ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

โหร ส.ว.ระบุ ปี 2552 ทักษิณ ยังไม่หยุดอาจถึงตาย
<TABLE class=news2006_topic cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD class=news2006_graylight height=10>โดย คม ชัด ลึก<SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT> <!--START-->วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

นายบุญเลิศ ไพรินทร์ (โหร สว.)​

โหร ส.ว.เตือนทักษิณให้หยุดคิด – หยุดทำทางการเมือง ฟันธงห้ามเชื่อลิ่วล้อบริวารสอพลอ หากไม่หยุดมีแต่หมดและอาจถึงตายได้ ด้านเหตุการหย่ากับคุณหญิงพจมาน ทางโหราศาสตร์ไม่เคยทราบดวงคุณหญิง แต่วิเคราะห์เป็นเกมส์ ที่ทักษิณต้องการเดินแต้มการเมืองต่อไปมากกว่า

เมื่อเวลา 19.20 น.วันนี้ 17 พ.ย. 51 นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.ฉะเชิงเทรา หรือฉายา โหร สว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหย่ากับคุณหญิงพจมาน ภริยาว่า เรื่องดังกล่าวไม่ทราบดวงของคุณหญิงพจมาน ว่าเป็นอย่างไรจึงไม่สามารถทำนายทางโหราศาสตร์ได้ แต่วิเคราะห์ได้ว่าเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรียังคงต้องการ จะเดินหน้าทางการเมืองต่อไปอีกมากกว่า ที่ไม่รู้อนาคตว่าจะพบอะไรบ้าง จึงย้ายถ่ายเททรัพย์สินให้กับภรรยา ในรูปแบบดังกล่าว ที่หากแพ้อาจมีการยึดทรัพย์สินติดตามมา

“แต่ในดวง พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ในเดือน มี.ค. 52 นี้จะไม่ดีมากยิ่งขึ้นถูกดาวบาปเคราะห์กลุ้มรุม กล่าวคือดวงดาวจะย้ายจากราศีกุมภ์สู่ราศีมีน เล็งลักขณาราศีกันย์เป็นบาปเคราะห์กลุ้มรุมทำร้าย อาทิ ดาวเสาร์ เนปจูน และราหู ที่จะต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองมหาศาล หรืออาจสูญเสียชีวิตด้วย”

ที่มา http://news.sanook.com/politic/politic_321699.php?page=175


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** เตือนตน ****

หากท่านคิดว่า...สัจจะเป็นลัทธินอกศาสนา
ข้าพเจ้าขอเตือนว่า....เป็นหนึ่งในมิจฉาทิษฐิ
เป็นความคิด...ที่ไปขัดกับ ความจริงในศาสนา
ขอให้ท่าน....พิจารณาทบทวน เหตุผลต่างๆ ให้มาก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เกษตรจัดงาน 117 ปี เกษตรนำไทย พ้นภัยเศรษฐกิจ​

​

​

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 24 มี.ค.- ก.เกษตรฯ จัดงาน

 

ยโสธรพายุถล่มบ้านพัง 21 หลัง​

​

ยโสธร 25 มี.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานความเสียหายจากพายุฝนกระหน่ำอย่างแรงในพื้นที่จังหวัดยโสธร ตั้งแต่บ่ายวันนี้ (25 มี.ค.) เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสำรวจพบว่า หมู่บ้านนาห่อม หมู่ 1 และ 6 ต.นาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว บ้านเรือนเสียหาย 21 หลัง สายไฟฟ้าภายในหมู่บ้านขาดหลายเส้น และต้นไม้ใหญ่หักล้มระเนระนาด กีดขวางถนน เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลนาคำจะเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายให้แล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.)

ขณะเดียวกัน เหล่ากาชาดจังหวัดนำถุงยังชีพเข้าไปช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในเบื้องต้นแล้วทั้ง 21 ครัวเรือน สำหรับ อ.คำเขื่อนแก้ว เกิดพายุพัดถล่มครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2.- สำนักข่าวไทย

2009-03-25 19:07:35

แพทย์พิจิตรนำปลาหมอออกจากทวารหนักเด็กแล้ว​

​

พิจิตร 25 มี.ค.- นพ.สุชาติ เทพารักษ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิจิตร ตรวจสอบอาการและฟิล์มเอกซเรย์เพื่อหาทางช่วยเหลือเด็กชายวัย 8 ปี นักเรียนชั้น ป.2 จากอำเภอสากเหล็ก จ.พิจิตร ที่ญาตินำตัวมาให้แพทย์รักษาเมื่อเย็นวันนี้ (25 มี.ค.)

หลังจากปลาหมอขนาดลำตัวยาว 4 เซนติเมตร มุดเข้าไปในทวารหนักของเด็กชายดังกล่าวขณะลงจับปลาด้วยกายเปลือยเปล่ากับเพื่อนอีก 3 คน ในแอ่งน้ำใกล้บ้าน ล่าสุดแพทย์นำปลาหมอออกจากทวารเด็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้กล้องส่องพร้อมกับใช้อุปกรณ์คีบปลาหมอออกจากทวารของเด็ก ซึ่งปลาหมอเข้าอยู่ที่ปลายสำไส้ พร้อมกับเอกซเรย์ซ้ำอีกครั้งพบว่าลำไส้ใหญ่ไม่ผิดปกติจากการนำปลาหมอออกครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-03-25 19:07:38

สั่งย้ายรวด 9 เจ้าหน้าที่เอื้อนายทุนโค่นป่าอนุรักษ์ลำปาง​

​

ลำปาง 25 มี.ค.- รองผู้ว่าฯ ลำปาง เอาจริงขบวนการโค่นป่าเขตอนุรักษ์ หลังสอบพบเจ้าหน้าที่ร่วมมือนายทุน ล่าสุดต้นสังกัดสั่งย้ายแล้วทั้ง 9 ราย จ่อคิวย้ายอีกเกือบ 10 ราย

นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงไม้สักทองในเขตป่าอนุรักษ์หน้าค่ายฝึกการรบพิเศษประตูผา บ้านจำปุย หมู่ 4 บ้านจำปุย ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ถูกตัดโค่นจำนวนมากว่า การสอบสวนทราบว่ามีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเกี่ยวข้องด้วย 9 ราย อยู่ในพื้นที่ จ.ลำปาง ซึ่งประสานให้ต้นสังกัดแต่ละหน่วยทราบแล้ว ทั้งกรมป่าไม้ ตำรวจภูธรภาค 5 และกองทัพภาคที่ 3 ล่าสุดต้นสังกัดมีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ที่รู้เห็นกับขบวนการลักลอบตัดไม้รวม 9 ราย นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่อีก 7-8 ราย อยู่ระหว่างการสอบข้อเท็จจริง คาดว่าจะรู้ผลเร็วๆ นี้

รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบตัดไม้สักครั้งนี้ทำกันเป็นขบวนการร่วมกับนายทุนโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายและไม่มีใครจัดการอย่างจริงจัง ทั้งที่อยู่ห่างจากทางหลวงไม่ถึง 50 เมตร กระทั่งชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมจังหวัดลำปางบูรณาการกับตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามแบะแสจนพบว่าพื้นที่สูญเสียไม้ไปมาก โดยเฉพาะไม้สักทองอายุกว่า 300 ปี ที่ปลูกไว้ในพื้นที่อนุรักษ์ถูกตัดเหี้ยน จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนพบมูลความจริงมีเจ้าหน้าที่ร่วมมือด้วย จึงมีคำสั่งย้ายครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-03-25 19:01:45

ชุดทหารมวลชนนราฯ ยิงปะทะป่วนใต้ลอบวางระเบิด​

​

นราธิวาส 25 มี.ค.- พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ศิริจันทร์ สว.เวร สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (25 มี.ค.) เกิดระเบิดบนถนนสายบีโล๊ะ-ซากอ ม.3 ต.วากอ อ.ศรีสาคร ขณะที่ชุดทหารสังกัดกองร้อย ฉก.นราธิวาส 37 จำนวน 11 นาย ใช้รถกระบะและรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน เดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจสร้างสรรค์มวลชนในหมู่บ้านบีโล๊ะ และชุดเจ้าหน้าที่ยังยิงปะทะกับอีกฝ่ายประมาณ 3 นาที ทำให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป

ด้าน พ.ต.อ.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผกก.สภ.ศรีสาคร สนธิกำลังทหารและฝ่ายปกครองเข้าพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพื้นถนนเป็นหลุมลึก 50 ซ.ม. กว้าง 80 ซ.ม. ชิ้นส่วนระเบิดกระจัดกระจาย ซึ่งเป็นชนิดของระเบิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในถังดับเพลิง น้ำหนัก 15 กก. มีสายไฟฟ้าเป็นชนวนจุดระเบิดลากเข้าไปในป่าสวนยางพาราริมทาง 200 เมตร แรงระเบิดทำให้รถกระบะ ทะเบียน บฉ 2608 ยะลา ของเจ้าหน้าที่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัย.- สำนักข่าวไทย

2009-03-25 18:01:46

ช่วยฝูงโลมาติดชายฝั่งทะเลสมุทรสาคร​

​

สมุทรสาคร 25 มี.ค.- ชาวประมงสมุทรสาครระดมแรงช่วยกันต้อนโลมา 9 ตัว ติดชายฝั่งออกสู่ทะเลลึก คาดเข้ามาหากินช่วงน้ำขึ้นจนน้ำลดแล้วกลับออกไปไม่ได้ เผย 6 ปีที่ผ่านมา พบโลมาอิรวดีเป็นประจำ แสดงถึงความสมบูรณ์ของท้องทะเล

บ่ายวันนี้(25 มี.ค.) กลุ่มชาวบ้านกระซ้าขาว หมู่ 9 ต.บ้านบ่อ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายทะเล ช่วยเหลือโลมา 9 ตัว น้ำหนักประมาณ 150 กิโลกรัม ความยาวเกือบ 3 เมตร ออกสู่ทะเล ขณะที่โลมาเข้ามาหากินปลาเล็กบริเวณชายฝั่งแล้วกลับออกไปไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ฝูงโลมาว่ายวนไปมาอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งการช่วยเหลือโลมาเป็นไปอย่างทุลักทุเลและใช้เวลานานหลายชั่วโมง เนื่องจากโลมาเกิดความตื่นตกใจ พยายามดิ้นสะบัดหนี บางตัวบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณครีบปลาจากแรงกระแทกกับหินริมชายฝั่ง แต่โลมาทุกตัวได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ชายทะเลกระซ้าขาวมีความอุดมสมบูรณ์ มีการทำประมงและเคยกะปิขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสาคร โดยชาวบ้านช่วยกันฟื้นฟูป่าชายเลนให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้มีฝูงปลาขนาดเล็กหลายพันธุ์เข้ามาอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งและยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลานานาชนิดอีก โดย 6 ปีที่ผ่านมานั้น ชาวประมงพื้นบ้านจะพบฝูงโลมาอิรวดีเข้ามาว่ายน้ำหากินบริเวณชายฝั่งอยู่เป็นประจำ เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอย่างมาก ส่วนครั้งนี้คาดว่าฝูงโลมาทั้ง 9 ตัว คงเข้ามาในช่วงน้ำขึ้น เมื่อน้ำลดจึงติดอยู่ในกำแพงป้องกันชายฝั่ง ทำให้กลับออกไปไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

2009-03-25 17:39:05

บุกเดี่ยวจี้ร้านทองย่านนวนคร กวาดทองเกือบ 100 บาท ลอยนวล​

​

ปทุมธานี 25 มี.ค. - เมื่อเวลา 10.25 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชัยฤทธิ์ จุริตทะโย ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านทองกิมโต๊ะกังเยาวราช ภายในห้างบี๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ย่านนิคมอุสาหกรรมนวนคร ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายได้ทองรูปพรรณน้ำหนักเกือบ 100 บาทไป และกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน โดยคนร้ายสวมเสื้อแจกเก็ตสีดำ กางเกงขายาว ใส่แว่นตาดำ และหมวกแก็บ มือซ้ายถืออาวุธปืน เข้ามาในร้าน พร้อมตะโกนให้อยู่เฉย ๆ แล้วผลักตู้โชว์ทองรูปพรรณขวางทางเข้าออกร้าน แล้วเข้าไปกวาดทองรูปพรรณจากนั้นคนร้ายได้วิ่งสวนลงทางบันไดเลื่อน ออกจากห้างบิ๊กซี วิ่งเข้าไปเข้าในห้างเทสโก้โลตัส ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังกว่า 50 นาย ปิดล้อมทางเข้าออก ในบริเวณย่านนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ทุกเส้นทาง แต่ไม่พบตัวคนร้ายแต่อย่างใด

เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี หรืออาจจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในห้างแล้วหลบหนีไป.- สำนักข่าวไทย

2009-03-25 15:39:13

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

บอกตามตรงวันนี้ดูข่าวแล้ว.....(ทางเรื่องเล่าเช้านี้) รู้สึกอนาจใจอย่างมาก สังคมไทย ประเทศไทยเปลี่ยนไปมาก เกิดเรื่องราวต่างๆ น่าอนาจใจมากมาย ดูแล้วปลง....

