ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เกิดแผ่นดินไหวในทะเล 5.8 ริกเตอร์ ที่สุมาตราใต้​

​

18 พ.ค. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริคเตอร์บริเวณเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานว่า เมื่อเวลา 19.17 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 5.8 ริคเตอร์ บริเวณเกาะสุมาตราตอนใต้ ประเทศอินโดนีเซีย ระยะทาง 1,269 กิโลเมตร จากชายฝั่งทะเลอันดามันของไทย คาดว่าไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย .-สำนักข่าวไทย

2008-05-18 22:00:18

นิวเคลียร์ในจีนปลอดภัยดี แม้เกิดเหตุแผ่นดินไหว ​

​

ปักกิ่ง 18 พ.ค.- เจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพจีนยืนยันว่า สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ทุกแห่งในมณฑลเสฉวน ทั้งโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และแหล่งผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ยังคงปลอดภัยดี ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

คำยืนยันของจีนมีขึ้น หลังผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันป้องกันรังสีวิทยาและความปลอดภัยของนิวเคลียร์ในฝรั่งเศส เตือนให้ทางการจีนเร่งตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ เพราะแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนในครั้งนี้ วัดแรงสั่นสะเทือนได้สูงถึง 7.9 ริกเตอร์ จึงอาจส่งผลให้โรงนิวเคลียร์เก่าแก่ที่สร้างมานาน ได้รับความเสียหาย เพราะโครงสร้างไม่สามารถต้านทานแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้

ส่วนทางการจีนก็ประกาศไว้อาลัย 3 วัน ให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิต ซึ่งคาดว่าจะมีสูงถึง 50,000 คน จากเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีของจีน ขณะที่มีรายงาน แพนด้าหายไปอย่างน้อย 3 ตัว หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว สวนทางกับรายงานก่อนหน้านี้ ที่ยืนยันว่า แพนด้ายักษ์กว่า 80 ตัว ในศูนย์เพาะพันธุ์หวอหลง มณฑลเสฉวน ยังอยู่กันครบ ส่วนเหตุดินถล่มที่เกิดจากแผ่นดินไหว ก็ทำให้กองดินและหินที่ถล่มลงมาไปปิดกั้นการไหลของแม่น้ำ ในพื้นที่อย่างน้อย 21 จุด ซึ่งถ้าแม่น้ำไหลต่อไปไม่ได้ ก็ก่อให้เกิดความวิตกว่า จะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว . - สำนักข่าวไทย

2008-05-18 18:28:53

แผ่นดินไหวจีนกระทบเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อย ​

​

ปักกิ่ง 18 พ.ค. - ผลการวิจัยระบุว่า แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนของจีนครั้งนี้ แม้จะสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก โดยคาดว่า จะมีผู้เสียชีวิตสูงกว่า 50,000 คน และมีอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 15 ล้านหลัง แต่แผ่นดินไหวกลับส่งผลเสียหายทางเศรษฐกิจแค่ในวงจำกัด เพราะมณฑลเสฉวน ไม่ใช่ศูนย์กลางเศรษฐกิจของจีน

นักวิเคราะห์มองว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ที่เกิดในมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยภูเขาและป่าไม้ มีการพัฒนาน้อย และประชากรก็ยากจน จึงทำให้เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบในวงจำกัดจากโศกนาฎกรรมครั้งนี้

ผลการวิจัยของเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจชื่อดัง พบว่า แม้เสฉวนจะเป็นมณฑลซึ่งมีประชากรมากถึง 87 ล้านคน ในพื้นที่ 485,000 ตารางกิโลเมตร แต่มณฑลเสฉวนก็มีตัวเลขการผลิตต่ำมาก แค่ร้อยละ 4.2 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน และยังมีมูลค่าการส่งออกแค่ร้อยละ 0.6 ของตัวเลขการส่งออกทั้งหมดในจีน

เสฉวนเป็นมณฑลที่โดดเด่นในแง่ของจำนวนประชากรและเกษตรกรรม แต่มีส่วนร่วมน้อยมากในภาคอุตสาหกรรมและการผลิต ดังนั้น จึงไม่ต้องหวั่นว่า เศรษฐกิจจีนจะได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง แต่นักวิเคราะห์จะวิตกมากกว่า ถ้าภัยพิบัติครั้งนี้ ไปเกิดตรงบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตทางใต้ของจีน ประกอบไปด้วยเมืองกวางโจวและเสิ่นเจิ้น เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 30 ของทั้งหมด และมีมูลค่าการผลิตที่ร้อยละ 10 ของจีดีพี. - สำนักข่าวไทย

2008-05-18 17:18:50

เกาหลีใต้ระดมทหารสู้ไข้หวัดนก ​

​

โซล 18 พ.ค. - ทางการเกาหลีใต้ส่งทหารเข้าร่วมภารกิจป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ขณะที่มีรายงานสัตว์ปีกถูกกำจัดตามมาตรการควบคุมโรคแล้วมากกว่า 7 ล้านตัว

กระทรวงเกษตรเกาหลีใต้แถลงว่า ทางการได้ส่งทหารราว 200 นายเข้าไปทำหน้าที่กำจัดไก่และสัตว์ปีกมากกว่า 310,000 ตัวในเมืองยางซันทางตะวันออกเฉียงใต้หลังพบการระบาดของไวรัสเอช 5 เอ็น 1 รายงานระบุว่า ปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการระบาดของไข้หวัดนกระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงขณะนี้พบการระบาดแล้ว 42 รายในพื้นที่ 33 แห่งทั่วไปประเทศ

