"ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน

ฝันอีกแล้ว เล่าก่อนจะลืม ...............

สถานที่แห่งหนึ่ง ไปทำอะไรก็ไม่รู้อยู่ๆ ก็ไปได้ แหม ....
จะทำการใดนี่แหละ ก็จำไม่ได้อีก
แต่ว่า พี่คณานันท์ นี่ดิ มาทำอะไรกะผมในฝันเนี่ย
ขณะกำลังยืนเพ่งองค์พระเจดีย์ และองค์พระพุทธรูปให้มีแสงสว่างใสกลม
สุขใจได้ปลื้ม........ปิติสุขอยู่
พี่คณานันท์ก็มายืนข้างๆ พูด หน้ายิ้มๆ อย่างเอ็นดูศิษย์โง่ว่า
"เพ่งจะดวงใสเชียวนะ"
แน่ะ มารู้ได้ไงว่าผมเพ่งอยู่ (จริงๆ ตัวจริงทำไม่ได้หรอก)
ก็คิดในใจว่า อาจารย์ผมนี่เก่งจริงๆ ล่วงรู้จิต เห็นว่าผมทำอะไรอีก
แล้วพี่เขาก็ให้ผมดู รางวัล จากกิจกรรม ๆ หนึ่ง ไม่รู้กิจกรรมอะไรของพี่เขาเหมือนกัน
รางวัลเป็นเพียง สายคล้องคอ ไม่ส้วย ไม่สวย แถมมีที่ห้อยเหมือนเหล็กอะไรก็ไม่รู้
เหมือนดัมเบล์อันเล็กๆ นี่แหละ รับของพี่เขามาในมือ โอ อึ๊บ น้ำหนักมันหนัก..........
คิดในใจอีกหละ
ก็ลองเอามาคล้องคอตัวเอง แล้วยืนดูที่หน้ากระจก คิดในใจว่ามันหนักแต่พอใส่ๆไป
ไหงมะค่อยหนักหละ........
ไม่รู้จารย์คณานันท์ได้ยินไหม ว่า คล้องคอได้อย่างไร หนักขนาดนี้
จารย์คณานันท์ ยิ้มอย่างใจดีอีกหละ บอกว่า รางวัลนี้ไม่มีค่าอะไรหรอก ประมาณบอกว่า
มันมีค่าด้านจิตใจ และเป็นกิจกรรมที่ชอบ............

อืม ......
เด่วถ้ามีโอกาสจะลองวาดรูปแล้วเอามาแก้ไขโพสต์ให้ดู ว่าหน้าตารางวัลมันขี้เหร่ขนาดไหน

แต่ผมไปนั่งคิด ๆ ตีความตามประสาคนโง่

ประเด็นคือ ตีความ เจ้ารางวัลที่เห็นหนะคืออะไรทำไมขี้เหร่ และหนัก
แต่พี่เขาบอกว่าค่าทางใจ กับกิจกรรมที่ทำ ............

ตีความ เอาเอง (ตามประสาคนน้อยโง่ๆ) ก้อคงเป็นพี่เขาได้รับหน้าที่หัวหน้าทีมพลังจิตพิชิตภัยพิบัติไหมเนี่ย
แม้รางวัลมูลค่า ค่างวด อะไรก็ไม่มี เงินตอบแทนอะไรก็ไม่ได้ ชื่อเสียงก็ทำท่าจะไม่ได้ไม่ดี แถมล่อแหลมเสี่ยงมองในแง่ลบ แถมรับหน้าที่แสนหนักอึ้ง ทนต่อแรงเสียดสี เสียดทาน
หวังแค่พาเพื่อนพ้อง ข้ามฝั่งจากที่มีน้ำไปที่ไม่มีน้ำ ก็ไม่หวั่น เพราะบอกว่า ชอบในกิจกรรม ก็คงจะแปลว่า ชอบในการทำงานด้านธรรม ทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทน

แล้วเอารางวัลมาให้ผมรับดูและลองสวมใส่คอทำไม แฮ่ๆ..........

