ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ฝนถล่มระยองท่วมฉับพลัน-รั้วบ้านทรุด

    [​IMG]

    ระยอง 26 เม.ย.- ฝนกระหน่ำหมู่บ้านการเคหะระยอง โครงการบ้านเอื้ออาทรน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ดันรั้วทรุดเป็นแถบกระทบตัวบ้านร้าว ด้านนายอำเภอบ้านฉางรุดตรวจความเสียหายเร่งหาทางช่วยเหลือ

    ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝนตกหนักในจังหวัดระยอง มาตั้งแต่เช้ามืด (26 เม.ย.) นานกว่า 7 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ในพื้นที่โครงการบ้านเอื้ออาทร บ้านฉาง 3 การเคหะแห่งชาติ ถนนพลา–บ้านฉาง หมู่ 5 ตำบลพลา อ.บ้านฉาง เนื่องจากน้ำระบายไม่ทันและน้ำยังกัดเซาะรั้วของโครงการ บริเวณซอยหาดพลา 5 / 1 ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดินทรายเกิดทรุดตัวยาวกว่า 200 เมตร และบ้านอีกหลายหลังมีดินทรุดหายไปกับน้ำ

    นายสรสิทธิ์ ณ บางช้าง ประธานชุมชนหมู่บ้านเอื้ออาทร บ้านฉาง 3 กล่าวว่า เนื่องจากภายในโครงการไม่มีทางระบายน้ำ ทำให้น้ำกัดเซาะดิดที่อยู่บริเวณรั้วโครงการทรุดลงมา และบ้านเรือนยังได้รับผลกระทบจากรั้วที่ทรุดตัวกว่า 20 หลังคาเรือน ต้องให้ย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อนชั่วคราว เนื่องจากบริเวณหลังบ้านที่ติดอยู่กับรั้วนั้นมีสภาพแตกร้าวและดินหลังบ้านทรุด อาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่อาศัย

    ด้าน นายธาตรี นามะสนธิ นายอำเภอบ้านฉาง พร้อมนายสมพร เหลือล้น นายกเทศมนตรีตำบลพลา เร่งเข้าพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมประสานฝ่ายช่างของเทศบาลฯ เร่งหาทางช่วยเหลือ รวมทั้งส่งรถสูบน้ำไปประจำในหมู่บ้าน เพราะเกรงว่าฝนจะตกลงมาอีกเนื่องจากท้องฟ้ายังมืดครึ้ม.- สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 14:26:21

    พายุฤดูร้อนถล่มหลายอำเภอใน จ.กาฬสินธุ์

    [​IMG]

    กาฬสินธุ์ 26 เม.ย.-พายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายอำเภอในจังหวัดกาฬสินธุ์ ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย มากกว่า 250 หลัง

    เจ้าหน้าที่จากเทศบาล ตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบสภาพบ้านเรือนประชาชน ที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มในช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา เป็นเหตุให้หลังคาบ้านพัก พังเสียหายถึง 73 หลัง และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 คน ความรุนแรงของพายุในครั้งนี้ ยังสร้างความเสียหายกับพืชผลทางเกษตร และบ้านเรือนราษฎรในอีกหลายอำเภอ รวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 250 หลังคาเรือน

    ด้านนายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และมิสเตอร์เตือนภัย ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชน ระวังภัยจากพายุฤดูร้อนในระยะนี้
    และมีรายงานว่า เกิดเหตุ น้ำป่าไหลหลากจากดอยแม่แก่ง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ในตำบลแม่ถอด อำเภอโถน จังหวัดลำปาง ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ซึ่งความคืบหน้า ทีมข่าวสำนักข่าวไทย จะติดตามมารายงานให้ทราบอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 13:01:09

    พายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำเสียหายหลายพื้นที่ของ จ.กาญจนบุรี

    [​IMG]

    กาญจนบุรี 25 เม.ย. - เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี บ้านเรือนพังเสียหายเกือบ 200 หลังคา

    สำนักงานป้องกันภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากอำเภอเลาขวัญ ว่า 4 หมู่บ้านในตำบลหนองโสน ถูกพายุพัดกระหน่ำ ทำให้เสาไฟฟ้า และหลังคาบ้านเรือนเสียหาย จำนวน 67 หลังคา ส่วนอำเภอห้วยกระเจามี 8 หมู่บ้าน ถูกพายุพัดหลังคาบ้านหาย ต้นไม้ใหญ่อายุนับ 100 ปี ล้มทับบ้านเสียหาย จำนวน 72 หลังคาเรือน ประชาชนไม่มีที่ยู่อาศัย ชาวบ้านที่โดนพายุกระหน่ำครั้งนี้ บอกว่า ไม่เคยพบเจอพายุพัดแรงเท่านี้มาก่อน เบื้องต้นทางราชการได้นำเครื่องบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือแล้ว และกำลังตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด. -สำนักข่าวไทย

    2009-04-25 17:08:57

    ลำปางล้างดินโคลนบ้านเรือนหลังน้ำป่าทะลักท่วม

    [​IMG]

    ลำปาง 26 เม.ย.- นายณรงค์ เกษระชัย ผู้ใหญ่บ้านแม่แก่ง ม.4 ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงอย่างหนักตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (25 เม.ย.) ทำให้น้ำป่าดอยแม่แก่งไหลทะลักเข้าท่วมถึง 5 หมู่บ้าน กว่า 40 หลังคาเรือน คือ บ้านแม่แก่ง บ้านนาบ้านไร่ บ้านดงชัย บ้านสุขสวัสดิ์ และบ้านแม่เติน โดยเฉพาะบ้านแม่แก่งเสียหายมากสุด

    ล่าสุดช่วงเช้ามืดน้ำลดลงแล้ว ชาวบ้านเร่งทำความสะอาดบ้านเรือนที่มีดินโคลนไหลมากับน้ำป่า ขณะนี้องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ถอดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจความเสียหาย และนำรถน้ำเข้ามาช่วยเหลือผู้เดือดร้อน รวมทั้งช่วยขนย้ายทรัพย์สิน เพราะสภาพอากาศยังมีเมฆฝนคลุมทั่วบริเวณ และมีฝนตกบางพื้นที่

    นายมงคล เฟยตา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ถอด กล่าวว่า สถานการณ์ลำห้วยแม่แก่งยังคงมีปริมาณน้ำมากและมีสีขุ่น เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากมาจำนวนมาก ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กในพื้นที่บ้านนาบ้านไร่ ม.5 ตรวจพบว่าพนังเสียหายเล็กน้อยจากความแรงของน้ำ.- สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 12:50:55

    ปภ.อุตรดิตถ์ ห่วงพายุซ้ำเตือนทุกพื้นที่รับมือ

    [​IMG]

    อุตรดิตถ์ 26 เม.ย.- นายสุรชัย ธัชกวิน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า จังหวัดมีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและสถานีวิทยุทุกแห่ง เพื่อประชาสัมพันธ์การเฝ้าระวังผลกระทบจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจเกิดลูกเห็บตกในระยะนี้ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนพื้นที่ภาคเหนือมีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนช่วง 26-28 เม.ย.52

    นอกจากนี้ ยังให้แต่ละตำบลจัดมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ไว้ตลอด โดยเฉพาะเกษตรกรให้ตัดแต่งกิ่งไม้ ค้ำยันต้นไม้ และสิ่งปลูกสร้างให้แข็งแรง เพราะล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 เม.ย.) มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ข้าวนาปรังที่กำลังออกรวงใกล้เก็บเกี่ยวในพื้นที่ ต.วังแดง อ.ตรอน จมน้ำ หากฝนตกซ้ำจะทำให้ผลผลิตเสียหาย ขณะนี้ชาวบ้านพากันเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อไม่ให้ข้าวมีความชื้นสูงเมื่อนำไปขายให้กับโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง. -สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 11:45:45

    ไฟไหม้ท่อส่งน้ำมันที่อยุธยา คาดเหตุจากหม้อแปลงระเบิด

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    พระนครศรีอยุธยา 26 เม.ย.- เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (26 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลหันตราและเทศบาลตำบลอุทัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ระดมรถน้ำประมาณ 6 คัน ระงับเหตุเพลิงไหม้ท่อสายส่งน้ำมันของบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) ในพื้นที่ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา

    ซึ่งเป็นสายส่งน้ำมันไปยังสถานีน้ำมันป๊อกแป๊ก อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 30 นาที ในการฉีดน้ำสกัดกั้นพร้อมกับปิดวาล์ว จึงระงับเหตุไว้ได้ ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากหม้อแปลงไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวเกิดระเบิดขึ้นช่วงเช้ามืด ท่ามกลางฝนตกหนัก ทำให้สะเก็ดไฟตกใส่ท่อสายส่ง สำหรับความเสียหายต้องรอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอีกครั้ง และจะเปิดให้บริการอีกครั้งในเวลา 16.00 น.วันนี้. - สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 10:37:38

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ที่สุดของการกระทำ ****

    นี่คือ ... ลักษณะของผู้คนในยุคอริยะ
    อีกไม่นาน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    ทุกวันนี้ภัยพิบัติต่างๆ หนักขึ้นๆ ทุกวัน แม้จะมีตัวอย่างให้เห็นทุกวัน ก็ยังมีคนบางกลุ่ม ไม่สนใจทำบุญกุศล เพื่อสะสมเป็นสะเบียงไปโลกหน้าเลย จะรอให้ภัยพิบัติเกิดมาจริงๆ แล้วค่อยทำบุญ ทำทานหรือ

    ;k03
    ไม่หยุด ไม่ถึงพระ ไม่ละไม่ถึงธรรม
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หลายจังหวัดประสบภัยธรรมชาติ

    [​IMG]

    26 เม.ย.-หลายพื้นที่ประเทศไทยยังคงประสบกับภัยธรรมชาติ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่จังหวัดลำปาง ตอนนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

    ความคืบหน้าน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมชุมชน ในพื้นที่ตำบลแม่ถอด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เมื่อเช้ามืดวันนี้ ล่าสุดน้ำท่วมขังที่สูงกว่า 1 เมตร ได้ลดระดับลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทางองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ถอด นำรถน้ำและเจ้าหน้าที่ ออกช่วยชาวบ้านชำระล้างดินโคลน ที่กระแสน้ำพัดเข้ามาในบ้านพัก ส่วนตัวเลขบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับความเสียหาย ประมาณ 40 หลังคาเรือน และไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้