แหล่งข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้เกาหลีใต้ได้ส่งทหารหลายร้อยนายเข้ากำจัดสัตว์ปีกติดเชื้อ ทว่าได้สั่งถอนกำลังทหารเมื่อเดือนก่อนหลังพบทหารนายหนึ่งมีอาการป่วยคล้ายโรคไข้หวัดนก แต่ต่อมาพบว่า ทหารนายนั้นกลับมามีสุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ แม้ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกในเกาหลีใต้ ทว่ารายงานพบการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1ในกรุงโซลและเมืองใหญ่ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มวิตกถึงความเสี่ยงที่ไข้หวัดนกอาจระบาดสู่คน

รายงานระบุว่า ทางการเกาหลีใต้ออกมาตรการควบคุมการขนส่งและจำหน่ายสัตว์ปีกมีชีวิตเพื่อการบริโภค รวมทั้งสั่งห้ามการชำแหละไก่และสัตว์ปีกตามท้องตลาด อนึ่ง เกาหลีใต้สั่งกำจัดสัตว์ปีกราว 5.28 ล้านตัวตามมาตรการควบคุมโรคจากการระบาดระหว่างปี 2546-47 ขณะที่ระหว่างปี 2549-50 มีสัตว์ปีกถูกกำจัดไปอีกกว่า 2.8 ล้านตัว. - สำนักข่าวไทย

2008-05-18 17:10:28
​

บุชเรียกร้องตะวันออกกลางโดดเดี่ยวอิหร่าน​

​

ชาร์ม เอล-ชีค 18 พ.ค. - ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชของสหรัฐเรียกร้องให้กลุ่มประเทศตะวันออกกลางร่วมต่อต้านกลุ่มติดอาวุธฮามาส รวมทั้งยับยั้งไม่ให้อิหร่านและซีเรียสนับสนุนการก่อการร้าย

ส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ของประธานาธิบดีบุชจากการปราศรัยที่อิยิปต์ระบุว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันช่วยเหลือประชาชนผู้บริสุทธิ์ในอิหร่านและซีเรีย ซึ่งทุกวันนี้มีคุณภาพชีวิตย่ำแย่กว่าเดิม นอกจากนี้ ประเทศใฝ่สันติในภูมิภาคตะวันออกกลางมีความจำเป็นต้องหยุดยั้งไม่ให้ทั้ง 2 ประเทศให้การสนับสนุนก่อการร้าย รวมทั้งขัดขวางความทะเยอทะยานด้านอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน

ผู้นำสหรัฐกล่าวด้วยว่า การปล่อยให้ประเทศสนับสนุนก่อการร้ายถือครองอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดนับเป็นการกระทำผิดต่อชนรุ่นหลังอย่างไม่สามารถอภัยให้ได้ จึงจำเป็นที่ประชาคมโลกต้องกีดกันอิหร่านจากการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมกันนี้ ยังได้เรียกร้องให้กลุ่มประเทศตะวันออกกลางร่วมกันต่อต้านกลุ่มติดอาวุธฮามาสที่คอยก่อเหตุรุนแรงและก่อการร้ายขัดขวางกระบวนการสันติภาพ. - สำนักข่าวไทย

2008-05-18 16:06:47

ฟินแลนด์ ได้รับผลกระทบจากวิกฤติอาหารแพง ​

​

เฮลซิงกิ 18 พค.- วิกฤติอาหารแพงส่งผลกระทบต่อคนฟินแลนด์ ทั้งที่ฟินแลนด์ ได้ชื่อว่า เป็นประเทศหนึ่งที่มั่งคั่งที่สุดในโลก โดยองค์กรการกุศลหลายแห่ง มีรายงานว่า คนฟินแลนด์เข้าคิวรอรับอาหารและความช่วยเหลืออื่นๆ เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ระหว่างเดือน มี.ค.-เม.ย.ปีนี้

องค์กรการกุศลแห่งหนึ่งในฟินแลนด์ เผยว่า เดิมทีจะมีผู้เข้าคิวรอรับอาหารแค่ 600-700 คน แต่ปัจจุบัน จำนวนผู้เข้าคิวเพิ่มขึ้นเป็น 1,200-1,300 คน ผู้ที่เข้าคิวรอรับอาหารฟรี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนวัยเกษียณ กลุ่มคนว่างงาน พวกไร้บ้าน นักเรียนนักศึกษา รวมถึงครอบครัวที่มีบุตรหลายคน

ภาวะอาหารราคาแพงขึ้น ทำให้บางครอบครัวไม่มีเงินมากพอจะซื้อหาอาหาร จึงต้องมายืนต่อแถวรอรับอาหารบริจาคเช่นนี้ แต่ถึงกระนั้น ราคาอาหารในฟินแลนด์ ก็ยังพุ่งขึ้นในอัตราส่วนที่น้อยกว่าประเทศอื่นในกลุ่มสหภาพยุโรป โดยเมื่อเดือนมีนาคม ราคาอาหารในฟินแลนด์พุ่งขึ้นแค่ร้อยละ 9.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับราคาอาหารในกลุ่มสหภาพยุโรป ที่พุ่งขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 11.4 ตามการเปิดเผยของสำนักงานสถิติยุโรป (ยูโรสแตท) และสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ เพลเลอร์โว่ (พีทีที) ซึ่งพีทีทีก็คาดการณ์ว่า ราคาอาหารในฟินแลนด์ปีนี้ จะพุ่งขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว . - สำนักข่าวไทย

2008-05-18 15:43:27

เด็กพม่าอาจหิวตาย หากยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ​

​

ย่างกุ้ง 18 พ.ค.- องค์การ

 

ข้อควรรู้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว
โดยคุณ หนุมาน ผู้นำสาร​

​

*** บันได ****

บนอาคาร ตึกสูง
ส่วนที่เป็นบันได ใช้เดินวนขึ้นลง
เป็นส่วนแข็งแรง ปลอดภัยกว่า

....รีบวิ่งไปบันได !!!