ตีความ(เอาเองตามประสาคนน้อยโง่ๆ อีกหละ) ก็คงจะให้ลองดูว่า สิ่งที่เห็นหากเรายืนดูเฉยๆไม่เข้ามาสัมผัส ไม่เข้ามาเรียนรู้ก็คงไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร การทำดี การปฎิบัติธรรมแม้จะเหมือนหนัก แต่พอเอาเข้าจริงๆ เอามาลองปฎิบัติดูแล้วจะเห็นว่าไม่หนักอะไรเลย ไม่เสียอะไรเลย ไอ้ที่หนักเพราะใจเราตีค่ามันไปก่อนแล้วว่าหนัก..... เมื่อลองสวมคล้องคอดู ถึงรู้ว่าไม่เห็นหนักอะไร เออ นี่ คนเรามันตีความล่วงหน้าก่อนจะรู้ความจริงไปซะงั้น..
ก็คงเหมือนว่าปฎิบัติแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ......เปลือกภายนอกแม้ไม่สวยงาม รางวัลที่ได้แม้ไม่สวยงาม แต่คุณค่าทางจิตใจ มันคือสิ่งภูมิใจกับทางเลือกที่เราทำ ทำด้วยใจ .........

ง่า พูดไปเอง ก็งงเอง เอาเป็นว่า ขอบคุณที่จารย์คณานันท์ มาฉุกให้ผมได้ข้อคิดอะไรเพิ่มเติม "อย่าคิดว่าหนัก หากยังไม่ได้สัมผัสธรรม"

แฮ่ๆๆๆๆ พูดซะยืดยาว โปรดใช้พิจาราณญาณในการอ่าน เพราะเป็นเพียง ฝัน ครับ
ขอบุญรักษาพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ เวบพลังจิต และนอกเวบ ทุกผู้ทุกคนเทอญ สาธุ ........

 

ฝันเห็นปลาฉลามในแม่น้ำเจ้าพระยา..ไล่งับคนที่ลงไปในน้ำ

 

อ้าว!! ใครหละเนี่ย!

มาแอบฝันคล้ายๆข้าพเจ้าอีกแล้ว
(เพราะข้าพเจ้าหนะฝันเป็นอาชีพอยู่แล้ว
ใครฝันอะไร ก็เหมือนเขาไปหมดหนะแหละ..แหะ แหะ)

ก็ฝันเห็นเหมือนกานน..แต่เป็นของตัวเองนะ
ไม่รู้ไปเอามาจากไหน รู้สึกคุณแม่(ในฝัน)จะให้มาหรือไงนี่แหละ
เป็นสร้อยเงินหลายๆเส้น เป็นกำๆเลย มีจี้หลากหลายรูปแบบ
แต่ส่วนใหญ่จี้ที่เห็นจะเป็นคริสตัลใสทรงผลึกปลายแหลมด้านหนึ่ง
เหมือนที่เขาใช้รักษาโรคกันหนะแหละ แต่ผลึกเล็กนิดเดียวนะ
สวยอยู่นา...

ในฝันกะว่าถ้าลำบากยังไงขึ้นมา ก็จะเอาไปขายกินซะเลย

ว่างั้นนะ..ว่าแต่ว่าจะขายได้ไหมเนี่ย??

 

ผมไม่ได้ฝัน แต่ตอนนั่งสมาธิเห็นน้ำท่วมไหลหลากอย่างรุนแรง จากที่สูงเป็นภูเขา น้ำขุ่นคลั่กไปด้วยโคลนและภาพหายไป

 

*** ฝัน ****

ฝันหลายวันก่อน
เครื่องบินลำใหญ่ตกในป่า
กว่าจะค้นหาพบ ศพก็อืดบวม
ต้องเจาะท้องให้น้ำในตัวไหลออก
ซากเครื่องแหลกกระจาย
พบซากหางเครื่องบินบังคับวิทยุจำนวนสามหาง
กลุ่มกู้ภัยจึงนำมาวางรวมกัน
แล้วขึ้นไปบนตึกสูงเพื่อถ่ายรูปบริเวณเครื่องตกข้างล่าง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ฝันว่ามีการแข่งขันกีฬามหาลัย จินตวดีอยู่ทีมเดียวกับชาวอมริกา เป็นทีมที่รวบรวมบุคลิคพิเศษจากอมริกา แข่งกับอีกหนึ่งทีม (เพราะสุดท้ายเหลือแค่ 2 ทีมเท่านั้น) ไม่น่าได้รับข้อความจาก "แซม"

