ธรรมะไร้กาลเวลาทั้งทางโลกทั้งทางธรรม

เถียงด้วยแล้วปวดหัว ทั้งมั่ว ทั้งโจมตีสายสุกขา เหมือนพระองค์ไม่เคยตรัส ไม่สรรเสริญ

ไปดีกั่ว

 

บรรลุหรือไม่ พระองค์ชี้ไปที่ ทรงเป็นแค่ผู้บอกทาง
ไม่ทะลึ่งเดินตาม ขาดศรัทธาอย่างหนักแน่น ก็หลงทางต่อไป(กว่าจะเป็นเสาหิน 8 ศอก ไม่ใช่เรื่องขี้ๆนะฮับ)

แค่นี้เอง

 

อันนี้ พระศาสดา เรียก ตั้งจิตไว้ผิด

ต้องไปเช็คบาลี ว่าใช้คำว่า อธิษฐาน ไหม
หรือมี คำอื่น

แต่อันนี้ ไม่เกี่ยวกับ ปัจจัยที่จะเป็น พระปัจเจกนะ
ไม่เกี่ยวกับ ถวายคาง แต่การ ถวายคางจะเกิด
ขึ้นได้นี่ ต้องทำอะไรแปลกๆ มากมาย

ส่วนกำเม็ดทรายนั้น จะเป็นเชื้อห่างๆ
เพราะ มีหลายชาติที่ พระเทวทัตก็ช่วย
พระศาสดาไว้มากมายขนานกันมา ต้อง
ไม่ลืมตรงนี้ ( ไม่เช่นนั้น จะ เรียกพระเทวทัต
ด้วยอาการ เคารพ ใน พระปัจเจกไม่ได้ ระวังนะฮับ
เขียดเรียกพี่ เอาดื้อๆ )

 

แต่เอาเหอะ ดีกว่าโดนแช่งไปเป็นเปรต แทบไม่อยากจะบู้ด้วย โดนแช่งปุป ธรรมดับ ปิดจอดีกว่า555

 

อย่าลืมว่า
แม้แต่พระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้
ก็เคยทำผิดมาอย่างเต็มที่เหมือนกันครับ

 

พักหลังๆ นี่ กล่าวธรรมได้ ลง ปักจุกบัง บ่อย

ไปทำอะไรมา

ไป กราบแม่ มา หรอ

พุกกะพุง ก็ดีหน่อย ตรงนี้ ไม่เสีย

หากเป็น สาวก จิตกตัญญู เสียไปแล้ว
สาวกหน้าไหน จะมาพูดว่า ตนกตัญญู
เอา สันติ ไป แหละ ได้เลยทีเดียว

เป็น อฐานะ

ถ้า จิตกตัญญูเสียนะ โอย ก่อนบ่ายคลายเครียด !!!

 

เรียกลุงแมวมาต่อดิ

Spoiler

 

ปรัชญาปารมิตาสูตร ชัดๆเลย
ลุงแมว ถนัดทาง โยนิโส 10 อนุปัสสนา 7 สัญญา 10 ใช่ไหมเนี่ย

 

ก็พระพุทธเจ้ามาจากพุทธภูมิ
พุทธภูมิก็มาจากคนธรรมดา
มีรึคนธรรมดาจะไม่เคยทำผิดครับ

 

มีแต่แสง
ไม่มีสายฟ้าครับ

 

จีจี ตรงนี้เป็น พุทธวิสัย นะฮับ

คนมีกตัญญู เขาไม่พูดกันหลอกฮับว่าเกิด อกุศล หรือ ทำผิด

แต่จะเป็นอะไรนั้น ให้พวก ไม่รู้จักกตัญญูมา
พิจารณา งง เต็กสถาณเดียว ไม่มีฐานะ จะตรึกได้
เพราะ ขาดราก

 

ต้องจี้ไปที่แสงมาแล้ว มีแยกรูปนาม หรืออื่นใดปรากฏขึ้นไหม แบบอ่อนๆไรงี้

 

