ธรรมะไร้กาลเวลาทั้งทางโลกทั้งทางธรรม

ก็นั่นไงฮะ เคยสดับบ้างไหม ถ้าสดับแล้วแทงตลอดอาการถุยทิ้งในขณะจิตถูกหวย ไม่เกินวิสัย

อยู่ที่ว่าพ่อครัวผู้ฉลาดจริงไหม ศาสนาแห่งปังย่า วัดกันตรงนี้ก็ใช่ละส่วนนึง

 

ทุกขา ปฏิปทา กับ สุขขาปฏิปทา มีทั้งบรรลุเร็วและช้าทั้ง 2 แบบ

นางวิสาขา เดาเอาคงเป็นแบบทุกขา ปฏิปทา ประเภทบรรลุเร็ว
แต่ห้ามปฏิเสธ สุขขาปฏิปทา ว่าก็มีประเภทนี้อยู่ ประเภทนี้ทำฌาน

ถ้าพินาโดยแยบคาย ใครคิดว่าเป็นแบบไม่เอาชาญ ก็ทำเลยฮับไม่ขัดข้อง ปฏิเสธสายสุขขาไป ก็ไปลุ้นนาหญ้าขึ้นรกอยู่ดี

ต่างกันตรงไหนกับสายฌานฤษี? มีลุ้นนรกพอกัน ถ้ายังไม่ผั๊ว

 

ซบท ฟังให้ดีๆ นะ

ถุยทิ้ง ใน ขณะ นี่ ทะลึ่งแล้ว คนละเรื่อง

คำว่า ใน ขณะ เหมือน ซบท กำลังตกต้นไม้ ทุก
อย่างวิวัฏไปด้วยอำนาจแห่งเหตุปัจจัย

ดังัน้น ถุยทิ้ง นี่ ไม่ใช่ใน ขณะ

แต่เป็นเรื่อง "ต้นตรง" บางอย่างในภายใน
ก่อนหน้าจะบรรลุ และ แม้นอาการถุยทิ้ง
นั้นก็ต้อง ถุยออก ด้วย จึงเรียก อนุปัสสนา
( ถ้าไม่ กำหนด ถุย ก็เป็นสิ่ง ถุยด้วย จะ
กลายเป็น เจตนาเจือทันที "ต้นคด" )

ถ้าทำถูก ฌาณ 1 2 3 4 5 3 2 4 6 7 4 2 8 5 2 ชิวๆ
เป็นไปเอง ตามปัจจัยเกิด ดับ ( ตามเวทนาในกาล
ก่อนๆ ก็ ฮู้ๆๆๆๆๆ ไปซื่อๆ ) จะ แจงแวง ก็ว่าไป
ไม่ว่ากัน

 

ก็ อยู่ที่ความเข้าใจแต่ละคน

ถ้าเข้าใจถูกส่วนก็โอเคร ใช้ประโยชน์ได้ถูกต้อง

ไม่เคารพสมาธิ จึงเป็นหนึ่งที่จะทำให้ศาสนาไม่ยืนยาวนาน

ท่านใช้คำว่าสมาธิ แต่ไม่เจาะจงว่าเป็น
สัมมาหรือมิจฉาสมาธิ

เมื่อเข้าใจ ก็นำไปใช้ได้ถูกต้อง

ฉะนั้น หากฟังธรรมไม่สมบูรณ์ ก็จะ เดินผิดไปตั้งแต่แรก

 

ทุกข์เปรียบเหมือนความร้อน
สุขเปรียบเหมือนความเย็น
สุขที่ไม่ควรกลัวคือสุขพอดีไม่ติดสุข
สุขที่ควรกลัวคือสุขเย็นจนแช่เเข็งครับ
คนสุขเย็นจนแช่แข็งก็ทุกข์ตาย

 