 

ฝันว่ามีฝรั่งถือสร้อย 2 เส้น เส้นหนึ่งคล้องจี้เป็นรูปน้ำเต้าสีน้ำเงิน อีกเส้นหนึ่งเป็นจี้น้ำเต้าสีแดง ให้เราเส้นสีน้ำเงิน(เราเลือกสีนี้ต่างหาก) ส่วนเส้นสีแดงให้กับอีกคน เป็นสัญลักษณ์แทนพลังงานที่ใช้ในการรักษา

 

สงสัยอยู่เชียว..ว่าจะต้องเป็นทีมคุณจินตวดีแหงๆเลยที่แข่งกับทีมผม
ว่าแล้วก็ประเดิมไปแล้ว 1 case นะคร๊าบบ ทำคะแนนนำไปแล้ว 1 คะแนนเล็กๆ

คือวันนี้ผมไปออกกำลังกายที่ศูนย์กีฬาใกล้ที่พักตามปกติเหมือนทุกวันๆ
(นี่ผมแอบไปมา 3 เดือนแล้วนะครับ ใครที่ยังไม่ปรับปรุงเรื่องสุขภาพของตัวเอง เพื่อเตรียมพร้อมไว้ ก็รีบซะนะครับ)
แต่วันนี้ไปช้ากว่าปกติ คนก็เลยเหลือน้อยแล้ว และมันก็เลยมืดกว่าปกติ ก็เลยมีมดที่มีปีกบินได้ และกัดเจ็บๆหนะแหละ
บินเข้ามาในห้องที่ออกกำลังอยู่หลายตัวเลย มีน้องผู้ชายคนหนึ่งไปเหยียบมันเข้า มันเลยต่อยเอา
ก็เลยโอดโอยอยู่พักใหญ่ทีเดียว ผมอยู่ใกล้ๆก็เลยลองวิชชาพลังยูเรอัสซะเลย

จับจักระ 7 และจับเท้าที่โดนกัดแป็บเดียวแหละ น่าจะ 2-3 นาทีก็เลยถามเขาว่าดีขึ้นไหม๊
(ถามเป็นภาษาเวียดนามนะ) เขาก็พยักหน้า แล้วก็เลยเดินไปออกกำลังกายได้ตามปกติ
(ใจจริงก็อยากจะถามมากกว่านี้อยู่เหมือนกันแหละครับ..แต่พูดยังไม่ค่อยได้..แหะ แหะ..)
ก็..เริ่มต้นจากทำแต้มต่ำๆไปก่อนหนะนะครับ..ต่อไปอาจจะได้ทำแต้มสูงๆกว่านี้ก็ได้นะ

นี่...เห็นไหม๊..เรามีวิชชาดีติดตัวซะอย่าง จะไปกลัวอะไร..(ไม่กลัวหรอก แต่อายนิดๆ) เพราะที่นี่เวียดนามนะครับ
เพราะแค่เห็นผมนั่งสมาธิในฟิตเนสคลับนี่เขาก็คงรู้สึกแปลกไม่รู้จะแปลกยังไงแล้ว
มิหนำซ้ำยังจะมาจับหัว จับหางอะไรรักษาโรคกันอีก ไม่รู้เขาจะคิดไงกันบ้างนะเนี่ย??

