ธรรมของคนพาล

บัวชมพู เทศนาธรรม ให้ ดำลง ฟังสักบทดูสิ..

 

อยากนิมนต์เณรปังคุง ช่วยอธิบายระหว่างความรักกับความเมตตาด้วยค่ะ ว่าสิ่งไหนประเสริฐที่สุด ส่วนตัวชาคิดว่าเมตตาเป็นสิ่งที่ให้ได้โดยไม่มีกิเลสเจือปน ความรักสามารถก่อให้เกิดคุณและโทษยังมีกิเลสเจือปนอยู่ เป็นความเข้าใจง่ายๆของชา ซึ่งเณรมีความคิดเห็นอย่างไรอ้างอิงพระไตรปิฎกด้วยเพื่อเป็นธรรมทานจะขอบพระคุณมากค่ะ

 

งั้นเนน ปราบ ขอมันเทศ ก่อน ซักตันในวันพระ

พ่อ แม่ ยังไงก็คือพ่อแม่ จะดี จะร้าย ยังไงก็คือพ่อแม่

การนำเรื่องพ่อแม่ มาเล่าในที่สาธารณะ หากทำให้พ่อแม่ ดูแย่ ในสายตาคนอื่น
เราจะเรียกตัวเอง ว่าเป็น นักปฏิบัติ ในพุทธศาสนาได้เยี่ยงไร ต้องใช้หมอง แบบอิคคิวซัง

ทุกคนเกิดมาในเนตรสังสาระ จะหาที่ไม่เคยเป็นญาตกันไม่มี


เอวัง ก็มีด้วยประการะฉะนี้

 

จาก ปสก.ส่วนตัว...
จะไม่มีนะ ... มีแต่.. ขโมยบุญ .. โดยที่เราไม่รู้ตัว..
เหตุเพราะ... เค้าเห็นอะไรดี ๆ ในตัวเรา เค้าจึงเข้ามาขโมยเอาไป..

พอได้บุญไปแล้ว.. ก็จะมาใช้แสดงฤทธิ์ นะ

อย่าเชื่อล่ะ...

 

ชาเล่าตามความเป็นจริง ถ้าจะให้ชาหลอกตัวเองก็คงไม่ได้ ชาไม่ได้มีเจตนาเล่าเพื่อให้พ่อแม่ดูแย่ความดีของพ่อแม่ชาก็ยกมาด้วยแล้วแต่ท่านจะพิจารณาว่าสมควรแล้วหรือไม่ ถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้วเป็นบาป แล้วจะเอา สติ สมาธิ ปัญญา แก้ไขปัญหาได้อย่างไร ที่ชาโพสกระทู้นี้ก็เพื่อต้องการความคิดเห็นจากท่านทั้งหลายว่ามีวิธีที่หลากหลายอย่างไร ที่จะแก้ไขความเป็นพาล หากกระทู้นี้หาสาระประโยชน์อย่างใหญ่ไม่ได้ชาก็จะลบกระทู้นี้ เชิญท่านทั้งหลายแสดงความคิดเห็นได้เลยค่ะ

 

อันนี้... อยู่ที่ จขกท. จะต้องพิจารณาทบทวนตนเองดูนะ.. ว่า จะทำอย่างไร ให้อาการเหล่านี้..ทุเลา ลดน้อยลง หรือ ให้หมดไป นะ..

 

คนพาลคือคนหัวใจอ่อนแอ
ปล่อยไหลตามกิเลส
อยากให้เค้าิดได้ต้องชี้ให้เห็นตอนเค้าเอาชนะใจตัวเองได้
ความคิดเค้าจะปรับเข้ามาทางธรรม
ผมเตือนตัวเองไปด้วยเลยบ่นเรื่อยๆกลัว
ตัวเองลื่มตัว55

 

เรื่องบุญฤทธิ์เล่าไปก็พิศดาล มีหลากหลาย ยังไม่ประสบพบเจอจึงยังไม่ปลงใจเชื่อแสดงว่ามีปัญญาในการพิจารณาอยู่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ฟังหูไว้หูละกันนะท่าน

 

การอ่านอะไร ในสาธารณะ ต้องมองกลางๆ สำหรับคนแนะนำ
ถ้าเป็นเรื่อง ของบุคคลที่สามที่ไม่ได้เข้ามาสนทนาแก้ต่างด้วย

มันจะเป็นการฟังด้านเดียว อันนี้ก็แนะนำ เสนอแนะ ในแนวคิด ใครเห็นว่ามีประโยชน์
ก็พินาไป

ส่วนหลัก ของ สติ สมาธิ ปัญญา สามารถ เข้าไปทาง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้เลย

ก็จะได้หลักของ สติ สมาธิ ปัญญา ที่ถูกต้อง เข้ามาแก้ไขปัญหาจิตใจ ในชีวิตประจำวันได้

 

ไอ๋จย๊ะย์! ม่ายฉ่ายเณร ฮ้อ

แต่ถ้า "เนรฯ" อะอั๊วะก็ยางมีสิกเปนได้ เต็มฮ้อย

ด้วยความที่ยังเนฯได้เต็มฮ้อย ก็ตั้งใจไว้แระ
ว่าจะ "ริว" กับ "มหา"ดำ

แต่เห็นคำหล้าสิเว้าเรื่อง "อ้างอิงพระไตรปิฏก"

