ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

สนามแมเหล็กโลก เกิดการสลับขั้วขึ้นเมื่อใด เหตุการณ์แบบในหนังเรื่องนี้ ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นได้ครับ ความอดอยากขาดแคลนอาหาร เป็นภัยที่ร้ายกาจอย่างยิ่ง ต่อมวลมนุษย์ชาติในโลกนี้จริงๆครับ

พอดีเมื่อวานนี้ผมได้ดูสารคดีที่รายการ good tv นำเรื่องผลไม้มหัศจรรย์ "มิลาเคิล" มานำเสนอ เขาได้ทดลองนำต้นกระบองเพ็ด และหญ้าที่ขี้นตามท้องถนนทั่วไป มาทำเป็นอาหารให้คนลองชิมดู แต่ก่อนที่จะให้ชิมนั้น เขาจะนำผลมิลาเคิลที่อบแห้งแล้ว มาให้คนที่ร่วมรายการได้กินก่อนเป็นเวลาประมาณ 5 นาที

หลังจากนั้น จึงนำอาหารที่ทำจากต้นกระบองเพ็ด ว่านหางจรเข้ และต้นหญ้าที่ขึ้นตามข้างถนนทั่วไป มาให้ลองกินกัน ปรากฏว่าคนกินต่างประหลาดใจ ในรสชาดที่แสนอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งตามปกติแล้วอาหารจำพวกนี้ จะมีรสชาดที่แย่เอามากๆ ไม่มีใครกินลงแน่ๆ

ผลมิลาเคิล จึงเป็นผลไม้มหัศจรรย์ ที่จะเปลี่ยนอาหารรสชาดแย่ๆ ที่หาได้ง่ายๆตามข้างถนน ให้กลายเป็นอาหารที่สุดแสนอร่อยได้อย่างวิเศษสุดเลยทีเดียวครับ และผลมิลาเคิล ก็ไม่จำเป็นต้องกินสดๆด้วย โดยสามารถนำมาอบแห้ง เก็บใส่ขวดโหลเอาไว้ก่อน จะกินเมื่อไรก็หยิบออกมาได้ทันทีครับ

 

คนแก่ขี้เหงา อายุปาเข้าไป61ปี ขาดลูกหลานคอยเอาใจ ต้องใช้เว็บเป็นที่พึ่งเพื่อบรรเทาทุกข์

 

คนบ้าภัยพิบัติ เดี๋ยวจะบีบให้เหลือไม่กี่กระทู้..

เดี๋ยวจะผลักภัยพิบัติไปให้เกิดเฉพาะที่ ที่ที่คนบ้าภัยพิบัติอาศัยอยู่

เดี๋ยวจะให้คนบ้าภัยพิบัติได้หายป่วยซักที..

เข้ารับการบำบัดรักษาบ้างก็ดีนะลุงเกษม

 

เค้าทำยานอวกาศไปลงจอดสำรวจดาวอังคารแล้ว..

โลกเค้าไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว..

คนบ้าภัยพิบัติยังงมโข่งอยู่เลย..

"อย่าเชื่อข่าวลือ"

"อย่าเชื่ออะไรง่ายๆจนกว่าจะได้พิสูจน์รู้ด้วยปัญญาตนเอง"

ส่วนหนึ่งในคำสอนศาสดา "กาลามสูตร"

 

คนบ้ากับคนบ้าคุยกัน มันถึงได้คุยกันรู้เรื่องยังไงเล่าครับ หลวงพี่หัวร้อน..อิอิ

 

https://www.dailynews.co.th/regional/827743

 

อันความคิด วิทยา เหมือนอาวุธ
ประเสริฐสุด ซ่อนใส่ เสียในฝัก
สงวนคม สมนึก ใครฮึกฮัก
จึงค่อยชัก เชือดฟัน ให้บรรลัย

กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "เพลงยาวถวายโอวาท"​

 

ฤาษีสอนสุดสาคร​

เมื่อวานนี้นึกถึงบทกลอน จากเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่ ตอนที่สุดสาครถูกชีเปลือยหลอก ผลักตกหน้าผา แล้วพาเอาม้ามังกรและไม้กายสิทธิ์หนีไป ฤาษีได้มาปรากฏตัวต่อสุดสาครและกล่าวสอนสุดสาครว่า

"แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหนือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจาฯ"

เลยได้นึกไปว่า เราจะเอากลอนบทนี้มาสอนตนอย่างไร

ในบทแรก "แล้วสอนว่า... ...ในน้ำใจคน" อาจสามารถใช้เตือนตนได้ว่า จิตมนุษย์นั้น คดเคี้ยวเลี้ยวลดเหลือคณา ปักใจเชื่อหรือไว้ใจกันง่าย ๆ ไม่ได้ ซึ่งรวมถึงจิตของเจ้าของหรือจิตของตนด้วย วันนี้คิดดี ขยันปฏิบัติ ทำความสงบได้ง่าย ดูจิตทะลุปรุโปร่ง พรุ่งนี้อาจกลายเป็นตรงกันข้าม กิเลสเข้ามายั่วเย้า กลายเป็นทาสของอารมณ์ไป จิตพลุ่งพล่าน ไม่มีความสงบ ขาดความรู้เท่าทันอาการของจิต จิตของเรามันไม่เที่ยง เมื่อมันยังไม่แน่ ยังไม่มั่นคงลงไป วันนี้มันดีได้ วันหน้ามันก็ไม่ดีได้ อย่าประมาทไป

