ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ความสัมพันธ์ของกองทัพจีนกับกองทัพเขมร

    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จีนให้อั่งเปาเขมร 55 ล้านดอลลาร์ทำถนน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 กุมภาพันธ์ 2551 12:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    รัฐบาลจีนรับปากจะให้เงินช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชาอีก 55 ล้านดอลลาร์เป็น "อั่งเปา" สำหรับตรุษจีนปีนี้ เพื่อให้กัมพูชาสร้างและซ่อมแซมถนนหลายสาย และยังให้ความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ อีกจำนวนมาก

    นายหยาง เจียจื้อ (Yang Jiechi) รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเดินทางถึงกรุงพนมเปญตอนบ่ายวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) เพื่อเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการจนถึงวันเสาร์ ในระหว่างนี้ได้พบหารือกับนายฮอร์นัมฮอง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา เข้าเยี่ยมคำนับและหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาสมเด็จฯ ฮุนเซน​

    รมว.ต่างประเทศจีนยังได้เข้าเฝ้ากษัตริย์นโรดมสีหมุนี และ ทูลเชิญพระประมุขแห่งกัมพูชาเสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการอีกด้วย ทั้งนี้เป็นรายงานบนเว็บไซต์ข่าวภาษาเขมร Everyday.co.kh​

    เว็บไซต์ยอดนิยมแห่งนี้กล่าวว่า เงิน 55 ล้านดอลลาร์นั้น มีทั้งเงินให้เปล่าและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ นอกจากจะใช้สร้างถนนและสะพานแล้ว อีกส่วนหนึ่งจะใช้ในการก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้า​

    ฝ่ายจีนยังรับปากจะพิจารณายกเว้นภาษีนำเข้าให้แก่สินค้าจากกัมพูชาจำนวน 400 รายการ และ จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางไปเที่ยวกัมพูชามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้สร้างรายได้ให้แก่ประเทศมากเป็นอันดับ 2 รองจากอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้า​

    ปัจจุบันนักลงทุนจากจีนเข้าลงทุนในกัมพูชามากอันดับ 1 นักท่องเที่ยวจากจีนไปเที่ยวกับกัมพูชามากเป็นอันดับ 3 รองจากเกาหลีและญี่ปุ่น

    ที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้ช่วยเหลือกัมพูชาในหลายด้าน รวมทั้งช่วยก่อสร้างทางหลวงเลข 7 จาก จ.กระแจ๊ (Kratie) ไปยังสตึงแตร็ง (Stung Treng) เพื่อเชื่อมเข้ากับระบบทางหลวงของลาว​

    เมื่อปีที่แล้วจีนยังได้มอบเรือลาดตระเวนชายฝั่งให้แก่กองทัพเรือกัมพูชาอีก 9 ลำ เพื่อสนับสนุนความมั่นคงของเขตที่มี่การสำรวจขุดเจาะน้ำมัน ปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดและขนสิ่งของหนีภาษี ตลอดจนปราบปรามสลัดในเขตน่านน้ำอ่าวไทย​

    ขณะเดียวกันบริษัทน้ำมันของจีนก็กำลังสำรวจขุดเจาะหาก๊าซกับน้ำมันดิบที่แปลงสำรวจแห่งหนึ่งในเขตน่านน้ำอ่าวไทยของกัมพูชา เรือสำรวจขุดเจาะน้ำมันจากจีนเดินทางถึงเมืองท่าสีหนุวิลล์เมื่อปลายปีที่แล้ว​

    บริษัทเอกชนจากจีนกำลังจะสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าอย่างน้อย 4 แห่งในกัมพูชา รวมทั้งเขื่อนกั้นลำน้ำโขงที่ จ.กระแจ๊ะ ซึ่งสันเขื่อนอาจจะมีความยาวถึง 6 กิโลเมตร.​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10626986.jpg
      10626986.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.4 KB
      เปิดดู:
      3,708
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ทราบแล้วครับ คุณหนุมาน ผู้นำสาร ได้บอกเอาไว้แล้วดังนี้ครับ

    *** พรโปรด คนไทยทั้งชาติ ****

    ณ วันนี้.......เราคนไทย ระวังถูกเขาหลอกใช้ สุดท้ายทำลายบ้านเมืองตัวเอง !!!!!!!
    ทุกวันนี้...คนไทยหลายคนกำลังถูกหลอกใช้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 เมษายน 2008
  3. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เฮติป่วน! วุฒิสภาสั่งปลดนายกฯ หลังเกิดเหตุจลาจลจากวิกฤติข้าวยากหมากแพง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 เมษายน 2551 17:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นายกฯ อเล็กซิส</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเจนซี - วุฒิสมาชิกเฮติโหวตขับนายกฯ อเล็กซิสออกจากตำแหน่ง หลังเกิดเหตุจลาจลสืบเนื่องจากวิกฤติข้าวยากหมากแพงซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 1 สัปดาห์ แม้ว่าประธานาธิบดีเพรวาลจะประกาศแผนลดราคาข้าวเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนไปก่อนหน้าแล้วก็ตาม

    ในการประชุมวุฒิสภานัดพิเศษเมื่อวันเสาร์ (12) วุฒิสมาชิก 16 คนจาก 17 คนลงมติขับฌากส์ เอดูอาร์ด อเล็กซิส นายกรัฐมนตรีเฮติ ออกจากตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีเรเน เพรวาลของเฮติออกมาประกาศแผนลดราคาข้าวจากกระสอบละ 51 ดอลลาร์ (1,621 บาท) มาอยู่ที่ 43 ดอลลาร์ (1,367 บาท) เพื่อหวังที่จะยุติเหตุจลาจลซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย

    ขณะที่ชาวเฮติส่วนใหญ่ต่างแสดงความพอใจที่อเล็กซิสถูกขับออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเห็นว่าเขาไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤติข้าวยากหมากแพงที่เกิดขึ้นได้


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หญิงชาวเฮติร้องไห้ใกล้กับตำรวจที่ยืนรักษาความปลอดภัยอยู่ในกรุงปอร์โตแปรงซ์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ด้านประธานาธิบดีเพรวาล กล่าวว่า เขาจะขอให้รัฐสภาเลือกนายกฯ คนใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่ต่อไป อย่างไรก็ตามผู้นำเฮติ ย้ำว่า รัฐบาลไม่สามารถลดภาษีสินค้าประเภทอาหารได้ เนื่องจากจำเป็นต้องเก็บรายได้ไว้ใช้ในโครงการระยะยาวต่างๆ ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยในเรื่องการสร้างงานและส่งเสริมเกษตรกรรม