เอ่อ..ที่ว่าไปนั่งสมาธิในฟิตเนสคลับนี่ ก็คือว่า เวลาเราเล่นจนเหนื่อยแล้ว เราก็จะพักซักครู่หนะครับ
ปกติคนอื่นๆเขาก็จะนั่งพักให้หายเหนื่อยเฉยๆ แต่ผมนี่ก็จะลงไปนั่งกับพื้น(ที่ปูพรหมไว้)
แล้วก็ทำโยคะไปด้วยซะเลย ก็แบบว่าเหยียดขา จับปลายเท้า นั่งฉีกขาพยายามให้ได้มากที่สุด
หรือไม่ก็บิดตัวท่าโยคะอาสนะหนะแหละครับ พิเศษหน่อยวันนี้มีคนน้อย พอยืดแข้งยืดขาเสร็จ
ก็เลยรวบขาขัดสมาธิได้ ก็หลับตากำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกตามสูตรเลยครับ ของมันคุ้นเคยนี่นา
เพราะผมสังเกตดูว่า หลังจากออกกำลังกาย หรือทำโยคะเสร็จนี่ นั่งสมาธิจะนั่งได้ดี และมีความสุขมากๆ
ร่างกายจะผ่อนคลาย ใจก็เบิกบานง่ายมาก...ขอแนะนำ ขอแนะนำครับ โดยเฉพาะโยคะ
อย่าคิดว่าแค่เหยียดๆคู้ๆไปๆมาๆจะไม่เหนื่อยนะครับ ผมสังเกตดูตัวเองพบว่าถ้าเทียบกับออกกำลังกายซักครึ่งชั่วโมง
กับทำโยคะซัก 15 นาทีนี่ โยคะจะเหนื่อยกว่านะ

อ้อ..แล้วอีกอย่าง ผมก็เพิ่งซึ้งคำพูดของอาจารย์จิตราที่ว่า พอเราส่งพลังไป เราจะรู้สึกได้เองว่ามันไปหรือไม่ไป
ก็วันนี้เองแหละครับ เพราะหลังจากออกกำลังกายแล้ว มันก็มีพลังมากขึ้นแบบรู้สึกได้ตอนส่งพลังเลยหละครับ

 

สมแล้วที่ลิงค์กันได้ กำลังจะส่งข้อความไปหาคุณเกี่ยวกับการออกกำลังกายพอดี ว่าจะแนะนำให้คุณเล่นโยคะ แต่ก็คิดแล้วว่าคุณต้องรู้แน่นอน สำหรับพวกเราแล้วโยคะเหมาะที่สุด เพราะต้องทำจิตให้เป็นสมาธิ ควบคุมลมหายใจไปด้วยในตัว เช้า ๆ ท่าบูชาพระอาทิตย์ (จินต์เรียกเอง) เหมาะที่สุดค่ะ ยังไงก็ตาม ตอนนี้นอกจากเสมอแล้ว คุณยังนำไปอีกนะเนี่ย อิ อิ ตอนนี้คนอื่นคงสงสัยแล้ว เออ คู่นี้คุยอะไรกันหว่า เอิ๊ก

 

อ้อ ลืมบอกไป ในฝันว่าเป็นการแข่งระหว่างทีมจากอเมริกา และ ทีมจากอินเดีย คุ้นไหม อิ ๆ เขาว่าไม่ได้แข่งเอาแพ้ชนะ แต่มันเป็นความท้าทายของจิตวิญญาณดวงเดียวกันที่แบ่งออกมา

 

มันยิ่งกว่าคุ้นซะอีก เพราะว่าความเป็นจริงแล้ว ในตอนนี้ มันก็คล้ายๆจะเป็นเช่นนั้นอยู่จริงๆ

เพราะว่าทางคุณจินตวดี เป็นนักเรียนที่อยู่ในห้องเรียนของ"พี่นักเขียน" ซึ่งอาศัยอยู่ที่ "อเมริกา"
และเป็นเลขาของท่านอาจารย์ "โนวา อนาลัย"
http://palungjit.org/showthread.php?p=1281551

ส่วนผมตอนนี้ พอได้อ่านข้อความของคุณ "avatar_boy" แล้ว ก็เกิดประทับใจอย่างใหญ่โต
จนต้องอาสามาแปลจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทยให้คนอื่นๆได้อ่านด้วย จนถึงวันนี้ ก็แปลมา 19 ตอนแล้ว
http://palungjit.org/showthread.php?p=1303916

ถ้านับเป็นเฉพาะหน้าที่แปล ก็น่าจะร่วมๆ 30 กว่าหน้าแล้ว แต่ถ้านับจำนวนหน้าทั้งหมด ก็ 67 หน้าเข้าไปแล้ว
(หน้ากระดาษใน MS Words นะ)
และก็..คุณ avatar_boy นี้ ก็เป็นลูกศิษย์ของ "พระราม" แห่ง "อินเดีย" คนหนึ่งครับ

จริงไหม๊หละครับ..