*** ริมบ่อน้ำ ****
​

อยู่ข้างบ่อน้ำ บึง ทะเลสาป บ่อที่มีแต่โคลนเลน
ให้ระวัง จะเกิดคลื่น ซัด พุ่งเข้าใส่
​

รีบวิ่งออกห่างจาก ขอบบ่อ ริมตลิ่ง !!!​

*** สิ่งก่อสร้างใหญ่ ****​

ให้ออกห่างไว้
จะโอนเอน ถล่ม ล้มฟาด ลงมา
​

*** ใต้สะพาน ใต้ทางด่วน ****​

ไม่ปลอดภัย ...ให้ระวัง
จะหลุดล่วงลงมาได้
​

*** ไฟฉาย นกหวีด ****​

ไฟฉายเล็กๆ นกหวีด ...พกติดตัว ไว้บ้าง

ใช้ยามจำเป็น ....ติดใต้ซากสิ่งก่อสร้าง
หน่วยค้นหา เวลามืด...เขาจะเห็นแสงที่ส่องออกไป
นกหวีด....เป่าเมื่อได้ยิน เสียงคนเรียก...อย่าเป่าจนหมดแรง
​

ควบคุมสติอารมณ์ให้หยุดนิ่ง
ค่อยๆ คิดแก้ไข
​

*** ขนม น้ำ ****​

เก็บ ขนม น้ำขวดพลาสติก...
ไว้ใน...โต๊ะ ตู้ทำงาน ที่ไม่ต้องล็อค
จะเป็นประโยชน์....ยังชีพเมื่อติดอยู่ในตึก
​

*** บันไดหนีไฟ ****​

บริเวณ บันไดขึ้นลง
เตรียม กระเป๋ายาฉุกเฉิน
เชือก อุปกรณ์จำเป็น
ให้เพียงพอ !!!!
​

*** รถยนต์ ****​

ช่วยเหลือกัน
ให้ไปด้วยกัน ไม่ต้องเสียดาย
ใช้ จำนวนรถให้น้อยที่สุด !!!
​

รถจะติด !!!!​

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
18-05-2008 10:07 AM <!-- / message -->
​

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=128341

 

<TABLE height=45 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom width=500 height=24>พายุในพม่ากับแผ่นดินไหวในจีน <!-- End Show Head --></TD><TD width=10></TD></TR><TR><TD></TD><TD bgColor=#d7d4d2></TD><TD></TD></TR><TR><TD width=10></TD><TD height=20>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]โดย [/FONT][FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ชัชรินทร์ ไชยวัฒน์ [/FONT][FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]<!-- Show Date -->15 พฤษภาคม 2551 16:12:17 น. <!-- End Show Date -->[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ถ้าถามต่อไปว่า...แล้วทำไมพื้นผิวมหาสมุทรมันถึงร้อนขึ้นๆ จนกลายเป็นตัวเติมพลังความแรงให้กับพายุแต่ละลูก มีฤทธิ์ มีเดช มีความร้ายกาจมากยิ่งขึ้น คำตอบที่ค่อนข้างชัด และเป็นระบบในเรื่องนี้ คงต้องไปพลิกหนังสือเรื่อง

 

<TABLE class=news2006_topic cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=585 height=10><TABLE class=news2006_topic width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left>ฮือฮา!พบบ่อน้ำพุร้อนกรุงเก่า ต้มไข่10นาทีสุก

</TD><TD align=right width=100></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD class=news2006_graylight height=10>โดย คม ชัด ลึก<SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT> <!--START-->วัน อาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 00:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=news2006_black cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=10 rowSpan=4></TD><TD width=575>ชาวบ้านเมืองกรุงเก่าฮือฮาแห่กันนำไข่ไปต้มในหลุมน้ำพุร้อน พบอยู่ใกล้กับหมู่บ้านญี่ปุ่น ส่งกลิ่นกำมะถันคลุ้งไปทั่ว เชื่อเป็นเพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหวอาจทำให้ใต้แผ่นดินเปลี่ยนแปลง วอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ

<CENTER></CENTER>

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนที่อยู่บริเวณชุมชน ม.7 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าพบน้ำร้อนอยู่ในบ่อน้ำใกล้กับร้านขายของชำ ริมถนนสายอยุธยา-บางปะอินสายใน เลยวัดพนัญเชิงวรวิหาร ไปประมาณ 500 เมตร ก่อนถึงหมู่บ้านญี่ปุ่น จึงได้เดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง

พบว่าบริเวณริมถนนมุ่งหน้าไป อ.บางปะอิน เป็นร้านขายของชำ เลขที่ 1/9 ม. 7 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา ปลูกเป็นบ้านหลังเล็กๆ ยกพื้นสูง อยู่ห่างจากถนนประมาณ 5 เมตร ที่พื้นด้านล่างใกล้กับเสาไฟฟ้ามีหญ้าขึ้นรก และยังมีรางน้ำไหลผ่าน ห่างจากลำลางน้ำประมาณ 1 เมตรเข้าไปทางใต้ถุน เป็นหลุมน้ำเล็กๆเดือดปุดๆขึ้นมา มีควันและกลิ่นกำมะถันคลุ้งไปประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นจึงได้ทดลองนำไข่ไก่ลงไปวางปรากฎว่าไข่สุกในเวลาประมาณ 7-10 นาทีเท่านั้น

นายไพรวัลย์ ธรรมพร อายุ 44 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ได้ลงไปขุดให้บ่อน้ำดังกล่าวกว้างเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 ซ.ม. ลึกประมาณ 1 ฟุตเศษ ปรากฎว่า มีควันคลุ้งออกมามากกว่าเดิม และมีกลิ่นเหม็นฉุนเหมือนกำมะถัน และเมื่อนำไข่ลงไปต้มอีก ก็ปรากฎว่าไข่ที่ต้มสุกทุกฟองอย่างรวดเร็ว

