิร์ชข้อมูลมาจากหลายแหล่ง เช่น ดร. สมิทธ ธรรมสโรช เกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วมกรุงเทพฯ ว่าจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ แต่จะท่วมด้วยสึนามิ หรือจะท่วมด้วยน้ำทะเลที่สูงขึ้นเพราะแผ่นดินกรุงเทพฯ ทรุดตัวลง หรืออาจจะมาจากรอยเลื่อนสะแกกรัง รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์แตกแยกทำให้เขื่อนแตกน้ำเลยท่วม อย่างข้อมูลจาก ดร. ปลอดประสพ สุรัสวดี ซึ่งท่านบอกถึงเรื่องของภูเขาไฟใต้น้ำที่แหลมญวน​

และนอกจากผู้รู้เหล่านี้ ผมก็ได้ไปเจอกับพระธุดงค์ที่น่าเคารพเลื่อมใส และน่าเชื่อถือ โดยท่านได้พูดถึงโลกยุคศรีอาริย์ ที่น้ำจะท่วมโลก ไฟจะไหม้โลก ซึ่งท่านได้อธิบายว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อถึงเวลาครบ 5.000 ปี เรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น เป็นช่วงเวลาที่โลกจะมีการเปลี่ยนแปลง ร้อนสุด เย็นสุด น้ำเต็มโลก หรือโลกไม่มีน้ำ จะเป็นหมดทุกอย่าง และจะวนเวียนไปอย่างนี้ ซึ่งก็ใกล้ถึงเวลาที่มันจะกลับมาแล้ว ​

พระพุทธศาสนาก็พูดเรื่องเหล่านี้ไว้อย่างชัดเจน อย่างเจ้าอาวาสที่วัดแก้วฟ้า จ.นนทบุรี ท่านก็เคยบอกไว้ว่าภายใน 10 ปีนี้น้ำจะเข้ามาทางอ่าวไทย และท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งผู้รู้หลายท่านก็พูดให้ผมฟังในประเด็นใกล้เคียงกัน แต่ผมว่าอย่าไปตกใจกับน้ำที่จะมาท่วมกรุงเทพฯ กันเลยครับ จงตกใจกับคนกรุงเทพฯ ไม่สนใจว่าน้ำจะท่วมตัวเองตายดีกว่า หนังเรื่องนี้ผมตั้งใจมากพิถีพิถันทุกขั้นตอนครับ"​

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/ent/4096​

 

ว.วชิรเมธี แนะชาวพุทธถอดรหัสวันวิสาขบูชาใช้ดำเนินชีวิต​

​

สำนักข่าวไทย 8 พ.ค.- “ว.วชิรเมธี” แนะชาวพุทธถอดรหัสวันวิสาขบูชาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตจาก 3 เหตุการณ์ ประสูติ-ดำรงชีวิตมีเป้าหมายไม่ปล่อยตามยถากรรม ตรัสรู้-พัฒนาตนเองให้ถึงสัจจธรรมเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน ปรินิพพาน-ชีวิตไม่เที่ยงต้องดำรงตนไม่ประมาท

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ “ว.วชิรเมธี” พระนักคิด นักเขียน นักเทศน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทย ถึงวันวิสาขบูชา ว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน ถ้าเรียนรู้เฉพาะเท่านั้นจะกลายเป็นว่าวันนี้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าล้วนๆ แต่อาตมาอยากจะแนะนำว่าเราสามารถเปลี่ยนวันของพระพุทธเจ้าให้เป็นวันของเราได้ โดยการถอดรหัสจาก 3 เหตุการณ์คือ

“วันประสูติ” มีคติธรรมว่า เจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติแล้วทรงดำเนินไป 7 ก้าว แล้วทรงชี้พระดรรชนีขึ้นบนฟ้าเปล่งวาจาประกาศปณิธานในการดำเนินชีวิตว่าเราจะเป็นยอดคนของโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายการเกิดใหม่จะไม่มีอีกแล้ว คติดังกล่าวชาวพุทธนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้คือ การที่พระพุทธเจ้าทรงประสบความสำเร็จในชีวิตได้เพราะทรงตั้งปณิธานในการดำเนินชีวิต ดังนั้น มนุษย์ทุกคนถ้าปรารถนาประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต ต้องตั้งปณิธานในการดำเนินชีวิต ไม่ใช่ปล่อยให้กิเลสพาไปหรืออยู่ไปตามยถาธรรมให้ชีวิตหมดวันต่อวัน หมดไปกับการหายใจทิ้งไปวันๆ

“เราจะต้องเอาอย่างพระพุทธองค์ บอกตัวเองว่าเราเกิดมาชาตินี้จะทำอะไรบ้าง ฟันธงลงไปชัดๆ ชีวิตทั้งชีวิตในชาตินี้ก็จะชัดเจนไม่พร่ามัว แต่ถ้าเราปล่อยชีวิตไปตามยถากรรมจนแก่จนเฒ่าจนจะเข้าโลง บางทีไปถามว่าคุณทำอะไรบ้าง ปรากฏว่าความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็น่าเสียดายที่ได้โควตาเกิดมาเป็นคน ฉะนั้น เราต้องบอกตัวเองว่าชีวิตต้องดำเนินไปอย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจนเหมือนพระพุทธองค์ ถ้าตั้งเป้าหมายแล้วชีวิตเราจะไม่ใช่กอสวะ ชีวิตเราจะเหมือนเรือพอแล่นออกจากท่าก็มุ่งสู่ฝั่งอย่างมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม”พระมหาวุฒิชัย กล่าว

พระมหาวุฒิชัย กล่าวอีกว่าวันตรัสรู้ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจ 4 ประการ สาระสำคัญคือก่อนตรัสรู้พระพุทธองค์เป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ได้พัฒนาตัวเองจนในที่สุดเข้าถึงสัจจธรรมสูงสุดได้ ดังนั้นเราเป็นมนุษย์เหมือนกัน ก็ต้องบรรลุสัจธรรมให้ได้ เราจึงอย่ามัวแต่ชื่นชมพระพุทธองค์ แต่ต้องบอกตัวเองด้วยว่านอกจากชื่นชมแล้วเราต้องปฏิบัติให้เป็นพุทธะขึ้นมาในตัวด้วย เราทุกคนมีศักยภาพที่จะเป็นพุทธะ คือ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เพราะพระพุทธองค์ทรงทำให้ดูแล้วว่ามนุษย์เช่นพระองค์ทรงทำได้ แล้วทำไมเราจะทำเช่นนั้นบ้างไม่ได้

ส่วนเหตุการณ์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระพุทธองค์ทรงตรัสเตือนชาวพุทธว่า เมื่อพระองค์ได้ล่วงลับไปแล้ว พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาของชาวพุทธ หมายความว่า เราจะต้องไม่ยึดติดถือมั่นในตัวบุคคล แต่เราจะต้องอยู่กับธรรมและวินัยให้ได้ ซึ่งก็คือพระพุทธศาสนา ดังนั้น เมื่อเราเห็นพระประพฤติตนเสื่อมเสีย จะไปบอกว่าพระพุทธศาสนาเสื่อมแล้วไม่ใช่ แต่ที่เสื่อมคือคนที่เข้าในศาสนาต่างหากที่เสื่อม แต่พระธรรมวินัยยังอยู่ และก่อนพระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานทรงฝากปัจฉิมโอวาทสาระสำคัญว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เกิดขึ้นมาแล้วก็แตกดับไป เพราะฉะนั้นเธอทั้งหลายจงดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท ดังนั้น ต้องอยู่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้ความตายจะมาถึง ถ้าเราคิดอยู่เสมอว่าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต เราจะคิดเลือกพูดเลือกทำแต่กิจกรรมที่มีสาระประโยชน์ให้มากที่สุด

“เหล่านี้คือคติธรรมที่เราชาวพุทธจะต้องประยุกต์เอามาใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้ ย้ำอีกครั้งว่าเหตุการณ์วันประสูติ เราต้องบอกตัวเองว่าพระพุทธองค์ดำรงชีวิตอย่างมีเป้าหมายฉันใด เราก็ต้องดำรงชีวิตอย่างมีเป้าหมายฉันนั้น เหตุการณ์วันตรัสรู้เราต้องน้อมมาสู่ตัวเองว่าพระพุทธองค์บรรลุตรัสรู้สัจธรรมฉันใด เราก็ต้องมีศักยภาพบรรลุสัจธรรมฉันนั้น เพราะความเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานไม่ได้ถูกผูกขาดไว้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เป็นเรื่องที่เราทุกคนเข้าถึงได้ เหตุการณ์ปรินิพพานให้เราเตือนตัวเองว่า ชีวิตนี้ไม่เที่ยง ต้องดำรงตัวเองด้วยความไม่ประมาท ใครทำได้อย่างนี้คือ เปลี่ยนวันของพระพุทธเจ้าให้เป็นวันของเราได้สำเร็จ” พระมหาวุฒิชัย กล่าว

พระมหาวุฒิชัย กล่าวด้วยถึงการเรียนวิชาพุทธศาสนาของไทยด้วยว่า เป็นการเรียนท่องจำเพื่อสอบซึ่งเป็นความผิดพลาดของการสอนพุทธศาสนาในสถาบันการศึกษา แท้จริงแล้วต้องเรียนพุทธศาสนาเพื่อการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้มีคุณภาพขึ้นมาจึงจะเป็นผลสัมฤทธิ์ที่แท้ของการเรียนพุทธศาสนา.- สำนักข่าวไทย

2009-05-08 09:58:11

ที่มา http://news.mcot.net/social/inside.php?value=bmlkPTkyNTIzJm50eXBlPXRleHQ=

 

WHO คาดผู้ติดเชื้อพุ่ง 2,000 ล้านคน หากหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ลามทั่วโลก ​

​

สวิตเซอร์แลนด์ 8 พ.ค. - องค์การอนามัยโลก ระบุหากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลก จะมีผู้ติดเชื้อมากถึง 2,000 ล้านคน

นพ.เคอิจิ ฟูกูดะ หัวหน้าด้านโรคหวัดแห่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า หากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไปทั่วโลก จะมีผู้คนติดเชื้อมากถึง 2,000 ล้านคน หรือกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั่วโลก และการแพร่ระบาดอาจกินเวลายาวนานถึง 2 ปี

อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ องค์การอนามัยโลกยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้จะเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลกหรือไม่ และไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หรือรุนแรงไม่ต่างจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ทั่วไป

ขณะที่โรงเรียนระดับมัธยมและอุดมศึกษาทั่วประเทศเม็กซิโก กลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติอีกครั้ง เมื่อวานนี้ หลังจากปิดเรียนนาน 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ส่วนโรงเรียนระดับประถมจะเปิดเรียนในสัปดาห์หน้า. - สำนักข่าวไทย

2009-05-08 05:12:21

รอง ปธน.กัวเตมาลา เตือนประชาชนอย่าตื่นหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่​

​

กัวเตมาลา 8 พ.ค.-รองประธานาธิบดีกัวเตมาลา เตือนประชาชนให้อยู่ในความสงบ อย่าตื่นตระหนกโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แม้จะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วก็ตาม

นายราฟาเอล เอสปาดา รองประธานาธิบดีกัวเตมาลา ได้อธิบายถึงการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อรับมือการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอช1 เอ็น1 ว่า จะใช้เวลาเพียง 30 วันเท่านั้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ระบาด หลังจากพบผู้ป่วยรายแรกที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จริง เป็นเด็กหญิงวัย 11 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับจากเม็กซิโกได้ไม่นาน

ขณะเดียวกันที่โคลอมเบีย ยาต้านไวรัสทามิฟลูจากองค์การอนามัยโลกก็มาถึงกรุงโกโบตาแล้ว รัฐบาลโคลอมเบียยืนยันว่า จะแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยทั่วประเทศตามความจำเป็นอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

2009-05-08 11:06:28

บราซิล-อาร์เจนตินา ยืนยันผู้ติดเชื้อหวัดสายพันธุ์ใหม่รายแรก​

​

บราซิเลีย 8 พค.- นายโจเซ่ เทมโปเรา รัฐมนตรีสาธารณสุขบราซิล แถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 4 ราย เป็นครั้งแรกของประเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่สองในอเมริกาใต้ที่พบผู้ป่วยดังกล่าว เช่นเดียวกับอาร์เจนตินาที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศด้วย

รัฐมนตรีสาธารณสุขบราซิล กล่าวว่าไวรัสเข้ามาถึงบราซิลแล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุการระบาดในประเทศ โดยชาวบราซิล 4 ราย ที่ติดเชื้อ มีจำนวน 3 คน ที่เดินทางมาจากเม็กซิโก ส่วนอีกคนมาจากสหรัฐ ขณะนี้กำลังติดตามผลตรวจในอีก 15 คน

ส่วนที่อาร์เจนตินาก็แถลงยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสเอช1 เอ็น1 รายแรกของประเทศเช่นกัน โดยพบในนักท่องเที่ยวชาวอาร์เจนตินาที่เพิ่งเดินทางกลับจากเม็กซิโก ซึ่งอาการของชายคนดังกล่าวไม่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลและสุขภาพยังแข็งแรงดี .- สำนักข่าวไทย

2009-05-08 09:39:24

ปากีสถานถล่มกลุ่มติดอาวุธต่อเนื่อง​

​

ปากีสถาน 8 พ.ค. - กองทัพปากีสถานยังเดินหน้าปราบปรามกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ แต่ก็ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีตายจำนวนมาก

การปะทะระหว่างกองทัพและกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่เทือกเขาสวอท ยังคงดำเนินต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แต่วานนี้กองทัพประสบความสูญเสีย เนื่องจากทหาร 10 นาย ต้องเสียชีวิต และอีก 9 นาย ได้รับบาดเจ็บ จากการปะทะกับกลุ่มติดอาวุธในเมืองมิงโกรา ซึ่งเป็นเมืองเอกของเทือกเขาสวอท ขณะที่พลเรือนหลายพันคนยังคงอพยพออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีชาวบ้านติดอยู่ในพื้นที่สู้รบอีกกว่า 500,000 คน โดยที่ไม่มีทั้งไฟฟ้าและน้ำดื่ม

ด้านหน่วยงานกาชาดสากล ยอมรับว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในพื้นที่เทือกเขาสวอทจะยิ่งวิกฤติมากขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประสบความยากลำบากในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่มีรายงานว่า มีพลเรือนเสียชีวิตจากการปะทะของทั้ง 2 ฝ่ายไปแล้วกว่า 30 คน ตลอด 2 วันที่ผ่านมา. - สำนักข่าวไทย

2009-05-08 04:14:50

ชาวแคลิฟอร์เนียนับหมื่นอพยพหนีไฟป่า​

​

สหรัฐ 8 พ.ค. - ผู้คนนับหมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน หลังไฟป่ายังคงเผาผลาญพื้นที่ใกล้ชุมชนเมืองซานตา บาร์บารา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

ไฟป่าซึ่งเริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้เผาผลาญพื้นที่รอบนอกเมืองซานตา บาร์บารา ไปแล้วกว่า 1,500 ไร่ และลุกลามเข้าใกล้ย่านชุมชนเมืองซานตา บาร์บารา ทำให้ทางการท้องถิ่นต้องประกาศให้ชาวบ้านกว่า 13,000 คน อพยพออกนอกพื้นที่ โดยจนถึงขณะนี้มีบ้านเรือนถูกไฟป่าเผาผลาญไปแล้วมากกว่า 20 หลังคาเรือน และอีกกว่า 2,000 หลัง เสี่ยงที่จะได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ดับไฟป่านับพันคนกำลังเร่งสกัดกั้นเปลวเพลิง ท่ามกลางสภาพอากาศที่แห้งแล้งและลมแรงจัด ทำให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าได้รับบาดเจ็บไป 8 คน ในจำนวนนี้ 3 คน อาการสาหัส

ก่อนหน้านี้ นายอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองซานตา บาร์บารา และเตรียมเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ในวันนี้ ขณะเดียวกัน ทางการก็กำลังสอบสวนว่า ไฟป่าในครั้งนี้มีสาเหตุมาจากการวางเพลิงหรือไม่. - สำนักข่าวไทย

2009-05-08 04:03:13

ชาวบราซิลผวางูพิษ-จระเข้ น้ำท่วมอเมซอนหนักสุดในรอบ 20 ปี​

​

บราซิล 8 พ.ค.-ชาวบราซิลพากันหวาดกลัวงูพิษและจระเข้ที่มากับอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ของพื้นที่ภาคเหนือของป่าดงดิบอเมซอน

รัฐบาลบราซิลระบุว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยครั้งใหญ่นี้แล้วถึง 33 คน มีทั้งจากการจมน้ำ และถูกโคลนถล่มทับ มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 200,000 คน ผู้ประสบภัยบางคนต้องอาศัยอยู่ในคอกสัตว์ชั่วคราวเนื่องจากบ้านถูกน้ำพัดพังทั้งหลัง ชาวบ้านต่างวิจารณ์กันว่ารัฐบาลไม่กระตือรือร้นเท่าที่ควร

สำนักพยากรณ์อากาศของบราซิลระบุว่า ภาวะอากาศเลวร้ายจะดำเนินต่อไปอีกหลายสัปดาห์ โทรทัศน์ โกลโบทีวีของบราซิล ระบุว่า เครื่องบินของทางการไม่สามารถนำสิ่งของช่วยเหลือไปให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ห่างไกลได้ คงทำได้เพียงทางเรือเท่านั้น จึงทำให้ความช่วยเหลือไปถึงมือผู้ประสบภัยช้ากว่าปกติ.-สำนักข่าวไทย

2009-05-08 10:27:23

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

สิงคโปร์เริ่มศึกษาเรื่องการสร้างกำแพงกั้นน้ำทะเล​

​

สิงคโปร์ 8 พ.ค.-อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษของสิงคโปร์เชื่อว่า ความสำเร็จในการสร้างเมืองสีเขียวในสิงคโปร์จะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น

นายลี กวน ยู ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ปรึกษาของสิงคโปร์ ได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวาระครบรอบ 150 ปีของการก่อตั้งสวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ โดยย้ำความสำคัญของโครงการรณรงค์ทำให้สิงคโปร์เป็นเมืองสีเขียวว่า ความสำเร็จของโครงการนี้จะทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพของสิงคโปร์มากขึ้น โดยส่วนที่ทำยากคือ การจัดทำสิ่งปลูกสร้างพื้นฐาน ทั้งถนนหนทาง ระบบโทรคมนาคมและท่าเรือ และการทำให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งในที่สุดสิงคโปร์ก็สามารถทำได้สำเร็จ

นายลี ยังกล่าวถึงการศึกษาเรื่องการสร้างกำแพงกันน้ำทะเล เพื่อป้องกันสิงคโปร์จากผลกระทบ สภาวะโลกร้อน อดีตผู้นำสิงคโปร์กล่าวว่า หากน้ำทะเลเพิ่มขึ้นเพียง 1 เมตร สิงคโปร์ยังพอจะรับมือได้ แต่หากสูงกว่า 2 เมตร สิงคโปร์อาจจะสูญเสียท่าเรือและชายฝั่งทะเลไป ดังนั้น รัฐบาลจึงให้บริษัทที่ปรึกษาของเนเธอร์แลนด์ศึกษาปัญหานี้อยู่ว่า จะต้องทำอย่างไร อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ไม่สามารถสร้างเขื่อนกั้นน้ำในประเทศได้ วิธีเดียวที่จะแก้ไขได้ คือ การสร้างกำแพงกันน้ำทะเล

นอกจากนี้ อดีตผู้นำสิงคโปร์ยังได้เน้นย้ำถึงการปลูกฝังค่านิยมเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมว่า จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่ในโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่สิงคโปร์กำลังทำอยู่.-สำนักข่าวไทย

2009-05-08 13:23:23

พลเรือนปากีสถานอพยพหนีภัยสู้รบนับแสนคน​

​

ปากีสถาน 9 พ.ค. - ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพปากีสถานที่โจมตีกลุ่มติดอาวุธแถบเทือกเขาสวอตอย่างหนัก ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพหนีตายออกนอกพื้นที่กว่า 200,000 คน

กองทัพปากีสถานยังคงเดินหน้าโจมตีกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่เทือกเขาสวอต ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทหารสามารถสังหารกลุ่มติดอาวุธได้มากกว่า 170 คน และสูญเสียทหารไปเพียง 10 นาย

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า การโจมตีที่เกิดขึ้น ทำให้พลเรือนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนมากกว่า 200,000 คน ขณะที่อีกกว่า 300,000 คน ก็ต้องการจะอพยพออกจากพื้นที่ ทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่า หากปฏิบัติการทางทหารยังดำเนินต่อไป ชะตากรรมของพลเรือนจะยิ่งน่าเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น

ด้านกองทัพปากีสถาน ยืนยันว่า พยายามหลีกเลี่ยงที่จะสร้างผลกระทบต่อพลเรือน และกล่าวหากลุ่มติดอาวุธว่าขัดขวางไม่ให้พลเรือนอพยพออกจากพื้นที่. - สำนักข่าวไทย

2009-05-09 03:09:33
​

<!-- End Detail -->ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นกระหน่ำฟิลิปปินส์พุ่ง 24 ราย​

​

ฟิลิปปินส์ 9 พ.ค. - ไต้ฝุ่น “จันหอม” ถล่มภาคเหนือของฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 คน และสูญหาย 3 คน ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพัดลงสู่ทะเลมุ่งหน้าสู่จีน

พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ได้แก่ พื้นที่หลายจังหวัดบนภูเขา ซึ่งชาวเมืองเสียชีวิตจากการถูกก้อนหินขนาดใหญ่ถล่มลงมาทับ เรือข้ามฟากระหว่างเกาะลูซอนและเกาะใกล้เคียงยังถูกระงับไว้ เมื่อช่วงเช้าวานนี้ ทำให้ผู้โดยสารหลายพันคนตกค้าง

ไต้ฝุ่น “จันหอม” พัดถล่มฟิลิปปินส์ด้วยความแรงลมถึง 120 กม./ชม. ทำให้เกิดฝนตกหนัก โคลนถล่ม เสาไฟฟ้าและต้นไม้โค่นล้ม ถล่มสะพานพังเสียหาย และหลังคาบ้านเรือนถูกลมพัดหายไปในหลายจังหวัดของเกาะลูซอน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฟิลิปปินส์ก็เพิ่งถูกไต้ฝุ่นถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 คน และอีกกว่า 50,000 คน ต้องอพยพหนีภัยออกจากบ้านเรือน ทั้งนี้ ในแต่ละปีฟิลิปปินส์จะถูกไต้ฝุ่นและพายุถล่มประมาณ 20 ลูก แต่ปีนี้พายุเกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีสาเหตุจากโลกร้อน. - สำนักข่าวไทย

2009-05-09 02:19:38

ไฟป่าในแคลิฟอร์เนียยังคงโหมลุกไหม้เป็นวันที่สี่​

​

ซานตา บาร์บารา 9 พ.ค. – ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียยังคงโหมลุกไหม้ติดต่อกันเป็นวันที่สี่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคาดหวังว่าสภาพอากาศจะช่วยให้พวกเขาสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ หลังจากทำลายบ้านเรือนไปแล้ว 75 หลัง

รายงานระบุว่า มีบ้านเรือนราว 3,500 หลัง และธุรกิจต่าง ๆ ราว 100 แห่ง ยังคงตกอยู่ในความเสี่ยงจากไฟป่า ซึ่งเผาผลาญพื้นที่แถบเชิงเขาไปแล้วกว่า 8,700 ไร่ และทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานประชาชนพลเรือนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากไฟป่า นอกจากมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บ 11 คน ในจำนวนนี้ 3 คน เข้ารักษาการเนื่องจากถูกไฟลวก และสำลักควัน

ก่อนหน้านี้ ในบริเวณเดียวกันนี้ เคยเผชิญไฟป่าครั้งใหญ่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีบ้านเรือนในเขตซานตา บาร์บารา และชุมชนใกล้เคียงถูกทำลายไปกว่า 200 หลัง โดยเป็นผลจากการก่อกองไฟของเด็กนักเรียนในท้องถิ่น ส่วนสาเหตุของไฟป่าครั้งล่าสุดกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน.- สำนักข่าวไทย

2009-05-09 09:48:19 ​

พบชาวญี่ปุ่น 3 คนมีเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่​

​

โตเกียว 3 พ.ค. - กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น แถลงวันนี้ว่า พบชาวญี่ปุ่น 3 คน ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เป็นครู 1 คน และเด็กนักเรียนอีก 2 คน นับเป็นผู้ติดเชื้อ 3 รายแรกที่ได้รับการยืนยันในญี่ปุ่น

แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ผู้ติดเชื้อทั้ง 3 คน เป็นชายอายุประมาณ 40 ปี และเด็กชายวัยรุ่นอีก 2 คน จากนครโอซากา ทั้งสามเดินทางจากเมืองดีทรอยต์ในสหรัฐ มายังท่าอากาศยานนาริตะในกรุงโตเกียว เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมกับผู้โดยสาร 392 คน ในเที่ยวบินของสายการบินนอร์ทเวสต์ แอร์ไลน์ส ครูและเด็กนักเรียนทั้ง 2 คน เดินทางไปทัศนศึกษาและพำนักที่เมืองโอควิลล์ในแคนาดา

ก่อนหน้านี้ นายฮิโรฟูมิ นากาโซเน รัฐมนตรีสาธารณสุขญี่ปุ่น เพิ่งแถลงที่กรุงโตเกียวว่า เด็กชายชาวญี่ปุ่น วัย 6 ปี อาศัยในนครชิคาโกของสหรัฐ เป็นชาวญี่ปุ่นรายแรกที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แต่ไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อแต่อย่างใด

บรรดาผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขชั้นนำของญี่ปุ่น ต่างเรียกร้องให้เร่งหามาตรการเตรียมพร้อมรับมือการระบาด แทนการเน้นที่มาตรการป้องกันเท่านั้น. - สำนักข่าวไทย

2009-05-09 08:07:54

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตผู้ป่วยรายแรกในแคนาดา​

​

เม็กซิโกซิตี้ 9 พ.ค. - เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 คร่าชีวิตผู้ป่วยรายแรกในแคนาดา ทำให้แคนาดากลายเป็นประเทศที่ 3 ที่มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ นอกเหนือจากเม็กซิโก-สหรัฐ และมีรายงานผู้ป่วยกว่า 3,000 คน ใน 27 ประเทศ

เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ระดับสูงในรัฐแอลเบอร์ตา กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรายแรกเป็นหญิงวัย 30 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่หญิงรายนี้ไม่เคยเดินทางไปเม็กซิโก ศูนย์กลางการแพร่ระบาดแต่อย่างใด นับเป็นผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ รายที่ 48 ของโลก