    กลุ่มผู้ประท้วงได้เริ่มก่อเหตุขว้างปาก้อนหินและปะทะกับกองกำลังรักษาความสงบของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รวมถึงตำรวจในเมืองทางตอนใต้ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน เนื่องจากไม่พอใจที่ราคาสินค้าทั้งข้าว ถั่ว น้ำมันพืช และสินค้าหลักอื่นๆ ขยับตัวสูงขึ้นไม่หยุด ก่อนที่เหตุการณ์ความไม่สงบจะลุกลามมายังกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ทั้งนี้เมื่อวันเสาร์ (12) เจ้าหน้าที่จากกองกำลังรักษาความสงบของยูเอ็นชาวไนจีเรีย ถูกยิงจนเสียชีวิต ใกล้กับย่านชุมชนแออัดเบลแอร์ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากกองกำลังรักษาความสงบของยูเอ็นซึ่งเป็นชาวศรีลังกา 3 คน ถูกยิงเมื่อวันพฤหัสบดี (10) แต่โชคดีที่อาการไม่สาหัส
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปี 51 น้ำมันเฉลี่ยแพงหฤโหด เตือน SMEs รับมือขาดทุน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 เมษายน 2551 23:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ผู้จัดการรายวัน- เตือนคนไทยรับมือน้ำมันตลอดปี 2551 เฉลี่ยแพงกว่าปีที่แล้วแน่นอน เริ่มต้นแค่ 2-3 เดือนน้ำมันดิบเฉลี่ย 100 เหรียญต่อบาร์เรลลากยาวแล้ว ขณะที่ปีที่แล้วแค่สั้นๆ ไม่ถึงสัปดาห์และอาจได้เห็นน้ำมันดิบทดสอบระดับ 120 เหรียญต่อบาร์เรล เบนซิน 95 ทะลุ 35 บาทแล้ว จับตาน้ำมันเตาพุ่งกระฉูดกระทบธุรกิจขนาดกลางและเล็กขาดทุนเพิ่ม ด้านผู้ค้าปลีกน้ำมันเตรียมทำใจ 2 เดือนแรกขาดทุนแล้วทั้งปีระทึกหนัก ขณะที่ก๊าซหุงต้มรถยนต์หลัง ก.ค.ขยับแน่เพื่อลดการนำเข้า ด้านค่าไฟ มิ.ย.จ่อขึ้นตาม

    นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันและอดีตผู้บริหารบางจาก เปิดเผยถึงทิศทางราคาน้ำมันไตรมาส 2 ว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบจะยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องอีกเนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวของสหรัฐอเมริกาที่จะทำให้การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่ม ขณะที่สต็อกเบนซินสหรัฐค่อนข้างต่ำ ขณะที่ไตรมาส 3 ก็จะเริ่มเห็นความต้องการดีเซลที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับฤดูหนาวดีเซลก็จะเริ่มสู่ขาขึ้น ซึ่งหากเป็นไปตามวัฏจักรฤดูกาลน้ำมันที่เคยเกิดขึ้นก็จะส่งผลให้ปี 2551 เฉลี่ยราคาน้ำมันจะสูงกว่าปีที่แล้วค่อนข้างแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2008
  4. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    ประเทศไทยจะมีอุบัติภัยอย่างที่ทำนายจริงๆหรือไม่

     
  5. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจีนเผชิญภาวะภัยแล้งหนักสุดในรอบหลายสิบปี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 เมษายน 2551 19:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า สภาพความแห้งแล้งในมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ทำให้ประชาชนเกือบ 700,000 คน ไม่มีน้ำดื่ม หลังจากปริมาณฝนตกในไตรมาสแรกของปีนี้มีเพียง 1 ใน 5 ของปีที่แล้ว
    พื้นที่มณฑลเหลียวหนิง เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวแห่งสำคัญของจีน ซึ่งตามปกติจะเริ่มฤดูเพาะปลูกในสัปดาห์หน้า แต่ทว่าตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำฝนน้อย เจ้าหน้าที่ในท้องที่ กล่าวว่า เขื่อนเก็บน้ำ 66 แห่ง เหือดแห้ง แต่รัฐบาลท้องถิ่นเพิ่มงบประมาณเพื่อสร้างบ่อน้ำใหม่ 1,700 แห่ง อีกทั้งปรับปรุงระบบกักเก็บน้ำ เพื่อให้การเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิสามารถเดินหน้าต่อไป
    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีน กล่าวว่า ภาวะแห้งแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี และคาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไปในเดือนนี้


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>มาเลย์ยืนยันข้าวไม่ขาดแคลน - ที่ฟิลิปปินส์ประสบปัญหาราคาแพง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 เมษายน 2551 19:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ปัญหาการขาดแคลนอาหารทั่วโลก ทำให้มาเลเซียเตรียมพร้อมเพิ่มปริมาณข้าวสำรอง ซึ่งปัจจุบันมีเพียงพอบริโภคได้เพียง 3 สัปดาห์
    นายชาห์รีร์ อับดุล ซามัด รัฐมนตรีกระทรวงการค้าภายใน กล่าวว่า จะดำเนินมาตรการเตรียมพร้อมเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนในเรื่องปริมาณอาหารของประเทศ ซึ่งรวมถึงข้าว โดยรัฐบาลต้องรับผิดชอบในการพยุงปริมาณสำรองข้าว เพื่อให้เพียงพอบริโภคในประเทศ นายชาห์รีร์ รับรองกับชาวมาเลเซียว่า จะมีข้าวบริโภคอย่างเพียงพอ และประชาชนไม่ต้องกังวล
    ส่วนที่ฟิลิปปินส์ ประชาชนหลายพันคนพากันไปชุมนุมประท้วงที่กรุงมะนิลา เรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหาราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้น โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาข้าวในฟิลิปปินส์พุ่งขึ้นไปถึง 30 เปอร์เซ็นต์
    ราคาข้าวในเอเชียและทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่อินเดียและเวียดนามห้ามการส่งออกข้าว เพื่อป้องกันการขาดแคลนในประเทศ การตัดสินใจของเวียดนามทำให้ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วฟิลิปปินส์ว่า ข้าวจะขาดแคลน เนื่องจากฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวจากเวียดนาม
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=930 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=625><!-- Start Detail -->
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>เวียดนามต่อสู้อหิวาต์ระบาด หลังมีผู้ติดเชื้อแล้ว 130 คน
    [​IMG] ฮานอย 14 เม.ย.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2008
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ข้อความที่ท่านจะได้อ่านกันต่อไปนี้ เป็นความจริงที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต โดยได้รับการบอกเล่ามาจากพระอริยเจ้า ที่ทรงธรรมชั้นสูงท่านหนึ่ง ท่านที่ไม่เชื่อกรุณาอย่าลบหลู่ หรือกล่าวคำปรามาสใดๆ มิฉะนั้นจะเป็นวจีกรรมติดตัวท่านไป ทำให้ต้องได้รับความทุกข์ทรมาน ดังตัวอย่างที่ได้หยิบยกมาให้อ่าน ในเรื่องของวจีกรรมกันก่อนหน้านี้แล้ว

    วันนี้(23 ก.พ.49) จะขอกล่าวเพิ่มเติมดังนี้ว่ามีที่มา ที่ไป อย่างไร ทั้งๆที่ไม่อยากจะกล่าวถึง เพราะเหมือนเป็นการกล่าวโทษบรรพบุรุษของตัวเอง แต่ความจริงมันเป็นเช่นนั้น จึงต้องกล่าวอย่างน้อยก็ทำให้บรรพบุรุษที่ได้กระทำการนั้นๆ ลงไปได้มีโอกาสสำนึกผิด ขอโทษ และแสดงความเสียใจในที่นี้