<CENTER></CENTER>

นายไพรวัลย์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ขณะที่ตนและลูกสาว กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ระเบียงบ้าน ก็มองลงไปเห็นมีตาน้ำผุดขึ้นมา และมีควันขึ้น จึงได้ลงไปดู เอามือแตะๆก็พบว่ามีความร้อนจึงได้ ลองเอาไข่วาง ปรากฎว่าไข่สุกในเวลา 7-10 นาที จึงได้ขุดให้กว้างขึ้นอีก แล้วลองต้มอีก ปรากฎว่าไข่ก็สุกอย่างรวดเร็ว ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้ามาดูว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ เนื่องจากมีเสาไฟฟ้าอยู่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าก็ยืนยันว่าไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วแต่อย่างใด เนื่องจากลำรางน้ำที่อยู่ใกล้ก็ไม่ได้รับผลอะไร ปลายังสามารถว่ายน้ำได้ด้วย ซึ่งร้านของตนปลูกมากว่า 20 ปีแล้วยังไม่เคยเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้มาก่อน

นายสำเริง อดิศะ อายุ 48 ปี ประชาชนที่เดินทางมาดู เปิดเผยว่า เชื่อว่าน่าจะเป็นน้ำพุร้อน และเกิดจากสาเหตุของแผ่นดินไหวเกี่ยวกับรอยเลื่อนของเปลือกโลกที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของใต้พื้นโลก อยากให้เจ้าหน้าที่หรือนักวิชาการมาดู หากเป็นน้ำพุร้อนจริงจะได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่
<!--END--><!--PICLIST--></TD><TD width=10 rowSpan=4></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมว่าควรตรวจสอบให้ละเอียดกว่านี้อีกหน่อยนะครับ ถ้าเป็นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่ แต่ว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิด แต่มาเกิดตอนแผ่นดินไหว ผมกลัวใต้นั้นลงไปจะไม่ปลอดภัยจังครับ เหมือนกับว่าลาวาใต้โลกดันตัวขึ้นมาตรงนั้น ถ้าสมมุติว่ารอยแยกกว้างขึ้นอีกหละจะเป็นอย่างไร และได้ยินมาว่านับแต่แผ่นดินไหวในจีนเริ่มต้น ก็ยังมี after shock อยู่เรื่อยๆ นะครับ ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องควรรีบเข้าไปตรวจสอบนะครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>

 

อนาถ...คนไทย...สนใจแต่...แหล่งท่องเที่ยวหาเงินหาทอง....หารู้ไม่ว่า....ภัย...เข้ามาใกล้ตัว

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ระทึก! โตเกียวอพยพเกือบสองหมื่นระหว่างกู้ระเบิดสมัยสงครามโลก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 พฤษภาคม 2551 14:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงญี่ปุ่นกำลังเก็บกู้ระเบิด​

เอเยนซี - เจ้าหน้าที่ดับเพลิงญี่ปุ่น เผย พลเรือนกว่า 16,000 คน ต้องอพยพออกจากชานกรุงโตเกียวเพื่อความปลอดภัย ระหว่างเก็บกู้ระเบิดด้านสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีน้ำหนักราว 1 ตัน

ระเบิดลูกดังกล่าวเชื่อว่าถูกทิ้งโดยกองทัพสหรัฐฯ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

ทั้งนี้ ทีมของทหารหน่วยป้องกันตนเองของญี่ปุ่นในโชฟู เมืองรอบนอกกรุงโตเกียว เข้าเก็บกู้ระเบิดที่เขรอะไปด้วยสนิม ชิเกรุ อิชิการา เจ้าหน้าที่อัคคีภัยโตเกียว ระบุ

เขาบอกว่า มีประชาชนราว 16,490 คน ถูกอพยพออกจากที่พักอาศัยในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง บริการรถไฟถูกระงับและถนนหลายสายถูกปิด ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ขึงวงล้อมในรัศมีที่พบระเบิด 500 เมตร

เชื่อว่า ระเบิดลูกนี้ถูกทิ้งโดยเครื่องบิน บี-29 ของสหรัฐฯ และถูกค้นพบโดยคนงานก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000057853

 

ข้อความดั้งเดิมจากคุณ หนุมาน ผู้นำสาร

สรรพภัยทั้งปวงจะเกิดขึ้น...ภัยจากหิมาลัย น้ำโขงทะลักเข้าไทย พัดทุกสิ่งทุกอย่างจากเหนือลงอ่าวสยาม...แผ่นดินแตกแยก ไฟสีเขียวใต้โลกพุ่งเผาผลาญ...ในกรุงเกิดสายฟ้ายักษ์ผ่า Spark จากฟ้าลงสู่ดิน จนแผ่นดินระเบิดขึ้นมา ลาวาหินละลายพุ่งขึ้นมาไหลตามเจ้าพระยา...สองฝากฝั่งทลายไหลลงเจ้าพระยาที่เป็นหินละลายสีแดง...เกิดคลื่นยักษ์ในทะเล กวางล้างสะสางแผ่นดิน...เป็นเวลาเดียวกับที่เขาเรียกกันว่า วันพิพากษา ฯลฯ....สิ่งเหล่านี้ไม่ว่าจะเกิดชาติไหนๆ ก็ไม่เคยพบเห็น

" หนุมาน ผู้นำสาร "
07-19-2007, 06:05 PM

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=470 align=center border=0 v><TBODY><TR><TD class=boldtxt colSpan=2>สาระน่ารู้

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“โลว์เทคโนโลยี”ความหวังเดียวในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจีนและพม่า </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 พฤษภาคม 2551 08:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สองเท้าได้ผลสุด---จีนต้องส่งทหารลุยเดินเท้าเข้าไปช่วยเหยื่อในเวิ่นชวน จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวในดงเทือกเขา ที่ถูกปิดล้อมด้วยเส้นทางขาด และสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ทำให้เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติการไม่ได้ใน “นาทีชีวิต” เช่นนี้--เอเอฟพี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี – ทุกวันนี้ เราอาจส่งยานอวกาศไปสำรวจชายขอบของระบบสุริยะ อาจแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารรวดเร็วทันใจกับเพื่อนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโลก หรือแม้แต่กระทั่งอาจผ่าตัดผู้ป่วยด้วยรีโมตคอนโทรลทางอินเตอร์เน็ต

ถ้าเช่นนั้น เราย่อมต้องมีเครื่องมือไฮเทคบางอย่างสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติหลายแสนคนในพม่าและจีน ซึ่งชีวิตกำลังแขวนอยู่บนความตายด้วยน่ะสิ จริงมั๊ย?

