เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

โรคไม่ใช่ของเรา. โลกไม่ใช่ของเรา .โลกไม่เที่ยง โลกเป็นทุกข์ น้อ

 

พระยาธรรมิกราชท่านเป็นคนดี
มีบุญและบารมี แต่ไม่ใช่วรรณะกษัตริย์

 

พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้แล้วว่า.....
ใจเป็นใหญ่..
ใจเป็นประธาน..
ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ..
....นี้คือคำตรัสที่เป็นหัวใจของธรรมทั้งหลายที่พระองค์ทรงสั่งสอนสรรพสัตว์...ผู้มีปัญญาพิจารณาคำสอนนี้แล้ว...จะเห็นความจริงที่เป็นทางปฏิบัติได้ไม่ยาก....เจริญพร

 

วันที่ 3 - 5 มกราคม 2562
ผมสังหรณ์ว่า ท้องฟ้าจะมืดมิด
ที่มืดมิดนี้ ไม่ใช่อุกาบาตชนโลก แต่เป็นพายุครับ
พายุที่มากับเมฆดำทะมึน ปกคลุมมืดมิด
แต่ไม่ใช่ถึงขนาดมืดมิด มองอะไรไม่เห็น

แพทเทิร์นหรือรูปแบบของพายุที่เข้า ก็เหมือนๆ คล้ายๆ กัน
คือ ฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่ม ดินสไลด์
พายุพัดกระหน่ำ บ้านเรือน เรือกสวนไร่นา เสียหายพังยับเยิน
และที่ขาดไม่ได้เลยทุกครั้ง ต้องมีคนตาย
และเตรียมความพร้อมรับมือไว้ ก็อาจตายน้อย

และก็เป็นธรรมดา เพื่อพายุไป น้ำก็ลด (อยู่ที่ลดช้า ลดเร็ว)
สิ่งที่เหลือคือซากปรัก หักพัง

 

*** ฝนตกเจ็ดวันเจ็ดคืน ****

แปลว่า พายุไม่ไปไหน
หมุนอยู่ตรงนั้น
เหนือความคิดมนุษย์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เราพักผ่อนแล้วนะทุกท่าน...ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ด้วยนะ...ถ้าทำไม่ได้แค่ไม่เพ่งโทษผู้อื่นก็ยังดี...ฝึกตนฝึกใจตน....วัวควายถ้าจะใช้งานยังต้องเอามาฝึก...เกิดเป็นคนแท้ๆมันก็ต้องฝึกเช่นกัน...อย่าให้แย่กว่าควาย

 

ผมอยากให้ทุกท่าน ติดตามพายุ ลูกที่จะเข้าอ่าวไทย ตอนนี้ครับ
พายุโซนร้อน "ปลาบึก"

การมาของเขาครั้งนี้ ถ้าพูดภาษานักเลง คือ แสบ และ กวนประสาทมากครับ

คือ เขาค่อยๆ เคลื่อนตัวช้าๆ และเมื่อเข้าอ่าวไทยแล้ว แทนที่จะรีบออก เหมือนพายุเกย์ กลับเที่ยวเดินเล่นเลาะเล่นตามชายฝั่ง จึงทำให้ดูเหมือนว่า มืด 7 วัน 7 คืน

 

พอดีเราเป็นคนช่างสังเกตุเสียด้วยสิ...และมีรางสังหรแม่นอีกต่างหาก...มันมีอะไรที่เรารู้จากการพูดคุยอีกเยอะ...เพราะสิ่งที่เราได้ติดมาตอนมาเกิดคือปัญญา...
....แต่เราจะไม่สนทนาแล้วล่ะ...เพราะมันเกิดประโยชน์กับคนอื่นน้อยไป...เอาสิ่งที่เป็นประโยชน์โดยตรงเลย...คุยเล่นมาเป็นเดือนสองเดือนแล้ว...ถ้าเห็นว่าเครียดเกินไปเราถึงจะคุยด้วย

 

"นกกับไก่"
เราก็บอกแล้ว...นกกับไก่มีปีกเหมือนกันแต่มันไม่เหมือนกัน...ตัวนึงชอบหากินตามพื้นดินอย่างเรียบง่าย...อีกตัวชอบบินสูงและชอบให้คนชมว่าตนดี...ส่วนใครคนใดชอบบินสูงอย่างนกก็เชิญตามสบาย...เราขอเดินดินทำกินอย่างไก่...นกอินทรีย์อย่ามาเบียดเบียนไก่ก็เป็นพอ...เพราะไก่ตัวนี้เป็นไก่ชนเหลืองหางขาว...ไก่ตัวนี้เปรียบดังไก่ชนของพระนเรศวรเสียด้วยสิ..