ซบท ต้อง พินาดีๆ นะ

ธรรมของพระพุทธองค์ เป็นเรื่อง ปฏิจสมุปบาท
เป็นเรื่อง ปัจจัยการ

ฌาณฤาษี ไม่ได้ คลี่ติน สมาธิพุทธ

เพราะ สมาธิพุทธ ปฐมฌาณ เกิดจาก การละตัณหา
ด้วย สัลเลขา ไม่มี กลับกรอก ล่วงส่วนแล้วล่วงเลย
ไม่มี ย้อนกลับไป

อุปมา เข็นเรือขึ้นฝั่ง ตะไคร่ย่อมหลุด ไม่มี ลอยกลับ
ไปติดเหมือนเดิม

ส่วนฌาณฤาษีได้ปฐมฌาณ ฌาณ8 พอหายใจ ปึ๊ดเดียว
เฮียเท่าเดิม ทันที

พระศาสดา ถึงกับปฏิเสธ อลากดาบส อุทกดาบส
เชิญ เฮีย ไปเถิด เราขอแสวงหา สัจจ แท้ทรู ต่อไป

 

แบบนี้อธิษฐานมาครับ

 

ซบท ฟังดีๆนะ

จะถุงทิ้งแบบนางวิสาขา
หรือจะถุยทิ้ง แบบ สายสุขขาปฏิปทา(สายทำฌาน)

ก็มีลุ้นนาหญ้าขึ้นรกทั้ง 2 สาย( ถ้าใครบอกสายวิสาขาไม่ต้องลุ้นนรกบรรลุแน่นอนนี่น่าจะเรียกมาเขกกะโหลก)

จะลุ้นนรกแบบไหนอยู่ที่ปัจเจก( อยากนั่งสมาธิหรือไม่นั่ง)
แต่อานิสงค์สายฌาน อย่างน้อยๆมองในแง่ดีถ้าหนีนรกไม่ได้ ยังผ่อนส่งกว่าจะลงได้เป็นกัป สายเทวดากามภพนับเลขปีได้ ลงนรกไวกว่าหน่อย (คำนวนแบบโลกๆ) พระองค์จึงไม่กล่าวซี้ซั้ว อย่าไปกลัวฌาน

ยังไม่นับว่าได้เอคตาจิต คำนวนตามคณิตศาสตร์โอกาสพินาธรรมโดยเอานิวรณ์ออก แยกรูปแยกนามโอกาสเกิดสูงกว่า ทำงานไปฟังธรรมมะไป

 

นี่ๆ กำหนดแบบนี้ เหมือน พระอาจารย์ทื่อ เลย

กำหนดรู้ ธาตุ4ผิด

เย็น ก็คือ ร้อน จิฮับ

สุขก็คือ ร้อนที่ไม่เที่ยง

ทุกขก็คือ ร้อนที่ไม่เที่ยง

เสมอกัน ที่ความไม่เที่ยง
( จีๆ อทุขมสุข พวก อภิภายตนะ ฌาณ1-8 นั่นแหละ ก็เป็นของ ร้อน ด้วย)

 

ห้าอภิญญามีอยู่ก่อนพระพุทธเจ้า
อภิญญาที่หก
มีเพราะในพระพุทธศาสนาครับ

 

สุขในสมาธิแรกๆมันก็สุขสบาย
สุขให้ตายมันก็ยังไม่พ้นทุกข์
ต้องเข้าสู่มรรคแปด
แล้วแจ้งในอริยะสัจสี่
จึงจะพ้นทุกข์ครับ

 

ผมเคารพทั้ง 2 ส่วน สุกขา หรือ ทุกขา
พระสูตรเรื่องฌานก็ตรัสเยอะแยะ หรือเรื่องการคลายกำหนัดก็มีอีกเยอะ
จะบรรลุที่ส่วนไหน ไม่สำคัญแต่ไม่มุ่งเป้าโจมตีหรืออคติในอีกส่วนเกินไป