 

*** ประชาชน ยังขาดสัจจะทำ ****

เพราะ.... นิสัย
นิสัย ยังไม่ได้... วัด
นิสัย ยังไม่ได้....ตัด
นิสัย ยังไม่ได้...ลด
นิสัย ยังไม่ได้....ทอน
เพราะ...เรายังไม่ได้เดินตามรอยตถาคต
สังคม.... จึงถดถอยลง เสื่อมลง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

26 มี.ค.52

เห็นคนเอาประทัดยักษ์ มาเล่น

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เร่งแก้ภัยแล้งทั่วประเทศ ฝนหลวงบินหลายร้อย เที่ยว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 23 มี.ค.นี้ นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่า การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า สภาวะที่เกิดฝนตกในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ถือเป็นผลดีต่อพื้นที่โดยรวมของประเทศเพราะมีน้ำไหลเข้าเขื่อนขนาดใหญ่ในปริมาณค่อนข้างมาก โดยเพิ่มในเขื่อนภูมิพลประมาณ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะสามารถบรรเทาการขาดแคลนน้ำ ทั้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือได้อย่างมาก รวมทั้งส่งผลให้สามารถแก้ไขปัญหาหมอกควันจากการเผาป่าได้ค่อนข้างมากและส่งผลดีให้กับทางภาคการเกษตร
สำหรับอ่างเก็บน้ำภูมิพลในปัจจุบันมีปริมาตร 6,859 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯ

น้ำไหลลงอ่าง 3.56 ล้าน ลบ.ม. ระบายออก 32.00 ล้าน ลบ.ม. ในส่วนอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์ มีปริมาตร 5,919 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 62 ของความจุอ่างฯ น้ำไหลลงอ่าง 5.05 ล้าน ลบ.ม.ระบาย 30.90 ล้าน ลบ.ม. และปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ 472 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯ

นายธีระเผยอีกว่า นอกจากนี้การออกปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วหลายร้อยเที่ยว ทำให้ฝนตกในหลายพื้นที่มากขึ้น

ครอบคลุมทั้งประเทศ 8 ศูนย์ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำฝนหลวง และแก้ปัญหาภัยแล้ง จึงสั่งการให้สำนักฝนหลวงและกองบินเกษตรเพิ่มฐานปฏิบัติการอีก 2-3 แห่งไว้ เป็นจุดจอดเติมสารฝนหลวงในการขึ้นบินต่อการปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งโดยรวมทั้งประเทศได้.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ร้อนจัด40องศา น่านเจอฝนฟ้าคะนองลูกเห็บตก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (25 มี.ค.) ว่า เมื่อเวลา 14.40 น. ที่จังหวัดน่าน ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองลมกรรโชกแรง ปกคลุม ไปทั่วทุกพื้นที่จังหวัดน่าน

ทำให้เกิดพายุลูกเห็บตก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร เป็นระยะเวลานานประมาณเกือบชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านี้มีอากาศร้อนอบอ้าว อุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส หลังจากเกิดเหตุ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ได้รับรายงานสำรวจในเบื้องต้น คือ ที่บ้านดอนเฟือง ตำบลถืมตอง อำเภอเมืองน่าน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน 2 หลังคาเรือน บ้านทุ่งน้อย ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง เสียหาย 3 หลัง โดยได้ทำการประสานไปยัง อบต.ทั้งสองแห่ง ให้ทำการสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยในเบื้องต้นต่อไป ส่วนอำเภออื่น ๆ ขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหาย ซึ่งจะได้รายงานให้ทางจังหวัดทราบโดยเร็ว

ด้านนายธวัช เพ็ชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวว่า ฝากเตือนประชาชนชาวน่าน ช่วงระยะนี้

ภายในวันที่ 28 มีนาคม 2552 จะมีพายุฝนฟ้าคะนองลูกเห็บตก ขอให้เกษตรกรได้เตรียมการมือและป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตร พร้อมทั้งบ้านเรือน โดยหาทางสร้างความมั่นคงแข็งแรง เวลาขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง ห้ามออกนอกบริเวณบ้าน เพราะอาจเกิดอันตรายจากพายุลูกเห็บได้

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 4(54/2552) เรื่อง พายุฤดูร้อนในประเทศไทย บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้และประเทศไทยตอนบนแล้ว

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ในช่วงวันที่ 25-27 มีนาคม 2552 โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ที่โล่งกลางแจ้งหรือใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งควรงดใช้เครื่องมือสื่อสารหรือวัตถุที่อาจเป็นสื่อนำไฟฟ้าในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนไว้ด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>นิยมบวชเรียนน้อย จำนวนพระ-สามเณรลดลง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันที่ 25 มี.ค. ดร.อำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า พศ.ได้เก็บข้อมูลจำนวนพระภิกษุสามเณร ประจำปี 2551

พบว่าจำนวนพระภิกษุทั่วประเทศ มี 251,997 รูป ส่วนสามเณร 69,607 รูป และเมื่อเปรียบเทียบจำนวนพระภิกษุสามเณรกับปี 2550 พบว่ามีพระภิกษุลดลง 6,166 รูป สามเณรลดลง 447 รูป โดยจังหวัดที่จำนวนพระภิกษุสามเณรลดลง เช่น จ.เพชรบูรณ์ สามเณรจาก1,005 รูป เหลือ 698 รูป จ.กาญจนบุรี พระภิกษุจาก 2,757 รูป เหลือ 2,409 รูป สามเณรจาก 815 รูป เหลือ 285 รูป จ.กาฬสินธ์ุ พระภิกษุจาก 5,240 รูป เหลือ 3,607 รูป สามเณรจาก1,581 รูป เหลือ 842 รูป จ.เชียงใหม่ สามเณรจาก 7,876 รูป เหลือ 6,680 รูป จ.พะเยา พระภิกษุจาก 2,310 รูป เหลือ 1,157 รูป สามเณรจาก 3,296 รูป เหลือ 1,735 รูป จ.พัทลุง พระภิกษุจาก 1,649 รูป เหลือ 1,143 รูป จ.ลำพูน สามเณรจาก 1,913 รูป เหลือ 1,254 รูป