ถ้าไม่มีอาจเจอ วิปัสสนู ยิ่งบอกยังพิจารณาได้นี่ชัวร์ (เอกคตาไม่เห็นมี)

 

อุปมาว่านิ่งเป็นหินระดับฌาน 8 ยังรู้ว่าเป็นฌาน 7-8

แต่ไม่ใช่รู้ด้วยการปรุง ไรงี้

นะ วิสัยฌาน 1 ในอจินไตย

 

ซบท ป๋ม ขออนุญาติ ยื่นถุงผ้าขงมิ้งให้

พุทธศาสนา เราจะใช้คำว่า "เอโกธัมโม" แปลไทยคือ "ธรรมเอก"

หากเป็ยเดีรถีย์นอกศาสนาปลอมเข้ามา จะเข้าใจว่าเป็น
ตัวเดียวกับ "เอกัคคตา"

ผั๊วะ !! สุขขาฯเป็นพวกฝึกฌาณ สันติ มะโรงสี บ้านแพ้ว !!

 

ไปเล่นไกลๆปะ เอกคตา ไม่มีในพระไตรค่อยมาต่อว่าก็ยังไม่สาย

พระไตรสอนฌานฤษี หิ้วววววววววว

 

ซบท ถามความเห็นหน่อย คิดยังไงกับ เหตุให้เกิดเป็นท้าวสักกะในข้อนี้ ต่างหรือเหมือนกับ

มีโทสะให้รู้=วิปัสสนา

พึงเป็นผู้ไม่โกรธตลอดชีวิต;
ถ้าความโกรธพึงเกิดแก่เราไซร้ เราพึงหักห้ามมันเสียพลันทีเดียว ดังนี้,

 

ดูชฏิลสามพี่น้องเป็นตัวอย่างครับ
เป็นฤษีฝึกฌาณโลกีย์อยู่ตั้งนาน
พอได้ฟังเทศจากพระพุทธเจ้า
บรรลุธรรมแล้วก็เป็นฌาณโลกุตระ

 

นั่นละที่จะสื่อ ธรรมมะฟาสฟู้ด คนเมือง มันดีละอานิสงค์ดี แต่อ้างวิปัสสนาไม่ได้ ตัวปฏิฆะ มันหัวเชื้อ มีมากกว่าโทสะ ความกลัว ความเจ็บปวด บลาๆ คือตัวจริง ไม่ใช่เพ่งบริษัทลูกของมัน โทสะมันคือตัวปลอม นอมินี ถ้าไม่ได้สดับไม่มีใครในสังสารวัฏจะรู้ได้ถึงปฏิฆะ

ใครเพ้อไปกับมีโทสะให้รู้ ก็จะติดฟาสฟู้ดแบบนี้ละ ใครพูดทำฌานนี่ตาเขียวปั้ด ห้ามขึ้นมาเชียว

2500 อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยังแว่วๆถึงขั้นให้ระแวงสติในบางคน 555

 

ไม่ว่าจะเป็น
ทุกขาปฏิปทา คือ ปฏิบัติแบบลำบาก แต่ก้เดินตาม สติปัฏฐานเหมือนกัน
มีพระจักขุบาลเป็นต้น
ปฏิบัติแบบไม่ยอมหลับตานอน จนตาแตก นี่เรียกว่าปฏิบัติแบบลำบาก
พอบรรลุก้เป็นพระสุขวิปัสโก แถมคุยกะเทวดาได้ด้วย
หรือ
สุขขาปฏิปทา อันนี้ปฏิบัติแบบ สะบายๆ แต่ก็ฝึกตาม สติปัฏฐานเช่นกัน


ส่วนใหญ่ พระสมัยพุทธกาล เท่าที่อ่านในพระไตรฯ จะเป้น ทุกขาปฏิปทา
คือฝึกแบบลำบาก เคร่งครัด อดนอน ผ่อนอาหาร ธุดงควัตร


ฉะนั้นไม่ว่าจะ

สุขขาปฏิปทา หรือ ทุกขาปฏิปทา ก็ ผ่าน ฌาน ผ่าน ญาน กันทั้งนั้น