    ส่วนที่จังหวัดสุรินทร์ เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม เป็นระลอกที่ 2 ความแรงของกระแสลม พัดเอาชิ้นส่วนแผ่นสังกะสี มุงหลังคา ปลิวไปติดสายไฟฟ้าแรงสูง เป็นเหตุให้ 5 หมู่บ้าน ในเขตเทศบาลตำบลจอมพระ กระแสไฟฟ้าดับตั้งแต่เมื่อคืนวาน จนถึงขณะนี้ พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายกว่า 300 หลัง

    ลงไปที่ภาคใต้ ฝนที่ตกหนัก ติดต่อกันหลายวัน ทำให้ก้อนหินขนาดใหญ่บน “เขาตกน้ำ” จังหวัดสตูล หล่นลงพื้นด้านล่าง ใกล้กับถนนสายละงู-เขาขาว หมู่ที่ 1 ตำบลเขาขาว อำเภอละงู แต่โชคดีที่ชาวบ้านซึ่งสัญจรไป-มา ไม่ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุด ทางราชการได้นำป้ายระวังหินถล่ม ไปปักไว้บริเวณดังกล่าว เพื่อเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะมากขึ้น

    ที่ จ.ระยอง ฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตรในโครงการหมู่บ้านเอื้ออาทร อำเภอบ้านฉาง ทำให้กำแพงด้านหลังโครงการทรุดตัว เป็นแนวยาวเกือบ 100 เมตร หลายจุดใกล้กับตัวบ้านเสี่ยงต่อการพังถล่มลงมา ล่าสุดนายอำเภอบ้านฉาง สั่งอพยพประชาชนออกจากจุดเสี่ยง พร้อมกับนำรถดับเพลิงเข้าไปสูบน้ำ และทุบรั้วกำแพงบางส่วน เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังออกไป.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 16:02:06

    อุตุฯ ลำปางพบเมฆฝนหนาแน่นเตือนระวังน้ำป่า

    [​IMG]

    ลำปาง 26 เม.ย.- นายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง รายงานว่า สภาพอากาศในพื้นที่ จ.ลำปาง วันนี้ (26 เม.ย.) ยังไม่น่าวางใจ โดยทั่วไปพบเมฆปกคลุมมาก และมีฝนฟ้าคะนองกระจายกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ ซึ่งเกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่

    จากการใช้เรดาห์ตรวจวัดปริมาณฝนตลอดคืนที่ผ่านมา (25 เม.ย.) พบว่า อ.เถิน มีฝนตกมากที่สุด เกิดน้ำป่าไหลหลาก 5 หมู่บ้าน ต.แม่ถอด ทางสถานีอุตุนิยมวิทยาจึงประสานไปยังจังหวัดให้ประกาศเตือนพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ระมัดระวังผลกระทบจากพายุฤดูร้อนช่วงวันที่ 26 – 28 เมษายนนี้ เพราะยังพบกลุ่มเมฆฝนปกคลุมอย่างหนาแน่น.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 15:37:07

    สวนลำไยชายแดนจันทบุรีเสียหายหนักจากพายุฝน

    [​IMG]

    จันทบุรี 26 เม.ย.- นายไสว บุญเยี่ยม กำนัน ต.สะตอน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เปิดเผยความเสียหายจากฝนกระหน่ำอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า นอกจากทำให้ไฟฟ้าดับหลายหมู่บ้าน ยังพัดสวนลำไยหักโค่นเสียหายอย่างมาก ถือว่าสร้างความเสียหายมากกว่าทุกครั้ง

    ซึ่งจะเร่งรายงานให้นายดุษฎี คงศรี นายอำเภอสอยดาว เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้เดือดร้อน โดยเฉพาะชาวสวนลำไยได้รับความเสียหายเกือบทั้งตำบล เพราะผลผลิตลำไยใกล้จะเก็บเกี่ยวส่งขาย อีกทั้งปีนี้เป็นปีที่ราคาลำไยมีราคาดี เกษตรกรส่วนใหญ่ทำสัญญาขายผลผลิตให้ผู้ส่งออกไปแล้ว ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงต้องมาเจรจากันใหม่ระหว่างเจ้าของสวนกับผู้ส่งออก. -สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 17:04:34

    พายุฤดูร้อนพัดต้นไม้ใหญ่โค่นปิดถนนที่พิษณุโลก

    [​IMG]

    พิษณุโลก 27 เม.ย.-ที่ จ.พิษณุโลก เกิดปัญหาการจราจรติดขัดหลังพายุฤดูร้อนพัดต้นไม้ใหญ่โค่นปิดเส้นทาง ส่วนฝนที่ตกเป็นเวลานานส่งผลให้ผลลิ้นจี่ที่พะเยาร่วงหล่น

    เจ้าหน้าที่เร่งใช้มีดตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ที่โค่นขวางทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 32 บริเวณ ต.วังนกแอ่น จ.พิษณุโลก ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยเจ้าหน้าที่มีเพียงมีดตัดต้นไม้ จึงต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ถึงจะเคลื่อนย้ายต้นไม้ออกได้

    นอกจากนี้ ยังช่วยกันระบายรถยนต์ที่ติดสะสมเป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร จึงเตือนประชาชนที่จะสัญจรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะฝนที่ตกหนักเป็นเวลานานอาจทำดินและหินถล่มลงมาปิดเส้นทางได้

    ส่วนที่ จ.พะเยา ฝนที่ตกต่อเนื่องเป็นเวลานานทำให้ผลลิ้นจี่มีผิวคล้ำ ส่วนผลที่สุกงอมเริ่มแตกและร่วงหล่น ซึ่งพื้นที่แม่ใจปลูกลิ้นจี่ 16,000 ไร่ คาดว่าจะได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 500 ตัน หรือกว่า 18 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 02:11:53

    แมลงเม่านับล้านบินเล่นแสงไฟในตัวเมืองเชียงใหม่

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 27 เม.ย.-แมลงเม่านับล้านตัวออกมาบินเล่นแสงไฟในตัวเมืองเชียงใหม่ ส่งผลกระทบกับผู้ที่สัญจรตามท้องถนน

    หลังฝนตกหนักช่วงหัวค่ำ แมลงเม่านับล้านตัวออกจากรูตามพื้นดินไปบินเล่นแสงไฟที่ส่องสว่าง โดยเฉพาะไฟส่องสว่างริมถนนโชตนา ในตัวเมืองเชียงใหม่ แมลงเม่าจำนวนมากบินรบกวนประชาชนที่สัญจรไปมาและผู้ที่ใช้บริการสถานนีบริการน้ำมันในย่านดังกล่าว ทำให้ต้องมีการปิดไฟเป็นระยะเพื่อให้แมลงเม่าบินหนีไป

    เช่นเดียวกับผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามท้องถนน ที่ต้องคอยระวังไม่ให้แมลงเม่าบินเข้าตา ต่างจากฝูงนกเอี้ยงและอึ่งอ่าง ที่ออกมาไล่จับแมลงเม่ากินเป็นอาหาร อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านคาดว่า พรุ่งนี้หากท้องฟ้าเปิดมีแดดออก "แมงมัน" ที่ชาวบ้านในภาคเหนือนิยมบริโภคอาจออกจากรู มาให้ชาวบ้านจับจำหน่าย ซึ่งหนึ่งปีจะมีเพียงครั้งเดียว โดยเฉพาะช่วงฝนตกครั้งแรกของปี หากนำไปขายจะมีราคาแพงกิโลกรัมละ 700-800 บาท.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 04:13:31

    กระบะชนรถไฟที่ธนบุรี-ประจวบคีรีขันธ์มีผู้เสียชีวิต 7 คน

    [​IMG]

    ประจวบคีรีขันธ์ 26 เม.ย.-ความคืบหน้ารถกระบะชนรถไฟขบวนที่ 251 ธนบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน เป็นหญิง 5 คน ชาย 2 คน สถานีปราณบุรี-หนองคาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

    ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถกระบะทะเบียนกองทัพอากาศ 53204 วิ่งมาด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงบริเวณเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางรถไฟตัดกับถนน และไม่มีแผงเหล็กกั้นรวมทั้งบริเวณเกิดเหตุเป็นป่าละเมาะ คนขับมองไม่เห็นจึงรถไฟที่วิ่งผ่านมา จึงพุ่งชนเข้ากับขบวนรถไฟอย่างจัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 20:32:06

    รถสิบล้อฝ่าสายฝนพุ่งตกจุดสร้างท่อระบายน้ำดับคาที่

    [​IMG]

    พิจิตร 26 เม.ย.- พ.ต.ท.เจริญ อนุเคราะห์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ประสานเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนำเครื่องตัดถ่างเข้าช่วยเหลือนายชิน ล่มลำดวน อายุ 51 ปี คนขับรถบรรทุก 10 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70–2585 เชียงราย

    ที่ถูกอัดติดในรถภายในพื้นที่ก่อสร้างท่อระบายน้ำบนทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์ – พิษณุโลก พื้นที่ ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร หลังจากนายชิน ขับรถบรรทุกสินค้ามาถึงจุดเกิดเหตุช่วงเวลา 10.00 น. ท่ามกลางฝนตกหนัก มองไม่เห็นป้ายเตือนระวังพื้นที่ก่อสร้าง จึงพุ่งเข้าชนเต็มแรงก่อนที่รถจะตกพื้นที่สร้างท่อระบายน้ำ เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง จึงนำตัวนายชิน ออกมาได้และพบว่าเสียชีวิตแล้ว. -สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 17:10:38

    เกิดเหตุป่วนใต้หลายจุดในนราธิวาส

    [​IMG]

    นราธิวาส 27 เม.ย. - เกิดเหตุป่วนใต้หลายจุด ใน 5 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายฉวยโอกาสช่วงชุด ชรบ.เฝ้าโรงเรียน ออกไปทำพิธีละหมาด บุกเข้าไปเผาโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์อำเภอเจาะไอร้อง

    แม้เจ้าหน้าที่จะสามารถสกัดเพลิงได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่อาคารเรียนก็เสียหายทั้งหลัง เนื่องจากเป็นอาคารเก่าและมีอุปกรณ์ที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจำนวนมาก

    นอกจากนั้นยังมีรายงานว่าในเวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุป่วนใต้หลายจุด ทั้งลอบวางเพลิงบ้านประชาชนในอำเภอบาเจาะ ยิงหม้อแปลงไฟฟ้าและเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ทั้งในอำเภอแว้ง ระแงะ และจะแนะ ตัดกระแสไฟฟ้าและระบบสื่อสารของภาครัฐ รวมถึงโปรยตะปูเรือใบสกัดเจ้าหน้าที่ ที่จะเข้าไปช่วยระงับเหตุตามจุดต่างๆ.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 09:31:56 ​