คำตอบที่สั้น และเศร้า ก็คือ "ไม่มี"


ภารกิจบรรเทาทุกข์ผู้ประสบหายนะภัยในยุคต้นศตวรรษที่ 21 ยังมีความคล้ายคลึงอย่างน่าประหลาดใจกับการบรรเทาทุกข์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 หรือแม้แต่ก่อนหน้านั้น

“ผมเคยเป็นเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในโมแซมบิกสมัยทศวรรษ80” เอียน เบรย์ โฆษกองค์การบรรเทาทุกข์อ็อกซ์แฟมเล่าให้เอเอฟพีฟัง

“ผมต้องเดินทางจากโมแซมบิกมายังกรุงฮาราเร่ โดยนั่งมาในรถแลนด์โรเว่อร์ทั้งวัน เพื่อที่จะส่งโทรพิมพ์ชิ้นหนึ่งกลับไปให้สำนักงานอ็อกซ์แฟมในเมืองอ็อกซ์ฟอร์ด เดี๋ยวนี้ผมต่อโทรศัพท์ถึงแป๊บเดียว นั่นคือตัวอย่างว่าเทคโนโลยี่ช่วยเราได้ยังไง”

“แต่พื้นฐานยังคงเหมือนเดิม ผู้คนยังต้องการอาหาร,น้ำดื่มสะอาด และการสุขาภิบาล พวกเขาต้องการสิ่งของธรรมดา ๆ อย่างสบู่ ถังน้ำสำหรับล้างมือ หลังจากทำกิจธุระขับถ่ายแล้ว เพื่อฆ่าเชื้อโรค คุณส่งสิ่งของเหล่านี้ไปให้ทางอีเมลไม่ได้หรอก”

เบรย์บอกว่า การใช้รถบรรทุก หรือเรือขนกระสอบข้าวสาร,ผ้าห่ม,อุปกรณ์สำหรับสร้างที่พักพิงชั่วคราว หรือข้าวของชิ้นใหญ่ ๆ อย่างอื่นยังคงเป็นวิธีการที่เหมาะสมทางหนึ่งในการส่งความช่วยเหลือไปให้แก่พื้นที่ห่างไกล ซึ่งถูกพายุไซโคลนถล่มในพม่า และในมณฑลเสฉวนที่เจอแผ่นดินไหว

การขนส่งทางอากาศอาจรวดเร็วและทันสมัยกว่า “แต่เป็นการส่งความช่วยเหลือที่ไม่ได้ผลสักเท่าไร และเป็นวิธีการที่เสียเงินมาก”

เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสิ่งของได้คราวละเล็กน้อย และการหย่อนอาหารลงมาจากเครื่องบินก็อาจทำให้ผู้อพยพเบียดเสียดยื้อแย่งกันจนเลือดตกยางออก คนที่แข็งแรงเท่านั้นถึงจะแย่งเอามาได้

นอกจากนั้น สิ่งของบรรเทาทุกข์ ประเภทเครื่องทำน้ำดื่มสะอาด และเครื่องเวชภัณฑ์ ยังต้องเป็นของง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน และบึกบึนทนทาน จึงจะทนกับสภาพอากาศรุนแรงจัด และความชื้นได้ และอึดกับการขนส่งที่ลำบากลำบน นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นยังจะต้องสามารถใช้งานได้อีกด้วย

ดังนั้น จึงตัดออกไปได้เลยสำหรับเครื่องสแกนเนอร์อันแสนทันสมัย ซึ่งใช้การได้อย่างดีตามโรงพยาบาลในเมืองเซอร์เรย์ หรือในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีวิศวกรสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคอยช่วยเหลือ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ปัจจัยที่จำเป็นที่สุดของชีวิตเหยื่อแผ่นดินไหว ที่สิ้นเนื้อประดาตัว –เอเอฟพี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับการสร้างที่พักพิงฉุกเฉินนั้น สิ่งของช่วยเหลือซึ่งปราดเปรื่องที่สุดก็คือสิ่งของที่มีความเรียบง่ายที่สุด เกรแฮม ซอนเดอร์แห่งสมาพันธ์กาชาดสากลกล่าว โดยต้องเป็นสิ่งของที่นำมาประกอบเข้าด้วยกันได้ง่ายที่สุดรวดเร็วที่สุด และคุ้มเงินมากที่สุด

“เต๊นต์น้ำหนักเบาหลังหนึ่งมีราคา 265 ดอลลาร์ แต่ชุดอุปกรณ์สำหรับสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวหลังหนึ่ง มีแผ่นผ้าพลาสติก, ถุงเครื่องมือ และตัวยึด รวมกันแล้วมีราคาแค่ 60 ดอลลาร์เท่านั้น”ซอนเดอร์จาระไน

หรือแม้กระทั่งเรื่องอาหารก็ตาม แม้นักโภชนการจะพยายามคิดค้นอาหารที่มีคุณค่าสูงสุด เช่น ขนมปังให้โปรตีนสูง หรืออาหารทดแทนที่เรียกกันว่า พลัมพีนัต (Plumpynut) ซึ่งเป็นอาหารในบรรจุภัณฑ์ ที่พร้อมแกะออกมารับประทานได้เลย อาหารจำพวกนี้ใช้สำหรับเยียวยาผู้รอดชีวิตที่อยู่ในภาวะขาดสารอาหารอย่างหนัก

