รอบ 3 อาการ 12 - ปริวัฏตัง ทะวาทะสาการัง ยะถาภูตัง ญานะทัสนัง

อาศัย บารมีผ้ากาสาวะ จะน้อมไป ให้ บรรเจิด เปิดโลกะวิทู กลับคว่ำหงาย

คนเห็นผิดจะเห็นถูก ก้ด้วย บารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กาเลนะธรรมะสวนัง

 

ส่วนมากพระกะเทศน์ให้สำรวมกายวาจาใจ
ทำให้เกิดกรรม
เราก็อยากรู้เหมือนกันถามอากู๋ดีกว่า
รออ่านเหมือนกันผม

 

อายตนะ นอก ใน รวมลงที่ใจ เป็น ฐีติภูตัง..

รวมลงอีกครั้ง เป็น "มรรคสมังคี"

กาย วาจา ใจ

ศีล สมาธิ ปัญญา

พุทธ ธัม สงฆ์..

รวมลงเป็น "หนึ่ง"

จบกิจ กิจที่ควรทำไม่มีอะไร ยิ่งกว่า..

 

คนเห็นผิดจะเห็นเป็นถูก ของที่คว่ำก็จะหงาย คนที่เข้าใจผิดก็จะตาส่วาง

สมดั่งอาโลโก จักขุงอุทะปาทิญานัง

บารมี ผ้ากาสาวะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 

ผมไม่มีธรรมที่มีคุณค่าอะไรที่จะแสดงออกไป ถ้าจะเปรียบก็ไม่ต่างจากยาจกธรรม เป็นมหาทุคต เข็ญใจ ในธรรม สัจจญาณ เรารู้ได้ว่านี่คือทุกข์ ทุกข์ดับเป็นนิโรธ เพราะเหตุสมุทัยนี้ ด้วยมรรคการดำเนินอย่างนี้เห็นชัดในการดับทุกข์ รู้อย่างถึงใจไม่ใช่เพียงเข้าใจเพราะนิโรธเกิดที่ใจ เหมือนเราเห็นทางเดินแห่งอริยสัจ กิจญาณเราเข้าถึงแล้วว่าเหตุแห่งทุกข์อยู่ที่จิตทั้งนั้น จะปรุงดีหรือชั่วก็ตามออกมาจากจิตทั้งนั้น เราเห็นแล้วสิ่งใดเกิด สิ่งนั้นต้องดับทั้งนั้น แต่สิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับจะค่อยปรากฎร่างนั่นแหละหยั่งให้ถึง เพื่อเข้าให้ถึงกตญาณ ไม่ได้มีธรรมแจกจ่ายใคร ถือเป็นการสนทนาธรรมตามกาลนะครับ

 

ดีจะตายคนผ่านทุกข์ได้

 

ไปอ่านพุทธวจน มา


อริยสัจสี่ มีสามรอบ มีสิบสองอาการ

๑. ภิกษุ ท. ! ดวงตา, ญาณ, ปัญญา, วิชชา, และแสงสว่างของเราได้เกิดขึ้นแล้ว ในธรรมที่เราไม่เคยได้ยินได้ฟังมาแต่ก่อนว่า
๑. นี้เป็นความจริงอันประเสริฐคือทุกข์,
๒. ความจริงอันประเสริฐคือทุกข์นี้ ควรกำหนดรอบรู้,
๓. ความจริงอันประเสริฐคือทุกข์นี้ เราได้กำหนดรอบรู้แล้ว.

๒. ภิกษุ ท. ! ดวงตา, ฯลฯ แสงสว่างของเรา ได้เกิดขึ้นแล้วในธรรมที่เราไม่เคยได้ยินได้ฟังมาแต่ก่อนว่า
๑. นี้เป็นความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์,
๒. ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์นี้ ควรละเสีย,
๓. ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์นี้ เราได้ละเสียแล้ว.

๓. ภิกษุ ท. ! ดวงตา, ฯลฯ แสงสว่างของเรา ได้เกิดขึ้นแล้วในธรรมที่เราไม่เคยได้ยินได้ฟังมาแต่ก่อนว่า
๑. นี้เป็น ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์,
๒. ความจริงอันประเสริฐคือ ความดับไม่เหลือของทุกข์ นี้ ควรทำให้แจ้ง,
๓. ความจริงอันประเสริฐคือ ความดับไม่เหลือ ของทุกข์ นี้ เราได้ทำให้แจ้งแล้ว.

