เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

กลุ่มกรรมระดับปานกลาง

คล้ายคลึงกับกลุ่มแรก แต่ระดับความรุนแรงของปัญหาจะมีมากกว่า โดยอาจมีการทุบตี ทารุณทำร้าย หรือข่มขู่กันและกันได้ ซึ่งจะสร้างปัญหาทางอารมณ์ต่อกันและกันในระดับที่รุนแรงยิ่งกว่ากลุ่มแรกมาก

การชดใช้กรรมในกลุ่มนี้มีสถานเดียว คือ ต้องให้อภัยต่อกันให้จงได้

 

ข้อ 1-3 นี่ แกลอกธีมคริสต์มาเลยนะ แกรไปปั่นต้นฉบับมาใหม่ดิ แกธีมพุทธนะเว้ย อย่าให้ทีมดิเซฟติค่อนแก ที่กำลังส่งจิตต้านพายุเสียหน้านะเว้ย

 

100 คนก๊ร้อยความคิด ต่อให้ญาณสูงก็เป็นโลกียะฌาน ยังไม่ถึงฝั่งโลกุตะระ ฉะนั้นจึงมีความคลาดเคลื่อนได้

 

กลุ่มกรรมระดับสูงสุด

เป็นบทเรียนกรรมที่มนุษย์จะต้องเผชิญกับความกลัวในทุกสิ่ง กลุ่มนี้มักจะเผชิญสถานการณ์วิกฤติ เช่นถูกทรมาน ถูกขู่ปองร้ายทำร้าย ความล้มเหลว กลัวหักหลังคดโกง กลัวสูญเสียอำนาจที่มีอยู่ กลัวพ่ายแพ้

การชดใช้กรรมในกลุ่มนี้มีสถานเดียวคือ ต้องเอาชนะความกลัวให้จงได้

 

ใช้กำลังฤทธิ์ต้านพายุก็ต้านได้ชั่วคราวนะ แต่กำลังใจนะค่ะ ใจที่มีกำลังแห่งความดีจะต้านได้อย่างยั่งยืน กรรมใครทำคนนั้นรับ ทำแทนกันบ่ได้

 

คุณจิตยิ้ม ธีม จิตจักรวาล

 

ระดับปวีรืนี่ต้องจิตยิ้มนะ ว่าไหม 55555

 

ไม่ใช่เราแน่นอนค่าท่านสงบ สบายใจได้ค่า^-^

 

มีผู้รู้ออกมามากมาย บางคนก้มีญาณสูง มีญาณเทพพูดไม่ตรงกันสักคน อันนี้น่าคิด...ทำไม?? พระอรหันต๋ท่านก้ยังไม่สามารถก้าวล่วงเรื่องบางเรื่องเลยแล้วเรารู้ได้ไงมีไม่มี

 

ผลกรรมใด ๆ ที่เกิดจากการกระทำผิดต่อบุคคลอื่น โดยที่ตนเองไม่รู้ตัว คาดไม่ถึง เผอเรอ หรือด้วยความประมาทของตนเอง สนามพลังงานจะซึมซับรับไว้ แล้วค่อยผลักสะท้อนกลับมาให้ ยามใดที่มนุษ์ผู้เป็นเจ้าของมันประมาทหรือเผอเรอ เมื่อได้เผชิญกับผลกรรมนั้น ๆ แล้ว ก็ถือเป็นการสิ้นสุดกรรม

 

เมื่อสมัยก่อน หลวงปู่สด พระบ้านนอก
สอนเรื่องวิชชาธรรมกาย พระในเมืองสมัยนั้น
ก็หาว่าท่านบ้า หลักสูตรนี้ไม่มีอยู่จริง
เพราะไม่มีในพระไตรปิฏก

พอท่านพาลูกศิษย์ ไปดู พระพุทธเจ้า
ที่แดนนิพพาน ก็มีมหาเปรียญค้านว่า
นิพพานแล้วสูญ ไม่มีอะไรเหลืออีก
แล้วจะเอา พระพุทธเจ้า มาจากไหนนักหนา
เป็น พระอรหันต์แล้ว ไม่เหลืออะไรอีก
บอกว่า ทำอย่างนั้น เป็นความเชื่อของ มหายาน

แต่พอเดี๋ยวนี้ พอคนเอ่ยถึง สมเด็จองค์ปฐม
ก็เข้าใจกันได้ว่า ท่านคือ พระพุทธเจ้า องค์แรก
ก็ของ มหายาน นั่นแหละ ที่สอนไว้ก่อนแล้ว

ส่วนเรื่องการแบ่งภาคจิต นั้น
เป็นเพราะว่า พระจีน ในสมัยแรกๆ
ยังไม่เข้าใจ ใน หลักอภิญญา ดีนัก
จึงเข้าใจไปว่า การใช้อภิญญาแบ่งร่างกายออก
ทางเถรวาท เค้าเรียกกันว่า อภิญญา อย่างหนึ่ง
ของ พระอรหันต์ เท่านั้น
เพราะไปเห็นกันว่า พระในสมัยก่อน
อยากอยู่ตรงไหน ก็ไปอยู่ตรงนั้นทันที
ไม่ต้องเหาะไป ด้วยความไม่รู้
เค้าจึงคิดว่า เป็นวิธีการแบ่งร่างกาย
ให้เป็นหลายคน แล้วแต่ละคน
ก็มีจิตคุมอยู่ดวงหนึ่ง แยกต่างหากกัน

หากเค้ารู้ว่า พระทิเบต ก่อนตาย
จะตรวจดูจิตของตนเองดูว่า
ยังห่วงใยในบ้านหลังไหน ในรอบวัดนั้น
หากคิดถึงบ้านหลัง ก็จะต้องไปเกิดที่บ้านหลังนั้น
จึงได้บอกให้ลูกศิษย์ คอยดูเด็กที่จะเกิด
ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน
เพราะส่วนมาก พระจะตายแล้วเกิดทันที
ไม่มีการพักตัวเลย เกิดมาเพื่อทำงานเดิมต่อ
จึงทำให้ลูกศิษย์ ตามหาอาจารย์ของตนได้
และงานที่ตนเองทำอยู่ ทำต่อเนื่องได้

 

จักรแก้วนี้มันเหมือนรถตู้นี่ล่ะมั้ง...ไปทีเยอะๆก็ได้....ครอบครัวใหญ่เนอะ5555

 

....

 

แล้วคำนายจากผู้รู้มากมาย ไทย เทศ ถ้าเห๊นก้ต้องเห้นเหมือนกันทำไมทายต่างกัน ความลับคัอความลับ ทุกอย่างเปลี่ยนได๊ เคยดูหนังหักมุมไหม

 

เขียนผิด ซอด้วง.... ต้อง จจว.

 

หนังบางเรื่องเราคิดว่านางเอกพระเอกต้องได้กันสุดท้ายพระเอกตาย เขาเรียกแก้บทใหม่ เพื่อให้เกิดซีนอารมณ๋ร่วมฃองคนดู มันได้อารมณ๋กว่า สังเกตุดูแต่ก่อนจะมีแต่หนังจบแบบแฮปปี๊ซึ่งมันจำเจ ทุกคนเดาออกว่าต้องจบอย้างไร

 

อุเบกขาปรมัตถบารมี
^-^

 

ลิเกมากแกร กำลังใจบวกความดีต้านอย่างยั่งยืน ขืนสมมุติรัฐบาลมาพูดคำนี้กับ ปปช. ตายห่านหลาย จ.เลยนะแกร (สมมุติเอาเรื่องพายุตอนนี้) แกรเหนคนนับคริสต์มะ ไม่ได้นั่งสวดมนต์อ้อนวอนอย่างเดียวแล้วนะเว้ย เขารุ้จักลงมือทำด้วย

(สมมุติเอาเรื่องพายุ) รัฐบาลเขามีเทคโนโลยี่ มีสื่อ มีคนทำงานที่อยุ่ในสถานการณ์ มีผุ้เชี่ยวชาญ เขาเลยสามารถเตือนวันเวลา ปิดแท่น แจ้งชาวประมง ย้ายคน พายุผ่าน จ.ไหน ยังไงเขาบอกหมด กระทบที่ไหนมั่งเขาก้อบอก มาใช้กำลังใจกะความดี และรอบอกว่ามันเปนกรรมแบบแกร ตายห่านมากมายเหมือนคนสมัยก่อนที่ไม่มีทีวีตอนพายุเข้าแน่ๆ

ไหนแกเอากำลังใจกะความดีแกเพ่งช่วยเว็บ สร้างserver ให้เว็บพังจิตหน่อยดิ ว่าทำได้มั้ย เขาจะได้ไม่มาขอรับบริจาคเงิน

 

การทำนาย คำพยากรณ์ เป็นการใช้เป็นเครื่องมือสู่การหยั่งรู้ เหตุการณ์ในอนาคตใด ๆ มิใช่การคาดคะเน คาดเดา การนึกนำเอาของผู้ใช้ศาสตร์อันสูงส่งแต่อย่างใด วิชาโหราศาสตร์นี้ ยึ้นอยู่กับว่า ผู้ใช้ศาสตร์นั้นกำลังยึดถือ ของแท้ หรือ ขยะ ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ การพิจารณาของผู้ใช้ศาสตร์ดังกล่าวนี้ด้วย

เนื่องจากการชำระโลกครั้งสำคัญนี้ จักรวาลเป็นผู้ลงมือกระทำโดยมิได้วางแผนใด ๆ ไว้ล่วงหน้า ผู้รู้ต่าง ๆ บนโลกที่ยังเป็นมนุษย์ และนักพยากรณ์ตาทิพย์ในอดีตผู้อ่านโลกได้จึงไม่มีใครล่วงรู้มาก่อนแน่นอน นอกจากผู้เข้าถึงพลังอำนาจการหยั่งรู้ จนสร้างความสัมพันธ์กับจิตจักรวาลรูปธรรมใดรูปธรรมหนึ่งได้เท่านั้น จึงจะยืนยันความจริงที่เป็นความรู้ใหม่ดัวกล่าวนี้ได้

 

555 ลองไปถามพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ก็ได้ค่ะ ที่ท่านสร้างบารมีโดยไม่มีเงินแม้แต่สักตางค์เดียว แต่สามารถทำงานได้สำเร็จได้อย่างปรารถนานั้นเป็นอย่างไรนะค่ะ ทุกองค์จะทราบเรื่องนี้ดีจ้า

ส่วนเรื่องภัยพิบัติ ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องลงมือทำเองเหมือนกันเจ๊า

เทคโนโลยีกำจัดอากาศของพี่เบิ้ม มีคนอมยิ้มอยู่ ถ้ารู้เบื้องหลังมิติโลกแล้วจะฮาฮับ