ทว่าสำหรับผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่แล้ว อาหารที่พวกเขาคุ้นเคย กินได้ และย่อยง่ายคือสิ่งที่พวกเขาต้องการอันดับหนึ่ง นี่คือเหตุผลอธิบายว่าทำไมข้าวจึงตัวเลือกสำคัญ

ซอนเดอร์เล่าย้อนไปเมื่อครั้งที่เขาไปปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในอัฟกานิสถาน และพบว่า อาหารที่ทหารอเมริกันแจกให้ประชาชน ซึ่งเป็นอาหารสำเร็จรูป เปิดกินได้ทันทีนั้น ชาวบ้านกลับเอามาใช้เป็นก้อนอิฐถมถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อเสียฉิบ! ไม่มีใครอธิบายให้ชาวบ้านทราบว่าห่อพลาสติกหน้าตาประหลาดนั้น มีอาหารอยู่ข้างใน

ไปดูสถานการณ์ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่จีนบ้าง จูลี่ ไรอัน จากสมาคมกู้ภัยระหว่างประเทศ (International Rescue Corp.) ซึ่งเป็นองค์กรกุศลของอังกฤษกล่าวว่า การค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารปรักพังจะใช้เทคโนโลยี่หลายอย่างร่วมกัน และใช้สุนัขดมกลิ่น ตลอดจนใช้ประสบการณ์ที่ทราบกันดีว่า ซากอาคารที่ถล่มลงมานั้น อาจมีช่องโหว่ภายใน ซึ่งทำให้ผู้ติดอยู่รอดชีวิตได้

เครื่องมือค้นหาผู้รอดชีวิต เช่นการติดเครื่องไมโครโฟนบนซากปรักหักพัง เพื่อจับเสียงที่ดังมาจากผู้รอดชีวิต และค้นหาตำแหน่ง หรือ“สคูบาร์” ซึ่งเป็นกล้องติดบนไม้ยาว ที่สามารถแหย่เข้าไปในกองอิฐกองหินได้

นอกจากนั้น ยังมีนวัตกรรมล่าสุดเป็นอุปกรณ์ ซึ่งเรียกว่า เครื่องวิเคราะห์คาร์บอนไดอ็อกไซด์ “ถ้าคุณกำลังสลบอยู่ใต้โพรง ระดับก๊าซ คาร์บอนไดอ็อกไซด์ในช่องโพรงจะสูงขึ้น” ไรอันอธิบาย

หรือการใช้เครื่องมือค้นหา ซึ่งเป็นต้นแบบการพัฒนาเครื่องมืออื่น ๆตามมา ได้แก่ ระบบเรดาร์ภาคพื้นดิน ซึ่งส่งสัญญาณทะลุทะลวงซากปรักหักพัง เพื่อค้นหาช่องว่าง และถ้าโชคดี จะสามารถค้นหาเสียงหัวใจเต้นของผู้รอดชีวิตได้อีกด้วย

นอกจากนั้น ยังมีเทคโนโลยีที่สามารถเจาะลึกไปไกลกว่านั้น โดยนักวิทยาศาสตร์กองทัพสหรัฐฯ ได้ทดลองฝึกหนูสำหรับค้นหาผู้รอดชีวิต และส่งสัญญาณวิทยุกลับมา โดยมีการฝังอุปกรณ์ไว้ในสมองของหนู เพื่อบ่งชี้ที่ตั้ง

“เรานำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กันมากขึ้นอย่างเอาจริงเอาจัง แต่งานนี้ก็ต้องอาศัยเรื่องของสัญชาตญาณเข้ามาช่วยเยอะด้วยเช่นกัน ”ไรอันทิ้งท้าย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สธ.เชิญบริจาคช่วยพม่าที่ อ.แม่สอด ตาก-ศาลากลางฯ ระนอง

​

สำนักข่าวไทย 18 พ.ค. - นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการผู้อำนวยการสำนักบริการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (อีเอ็มเอส) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เพื่อความสะดวกในการขนเครื่องอุปโภค บริโภค ยา เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ช่วยเหลือประชาชนชาวพม่าที่ประสบภัยพายุไซโคลนนาร์กีส สธ.ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

ติดต่อโทรศัพท์ 055-532-683-85 ส่วนภาคใต้บริจาคได้ที่ศาลากลาง จังหวัดระนอง สำหรับส่วนกลางสามารถแจ้งบริจาคได้ที่ศูนย์นเรนทร กระทรวงสาธารณสุข โทร.02-590-2803 และ 02-591-9437 เพื่อความสะดวกในการขนส่งสิ่งของไปช่วยเหลือชาวพม่าที่เดือดร้อน. - สำนักข่าวไทย

2008-05-18 18:20:21

ที่มา http://news.mcot.net/social/inside.php?value=bmlkPTM1NTI2Jm50eXBlPXRleHQ=

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=566 bgColor=#00ffff border=1><TBODY><TR><TD width=440>