ดร.อำนาจ กล่าวต่อไปว่า จังหวัดที่จำนวนพระภิกษุสามเณรเพิ่ม ขึ้น เช่น กทม. พระภิกษุจาก 14, 405 รูป เป็น 15,369 รูป สามเณรจาก 2,383 รูป เป็น 4,209 รูป

จ.ฉะเชิงเทรา พระภิกษุจาก 2,607 รูป เป็น 3, 978 รูป สามเณรจาก 605 รูป เป็น 818 รูป จ.ยโสธร พระภิกษุจาก 2,046 รูป เป็น 2, 779 รูป สามเณรจาก 367 รูป เป็น 747 รูป จ.สมุทรสงคราม สามเณรจาก 108 รูป เป็น 2, 605 รูป จ.เพชรบูรณ์ พระภิกษุจาก 3,253 รูป เป็น 4,457 รูป ทั้งนี้การเพิ่มและลดของพระภิกษุสามเณร มาจากหลายปัจจัย เช่น คนนิยมบวชเรียนน้อยลง รวมทั้งข่าวสารด้านลบเกี่ยวกับพระสงฆ์และวงการพระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตามจะนำสถิติดังกล่าวรายงานที่ประชุมมหาเถรฯต่อไป

ด้านสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)

กล่าวว่า เรื่อง ของจำนวนของเด็กที่มาบรรพชาเป็นสามเณรน้อยลงนั้น สาเหตุใหญ่มาจากขณะนี้การศึกษาขั้นพื้นฐานครอบคลุมมากขึ้น ทำให้เด็กมาบวชเรียนในโรงเรียนพระปริยัติธรรมน้อยลง สามเณรในระบบการศึกษาก็น้อยลงไป ขณะที่โรงเรียนพระปริยัติธรรมทั่วไปเปิดสอนตั้งแต่ประโยค 1-2 ถึง ประโยค 3 4 5 แต่ในระดับประโยค 6 - 9 ไม่ค่อยเปิดสอน จึงได้เปิดศูนย์การเรียนการสอนประโยคสูงๆโดยเฉพาะ ภาคละ 1 แห่ง โดยจะต้องมีผู้เรียนชั้นละ 10 รูป/คนขึ้นไปถึงจะเปิดการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมการศึกษาให้พระภิกษุมีที่เรียนอย่างทั่วถึง โดยจะเริ่มเปิดนำร่องปี 2552 นี้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สลดรีดลูก กินยาขับ-ทะลัก หั่นเป็นชิ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 มี.ค. พ.ต.ท.สมาน ลอมเศรษฐี พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

รับแจ้งจาก นางชะนี กระจ่างจิต อายุ 32 ปี บ้านเดิมอยู่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ อาชีพเก็บของเก่าขาย ปัจจุบันอาศัยอยู่ใต้สะพานกลับรถ ถนนพหลโยธิน หน้าห้างโลตัส สาขารังสิต ว่า พบชิ้นเนื้อคาดว่าน่าจะเป็นของทารกถูกทิ้งในถังขยะ บริเวณหน้า หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ขณะนี้ได้นำชิ้นเนื้อมาไว้ที่พักเพื่อเตรียมทำอาหารกิน เพราะเข้าใจว่าเป็นเนื้อไก่ หลังรับแจ้งรีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1

พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พ.ต.ท.วรพจน์ ชูเชิด รอง ผกก. (ป.) พ.ต.ท.เมธาพงษ์ บุญศรี รอง ผกก. (สส.) และกำลัง กับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พบประชาชนแห่มุงดูชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ถูกสับเป็นชิ้นๆ อยู่ในชามขนาดใหญ่ แต่ที่สุดสยองสะเทือนขวัญเมื่อมีมือของมนุษย์โผล่อยู่ในชามด้วย เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบเป็นส่วนหน้าอกของเด็กทารก ข้อเท้า ส่วนชิ้นอื่นๆ ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นส่วนใดของร่างกาย จึงนำชิ้นส่วนทั้งหมดส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ชันสูตร

สอบปากคำนางชะนี กระจ่างจิต ผู้พบชิ้นเนื้อทารกให้การว่า ตน สามีและลูก มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ช่วงเช้าวันเดียวกันพากันออกตระเวนหาเก็บของเก่าตามถังขยะตามปกติ

กระทั่งถึงถังขยะหน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี รื้อค้นถังเพื่อหาของที่จะนำไปขาย ปรากฏว่าพบชิ้นเนื้อดังกล่าวอยู่ในถุงพลาสติก แต่ยังไม่เห็นชิ้นส่วนของมือ เข้าใจว่าเป็นเนื้อไก่ หรือเนื้อหมู จึงเก็บมาที่พักเพื่อจะนำไปทำอาหารกิน เมื่อกลับถึงที่พักเตรียมนำชิ้นเนื้อมาล้างเพื่อจะประกอบอาหาร แต่พอเทลงชามถึงกับตกใจสุดขีด เมื่อพบชิ้นส่วนคล้ายมือเด็กเล็กปะปนอยู่ จึงตะโกนเรียกสามีมาดู ยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนของทารกแน่นอนเลยรีบแจ้งตำรวจทันที หลังสอบปากคำ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ สั่งให้ชุดสืบสวนออกหาข่าวในพื้นที่หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ว่ามีคนท้องพักอาศัยอยู่หรือไม่

กระทั่งทราบว่ามีผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง พักอยู่ที่หอพักไม่มีชื่อ ชั้น 3 ห้อง 305 ภายในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบหญิงสาวคนหนึ่งนอนซมสภาพหมดเรี่ยวแรง ภายในห้องและห้องน้ำพบคราบเลือดส่งกลิ่นเหม็นคาวคลุ้ง รีบปฐมพยาบาล เบื้องต้นและเชิญตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ทราบชื่อ น.ส.ปุ้ม (นามสมมติ) อายุ 20 ปี บ้านอยู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ให้การรับสารภาพว่า เป็นแม่ของเด็กทารกและเป็นคนลงมือสับร่างเลือดในอกจริง พร้อมให้รายละเอียดว่าทำงานเป็นพนักงานขายยาในร้านยาแห่งหนึ่ง หลังตั้งท้องสามีก็เสียชีวิต เนื่องจากประสบเหตุรถชนเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา จากนั้นได้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ทำงานเลี้ยงชีวิตไปวันๆ และลูกในท้องอายุ 5 เดือนเศษแล้ว
น.ส.ปุ้มให้การอีกว่า หากลูกเกิดมาคงไม่มีปัญญาเลี้ยงแน่เพราะรายได้ที่ทำงานไม่มากพอ เลยตัดสินใจไปซื้อยาที่ร้านขายยามากินเพื่อให้แท้งลูก