๔. ภิกษุ ท. ! ดวงตา, ฯลฯ แสงสว่างของเรา ได้เกิดขึ้นแล้วในธรรมที่เราไม่เคยได้ยินได้ฟังมาแต่ก่อนว่า
๑. นี้เป็น ความจริงอันประเสริฐคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์,
๒. ความจริงอันประเสริฐคือ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ นี้ ควรทำให้เจริญ,
๓. ความจริงอันประเสริฐคือ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์นี้ เราได้ ทำให้เจริญแล้ว.

ภิกษุ ท. ! ตลอดเวลาที่ ปัญญาเครื่องรู้เห็นตามเป็นจริง ในอริยสัจสี่อันมีรอบสาม มีอาการสิบสอง เช่นนี้ ยังไม่บริสุทธิ์สะอาดด้วยดี, เราก็ยังไม่ปฏิญญา ว่า ได้ตรัสรู้ รู้พร้อมเฉพาะ
ซึ่งอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ อยู่เพียงนั้น.

เมื่อใด บริสุทธิ์สะอาดด้วยดี, เมื่อนั้น เราก็ ปฏิญญาว่า ได้ตรัสรู้ รู้พร้อมเฉพาะแล้ว
ซึ่งอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ.

- มหาวาร. สํ
๑๙/๕๒๙-๕๓๐/๑๖๖๖-๑๖๗๐.
— ที่ พุทธวจนสถาบันเชียงราย

Cr.http://www.buddhawajana-cri.com/article-detail.php?id=5474

 

พึ่งไปลองมาดับทุกข์ที่ปลายเหตุ
กะว่ากิเลสตัวเดิมๆมัยขึ้นมาบ่อย
เราไม่เห็นทุกข์ละไปดับมัน
จิตมันเลยบ่จำ

 

ทุกข์นี้มันน่าสนใจจริงๆ

 

ครับ สนทนาธรรมตามกาล เป็นมงคลอันสูงสุด


รอบ 3 ในอริยสัจ 4 มีอาการ 12

ผมเห็นมุมนี้ ว่า

ในความเป็นจริง ไม่ได้ มีรอบ 3 อาการ 12 ในการเห็นตาม เนื่องจาก

พระพุทธเจ้าเป็นผู้ประจักษ์แจ้ง เป็น คนแรก ที่ตรัสรู้ อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ

การนำมาสอน ต้องบอก ที่มาที่ไป ชี้ไปที่ ความจริงอันประเสริฐ คือ อริยะสัจ
นี่คือ ทุกข์ ควรกำหนดรอบรู้ และ ท่านก็ได้ กำหนดรอบรู้แล้ว
นี่คือ สมุทัย ควรละเสีย และ ท่านได้ ละเสียแล้ว
นี่คือ นิโรธ ควรทำให้แจ้ง และ ท่านได้ทำให้แจ้งแล้ว
นี่คือ มรรค ควรทำให้เจริญ และ ท่านได้ทำให้เจริญแล้ว
จึงเป็นการเห็น ใน 3 รอบ ใน อริยะสัจ 4 รวมแล้วได้ 12 อาการ

แต่สำหรับสาวกผู้เห็น ตาม จะเป็นแค่ มรรค กับ ผล ซึ่งมี มรรค 4 ผล 4

การกำหนดรู้ทุกข์ คือ ทางดำเนินที่ทำให้เจริญ อันนี้เป็นเหตุ (มรรค)
สมุทัยที่ละได้เอง นิโรธ ก็ประจักษแจ้ง ตามเป็นผล (ผล)

รอบ 3 ในอริยสัจ 4 มีอาการ 12
จะเกิดกับพระศาสดาผู้เป็น อนุตรสัมมาสัมโพธิญานเท่านั้น

 

พระพุทธเจ้า ไม่ได้สอนให้ดับทุกข์นะครับ

ทุกข์ ควรกำหนดรอบรู้

 

อ้าวทำผิดวิธี

 

ทักทายครับคุณปราบบบ

 

แล้วเราไปดับที่เหตุอย่างเดียวเหรอครับ

 

ทายทัก ทักทาย วันพระ ที่ออฟฟีส จะสวดธรรมจักรกันตอนเย็น ถวายดอกบัวไหว้พระ

ไว้ มาดึกๆ

 

สวัสดียามเช้า ครับ prpryaมั๊ย
บุญรักษา พระคุ้มครอง นะครับ
รักและเคารพ...

 

เมตตาจิตมีให้แก่กัน ..อย่าทำร้ายผมเลยคับ..ผมไม่มีโทษภัยต่อใคร
ถ้าทำร้ายผมอีก ผมคงจะไม่เข้ามาที่นี่อีกแล้ว...ด้วยความเคารพนะครับท่านนะ

 

ลุงแมว ขอร่วมฟังด้วยคับ

 

มันจะ 80 vs 20 หน่อยๆ อะนะ