    <!-- End Detail -->แผงขายหมูต่างจังหวัดทยอยปิดตัวแบกรับต้นทุนไม่ไหว

    [​IMG]

    26 เม.ย.-ปัญหาเนื้อหมูราคาแพงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้เจ้าของเขียงหมูหลายแห่งต้องปิดตัวลง ขณะที่รัฐบาลเตรียมนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ ประชุม ครม. เพื่อหาแนวทางแก้ไขโดยเร็ว

    ผลพวงเนื้อหมูมีราคาแพง ทำให้เขียงจำหน่ายเนื้อหมูในตลาดเทศบาล 1 และเทศบาล 2 จังหวัดเชียงราย ต้องปิดกิจการไปแล้วกว่า 20 แผง สาเหตุเนื่องจากไม่สามารถรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งค่าคนงาน และราคาสุกรหน้าฟาร์ม ประกอบกับราคาเนื้อหมูชำแหละที่ปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ยอดจำหน่ายลดลง เนื่องจากประชาชนหันไปบริโภค เป็ด ไก่ และ ปลา แทน

    เช่นเดียวกับบุรีรัมย์ ที่แผงจำหน่ายเนื้อหมูหลายแห่งต้องปิดตัวลง เพราะยอดขายตกลงกว่า 50% จากการที่ราคาเนื้อหมูชำแหละ พุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 130 บาท เจ้าของเขียงหมูในตลาดบุรีรัมย์เรียกร้องให้รัฐบาล เร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาราคาหมูแพงโดยเร็ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้บริโภค และแม่ค้าเขียงหมู ก่อนที่จะเดือดร้อน ต้องปิดกิจการไปมากกว่านี้

    จังหวัดตรังที่ขึ้นชื่อ ในเรื่องหมูย่าง แม้มีการปรับราคาจำหน่าย จากเดิมกิโลกรัมละ 320 บาทเป็น 350 บาท แต่ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ซื้อกลับไปของฝากกันอย่างคึกคัก ซึ่งแม้ค้าหมูย่างยืนยันลดราคาทันที หากราคาเนื้อหมูเข้าสู่ภาวะปกติ

    ที่จังหวัดลำพูน ชาวบ้านออกมาเรียกร้องให้พาณิชย์จังหวัด เข้าตรวจสอบเขียงหมูในตลาดสด 5 แห่ง หลังพบว่า บางร้านแอบนำหมูเถื่อนที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ มาชำแหละเนื้อขาย เนื่องจากมีราคาถูกกว่าซื้อมาจากโรงเชือดหมูหลายเท่าตัว ชาวบ้านเกรงว่าการจำหน่ายเนื้อหมูที่เลี้ยงไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้ผู้ที่ซื้อไปรับประทานเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดเชื้อสเตรปโตคอกคัสซูอิส หรือโรคหูดับ

    นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุสาเหตุที่ทำให้ช่วงนี้เนื้อหมูมีราคาแพง ว่า เป็นผลมาจาก อากาศที่ร้อนจัด ทำให้หมูเติบโตช้า และผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงวันละ 4,000 - 5,000 ตัว อีกทั้งก่อนหน้านี้มีการลดปริมาณลูกหมู ทำให้หมูเป็นออกสู่ตลาดลดลงอีก 5 แสนตัว ซึ่งะทำให้ปริมาณหมูเป็นทั้งระบบ 17 ล้านตัว เหลือเพียง 16.5 ล้านตัว

    นอกจากเนื้อหมูแล้ว ยังมีมะนาวที่ราคาแพงเป็นประวัติการณ์ ราคามะนาวผลใหญ่สุดในตลาดเทศบาลนครหาดใหญ่ ตกกิโลกรัมละ 150 บาท และแม้แต่มะนาวเน่า ยังขายได้ถึง กิโลกรัมละ 30 บาท เลยทีเดียว

    ความเคลื่อนไหวฝากรัฐบาล วันนี้นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า จะนำปัญหาราคาเนื้อหมู มะนาวแพงเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในวันอังคาร และในการประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันพุธ จะหยิบยกเรื่องนี้มาหารืออีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-26 19:08:07

    ที่มา http://news.mcot.net/local/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ถาม-ตอบว่าด้วย 'ไข้หวัดใหญ่หมู' เชื้อไวรัสใหม่ทำท่าระบาดสู่ทั่วโลก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 เมษายน 2552 09:10 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    บีบีซี นิวส์ - บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรคติดต่อต่างกำลังเฝ้าติดตาม และประเทศต่างๆ ก็ออกมาตรการเฝ้าระวัง ภายหลังมีรายงานเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู (swine flu) ที่ประเทศเม็กซิโก ซึ่งทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปหลายสิบคน นอกจากนั้นยังพบผู้ป่วยจำนวนหนึ่งในสหรัฐฯด้วย

    **ไข้หวัดใหญ่หมูคืออะไร?**

    ไข้หวัดใหญ่หมูเป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่ติดต่อในหมู เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A ซึ่งปกติมีการแพร่ระบาดอยู่ในฝูงหมู โรคดังกล่าวมีระดับอาการรุนแรงแต่มักไม่ค่อยเป็นอันตรายถึงชีวิต การแพร่ระบาดมักเกิดในช่วงฤดูใบมิผลิและฤดูหนาว แต่ก็พบว่ามีการระบาดในช่วงอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

    ไข้หวัดใหญ่หมูมีเชื้อหลายประเภท และก็เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์ นั่นคือลักษณะการติดเชื้อก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

    **ไข้หวัดใหญ่หมูติดต่อถึงคนได้หรือไม่?**

    โดยปกติแล้วไข้หวัดใหญ่หมูไม่ติดต่อถึงคน แต่นานๆ ครั้งก็อาจพบการติดต่อดังกล่าวบ้าง ซึ่งมักจะเกิดกับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับหมู นอกจากนั้น ยังมีรายงานเกี่ยวกับการแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดหมูจากคนสู่คนด้วย แต่ก็พบกรณีเช่นนี้น้อยมากเช่นกัน

    การแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูจากคนสู่คนนั้น คาดว่ามีลักษณะเดียวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่คน นั่นคืออาศัยการไอหรือจาม

    สำหรับในการแพร่ระบาดครั้งล่าสุดนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเกิดการการแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู่ ในแบบจากคนสู่คน

    **ไข้หวัดใหญ่หมูที่กำลังระบาดอยู่นี้เป็นเชื้อชนิดใหม่ใช่หรือไม่?**

    องค์การอนามัยโลกยืนยันแล้วว่า อย่างน้อยมีผู้ป่วยบางรายที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด "เอช1เอ็น1" (H1N1) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A ทว่าเชื้อเอช1เอ็น1ในหมู่ผู้ป่วยเหล่านี้ เป็นเวอร์ชั่นที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน

    อันที่จริงเชื้อ "เอช1เอ็น1" ก็เป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบในคน และมีการระบาดอยู่เป็นประจำ

    ทว่าใน "เอช1เอ็น1" เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ มีความแตกต่างออกไป กล่าวคือมีสารทางพันธุกรรมที่พบในสายพันธุ์ต่างๆ ของไวรัสที่ติดต่อในคน, นก, และหมูด้วย

    **มีผู้ติดเชื้อกี่รายแล้วจากการแพร่ระบาดครั้งล่าสุดนี้?**

    รัฐบาลเม็กซิโกยืนยันแล้วว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูครั้งนี้ 20 ราย และกำลังตรวจสอบผู้เสียชีวิตอีกมากกว่า 50 รายว่าเกิดจากสาเหตุเดียวกันหรือไม่

    ส่วนในสหรัฐฯ ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อแล้ว 8 รายในแคลิฟอร์เนียและเทกซัส และเป็นเชื้อที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกับกรณีที่พบในเม็กซิโก นอกจากนั้นมีการยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้ออีก 2 รายที่แคนซัส แม้ว่ายังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเชื้อที่มีพันธุกรรมแบบเดียวกันหรือไม่

    ทางการนิวยอร์กเองก็รายงานว่ามีผู้ป่วย 8 รายที่อาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู ในขณะที่พบเด็กๆ อีกเกือบ 100 คนมีอาการที่ส่อว่าอาจติดเชื้อนี้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม กรณีผู้ป่วยในสหรัฐฯ จนถึงเวลานี้ยังคงมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยไม่มีผู้ใดเสียชีวิต

    **การรับประทานเนื้อหมูจะปลอดภัยหรือไม่?**

    ปลอดภัยแน่นอน ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูสามารถแพร่กระจายโดยการรับประทานเนื้อหมูที่ติดเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานเนื้อหมูที่ปรุงสุกดี ความร้อนที่ระดับอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสจะทำลายเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้

    **คนทั่วไปควรวิตกกังวลกับโรคไข้หวัดใหญ่หมูแค่ไหน?**

    เมื่อมีการค้นพบเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ เราก็จำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปในอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกได้เตือนว่า เมื่อพิจารณาจากกรณีผู้ป่วยที่พบในเม็กซิโกและสหรัฐฯ แล้ว มีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลกด้วย จึงได้เน้นย้ำว่าสถานการณ์ดังกล่าวน่าวิตกอย่างยิ่ง แต่ขณะนี้ก็ยังเร็วเกินกว่าจะประเมินสถานการณ์ทั้งหมดได้อย่างถูกต้อง

    องค์การอนามัยโลกระบุว่าในปัจจุบันโลกมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ครั้งใหญ่อีกหากนับตั้งแต่ปี 1968 เป็นต้นมา โดยมีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 3 จากมาตรวัดความเสี่ยงที่มีตั้งแต่ระดับ 1-6 โดยระดับ 6 คือเสี่ยงสูงสุด

    แม้จะยังไม่มีใครรู้ว่าการแพร่ระบาดของโรคจะรุนแรงมากที่สุดแค่ไหน แต่ผู้เชี่ยวชาญก็เตือนว่าอาจมีผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกติดเชื้อดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ในปี 1918 เคยเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปนมาแล้วครั้งหนึ่ง และมีผู้เสียชีวิตไปนับล้านคน โดยไข้หวัดดังกล่าวก็เกิดจากไวรัสสายพันธุ์ "เอช1เอ็น1" เช่นกัน

    อย่างไรก็ตาม การที่พบว่าผู้ป่วยในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะแสดงให้เห็นว่าระดับความรุนแรงของโรคที่แพร่ระบาดในเม็กซิโกนั้นอาจเป็นผลสืบเนื่องมาจากตัวแปรจำเพาะในเชิงภูมิศาสตร์บางอย่าง และอาจจะไม่ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดรุนแรงไปทั่วโลกก็ได้