โดยใช้ตัวยาหลายชนิดผสมลงไปแล้วกิน หลังกินไปได้สักพัก รู้สึกปวดท้องสุดทรมานและมีเลือดไหล กระทั่งเด็กในท้องหลุดออกมา ตัวใหญ่พอสมควร รีบใช้มีดตัดสายสะดือออก แล้วก็หมดสติไป พอฟื้นขึ้นมากลับคิดไม่ตกว่าจะนำซากเด็กไปทิ้งอย่างไร เพราะกลัวไปหมด เลยใช้มีดหั่นซากทารกเป็นชิ้นๆ ใส่ถุงพลาสติกมัดปากนำทิ้งลงในชักโครก พอกดลงชักโครก ปรากฏว่าถุงซากทารกกลับไปอุดท่อน้ำทำให้ท่อตัน เจ้าของหอไปตามช่างมางัดออกจนพบถุงที่ทำให้ท่อตันแต่ช่างไม่ได้สนใจเข้าใจว่าเป็นถุงเนื้อไก่ เลยนำไปทิ้งที่ถังขยะหน้าหมู่บ้านจนคนเก็บขยะมาพบ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ร้อนจัดควายคลั่งไล่ขวิดคนเจ็บ2รายที่อยุธยา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา11.20 น.นายสุรศักดิ์ วงศ์นิ่ม หัวหน้าหน่วยป้องกันความมั่นคง อบต.อ.อุทัย

รับแจ้งว่า มีควายหลุดมา 2 ตัวไล่ขวิดคนเจ็บ ส่วนอีกรายวิ่งตกน้ำบริเวณถนนสายเรียบคลองชลประทานสายอุทัย-หน่องตาโล่ ม.2 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังที่เกิดเหตุ พบควายกำลังวิ่งไล่เจ้าของและชาวบ้านตกคลองชลประทาน จึงช่วยกันนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอุทัย ส่วนควายยังอาละวาด เนื่องจากอากาศร้อนจัด
ขณะที่ดาบตำรวจไพรัช นาคทรัพย์ ตำรวจสภ.อุทัย ใช้ยิงปืนยิงไปที่บริเวณลำตัวของควายตัวเมีย ตายคาที่

ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายสมหมาย หมื่นเพ่ง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/3 ม.5 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของโรงงานทำลูกชิ้นในอ.อุทัยบาดเจ็บบริเวณใบหน้ามีแผลถลอกหลายแผล อีกรายคือนายสม คำพันธ์ อายุ 54ปี บ้านเลขที่40 ม.3 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา บาดเจ็บบริเวณหน้าอกเพราะโดนควายวิ่งชนเข้าที่หน้าอกจนตกน้ำ ขณะกำลังจะเดินไปดูนา

เจ้าหน้าที่สอบสวนทราบว่า ควายตัวดังกล่าว เป็นของนายสมหมาย

ซื้อมาจากจ.อุทัยธานีในงานถ่ายชีวิตโค-กระบือเพื่อจะเอามาเลี้ยงแต่เกิดหลุดมาตั้งแต่เมื่อวาน (24 มี.ค.) และได้ตามหาเพื่อนำกลับคอก แต่อากาศร้อนจัดทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่งไล่ขวิดคน ส่วนควายอีกตัวได้ลงไปอยู่ในหนองน้ำ ทางตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์นำปืนยาสลบมายิง ส่วนซากควายเจ้าหน้าที่จะได้นำไปตรวจหาเชื้อบ้าต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สาวอุบลฯร้องกองปราบฯเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหด 150/ปี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันนี้ (25 มี.ค.) ที่กองบังคับการกองปราบปราม น.ส.ณัฏฐิณี ดวงดำรงศักดิ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค

พาลูกหนี้เงินกู้นอกระบบจาก อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.โกมล สืบจาคลี พงส.(สบ3) กก.3 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุนเงินกู้ 5 ราย ซึ่งเรียกดอกเบี้ยร้อยละ 150 ต่อปี รวมยอดหนี้สินของผู้เสียหายทั้งหมดเกือบ 2 ล้านบาท เมื่อไม่ใช้หนี้ก็ถูกข่มขู่ คุกคามเพื่อบังคับให้ลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยด้วยวิธีการต่างๆ จนทำให้ผู้เสียหายเกรงจะได้รับอันตราย จนต้องหนีออกจากบ้าน
น.ส.นันทิยา ใจจริง อายุ 28 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ไปกู้เงิน 450,000 บาท เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2551

ช่วงแรกก็ใช้หนี้และกู้เงินมาใหม่โดยไม่มีปัญหาอะไร ต่อมาหมุนเงินไม่ทันทำให้ดอกเบี้ยทบเงินต้นเป็นเงิน 1.2 ล้านบาท ซึ่งตนหาเงินมาใช้หนี้ได้กว่า 700,000 บาท แต่ช่วงหลังส่งดอกเบี้ยไม่ไหวจึงถูกเจ้าหนี้ข่มขู่คุกคามด้วยวิธี ต่างๆ ที่สำคัญมีการเปลี่ยนสัญญาใหม่อีกหลายครั้ง เปลี่ยนเจ้าหนี้ไปแล้ว 4 คน จนทำให้ยอดเงินต้นรวมดอกเบี้ยเพิ่มจาก 1.2 ล้านบาท เป็น 1.8 ล้านบาท โดยที่หนึ่งในเจ้าหนี้มีนายตำรวจยศ ร.ต.ท. สังกัด สภ.แห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานีรวมอยู่ด้วย

ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบรายนี้กล่าวต่อว่า เนอกจากเจ้าหนี้จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือนแล้ว ยังมีการคิดดอกเบี้ยร้อยละ 3 และ 8 ต่อสัปดาห์