[FONT='courier new',courier,monospace]อันดับ 10 : น้ำตก (RAGING WATER)
แม้มันจะรั้งท้าย แต่ความยิ่งใหญ่ของน้ำและหน้าผาสูงชันอาจ ข่มขวัญคุณได้ ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ มันบอกความน่าสะพรึงกลัวของน้ำตก เราหลีกห่างมันได้ถ้าเราไม่อยากเข้าใกล้ แต่วิธีที่เยี่ยมกว่าคือ ลองเข้าไปใกล้ไปสัมผัสพลังมหาศาลความยิ่งใหญ่ของสายน้ำ จากทั่วโลกมีอยู่ 4 แห่งที่น้ำตกขึ้นชื่อว่าสุดยอด น้ำตกไนแอการ่า, น้ำตก, วิกตอเรีย, น้ำตกอิกวาซู และน้ำตกแอนเจิล แหล่งที่สุดทั้งการผจญภัยแบบสูงเสียดฟ้า ทั้งงดงาม ทั้งน่ากลัว ทั้งใหญ่ยักษ์ อยู่ในที่เดียว[/FONT]​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD><TD>อันดับ 9 : น้ำพุร้อน (GUSHING GEYSERS)
บนพื้นพิภพมีบางสิ่งกำลังปะทุขึ้น ร้อนขึ้นอีก และพุ่งสู่เบื้องบนแทน ด้วยชื่อ..น้ำพุร้อน ความร้อนอาจหลอมละลายทุกอย่าง แต่พลังเกรี้ยวกราดนี้เรายังพอเข้าใกล้ได้ เป็นเรื่องแปลกที่ปฏิกิริยาของเปลือกโลก และความร้อนไม่ทำให้พวกเรากลัวแต่อย่างใด บ่อน้ำพุร้อนที่ทะเลสาบโบโกเรีย น้ำพุร้อนอีกนับร้อยในไอซแลนด์ นิวซีแลนด์กับบ่อน้ำพุก็คู่กัน และแหล่งน้ำพุร้อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่นี่ อุทยานแห่งชาติเยลโล่สโตน บ่อน้ำร้อนนับหมื่นแห่งกับภาพการพุ่งขึ้นของน้ำพุร้อนขนาดมหึมา

 

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD><CENTER>[SIZE=+2]ความช่วยเหลือในเหตุการณ์แผ่นดินไหว ประเทศจีน[/SIZE] </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[SIZE=-1]ความช่วยเหลือจากสภากาชาดไทย ในเหตุการณ์แผ่นดินไหว ประเทศจีน ขณะนี้สภากาชาดไทยได้ส่งเงินไปช่วยเหลือยังสภากาชาดจีนแล้ว เป็นจำนวน 100,000 ดอลล่าร์ [/SIZE]

[SIZE=-1]สำหรับผู้ที่มีความระสงค์จะบริจาคเงินเพิ่มเติมให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศจีน สามารถบริจาคได้ที่

ชื่อบัญชี : สภากาชาดไทยช่วยเหลือแผ่นดินไหวในจีน
เลขที่ : 045-3-04289-7
ประเภท : กระแสรายวัน
ธนาคาร : ไทยพาณิชย์
สาขา : สภากาชาดไทย

หมายเหตุ

แฟ็กซ์ใบนำฝากพร้อมเขียนชื่อและที่อยู่
มาที่สำนักงานการคลัง หมายเลข 0-2250-0120 [/SIZE]
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]วันที่ประกาศ : [/SIZE][SIZE=-1]16 พ.ค 51 15:05[/SIZE]


</TD></TR><TR><TD><TABLE borderColor=#eeeeee cellSpacing=0 width="80%" align=center border=1><TBODY><TR></TR></TBODY></TABLE><!---attached file --><!--- attached file ---><!---attached file --><!--- attached file --->ที่มา http://www.redcross.or.th/pr/pr_news.php4?db=1&nsid=3558</TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เห็นข่าวเกี่ยวกับบ่อน้ำพุร้อนที่อยุธยาแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย

นึกไปถึงภาพยนต์เรื่อง " ดังเต พีค " ที่พระเอกเป็ยนักสำรวจแผ่นดินไหว ไปสำรวจความผิดปกติของเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง พบว่ามีบ่อน้ำร้อนเกิดขึ้นมาอย่างผิดปกติ และมีกลิ่นกำมะถันด้วย ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นตายหลายต้นเพราะรากไม้ถูกความร้อนจากใต้ดินทำลาย

ซึ่งพระเอกคาดว่าเป็นสัญญานบ่งบอกว่าอาจจะมีลาวาใต้ดินไหลมาข้างใต้เมืองและกำลังจะปะทุขึ้นมาเหนือพื้นดิน แต่ชาวเมืองไม่เชื่อเพราะห่วงแต่ผลประโยชน์ของการเป็นแหล่งท่องเที่ยว กลัวคนแตกตื่น ไม่มาเที่ยว และสูญเสียรายได้ และต่อมาก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นจริงๆ

ตอนนั้นก็คิดว่าได้ความรู้ดี แต่ตอนนี้คิดว่าความรู้นั้นอาจจะเป้นจริงขึ้นมาใกล้ๆตัวเรานี่เอง อยากให้เพื่อนๆที่อยู่ในบริเวณนั้น ช่วยสังเกตุและเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งกายและใจ และเสีบยงนะครับ เผื่อเอาไว้

ใครจะว่าเป็นกระต่ายตื่นตูมก็ช่างเขา เราศึกษาหาข้อมูล สังเกตุสิ่งรอบตัว แล้วพินิจพิเคราะห์ตามเหตุและผล แล้วค่อยเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมข้าวของเพื่อความไม่ประมาท มิใช่ฟังข่าวโคมลอยแล้วกลัวไปตามข่าวสักหน่อย ขอให้มีสติตั้งมั่น เชื่อมั่นในเจตนาดีของตัวเรา และกลุ่ม (good)


ขอคุณพระพุทธ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ ช่วยคุ้มครองให้ทุกๆคนจงเป็นสุขๆ รอดพ้นจากทุกข์ภัย ภัยพิบัติทั้งหลาย เห้นแสงสว่างแห่งพระธรรม มุ่งหน้าปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายด้วยเทอญ สาธุ

 