    ความเป็นมามีดังนี้

    เมื่อครั้งอดีตกาลนานมาแล้วสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ของประเทศอินเดีย พระองค์ได้ส่งพระมาเผยแผ่พุทธศาสนาในดินแดนที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบัน ในดินแดนนี้ได้รับพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ จิตใจคนในดินแดนนี้มีจิตใจดี และก็เป็นอยู่เช่นนั้น ต่อมาก็มีชนกลุ่มหนึ่งหนีสงครามมาจากจีนขอเข้ามาอาศัย คนเจ้าของพื้นที่ก็ให้อาศัยเพราะสงสาร เนื่องจากเห็นว่าหนีร้อนมาพึ่งเย็นจึงได้ให้อาศัยอยู่ เมื่อผู้มาอาศัยแข็งแรงดี อยู่ดี กินดี ก็เห็นว่าแผ่นดินนี้น่าอยู่ จึงคิดแย่งดินแดนของเจ้าของเดิม

    โดยอาศัยศรัทธาของเจ้าของดินแดนเดิมที่มีต่อศาสนาเป็นเครื่องมือ ใช้วิธีการให้พระพูดจายุยงให้เจ้าของดินแดนเดิมขาดความสามัคคีกัน เมื่อเจ้าของแผ่นดินขาดความสามัคคีกันเมื่อนั้น ผู้อาศัยก็ยึดประเทศได้โดยง่าย ในการยึดแผ่นดินครั้งนั้น ผู้อาศัยได้เข่นฆ่าเจ้าของเดิมอย่างทารุณและโหดร้ายเป็นอันมาก แล้วในที่สุด ผู้อาศัยก็ได้กลายเป็นเจ้าของแผ่นดินใหม่สมใจอยาก พร้อมกับคำสาปแช่งของเจ้าของพื้นที่เดิม ที่ถูดยัดเยียดความทรมานก่อนตาย และเจ้าของแผ่นดินคนใหม่ ก็ได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้มานานจนถึงยุคของเรานี้

    เราได้รับมรดกในพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์นี้ พร้อมกับคำสาปแช่งมาด้วยพร้อมกันๆ และนี่คือที่มาที่ไปว่าทำไมคนไทยถึงมีนิสัยที่ไม่สามัคคีกัน และนี่ก็คือที่มาว่าทำไมปัจจุบันนี้ ศาสนาจึงมีผลทำให้คนขาดความสามัคคีกัน เราจะเห็นว่าทุกยุคทุกสมัยเมื่อใดบ้านเมื่อกำลังไปได้ด้วยดี ก็จะเกิดปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ แต่ความแตกแยกนั้นจะมากขึ้นไปอีกเมื่อมีความศรัทธาเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะความศรัทธาในตัวบุคคลหรือความศรัทธาในทางความเชื่อหรือศาสนา

    ที่มา http://www.geocities.com/buddhatatum/008-0044.htm
     
  7. คุณ 4

    คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +5,159
    ไม่เข้าใจ เพราะเหมือนเคยได้ยินมาเขาว่ากันว่า เราอยู่บนผืนแผ่นดินนี้มานานแล้ว ไม่ได้ย้ายมาจากเทือกเขาอัลไต เทือกไหน แต่เดิมเราอยู่กันกระจาย กินพื้นที่มากกว่าที่อยู่ปัจจุบัน แต่ด้วยความมีน้ำใจ ใครเข้ามาอยู่ก็อยู่กันไป แต่พอรุกล้ำมาก ๆ อาศัยที่เรามีพุทธศาสนาประจำใจ ก็ถอยร่นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงปลายทาง ติดทะเลแล้ว ถอยไม่ได้ก็เลยต้องสู้รบ เพราะฉะนั้น มรดกที่ว่ามานี้ กำลังหมายถึงพวกใดฤาคับ

    ส่วนเรื่องน้ำมันแพง โดยตอนนี้ เบนซิน 95 ก็ขึ้นไป 35 บาทกว่า ๆ แล้ว หลวงพี่สมปองท่านเคยกล่าวไว้ว่า พวกเธอคอยดูเถอะ จะเห็นน้ำมันราคาลิตรละ 38 บาท ผมว่าก็อีกไม่ไกลแล้ว :'(
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เวียดนามเผชิญการแพร่ระบาดของเชื้ออหิวาตกโรค

    [​IMG]

    เวียดนาม 14 เม.ย. - เวียดนามกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้ออหิวาตกโรค ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 130 คน

    ทางการเวียดนาม ระบุว่า เชื้ออหิวาตกโรคได้เริ่มแพร่ระบาดมาตั้งแต่ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเริ่มจากกรุงฮานอย ลงไปยังนครโฮจิมินห์ ทางภาคใต้ รวมถึงในอีก 16 จังหวัด นับเป็นการแพร่ระบาดระลอกที่ 3 ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว

    ด้าน นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ซุง ได้สั่งการเร่งด่วนให้ทางการเร่งหาทางจำกัดการแพร่ระบาด ขณะที่พบผู้ป่วยมีอาการท้องร่วงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 1,300 คน ในจำนวนนี้ติดเชื้ออหิวาตกโรค 137 คน รวมทั้งเร่งรณรงค์เรื่องสุขอนามัยตามแผงขายอาหารทั่วไป

    ปัญหาการระบาดของเชื้ออหิวาตกโรค นอกจากส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมด้วย โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว.- สำนักข่าวไทย

    2008-04-14 10:05:14

    สหรัฐคิดค้นยาป้องกันอันตรายจากรังสีนิวเคลียร์

    [​IMG]

    นิวยอร์ก 11 เม.ย. - นักวิทยาศาสตร์สหรัฐ พัฒนายาที่ช่วยป้องกัน ไม่ให้ร่างกายได้รับอันตรายจากรังสี ซึ่งจะทำให้คนไข้ที่ป่วยเป็นมะเร็ง แล้วต้องเข้ารับการฉายรังสี ได้รับความปลอดภัยมากขึ้น ยาตัวนี้ ยังอาจนำมาใช้ป้องกัน อันตรายจาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ทั้งชนกลุ่มดั้งเดิมและกลุ่มที่อพยพมาจากประเทศจีน ในปัจจุบันนี้ได้รวมกันเป็นเชื้อชาติเดียวกันแล้วครับ ก็คือคนไทยในยุคปัจจุบันนี้เอง แต่ด้วยวิบากกรรมในอดีต ทำให้เกิดความคิดเห็นที่แตกแยกกันเป็นสองฝ่ายครับ และกำลังจะรุกลามเป็นสงครามประชาชนในอีกไม่ช้านี้ครับ

    <CENTER>คนไทยมาจากไหน? ขึ้นอยู่กับคนไทยอยู่ที่ไหน</CENTER>
    บ้านโนนวัด ตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา พบหลักฐานคนสุวรรณภูมิ มีความต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทย ตั้งแต่ 4,000 ปีมาแล้ว สืบจนปัจจุบัน