หากไม่มีเงินใช้หนี้ก็ให้ไปดาวน์รถยนต์มาให้ 2 คัน หากเงินดาวน์ 600,000 บาทก็จะหักจากยอดหนี้ไป 300,000 บาท หรือถ้าดาวน์รถจักรยานยนต์ก็ต้องหามา 10 คัน เพื่อจะนำรถไปขายประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อไม่ทำตามก็จะให้ลูกน้องมาทำลายทรัพย์สินที่บ้าน และข่มขู่ต่างๆ นาน จนกลับไปที่บ้านไม่ได้ และเป็นห่วงครอบครัวจะได้รับอันตรายไปด้วย ต่อมา ทางศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภคได้พาผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อสำนักช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งอัยการได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาช่วยเหลือฟ้องร้องคดีแพ่งให้สัญญาเป็นโมฆะ เนื่องจากเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ 1.25 ต่อเดือน หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ต่อปี และให้มาแจ้งความที่กองปราบปรามเพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อินโดฯสยองโคโมโดกัดชาวประมงตาย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 24 มี.ค. ตำรวจอินโดนีเซียเปิดเผยเหตุ การณ์สยองที่เกิดขึ้นกับชาวประมงเคราะห์ร้ายรายหนึ่งที่ออกไปหาปลากับเพื่อนและแวะเก็บผลไม้บนเกาะรินก้าในหมู่เกาะฝั่งตะวันออกไกลซึ่งเป็นเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า แต่ไม่มีชีวิตรอดกลับมา เพราะถูกมังกรโคโมโด สัตว์เลื้อยคลานกินเนื้อที่ดุร้ายกัดจนตายสยอง


เหตุเกิดโดยไม่มีใครเห็น เพื่อนชาวประมงอีก 2 คนบนเรือได้ยินเสียงหวีดร้องจึงรีบไปช่วย จังหวะนั้น โคโมโดหนีหายไปแล้ว ชายชะตาขาดถูกกัดเป็นแผลฉกรรจ์ที่ส้นเท้า เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะเสียเลือดอย่างรุนแรง


เกาะรินก้าอยู่ใกล้กับหมู่เกาะโคโมโด กิลิโมตัง และฟลอเรส ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของอินโดนีเซีย เป็นถิ่นที่อยู่ของมังกรโคโมโดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โคโมโดตัวหนึ่งมีขนาดได้ถึง 3 เมตร และหนักได้ถึง 140 กิโลกรัม น้ำลายของมันมีแบคทีเรียที่เป็นพิษในปริมาณสูง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เบื้องหลัง

 

สาส์นจากแม่พระธรณีถึงผู้รับใช้
(ฉบับที่ 14) ให้ไว้ ณ.วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2549​

แม่พระธรณี​

อีกเพลาแค่ 1 วันสวรรค์เท่านั้น(1 ปีมนุษย์) ความอดอยากจะเข้ามาหาพวกเจ้าและทุกๆ คนที่อยู่บนพื้นแผ่นธรณี เลือดจะนองธรณี เจ้าจำนะลูกนะ เลือดจะนองธรณีขึ้นทุกวัน เสียงดังของสิ่งที่เจ้าเรียกว่า “กัมปนาทแสนยากร” มันจะดังขึ้นทุกวันมิเว้นเพลาใดและเอาชีวิตมนุษย์ไป เจ้าคงเข้าใจคำแม่ใช่มั้ยลูก เสียงกัมปนาทนั้นคือเสียงอะไรรึ?

(แม่แผ่นเหล็ก - เสียงระเบิดค่ะแม่)

ใช่ลูก... มันจะพรากชีวิตแม้กระทั่งเมืองที่เจ้าอยู่นะแม่แผ่นเหล็ก (หมายถึงกรุงเทพฯ) แม่บอกนะลูกนะ อย่าขึ้นตึกสูงใหญ่ระฟ้า ที่ใดที่ผู้คนมากมาย เจ้าจงหลีกเลี่ยง มิฉะนั้นสิ่งที่เกิดอาจเป็นเลือดเจ้า จะได้เห็นในเพลามิช้า เจ้าจะได้พบกับการตายของมนุษย์เหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่นนะลูกนะ เจ้าจงเตรียมพร้อมผ้าห่อกายเน่าเหม็น เจ้าเตรียมไว้ได้กี่ผืนแล้วรึ?

(แม่แผ่นเหล็ก – 10 ผืนค่ะ)

วันใดเจ้ามีทรัพย์ จำแม่พูดนะลูกนะ เตรียมอีก 9 ผืน จะมีคนนำศพมาไว้บ้านถ้ำ เตรียมพร้อมที่เจ้าจะรับศพ เตรียม พร้อมที่จะช่วยคนที่จะมาตาย ณ บ้านถ้ำ คนจะหลั่งไหลด้วยความอดอยาก

อีก 1 วันสวรรค์เท่านั้น เจ้าจงเตรียมทุกอย่าง แม่แผ่นเหล็ก ใจนิ่ง... เตรียมรับสิ่งเลวร้ายอย่างไม่คาดคิด ปีแม่จะผ่านไป ปีมารจะเข้ามา เจ้าจะทุกข์ทรมานอย่างบอกไม่ถูกกันทุกๆ คน ใครเชื่อมั่นในแม่ เจ้าจงจำคำนี้ไว้ จะรอดตั้งแต่แสงสุรีย์ดับ จนแสงสุรีย์ขึ้นใหม่ จะมิมีสิ่งใดแผ้วพานได้นะลูกนะ 1 วันสวรรค์จะเริ่มขึ้นด้วยการที่มารทำงาน เหล่ามนุษย์จะสูญเสียชีวิตอย่างน่าสะพรึงกลัว มันใกล้จะเริ่มแล้วนะแม่แผ่นเหล็ก ทรัพย์มิอาจช่วยชีวิตใครได้นอกจากคำภาวนาธรรมเท่านั้นที่จะให้พวกเจ้ารอดนะลูกนะ

1 วันสวรรค์มิช้านะลูกนะ ผู้คนจะกราบกรานเพื่อขอทานกลุ่มเรา อย่าเห็นแก่ตน จงช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แม่มิได้ให้นำเกล็ดขาว(น้ำตาล) มาช่วยมนุษย์นะลูกนะ แต่เกล็ดขาวนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นข้าวที่เราต้องช่วยผู้อื่นยังชีพ เตรียมผ้าอีก 9 ผืน เพื่อที่จะห่อร่างกายเน่าเหม็นที่มาจากกาย ณ บ้านถ้ำ 19 ผืนห่อวิญญาณมนุษย์ ใกล้ที่เจ้าจะได้ใช้แล้วนะลูกนะ เจ้าจงซื้ออีก 9 ผืน วันพระจันทร์เต็มดวง เจ้าจะได้ใช้ทั้ง 19 ผืนในปีแห่งมาร

เจ้าจะมีชีวิตที่ไม่เหมือนผู้ใด ลูกแม่ต้องไม่เหมือนมนุษย์ผู้อื่น ใครเป็นลูกแม่ เจ้าต้องพร้อมที่จะร้อนมากกว่าเย็น ถ้าเจ้ามิพร้อมที่จะเป็นลูกเรา เจ้าจงถอยกลับไปเป็นมนุษย์ ณ บัดนี้ อย่าเดินเข้ามากองไฟที่เราอยู่โดยเด็ดขาด