มีสาวกหลายรูป เริ่มโสดาจากทุกขา(ฟังแล้วบรรลุ) แต่อรหันต์ที่สุขขา อาศัยบึ้ดจ้ำบึ้ด

เรื่องนี้ใครก็รู้ อัครสาวกหลายท่านเลย

 

ใช้คำถูกนะ อธิ ษ ฐาน

แต่ถ้า อธิฐาน ที่เป็นคำไทย แบบโรยแป้ง อันนี่ ไม่ใช่นะ

อธิ ษ ฐาน ต้อง รู้รสของสิ่งที่จะ ขอ เป็นนั้นด้วย แต่ทว่า
ความปิติในใจ มันไม่รำงับ ทำให้เกิดเป็น อุปกิเลสขวาง
การนิพพานในชาติที่ ทำการอธิษฐาน

คือ สมมติว่า ซบท เห็นคน บรรลุธรรมด้วยการชิมมะนาว
แล้ว ซบท ก็ ปลื้มหว่ะ มีอย่างงี้ด้วยเหรอ บรรลุธรรม
ด้วยการชิมมะนาว และ จริงๆ ซบท จะ บรรลุตาม
ไปเลยก็ได้ เพราะ รู้อรรถสาระนั้นๆ แต่ทว่า ปิติชูใจ
มันไม่ดับ จิตเลยผลิกไป อธิษฐาน แทน

อะไรแบบนี้ ก็จะ รอไปหลายพุทธนดร เชียว เพราะ
ปิติชูใจนั้น ยังไม่ดับ กินเวลานานนนนน

พอ ซบท เกิดมาอีกที เห็นพุทธศาสนา แล้วก็
บังเอิญกำลังกินน้ำมะนาว ผั๊วะ!! บรรลุธรรม

( หาก ตอนนั้น สมัยนั้น ต้นธาตุที่บรรลุด้วยมะนาว
เขาเหาะได้ ซบท ก็จะ เหาะได้ โดยไม่ต้องฝึก )

 

เมื่อได้ดั่งนี้ วิธีการคลิกจิต เอาเหอะใครอยากโชว์พาว ผมไม่ล่วงส่วน มันอยู่ที่การอบรมจิต อีกประเด็นจากการแยกประเภทการบรรลุไปแล้ว ยำรวมกันไม่ได้ ประเภท กับขณะจิตบรรลุ

 

มันคน ละ สุข กัน

ศัพท์มันมี น้อย

อะไรที่เกิดจาก สงัดจาก กาม ก็เรียก สงบ สงัด สุข

แต่อย่าไปเข้าใจว่า สุข อันเกิดจากการ ฝึกฌาณฤาษี
จะมาเหมือน สุข อันเกิด "ต้นตรง ปลายตรง"

เทียบ คลี่ ตี ไม่ติด นะ ฮับ

สุข พุทธ จะพูดได้นี่ คือ ไม่กลับมาเกิด แล้ว
อย่างมาก ไม่เกิน 7ชาติ

 

ช่วงพุทธันดรยังไม่บรรลุ
เหาะเป็นว่าเล่นแล้วครับ

 

ถ้าเป็น พระเทวทัต ท่านไม่ได้เหาะ หนะสิ

ล่อไป สองสุญกัปป มั้ง

คือ หลังกัปพระศรีอารย์ ไปอักชุดสองชุด นี่แหละ

กว่า ปิติ จะดับ(ถวายคาง)

 

สุขโลกีย์กับสุขโลกุตระ
แยกกันตรงนี้นี่แหล่ะครับ

 

กำเม็ดทรายแล้วอธิษฐานอาฆาต
ผลออกมาก็เป็นอย่างที่เห็นเลยครับ

 

มั่วไปเลยอะ ปิติไม่เกิดดับเป็นพุทธันดร

ธรรมมะพระองค์กลายเป็นของรู้ช้า กล้าเอาอนันตริยกรรมปิดมรรคผลมาเทียบได้