"มนุษย์นี้ที่รัก... ...มักเป็นผล" บิดาและมารดาเปรียบเสมือนพระอรหันต์ของลูก ท่านให้ชีวิตแก่เรา ให้โอกาสเราได้เติบใหญ่ ให้โอกาสเราได้เลือกทางเดินของชีวิต ให้เราได้มีโอกาสฝึกฝนและปฏิบัติตามทางอันพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ ให้โอกาสเราฝึกฝนและปฏิบัติจนอาจสามารถพาตนให้พ้นจากวัฏฏะสงสารได้ การตอบแทนบุญคุณ กตัญญูต่อท่าน เป็นสิ่งอันประเสริฐ

"ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน" กายตนพึ่งได้อย่างไร การพิจารณากายเป็นส่วนหนึ่งของสติปัฏฐาน ๔ คือ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เริ่มจากรู้ว่ากายเรามีลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร รู้อิริยาบถของกาย พิจารณาว่ากายประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ๓๒ ประการ มี ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น เป็นของปฏิกูล ไม่สะอาด พิจารณาให้รู้ว่ากายของเราไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา เพื่อละความยึดมั่นถือมั่นในกายนี้ ช่วยให้เราอยู่กับโลกโดยหลงโลกน้อยลง

นอกจากนี้ หลายคนคงจะเคยฝึกสมาธิแบบอานาปาณสติ ซึ่งหากปฏิบัติดีแล้วเป็นการปฏิบัติตามทางแห่งสติปัฏฐาน เริ่มจากการตั้งกายตรง ดำรงสติมั่น ดูลม หายใจออกรู้ หายใจเข้ารู้ หายใจออกสั้นรู้ เข้าสั้นรู้ หายใจออกยาวรู้ เข้ายาวรู้ กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจออก กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจเข้า ทำกายสังขารให้ระงับอยู่หายใจออก ทำกายสังขารให้ระงับอยู่หายใจเข้า เป็นต้น คือเริ่มด้วยการพิจารณากายในกาย ซึ่งหากปฏิบัติได้ตลอดจนถึงที่สุดคือ พิจารณาความสละคืนกิเลสหายใจออก พิจารณาความสละคืนกิเลสหายใจเข้า คือการพิจารณาธรรมในธรรม ย่อมมีอานิสงค์มาก

"เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา" เป็นการเน้นย้ำให้มีสติ รู้ต้วในการเจรจาสิ่งใดออกไป พิจารณาความเหมาะสมทั้งบุคคล เวลา สถานที่ สถานการณ์ และคำพูด ก่อนที่จะพูดออกไป

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้าง อย่างน้อยที่สุดก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดกันนะคะ

เขียนโดย Kanokporn Boonsirichai

ที่มา https://ksatima.blogspot.com/2011/01/blog-post_23.html

 

สะพรึง! การสลับขั้วแม่เหล็กโลก ทำให้มนุษย์เผชิญกับหายนะ!

27 ก.พ. 2021​

 

นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าหลวงพี่สุนทร (ฐานธมฺโม) จะโพสอะไรก็ตาม

ผมจะไม่ตอบโต้อะไรอีกแล้ว จะไม่ขอสนทนาอะไรด้วย

ผมขอทำหน้าที่นักข่าว ของผมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ขอให้ท่านผู้อ่านโปรดรับทราบ และเข้าใจโดยทั่วกันนะครับ

 

เข้าไปสำรวจในถ้ำประหลาดแปปเดียว เมื่อกลับออกมาก็พบว่าเวลาผ่านไปเป็นร้อยปี l สปอยหนัง

การดู 2,415,076 ครั้ง • 18 ส.ค. 2020​

 

สิ่งที่เรียกว่าข่าว ต้องเป็นข้อเท็จจริงครับ
ไม่ใช่ความน่าจะเป็น
หรือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น
หากเป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นมันก็ควรเป็นสิ่งที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หรือข้อมูลทางกายภาพที่เป็นรูปธรรม มาบอกว่ามันจะเกิดอย่างนี้ ๆ แน่นอน
อย่างเช่น มันจะเกิด สุริยคราส ตรงไหนเวลาเท่าไร เพราะ นักดาราศาสตร์รู้แน่ชัดว่ามันจะเกิดขึ้นแน่นอนเลยแพร่เป็นข่าวสารมา

เมื่อก่อนผมเรียนวิชาโทสื่อสารมวลชน
แล้วพบว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากพอในการเสาะแสวงหาความจริง เลยเลิกมีความคิดอยากเป็นนักข่าวไป

 

นักข่าวอะไร มีแต่เรื่องเท็จ หาความจริงได้ยาก

ยิ่งข่าวเรื่องภัยพิบัตินี่ ยิ่ง มโนเอาเอง ทั้งนั้น

 

ถูกต้องที่สุด..

 

จะมีหลักฐานได้ไงล่ะโยม ก็ แค่ลัทธิคลั่งภัยพิบัติ เท่านั้นเอง..

 

ยกตัวอย่าง..

อย่างปีที่แล้ว ประโคมข่าวกันจังว่าเขื่อนจีนจะแตก..

แล้วไหนล่ะ มีอะไรใกล้เคียงความจริงบ้าง..

มีแต่ มโนเองทั้งนั้น แถมแช่งประเทศเค้าตลอดทั้งปี อีกต่างหาก..

 

แต่จะว่าไปตอนนี้ผมเองยังเอาคำทำนาย เทวดาเอาแหวนมาให้แม่พระจักรพรรดิ์ ออกไปจากหัวไม่ได้เลย