เป็นมาสองวันแล้วค่ะ...สติจะคอยเตือนตอนก่อนจะเข้านอนให้แต่งกายให้มิดชิด...เตรียมพร้อมตลอดเวลา...ให้ใส่กางเกงขายาว...เสื้อที่ใส่สบายและรัดกุม...เวลาที่เกิดเหตุการณ์อะไร...เราจะได้มีเสื้อผ้าที่มิดชิดใส่เวลาหนีภัย...เพราะอาจไม่เวลาให้มานั่งแต่งตัวกัน...ทุกนาทีมีค่ามากขณะนั้น...
เนื่องจากปกติจะใส่ชุดนอนซึ่งจะเบาสบาย...และค่อนข้างบาง...
แต่ตอนนี้เปลี่ยนรูปแบบการแต่งตัวก่อนนอนใหม่แล้วค่ะ...คือให้รัดกุมขึ้น...
อยากฝากบอกเพื่อนๆด้วยค่ะ...เพราะอากาศบ้านเราจะค่อนข้างร้อน...บางคนใส่กางเกงตัวเดียวนอน...หรือผู้หญิงบางคนใส่ชุดนอนแต่ไม่สวมอะไรข้างในเลย...ก็อาจจะไม่สะดวกเวลาประสบภัยค่ะ....
เพราะภัยส่วนใหญ่จะมาตอนเราไม่รู้ตัวเสียโดยมาก...

 

ใช่เลย เราเองก็คิดไม่ถึงในเรื่องนี้เหมือนกัน คุณ amm คิดรอบคอบดีจัง(good)

ต่อไปตอนจะนอนต้องคิดเผื่อเรื่องเครื่องแต่งกายดี ๆ เผื่อว่าสมมติแผ่นดินไหว บ้านเสียหาย เวลาหน่วยกู้ภัยมาช่วย จะได้ไม่อุดจาดตา เนอะ(eek)

 

ดร.อาจอง ชุมสาย ณ.อยุธยา​

ใครได้ดู ดร.อาจอง เมื่อคืนวันศุกร์ หรือเปล่า นอกจากท่านจะบอกว่าเหลือเวลาอีก 6 ปี น้ำท่วมกรุงเทพ แล้ว คราวนี้ยิ่งพูดชัดเจนมากขึ้นอีกว่า ที่จริงตอนนี้ ต้องเริ่มทะยอยอพยพ คนออกจากกรุงเทพ ได้แล้ว เพราะกรุงเทพมีคน ตั้ง 10 ล้านคน ถ้าไม่เริ่มก็ไม่สามารถ อพยพได้ทัน

โดยคุณ สวัสดี 10 ก.ย. 2007 เวลา 09:47

พอดีได้ดูตั้งแต่ตอนแรก ดร.อาจอง บอกว่า เรื่องที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่หาสถานที่ที่ปลอดภัยอยู่ เพราะไม่แน่ว่า ตรงที่เราอยู่ทุกวันนี้จะปลอดภัยหรือไม่

แต่เรื่องที่สำคัญคือ ความรัก ความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน และเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งยังทำได้ยาก ในสังคมปัจจุบัน คิดง่ายๆ คือ ถ้ายังเป็นอย่างทุกวันนี้อยู่ ก็เตรียมรับสถานการณ์ ข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นได้เลยค่ะ

โดยคุณ Ann 31 ส.ค. 2007 เวลา 16:05

เท่าที่ติดตาม ดร.อาจอง ท่านพูดตรงๆ และชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงปลายปีที่แล้วที่ดูท่านให้สัมภาษณ์ในรายการที่นี่หมอชิต ยังไม่บอกกันตรงๆ ขนาดนี้
และที่สำคัญ ท่านก็บอกด้วยว่า จะเกิดเร็วขึ้นกว่าที่ทำนายกันไว้ด้วยครับ
เรามารีบปฏิบัติธรรมกันดีกว่า

โดยคุณ Tanakrit 31 ส.ค. 2007 เวลา 15:35

รายการอะไรเหรอครับ มีให้ดูย้อนหลังป่าว ระยะหลังๆมานี้ ท่านออกมาเตือนถี่ขึ้น ตายเป็นตาย ตายไปพร้อมกับอาวุธป้องกันตัว จะได้สง่างาม ขอยกคำสอนของท่านเจ้าคุณนรฯมาฝากครับ

"กุมสติต่างโล่ห์ป้อง อาจแกล้วในสนาม"
<!-- Signature -->
โดยคุณ บัวปริ่มน้ำ 10 ก.ย. 2007 เวลา 20:24

ต้องที่นี่เลยครับ น้ำท่วมกรุงเทพ ตอนที่ 1
http://video.hunsa.com/watch/?v=UYPKWMlFX7Bt-13

น้ำท่วมกรุงเทพ ตอนที่ 2
http://video.hunsa.com/watch/?v=-KudAA15nv5l3Iu

ขอบพระคุณครับที่แจ้งข่าว

โดยคุณ ardhan 31 ส.ค. 2007 เวลา 09:31

ที่มา http://www.managerroom.com/forums/forum_posts.asp?PN=1&TID=2360&get=last
<!-- Signature --><!-- Message body ''"" -->

 

ใช่เลยครับแม่ผมไปราชการเชียงใหม่เจอเหตุการณ์แผ่นดินไหวกลางดึก แม่เล่าให้ฟังว่าคนอื่นคิดว่าผีหลอกผีมาเขย่าเตียงนอนคลุมโปงกันแต่แม่มองไปที่ขวดน้ำที่ตั้งอยู่บนหลังทีวี เห็นน้ำในขวดเขย่าไปมาแม่คว้ากระเป๋าที่เตรียมพร้อมไว้แล้วอย่างดี และการแต่งกายของแม่ก็เรียบร้อยรัดกุมมาก เพราะไม่ได้กลัวเรื่องแผ่นดินไหวแต่กลัวไฟไหม้และภัยจากคนด้วย แม่ไปเคาะห้องเพื่อนๆให้รีบออกจากตึก ปรากฏว่าเพื่อนบางคนแต่งตัวไม่เรียบร้อยต้องหาเสื้อคลุมกันวุ่นวาย แถมบางคนวิ่งไปกดลิฟท์เพื่อจะลงไปข้างล่างอีกด้วย แม่บอกว่าสติสำคัญมากในยามฉุกเฉิน