เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

ปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของสัตว์โลก...ท่านนี่เหมือนรู้ใจเราเลยเนอะ❤

 

แกรเองก้อเหนบอกว่าเปนโพธิสัสหนิ เอาตัวเองไปเทียบกะพระโพธิสัสของจิงรึ(ย้ำว่าของจิงแบบจิงๆ) แกรซึ่งเปนปุถุชน และบอกว่าเปนโพธิสัส จะช่วยยังไง ไหนบอกดิ ถามหลายรอบท้าหลายรอบแระ

เทคโนโลยีพี่เบิ้ม รุ้แล้วก้อไม่เหนมีไร ฉันก้เข้าอ่านข่าวเว็บเมืองนอกบ่อยๆ โซว๊อทวะ เขาปล่อยแบบลับลวงพราง แกรรุ้ป่ะหล่ะ

 

ที่จริงแล้วน่ะนะ ให้สุดยอดเทคโนโลยีอีก หากจะมีเป็นไปไม่มีสิ่งใดขวางกั้นได้ เทคโนโลยีก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเป็นอนุธาตุหนึ่งของมหาธาตุทั้งสี่คือดินน้ำไฟลม เราก็เป็นอนุธาตุหนึ่งเท่านั้น ทำอย่างไรก็ไม่พ้นไปจากบันทึกของมหาธาตุผู้เป็นธาตุควบคุมได้หรอก ให้มีเทคโนโลยีที่วิเศษขนาดไหนก็เถอะ ธาตุย่อมดึงดูดเข้าหากัน และย่อมผลักออก เป็นกฎธรรมดา

 

เปล่าค่ะ จิตยิ้มไม่ได้เป็นโพธิสัตว์ เป็นคนธรรมดาที่มีความปราถนาอยากจะทำอะไรก็ได้ที่ใจเป็นสุขแค่นั้นเองค่ะ

 

ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า...จิตเดิมแท้เป็นธาตุบริสุทธิ์

...แล้วถ้าจะหาอะไรไปปะปนหรือไปทำให้ความบริสุทธิ์เปลี่ยนแปลงไปนั้นย่อมไม่มีทางเป็นไปได้
....จิตบริสุทธิ์นั้นมีอำนาจเหนือธาตุทั้ง4 คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ...ธาตุทั้ง4นี้ไม่สามารถทำอะไรจิตบริสุทธิ์ได้...ดังนั้นเราท่านทั้งหลายมาขัดเกลาจิตใจตนดีกว่านะ..

 

ใจจะเป็นสุขได้ต้องรักษาใจให้เป็นปกติ...ปกติของใจคือความสงบ...คือความไม่มีไม่เป็น.....ถ้ายังไม่สงบ...ถ้ายังมียังเป็นอยู่นั้น...ไม่สามารถทำให้ใจเป็นสุขได้

 

การมีเทคโนโลยี ก้ดีกว่าเชื่อพ่อมดหมอผีแบบพวกแกร ไม่น่าฝรั่งมันถาม เอ้ยประเทษยูขี่ช้างไปไหนต่อไหนอยุ่ใช่ป่ะ ขืนเชื่อพวกแกร ปท ถอยหลังเข้าป่าไม่ต้องติดต่อกะใครเขาแระ ไม่มีการสื่อสาร ไม่มีวิทยาการทางการแพทย์ ไม่มีอีกหลายๆ อย่างที่แกรเองก้ต้องอาศัยมันในชีวิตประจำวันเหมือนกัน

แกรรุ้มะดาวสีฟ้าที่แกรเหนเมื่อวันก่อน เกิดจากอะไร ในหนังสือ ม ต้นมีบอกไว้หมด ไปหาอ่านดู เข้าหลักตามทฤษฎีของไอสไตล์(ถ้าจำไม่ผิด)

 

จิต เปน ธาตุ เกิดจากปัจจัยการ

ธรรมชาติใด ไม่มี ดิน น้ำ ลม ไฟ ปรากฏ
จิตก้ดับใน ธาตุนั้น

เพราะ จิตจะเกิดขึ้นได้ ต้องมี มหาภูตรูป
เข้ามาเปนปัจจัย จิตถึงจะเกิดได้

จิต จึงไม่ได้มีอำนาจ เหนือ มหาภูตรูป

 

ใจ ที่มี อุเบกขา ต่อทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

เพราะมีอุเบกขา สติจืงบริสุทธ์

เพราะ มีสติบรสุทธิ จึงรู้เท่าเอาทัน สรรพสังขาร

จึงเรียกว่า อยู่ในสุขวิหาร .....ถ้าเปน เสขะอยู่
ก้เรียกว่า มีความเพียร มีธรรมเครืองตื่น ฯ

 

ทุกสิ่งมีสองอย่างเสมอ คือ คุณกับโทษ เทคโนโลยีก็เหมือนกันค่ะ ที่เกิดภัยพิบัติชำระโลกนี้ก็เนื่องด้วยการสร้างเทคโนโลยีเพื่อสนองตัณหาพาจิตใจมนุษย์ดิ่งลงใกล้เคียงกับเดรัจฉาน (คำกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์)