ฮ้วย ข่อยสิถูกใจหลายเด้ ดังนั้น ....พึงสังเกต

มาจะกล่าวบทไปถึงชิชากาลาเกต
เยาวรเรศสิใฝ่ทัศนาความในปิฏกสาม
ก่อนสิ่งใดสิอยากถามถึงใจในชา(ม) [กลอนบังคับ]
เหตุที่ถามสังเกตไหมว่ากลในเป็นจั๋งใด

ลื้อข่อยๆพินาด้วยใจล่มล่ม
เหตุที่ขอชมปิฏกสามเป็นไฉน
สังเกตลีลีสิว่ามันคร้ามคติไหวๆ
คิดในตนแสนไว เชื่อบ่ได้จึงใฝ่ฟัง สัทธรรม

จงทำการเห็น "การก้าวข้ามความคิดตน"
ให้เหมือนดุจมหาบุรุษจูมงตาเห็นธรร
หลับตาพลันยังเห็นชัด "ข้ามคิดตน" แลอยู่
เห็นจิตข้ามจิตพ้นจิตชัด นั่นแหละครู รู้เมตตา

สัทธรรมจึงใช่ภาษาในตำราปิฏก
สามารถลดแยกรูปถอดจากใจชา
จิตเห็นจิต ก้าวข้ามจิต สำรวมใจไม่คณา
ไม่เพลินคว้าความคิดโดยไม่สังวรณ์


บัดนั้น ตุเลง ตุเลง เป๊กพ่อ....


ปล. เมตตา เจตสิก ตำราพุทธ จะปรากฏก๊
ต่อเมื่อ เห็น ธรรมภายนอก บุคคลอื่นที่ขาด
การสดับ มักเผลอเพลินฉวยความคิดในภาย
ในโดยไม่รู้วิธี สำรวม ระวัง ชั่งใจ เหลียวใจ
ชำเลืองใจ ดูใจ ดูจิต ไม่เกินกายใจหนาคืบ
กว้างศอก ด้วยจิตตั้งมั่น เป็นกลาง ไม่ตำหนิจิต(ตน)

เมตตา นอกศาสนา จะเอาความเป็น สัตว์
พิจารณา เทียบกับ สัตว์ ...จึงเป็น เมตตา
ปลอมที่โลกส่วนใหญ่โดนหลอกให้ใช้
เพราะขาดการ สดับ พระไตรปิฏก

 

ก็เห็นจริงดังท่านพูด แล้วเมื่อท่านต้องการคำปรึกษาที่เกี่ยวกับบุคคลที่สามก็ไม่เท่ากับว่านินทาให้ฟังเหรอท่าน

 

ปล. 2 เมตตา แบบ พุทธ เป็นการเห็น
ที่ไป ที่มา ของ เมตตา จึงไม่ต้องสาระวน
กลับไป หาอะไรมา ผสม อีก

ต่างกับ เมตตา ที่โลกใช้ ซึ่งพอใช้ไป
แล้วสังเกตเลย จะต้อง ปะผุ ด้วยการ
อ้าง สิ่งผสมบริสุทธิ หรือ ไม่บริสุทธิ
พูดง่ายๆ คือ เป็นศาสนาคิดซะมาก มั่วนิ่ม


ปล 3 : สังเกต ทวนซ้ำ ที่ถามหา เมตตา
เมตตา ....จขกท เห็นไหมว่า

การถาม เป็นการ ถามหาเหตุ ในการปรากฏ
เมตตา

หรือ ถามในลักษณะมีอ้าง ดุ่ยๆว่า เมตตา
แล้วก็ต้อง คอบหา สิ่งมา ปะผุ

ก็ พิจารณาไปว่า สมัยใด ถามด้วย พุทธวิถี
สมัยใด เผลอเพลินไปตามโลก ถามหาการ
ปะผุ ....สังเกตสองอย่างนี้ ให้ต่างกัน ก็จะ
เขาถึง "มหาเมตตา มหากรุณา ( ชื่อของศาสดา สมณโคดม) "

 

ขออภัยค่ะเห็นท่านเป็นเพื่อนกับเณรเมืองน้ำดำเลยนึกเอาเองว่าท่านเป็นเณร

 

ม่าย ฉ่าย เพื่อน ฮับ

ถ้า เจอกัน ตัวเป็นๆ จะ ไล่ถวาย
สันติ ให้ xายคา วัยสิบ(teen)
เพื่อ ยอยกพุทธศาสนา

ถ้ารู้ใครเป็น พ่ แ ก็จะไล่ถวาย
ให้หมดทั้ง โคxxx

 

ช่ายผมสงสัยคนเราหาศาสดาอื่นทำมัยที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้าให้ทุกคน
กระทั้งโจร
พ่อค้า
ยาจก
ทานก็มีธรรมสำหรับนำทางให้พ้นทุกข์

 

เชิ๊บ เชิ๊บ..

 

มีให้เหมาะทุกเพศทุกวัยยิ่งอ่านยิ่งเพลิน

 

อาโลโกอุทะปาทิญานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชา

 

ครูบาอาจารย์ สั่งให้

แดนซ์ซิ่งไปพอ..

หลอกล่อ สับขาหลอก ให้ยิ่งกว่าโรนัลโด้..