    ความข้างต้นได้จากข้อสรุปของศาสตราจารย์ชาร์ล ไฮแอม นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยโอทาโก นิวซีแลนด์ที่หนังสือพิมพ์มีรายงานไว้ (โพสต์ Today หน้า A8 ฉบับวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2549) แต่คุณรัชนี ทศรัตน์ อดีตนักโบราณคดี กรมศิลปากร ซึ่งเป็นผู้อำนวยการร่วมกับศาสตราจารย์ไฮแอมในการทำงานนี้ เคยมีรายงานไว้ก่อนนานหลายปีแล้วว่า

    "จากการขุดค้นทางโบราณคดีที่บ้านโนนวัดทั้งสามบริเวณ พบหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการเข้าอยู่อาศัยที่บริเวณนี้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคหินใหม่ตอนปลาย ยุคสัมฤทธิ์ ยุคเหล็ก จนกระทั่งถึงสมัยประวัติศาสตร์ ได้แก่ ทวารวดี เขมร และอยุธยา น่าจะรวมถึงรัตนโกสินทร์จวบจนปัจจุบัน กินระยะเวลาตั้งแต่ 4,000 ปีเป็นต้นมา นับเป็นแหล่งโบราณคดีที่มีประวัติความเป็นมายาวนานมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย"

    (เอกสารเผยแพร่ของกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2547 แล้วปรับปรุง ใหม่พิมพ์ซ้ำในเอกสารภูมิสังคมเสวนาสาธารณะ ของมหาวิทยาลัยศิลปากร ณ ท้องพระโรง วังท่าพระ เมื่อวันพุธที่ 1 มิถุนายน 2548 รัชนี ทศรัตน์ นักโบราณคดี (อดีตข้าราชการกรมศิลปากร) ผู้ขุดค้นที่บ้านโนนวัดแล้วพบหลักฐานบรรพชนสืบเนื่องเก่าแก่ยาวนานที่สุดในประเทศไทย

    หลักฐานจากรายงานของคุณรัชนี ย่อมเป็นพยานชัดเจนว่า คนสุวรรณภูมิที่บ้านโนนวัด ตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นั่นตั้งแต่ 4,000 ปีมาแล้ว ยังเป็นยุคหิน จากนั้นก็สืบโคตรตระกูลลูกหลานเหลนโหลนลื่อ ฯลฯ ผ่านยุคประวัติศาสตร์ เช่น ทวารวดี จนถึงยุคอยุธยา ยุคธนบุรี ยุคกรุงเทพฯ จนยุคปัจจุบัน ถือเป็นบรรพชน "คนไทย" ทุกวันนี้

    พูดอีกอย่างหนึ่งก็ได้ ว่าคนบ้านโนนวัดทุกวันนี้มีบรรพชนเป็นคนสุวรรณภูมิเมื่อ 4,000 ปีมาแล้วมีพยานหลักฐานเก่าแก่สืบเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทย

    ถ้ามีคำถามต่อไปอีกว่า แล้วบรรพชนบ้านโนนวัดมาจากไหน? มีอยู่ในหนังสือ คนไทยมาจากไหน? ที่ต้องขึ้นอยู่กับคนไทยที่ไหน? แต่ผมได้อธิบายรวมๆ ว่า ส่วนหนึ่งมาจากกวางตุ้ง-กวางสี แต่อีกส่วนหนึ่งคือคนพื้นเมืองดั้งเดิมของสุวรรณภูมิ แล้วเพิ่งสมมุติชื่อเรียกตัวเองว่า "คนไทย" เมื่อยุคละโว้-อโยธยา จนล่าสุดก็ยุคจอมพล ป. พิบูลสงครามนี้เอง


    โดย : โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ [ 2006-02-17 09:49:23 ]

    ทีมา http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=dvshow&id=1608
     
  10. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    เรียน คุณ เกษม,

    ขออนุโมทนา ในการอนุเคราะห์ข้อมูล ข้างต้น...โดยส่วนตัวเชื่อว่าจริง ตามที่คุณ เล่ามา... หากแต่ผมเพียงต้องการเพิ่มเติมรายละเอียดเล็กน้อยในส่วนที่ผมรู้มา ดังนี้ครับ

    ..ชนชาติในสุวรรณภูมิ คือ ละว้า.. ทางเหนือบนพื้นที่ราบเรียก จาม ที่อยู่บนเขาสูงเรียก ลั๊ว..อยู่ในภาคกลางเรียก ขอม มีอาณาเขต ครอบคลุม กาญจนบุรี, ลพบุรี, ชัยภูมิ, เชียงใหม่, พิมาย, นครราชสีมา, บุรีรัมย์(ปราสาทพนมรุ้ง) ไปสิ้นสุดที่นครวัด ...มีเส้นทางทำด้วยศิลาแลง กว้างประมาณ ๖ เมตร เชื่อมต่อถึงกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กองคาราวานการค้าและประชาชนที่สัญจร ระหว่างเมือง..เส้นทางนี้มีซุ้มประทีป ห่างกัน ชั่วระยะแสงประทีป ในยามค่ำคืนเพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์ป่า...ต่อมาได้ถูกทำลายลงเพื่อมิให้นำมา ใช้ประโยชน์ในทางยุทธศาตร์...

    ส่วนสาเหตุของปัญหาในอดีตและปัจจุบัน ของประเทศไทย น่าจะมีมากกว่าการต้องคำสาปเพียงอย่างเดียว....ขณะนี้พูดไม่ได้..ต้องรอให้ผู้มีหน้าที่โดยตรงท่านไขปริศนาครับ...แต่เพื่อมิให้มีการคาดเดาไปต่างๆนาๆ...ขอเรียนไว้ ณ ที่นี้เลยว่า.. ทุก สาเหตุล้วนเป็นเรื่องในอดีต...ไม่เกี่ยวอะไรกับบุคคลในชาติปัจจุบัน....

    ที่เรียนมาทั้งหมดนี้....เฉพาะในส่วนของผม..ยังนับว่าน้อย..และไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหา....ท่านที่อ่านข้อความข้างต้น พึงสำรวมจิตให้ดี...ท่านมีสิทธิ์ ที่จะไม่เชื่อ...แต่ไม่สมควรที่จะก้าวล่วงความเชื่อหรือความคิดเห็นของผู้อื่น..ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แห่งตัวท่านเอง การเป็นผู้สดับที่ดี...บางที...อาจทำให้ ท่านที่เป็นเจ้าของความรู้...ยอมแสดงตนโดยการอนุเคราะห์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่พวกเรา...เพื่อจะได้ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย..อันจะทำให้สามารถแก้ไข ปัญหานี้ได้... สมกับความตั้งใจ.....ไม่ต้องเสียเวลามาฆ่าฟันแย่งชิงความเป็นใหญ่กันหลังเกิดภัยพิบัติ ก่อนที่จะ เกิดดวงตาเห็นธรรมและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้ต่อมา...เรียกว่าช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้สักเล็กน้อยก็ยังดี

    ส่วนเรื่องกรรมของประเทศ..ผมไม่มีหน้าที่แก้ไขและยิ่งไม่มีความสามารถขนาดนั้น...คงต้องยอมรับชะตากรรม และหากไม่ตายเสียก่อน...คงได้พบกัน

    ส่วนที่ว่าท่านใดสามารถยับยั้ง แก้ไขได้..ก็เป็นเรื่องของท่าน.. อนุโมทนาครับ

    สรรพสัตว์ย่อมเป็นไปตามกรรม....
     