ขณะเดียวกัน ที่อิตาลี มีรายงานการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระหว่างคนด้วยกัน เป็นชายในกรุงโรม วัย 70 ปี ติดเชื้อไวรัสจากหลานชาย ซึ่งเดินทางกลับมาจากเม็กซิโก ส่วนที่เม็กซิโก มีรายงานการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อีก 1 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 45 คน ในจำนวนนี้ 1 ใน 4 เป็นคนอ้วน และที่สหรัฐ มีผู้เสียชีวิต 2 คน
. - สำนักข่าวไทย

2009-05-09 08:13:41

บราซิลพบการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากคนสู่คนรายแรก​

​

บราซิเลีย 9 พ.ค. - ทางการบราซิลยืนยันพบการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากคนสู่คนเป็นรายแรกในประเทศ

การพบการติดเชื้อดังกล่าว ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ในบราซิล ประเทศใหญ่ที่สุดในแถบละตินอเมริกา เพิ่มเป็น 6 คน บราซิลยืนยันการพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 4 รายแรกของประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้ 3 คน เคยเดินทางไปเม็กซิโก และอีก 1 คน เดินทางไปสหรัฐ. - สำนักข่าวไทย

2009-05-09 08:19:54

ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรก​

​

ซิดนีย์ 9 พ.ค. – ทางการออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรก เป็นผู้หญิงจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเดินทางกลับจากสหรัฐ

รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย เปิดเผยว่า หญิงดังกล่าวติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในต่างประเทศ และหายจากอาการป่วยแล้ว เมื่อเดินทางกลับมายังออสเตรเลีย

ขณะเดียวกัน ในแถบลาตินอเมริกา มีรายงานการพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในปานามา กัวเตมาลา และอาร์เจนตินา ขณะที่อุรุกวัยเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังตามท่าเรือและพรมแดน.- สำนักข่าวไทย

2009-05-09 09:51:12

ยอดผู้ติดหวัดใหญ่ทั่วโลกพุ่งทะลุกว่า 3 พันคนแล้ว​

​

9 พ.ค.- ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดไป 27 ประเทศทั่วโลก จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มทะลุหลัก 3 พันคน เสียชีวิต 48 คน ขณะที่แคนาดาพบผู้เสียชีวิตแล้วรายแรก

ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส H1N1 ชนิด A ซึ่งเป็นต้นเหตุของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลกขณะนี้พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 3,415 คนแล้ว โดยออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ปานามา และบราซิล เป็น 4 ประเทศล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศ เฉพาะที่ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อพร้อมกัน 3 คน เป็นครูและนักเรียน ที่เพิ่งเดินทางกลับจากแคนาดา ถึงท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะเมื่อบ่ายวานนี้ หลังไปร่วมโครงการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาที่รัฐออนตาริโอ ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม นายโยอิจิ มาซุโซเอะ รัฐมนตรีสาธารณสุข แถลงข่าวยืนยันว่า ตอนนี้ผู้ติดเชื้อทั้ง 3 ถูกส่งไปรับการรักษาตัวที่สถาบันควบคุมโรคติดเชื้อแล้ว ขอประชาชนอย่างได้ตื่นตระหนก. -สำนักข่าวไทย

2009-05-09 10:08:41

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

ไทยพบผู้ป่วยเข้าข่ายสงสัยไข้หวัด 2009

รมว.สธ.เผย พบผู้ป่วยเข้าข่ายสงสัยไข้หวัด2009ผลตรวจจากแลปพบเชื้อเอช1 เอ็น 1 รอผลยืนยันจากห้องปฏิบัติกาcdcสหรัฐฯ เตรียมเฝ้าระวังหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในโรงเรียนก่อนเปิดเรียน
(9พ.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พญ.ศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระ ทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แถลงผลการประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามผลการดำเนินงานควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 เข้าสู่ไทย


นายวิทยา กล่าวว่า ผลการเฝ้าระวังผู้ป่วยของสำนักระบาดวิทยาตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน- 8 พฤษภาคม 2552 มีผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังอยู่ระหว่างตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 10 ราย ในวันนี้ มีรายงานพบผู้ป่วย 1 รายเข้าข่ายสงสัยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งเดินทางกลับมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด ขณะนี้ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติ และพ้นระยะแพร่เชื้อแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งตัวอย่างเพื่อตรวจยืนยันที่ศูนย์ป้องกันควบคุมโรค สหรัฐอเมริกาแล้ว (US CDC)

ในสัปดาห์หน้าโรงเรียนสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจะเริ่มเปิดภาคเรียน ซึ่งอาจจะมีเด็กนักเรียนที่กลับมาจากการเรียนภาคฤดูร้อนในต่างประเทศ หรือไปท่องเที่ยวกับผู้ปกครอง นักเรียนบางคนอาจเดินทางกลับมาจากพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 นักเรียนเหล่านี้จึงอยู่ในข่ายการเฝ้าระวังโรคตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุข กำหนดไว้ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังโรคในโรงเรียน และจะจัดทำแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคในโรงเรียนและสถานศึกษาทุกแห่ง และแจ้งให้ทราบก่อนเปิดภาคเรียน

" หากเปิดเรียนแล้ว ขอให้ครูอนามัยประจำโรงเรียน สังเกตเด็กนักเรียนทุกคน หากพบมีอาการป่วย คล้ายไข้หวัด ควรให้ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อ และพักที่บ้านจนกว่าอาการจะหาย โดยให้ความเอาใจใส่เป็นพิเศษสำหรับนักเรียนที่เดินทางกลับมาภายใน 7 วันก่อนเปิดเรียน จากพื้นที่ที่มีรายงานการพบผู้ป่วย หากนักเรียนป่วยมีอาการคล้ายไข้หวัด แนะนำให้ไปพบแพทย์ "

การโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ทั่วโลก องค์การอนามัยโลกรายงาน ในเช้าวันที่ 9 พฤษภาคม 2552 ตามเวลาประเทศไทย พบผู้ป่วยใน 25 ประเทศ

จำนวน 2, 000 ราย เสียชีวิต 46 ราย ดังนี้

- สหรัฐอเมริกาป่วย 896 ราย เสียชีวิต 2 ราย
- เม็กซิโกป่วย 1,112 ราย เสียชีวิต 44 ราย
- ประเทศไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ได้แก่ ออสเตรีย 1 ราย
บราซิล 4 ราย แคนาดา 21 4 ราย จีน (ฮ่องกง) 1 ราย
โคลอมเบีย 1 ราย คอสตาริก้า 1 ราย เดนมาร์ค 1 ราย
เอลซัลวาดอร์ 2 ราย ฝรั่งเศส 12 ราย เยอรมนี 11 ราย
กัวเตมาลา 1 ราย ไอร์แลนด์ 1 ราย อิสราเอล 7 ราย
อิตาลี 6 ราย เนเธอร์แลนด์ 3 ราย นิวซีแลนด์ 5 ราย
โปแลนด์ 1 ราย โปรตุเกส 1 ราย เกาหลีใต้ 3 ราย
สเปน 88 ราย สวีเดน 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย
และ สหราชอาณาจักร 34 ราย

การเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้ดูแลการคัดกรองผู้เดินทางระหว่างประเทศ ทั้งทางอากาศ ทางเรือ และทางบก โดยเฝ้าระวังผู้เดินทางจากทุกประเทศที่มีรายงานพบผู้ป่วย โดยเน้นเป็นพิเศษในกลุ่มผู้เดินทางจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค 5 ประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา แคนาดา สเปน และสหราชอาณาจักร มุ่งตรวจหาผู้มีไข้ และมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ หากพบผู้สงสัยว่าป่วยจะนำส่งเพื่อตรวจอย่างละเอียดและรับการรักษาที่โรง พยาบาล ส่วนผลการตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารขาเข้าจากทุกประเทศ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวานนี้ (8 พฤษภาคม) จำนวนกว่า 32,154 ราย ไม่พบรายใดมีไข้ ยอดสะสมตรวจทั้งหมดตั้งแต่ 27 เมษายน - 8 พฤษภาคม 2552 รวมทั้งสิ้น 404,134 ราย




<DL class=reader-info><DT class=tags>Tags: <DD class=tags>

1. กระทรวงสาธารณสุข
2. ไข้หวัดหมู
3. ไข้หวัดใหญ่

</DD></DL>ขอบคุณข้อมูลจาก :ข่าว คม ชัด ลึก ไทยพบผู้ป่วยเข้าข่ายสงสัยไข้หวัด2009<!-- google_ad_section_end -->

 

พบผู้เสียชีวิตรายแรก จากหวัดใหญ่ 2009 ที่แคนาดา

ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อ 3 รายแรก กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส ไข้หวัด A H1N1 ทั้ง 3 คน เป็นครูผู้ชายวัย 40 ปี และเด็กนักเรียนชายอีก 2 คน จากโอซากาเดินทางจากดีทรอยต์มาถึงสนามบิน นานาชาติ นาริตะ ของกรุงโตเกียวเมื่อวันศุกร์ ซึ่งทั้งหมดเดินทางไปแคนาดา ในทริปของโรงเรียน โดย สถานีโทรทัศน์ เอ็น เอช เค รายงานอีกว่า พวกเขาได้เข้ารับการรักษา หลังจากมีการแสดงอาการของโรค และ เข้ารับการตรวจหาหวัดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีผลออกมาเป็นบวก และพวกเขาได้ถูกกักตัวไว้อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ของเชื้อโรค
ที่ โรงพยาบาลใกล้สนามบิน

นาย อัตซึชิ คิตามูระ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ญี่ปุ่น ระบุว่า เรายืนยันพบคนไข้ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่รายแรกในญี่ปุ่นหลังผลตรวจหา เชื้อไข้หวัดใหญ่ ออกมาเป็นบวก พวกเขาถูกส่งไปตัวตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล ซึ่งผลปรากฎว่าพวกเขามีเชื้อไวรัส เอช1เอ็น1

ทั้งนี้ ทั้ง 3 ราย เดินทางมาพร้อมกับผู้โดยสาร ในจำนวน 390 คน ที่เดินทางเที่ยวบินจาก
ดีทรอยต์มาถึงสนามบิน นานาชาติ นาริตะ ของกรุงโตเกียว ด้าน แคนาดา
ประกาศว่าพบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้คนแรกโดยนายอังเดร คอร์ริโว หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ในจังหวัดอัลเบอร์ต้า ของแคนาดา ประกาศว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะไวรัส H1N1 และเป็นคนแรกของแคนาดาที่เสียชีวิตเพราะไวรัสสายพันธุ์นี้
โดยแคนาดาเป็นประเทศที่มียอด ผู้ติดเชื้อไวรัส H1N1 สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 คือ 224 คน
แต่ สหรัฐ ได้แซงหน้าเม็กซิโกไปแล้ว เมื่อมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้มากที่สุด คือ
1,639 คน ใน 43 รัฐ ส่วนผู้เสียชีวิตมีเพียง 2 คน ในขณะที่เม็กซิโก ซึ่งเป็นศูนย์การการ
แพร่ระบาดของโลกนี้ไปทั่วโลก ระบุจำนวนผู้เสียชีวิตว่าอยู่ที่ 45 คน ยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อ
ว่าอยู่ที่ 1,319 คน และ

มากกว่าครึ่ง เป็นผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี !!

<!-- Gallery --><!--?php include("../object/image-gallery.html"); ?-->


<!-- Gallery --><DL class=reader-info><DT class=tags>Tags: <DD class=tags>

1. ไข้หวัดหมู
2. ไข้หวัดเม็กซิโก
3. ไข้หวัดใหญ่

</DD></DL>สนับสนุนเนื้อหา <!-- google_ad_section_end -->

 

WHO คาดทั่วโลกอาจติดเชื้อหวัด 2 พันล้านคน !!