    ทว่าจากข้อมูลที่พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว ก็ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติบางอย่างด้วยเช่นกัน เพราะโดยปกติแล้วผู้สูงอายุมีแนวโน้มจะติดไข้หวัดใหญ่มากกว่า

    **จะรักษาอย่างไร มีวัคซีนป้องกันหรือไม่?**

    ทางการสหรัฐฯบอกว่ายารักษาไข้หวัดใหญ่ที่ใช้กันทั่วไปและมีประสิทธิภาพดีในขณะนี้ก็คือทามิฟลู (Tamiflu) และรีเลนซา (Relenza) แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันไวรัสหวัดหมูสายพันธุ์ใหม่นี้ได้หรือไม่ เพราะเป็นไวรัสที่มีลักษณะทางพันธุกรรมแตกต่างไปจากไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ

    นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ กำลังพัฒนาวัคซีนตัวใหม่อยู่ แต่คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าที่จะนำออกมาใช้ได้จริง รวมทั้งผลิตยาให้ได้มากพอกับจำนวนผู้ป่วยที่คาดว่าจะมีจำนวนมหาศาลได้

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000046858
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2009
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** หนึ่งในตัวกระทำที่ไปเบียดเบียนชีวิตเขา ****

    ผลตอบแทนที่ย้อนกลับมา...เป็นเชื้อโรค ที่คอยกัดกินสังขาร
    เชื้อโรค...คือ กรรมที่ปรากฏ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโกแล้ว 103 คน

    [​IMG]

    เม็กซิโก 27 เม.ย. - สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโก ยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตในเม็กซิโกเพิ่มขึ้น

    กระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโก แถลงว่า จนถึงขณะนี้พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโกแล้ว 103 คน และมีผู้สงสัยว่า จะติดเชื้อ 1,614 คน โดยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 400 คน และผู้ป่วยราว 2 ใน 3 มีอาการดีขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามทางการเม็กซิโกกำลังพยายามตรวจสอบเพื่อยืนยันว่า ในจำนวนนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโกจำนวนกี่ราย

    ทั้งนี้ การระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในเม็กซิโกในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความหวั่นกลัวว่าจะเกิดการระบาดไปทั่วโลก องค์การอนามัยโลกระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เกิดขึ้นจากหมูได้รับไวรัสไข้หวัดใหญ่ในคน และไวรัสไข้หวัดนก แล้วเกิดการผสมกัน จนกลายพันธุ์ทำให้เป็นอันตรายมากขึ้นต่อมนุษย์.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 11:02:11

    ถนนในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ร้างผู้คน หวั่นไข้หวัดหมูระบาด

    [​IMG]

    เม็กซิโก ซิตี้ 27 เม.ย. - คนเม็กซิกันหวั่นเกรงไข้หวัดหมูระบาด ต่างพากันเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้าน ส่งผลให้ถนน สวนสาธารณะ และร้านอาหารในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ถึงกับร้างผู้คน ธุรกิจห้างร้านหลายแห่งยังเตรียมปิดกิจการชั่วคราว

    คนเม็กซิกันจำนวนมากต่างหวาดวิตกว่า สถานการณ์ไข้หวัดหมูจะทวีความรุนแรงถึงขีดสุด หลังภาครัฐสั่งปิดโรงเรียน พิพิธภัณฑ์ และยกเลิกการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ นานกว่า 1 สัปดาห์

    บางคนยังเห็นว่ารัฐบาลเม็กซิโกรับมือสถานการณ์ได้ช้าเกินไปเมื่อเทียบกับสหรัฐและแคนาดา ซึ่งแม้จะพบผู้ติดเชื้อเพียงเล็กน้อย แต่รัฐบาลของสองประเทศนี้ก็ให้ข้อมูลกับประชาชนได้อย่างครบถ้วน คนเม็กซิกันบางส่วนยังไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะยอมบอกข้อเท็จจริงทุกเรื่องให้ประชาชนได้รับทราบ การขาดข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจน ทำให้ประชาชนยิ่งหวาดวิตกกับสถานการณ์มากขึ้น

    คนเม็กซิกันยังถือโอกาสนี้แห่กักตุนข้าวของที่จำเป็น ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้าต้องเพิ่มสินค้าในคลังเก็บ และให้พนักงานทำล่วงเวลากันมากขึ้น ร้านค้าที่ขายน้ำผลไม้ต้านไข้หวัดยังขายดิบขายดี มีประชาชนเข้าแถวรอซื้อกันอย่างคับคั่งเมื่อวาน. -สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 10:59:07

    ฮ่องกงใช้มาตรการเข้มป้องกันการระบาดของไข้หวัดหมู

    [​IMG]

    ฮ่องกง 27 เม.ย.-รัฐบาลฮ่องกงประกาศมาตรการสุดเข้มเพื่อป้องกันการระบาดของไข้หวัดหมู เช่น กักตัวบุคคลที่แสดงอาการได้รับเชื้อไวรัส หลังจากเดินทางมาจากพื้นที่ที่มีรายงานการติดเชื้อ

    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮ่องกง ซึ่งเคยมีประสบการณ์รับมือการระบาดของโรคซาร์สในปี 2546 และโรคไข้หวัดนก แนะนำประชาชนงดการเดินทางไปเม็กซิโกหากไม่มีธุระจำเป็น นอกจากนี้ยังดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น ใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบินและจุดเข้าเมือง ซึ่งถ้ามีผู้โดยสารไม่ผ่านการตรวจด้วยเครื่องดังกล่าว จะถูกกักตัวไว้สอบประวัติการเดินทางในช่วง 7 วันที่ผ่านมาและส่งไปตรวจที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ได้มีการแจ้งเตือนผู้โดยสารบนเครื่องบินที่มาจากเม็กซิโกและสหรัฐ และแนะนำให้รายงานอาการเป็นไข้ฉับพลันให้เจ้าหน้าที่รับทราบ

    โทมัส ชาง เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันโรค เชื่อว่า มาตรการเหล่านี้จะทำให้ลดโอกาสที่ไข้หวัดหมูซึ่งติดมาในมนุษย์เข้าสู่ฮ่องกง และถ้าได้รับรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อในฮ่องกง คนไข้จะถูกจับแยกรักษาและสืบหาบุคคลที่เคยสัมผัสร่างกายคนไข้ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ใช้ในช่วงเกิดการระบาดของไข้หวัดนกและโรคซาร์ส.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 11:29:36

    แคนาดายืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมูแล้ว

    [​IMG]

    โตรอนโต 27 เม.ย. – แคนาดาเป็นประเทศแห่งที่ 3 ที่มีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมูเป็นรายล่าสุด โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบผู้ป่วย 6 ราย ในรัฐโนวาสโกเชียและบริติชโคลัมเบีย ซึ่งผู้ป่วยทั้งหมดเกี่ยวพันกับคนที่เพิ่งเดินทางมาจากเม็กซิโก

    ดร.เดวิด บัทเลอร์-โจนส์ ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขแคนาดา กล่าวว่า ผู้ป่วยทุกคนอาการดีขึ้นแล้ว และคาดว่าอาจพบผู้ป่วยเพิ่มอีกในแคนาดา ด้าน ดร.ดานูตา สโกวรอนสกี้ แห่งศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ กล่าวว่า ผู้ป่วย 6 รายมีอาการไม่รุนแรงและไม่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยพบว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกับผู้ที่เดินทางกลับมาจากเม็กซิโก และยังติดไวรัสไข้หวัดหมูสายพันธุ์เดียวกับที่พบในเม็กซิโกด้วย ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกประกาศให้ไข้หวัดหมูเป็นภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วโลกแล้ว. -สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 10:12:57

    ฟิลิปปินส์เตือนกอดจูบในที่สาธารณะช่วงหวัดหมูระบาด

    [​IMG]

    มะนิลา 27 เม.ย. - สำนักงานสาธารณสุขฟิลิปปินส์ประกาศเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการกอดและจูบในที่สาธารณะท่ามกลางประชาชนจำนวนมาก หลังกระแสวิตกต่อแนวโน้มโรคไข้หวัดหมูที่อาจระบาดไปทั่วโลก

    เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ กล่าวว่า แม้ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมูในฟิลิปปินส์ แต่การที่มีรายงานผู้เสียชีวิตและติดเชื้อจำนวนมากในเม็กซิโก จึงทำให้ทั่วโลกเพิ่มมาตรการเข้มงวดด้านสาธารณสุขและความปลอดภัยมากขึ้น นายอีริค ทายัก ผู้อำนวยการสำนักงานระบาดวิทยาแห่งชาติ กล่าวว่า ฟิลิปปินส์เพิ่มมาตรการตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้าตามท่าอากาศยานต่าง ๆ และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสัมผัสกันในที่สาธารณะ เช่น การจับ กอด และจูบ เป็นต้น ซึ่งแม้ว่าเนื้อหมูที่ปรุงสุกอย่างถูกต้องจะไม่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดหมู แต่ฟิลิปปินส์ประกาศระงับการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐและเม็กซิโกเป็นการชั่วคราวแล้ว และสั่งการให้เกษตรกรในประเทศฉีดวัคซีนหมูด้วย

    ทั้งนี้องค์การอนามัยโลก เตือนว่า ไวรัสไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ อาจเกิดมาจากไวรัสคนและนกมาติดต่อสู่หมูและเกิดการรวมตัวกันจนกลายพันธุ์เป็นไวรัสตัวใหม่ พร้อมขอให้ทุกประเทศดำเนินมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 10:04:12

    สหรัฐออกแถลงการณ์วิตกสถานการณ์ไข้หวัดหมูระบาด

    [​IMG]

    สหรัฐ 27 เม.ย.-สหรัฐออกแถลงการณ์แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู

    ดร.ริชาร์ด เบสเซอร์ รักษาการณ์หัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี แถลงว่า สามารถยืนยันผู้ที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดหมูในสหรัฐแล้ว 20 รายในพื้นที่ 5 รัฐ ในจำนวนนี้รวมถึงนักเรียน 8 รายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐนิวยอร์ก โดยเชื้อไวรัสที่พบเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่พบในเม็กซิโก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 คน และอีกกว่า 1,300 คนล้มป่วย และว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอีก

    ขณะที่โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด และพร้อมร่วมมือกับเม็กซิโกอย่างเต็มที่ ในการรับมือการแพร่ระบาด ขณะที่ล่าสุด มีรายงานยืนยันพบผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดหมู 3 รายในประเทศสเปน โดยทั้ง 3 รายมาจากเมืองบิลเบา อัลมานซา และบาเลนเซีย.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 03:14:59