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าใครได้อ่านงานเขียนของทั้งพี่นักเขียน และของคุณ avatar_boy อย่างผมแล้ว
ก็คงจะพูดเหมือนผมนี่แหละว่า..ความรู้เกี่ยวกับเรื่องความจริงของเอกภพ ของตัวเราเอง
ของจิตวิญญาณ ของช่องว่างและกาลเวลา ของความปราถนาและความสำเร็จ ฯลฯ
จากทั้งสองแหล่งข้อมูลนี้ เรียกได้ว่าแทบจะเหมือนกันทั้งหมดเลยนะครับ

ยังไม่เท่านั้นนะครับ ความรู้ที่ทั้งสองท่านนี้บอกเล่าออกมานั้น จุดใหญ่ๆหลักๆ
ก็ยังแทบจะสอดคล้องกับพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่นๆ รวมถึงศาสตร์ของพวกโยคีต่างๆอีกด้วย !!

 

การฝึกช่วยป้องกันโรคและรักษาอาการเส้นพลิก กล้ามอักเสบได้ แต่ห้ามฝึกตอนเป็นไข้ เพราะผมเคยฝึกตามตำราที่แปลมา เพื่อรักษากล้ามเนื้อด้านหลังอักเสบ ได้ผลครับ ส่วนการกำหนดลมหายใจขณะออกกำลังกายทำให้จิตสงบเร็ว เคยโพสต์ไว้แล้วพี่คลิกตอบมาว่า เพราะขณะเราหายใจอย่างแรงตอนออกกำลังกาย เป็นการล้างลมหยาบออกไป จึงเกิดลมละเอียด และการออกกำลังกายเป็นการใช้กรรมเก่าไป ทำให้จิตสงบเร็ว

 

ฝันน่ะครับ

" แกนนำ พธม โดนลักพาตัวไป 1 คน จุดชนวนขัดแย้งรุนแรงบานปลาย ประชาชนลุกฮือ"

 

หลังเกิดซึนามิไม่นานฝันว่าตัวเองยืนอยู่แถวๆตีนเขามีน้ำท่วมไม่มากประมาณตาตุ่ม เหลียวมองไปมีคนอีกหลายคน แต่ยังไม่ได้พูดอะไร ทุกคนมองไปที่จุดเดียวกัน แล้วยกมือกราบหันไปมองท่านคือรัชกาลที่5 รู้สึกตื้นตันใจมากท่านเดินเข้ามาท่ามกลางผู้คน แล้วยิ้ม(แต่ที่น่าแปลกคือท่านสวมเสื้อสีขาวธรรมดา ถ้าจำไม่ผิดทุกคนก็ไม่ได้แต่งตัวสวยงามอะไรออกแนวชาวบ้าน แต่ที่รู้สึกได้คือผ่านเหตการณ์อะไรมาสักอย่าง แล้วมาอยู่รวมกัน)