 

" สัตว์ทั้งหลายอยู่ด้วยหยัง..อยู่ด้วยกรรม ไปด้วยกรรม มีมโนกรรมเป็นต้นสาเหตุ..
พูดกะแมนมโนกรรมเป็นผู้พาพูด..
นึกขึ้นมาแล้วกะวจีกรรมกะซอย กายกรรมลมหายใจเข้าออกกะซอย..
มันดังออกกะเพราะลมกับลิ้น..
ขั่นเห็นแต่สังขารทั้งหลายเต็มไตรโลกธาตุอยู่แล้วฮานี่..
เหลียวไปสัยกะเห็นแต่ความบ่มั่นบ่เที่ยงเต็มไตรโลกธาตุอยู่แหล่ว..
ความทะเยอทะยานในโลกทั้งปวงมันสิมาจากปักตูใด๋กะด้อกะเดี้ยแท้...นั่น.."

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า

 

" หนึ่งหยังสองหยังสามหยังเอ๋า อยู่ในไตรโลกธาตุนี่มันเป็นของมั่นของเที่ยงเอ๋า มันบ่มี..
เอ๋า...ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก หมู่นี่ เยื่อในกระดูกหมู่นี่ เป็นของมั่นของเที่ยงบ่..
ม้าม ตับ ปอดหมู่นี่...เอาปอดเจ้าของมาปิ้งกิน ปิ้งกินได้บ่...
ไส้ใหญ่สาวออกมาเคียนคออุ้มลุ่ม เอาไปทอดใส่ไข่กินได้บ่...
ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารใหม่กลืนลงไปแหล่ว...
ฮากออกมาเบิ่งดู้...ฮากออกมาแหล่วเอามากินอีกได้บ่...นี่ปัญหามัน.
อาหารเก่า อาหารที่มันนอนท้องเฮาถ่ายบ่เมิดนั่น ปนกันอยู่ฮั่น.
ขั่นออกมาทางทวารหนักเฮากะว่าอุจจาระ ทวารเบาเฮากะว่าปัสสาวะ..
เอาเข้าทางปากออกทางดาก..
สิ่งหมู่นี่สมควรที่เฮาสิพิจารณาทั้งนั้นละ..
เพราะเฮาหลงอยู่นำหมู่นี่.."

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า

 

" พึ่งพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์กะคือพึ่งหัวใจอันมีสติปัญญาฮั่นล่ะ..
ขอซึ่งถึงพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นที่พึ่งนั่นกะขอภายนอกจักขอไปสัย.
ขอไปขอมากะแมนขอหัวใจเจ้าของฮั่นล่ะ..
ถึงไตรสรณะคมณ์ถึงไปถึงมากะแมนถึงหัวใจเจ้าของ..
เพราะว่าใจเจ้าของนั่นเป็นผู้ถึงเด้.."

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า

 

วันนี้ช่วงเช้าเอาบทธรรมคำสอนหลวงปู่หล้า เขมปัตโต...ล้วนๆ

 

อย่าไปคบคนพาลนะขอรับ...ทุกท่าน...ให้ทุกท่านพิจารณาให้ดีก่อนจะเลือกคบใคร....หากคบคนผิดเสียหายมากเลยนะ..ขอรับ

 

อ่านตำราแล้วท่องจำอย่างนกแก้วนกขุนทองก็ไม่ไหวนะขอรับ...คนประเภทนี้มักยกตนว่าเหนือกว่าคนอื่น...แท้จริงตนเองนั้นจะทำจิตให้สงบเพียงชั่วช้างพับหูยังไม่สามารถทำได้...แต่เที่ยวอวดอ้างตนว่ารู้มากกว่าใครๆ...มันน่าสมเพชยิ่งนัก...พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้ขัดเกลาจิตใจตน...ไม่ได้สอนให้ท่องจำตำราหรือคัมภีร์ใดๆ...พระองค์ไม่ได้สอนให้เพ่งโทษบุคคลอื่น..

 

ธรรมทั้งหลายสรุปย่อได้ว่า อย่าประมาท

 

มีใครอยากเป็นพญาอินทรีย์บ้าง...รีบแสดงตัวให้รู้ทีเดียวเลย...เราจะได้รู้จักพร้อมกันวันนี้เลย...เราขี้เกียจสนทนากับพญาอินทรีย์....เรามันแค่ไก่ชนผู้ต่ำต้อย...ไม่บังอาจไปยุ่งกับพญาอินทรีย์

 

ไก่ชนผู้ต่ำต้อย หรือไก่ฟ้าพญาลอ

 

" ค้นคว้าอยู่ในธาตุสี่ ขันธ์ห้า วางธาตุสี่ ขันธ์ห้านี้ได้แล้วละก็ภาวนาสงบดี
ครั้นเวทนาดับลง สัญญาดับลง วิญญาณดับลง รูปธรรมส่วนสมมุติเป็นดิน เป็นน้ำ เป็นไฟ เป็นลม วางได้แล้วมันก็สบาย จิตก็สงบลง.."

หลวงปู่แหวน สุจินโน
เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า

 

ว่าไงฮับ พยาธรรม

วันนี้ พ่อโกรธจัด จนเมตตาโยนชามข้าวให้กิน
จนอิ่มแปร้ รึไงครับ ถึงได้มี ปัญญาญาน
ถึงเพียงนี้