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เมื่อรู้กรรมกำลงจะมา ****

    ก้าวข้ามกรรม กล้าเลี่ยงกรรม ...ด้วยการกระทำเที่ยง
    คือ การกระทำจาก สัจจะของตนเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    พรก.ฉุกเฉินทำลายเศรษฐกิจจริงหรือ?(2)

    ตอนได้-ค้าขายรวย ไม่เห็นเอามาแบ่งให้สังคมเลย เงียบกริบ แต่ตอนเสีย-สารพัดบ่น สารพัดเคลมกับสังคม พ่อค้าในหอการค้า หรือในสภาอุตสาหกรรม ไม่เคยตายจากโจรกบฏเมือง ซ้ำตอนดีๆ สวมเสื้อนอก ดื่มไวน์กับไอ้พวกกบฏเมืองหน้าระรื่น แต่ชาวบ้านสิ เป็นฝ่ายเผชิญหน้า ถูกเผา ถูกฆ่า ถูกคุกคามสารพัด ไม่เคยต่อว่าซักคำ แถมยังต้องซื้อข้าว-ซื้อน้ำเลี้ยงตำรวจ-ทหารเป็นการแบ่งปันน้ำใจ
    ฉะนั้น อย่าสร้างเงื่อนไขอ้าง "ส่งออก-ส่งเข้า" ไปผูกไว้กับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมากนัก ชาวบ้านเขาจะหมั่นไส้ ถ้ามี พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วไม่มีใครมาค้าขายด้วย ประเทศชาติจะเจ๊ง....
    แล้วทำไมจึงแย่งกันไปค้าขายกับจีน กับเวียดนาม กับพม่า กับประชาธิปไตยปลอมๆ อย่างในกัมพูชา ในสิงคโปร์ล่ะ ประเทศเหล่านั้น ระบบปกครองบ้านเมืองเขาไม่ยิ่งกว่ามี พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกหรือ?
    ให้โอกาส ให้เวลากับรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารเขาได้ทำงานต่อเนื่องอย่างสบายใจบ้างเถอะ อย่าให้เขาต้องเผชิญศึกหลายด้าน ลำพังกวาดล้าง-แก้เกมพวกกบฏแดงที่กระจายไปทั่วประเทศก็ยุ่งยาก-ลำบากพออยู่แล้ว แล้วนี่...พวกผู้ดีเสื้อนอกยังจะมาหลับหู-หลับตาแง้วๆ เอาแต่ได้ เอะอะก็จะให้เลิก..เลิก
    ลืมตาดูโลก โดยเฉพาะตลาดใหญ่ที่สหรัฐอเมริกาซะบ้าง จะได้รู้คิดปรับทิศทางธุรกิจประเทศตัวเอง นี่ยังจะหวังส่งออกลมๆ แล้งๆ อยู่อีก ตลาดผู้บริโภคใหญ่ในสหรัฐ เดี๋ยวนี้ชาวอเมริกันหันไป "ปลูกผัก-ทำสวนครัว" หน้าบ้านใคร-หน้าบ้านมัน ที่รกร้างว่างเปล่ามีตรงไหน ก็ไปจับจองทำแปลงผักกันตรงนั้น กำลังเป็นแฟชั่นฮิตมาก
    เรียกว่า ปรับวิถี ปรับทัศนคติ การอยู่-การกิน-การดำรงชีวิต เพื่อรับสภาพเศรษฐกิจที่ตายซากยาวนานของสหรัฐ อันทุกคนลงความเห็นตรงกันว่าจากยุคโลกาภิวัตน์ มันมาถึงยุคโลกาวิบัติแน่แล้ว!
    แล้วไทยเราซึ่ง ๖๐-๗๐% มีรายได้มาจากการส่งออก และการท่องเที่ยว ยังจะหลับหู-หลับตา งมโข่งอยู่กับการเป่าตูดกระตุ้นการลงทุนเพื่อการส่งออกอยู่อีก ผลิตสินค้าแล้วไม่รู้จะส่งไปขายใคร ง่ายๆ อย่างนี้ แล้วจะยังจะตะบี้ตะบันการค้า-การลงทุน-การส่งออก ชนิดไม่ดูเหนือ-ดูใต้ มันก็น่าสมควรปล่อยให้เจ๊งอยู่หรอก?
    ที่ผ่านมา จีดีพี-มันคือตัวสะท้อนความสุขจากการค้าขายกำไรของพ่อค้า-กลุ่มทุน เราทุ่มทั้งประเทศเพื่อเลี้ยงตัวเลขของสังคมกลุ่มนี้ แล้วเคลมว่าเป็นตัวเลขความเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวม
    ต่อจากนี้ จีดีพีของประเทศไทย มันควรต้องเป็นตัวสะท้อน "ความสุขมวลรวมในการดำรงชีวิตของประชาชนในชาติ"
    สุขนั้นมาจากไหน สุขนั้นจะมาจาก "เศรษฐกิจพอเพียง" เพื่อรอการต่อยอดในอนาคต
    ไม่ควรจะเป็นจีดีพีสะท้อนสุขของพ่อค้า-กลุ่มทุนส่งออกประเภท "ใครใหญ่-กูไปซบตีน" แล้วพอมีอะไร เอาทุกข์มายัดใส่บ่าชาวบ้าน แต่ยามสุข...เสพกันเงียบอยู่พวกเดียว!
    ให้ประเทศมันรอดซะก่อน แล้วการค้า-การส่งออกมันก็รอด ไม่ต้องห่วงหรอก พวกคุณได้รวยกันแน่ ปลายปีนี้ รอฟังข่าวดี ประเทศไทยอาจมี "บ่อน้ำมันใหญ่" ให้ได้เฮกันทั้งชาติ
    แต่ถ้าประเทศไม่รอด ต่อให้เศรษฐกิจโลกดีขนาดไหน พวกคุณจะไปค้าขายได้อย่างไร และอีกอย่าง ผมก็ไม่แน่ใจว่าพวกคุณจะอยู่ "ร่วมทุกข์" กันครบหน้ากับชาวประชาในประเทศหรือไม่?
    อย่าพูดกันเรื่องนี้ดีกว่า เดี๋ยวจะเหม็นหน้ากันไปเปล่าๆ ระวังเสาร์-อาทิตย์ "ส่งท้ายสัปดาห์" อาฟเตอร์ช็อกอาจเกิดขึ้นได้ การบีบวงล้อมทั้งตัวทักษิณ และบริวารแดงจากฝ่ายรัฐบาล อาจจะมีปฏิบัติการตอบโต้-ต่อต้านให้เห็น นายกฯ อภิสิทธิ์ยังไม่พ้นวิบาก ยิ่งทีมการเมืองร่วมรัฐบาลทำตัวเหมือน "ธุระไม่ใช่" ซ้ำภายในประชาธิปัตย์สะบัดร้อน-สะบัดหนาว ก็ต้องขอบอกว่านายกฯ อภิสิทธิ์ยังไม่มีสิทธิ์นอนชนิด "หัวติดหมอน" ได้หรอกครับ.

    แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ บทความโดย เปลวสีเงิน วันที่ 17 เมษายน 2552
     
  10. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6724 ข่าวสดรายวัน


    กระทิงหลุดเข้ามินิมาร์ท



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 26 เม.ย. เดอะซันรายงานว่า เกิดเหตุแตกตื่นอลหม่านเมื่อกระทิงหนุ่มตัวหนึ่งหลุดจากคอกแล้ววิ่งตะลุยเข้าไปในร้านมินิมาร์ทใกล้เคียงในไอร์แลนด์ พนักงานใจกล้าบางคนวิ่งไล่ตามจับ แต่พอกระทิงวิ่งหันกลับ ก็แตกหนีกระเจิง เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่มีคนอยู่เต็มร้าน ในที่สุดกระทิงวิ่งออกนอกร้านเองและเจ้าของตามจับไว้ได้ โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บ เจ้าของร้านกล่าวว่า กระทิงวิ่งผ่านเทสโก้โลตัสมาที่นี่ แสดงว่าร้านตนมีของที่สดกว่า ตนคงจะใช้เป็นเรื่องขำขันไว้เล่าให้คนอื่นๆ ฟังต่อไป

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]

    อดไม่ได้



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>คู่รักที่สวมผ้าปิดปากและจมูกจูบกันที่ศูนย์ประวัติศาสตร์ในกรุงเม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวงเม็กซิโก ท่ามกลางความหวาดกลัวการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมู ที่กำลังหวาดกลัวกันทั่วโลก และคร่าชีวิตชาวเม็กซิโกไปแล้ว 60 ราย และทางการเตือนให้เลี่ยงจับมือและจูบกันเพราะเสี่ยงติดเชื้อ (เอเอฟพี)

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]


    หวัดอะไรก็ไม่สนคนหนอคน





    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=images/corner_line_left.gif></TD><TD vAlign=top align=left width="100%" bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!--เนื้อหา--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 519 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6724 ข่าวสดรายวัน[/FONT]


    [FONT=Tahoma,]แมงมุมหน้ายิ้มฮาวาย-เสี่ยงสูญพันธุ์[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG][/FONT]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>"แมงมุมหน้ายิ้ม" มีขนาดเพียงไม่กี่มิลลิเมตร พบที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ดร.จอฟฟ์ อ๊อกซฟอร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านแมงมุมจากมหาวิทยาลัยยอร์ก ประเทศแคนาดา ผู้ศึกษาแมงมุมหน้ายิ้ม กล่าวว่า "แมงมุมชนิดนี้ไม่น่าเป็นอันตรายต่อมนุษย์ การที่มันวิวัฒนาการให้ลำตัวมีหน้ายิ้มก็อาจเป็นเพราะต้องการหลอกศัตรู อย่างไรก็ตาม พวกมันมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เพราะพื้นที่ป่าดิบในเกาะฮาวายลดจำนวนลงเรื่อยๆ"