  11. ชนินทร

    ชนินทร พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,725
    ค่าพลัง:
    +6,384
    ตอนนี้เห็นว่ากำลังข้าวยากหมากแพงไปทั่ว... จึงขอนำเอาพระคาถาที่หลวงพ่อฤาษีท่านมอบไว้ให้ท่อง เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของลูกหลานของท่านในเรื่องนี้มาลงไว้ให้ใช้นำไปสวดกันค่ะ...

    จับภาพพระให้ใสปิ๊งก่อน... จับลมสบาย... แล้วค่อยๆ สวดไปเรื่อยๆ ค่ะ...


    คาถาเงินล้าน
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    ( ๓ จบ )

    สัมปจิตฉามิ
    นาสังสิโม
    พรหมา จะ มะหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ ,
    พรหมา จะ มะหาเทวา อะภิลาภา ภะวันตุ เม ,
    มะหาปุญโญ มะหาลาโภ ภะวันตุ เม ,
    มิเตพาหุหะติ,
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
    สัมปะติจฉามิ
    เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ ๆ
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    บทความ ตื่นเถิดชาวไทย
    (แด่ 3 จังหวัด.ภาคใต้)
    โดย สิริอัญญา 25 กันยายน 2548 เวลา 18:23 น.

    [​IMG]

    ในพลันที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรม ที่หมู่บ้านตันหยงลิมออำเภอระแงะจังหวัดนราธิวาส ก็ปรากฏข่าวจากทางด้านมาเลเซียว่ากองทัพมาเลเซีย ได้เคลื่อนกำลังทหารจำนวนสามกองพัน มาประชิดที่ชายแดนไทย-มาเลเซียโดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อป้องกันสกัดกั้นไม่ให้คนไทย ข้ามแดนไปมาเลเซียโดยผิดกฎหมาย

    สื่อมวลชนไทยก็รายงานข่าวไปตามนี้ คือเป็นการเคลื่อนกำลังมาเพื่อป้องกันคนไทย ข้ามแดนไปมาเลเซียโดยผิดกฎหมาย

    ความหมายมันอยู่เพียงเท่านั้นจริงๆหรือ? ความจริงไม่อยากกล่าวถึงเรื่องนี้เพราะมีความละเอียดอ่อนอยู่มาก และเกี่ยวกับความสัมพันธ์ต่างประเทศ แต่เมื่อพิเคราะห์แล้วก็เห็นว่า จำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงเรื่องนี้สักครั้งหนึ่งมิฉะนั้นเพื่อนร่วมชาติของเรา ก็จะมองข้ามหรือลืมมองเรื่องสำคัญ ที่อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อบ้านเมือง

    คงจะจำกันได้ว่าหลังเกิดกรณีกรือเซะและตากใบแล้ว มาเลเซียได้เคลื่อนกำลังทหารขึ้นมาที่ชายแดนหลายระลอก ครั้งละสองกองพันบ้างสามกองพันบ้างและหลายๆ กองพันในแนวหลังที่พอเห็นได้ว่า พร้อมจะเป็นกำลังหนุนกำลังส่วนหน้าที่วางกำลังอยู่ตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย

    ไม่เคยปรากฏข่าวว่า มีการถอนกำลังทหารเหล่านั้นออกไปจากชายแดนไทยและมาบัดนี้ เคลื่อนกำลังเพิ่มเติมเข้ามาอีกสามกองพัน พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยหากประมาณคร่าวๆ ถึงแสนยานุภาพที่เคลื่อนขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็เห็นจะมีกำลังร่วมสองกองพลแล้ว

    ไม่รวมถึงแสนยานุภาพทางนาวี ที่มาเลเซียเตรียมกองเรือดำน้ำ เพ่นพ่านอยู่ในทะเลหลวงซึ่งใช้ระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ก็สามารถมาถึงแนวคลองกระแถวสงขลาและไม่ช้าไม่นาน ก็ถึงแนวคลองกระชั้นบนแม้กระทั่งถึงพังงาด้วยซ้ำไป
    ไม่รวมถึงแสนยานุภาพทางอากาศที่ ณ วันนี้ใครรู้ดีช่วยบอกทีเถิดว่า หากเปรียบเทียบแสนยานุภาพทางอากาศกันแล้ว ระหว่างไทยกับมาเลเซียจะเป็นประการใด?

    กองกำลังมากมายขนาดนี้ มันเป็นไปเพียงเพื่อสกัดกั้นคนไทย ไม่ให้ข้ามแดนเท่านั้นหรือ? ตรงนี้แหละขอให้ช่วยกันคิดให้ดี

    แล้วแสนยานุภาพของเราในพื้นที่นั้นละมีเท่าใด? รับมือเขาไหวหรือ?

    และนี่ไม่ใช่หรือที่เป็นพลังแอบแฝง แล้วหนุนช่วยให้ปฏิบัติการก่อความไม่สงบยืดเยื้อรุนแรง อยู่จนถึงทุกวันนี้กระทั่งบางหน่วยงานและบุคคลสำคัญบางคนของมาเลเซีย ถึงกับประกาศว่าจะต้องแยกดินแดนสามจังหวัดภาคใต้ ออกเป็นรัฐอิสระหรือเป็นเขตปกครองพิเศษ แล้วทำให้รัฐบาลไทยต้องกระอักกระอ่วนใจตลอดมา!

    ก่อนอื่นก็ต้องขอย้ำว่า เราคัดค้านสงคราม เราต้องการสันติ เราต้องการสันติภาพ ต้องการความสงบสุข การกระทำใดๆไม่ว่าของใครและของชาติใดที่เกื้อหนุน ต่อการเกิดสงครามทำลายสันติ ขัดขวางสันติภาพและสร้างความทุกข์ยากขึ้นแก่มนุษยชาตินั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชาติไทยและประชาชาติใดๆ ในภูมิภาคนี้เลย

    วันก่อนได้แย้มพรายไว้บ้างแล้วว่าเมื่อราว 2 เดือนก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีของประเทศเพื่อนบ้านของเรา ได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยื่นต่อสภาผู้นำศาสนาอิสลามโลก ที่กรุงเตหะรานกล่าวหาประเทศไทยอย่างหน้าด้านๆ ว่ากีดกันข่มเหงรังแกมุสลิม นั่นก็เพื่อบอกสัญญาณให้เพื่อนร่วมชาติได้รู้ว่า มีอันตรายซ่อนตัวอยู่ควรที่พี่น้องร่วมชาติทุกคนจะตื่นตัวขึ้นมา เตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจไม่คาดคิด

    ทั้งยังได้เตือนด้วยว่า ควรที่นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพราะคนที่รู้เรื่องนี้ในประเทศไทยของเราก็มีอยู่

    ต้องบอกอีกว่าบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซียนั้น มีคนสองสัญชาติอยู่เป็นจำนวนร่วม 300,000 คนและเป็นไปในทางมากกว่า 300,000 คนส่วนจะเป็นจำนวนแน่นอนเท่าใดนั้น ถึงวันนี้ย่อมเป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทย จะต้องทำความกระจ่างและให้เกิดความชัดเจน เพื่อที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง จะได้ใช้เป็นฐานข้อมูลในการปฏิบัติการ