ที่บ้านเห็นดาวสีฟ้าดวงใหญ่ แปดแฉกส่องประกายระยิบระดับดวงใหญ่สวยงามมาก และดวงดาวดวงจันทร์มีการเปลี่ยนทิศ อันเนื่องน่าจะมาจากโลกเบี่ยงเบนทำให้เราเห็นดาวใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นแสดงว่าเรากำลังมีท้องฟ้าใหม่ ใกลัเข้ายุคพลังงานใหม่เต็มทีแล้วล่ะ

 

อวดท้องฟ้าที่บ้านช่วงสาย

โลกฟ้าครามจะงดงามขนาดไหน

 

แย้งได้ไหมคะ

 

เราพูดผิด...จิตเป็นธาตุบริสุทธิ์...ธาตุทั้ง4ก็เป็นธาตุใครธาตุมันไม่เกี่ยวข้องกัน...เป็นเอกอยู่...เพียงแต่จิตบริสุทธิ์นั้นมีความสว่างเท่านั้นเอง..

ยกตัวอย่าง...หลอดไฟให้ความสว่าง..ความสว่างนั้นแหละเปรียบได้กับจิตบริสุทธิ์...ส่วนหลอดไฟนั้นเป็นรูป...แสงที่เราเห็นนั้นเป็นนาม..แสงที่ว่านี้มันจะกระทบกับตาเราเป็นเส้นสีทองบ้างสีเหลืองบ้างสีขาวบ้าง...แสงนี้จะสั้นบ้างยาวบ้าง....มันแสดงให้เห็นว่าทุกอย่างนั้นมันไม่เที่ยง เป็นทุกข์..

 

ท่านจิตยิ้มเก่งขึ้น มั่นใจมากขึ้นด้วย

 

ภาพท้องฟ้าเป็นคลื่นเมฆ คล้ายบ้านเราเลยค่ะ

 

ท่านจิตยิ้มนี่...พอเปิดโอกาสให้คุยกลับเทียวแต่ติดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อไปแย้งคนอื่น...ที่บอกไม่ทำ...ที่ทำไม่ได้บอก...เสียเวลาจริงๆ...

 

ถ้า จะแย้ง ngo แบบ พะยาทรรม ตด ออกทางปาก
แบบตะกี้นี้ จนต้อง ปรารภว่า พูดผิดสัจจธรรม

ก้จะให้ เอา สิ่งที่ อวดว่ามี คือ จิตบริสุทธิ
นั้น ที่ว่า มีอำนาจเหนือมหาภูตรูป

ลอง ให้จิต บรสุทธิ ที่อ้างว่า ตนมี รู้เหน ทั่วถึงนั้น

สั่ง มหาภูตรูปสี่ ที่เปน รูปกาย ว่า จงอย่าแก่

มหาภูรูปกายที่เปนพยาทำ อายหงบ จงอย่า
ร่านหานางแก้ว ทักหยอกไก่ ไปเรื่อย เผื่อฝุค
อุปทานเปนนางแก้ว จะได้พาไปกิโลเจ็ดฟรีๆ

หรือ

เอาจิตบรสุทธิสั่งเลย ปาบึกจ๋า สลายโต๋

นะ

จิตบริสุทธิ์ ที่อ้างว่า ตนมี รู้เหนทั่วถึง
มันก้แค่ มโนยุกยิก เปนโวหาร คำโต

 

เศษกรรมที่เกิดจากวจีกรรมของท่านยังคงอยู่
เทศน์สั่งสอนแบบจิกกัดผู้อื่น ไม่ค่อยดีนะท่าน
เพิ่มเจ้ากรรมนายเวรเปล่าๆ

 

เกิดชั่วขณะค่ะคุณแบม ตอนนี้ฟ้าหมองไม่ผ่องใสแล้วค่ะ น่าจะเกิดจากสภาพอากาศที่ยังเป็นสาเหตุอยู่ไม่ได้กำจัดไปไหน เหมือนกับความมืดแสงสว่างมาก็หายไป แสงสว่างไม่มีก็มืดเหมือนเดิม เหมือนกับโลกเรา ณ ตอนนี้นะค่ะ ตราบใดที่คนชั่วมีมากเป็นเหตุให้โลกบอบช้ำ ถึงแม้จะปัดเป่าภัยพิบัติไปสักกี่ครั้งเพียงใด พลังงานมืดก็ยังมากและปกคลุมมโลกดังเดิม มีสองวิธี ถ้าไม่ชำระล้างกำจัดออกไป ก็ต้องเปลี่ยนความมืดให้เป็นความสว่างแทนนะค่ะ

 

ใช่ค่ะเห็นตอนเช้าแต่ตอนนี้มีเมฆปกคลุมไปหมด ดูทึม ๆ เหมือนกันค่ะ