    [FONT=Tahoma,]ดร.อ๊อกซฟอร์ดยอมรับว่า เมื่อยกใบไม้ขึ้นมา ทำให้เขายิ้มที่เห็นลวดลายบนตัวแมงมุม "มีหลายทฤษฎีที่อาจนำมาอธิบายวิวัฒนาการหน้ายิ้ม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การที่แมงมุมต้องการหลอกนักล่า ศัตรู อย่างนกบางตัวที่ไม่เคยเห็นมันมาก่อน อาจมีจังหวะหนึ่งที่คิดว่า จะกินมันดีหรือไม่กินดี ซึ่งจังหวะนี้เองอาจทำให้แมงมุมหนีรอดจากการถูกกินได้"[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]แมงมุมหน้ายิ้มได้รับการยกย่องให้เป็นทูตของเหล่าแมลงและแมงมุมที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของเกาะฮาวาย เพื่อให้มนุษย์ตระหนักถึงชีวิตของพวกมัน ถ้าไปเที่ยวฮาวายก็จะเห็นรูปแมงมุมหน้ายิ้มอยู่ตามสินค้าของที่ระลึกต่างๆ เช่น เสื้อยืด หมวกเบสบอล และโปสการ์ด[/FONT]

    ดาวพลูโตประหลาด

    หมุนก่อนโลก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>สมาคมดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ นักดาราศาสตร์ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์วีแอลทีของหอดูดาวยุโรปซีกใต้ วัดการเกาะกลุ่มของก๊าซเรือนกระจกจำพวกมีเทนในบรรยากาศของดาวพลูโต และพบสมบัติอันแปลกประหลาดของบรรยากาศบนดาวเคราะห์แคระดวงนี้

    มีเทนเป็นก๊าซที่มีมากเป็นอันดับสองบนบรรยากาศของดาวพลูโต แต่เรื่องที่น่าแปลกใจของบรรยากาศที่นี่ก็คือ ที่บรรยากาศชั้นบนมีอุณหภูมิสูงกว่าที่ระดับพื้นผิวถึง 50 องศาเซลเซียส นั่นคือยิ่งความสูงเพิ่มขึ้น อุณหภูมิก็เพิ่มขึ้นด้วย แทนที่จะยิ่งสูงยิ่งหนาวแบบบนโลก

    เอมมานูเอล เลลลาฟ จากหอดูดาวปารีสของฝรั่งเศส สันนิษฐานว่า บนดาวพลูโตน่าจะมีมีเทนและก๊าซชนิดอื่นเยือกแข็งอยู่เป็นแผ่นหรือเป็นชั้นบางๆ อยู่บนพื้นผิว เมื่อพลูโตโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น ก๊าซเยือกแข็งนี้ก็ระเหิดกลายเป็นไอ หอบเอาความร้อนจากพื้นผิวไปอยู่บนบรรยากาศแทน

    ขณะนี้ ยานนิวเฮอไรซอนส์กำลังเดินทางไปสำรวจดาวพลูโต มีกำหนดไปถึงเป้าหมายในปี 2015 ดังนั้นการค้นพบนี้จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับนักดาราศาสตร์ ที่จะได้เห็นปรากฏนี้ในระยะใกล้ชิดเมื่อยานไปถึง

    สำหรับดาวพลูโตเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์มากที่สุด และมีขนาดเล็กกว่าดวงจันทร์ 7 ดวงในระบบสุริยะ ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่ประชุมสมาพันธ์ดาราศาสตร์สากล หรือไอเอยู ลงมติถอดยศดาวพลูโตออกจากหมู่ "ดาวเคราะห์ชั้นเอก" แห่งระบบสุริยะ

    หนุ่มใหญ่ท้ามัจจุราช ใช้ไฟฟ้า5แสนโวลต์ชอร์ต



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>ใจไม่กล้าทำอย่างนี้ไม่ได้ นายปีเตอร์ เทอเรน จากเมืองบันบิวรี่ ประเทศออสเตรเลีย เลียนแบบประติมากรรม "เดอะ ทิงเกอร์" หรือ "นักคิด" อันมีชื่อเสียงของโรแดง ด้วยการยิงกระแสไฟฟ้าขนาด 500,000 โวลต์ เข้าไปที่ตัวขณะนั่งบนเก้าอี้และใช้มือขวาเท้าคาง

    เทอเรน กล่าวว่า การที่เขายอมเสี่ยงตายก็เพียงเพราะ "ต้องการสื่อให้เห็นถึงคอนเซ็ปต์ของไฟฟ้ายุคใหม่ ที่เข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นและความต้องการใช้ไฟฟ้านั้นมีจำนวนมาก จนไม่สามารถจะ "คิด" ได้" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "ผมต้องการเสี่ยงตายด้วยวิธีใหม่ๆ เพื่อท้าทายพลังของกระแสไฟฟ้า แน่นอนว่า ถ้าไม่มีการป้องกัน เพียงไฟฟ้ากระแสเดียวก็จะทำให้ผมล้มหงายไปกับพื้น และรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับถูกยิงด้วยปืนเทเซอร์ ถ้าเจอไฟฟ้าหลายกระแสก็อาจทำให้ผมหยุดหายใจจนเป็นอันตรายถึงชีวิต" เทอเรนอธิบาย

    หนุ่มใหญ่วัย 52 ปีผู้นี้ ต้องสวมชุดที่ทำมาจากฉนวนฟอยล์ สวมวิกผมที่ข้างในบุด้วยฟอยล์ จากนั้นจึงยิงกระแสไฟฟ้าจากเทสลาร์ ซึ่งกระแสไฟฟ้าจะผ่านตัวของเทอเรนไปในรูปครึ่งวงกลม ต่อมากระแสไฟฟ้าไหลผ่านลงไปยังชุดฟอยล์ และลงกลับสู่พื้นโลกที่ปลายเท้า

    ทำบุญเมือง

    แยกประชาชื่น

    ล็อกล้อ



    กรุงเทพมหานครถือเอาวันที่ 21 เม.ย. ซึ่งเป็นวันตั้งศาลหลักเมือง เป็นวันเกิด โดยในปีนี้กรุงเทพฯ มีอายุครบ 227 ปีแล้ว

    ปีที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้จัดพิธีทำบุญให้กรุงเทพฯ ในวันที่ 21 เม.ย.

    ส่วนปีนี้เปลี่ยนรัฐบาลใหม่มาดูแล และในช่วงวันที่ 21 เม.ย. รัฐบาลก็ยังมองว่าสถานการณ์ยังอยู่ในขั้นวิกฤต จึงยังคงประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่

    และเพิ่งประกาศยกเลิกไปเมื่อวันที่ 24 เม.ย.

    หลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ กทม. ก็จัดพิธีทำบุญเมืองกรุงเทพฯ ในวันเสาร์ที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา

    การทำบุญเมืองของกทม. ได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาสำคัญ 5 ศาสนา คือ ศาสนาพุทธ อิสลาม คริสต์ ซิกข์ และพราหมณ์ ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม.

    ในมุมของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ที่ออกปากเป็นเจ้าภาพจัดทำบุญครั้งนี้ทันทีที่รัฐบาลยกเลิกประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

    มองว่าเป็นการทำบุญล้างซวย หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายทางการเมือง จนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต

    ด้วยเหตุผลที่ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ หนึ่งในความเชื่อตามทัศนคติของคนไทยส่วนใหญ่คือจะต้องทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคล

    นอกจากนั้นการทำบุญเมืองครั้งนี้ ยังเป็นการช่วยสร้างขวัญ กำลังใจ และสะเดาะเคราะห์ ให้ประชาชนคนกรุงเทพฯ

    ขณะที่มุมมองของ พระราชครูวามเทพมุนี นั้นเห็นว่า การทำบุญเมืองครั้งนี้ เป็นการทำบุญโดยยึดว่า เป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยใน เดือน 5 ตามคติความเชื่อในการเริ่มต้นทำความดีด้วยกุศลจิต จากแรงศรัทธาที่กล้าแข็งของคนทุกศาสนาที่มาร่วมในพิธี

    การทำบุญอาจเป็นแค่พิธีกรรมตามศาสนา แต่สำหรับผู้ที่มีจิตเป็นกุศล การได้ทำบุญย่อมช่วยให้เกิดความรู้สึกดี และคาดหวังกับสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นกับทุกคน

    ความรู้สึกดีๆ จึงสัมผัสได้ในผู้ที่มีจิตใจดี




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2009
  11. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    3 วันก็สิ้นเดือนแล้วเงินเดือนใครออกบ้างหุหุ
     
  12. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    [​IMG]


    พระราชพิธีอาพาธพินาศ


    พระราชพิธีอาพาธพินาศ เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ในเหตุการณ์ “ห่าปีระกา” เมื่อพ.ศ.๒๓๗๓ เกิดอหิวาตกโรคครั้งใหญ่ ผู้คนล้มตายมากมายทุกวัน พระราชพิธีอาพาธพินาศ จัดทำขึ้นเพื่อ ปลุกปลอบขวัญราษฎรในการต่อสู้กับโรคอหิวาห์


    มีจดหมายเหตุเล่าถึงไข้ป่วงหรืออหิวาตกโรคในครั้งนั้นว่า

    <o></o>

    “...คนในกรุงเทพฯ เป็นโรคป่วงใหญ่ ขึ้นตั้งแต่ ณ วันเดือน ๗ ขึ้น ๖ ค่ำ ไปถึงวันเพ็ญ คนตายทั้งชายหญิงศพที่เอาไปทิ้งไว้ในป่าช้าและศาลาเดินในวัดสระเกศ วัดบางลำภู (วัดสังเวชวิศยาราม) วัดบพิตรพิมุข วัดปทุมคงคา และวัดอื่นๆ ก่ายกันเหมือนกองฟืน ที่เผาเสียก็มากกว่ามาก ถึงมีศพลอยในแม่น้ำลำคลองเกลื่อนกลาดไปทุกแห่ง จนพระสงฆ์ก็หนีออกจากวัด คฤหัสถ์ก็หนีออกจากบ้าน ถนนหนทางก็ไม่มีคนเดิน ตลาดก็ไม่ได้ออกซื้อขายกัน ต่างคนต่างกินแต่ปลาแห้งพริกกับเกลือเท่านั้น น้ำในแม่น้ำก็กินไม่ได้ด้วยอาเกียรณไปด้วยซากศพ...”

    <o></o>

    ขณะเกิดอหิวาตกโรค พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหน้านภาลัย โปรดฯให้มีรับสั่งให้ตั้งพระราชพิธีอาพาธพินาศ พระราชพิธีนี้ทำที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทคล้ายพระพิธีตรุษ มีการยิงปืนใหญ่รอบพระนครตลอดคืน มีการอัญเชิญและพระบรมสารีริกธาตุแห่รอบพระนคร นิมนต์พระสงฆ์สวดพระปริตรประพรมน้ำพระปริตรไปในขบวนแห่พระแก้วมรกต ทั้งทางบกและทางเรือ


    องค์พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงรักษาศีล สละพระราชทรัพย์ ซื้อชีวิตสัตว์สี่เท้าสองเท้า ปล่อยนักโทษ และห้ามราษฎรทำปาณาติบาต อหิวาตกโรคระบาดหนักอยู่ ๑๕ วัน ก็ค่อยหายไป

    ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนั้น แม้เพียง ๑๕ วัน ก็ทำให้มีผู้คนล้มตายไปมากถึง ๓๐,๐๐๐ กว่าคนเลยทีเดียว

    <o></o>

    หลังจากเกิดอหิวาตกโรคในปีนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ ทรงสังเวชสลดพระราชหฤทัยที่กรรมบันดาลให้เกิดภัยพิบัติแก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเป็นอันมาก จึงทรงบำเพ็ญพระราชกุศลหลายอย่างหลายประการ โปรดฯให้แปลพระปริตรเป็นภาษาไทย โดยมีสมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) เป็นกำลังสำคัญ

    <o></o>

    ในพระราชพงศาวดารรัชกาลที่ ๒ จดไว้ว่าในครั้งนั้นโปรดให้พระเจ้าน้องนางเธอพระองค์เจ้าศศิธรเป็นหัวหน้า ชักชวนพระราชวงศานุวงศ์ และข้าราชการฝ่ายในฝึกหัดสวดพระปริตร ที่แปลเป็นภาษาไทยนี้ โดยให้ราชบัณฑิตเข้าไปบอกที่พระทวารเทวราชมเหศวร์ ข้างในท่องต่ออยู่ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ นัยว่าข้างในครั้งนั้นฝึกหัดสวดมนต์ได้ชำนิชำนาญ เวลากลางวันแบ่งกันซ้อมเป็นพวกๆ เวลากลางคืนพร้อมกันไปสวดที่ท้องพระโรงใน เมื่อเสด็จออกว่าราชการแล้ว เสด็จขึ้นทรงฟังข้างในสวดมนต์ถวายทุกคืน



    ------------------------------------------------
    เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
    และสมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร)
    ------------------------------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2009
  13. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ภัย จะมาในมังสาของสัตว์ต่างๆ อีกมาก

    ล้วนเป็นเหตุแห่งโรคร้าย ซึ่งต่อไปรังแต่จะปรากฏเฉียบพลัน
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกิดแผ่นดินไหว 5.9 ริกเตอร์ที่อินโดนีเซีย

    [​IMG]

    จาการ์ตา 27 เม.ย. - สำนักธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ ที่จังหวัดสุลาเวสี ของอินโดนีเซียวันนี้

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย รายงานว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.22 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 11.22 น.วันนี้ในไทย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเขตโตลีโตลีในจังหวัดสุลาเวสีกลาง และอยู่ลึกใต้พื้นดิน 712 กิโลเมตร แต่ไม่ได้ประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 14:02:14

    พบผู้ป่วยท้องร่วงพุ่งท่ามกลางอากาศร้อนจัดในบังกลาเทศ

    [​IMG]

    ธากา 27 เม.ย. - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบังกลาเทศ กล่าวว่า ตัวเลขผู้ป่วยโรคท้องร่วงในกรุงธากากำลังเข้าขั้นระบาดแล้ว ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ การขาดแคลนน้ำอย่างหนักและไฟฟ้าดับ

    นายอัซฮารุล อิสลาม ข่าน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนานาชาติด้านโรคท้องร่วง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรักษาโรคท้องร่วงที่ใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ กล่าวว่า ที่คลินิกต้องรับผู้ป่วยใหม่ถึงวันละ 800 ราย นับเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบ 45 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์โรคท้องร่วงในบังกลาเทศกำลังเข้าขั้นระบาดในกรุงธากาและแถบชานเมือง ซึ่งคาดว่าวิกฤติขาดแคลนน้ำและคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมต่อเนื่องเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบาดหนัก

    โฆษกโรงพยาบาล กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุโรคท้องร่วง 16 ราย และป่วยอีกกว่า 40,000 รายนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ส่วนอุณหภูมิในกรุงธากาพุ่งขึ้นเป็น 42.2 องศาเซลเซียสเมื่อวานนี้ นับว่าสูงสุดในรอบ 14 ปี.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 15:20:15

    เตือนเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะวุ่นวายเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

    [​IMG]

    มะนิลา 27 เม.ย. - ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เตือนว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเสี่ยงเกิดความวุ่นวายอันเป็นผลจากผลผลิตข้าวลดลง ขาดแคลนน้ำ และต้นทุนทางเศรษฐกิจสูง

    รายงานของเอดีบี ซึ่งเน้นศึกษาอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย ระบุว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสี่ยงได้รับผลกระทบหนักจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เนื่องจากมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจหนาแน่นตลอดชายฝั่งทะเล พึ่งพาเกษตรกรรม ป่าไม้ และทรัพยากรธรรรมชาติเป็นหลัก เอดีบีเตือนว่าภายในปี 2643 เศรษฐกิจของภูมิภาคนี้อาจเสียหายปีละร้อยละ 6.7 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สูงกว่าความเสียหายเฉลี่ยทั่วโลก 2 เท่า หากทั่วโลกไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ผลผลิตข้าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจลดลงจากปี 2533 เหลือเพียงครึ่งเดียวภายในปี 2643 อุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีจะสูงขึ้น 4.8 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างหนักในหน้าแล้งและน้ำท่วมหนักในหน้าฝน

    รายงานชี้ว่า เศรษฐกิจโลกชะลอตัวอาจทำให้รัฐบาลในภูมิภาคชะลอการจัดสรรงบประมาณสำหรับบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ จึงแนะให้ใช้ช่วงเวลานี้เสนอแรงจูงใจในการลงทุนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในภาคพลังงานและทรัพยากรน้ำ เช่น ใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดในการผลิตไฟฟ้าและการขนส่ง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเกิดจากไฟป่าและการตัดไม้ทำลายป่า ขณะเดียวกันต้องรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และเพิ่มมาตรการปรับตัวรับมือกับผลกระทบ เช่น ปรับปรุงการบริหารจัดการน้ำ พัฒนาสายพันธุ์พืชที่ต้านทานความแล้ง. - สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 14:52:12

    ตะวันออกกลางยังคงสะสมอาวุธเป็นจำนวนมาก

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    สตอกโฮล์ม 27 เม.ย. - สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม กล่าวเตือนว่า ปริมาณการส่งออกอาวุธไปยังตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้นมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ยิ่งสร้างความไร้เสถียรภาพในภูมิภาคนี้มากขึ้น

    การส่งออกอาวุธไปยังตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 38% ในช่วงปี 2547-2551 เปรียบเทียบกับในช่วงปี 2542-2546 โดยมีสหรัฐและฝรั่งเศสเป็นผู้ส่งอาวุธรายใหญ่ ส่วนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เป็นผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ และเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและอินเดีย โดยในระหว่างปี 2547-2551 ยูเออีซื้อเครื่องบินรบเอฟ-16 อี จำนวน 80 เครื่อง จากสหรัฐ และซื้อเครื่องบินรบมิราจ 2000-9 จำนวน 50 เครื่อง จากฝรั่งเศส

    ปีเตอร์ เวซแมน นักวิจัยจากสถาบันนี้ กล่าวว่า สิ่งนี้ได้สร้างความวิตกกังวลอย่างใหญ่หลวงต่อภูมิภาคตะวันออกกลางที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นในอ่าวเปอร์เซียจะกระตุ้นให้อิหร่านตอบโต้และหาอาวุธนิวเคลียร์ไว้ครอบครอง เนื่องจากรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกคุกคามมากขึ้น ดังนั้น จึงควรที่ประเทศที่ส่งอาวุธให้กับตะวันออกกลางต้องหันมาพิจารณา

    สถาบันแห่งนี้ระบุว่า เฉพาะในตะวันออกกลาง ยูเออีครองส่วนแบ่งการนำเข้าอาวุธถึง 34% รองลงมา คือ อิสราเอล 22% และอียิปต์ 14% ขณะที่อิหร่านครองส่วนแบ่งการนำเข้าอาวุธเพียง 5%

    สหรัฐยังคงครองตำแหน่งผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก ในช่วงปี 2547-2551 โดยครองส่วนแบ่งตลาดโลกถึง 31% ลดลงจากเมื่อ 4 ปีก่อน 4% สหรัฐส่งออกอาวุธไปยังตะวันออกกลางถึง 1 ใน 3 ของปริมาณอาวุธที่ส่งไปขายทั่วโลก อาวุธที่ส่งไปตะวันออกกลาง ประกอบด้วย เครื่องบินรบ 207 เครื่อง และระเบิดนำวิถีกว่า 5,000 ลูก

    รัสเซียครองส่วนแบ่งตลาดอาวุธเป็นอันดับ 2 คือ ร้อยละ 25 ลดลงจากเมื่อ 4 ปีก่อนเพียง 1% ขณะที่เยอรมนีเพิ่มส่วนแบ่งตลาดส่งออกอาวุธจากเดิม 7% เป็น 10% ส่วนประเทศที่นำเข้าอาวุธมากที่สุดในโลก คือ จีน ครองส่วนแบ่งนำเข้าถึง 11% ระหว่างปี 2547-2551 เพราะวิกฤติการเงินโลก แต่ยังเร็วเกินไปที่จะยืนยันถึงแนวโน้มนี้. - สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 16:59:50

    แพทย์เตือนการบูรอาจเป็นพิษต่อเด็ก

    [​IMG]

    ชิคาโก 27 เม.ย. - แพทย์สหรัฐเตือนผู้ปกครองให้หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์การบูรนำเข้า หลังมีรายงานการบูรเป็นพิษต่อเด็กหลายคนในนครนิวยอร์ก

    คำเตือนนี้ตีพิมพ์ใน Pediatrics วารสารกุมารแพทย์ของสหรัฐ ฉบับเดือนพฤษภาคม เกี่ยวกับเด็กเล็ก 3 คน ที่มีอาการชัก เมื่อเดือนมกราคม 2551 หลังจากกิน สูดดม และใช้การบูรทาผิวหนังในการรักษาอาการหวัด โดยทั้ง 3 คน ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในนครนิวยอร์กของสหรัฐ และหายป่วยแล้ว

    ดร.นิน ไคน์ แพทย์ประจำห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเด็กในเมืองมอนเตฟิออเร ผู้ให้การรักษาเด็ก 3 คน เผยว่า นอกจากกรณีของเด็ก 3 คน ก็ยังพบเด็กอีกหลายคนป่วยด้วยอาการคล้ายกัน แต่ทางการยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเจ็บป่วยจากการบูร