    นายกรัฐมนตรีได้พูดถึงคนสองสัญชาติเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2548 ซึ่งค่อนข้างละเอียดอ่อนมาก แต่ก็นับว่าเป็นการเสนอประเด็นที่ถูกเป้าเข้าจุด และขออย่าให้เป็นการพูดเลื่อนๆลอยๆ เพราะนี่คือปมเงื่อนสำคัญที่เกี่ยวพันกับชะตากรรมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

    ตามกฎหมายสัญชาติประเทศไทย ถือหลักสองหลักคือ หลักดินแดนและหลักสายเลือดนั่นคือ ใครเกิดในดินแดนไทยและมีพ่อหรือแม่เป็นไทยก็จะได้สัญชาติไทย แต่ขณะเดียวกันหากละสัญชาติไทยไปถือสัญชาติอื่นหรือไปถือสัญชาติอื่น โดยไม่สละสัญชาติไทยก็เป็นอันว่าสิ้นสัญชาติไทยด้วย

    ทว่านั่นเป็นหลักกฎหมาย แต่ในการปฏิบัติกลับไม่มีการปฏิบัติกันเลย จึงเป็นเหตุให้คนในพื้นที่นั้นนอกจากถือสัญชาติไทยแล้ว ยังไปถือสัญชาติมาเลเซียโดยได้รับการเอื้อเฟื้อเป็นพิเศษ ให้ถือสัญชาติมาเลเซียด้วยหากจะว่ากันตามกฎหมาย คนเหล่านี้เป็นอันสิ้นสัญชาติไทยแล้ว

    การที่สิ้นสัญชาติไทยเพราะถือสัญชาติใหม่แล้ว ฉวยโอกาสข้ามแดนไปมาเลเซีย แล้วบอกว่าเป็นคนไทยอพยพหลบภัย จึงไม่เป็นธรรมกับประเทศไทยและเป็นเรื่องที่หน่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ของรัฐ พึงชี้แจงทำความเข้าใจให้ชัดเจนทั้งภายในประเทศและต่อประชาคมโลก

    มิฉะนั้นก็จะมีบางชาติฉวยเป็นโอกาส กระหน่ำซ้ำตีประเทศไทยเพื่อดึงสหประชาชาติ ให้เข้ามาจัดการปัญหาภายในของประเทศไทย

    คนที่สิ้นสัญชาติไทยไปแล้ว แต่ยังแอบอิงว่าเป็นคนไทยหากยังมีสิทธิ์ลงประชามติกันในวันข้างหน้า ก็พอจะคิดได้แล้วว่าอะไรจะเกิดกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

    แม้ว่าโอกาสจะเกิดขึ้นได้น้อย เพราะเรายังมีมิตรประเทศในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่เข้าใจและยืนข้างประเทศไทย แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้เรื่องนี้จึงต้องป้องกันเอาไว้แต่เนิ่นๆ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหม รวมทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ ควรจะได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพิจารณาอย่างจริงจัง

    ที่มันน่าเจ็บใจก็คือมีการสวมรอย เอาคนชาติอื่นทำทีมาเป็นคนไทยทำอะไรๆลงไปในพื้นที่นั้น แล้วบอกว่าเป็นการกระทำของคนไทย ทำให้คนไทยฆ่ากันเอง

    กลับมาที่กองกำลังทางบกของมาเลเซีย ตามแนวชายแดนที่ประมาณการว่ามีจำนวนร่วมสองกองพลนั้น มันหายไปไหนเป็นส่วนใหญ่? เพราะถ้าหากไม่ถอยออกไปก่อนจำนวนที่เคยเคลื่อนขึ้นมานั้น ก็พอเพียงอยู่แล้วถ้าหากจะมีบทบาทเพียงสกัดคนไทย ข้ามแดนเว้นเสียแต่ว่ากำลังพลเหล่านั้น ได้สลายตัวไปแล้วแปรสภาพเคลื่อนย้ายเข้ามาในแดนไทย ทำตัวเป็นคนสองสัญชาติ

    แปลงตัวเป็นคนสองสัญชาติ ทดแทนจำนวนคนที่ย้ายถิ่นฐานซึ่งปรากฏตามข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย ว่ามีจำนวนถึงเดือนละประมาณ 15,000 คน

    คนสองสัญชาติแปลงกาย ที่เนื้อแท้เป็นทหารของฝ่ายตรงกันข้าม ย่อมมีศักยภาพที่จะทำการสงครามทั้งนอกรูปแบบ และทำสงครามแบบแผนได้โดยไม่ได้ด้อยไปกว่าทหารของไทยเลย

    หรือว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอย เหมือนเมื่อครั้งที่ทหารเวียดนามสวมรอย เป็นทหารลาว แล้วเปิดศึกร่มเกล้ากับประเทศไทยในอดีต!

    ดังนั้นการที่กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ทวีความรุนแรงมากขึ้นขยายตัวมากขึ้น และยืดเยื้อมากขึ้นจึงแยกไม่ออกกับการเปลี่ยนโฉมแปลงร่างดังกล่าว มันเป็นปรากฏการณ์สวมรอย และฉวยโอกาสหลังจากสถานการณ์พลิกผัน จากปัญหาผู้มีอิทธิพลอำนาจมืด มาเป็นปัญหาแบ่งแยกดินแดนแล้ว

    ก็อยากบอกเตือนรัฐบาลว่า การฟังรายงานที่ผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง แล้วย่อมทำให้เกิดผลเช่นนี้

    ตัวอย่างล่าสุดที่นายกรัฐมนตรีแถลงว่า นาวิกโยธินสองนายถูกสังหารตั้งแต่ตอนรุ่งสาง แล้วหมอพรทิพย์เผยผลการชันสูตรว่า ถูกสังหารณเวลา 14.00-15.00 . ก็คือความซ้ำซากของความผิดพลาดของรายงาน และถ้าความผิดพลาดนั้นขยายไปถึงบุคคลที่ถูกระบุว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2008
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จีนกระชับความสัมพันธ์ทางทหารกับมาเลเซีย

    [​IMG]
    พล.อ.เฉา กังชวน

    พล.อ.เฉา กังชวน รมว.กลาโหมจีน ซึ่งกำลังเยือนมาเลเซียแถลงเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2549 ว่าความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจีนกับมาเลเซีย ดำเนินมาอย่างราบรื่นตลอดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาจากการที่ประเทศทั้งสอง ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและขยายความร่วมมือกัน ในหลายด้านและหลายระดับ ซึ่งรวมถึงด้านกองทัพ โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับความเข้าใจ พัฒนาความเป็นมิตรและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน

    ทั้งนี้ การเยือนของ รมว.กลาโหมจีนครั้งนี้อยู่ในกำหนดการเยือนประเทศในเอเชีย 5 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีเหนือ เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์และเกาหลีใต้

    ที่มา http://www.nia.go.th/nia/content/sh...167111211&ifmid=0010006501015002/490412-00008
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2008
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จีนรุกลงทุน-ลาวเปิดประตูรับเต็มที่

    [​IMG]
    จีนเตรียมลงทุนสร้างเขื่อน 4 แห่งกั้นแม่น้ำโขงในประเทศลาว

    ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่าการที่ไทยไม่มีนโยบายชัดเจนและต่อเนื่องในการพัฒนาการค้าและการลงทุนในสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ทำให้จีนหันไปลงทุนในประเทศอื่น แม้ว่าจะต้องการใช้ไทยเป็นฐานการผลิต และส่งออกไปยังภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะหลังจากที่นิคมอุตสาหกรรมที่เชียงแสนล้มไป

    "ตอนนี้หอการค้ามณฑลหยุนหนาน ได้ไปเจรจากับรัฐบาลลาวขอตั้งเขตการลงทุนในพื้นที่ 6.5 หมื่นไร่ ที่บ้านต้นผึ้งตรงข้าม อ.เชียงแสนแล้ว และยังได้เปิดเขตส่งเสริมการลงทุนที่มณฑล กวางสี ซึ่งเชื่อมต่อกับเวียดนามและออกทางทะเลได้รวมถึงการลงทุนในพม่าอีกหลายโครงการ"

    รัฐบาลลาวยินดีรับการลงทุนจากจีนมาก เพราะจีนช่วยเหลือสร้างสาธารณูปโภคในโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ขณะนี้มีนักลงทุนจีนเข้าไปลงทุนตามเส้นทาง R3E แล้วเช่นโรงงานรีดเหล็ก กำลังการผลิต 1.5 แสนตัน ต่อปี และในเร็วๆนี้รัฐบาลลาวจะประกาศยกระดับด่านเมืองมอม ทางตอนเหนือของสามเหลี่ยมทองคำของไทยให้เป็นด่านสากลด้วย

    ส่วนในเมืองไทยก็มีกลุ่มทุนจีนสนใจลงทุนเช่นกัน โดยสมาคมหยุนหนานโมเดิร์น โลจิสติกส์ จะสร้างแหล่งรวมและกระจายสินค้าชายแดนที่ อ.เชียงของ เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าบนเส้นทาง R3E ไปยังท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง

    ด้านนายด่านศุลกากรเชียงแสน เปิดเผยว่า แม้การก่อสร้างถนนผ่านลาวจะเสร็จสมบูรณ์ แต่การค้าระหว่างไทย-จีนตอนใต้ยังอาศัยแม่น้ำโขงเป็นหลัก และเชียงแสนจะยังเป็นเมืองท่าสำคัญ ล่าสุดมีการร่วมทุนในธุรกิจ โลจิสติกส์ระหว่างกลุ่มทุนไทยจากแหลมฉบัง และกลุ่มทุนจากจีนก่อสร้างท่าเรือเอกชน ขนถ่ายสินค้าโดยคอนเทนเนอร์ขึ้นบริเวณท่าเรือห้าเชียงเดิม เพื่อเชื่อมโยงระหว่างเมืองท่ากวนเหล่ยในจีนตอนใต้-เชียงแสน และท่าเรือแหลมฉบัง โดยจะจัดตั้งเป็นเขตปลอดอากรเพื่อพาณิชยกรรม คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆ นี้

    "ไทยควรเร่งให้มีการตกลงเรื่องการขนส่งระหว่างไทย-ลาว และจีนตอนใต้ และต้องเป็นระบบคอนเทนเนอร์เท่านั้น โดยเราเป็นศูนย์การเปลี่ยนถ่ายทั้งทางบกและทางน้ำ หากให้เป็นระบบรถบรรทุกเข้าออก เราจะเสียโอกาสทั้งหมด ให้แก่จีนที่มีความพร้อมมากกว่า"

    Source - Dept. of Export Promotion (Th/Eng)
    Tuesday, March 27, 2007 17:19
    http://www.thaiechamber.com/cms/content.jsp?id=com.tms.cms.article.Article_96620c5b-c0a81019-7d2f3d06-872b5531
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • mek_n7.jpg
      mek_n7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61 KB
      เปิดดู:
      1,517
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สุวรรณภูมิ....สวรรค์ของคนมีกรรม
    โดย : หนุมาน ผู้นำสาร

    [​IMG]


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. The Shadow

    The Shadow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +1,732
    ผมว่าธรรมดานะครับ จีนเหลือเงินสะสมจากการค้าขาย ค่อนข้างมาก ทุนสำรองระหว่างประเทศ ของจีน ฮ่องกง รวมกัน ไม่รู้ว่ากี่แสนล้านดอลลาร์สรอ.

    การที่เขาจะเอาเงินมาลงทุนใน ต่างประเทศบ้าง หรือใช้เงินเพื่อช่วยสนัสนุนหรือยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

    ไม่ถือว่าเป็นอะไรที่น่าตกใจ

    สมัยก่อนที่จีนยังจนอยู่ นายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล ก็ใช้วิธีนี้มาตลอด เพื่อให้คนยอมรับความเป็นชาติ แทนการยอมรับไต้หวัน (ตอนนั้น เจียงไคเช็ค หนีจากจีนแผ่นดินใหญ่ ลงเกาะ ฟอร์โมซาร์ หลายชาติแม้แต่ อเมริกา ก็ไม่ยอมรับ รัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์ จนสุดท้าย นายกโจว ซึ่งควบรัฐมนตรีต่างประเทศ ด้วย ในยุคแรกๆ ก็ใช้วิธีการให้ผลประโยชน์ เพื่อให้เกิดการยอมรับความสัมพันธ์

    ประเทศไทยเรา ก็เคยได้รับผลประโยชน์จากจีน ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น เงินช่วยเหลือ อาวุธยุทธโธปกรณ์

    อันนี้คือ นโยบายระหว่างประเทศ ของจีน ที่ถูกวางมาต่อเนื่องยาวนานแล้วครับ จีนเขาถือตัวว่า เป็น พี่ใหญ่ เป็นตั่วเฮีย ของเอเซีย เขาก็ช่วยเหลือ น้องๆไปทั่วแหละครับ

    จีนเป็นประเทศที่ช่วยใคร แล้วช่วยจริงครับ เรื่องผลประโยชน์เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน อย่าไปคิดอะไรมากมายเลยครับ


    คำทำนายของคุณหนุมาน ก้ได้แต่รอดูต่อไป ผมว่าแกก็ทายผิดอีกเหมือนเดิม ผมว่าน่ะ
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำพยากรณ์โลกของนางจีน ดิกสัน
    (Jean Dixon)
    [​IMG]

    นางจีน ดิกสัน โหรหญิงเลื่องชื่อชาวอเมริกัน มองเห็นเหตุการณ์ การเมืองในอนาคตและได้ทำนายเอาไว้ว่า :-

    -ในอนาคตประเทศจีนจะเป็นฝ่ายคุกคามต่อสันติภาพของโลก โดยจะแสดงเขี้ยวเล็บออกมาให้ปรากฎในช่วง 25 ปีแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 21

    -ในตะวันออกกลาง จะเกิดสงครามหลายครั้งระหว่างอิสราเอลกับอาหรับ สลับกับการเจรจาสันติภาพและการหยุดยิงเป็นช่วงๆ แต่เหตุการณ์จะร้ายแรงที่สุดเมื่อจีนบุกเข้าไปในตะวันออกกลาง และได้รับความร่วมมือจากฝ่ายอาหรับ จนความขัดแย้งกลายเป็นสงครามใหญ่ ระหว่างตะวันออกกับตะวันตก สงครามครั้งนี้ประเทศอิสราเอลจะถูกทำลายอย่างย่อยยับ เช่นเดียวกับฝ่ายอาหรับ​

    -ดาวหางดวงหนึ่งจะพุ่งเข้ามาชนโลก ซึ่งจะยังผลให้เกิดแผ่นดินไหว และเกิดคลื่นยักษ์ในมหาสมุทรต่างๆ ซัดกระหน่ำเข้าหาฝั่ง สร้างหายนะภัยใหญ่หลวงให้แก่มวลมนุษย์ชาติสุดที่จะพรรณา​

    -จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในคริสต์จักรโลก​

    -สหรัฐอเมริกาจะมีประธานาธิปดีหญิงเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา​


    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. kjk

    kjk สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +2
    เรื่องเวลาไม่มีใครกล้าฟันธงเลยสักคนค่ะ

    ไม่มว่าจะนอสตราดามุส พระพุทธองค์ พระคริสต์ มีปฏิทินเผ่ามายันเท่านั้น ที่เขียนสิ้นสุดที่ปี2555

    ดิฉันฟังๆเค้ามาว่า ขึ้นอยู่กับสมดุลย์ความดี-เลวของคนในโลกนะคะ
    อย่างสงครามโลก 2485? พระพุทธองค์ทรงเห็นในนิมิต และทำนายแม่นยำ
    ว่าเห็นนกเหล็กฯ

    แต่น้ำท่วมโลก เป็นเรื่องใหญ่ การทำลายล้างสูงมาก เบื้องบนคงจะต้องดึงออกไปให้นานที่สุด ขณะที่ก็คงดูว้า กองทัพธรรมแข็งแรงพอจะกู้สถานการณ์เลวร้ายหลังน้ำท่วมโลกแล้วหรือยัง

    ตัวอย่างคำว่า สมดุลย์ดี-เลวเช่น

    ตอนนี้ ต่างรณรงค์ลดโลกร้อน ก็เติมพลังบวก ตอนสึนามิร่วมกันทำบุญก็เพิ่มพลังบวก ร่วมกันส่งเสริมปฏิบัติธรรมก็เพิ่มพลังบวก

    แต่อย่างภาคใต้บึ้มตอนนี้ คนโหมกระแสวัตถุนิยม เพิ่มมูค่าทางการตลาดโดยเพิ่มบรรจุภัณฑ์หีบห่อ ก็เพิ่มพลังลบ

    ประเทศไทย เป็นประเทศที่ได้รับการคุ้มครองจากเบื้องบนค่ะ
    ใครฟันธง ในความเห็นดิฉัน ก็หมิ่นเหม่กับการหน้าแตกมากเลยค่ะ

    ขอเล่าให้ฟังถึงเหตุแผ่นดินไหวที่อินโดตอนกลาง ซึ่งส่งผลถึงฝั่งอ่าวไทยบ้านเรา

    มีน้องที่นั่งพุทธลีลามหาปัญญา+มีบุญเก่าด้านตาทิพย์สูง เขาเห็นนิมิตบนตาเนื้อ ก่อนอินโดจะไหวครั้งนั้นว่า
    จะมีแผ่นดินไหวที่อินโด ทำให้กระทบอ่าวไทย เขื่อนเมืองกาญจน์จะรั่ว มีผลถึงกทม.
    ซึ่งตรงกับกัลยาณมิตรอีกสายที่ทำสัมมาอะระหังจนพบนิมิตเดียวกัน
    ....แต่การณ์ไม่เป็นดังว่าค่ะ..ถึงเวลานั้นจริง เวลาที่แผ่นดินไหว เลื่อนๆไปอีกเป็นอาทิตย์ แผ่นดินไหวก็ไม่รุนแรงถึงขนาดที่จะกระทบประเทศไทยค่ะ

    เช่นนั้น มาเร่งปฏิบัติเตรียมใจ รักษาศีล
    เพื่อจะได้ไม่หวั่นไหวว่า จะอยู่หรือตาย
    และ ถ้ายังรอดก็มาช่วยกันจรรโลงโลกหลังน้ำท่วมโลกเถิดค่ะ

    แลกเปลี่ยนนะคะ[​IMG]
     
  19. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,267
    ค่าพลัง:
    +2,134
    "สัจจะธรรมปรากฏแล้ว!!!"

    คนทั้งโลกจะประสบชะตากรรมเดียวกัน

    คนไทยไม่มีใครหนีพ้น

    ไม่ว่ายากดี มีจน

    คนดี คนชั่ว

    เตรียมพร้อม หรือไม่พร้อม

    ประสบพบเจอกันทุกคน

    ไม่ว่าผู้นั้นจะแสวงหาสัจจะธรรมหรือไม่

    เพราะสัจจะธรรมจะอยู่กับผู้นั้นเสมอ

    เบื้องบนก็ห้ามไม่ได้

    ร้องโวยวายไปก็ไม่ได้อะไร

    เพราะสัจจะธรรมนั้นคือ...

    ...........................

    ...มีเกิดก็ต้องมีดับ...

    คนทั้งโลกกำลังจะตายกันทุกคน...

    "Jubb ผู้น่าสงสาร" วันนี้วันที่เท่าไหร่?
     
  20. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    อย่างว่านะคะ หากเราจะมองประวัติศาสตร์เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผ่านไปแล้ว
    จบไปแล้ว ก็เห็นจะเป็นการคิดที่สั้นเกินไป หรือหากเราจะมองว่านั่น
    คือการกระทำของคนอื่น ก็ดูว่าจะไม่ค่อยถูกนัก เราต่างมีกรรม
    เป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เราต้องรับผิดชอบในการกระทำของตน
    ไม่ว่าจะทำไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ตาม นั่นกระมัง ที่เป็นเหตุผลให้เรา
    ต้องวนเวียนในที่บางที่ เพื่อชดใช้และสะสาง เพราะฉะนั้นอย่าโทษใครเลย

    มองไปที่จีน พี่สาวเล่าให้ฟังว่า สมัยที่จีนเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบอบคอมมิวนีส
    รัฐบาลไม่ต้องการให้มีศาสนา ไม่ต้องการให้มีการยอมรับนับถือในสิ่งอื่น
    ก็เลยสั่งให้เอาหนังสือ ตำหรับตำรามาเผาทิ้ง แล้วเอาครูบาอาจารย์
    เล่าซือทั้งหลายมานั่งคุกเข่าให้ประชาชนมาชี้หน้าด่า
    แค่นี้ก็เป็นกรรมใหญ่หลวงแล้วนะคะ จึงไม่น่าสงสัย ว่าทำไมประเทศจีน
    จึงได้เจอเคราะห์กรรมเยอะนัก

    เมื่อเราเป็นผู้ร่วมสังคกรรม แม้จะไม่ได้ลงมือเอง เพียงแค่รู้สึกยินดี
    ในการกระทำนั้น เราก็ต้องร่วมชดใช้ด้วยไม่มากก็น้อย
     

แชร์หน้านี้

Loading...