หลังจากนั้นย้ายที่อยู่ ตั้งแต่ย้ายมาไม่เคยฝันถึงบ้านที่ตนอยู่เลย แต่คืนหนึ่งฝันว่าตัวเองอยู่ในบ้านน่าแปลกคือบ้านไม้ยกตัวสูงขึ้นแต่เป็นชั้นเดียว(บ้านที่อยู่เป็นปูนชั้นเดียวติดดิน)ฝนตกหนักมากมืดครึ้มไปหมดน้ำท่วมแต่มีบ้านนี้ที่ไม่ท่วม มีชาวบ้านอพยพมาที่บ้านกัน ที่มองเห็นชัดคือที่หน้าบ้านเป็นทางน้ำใหลผ่านไป มองออกไปฟ้าน่ากลัวมากมีฟ้าผ่าพายุหมุน แต่รู้สึกได้ว่าที่บ้านนั้นปลอดภัยที่สุดแม้จะไม่ใหญ่หรูหราก็ตาม ตื่นมาจำแม่นมากแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร พอมาเจอเวปนี้เลยลองเอามาเล่าให้ฟัง
ปล.ตอนนั้นยังไม่ได้รับข่าวเรื่องภัยพิบัติใดๆเลย พึ่งหันมาหาข้อมูลเรื่องนี้เมื่อ2-3เดือนนี้เอง
ปกติไม่ใช่คนนั่งสมาธิ แต่ว่าจะเน้นการทำดีปรารถนาดีกับคนรอบข้างเวลาเห็นใครลำบากหากเราช่วยไม่ได้ก็จะตั้งจิตภาวนาขอให้คนขยีน คนทำดี จงได้รับแต่สิ่งดีๆตอบแทน และบอกกับตัวเองเสมอว่าการปฏิบัติดี ยึดหลักศีล5 แม้ไม่มีใครเห็น ไม่ได้ทำให้ร่ำรวยขึ้น (ซึ่งมักเห็นคนทำชั่วแล้วร่ำรวยกันมาก)เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาหนึ่งคนดีจะถูกเลือกแต่ไม่รู้อะไร..จนมาพบเวปนี้ที่ชี้ทางสว่างให้
...ไม่รู้จะช้าไปรึเปล่า แต่ก้ดีใจที่ยังมีโอกาสเข่ามาเวปนี้ที่นำทางสว่างมาให้ ....ตอนนี้เริ่มหันมาสวดมนต์ แผ่เมตตา และเตรียมรับมือ หากจะอยู่ ก็ต้องอยู่อย่างมีคุณค่า หากต้องตายก็ต้องตายอย่างสุข ตอนนี้เรายังมีร่างกายเราที่จะทำให้เราสามารถสร้างความดี สร้างบุญ และบารมีได้ และติดตัวจนตาย

 

การทำความดีไม่มีคำว่า ช้า หรือสายครับ

การได้มาพบกันแม้เพียงในเวบไซท์นั้นย่อมถือว่ามีวาสนาย่อมพบพานครับ

ขอให้ได้นำข้อมูลของพวกเราที่ได้รวบรวมไว้นำไปใช้เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมให้มากที่สุดครับ

 

ก่อนการเลือกตั้งฝันว่าตื่นนอนแล้วเปิดดูข่าว รายงานข่าวว่ามีการชุมนุมประท้วงกันคนเยอะมากๆตอนแรกมีการสลายทั้งสองฝ่ายไม่มีการเสียเลือดผ่านไปด้วยดี เหตุการณ์เหมือนจะจบ แต่ตอนท้ายมีมือที่สามเข้ามาสร้างสถาณการณ์ เกิดการสูญเสียมากสร้างความโกรธแค้นมาก ประชาชนพากันประนาม ผู้อยู่เบื้องหลังในฝันไม่มีชื่อบอกว่ามือที่สาม .....เศร้ามาก..แล้วก็ตื่นขึ้นมา งงมากทำไมตื่นซ้อนกัน2ครั้ง แต่เหตการณ์ชัดเจนมาก(น่ากลัวจัง)
อย่าคิดมากนะอาจเป็นเพราะกินมากไปก็ได้.อิอิ

 

*** โลกุตตระกล่าวไว้ ****

ขอให้เชื่อ...
สัจจะ มีผลตอบแทน ....

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

พระท่านฝากมาว่าให้เน้นวางขันธ์ห้าไม่ใช่ตัดขันธ์ห้านะครับ ฝึกวางขันธ์ห้าบ่อยๆให้เป็นนิสัยครับอย่าไปมุ่งหาอภิญญา แล้วใจจะใสขึ้นใสขึ้น (จากนั้นจึงขอตั้งจิตอธิษฐานอาราธนาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์พระอรหันต์ทุกองค์พระเกจิครูบาอาจารย์ทั้งหลายช่วยแผ่เมตตาออกไปให้ดวงจิตดวงวิญญานทั้งหลายรวมทั้งสรรพสัตว์ทั้งหลาย จะมีพลังบวกส่งออกไปช่วยแรงมากๆ ช่วยๆกันทำบ่อยๆครับ) ส่วนในวงเล็บเป็นส่วนที่ผมทดลองเอง