เจ้าจงไปทำหน้าที่ช่วยผู้อื่นอย่างจริงจัง อย่าช่วยผู้ใดโดยหวังผล กรรมมันจะมาหาเจ้าในฉับพลัน แม่ขอลั่นวาจาไว้ ลูกผู้ใดทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วยความสุขของตน ด้วยทุกข์ของผู้อื่น เจ้าจะอับปางโดยฉับพลัน จำนะลูกนะ เป็นลูกแม่ต้องมีธรรมะห่อหุ้ม แม่ต้องการให้พวกเจ้าสร้างทานเพื่อตนเอง เหมือนเก็บทานไว้และเอามาใช้เมื่อเจ้ายามยากนะลูกนะ

ขอให้เจ้าได้ทรัพย์ที่เป็นของเจ้าทุกๆ คน แม่ขอให้เจ้า รวย รวย รวย นะลูกนะ

หมายเหตุ : ถอดความบางส่วนจากคำสนทนาระหว่างแม่พระธรณีกับแม่นางฟ้า ไก่โต้ง แม่มะนาว และคุณกาญจน์ลดา มฤคพิทักษ์(แม่แผ่นเหล็ก) ณ บ้านถ้ำ เวลา 12.17 น. ของวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน 2549

ที่มา http://armtired.multiply.com/journal
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นครบาลสั่งคุมเข้มม๊อบเสื้อแดง หวั่นตัวป่วนอาละวาดก่อเหตุรุนแรง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 มีนาคม 2552 22:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

ม๊อบเสื้อแดง​

ผบช.น. ประสานขอกำลังทหารช่วยรับมือเสื้อแดงบุกทำเนียบ วางกำลัง 8 กองร้อยระวังเหตุล่วงหน้า พร้อมตั้งจุดตรวจอาวุธ 200 จุดทั่ว กทม. วอนประชาชนเข้าใจเกรงมีตัวป่วนสร้างความรุนแรง

วันนี้(25 มี.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.เปิดเผยกรณีแผนรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ว่า ตนได้ประสานขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหารให้ส่งกำลังมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) แล้ว ส่วนกำลังตำรวจที่เตรียมไว้ภายในทำเนียบรัฐบาลขณะนี้ได้เข้าไปประจำการประมาณ 8 กองร้อยตามแผนป้องกันเหตุล่วงหน้าทั้งนี้ตนยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วกรุงเทพมหานคร ระดมตั้งจุดตรวจสกัด จำนวน 200 จุด โดยมุ่งเน้นไปที่การตรวจค้นอาวุธทุกชนิดที่อาจมีผู้ไม่หวังดีพกเข้ามาก่อเหตุในที่ชุมนุม

พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.​

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการระดมตั้งจุดตรวจค้นทั่วกรุงเทพฯ นั้นจะต้องคำนึงถึงความสะดวกของประชาชนเป็นหลัก แต่หากเทียบกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้จากกลุ่มผู้ไม่หวังดีการทำแบบนี้ถือว่าคุ้มตนจึงต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนไว้ล่วงหน้าด้วยเนื่องจากมาตรการการตรวจแบบเข้มข้นนี้จะต้องกระทำกันอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะสงบ สำหรับเรื่องการปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้เน้นย้ำลงมาแล้วว่า ตำรวจจะต้องใช้วิธีละมุนละม่อมกับประชาชนอย่างถึงที่สุด​

“ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ที่ตนยังห่วงอยู่คือกลุ่มบุคคลที่ 3 ที่อาจลักลอบเข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรงให้เกิดขึ้น เห็นได้จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เคยบุกเข้าตรวจค้นเต็นท์ของผู้ชุมนุมกลางท้องสนามหลวง แล้วปรากฏว่าพบอาวุธจำนวนมาก แต่ผลสุดท้ายอาวุธดังกล่าวก็เป็นของบุคคลที่ 3 ที่ใส่เสื้อสีแดงเข้ามาสร้างสถานการณ์” พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าว​

ที่มา http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9520000034265

 

หุหุ การเมืองมาแรงจริงๆ คอยดูต่อไป

 

สหรัฐเผยจีนเสริมสร้างแสนยานุภาพกระทบดุลอำนาจทางทหารในเอเชีย​

​

วอชิงตัน 26 มี.ค.-กระทรวงกลาโหมสหรัฐเสนอรายงานประจำปีต่อรัฐสภาว่าด้วยพลังอำนาจทางทหารของจีน ระบุว่า การที่จีนแสวงหาอาวุธที่ก้าวหน้าทันสมัยไว้ประจำการกำลังเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจทางทหารในเอเชีย ซึ่งจีนสามารถใช้อาวุธเหล่านั้นเป็นเครื่องมืออ้างกรรมสิทธิ์ในดินแดนที่ยังเป็นกรณีพิพาทได้

รายงานระบุว่า จีนยังคงลงทุนมหาศาลในกองทัพและแสวงหาอาวุธที่ก้าวหน้าทันสมัย ส่งผลให้จีนรุดหน้าไปไกลกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ แม้ว่าการเสริมสร้างแสนยานุภาพของจีนจะช่วยภารกิจการรักษาสันติภาพระหว่างประเทศ ภารกิจด้านมนุษยธรรมและต่อต้านโจรสลัด แต่ก็สามารถทำให้จีนมีอำนาจที่สามารถเข้าถึงทรัพยากรหรืออ้างกรรมสิทธิ์ในดินแดนที่ยังเป็นข้อพิพาทได้เช่นกัน

จีนนำขีปนาวุธพิสัยใกล้เข้าประจำการมากขึ้นในบริเวณตรงข้ามไต้หวันและกำลังพัฒนาขีดความสามารถทางทหารเพื่อป้องปรามไต้หวันไม่ให้คิดแยกตัวเป็นเอกราช จีนมีขีปนาวุธมากขึ้น อีกทั้งประจำการอาวุธและเครื่องบินที่สามารถขยายปฏิบัติการทางอากาศไปสู่ทะเลจีนใต้ แม้ความตึงเครียดกับไต้หวัดลดลงนับตั้งแต่ไต้หวันได้ประธานาธิบดีคนใหม่

รายงานของกระทรวงกลาโหมยังได้ยืนยันเป็นครั้งแรกว่าจีนสร้างฐานทัพเรือแห่งใหม่ที่เกาะไหหลำในทะเลจีนใต้ ซึ่งสามารถตอบสนองการเติบโตของกองเรือดำน้ำติดขีปนาวุธ ฐานทัพดังกล่าวมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใต้ดินสามารถช่วยให้กองทัพเรือจีนเข้าถึงเส้นทางการเดินเรือระหว่างประเทศที่สำคัญ และช่วยให้เรือดำน้ำสามารถเข้าสู่ทะเลลึกในทะเลจีนใต้