WHO คาดอาจมีประชากรโลกมากถึง2พันล้านคนที่จะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009
หากการระบาดใน 24 ประเทศพัฒนาไปเป็นการระบาดทั่วโลกใช้เวลานาน2 ปี กว่าจะยุติ

นายเคอิจิ ฟูกูดะ รักษาการณ์ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (7 พ.ค.)ว่า อาจมีประชากรโลกมากถึง 2,000 ล้านคน หรือหนึ่งในสามของประชากรทั้งหมด ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หากการระบาดที่ดำเนินอยู่ใน 24 ประเทศในปัจจุบัน พัฒนาไปเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลกที่จะใช้เวลานาน 2 ปีกว่าจะยุติ เพราะเคยมีบันทึกในประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัดในลักษณะนี้ แต่เขาก็กล่าวด้วยว่าโลกได้เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว จึงไม่อาจคาดเดาได้ว่า ผลกระทบของการระบาดในปัจจุบันจะรุนแรงน้อยกว่า หรือมากกว่าในอดีต ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอิสระต่างเห็นพ้องว่าการคาดการณ์ของเขามีโอกาสเป็นไปได้ แต่ก็เสริมว่าผู้ติดเชื้อครึ่งหนึ่งอาจไม่แสดงอาการด้วยซ้ำ

ถ้อยแถลงของนายฟูคูดะมีขึ้น ท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มขึ้นว่าความเคลื่อนไวของ WHO ที่ ผ่านมาซึ่งรวมทั้งการยกระดับการเตือนภัยจากโรคเป็นระดับ 5 จากทั้งหมด 6 ระดับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้หลายประเทศเดินหน้าตามแผนการเตรียมตัวรับมือกับการระบาดไปทั่วโลก อาจถูกมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะดูเหมือนผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง ขณะที่นายฟูคูดะย้ำว่า สถานการณ์เกี่ยวกับโรคนี้ยังไม่หยุดนิ่ง ยังพัฒนาไปเรื่อยๆ ไวรัสยังสามารถกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายถึงตายมากกว่าเดิมได้ รวมทั้งการที่ซีกโลกใต้กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว เพราะซีกโลกใต้มีประเทศกำลังพัฒนามากกว่าซีกโลกเหนือ ประชากรจึงมีความเสี่ยงจากการระบาดของโรคสูงกว่า
นายฟูคูดะได้กล่าวต่อที่ประชุม 13 ชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนที่กรุงเทพฯ ให้ยังคงใช้ความระมัดระวัง แม้ไวรัสจะไม่รุนแรงเท่าที่คาด เพราะมีตัวอย่างจากการระบาดของ ไข้หวัดใหญ่สเปน เมื่อปี 2461 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกมากกว่า 40 ล้านคน เพราะเริ่มด้วยการระบาดอย่างอ่อน ก่อนที่จะกลายพันธุ์ ทำให้เกิดระบาดอย่างรุนแรงในเวลาต่อมา จนถึงปัจจุบัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส 2009 ของ WHO อยู่ที่ 2,099 คนและ เสียชีวิต 44 คน


<!-- Gallery --><!--?php include("../object/image-gallery.html"); ?-->
<!-- Gallery --><DL class=reader-info><DT class=tags>Tags: <DD class=tags>

1. ไข้หวัดหมู
2. who
3. ไข้หวัดใหญ่ 2009
4. ไข้หวัดเม็กซิโก

</DD></DL>สนับสนุนเนื้อหา

 

นายกฯสุนทรพจน์ เน้นร่วมมือระหว่างปท. แก้ปัญหาหวัดใหญ่



นายอภิสิทธิ์​ เวชชาชีวะ

นายก ฯ กล่าวสุนทรพจน์​พิธีเปิดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน+ 3 เน้นความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นกลไกสำคัญ แก้ปัญหาภัยคุกคามไข้หวัดใหญ่ 2009 ยัน ไทยดูแลสนามบินและใช้มาตรการเฝ้าระวังเข้มงวด

เมื่อเวลา ประมาณ 08.45 น. (8 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์​ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน + 3 เรื่อง ไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ ( เอช1 เอน 1) ณ โรงแรมดุสิตธานี ระบุว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนไทย ขอต้อนรับท่านรัฐมนตรีสาธารณสุขจากประเทศ ASEAN+3 และผู้ร่วมประชุมทุกท่านประเทศไทย ในฐานะประธานอาเซียน รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุข ASEAN + 3 เรื่อง โรคไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ ( เอช 1 เอน 2 ) ครั้งนี้ ประเทศไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน กับประเทศคู่เจรจา ในเดือนหน้า ที่จังหวัดภูเก็ต ตามที่กำหนดไว้ขอขอบคุณรัฐมนตรีสาธารณสุขฟิลิปปินส์ ในฐานะประธานรัฐมนตรีสาธารณสุข ASEAN ในปัจจุบัน ที่ให้การสนับสนุน และกรุณาเป็นประธานการประชุมนี้
ขอขอบคุณ องค์การอนามัยโลก USCDC, World Bank ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีต่อการประชุม ขอขอบคุณเลขาธิการอาเซียน และเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการอาเซียน รวมทั้งข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ที่ประสานงานจัดการประชุม ร่วมกับประเทศไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในเวลาอันจำกัด ขอชื่นชมความร่วมมืออย่างแข็งขันในกลุ่ม ASEAN+3 ในระยะที่ผ่านมา ในการร่วมกันแก้ปัญหาของภูมิภาค รวมถึงการแก้ปัญหาโรคอุบัติใหม่ เช่น โรคซาร์ส และไข้หวัดนก

เราต่างตระหนักถึงความสำคัญของเอเชีย โดยเฉพาะอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ในเวทีเศรษฐกิจโลก รวมถึงศักยภาพในการเติบโต แต่ในเอเชียตะวันออก ซึ่งอาเซียน + 3 ได้รวมตัวขึ้น ยังคงเปราะบางต่อสถานการณ์ของโลก และได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง ในหลายระดับจากวิกฤตการณ์การเงินของโลก ประชากรในภูมิภาค ASEAN+3 ซึ่งมีจำนวนรวมเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของโลก กำลังเผชิญภัยคุกคาม โดยเฉพาะจากเชื้อโรคที่สามารถแพร่กระจายและติดต่อได้ง่าย ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิต รวมถึงทำให้ปัญหาที่เกิดจากวิกฤตการณ์เงินโลกหนักยิ่งขึ้น

ในยุค ปัจจุบันภัยทางสุขภาพที่เกิดจากโรคติดต่ออุบัติใหม่ มีลักษณะไร้พรมแดน แพร่ขยายได้รวดเร็วผ่านการเดินทางระหว่างประเทศ มีผลกระทบสูงต่อเศรษฐกิจและสังคมของทุกประเทศ อยู่นอกเหนือขอบเขตความสามารถที่ประเทศหนึ่งประเทศใด จะจัดการป้องกันและแก้ไขได้ตามลำพัง หากแต่จะจัดการได้สำเร็จก็ด้วยความร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่างประเทศ เป็นที่ยอมรับกันอยู่แล้วว่า พื้นฐานของการรับมือกับโรคอุบัติใหม่อันไร้พรมแดน คือการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าของทุกประเทศ เพื่อสามารถตอบสนองได้ทันเวลาเมื่อเกิดการระบาดขึ้น โดยตรวจค้นพบโรค (early detection) ได้รวดเร็ว เข้าควบคุมโรค (containment) ได้ทันเวลา และ มีประสิทธิภาพ หากโรคแพร่กระจายเกินที่จะยับยั้งไว้ได้ ก็ยังจะ สามารถชะลอการแพร่และบรรเทาความเสียหาย (mitigation) เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม

ในระยะหลายปีที่ผ่านมา ASEAN+3 ได้ร่วมมือพัฒนาและประสานแผนความพร้อมรับมือการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ของ สมาชิกประเทศ (National Pandemic preparedness plan) และร่วมมือพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินตามแผน ได้มีการซ้อมแผนร่วมกัน (joint simulation exercises) หลายครั้ง นับว่าเป็นผลของวิสัยทัศน์ร่วมกันอันกว้างไกล และเป็นฐานที่ดีสำหรับการรับมือกับปัญหาใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความร่วมมือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่เกิดขึ้น เช่น ซาร์ส และไข้หวัดนก ประสบความสำเร็จด้วยดี ไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ ( เอช 1 เอน 1 ) ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้กำหนดการแพร่ระบาดไว้ที่ระดับ 5 สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง ขณะนี้มีผู้ป่วยเกือบ 1,900 คนทั่วโลกจาก 23 ประเทศ นับตั้งแต่การระบาดไม่กี่สัปดาห์ในเม็กซิโก แม้ว่าการดำเนินยุทธศาสตร์การป้องกันการแพร่ระบาด ได้รับผลน่าพอใจ แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้น และการแพร่กระจายที่กว้างขึ้นยังคงน่าตกใจ

ดังนั้น จึงต้องเตรียมพร้อมและรับมือกับปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (เอช1 เอน1) เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิต ในการลดการแพร่ระบาดดังกล่าว จึงไม่สามารถพึ่งพามาตรการพื้นฐาน เช่น การเฝ้าระวังโรค (surveillance) การแลกเปลี่ยนข้อมูล การประสานการควบคุมโรคผ่านแดน (cross-border disease control) อย่างเหมาะสม เพียงอย่างเดียวได้ แต่จำเป็นต้องมีความร่วมมือใหม่ๆ เพื่อสร้างปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการป้องกันและแก้ปัญหาโรคนี้ เช่น การพัฒนาและผลิตวัคซีน ยาต้านไวรัส และการขยายและแบ่งปันเวชภัณฑ์ในคลังสำรอง (stockpile) ของ ASEAN (ASEAN stockpile) และของประเทศ (National stockpile) เพื่อให้ประชากรทั้งมวลของ ASEAN +3 เข้าถึงเครื่องมือที่สำคัญเหล่านี้ได้อย่างทั่วถึง เพียงพอ และ ทันเวลา ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายอย่างสูง

ในส่วนของประเทศไทย ได้มีการดำเนินการกำกับดูแลที่สนามบิน และใช้มาตรการเฝ้าระวัง สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจากประเทศที่ได้รับการติดเชื้อ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท สำหรับการรณรงค์เพื่อรับมือกับไข้หวัดดังกล่าว ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด และ การพิสูจน์โรคใน

คนไทย 2 รายที่กลับจากต่างประเทศ และ นักท่องเที่ยว 1 รายที่มีอาการของไข้หวัดใหญ่ หวังว่าการป้องกันและการเฝ้าระวังที่เหมาะสม จะจำกัดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ (เอช 1 เอน 1) สู่ประเทศต่าง ๆ และภูมิภาคและโลกได้
จากพื้นฐานความร่วม มือที่เข้มแข็ง ซึ่งพิสูจน์ด้วยความสำเร็จในอดีต และด้วยความตั้งใจร่วมกันในปัจจุบัน ตนมั่นใจว่าจะร่วมมือกัน จัดการกับปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (เอช1 เอน1) [Influenza A (H1N1)] ได้เป็นผลสำเร็จ ขอยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย ที่จะดำเนินการตามพันธะแห่งข้อตกลงร่วมกันของอาเซียน + 3 ในการแก้ปัญหาที่สำคัญของภูมิภาค และของโลกในครั้งนี้ ขอมอบความปรารถนาดี และมีความมั่นใจ ว่าการประชุมครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ สมความประสงค์ ด้วยพลังความมุ่งมั่นของทุกท่าน ภายใต้ปณิธานแห่งความร่วมมืออันเข้มแข็งของ ASEAN+3


<!-- Gallery --><!--?php include("../object/image-gallery.html"); ?-->

<!-- Gallery --><DL class=reader-info><DT class=tags>Tags: <DD class=tags>

1. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
2. นายกรัฐมนตรี
3. ไข้หวัดหมู
4. ไข้หวัดเม็กซิโก
5. ไขหวัดใหญ่ 2009

</DD></DL>สนับสนุนเนื้อหา

 

เรื่องการสนองคืนจากธรรมชาติ อันเนื่องมาจากการกระทำของมนุษย์

ทั้งโดยตั้งใจ และพลั้งเผลอ มากบ้าง น้อยบ้าง ต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ

ที่ค่อยสั่งสมมา นับแต่มนุษย์เริ่มวิวัฒน์ด้านความเจริญทางวัตถุ

ส่งผลให้เกิดมลทินต่อดิน ฟ้า อากาศ และน้ำ มาเป็นลำดับ

กระทั่งถึงเวลาอิ่มตัว ธรรมชาติจะแทนคืน

การภาวนา ช่วยเลื่อนวาระได้ แต่ลบล้างมิได้

เมื่อเวลายังมีในขณะนี้ ให้เร่งปฏิบัติแต่ดีแต่ชอบ

พร้อมลด ละ เลิก การเบียดเบียน แก่เพื่อนมนุษย์ สัตว์ สิ่งแวดล้อม

บุญนั้นจึงจะรักษา

 

เลื่อนวาระก็เสมือนยืดเวลาให้นานขึ้น หากภัยนี้เกิดจากกรรมของคนทั้งโลกวิธีจะแก้ไข ก็ต้องแก้ด้วยการเปลี่ยนแปลงของคนทุกคนในโลก ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะกรรมนั่นไม่สามารถรับแทนกันได้เพียงแต่บรรเทาให้เจือจางลงได้



แล้วถ้ากรรมนี้เป็นกรรมของสรรพสัตว์ในโลก นั่นหมายถึงทุกคนล้วนแล้วแต่ร่วมก่อกรรมกันมาทั้งหมดทั้งสิ้น คุณสามารถเปลี่ยนความคิดของคุณให้ คิดดี ทำดี พูดดีได้ แต่คุณไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของคนทั้งโลกได้! "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"

 

ทั่วประเทศเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา ​

​

8 พ.ค.-บรรยากาศทั่วประเทศประชาชนก็พากันออกมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ฟังเทศนา และประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเนื่องในวันวิสาขบูชา

ที่จังหวัดนครราชสีมา พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พลโทวิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 นำข้าราชการ ทหาร ตำรวจและประชาชนกว่า 1,000 คน เวียนเทียนรอบพุทธศาสนสถาน ค่ายสุรนารี เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และรำลึกคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะที่บรรยากาศตามคุ้มวัดต่างๆ ประชาชนก็พากันออกมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ฟังเทศนา และประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา

ส่วนที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องแน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชนนับหมื่นคนที่มาเวียนเทียนรอบพระอุโบสถหลังใหม่ เป็นที่สังเกตไม่มีนักการเมืองมาร่วมเวียนเทียนเช่นทุกปีที่ผ่านมา

ไม่ต่างจากวัดบางศาลา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ประชาชนนำดอกไม้ธูปเทียนและเครื่องสักการะบูชาพระพุทธองค์เวียนเทียน เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประชาชนยังตั้งจิตอธิษฐานขอให้ประเทศเกิดความสงบ ไม่แบ่งสีแบ่งฝ่าย