 

*** ปฏิบัติด้วยสัจจะธรรม ****

กำหนด หัวข้อสัจจะ...มุ่งขจัดกิเลสนิสัยตนเอง วันละข้อ
ทำให้เกิดขึ้นจริงในชีวิต
กาย วาจา ใจ...ทำได้ตรงกัน เป็น สัจจะธรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เมื่อคืนนี้ (คืนของวันที่ 26/6/08 แต่เป็นเช้าของ 27/6/08 ตื่นจากฝันเวลาประมาณ 04:50 น.)

ฝันว่าเห็นนัยหลวงท่านกำลังขับรถยนต์คันเก่าๆคันหนึ่งอยู่ ท่านขับอยู่เลนซ้าย
แต่ตัวท่านก็นั่งอยู่ทางซ้ายมือของรถยนต์ด้วยนะ เบาะด้านหน้าข้างๆท่านเป็นพระราชินี
ผมนั่งอยู่เบาะข้างหลังท่าน ส่วนเบาะด้านหลังข้างๆผมมีคนนั่งอยู่ ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร
แต่แปลกนะ ท่านขับแต่ผมยังเห็นมีผู้ชายคนหนึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้ติดตามท่าน
นั่งอยู่ข้างหน้าท่านอีกทีหนึ่ง เหมือนจะบังท่านไว้ไม่ให้ใครเห็นได้ง่ายๆยังงั้นแหละครับ

ภาพที่เห็นเป็นภาพขาวดำ เพราะอาจจะถูกบันทึกไว้นานหลายสิบปีแล้ว คือพระองค์ท่าน
และสมเด็จพระราชินีที่ผมเห็น ตอนนั้นน่าจะยังอายุซัก 30 กว่าๆเท่านั้นเอง ท่านกำลังคุยกัน
เรื่องมีลูก ว่าต้องมีภาระมากขึ้น ว่าต้องพร้อมอะไรทำนองนั้น และท่านก็คุยกันเป็นภาษาอังกฤษด้วย
แบบว่า..ท่านพูดภาษาอังกฤษได้คล่องปรื๋อเลย แล้วยังพูดภาษาต่างชาติอีกภาษาหนึ่งด้วยนะ
ผมไม่รู้ว่าเป็นภาษาอะไร ผมก็เลยพูดขึ้นประมาณว่า นัยหลวงทรงเก่งจังเลย พูดภาษาอังกฤษ
ได้คล่องมากเลย แถมพูดภาษาอื่นได้อีกด้วย

พระองค์ก็ทรงพูดตอบกลับมาประมาณว่า...

"ถึงพระองค์จะพูดภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆได้เก่ง แต่พระองค์ก็ยังไม่สามารถที่จะ
พูดภาษาไทย กับประชาชนคนไทยของพระองค์เอง ให้รู้เรื่องได้"

สักพักท่านก็กลับรถ แต่ด้วยความที่รถค่อนข้างเก่า และท่านขับไม่เร็ว รถมอเตอร์ไซด์ที่ขับตามมา
ก็เลยต้องเบรคเกือบชนรถของท่าน เจ้ามอเตอร์ไซด์สงสัยจะโมโห ก็เลยขับปาดหน้าขึ้นมา
แล้วก็หันหน้ากลับมาด่าอะไรท่านไม่รู้ ไม่ได้ยินเสียง เห็นแต่ปากขมุบขมิบ ผมก็เลยพูดขึ้นว่า

"เขาจำไม่ได้เหรอ ว่าคนที่กำลังขับรถคันนี้อยู่หนะเป็นใคร เอ๊า..อยากด่าก็ด่าไป เวรกรรมจริงๆเลย"

สักพักพระองค์ก็พาพวกเราขับเลี้ยวขวาเพื่อจะเข้าไปในตลาดที่ไหนซักแห่ง เพื่อไปหาข้าวราดแกงกิน
ว่างั้นนะ...แล้วผมก็เลยตื่นทันทีครับ