    สำหรับผลิตภัณฑ์การบูรที่เป็นพิษต่อเด็กนั้น เป็นสินค้านำเข้าที่มีปริมาณการบูรสูงกว่าที่ระเบียบของสหรัฐกำหนด มีวางจำหน่ายแพร่หลายตามร้านขายยาชนกลุ่มน้อย และร้านค้าลดราคา บางครั้งมีฉลากคำว่า “alcanfor” ซึ่งเป็นภาษาสเปน แปลว่า การบูร

    การบูรทำมาจากไม้ของต้นการบูร ซึ่งมีในญี่ปุ่นและจีน ทั้งยังมาจากการสังเคราะห์ เป็นสารที่มีกลิ่นแรง และเป็นส่วนผสมในการทำลูกเหม็น นอกจากนี้ ยาทาวิคส์ วาโปรับ ก็มีการบูรเป็นส่วนผสมเช่นกัน แต่มีอยู่ในปริมาณเล็กน้อยตามที่รัฐบาลกำหนด สารชนิดนี้ซึมเข้าสู่ผิวและจมูกได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กเล็ก อาการของผู้ได้รับพิษจากการบูร อาทิ อาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และระคายเคือง. - สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 16:07:45

    ศรีลังกาหยุดใช้อาวุธหนักโจมตีกบฏพยัคฆ์ทมิฬ

    [​IMG]

    โคลัมโบ 27 เม.ย. - รัฐบาลศรีลังกายุติการใช้อาวุธหนักและการโจมตีทางอากาศต่อกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมโดยทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตพลเรือนหลายพันคนที่ติดอยู่ในเขตสงคราม

    คำประกาศนี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากรัฐบาลเพิ่งปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงจากฝ่ายกบฏ รัฐบาลศรีลังกา กล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย โดยได้สั่งการให้กองทัพหยุดใช้อาวุธหนัก เครื่องบินรบ และอาวุธทางอากาศ โดยหันมาใช้อาวุธขนาดเล็กแทน

    ทางด้านโฆษกกองทัพศรีลังกา กล่าวว่า กองทัพหยุดใช้อาวุธหนักมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เมื่อเห็นว่าพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏหดแคบลง ทำให้รัฐบาลเกรงว่า การใช้ปืนใหญ่หรือการโจมตีทางอากาศจะเป็นอันตรายต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์

    ทางด้านโฆษกของกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬ กล่าวว่า จะยังไม่ยอมแพ้ และจะต่อสู้จนกว่าข้อเรียกร้องที่เป็นธรรมของฝ่ายตนจะได้รับการปฏิบัติ. - สำนักข่าวไทย

    2009-04-27 15:28:21

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ขอขอบคุณพี่เกษมและสมาชิกกระทู้ทั้งหลายในข้อมูลต่างๆค่ะ
     
  16. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เมื่อคืนนี้ดูข่าว เห็นว่าทหารพม่ารุกรานชายแดนไทย เผาบ้านเรือนคนไทยตรงชายแดน คนต้องอพยพออก

    ทางใต้โจรใต้ยิงคนเป็นว่าเล่น คนขายของอยู่ก็ยิง

    ทางเขมร ก็ยังไม่สงบเรื่องเขาพระวิหาร

    ยกเว้น ลาว เค้ายังไม่ทำอะไร

    ตายหล่ะ โดนศึกรอบด้าน เค้าคงรู้ว่าตอนนี้เมืองไทยอ่อนแอมาก ทะเลาะกัน ทหารไม่แข็งแกร่งพอแล้ว (เพราะเอาแต่มาทะเลาะกัน) คนไทยแบ่งสีอย่างชัดเจนมาก

    เศร้า !!!!!!!!!!!!!!!
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** กรรมไม่คาดคิด ****

    ทางลาว...จะตามมา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อ้างอิงข้อความจากคุณ สิกขิม เทวาลัย:-

    ภัยจะมาในมังสาของสัตว์ต่างๆอีกมากล้วนเป็นเหตุแห่งโรคร้ายซึ่งต่อไปรังแต่จะปรากฏเฉียบพลัน

    [​IMG]

    อ้างอิงจากหนังสือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เห็นวันโลกาวินาศ

    วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลาบ่ายสองโมงโดยประมาณ พระอาจารย์จี้กงพาหนูน้อยเอี้ยนอี๋ไปดูเหตุการณ์วันมหาวิปโยคต่อไป:-

    แม้จะผ่านช่วงสี่สิบเก้าวันอันยาวนานและน่าสะพรึงกลัวไปได้แล้วก็ตาม แต่โลกก็ยังตกอยู่ในความมืดมิด ต่อมาจึงค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละน้อย เห็นศพเกลื่อนกลาดกองพะเนิน มีแต่หัวขาด แขนขาด ขาขาด หรือตัวขาดเป็นท่อน จนแทบไม่มีศพเต็มร่างเลยโลหิตสีดำคล้ำนองไหลมารวมกัน จนเหมือนแม่น้ำเลือดกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งไปทั่วจนอยากอาเจียน พูดได้ว่ามันคือนรกในเมืองมนุษย์จริง ๆ ไม่นานต่อมา แสงสีม่วงที่ครอบพุทธสถานก็ค่อย ๆ จางไป ญาติธรรมทั้งหลายพากันออกมาภายนอกได้แล้ว โลกทั้งโลกเงียบสงัด สัตว์ที่ยังหลงเหลืออยู่ได้มีเพียงประเภทเดียว คือสัตว์ที่กินหญ้าหรือกินพืชผักเป็นอาหาร คือ กระต่าย แกะ วัว ควาย และม้าเท่านั้น จากนี้คือความทุกข์ยากหลังจากวันเกิดมหันตภัย

    วันที่ห้าสิบถึงเจ็ดสิบ คนที่ไม่ได้ถือศีลกินเจมาก่อน ยากที่จะผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ เพราะทุกหนแห่งในโลกล้วนอาบไปด้วยพิษของกัมมันตภาพรังสี พืชพันธุ์ธัญญาหารไม่มีอะไรเหลือเลย ผู้ที่ทนต่อความอดอยากไม่ได้ ผู้ที่กินเจเฉพาะวันหรือไม่ได้กินเจ แต่โชคดีที่รอดพ้นสี่สิบเก้าคืนมาได้ ภายในร่างกายของเขายังมีสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่ อีกทั้งอารมณ์โหดจะเกิดขึ้น

    พวกคนเหล่านั้นจะฉีกเนื้อกระต่าย แกะ วัว ควาย หรือม้ากินดิบ ๆ ได้ แต่ไม่นานต่อมาเขาก็จะต้องตายเพราะสารพิษ(ในเนื้อสัตว์) พระอาจารย์จี้กงได้โปรดเมตตาบอกว่า มีแต่คนที่กินเจเท่านั้นที่จะอยู่รอดจากความอดอยาก หลังจากภัยพิบัติใหญ่แล้วจริง ๆ

    *************************************************************************************
    การดูแลตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติ
    (ช่วงเวลา49 วันอันตราย)

    1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นญาติสนิท หรือคนที่เรารู้จักก็ตาม

    2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค สารเคมีที่มนุษย์สร้าง

    3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง

    4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้น ประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพจะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณก็จะได้เห็น คนที่มาเยือน อาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้ และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด

    5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด (ในช่วงเวลานั้นสนามแม่เหล็กโลก จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง การกินเนื้อสัตว์อาจจะไปกระตุ้นให้เส้นโลหิตในสมองแตกได้ และในช่วงเวลานั้นเนื้อสัตว์จะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อโรคกับสารพิษที่สัตว์ตัวนั้นกินเข้าไป จึงไม่ควรนำมาบริโภค -เกษม)

    6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม

    7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย

    8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น

    9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ จระเข้

    10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง

    ( คัดลอกมาจาก หนังสือพระโอวาทแห่งองค์จิตจักรวาล ครั้งที่ 17 เรื่องพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ สื่อการถ่ายทอดพระโอวาทโดย อ.ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S. PARINYA TANSAKUL )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2009
  19. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752


    ....ยังไม่ตายหรอกครับ...และ ไม่ต้องเศร้า ด้วย... เพราะ ของ แบบนี้ มัน เกิดเป็นประจำนั่นแหล่ะ..เหตุผล ก็เดิมๆ...ความเข้าใจผิด...เส้นปักปันเขตแดนไม่ชัดเจน..ปัญหาของผู้ปฎิบัติงานระดับล่าง...เป็นปัญหาละเอียดอ่อน...ต้องแก้ไขด้วยความระมัดระวัง....สันติวิธีและ การเจรจา....ดู เหมือนจะวนเวียนอยู่แถวๆนี้นะ...ลงท้าย ก็ จบด้วย..อย่าทะเลาะกันเลย สามัคคีกันไว้ แล้วก็ เงียบๆกันไป....

    ....ยังมี เรื่องเศร้าๆ กว่านี้ อีกมาก....ดูแลสุขภาพ และ ตนเองให้ดี...ได้เคยทราบมาว่า...เมื่อ หลาย สิบปี ที่ผ่านมา มี ไข้หวัดใหญ่ ระบาด ที่ ยุโรป ผู้คนเสียชีวิต มากมาย เป็นเรือนล้าน....ความลำบากยากจน แผ่กระจายไปทั่ว...ไม่แน่ว่า สิ่งเหล่านั้น อาจหวนคืนมาใหม่....ต้อนรับ ความสงบนิ่งของดวงอาทิตย์...พูดมากไป ชักเลอะเทอะ พอแค่นี้ แหล่ะ ครับ
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    จำได้ว่า ตอนนั้นไปหา ลปเครา ท่านเคยบอกว่าบอกเพื่อนๆ ด้วย
    ไข้หวัดนก ถ้ารู้ตัวว่าเป็นไข้ต้องรีบ กินยา


    ทิฟฟี่ 1
    พาราเซทตามอล 1
    ยาเขียว 4

    อาจทำนองเดียวกันกับไข้หวัดที่เป็นอยู่ ลองหาๆ ยาเขียวเก็บไว้กันบ้างก็ดีนะ

    -------------------------------------------------------

    ถ้าโดนยุงกัดให้เอาปูนกินหมากทา แต่อย่าไปทาตรงที่มันกัด ให้ทารอบๆ แล้วมันจะดันเอาพิษออก แต่อย่าไปทาตรงปากแผล ทาวงรอบๆ

    ยุงแม่มาร ถ้าเกาไปถึงไหนคันไปถึงนั่น กัดปุ๊ปก็คัน เกาไปอย่างไรก็บวม

    อย่าเอายาหม่องทา มันยิ่งลาม

    -------------------------------------------------------
     

แชร์หน้านี้

Loading...