ขณะที่ประชาชนในจังหวัดขอนแก่น ไปเวียนเทียนที่วัดใกล้บ้าน เช่นวัดหนองแวง พระอารามหลวง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ประขาชนเวียนเทียนรอบพระมหาธาตุแก่นนคร หรือพระธาตุเก้าชั้น ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ ร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ มอบให้ศูนย์ชุมนุมวัดหนองแวงด้วย .-สำนักข่าวไทย

2009-05-08 23:22:58

พายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี​

​

9 พ.ค. - เกิดพายุฤดูร้อน พัดถล่มอำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี แรงลมพัดสิ่งของปลิวไปไกลกว่า 1 กิโลเมตร

บ้านเรือนราษฎร รวมถึงสิ่งของของวัดใน 7 หมู่บ้าน ของอำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับความเสียหาย หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำในพื้นที่ ทำให้หลังคาบ้านเรือนหลุดไปตามกระแสลม ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นเป็นจำนวนมาก ขณะที่ถังบรรจุน้ำขนาด 2,000 ลิตร ที่มีน้ำอยู่เต็ม ถูกแรงลมพัดไปไกลกว่า 1 กิโลเมตร ล่าสุดอำเภอและนายกเทศบาลตำบลสระลงเรือ ได้ออกสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นโดยเร่งด่วนแล้ว. -สำนักข่าวไทย

2009-05-09 13:08:27

สงขลายังคงปฏิบัติการเข้มยับยั้งชิคุนกุนยาระบาด​

​

สงขลา 8 พ.ค.- นพ.สรรพงษ์ ฤทธิ์รักษา นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า โรคชิคุนกุนยายังระบาดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ล่าสุดจำนวนแล้วกว่า 7,000 ราย

เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 12 สงขลา พร้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งฉีดพ่นสารเคมีกำจัดตัวแก่ยุงลายให้ครอบคลุมทุกนชุมชน โดยเฉพาะชุมชนติดป่าสวนยางพาราจะมียุงชุกชุมมาก หรือเรียกว่ายุงลายสวน และไม่สามารถกำจัดให้หมดได้ เนื่องจากสภาพพื้นที่มีฝนตกชุก ทำให้ยุงลายแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว จึงต้องรณรงค์อย่างเข้มข้นให้ประชาชนตื่นตัวกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และขณะออกกรีดยางพาราควรทาโลชั่นกันยุง หรือใช้น้ำยาชุบเสื้อกรีดยาง เพื่อป้องกันยุงกัด.-สำนักข่าวไทย

2009-05-09 14:41:34
​

พบสัตว์ดูดเลือดคล้ายปลิงระบาดในลำน้ำแควใหญ่ จ.กาญจนบุรี ​

​

9 พ.ค. - พบสัตว์ดูดเลือด คล้ายปลิงระบาดหนักในลำน้ำแควใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรี ชาวบ้านวอนรัฐช่วยเหลือด่วน เพราะเกรงจะเป็นอันตรายกับลูกหลาน และนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำ

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับลำน้ำแควใหญ่ ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เล่าว่าในระยะนี้พบสัตว์ลักษณะคล้ายปลิงดูดเลือดจำนวนมาก ในลำน้ำ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปรากฏให้เห็น ซึ่งเด็กและนักท่องเที่ยวที่ลงไปเล่นน้ำ จะถูกสัตว์ประเภทนี้เกาะและดูดเลือด ทำให้ไม่มีใครกล้าลงเล่นน้ำ ทั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของพื้นที่ เพราะเกรงว่าสัตว์อาจเข้าไปในหู หรืออวัยวะอื่น จึงอยากวอนภาครัฐรีบเข้ามาจัดการเรื่องนี้โดยเร่งด่วน. -สำนักข่าวไทย

2009-05-09 16:08:22

ผบช.ภาค 8 สั่งเน้นการข่าวสืบกลุ่มเคลื่อนไหวช่วงอาเซียนซัมมิท​

​

ภูเก็ต 8 พ.ค.- พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยภายหลังตรวจการฝึกซ้อมแผนควบคุมฝูงชน วันนี้ (9 พ.ค.) ที่ลานฝึก สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อเตรียมพร้อมดูแลการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา กลางเดือนมิถุนายนนี้ว่า แม้จะเป็นที่น่าพอใจ แต่กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งและมีความพร้อมไว้ตลอดเวลา เพราะหากมีสถานการณ์เกิดขึ้น การรับมือต้องปรับเปลี่ยนได้ทัน

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าการประชุมครั้งนี้จะไม่มีปัญหาวุ่นวายเหมือนที่พัทยา จ.ชลบุรี เพราะทุกภาคส่วนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะประชาชนยืนยันชัดเจนเป็นเจ้าภาพที่ดีต้อนรับการประชุม นอกจากนี้ ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มเข้มด้านการข่าว เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบสิ่งใดผิดปกติ.- สำนักข่าวไทย

2009-05-09 14:29:20

ไฟไหม้หลายพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสาน​

​

ภูมิภาค 9 พ.ค. - เกิดเหตุไฟไหม้หลายพื้นที่ ทั้งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมมูลค่าความเสียหายนับสิบล้านบาท

ที่ จ.เชียงใหม่ เพลิงได้โหมลุกไหม้บ้านทรงไทย 2 ชั้น หมู่บ้านมงฟอร์ตวิลล่า ในตัวเมืองเชียงใหม่ เสียหายทั้งหลัง และยังลุกลามไปติดบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย จากการสอบสวนทราบว่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณห้องพระ ชั้น 2 คาดว่าเจ้าของบ้านจุดธูปเทียนไหว้พระ จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ รวมความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านนางสมิน โคณบาล ใน อ.ขุขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น โดยเพลิงได้ลุกไหม้จากชั้นบน ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าของบ้านวิ่งหนีตายอลหม่าน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงนานกว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่ จ.อำนาจเจริญ เพลิงได้ลุกไหม้บ้านพักของชาวบ้าน บ้านท่อนใหญ่ ต.ปลาค้าว อ.เมือง ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวบ้านกำลังแห่นาคในงานบุญบั้งไฟประจำปี จึงต้องทิ้งขบวนแห่ เพื่อไปช่วยกันดับไฟนานกว่า 1 ชั่วโมง เบื้องต้นมีบ้านถูกไฟไหม้ทั้งสิ้น 5 หลัง รวมความเสียหาย 6 ล้านบาท ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากชาวบ้านจุดธูปเทียนไหว้พระในวันวิสาขบูชา หรือเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร. - สำนักข่าวไทย

2009-05-09 02:06:49

ที่มา http://news.mcot.net

 

ทำไมยุงเยอะขึ้นมากเลย ในตอนนี้




​

ทำไมตอนนี้ไปที่ไหนๆ ก็มีแต่คนบอกยุงเยอะมากๆ และยุงก็มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ผมเคยเห็นยุงในกรุงตัวเล็กแต่เดี๋ยวนี้ ยุงยาวเท่าเกือบเหรียญ 25 ตังค์ แล้วเห็นเขาบอกว่า เดี๋ยวนี้ยุงตัวผู้ก็กินเลือดแล้วเหรอครับ อยากให้ผู้ดูแลภาคท้องถิ่นออกมาพ่นยากันหน่อย หรือดูแลน้ำเสียกันหน่อย หรือเขาว่าใส่จุลินทรีย์ ของการเคหะแห่งชาติแล้วจะทำให้น้ำเสียเป็นน้ำดีได้ จะได้ไม่ก่อเกิดยุงลาย บ้านผมเดี๋ยวนี้ กินข้าวไปตบยุงไป นอนก็ระแวงยุงมาบินวนหน้าวนตา

โดย : วุฒิ (Guest !)
วันที่ : 2007-02-11 12:34:37

<TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>มีคนวิจัยออกมาแล้วว่า ภาวะที่อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้น
ทำให้ยุงตัวผู้จากที่เคยกินแต่น้ำหวานของพืชอย่างเดียว
ตอนนี้ ก็หันมากินเลือดของสัตว์เลือดอุ่นตามยุงตัวเมีย
และยุงลาย จากปกติ จะหากินตอนกลางวัน
ตอนนี้ ไม่สนแล้วว่ากลางวันหรือกลางคืน มันออกหากินลูกเดียว
เราดูรายการนี้จาก ITV น่ากลัวจริง ๆ

</TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>โดย : น่ากลัว
วันที่ :2007-02-14 08:39:39

<TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>อยู่รามอินทราค่ะ ยุงเป็นล้านเลย เยอะจริงๆ หน้าบ้านก็มี ในบ้านก็มี หลังบ้านก็มี กินข้าวก็ต้องตียุง นอนก็ต้องตียุงเหมือนกัน เซ็งมากๆ ไม่รู้ว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบทำงานกระตือรือร้นกันบ้างหรือปล่าว เดี๋ยวโรคไข้เลือดออกระบาด ถึงตอนนั้นแก้ไขลำบากนะค่ะ

</TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>โดย : Golf
วันที่ :2007-02-15 16:17:15
</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>เจ้าของกระทู้ ผมก็คิดเหมือนคุณนะ และผมก็เคยดูสารคดี ดูข่าวนะ เห็นเขาว่ากันว่า สิ่งแวดล้อมทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้วนะ มันก็เลยทำให้วงจรชีวิต สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตอะไรพวกนี้มันก็เปลี่ยนไปด้วยนะ เพราะฉะนั้นการที่ เจ้าของกระทู้ บอกมา มันก็มีส่วนเกี่ยวอยู่บ้างนะ </TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>
โดย : กระทู้จ้า
วันที่ :2007-02-11 13:22:29

<TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>ตามข่าวตอนนี้ ยุ่งเปลี่ยนเวลาหากินแล้วน่ะ ปกติอย่างยุงลายจะหากินเวลากลางวัน แต่ตอนนี้สามารถหากินเวลาตอนกลางคืนได้ด้วย

</TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>โดย : k
วันที่ :2007-02-26 12:56:55

<TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>ยุงบ้านเราเยอะขึ้น อีกอย่างรู้สึกเหมือนว่ามันตัวใหญ่ขึ้นยังไงไม่รู้ เราตบทุกวันตบไม่ค่อยโดน เป็นเพราะมันบินเร็วขึ้นหรือว่าเราตาลายเอง งง 555+

</TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>โดย : Neo
วันที่ :2007-02-11 22:17:18
</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>ตบยุงฆ่ายุงบ่อยๆ ผลกรรมคือจะทำให้ร่างกายอ่อนแอและอายุจะสั้นนะคะ </TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>
โดย : ดญ.ไอโกะ
วันที่ :2007-02-11 17:17:09

<TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>โลกร้อนขึ้น ทำให้สัตว์จำพวกนี้ขยายพันธุ์ได้ดีขึ้นไง นี่ยังไม่นับถึงเชื้อโรคที่จะกลายพันธุ์ได้อีกนะ </TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>
โดย : ppp
วันที่ :2007-02-14 17:52:43
</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>บ้านฉันก็มีค่ะ ยุงเยอะมากโดยเฉพาะจะมาในเวลา 5 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่ม ช่วงนี้ยุงจะเยอะเป็นพิเศษและเป็นยุงที่ตัวเล็กบินช้าและหลบเก่งมาก ตบไม่เคยทัน

ส่วนช่วงเวลาอื่นก็มียุงนะคะจะเป็นยุงตัวตัวที่เรียกว่ายุงแม่ไก่เลยหละคะ สาเหตุที่ยุงเยอะเพราะปีนี้น้ำท่วมกันทั่วไงค่ะ และแหล่งน้ำเสียก็เยอะขึ้น ยุงวางไข่ในแหล่งน้ำก็จริงแต่ก็มีไข่มีชีวิตอยู่ได้แม้น้ำจะแห้งไปแล้วก็ตามค่ะ คุณอย่าลืมนะคะว่าขนาดมนุษย์ยังมีวิวัฒนาการในการมีชีวิตรอด ยุงหรือสัตว์ต่าง ๆ ก็เช่นกันค่ะ เค้าก็สามารถปรับพฤติกรรมเพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้เหมือนกัน และยิ่งเราพัฒนาสารฉีดพ่นฆ่ายุงมากเท่าไหร่ ยุงก็ยิ่งสร้างภูมิคุ้มกันให้มากกว่าเดิมเช่นกัน

ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือ ควรร่วมมือกันหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากที่บ้านเลย ไม่ทิ้งขยะและจะเป็นแหล่งน้ำขังลงพื้น ไม่มักง่ายทำลายแม่น้ำลำคลองให้เน่าเสีย ใส่ทรายอะเบทที่ทางรัฐจัดให้ในอ่างน้ำเท้า สระน้ำในสวนหน้าบ้าน ขาตู้กับเข้าเพื่อกันยุงวางไข่ ฯลฯ ที่สำคัญควรหันมากางมุ้งนอนซึ่งมุ้งปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายเพื่อป้องกันยุงกัดเวลานอนหลับ หรือนอนดูทีวีจ้า
</TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>
โดย : kkk
วันที่ :2007-02-12 13:20:31
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=comment_background cellSpacing=0 cellPadding=0 width=614 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=middle_comment style="OVERFLOW: hidden; WIDTH: 614px" colSpan=2>ลองดูสารคดีของ อดีตว่าที่ประธานาธิปดี อัลกอ เรื่อง Aninconvenient Truth เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน มันเกี่ยวกันหมดเลยตั้งแต่ โรคระบาด ภัยธรรมชาติ จนเรื่องของยุงและสัตว์พาหะต่างๆ </TD></TR><TR><TD class=bottom_comment colSpan=2>
โดย : สายลมฯ
วันที่ :2007-02-12 11:47:20

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://webboard.mthai.com/5/2007-02-11/301690.html

 

ทำไมถึงต้องเกิดมาเป็นยุง?


​

ทำไมถึงต้องเกิดมาเป็นยุง ทำไมยุงถึงต้องกัดคน ทำไมยุงตัวผู้ถึงกินน้ำหวาน ทำไมตัวเมียกินเลือด อายุของยุงก็สั้นด้วย ทำไมถึงสั้นอ่ะครับ

BOG-BOG 27/4/2006 15:31

โอ้โหคำถามเด็ดดวงมากครับ เอางี้ดีกว่าเดี๋ยวพี่เล่านิทานกล่อมก่อนนอนให้น้อง BOG-BOG ฟังละกันครับ

ธรรมชาติของยุงนั้นคือตัวเล็ก กัดเจ็บ ปากเท่ารูเข็ม กินข้าวไม่ได้กินได้แต่เลือดหรือน้ำหวาน เนื่องมาจากในอดีตชาติของยุง ในสมัยที่เป็นคนมักจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ชอบเอาเปรียบผู้อื่น ชอบทำนาบนหลังคน ชอบปล่อยเงินกู้กินดอกโหด ใจดำ ค้ามนุษย์ค้าทาส ทารุณกรรมสัตว์ ประกอบอาชีพมิจฉาอาชีวะ ฆ่าสัตว์ หลอกลวง ต้มตุ๋น ผิดศีลทุกรูปแบบ ด้วยวิบากกรรมนี้ต้องไปใช้กรรมในมหานรกอยู่นานมากๆๆๆๆ

ครั้งกรรมเบาบางลงก็ได้กลับมาเกิดเป็นเปรตมีปากเท่ารูเข็ม พอหมดกรรมจากเปรตก็ได้กลับมาเกิดเป็นยุงมีปากเท่ารูเข็ม เพราะเคยใช้ปากในทางมิชอบเช่น ใช้ปากในการคดโกงหลอกลวง เพื่อหวังจะได้ทรัพย์จากผู้อื่น สมัยเป็นคนชอบด่าว่าผู้อื่น ตำหนิติเตียนแต่ในทางให้เขาเสียหาย

ยุงอายุสั้นเพราะกรรมฆ่าสัตว์มาส่งผล ยุงตัวเล็กเพราะมีจิตเห็นแก่ตัวมาก ยุงปากเท่ารูเข็มเพราะใช้ปากในทางที่ชั่วมามาก

ยุงกินเลือดเพราะจิตอาฆาตพยาบาท จองเวรผู้อื่นอย่างแรงมาข้ามชาติ เช่น ภรรยาอาฆาตสามีว่าจะตามกินเลือดกินเนื้อ เป็นต้น

ยุงกินได้แต่น้ำเพราะปากมันเล็ก???
ส่วนยุงตัวผู้กินน้ำหวานเพราะปากมันไม่แหลมเท่ายุงตัวเมีย???
เอเกี่ยวไหมเนี่ย 555+

xlmen 27/4/2006 22:10

ยุงกินน้ำด้วยหรอเพิ่งเคยได้ยินอ่ะ.... แล้วคนโดนยุงกัดเกินจากวิบากกรรมอะไรจ๊ะ

BOG-BOG 27/4/2006 22:15

ก็น้ำหวาน กับน้ำเลือดงัยครับน้อง BOG-BOG คนโดนยุงกัดเพราะเปิดกระแสจิตที่เป็นบาปอกุศลเช่น จิตอาฆาตไม่ผ่องใส ขุ่นมัว เครียด พยาบาท ใจดำ ใจแคบ เมื่อคนใดปล่อยกระแสจิตแบบนี้ออกมา ก็จะไปดึงให้ยุงเหล่านั้นเข้ามากัดครับ

ดังนั้นผู้ที่สามารถเข้าถึงสมาธิจิตในระดับฌาน 4 ได้เป็นปกติ หลวงพ่อปานท่านกล่าวเปรียบเปรยว่า "ยุงไม่กัดท่านเพราะเลือดท่านขม"

ส่วนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านกล่าวว่ายุงรักคนเลวเกลียดคนดี ดังนั้นยุงจึงชอบกินเลือดคนเลว แต่จะไม่กินเลือดคนดีครับ

ดังนั้นถ้าใครประสงค์จะไม่ให้ยุงกัด ก็ลองแผ่จิตให้กว้างขวางสวนกระแสจิตใจดำคับแคบดูสิครับ ฝึกให้เป็นปกติให้ชินจนเป็นฌาน แล้วยุงจะไม่กัดนะครับ

xlmen 27/4/2006 22:25

โอ้โห ท่านผู้ทรงคุณวุฒิแห่งวิชชายุง มาตอบเองเลย มีเหตุผลมากค่ะท่านXLmen

คุณไปหัดฝันมา มีแนวทางที่ดี ด้านจุตูปปาตญาณนะ อย่างนี้พี่หัดฝันต้องอายเลยหล่ะ ถ้างั้นเวลายุ่งบินตอม ต้องทำสมาธิทำใจใส แผ่เมตตา แล้วยุงจะไม่มากัดเรานะคะ เป็นวิธีที่ดีนะ ถ้าบังเอิญเราไม่มีมุ้ง ไม่มียาทากันยุง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะหงุดหงิดเมื่อถูกยุงตอม

ลูกพระธัมฯ Merry Ma 28/4/2006 1:09

อ๋อ เข้าใจแล้ว ว่าทำไมถึงถูกยุงกัด ก็สงสัยมาตั้งนาน เวลานั่งอยู่ด้วยกันกับเพื่อนๆ ญาติๆ หลายๆคน ทำไมยุงกัดแต่เพื่อนๆ ญาติๆ แต่ไม่เคยกัดน้องฟ้าร้างเลย อาจจะเป็นเพราะเรานั่งสมาธิ ชอบแผ่เมตตา แต่ญาติๆ ไม่เคยนั่งสมาธิเลยนี่เอง

แล้วก็ที่ยุงชอบสีดำๆ มืดๆ เลยทำให้กัดคนดำ มากกว่าคนขาว เหตุที่แท้จริง ก็คงเป็นเพราะว่า คนมีผิวขาว เพราะอดีตชาติชอบแผ่บุญ ใจดี มีเมตตา เลยไม่มีแรงดึงดูดให้ยุงมากัด ส่วนคนผิวคล้ำ ดำ ก็เพราะในอดีตสั่งสมโมโห ดุ พยาบาท มามากกว่า เลยทำให้มีแรงดึงดูดยุง เป็นเพราะเหตุนี้นี่เอง

ฟ้าร้าง 29/4/2006 10:49

โอ้ทำไปได้ เกี่ยวกันด้วยหรือครับเนี่ย 555+
สันนิษฐานใช้ได้เลยครับน้องฟ้าร้าง หุหุหุ

xlmen 30/4/2006 23:49

ที่มา http://www.dmc.tv/forum/lofiversion/index.php/%3Cbr%20/t4090.html

 

แจ้งข่าว "หลวงปู่ประเสริฐ" ​

น้องเมย์​

เมย์ขอแจ้งข่าว "หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตอนนี้ อย่าเพิ่งไปรบกวนท่านช่วงนี้ค่ะี้ ยังไม่ถึงเวลาค่ะ

หลังจากที่เมย์โพสต์เรื่องการเตือนภัยพิบัติของหลวงปู่ประเสริฐ ก็มีผู้คนจำนวนมาก รวมไปถึงนักข่าวช่อง 9 บุกไปที่สำนักสงฆ์ของท่าน ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในสำนักสงฆ์เป็นอย่างมาก เพราะที่นี่ปกติจะไม่ค่อยมีคนไปมากนัก การที่คนจำนวนมากแห่ไปนั้น ทำให้ทางสำนักสงฆ์เกิดเสียงดัง เป็นอุปสรรคต่อการปฏิฺิบัติธรรมเป็นอันมากค่ะ

ซ้ำร้ายยังมีอุบาสิกาบางท่าน แต่งตัวไม่เรียบร้อย ไม่รู้กาละเทสะ ใส่กางเกงขาสั้น เดินเข้าไปในสำนักสงฆ์ ซึ่งสร้างความลำบากใจแก่เหล่าลูกศิษย์เป็นอย่างมากค่ะ

มีคน Print กระทู้ของเมย์เรื่องการเตือนภัยพิบัติของหลวงปู่ประเสริฐ แล้วเอาไปให้หลวงปู่อ่าน แล้วหลวงปู่ประเสริฐท่านก็ฝากลูกศิษย์มาขอร้อง ให้เมย์ลบกระทู้ที่เกี่ยวกับท่านออกก่อน หรือถ้าจะเตือนผู้คนก็เตือนได้ แต่ไม่ควรเปิดเผยที่อยู่ของสำนักสงฆ์ เนื่องจากหลวงปู่ยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวช่วงนี้ มันยังไม่ถึงเวลาอันควร เมื่อถึงเวลาอันควรแล้ว หลวงปู่ท่านจะประกาศตัวเอง และการที่คนไปกันมากๆ จะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม ของลูกศิษย์ในนั้นได้ค่ะ้

เมย์จึงได้ตัดสินใจลบกระทู้เรื่องการเตือนภัยพิบัติของหลวงปู่ประเสริฐออกก่อน และขอความกรุณาจากเพื่อนๆ อย่าเพิ่งแห่กันไปที่สำนักสงฆ์ของท่านช่วงนี้นะคะ หรือถ้าต้องการไปจริงๆ ให้แต่งกายให้เรียบร้อย โดยเฉพาะผู้หญิง เนื่องจากหลวงปู่ประเสริฐท่านเป็นพระอริยะเป็นพระนักปฏิบัติที่เคร่งครัดในพระวินัยมาก การที่ใครแต่งตัวไม่เรียบร้อย และไม่สำรวม กาย วาจา ก็จะเป็นบาปอกุศลต่อท่านผู้นั้นเป็นอันมาก ขอความร่วมมือมา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ

และเมย์ต้องกราบขอขมาหลวงปู่ประเสริฐ ที่ทำให้ท่านและสำนักสงฆ์ของท่านต้องเดือดร้อน เพราะการโพสต์ของเมย์เรื่องการเตือนภัยพิบัติของหลวงปู่ เมย์เพียงแต่อยากให้คนรีบรักษาศีล5 เพื่อเป็นเสบียงบุญในภพต่อไป ไม่คิดว่าจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้หลวงปู่และทางสำนักสงฆ์อ่ะค่ะ เมย์เสียใจมากๆ เมย์กราบขอขมาหลวงปู่ประเสริฐมา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ

****************************************************
<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->น้องฟาง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2093333", true); </SCRIPT> สมาชิก

ไม่เป็นไรหรอกครับคุณเมย์ เรามีเจตนาดีกับทุกคน ให้รีบทำความดี

ตอนนี้ บ้านเมืองกำลังต้องการที่พึ่งอย่างแรง เรื่องก็เลยเป็นแบบนั้น

ขอใ้ห้ทุกคน ถือ ศีล 5 สวดมนต์ ไหว้พระ ทำจิตใจให้สงบ

มีสติ อยู่ที่บ้านเราเอง ก็ถือว่าไปหาท่านแล้วละครับ<!-- google_ad_section_end -->

***************************************************
เกษม สมาชิก

โพสต์เรื่องการเตือนภัยพิบัติของหลวงปู่ประเสริฐ ยังมีอยู่ในกระทู้นี้ หน้าที่ 797 ใครอยากจะเก็บเอาไว้อ่านเป็นการส่วนตัว ก็รีบเซฟเก็บเอาไว้นะครับ เดี๋ยวคุณคณานันท์ เกิดนึกขึ้นมาได้ว่าเคยเอามาลงไว้ในกระทู้นี้ด้วย ก็จะมาลบออกไปเสียก่อน ทำให้คนที่ยังไม่ได้อ่านต้องพลาดข่าวสำคัญนี้ไปนะครับ...อิอิ


***************************************************

 

555 พี่เกษม แยบยล นัก

 

ฟิลิปปินส์เร่งช่วยเหยื่อผู้ประสบภัยไต้ฝุ่น 64,000 คน​

​

มะนิลา 9 พค.- ทางการฟิลิปปินส์เร่งจัดส่งอาหาร ยารักษาโรค และวัสดุซ่อมแซมบ้านไปให้เหยื่อผู้ประสบภัย 64,000 คน ที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนหลังเกิดเหตุไต้ฝุ่นจันหอมพัดถล่มพื้นที่ทางเหนือของฟิลิปปินส์

จันหอมเป็นไต้ฝุ่นลูกที่สองที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 27 คน พื้นที่ประสบภัยหลายแห่งกำลังอยู่ระหว่างซ่อมแซมสายไฟและสายโทรศัพท์ที่ได้รับความเสียหายจากไต้ฝุ่นลูกนี้

ไต้ฝุ่นจันหอมเคลื่อนตัวไปยังทะเลฟิลิปปินส์ นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะลูซอน เมื่อเช้าวานนี้ หลังพัดถล่มพื้นที่ทางเหนือของฟิลิปปินส์ จนก่อให้เกิดดินถล่ม น้ำท่วม และระบบไฟฟ้าถูกตัดขาด ทั้งยังทำลายบ้านเรือนไปกว่า 7,000 หลัง.- สำนักข่าวไทย

2009-05-09 13:27:48

อุทกภัยหนักในบราซิล เสียชีวิต 44 ราย ไร้ที่อยู่นับแสน​

​

บราซิเลีย 10 พค. - เจ้าหน้าที่บราซิล กล่าวว่า พายุฝนกระหน่ำจนทำให้น้ำท่วมรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 44 คน ทั่วพื้นที่ภาคเหนือของบราซิล และประชาชนอีก 180,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนมาอยู่ในที่พักฉุกเฉินเป็นส่วนใหญ่

สำนักงานป้องกันพลเรือนแห่งชาติ รายงานว่า ผู้เสียชีวิตมีรายงานในรัฐ 8 แห่ง จาก 11 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ชาวบ้านราว 126,376 คน ต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ส่วนอีก 57,000 คน ไปพักอยู่ที่บ้านเพื่อนและญาติ คาดว่าประชาชนเกือบ 1 ล้านคน ในพื้นที่ 320 แห่ง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่หลายแห่ง

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา เดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยได้พบกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พร้อมทั้งให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะจัดสรรความช่วยเหลือมาให้ผู้ประสบภัย .- สำนักข่าวไทย

2009-05-10 11:00:26

รัฐแคลิฟอร์เนียอพยพประชาชนหนีไฟป่าอีกระลอก ​

​

ซานตา บาร์บารา 9 พ.ค. - รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเตรียมอพยพประชาชนหนีภัยไฟป่าอีกราว 23,000 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมไฟป่าที่กำลังลุกลาม

สถานการณ์ไฟป่าทางภาคใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ที่ยังไม่อาจควบคุมได้ ทำให้นายอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ผู้ว่าการรัฐ ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อระดมกำลังควบคุมไฟป่า ล่าสุดเพลิงได้เผาผลาญบ้านเรือนไปแล้วอย่างน้อย 75 หลัง และมีประชาชนต้องอพยพออกจากเมืองซานตา บาร์บาราแล้วราว 30,500 คน ขณะที่คาดว่าอาจต้องอพยพประชาชนเพิ่มเติมอีกราว 23,000 คน

ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเปิดเผยว่า สภาพอากาศที่ร้อนแห้ง ป่าที่แห้งแล้งผิดปกติ ประกอบกับลมกำลังแรงเป็นปัจจัยสำคัญที่โหมความรุนแรงของไฟป่า ทั้งเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมและการคาดคะเนทิศทางของไฟ ซึ่งจนถึงช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมแนวไฟป่าได้แล้วราวร้อยละ 10 จากการประสานงานระหว่างกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมไฟป่า 2,500 นาย ร่วมกับหน่วยดับเพลิงทางอากาศ โดยมีพื้นที่ถูกเพลิงเผาผลาญไปแล้วราว 8,750 ไร่

สภาพอากาศที่ร้อนแห้งเป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าขึ้นเป็นประจำในรัฐแคลิฟอร์เนีย และการที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐได้รับความนิยมอย่างสูงโดยเฉพาะในหมู่ผู้มีชื่อเสียง ทำให้เหตุไฟป่าแต่ละครั้งที่ผ่านมามักมีบ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก มีมูลค่าความเสียหายเป็นตัวเลขมหาศาล.- สำนักข่าวไทย

2009-05-09 14:05:05

พายุฝนฟ้าคะนองถล่มสหรัฐ​

​

สหรัฐ 9 พ.ค.- เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง พัดถล่มเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ โดยเฉพาะรัฐมิสซูรี กระแสลมรุนแรงพัดต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับรถยนต์คร่าชีวิตผู้โดยสาร 2 ราย ทำให้ผู้ป่วยหัวใจวายตายอีก 1 ราย เหยื่อเคราะห์ร้ายอีก 1 ราย เสียชีวิต หลังเหตุรถบ้านเคลื่อนที่ถูกกระแสลมแรงพัดพังพินาศ บ้านเรือนราษฎรถูกกระแสลมพัดทำลาย 298 หลัง ธุรกิจเสียหาย 29 แห่ง โรงเรียนเสียหาย 13 แห่ง กระแสไฟฟ้าดับ กระทบวิถีชีวิตชาวบ้านมากกว่า 100,000 ครัวเรือน

อุตุนิยมวิทยาสหรัฐ ระบุกระแสลมพัดรุนแรงราว 105-137 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผู้ว่าการรัฐมิสซูรีต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และสั่งการเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือชาวบ้านโดยเร็ว.- สำนักข่าวไทย

2009-05-09 22:54:15

เกิดเหตุระเบิดท่อส่งก๊าซรัสเซียครั้งใหญ่​

​

มอสโก 10 พ.ค. - เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรัสเซีย กล่าวว่า เกิดเหตุระเบิดท่อส่งก๊าซครั้งใหญ่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโกในเช้าวันนี้ ส่งผลให้เปลวไฟพุ่งขึ้นท้องฟ้าสูงถึง 200 เมตร

สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซีย รายงานอ้างนายยูริ ลัซคอฟ นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก ที่กล่าวว่า มีผู้บาดเจ็บ 5 คน ซึ่งรวมถึงชายคนหนึ่งที่ถูกไฟคลอกถึง 35 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่กล่าวว่าสาเหตุเพลิงไหม้อาจเป็นอุบัติเหตุทางเทคนิคเนื่องจากแรงดันในท่อส่งก๊าซ. -สำนักข่าวไทย

2009-05-10 10:16:34

ผู้นำรัสเซียเตือนอริยุติก้าวร้าว​

​

มอสโก 9 พ.ย.–ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย เตือนประเทศคู่อริยุติพฤติกรรมแข็งกร้าว มิเช่นนั้นจะใช้มาตรการโต้ตอบกลับอย่างสาสม

ประธานาธิบดีเมดเวเดฟ ปราศรัยที่จัตุรัสแดงในวาระครบรอบ 64 ปีชัยชนะ ของอดีตสหภาพโซเวียตเหนือกองกำลังนาซีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระบุว่าการกระทำใดที่เป็นการละเมิดต่อประชาชนชาวรัสเซียจะได้รับการโต้ตอบอย่างเท่าเทียม และว่าชัยชนะเหนือลัทธิฟาสซิสม์ยังคงเป็นตัวอย่าง และบทเรียนสำหรับผู้ที่คิดจะใช้มาตรการทางทหารกับรัสเซีย

คำปราศรัยของผู้นำรัสเซียครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดยืดเยื้อระหว่างรัสเซียและจอร์เจียซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศอดีตสหภาพโซเวียต การปะทะกันระหว่างรัสเซียและจอร์เจียเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อนเป็นเหตุให้ความสัมพันธ์หลังยุคสงครามเย็นระหว่างรัสเซียและกลุ่มประเทศตะวันตกสั่นคลอน.-สำนักข่าวไทย

2009-05-09 15:03:40

ศาลอุทธรณ์ในอิหร่านเตรียมเปิดพิจารณาคดีนักข่าวอเมริกัน วันพรุ่งนี้ ​

​

เตหะราน 9 พค.- ศาลอุทธรณ์ในอิหร่านเตรียมเปิดพิจารณาคดี น.ส.โรซานา ซาเบรี นักข่าวสาวอเมริกัน ในวันพรุ่งนี้ หลังถูกศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุก 8 ปี ในข้อหาเป็นสายลับให้สหรัฐ

ทนายความของ น.ส.ซาเบรี ยืนยันศาลอุทธรณ์จะเปิดการพิจารณาคดี ในเวลา 09.00 น. ของวันพรุ่งนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 11.30 น. ของวันพรุ่งนี้ ตามเวลาในไทย โดยหวังว่า ศาลจะตัดสินให้ น.ส.ซาเบรี พ้นผิด และได้รับการปล่อยตัว หลังถูกทางการอิหร่านจับกุมตัวตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม

น.ส.ซาเบรี อดีตนางงามอเมริกันวัย 32 ปี ซึ่งผันตัวมาเป็นนักข่าว เคยตัดสินใจอดข้าวประท้วงเมื่อวันที่ 21 เดือนที่แล้ว เพื่อกดดันให้ทางการอิหร่านยอมปล่อยตัวเธอออกมา โดยดื่มแค่น้ำหรือน้ำหวานเท่านั้น แต่ภายหลังก็ต้องยุติการอดข้าวประท้วงเพราะร่างกายเริ่มรับไม่ไหว

ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ แสดงความวิตกอย่างยิ่ง ต่อชะตากรรมของ น.ส.ซาเบรี และนักข่าวสาวอเมริกันอีก 2 คน ที่ถูกจับกุมในเกาหลีเหนือ ส่วนสมาชิกกลุ่มผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน 4 คน ในสหรัฐ ได้เริ่มอดอาหารประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ หน้าสำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก เพื่อกดดันให้อิหร่านปล่อยตัว น.ส.ซาเบรี.- สำนักข่าวไทย

2009-05-09 15:57:26

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่นเริ่มเดินเครื่องอีกครั้ง ​

​

โตเกียว 9 พ.ค. –โรงไฟฟ้านิวเคลียร์คาชิวาซากิ-คาริวะ ของญี่ปุ่น เริ่มเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์บางส่วนอีกครั้ง หลังระงับมา 2 ปีนับจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

บริษัทโตเกียว อิเลคทริค พาวเวอร์ (เทปโก) ผู้บริหารโรงไฟฟ้าเปิด เผยว่าโรงไฟฟ้าคาชิวาซากิ-คาริวะ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก เริ่มเดินเครื่องทดสอบเตาปฏิกรณ์หนึ่งเครื่องจากจำนวนทั้งหมด 7 เครื่องแล้ว หลังได้รับอนุมัติจากทางการท้องถิ่น อย่างไรก็ดี แม้ก่อนหน้านี้ประกาศจะเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์เต็มกำลังเมื่อผ่านการทดสอบครบ 50 วัน แต่ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะเริ่มเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์ที่เหลือเมื่อใด

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาด 8,200 เมกะวัตต์แห่งนี้ ระงับการผลิตกระแสไฟฟ้าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2550 จากเหตุแผ่นดินไหว 6.8 ริกเตอร์ ในทะเลญี่ปุ่น ซึ่งให้มีผู้เสียชีวิต 15 รายและบาดเจ็บอีกหลายพันคน ผลกระทบของแผ่นดินไหวต่อโรงไฟฟ้าทำให้ประชาชนพากันตื่นตระหนก โดยเฉพาะหลังสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งเผยแพร่ภาพควันสีขาวรั่วออกมาจากเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า ขณะที่ผู้บริหารออกมายอมรับว่า แผ่นดินไหวทำให้น้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีรั่วไหลสู่มหาสมุทร.-สำนักข่าวไทย

2009-05-09 15:43:32

ประชาชนชาวปากีสถานหลายพันยังคงอพยพออกจากพื้นที่สู้รบ​

​

ปากีสถาน 9 พ.ค. - ประชาชนชาวปากีสถานหลายพันคนที่ติดอยู่ในพื้นที่สู้รบระหว่างกองทัพรัฐบาลกับกลุ่มกบฎพยัคฆ์ทมิฬ ยังคงหลั่งไหลอพยพออกนอกพื้นที่

ที่ค่ายผู้อพยพจาลาไล ใกล้เมืองมาร์ดาน ยังคงมีชาวบ้านอพยพหลั่งไหลมาหาที่พักพิงอย่างต่อเนื่อง ที่ค่ายแห่งนี้มีเต็นท์ และสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพ เช่น อาหารและยา แจกจ่ายให้กับผู้อพยพหลายพันครัวเรือน แต่จำนวนพื้นที่ว่างก็ลดลงทุกขณะ จนแทบไม่พอเหลือสำหรับผู้อพยพรายใหม่ที่ยังเข้ามาต่อเนื่อง ผู้อพยพคนหนึ่งเล่าว่า เต็นท์หลังหนึ่งมีคนอยู่กันอย่างแออัดราว 14-15 คน

ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองมาร์ดาน ประมาณว่าตัวเลขผู้อพยพที่หลบหนีเข้ามายังเมืองแห่งนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา น่าจะอยู่ที่ 250,000 คนแล้ว ด้านหน่วยงานผู้อพยพของสหประชาชาติและเจ้าหน้าที่ของทางการปากีสถาน คาดว่าพื้นที่ฝั่งพรมแดนติดอัฟกานิสถานอาจตัองรับภาระผู้อพยพหนีภัยสู้รบมากถึง 1 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

2009-05-09 16:09:09

ทั่วโลกติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กว่า 4,000 คน​

​

10 พ.ค.-เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ยังแพร่ระบาดไม่หยุด ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกิน 4,000 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 52 คน

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 4,390 คน จาก 29 ประเทศกับอีก 1 ดินแดน โดยที่สหรัฐนั้นมีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 1 ที่ 2,254 คน อยู่ใน 44 รัฐ จากทั้งหมด 50 รัฐ ตามมาด้วยเม็กซิโก 1,626 คน และในแคนาดาพบผู้ติดเชื้อ 281 คน ในขณะที่ผู้เสียชีวิตซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่ามีสาเหตุจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ล่าสุดอยู่ที่ 52 คน โดยเม็กซิโกพบผู้เสียชีวิต 48 คน สหรัฐ 2 คน ส่วนที่แคนาคาและคอสตาริกา พบผู้เสียชีวิตประเทศละ 1 คน

ในส่วนของการแพร่ระบาดในเอเชียนั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางการญี่ปุ่นยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อเป็นรายที่ 4 ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเด็กนักเรียนอีก 2 คน และครู 1 คนที่ตรวจพบเชื้อไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐและแคนาดา ส่วนที่เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อแล้ว 3 คน และพบผู้ติดเชื้อ 1 คนในฮ่องกง

ส่วนที่แคนาดา ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีรายงานว่าสุกรหลายร้อยตัวในฟาร์มแห่งหนึ่งที่เมืองแอลเบอร์ตา ทางภาคกลางติดเชื้อไข้หวัด เอช 1เอ็น 1 ล่าสุดทางการท้องถิ่นตัดสินใจกำจัดสุกร ราว 500 ตัว ในฟาร์มดังกล่าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ หลังมีการหารือกันระหว่างผู้ผลิตกับสำนักงานตรวจสอบอาหาร ส่วนที่เหลืออีก 1,700 ตัวให้กักกันเอาไว้ก่อน.-สำนักข่าวไทย

2009-05-10 10:32:06

พบผู้เสียชีวิตจากหวัดใหญ่ 2009 รายแรกในรัฐวอชิงตัน​

​

ซีแอตเทิล 10 พ.ค. - สำนักงานสาธารณสุขรัฐวอชิงตัน ของสหรัฐ ระบุว่า พบชายวัย 30 ปีเศษเสียชีวิตจากอาการที่เกี่ยวข้องกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นรายแรกของรัฐ

สำนักงานสาธารณสุขรัฐวอชิงตัน แถลงว่า ชายที่ไม่มีการเปิดเผยชื่ออาศัยในเขตสโนโฮมิช ซึ่งมีอาการเกี่ยวกับหัวใจเสียชีวิตลงเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยอาการที่ดูเหมือนภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

ขณะนี้มีการยืนยันผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กว่า 4,150 คน ใน 29 ประเทศ มีผู้เสียชีวิตในเม็กซิโก 48 คน และสหรัฐ 2 คน ส่วนคอสตาริกา และแคนาดา พบผู้เสียชีวิตประเทศละ 1 คน. -สำนักข่าวไทย

2009-05-10 11:04:36

แคนาดาฆ่าหมู 500 ตัวหลังพบการติดเชื้อ​

​

ออตตาวา 10 พค. - เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแคนาดา กล่าวว่า หมูในแคนาดาราว 500 ตัว ที่ถูกกักกันไว้นับตั้งแต่ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ในรัฐแอลเบอร์ตา ถูกฆ่ากำจัดแล้ว

แถลงการณ์ระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการตัดสินใจจากผลการหารือร่วมกันของผู้ผลิต สำนักงานตรวจสอบอาหาร และเจ้าหน้าที่อนามัยสัตว์ ที่คาดว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับปศุสัตว์ ส่วนสัตว์อื่น ๆจะต้องอยู่ในพื้นที่กักกันโรคต่อไปซึ่งเป็นมาตรการเพื่ออนามัยสัตว์ ขณะที่แคนาดามีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเป็น 281 ราย .- สำนักข่าวไทย

2009-05-10 09:53:36

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

"ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน ​

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->kananun<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2080808", true); </SCRIPT>
หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

ฝันว่ามีการกดปุ่มนิวเคลียร์ลงไปที่ ประเทศใกล้เรา ทางทิศตะวันออกครับ นอกจากนี้ก็ฝันถึงหลวงพ่อฤาษี และที่ท่านมาเข้าฝันบ่อยก็หลวงพี่อนันต์ ท่านเจ้าอาวาสวัดท่าซุงครับ ช่วงนี้ใกล้เวลามากแล้ว ขออย่าได้ประมาทกันนะครับ<!-- google_ad_section_end -->

04-05-2009, 04:17 PM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nakamura<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568283", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

ผมขอเล่าความฝันเกี่ยวกับน้ำท่วม ในปีนี้ของผมเรียงโดยลำดับดังนี้ครับ

- ฝันว่าน้ำมาอย่างรวดเร็วท่วมหายไปทั้งภาคใต้ โดยในความฝันจะเฝ้ามองดูอยู่ข้างบน เหมือนดูแผนที่ประเทศไทย

- ฝันว่าไปเที่ยวชายหาดแห่งหนึ่ง แล้วอยู่ๆก็มีพายุขนาดใหญ่เข้าพัดฝั่ง ผมก็วิ่งหนี แล้วก็ตื่น

- ฝันว่าไปเที่ยวภูเก็ตแล้วก็เกิดสึนามิขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามความฝันจะเกิดขึ้นหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งสำคัญ อย่างน้อยความฝันก็ทำให้เรานึกถึง "มรณานุสติ" ได้บ้างละ แล้วได้ตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีคุณค่าแล้วหรือยัง...<!-- google_ad_section_end -->

09-05-2007, 10:37 AM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2090639", true); </SCRIPT>
สมาชิก

*** ข้ามแพงมาลงกลางใจ ****

สี่ระเบิดร้ายแรง...จะหลงมาตกกลาง มหานคร

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
19-04-2009, 04:46 AM

*** ฝันคลื่นยักษ์ ****

อีกไม่กี่เดือน...คลื่นทะเลยักษ์ สีฟ้า สูงเหมือนภูเขา ก่อตัว พุ่งเข้ามา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
26-04-2009, 11:17 AM

*** ฝันเมืองหลวง ****

ตื่นขึ้นมา เห็นเมฆดำสนิท ลอยต่ำ ปกคลุมไปทั่วเมืองหลวง
เกิดเมฆงวงช้างใหญ่ หมุนจากฐานเมฆ จนติดพื้นดิน จำนวนมาก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
26-04-2009, 11:23 AM

*** ฝัน ตึกอาคารมหานคร ****

เกิดเสียงลั่นแตกหัก ดังระงมไปทั่วทั้งเมือง
ผู้คนก้มซุกหาที่ปลอดภัย แตกร้าวไปทั่วจนมาถึงตัว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
23-04-2009, 06:58 AM

*** ฝันถึงพ่อหลวงแม่หลวง ****

ในเมือง...รอให้คนรีบออกไปจากตึกให้หมดก่อน
จึงเข้าไปดู....เห็นแหวนโลหะสีเงิน
จึงหยิบขึ้นมาดู ...หัวแหวน เป็นรูปด้านข้างรถถัง แล้วก็วางไว้
พอเดินไปอีก...เห็นกรอบรูปโลหะ แกะเป็นรูปพ่อหลวงแม่หลวง
ยืนอยู่กับกระเป๋าเดินทาง...ใบสี่เหลี่ยมหลายใบ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
วันศุกร์ที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๒<!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->aramboy007<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2076315", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เมื่อคืนฝันเห็นตึกล้มแบบโดมิโน่ เป็นตึกตรงบ่อนไก่ คนวิ่งหนี ตะโกนกันโหวกเหวก ในฝันห่วงยายมาก โทรถามว่ายายปลอดภัยไหม (แต่ความจริงยายเสียไปได้ปีนึงแล้ว) คุยโทรกับยายทั้งน้ำตา แต่ยายบอกว่าปลอดภัยดี รีบวิ่งไปหายาย

แต่กลับวิ่งเข้าไปบ้านหลังหนึ่ง ไปเจอทวด(เสียไปประมาณ 10 ปีแล้ว) มองไปรอบบ้านมีต้นไม้เขียวขจีเต็มไปหมด ห่างออกไปเป็นตึกที่ล้มแบบโดมิโน่ประมาณ 10 ตึก แต่ดันตกใจตื่นเพราะหมาที่บ้านมาปลุกซะก่อนอ่ะ<!-- google_ad_section_end -->

02-05-2009, 04:34 PM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->somemaybe<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2051893", true); </SCRIPT>
สมาชิก

ปกติเป็นคนไม่ช่างฝัน เรียกว่าในชีวิตแทบจะไม่ฝัน ถ้าฝันก็มักไม่มีภาพที่ชัดเจน เป็นความลางเลือนคลับคล้ายคลับคลา คล้ายเป็นความรู้สึกสัมผัสกับเหตุการณ์มากกว่า และนานๆถึงจะมีขึ้นสักครั้ง

ช่วงปลายเดือน พค.ปีก่อน ฝันว่ามีสตรีผู้หนึ่ง ลักษณะสวยงามอ่อนหวานแต่มีความสูงศักดิ์มาก พูดกับยักษ์ตนหนึ่งว่า"สุวรรณ ภายในกำหนด 3 เดือนนี้ จงอยู่รักษาที่นี่แทนเรา" และสตรีผู้นั้นก็กล่าวบอกกับอีกคนว่า

"ทันทีที่ข้าไป ที่นี่จะตกต่ำลงเรื่อยๆ จนในที่สุดจะไม่มีใครสามารถอยู่ได้"
"เว้นแต่จะมี..." มีอะไรสักอย่างนี้แหละ ทำไมจำไม่ได้ก็ไม่รู้

รู้สึกจะฝันเว่อไปหน่อยคราวนี้ แต่ดูข่าวช่วงหลังๆนี้ ก็กลัวๆเหมือนกัน กลัวจะเกิดกลียุค เพราะข้าวยากหมากแพง และด้วยเหตุภัยพิบัติทีละจุดๆ ไปเรื่อยๆ ผู้คนส่วนที่ลำบากก็จะทรมานกับหายนะ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่อาจจะตกต่ำยาวนาน จนมองไม่เห็นหนทางคืนชีพ คนที่ยังไม่ลำบากก็ยังคงสบายกันต่อไป<!-- google_ad_section_end -->

21-04-2009, 03:27 PM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Heureuse<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2061896", true); </SCRIPT>
สมาชิก

ฝันว่าอยู่ในสถานที่เเห่งหนึ่ง กับพ่อเเม่ ญาติพี่น้อง ในที่นั่้นมีคนมากมาย เป็นเหมือนงาน จู่ๆ มีลมมาเเรงมาก ผู้คนวิ่งไปซ่อนกัน เเต่เราไม่กลัวไรมาก ยังร้องเพลงได้อยู่ ลมมาเเรงขึ้นเรือยๆจนกลายเป็น พายุหมุน หมุนผ่านต้นไม้ที่เราอยู่เมื่อกี้กับเเม่สองคน อย่างถอนรากถอนโคน.....

พายุได้ต้อนผู้คนส่วนใหญ่ไปอยู่ ในที่เดียวกัน(เรากับเเม่ยืนดู) จู่ๆ เเผนดินตรงที่คนอยู่มากมายกลับถล่มลงไป เห็นคนหล่นไปต่อหน้าต่อตา ได้ยินเสียง ผู้หญิงร้องระงม เเถมยังมีญาติเราหล่นลงไปด้วย ได้ยินเสียงคนหนึ่งชัดมาก ร้องบอกว่า กูไม่อยากตาย เเละเราก็ตื่นเลย

26-04-2009, 12:39 PM <!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2055626", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

เมื่อคืนนี้(22 เม.ย.52) ฝันว่ามีรถพ่วงและรถอื่นๆขนาดใหญ่ๆ และพ่วงยาวๆทั้งนั้นเลย <O</Oบางคันก็บรรทุกอะไรที่มีลักษณะเหมือนอาวุธ ที่แหลมคมและใหญ่มากมาด้วย <O</Oบางคันก็รู้สึกว่ามีสิ่งที่เป็นอันตรายถูกบรรทุกมาไม่น้อยกว่ากันเลยทีเดียว<O</O

รถพวกนี้วิ่งมาจากทางไหนกับบ้างไม่รู้นะ แต่มาชนกันระเนระนาดไปหมด <O</Oที่สำคัญลักษณะการชนกันนั้น ยังมีอะไรพิเศษๆเป็นลักษณะโดมิโน่ด้วยนะ <O</Oและจากที่สังเกตดูนั้น ล้อหรือฟันเฟืองบางอย่างของรถคันสุดท้าย ที่มาชนกับเขานั้น<O</Oยังไม่หยุดนิ่งดี ยังค่อยๆหมุนไปอยู่เลย

ในความฝันรู้ได้ทันทีเลยว่า ถ้าล้อของรถคันนั้น <O</Oหมุนลงมาถึงตำแหน่งหนึ่งของรถคันที่สอง ก็จะทำให้รถคันที่สองตกลงมาใส่คันที่สาม <O</Oแล้วส่วนที่เป็นอันตรายของรถคันที่สาม ก็จะไปกระแทกกับส่วนที่เป็นอันตรายของคันที่สี่ <O</Oและจากการมองไปรอบๆแล้ว มันจะเป็นวงจรโดมิโน่แบบนี้ไปหมดทุกคันเลย <O</Oจนสุดท้ายก็จะเกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นในบริเวณที่รถมาชนกันนั้น<O</O

ในความฝัน ผมวิ่งหนีออกมาจากเหตุการณ์นั้น ก่อนที่จะเกิดการระเบิด <O</Oในใจก็ถามไปว่านี่มันเกิดขึ้นที่ไหน คำตอบคือที่ "หัวลำโพง" กรุงเทพ<O</O
<O</O
ขนาดผมหนีออกมาที่แถวตึกสูงๆ แถบสาทรแล้วนะ ก็ยังเห็นการระเบิดที่กำปะนาดมาก <O</Oละอองฝุ่นและควันไฟ รวมถึงหลุมที่เกิดขึ้นจากแรงระเบิดนั้น ยังมาจรดที่สาทรเลยครับ<O</O

เล่าให้ฟังเฉยๆนะครับ และอย่าลืมว่าปกติความฝันจะเต็มไปด้วยสัญลักษณ์และความหมายเสมอ <O</Oดังนั้นไม่ได้แปลว่าระเบิดจะคือระเบิดเสมอไปนะครับ<O</O<!-- google_ad_section_end -->

23-04-2009, 12:19 PM

ที่มา http://palungjit.org/threads/ความฝัน-เทพสังหรณ์-สัญญานเตือนจากเบื้องบน.79471/page-136