กองทัพจีนยังได้ให้ความสำคัญกับการทำสงครามในโลกไซเบอร์และจู่โจมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลสหรัฐและอื่น ๆ หลายครั้งในปีที่แล้ว แม้การจู่โจมเน้นไปที่การสกัดกั้นข้อมูลข่าวสาร แต่ลักษณะของการเข้าถึงและทักษะการจู่โจมมีลักษณะของการโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

2009-03-26 09:34:47

เกาหลีเหนือนำขีปนาวุธมาติดตั้งที่ฐานปล่อยแล้ว ​

​

วอชิงตัน 26 มี.ค.-เจ้าหน้าที่ของสหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจตราการแพร่ขยายอาวุธ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้นำวัตถุที่เชื่อว่าเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลมาติดตั้งที่ฐานปล่อยมูซูดัน-รี ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่ใช้ทดลองขีปนาวุธมาแล้วหลายครั้ง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐ อีกคนหนึ่ง ระบุว่า เกาหลีเหนือประกอบชิ้นส่วนของขีปนาวุธขั้นที่ 2 จากที่คาดว่ามีอยู่ 3 ขั้นตอน ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเปียงยาง เปิดเผยว่า จะส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศในระหว่างวันที่ 4-8 เมษายนนี้ แต่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และสหรัฐ เชื่อว่าเป็นคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือเพื่อทดลองขีปนาวุธพิสัยไกล และเป็นการละเมิดมติของสหประชาชาติที่ห้ามเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ

ทางด้านนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวระหว่างเดินทางเยือนเม็กซิโกว่าการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจะกระทบการเจรจา 6 ฝ่าย ที่มีเป้าหมายยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งถ้าเกาหลีเหนือยังคงดึงดันทดลองยิงขีปนาวุธก็จะได้รับผลในด้านลบต่อเกาหลีเหนือเอง โดยก่อนหน้านี้ นางคลินตันเตือนว่าการทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจะถูกนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อให้คว่ำบาตรเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย

2009-03-26 09:09:52

ผู้นำเวเนซุเอลาประกาศยึดสายการบินของเอกชนเป็นของรัฐบาล ​

​

คารากัส 26 มี.ค.-ประธานาธิบดีอูโก ชาเวซ ผู้นำเวเนซุเอลา ประกาศว่าจะยึด

 

*** ไม่ต้องโทษใคร ****

โทรทัศน์ไทย...จะเห็นการวางตัวเชื้อสายมังกร ในทุกวงการ
เพราะ นิสัยคนไทย...เราถูกปลูกฝั่ง "ตัวทะยานอยาก" เอาไว้มาก
เขาเอาเหยื่อมาล่อ....ก็ไปกินของเขา
เขาบอกให้...คนไทยต้องตัดสินใจ เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ไม่มีเทา....มีแต่ดำกับขาว คนไทยก็ทำตาม
สุดท้าย...บ้านเมืองก็ระส่ำระสาย
เพราะ....นิสัยตัวเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อืมม..

ระยะการที่จะเกิด จริงๆๆ มันน่าจะเกิดไปแล้วครับ แต่มันผัดผ่อน เพราะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีพลังจิตขั้นสูง ได้ร่วมกันช่วย ยับยั้งผ่อนผัน อ่ะครับ

 

อันนี้จริง ผมเชื่อ การผ่อนผันหรือเลื่อนไป ก็เลยทำให้คนที่ไม่เชื่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งไม่เชื่อไปอีก เคยได้ยินว่ามีเกจิอาจารย์ดังๆ บางท่านยอมให้ตัวท่านเอง มรณะภาพ เพื่อแลกให้ภัยพิบัตินั้นไม่เกิดหรือเลื่อนออกไป

 

*** โลกุตตระธรรม ****

สัตว์โลก...หลุดพ้นทุกข์ได้ด้วย "สัจจะ" เท่านั้น
ทางเดียวเท่านั้น....ไม่มีทางอื่น
สัจจะ เป็นเรื่องของการ ตัด ลด...ไม่ใช่เพิ่ม
จะหลุดพ้นทุกข์ได้....ก็ต้องไม่มีอารมณ์ ต่อทุกเรื่อง
อารมณ์สิ้นสุดได้ด้วย...การขจัดนิสัย จนหมดสิ้น
นิสัย จะหมดไปได้....ต้องตัดให้ได้จริง เป็นประจำ
ต้องตัด...ด้วยสัจจะ
คือ.... สัจจะทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** จะเอาอะไรไปเผชิญกรรม ****

ใครเบื่อ สัจจะ...ก็ต้องลำบากด้วยผลของกรรม
เพราะ....ไม่มีอะไรมาช่วยเบี่ยงเบนกรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

พี่ๆน้องๆทางใต้ครับหากท่านมีเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามเสื้อแดงหากเกิดเหตุรุณแรงขึ้น ก็พยายามยับยั้งการเดินทางขึ้นไปเผชิญหน้ากับกล่มนั้นนะครับ ควรคำนึงถึงความสงบสุขของส่วนรวมปล่อยให้เป็นหน้าที่กฏแห่งวาระของเขาเองเถอะครับและที่สำคัญ เพื่อความปลอดภัยรวมถึงการไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงใยคนที่เดินทางไปและคนที่รออยู่ข้างหลังอีกจำนวนมากนะครับ คงไม่มีใครที่จะปล่อยคนกลุ่มนี้เดินหน้าเพื่อประโยชน์ของกลุ่มคนเพียงกลุ่มเดียวได้นานแน่นอนครับ ฝกด้วยครับผมคนเกาะหมุยวางให้กับทุกๆเหตุการแล้ว ไม่อยู่ข้างใดสงารด้วยกันหมดทุกฝ่ายสงสารครับไม่ใช้เบื่อหน่ายเพราะรู้เหตุและปัจจัยในการกระทำต่างๆ พอเป็นเครื่องเอาตัวรอดได้บ้างแล้วครับ แนะนำให้ยับยั้งนะครับอย่าไป

 

*** ถวายสัจจะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ****

ขอถวายสัจจะ ...ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
เพื่อนำการกระทำของตนเอง...ทั้งกายวาจาใจ
เพื่อให้เกิด....ผลการกระทำเที่ยง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "