เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

แต่สำหรับเราอย่ามาแหย่นะ...ถ้าแหย่ถูกจุดจะโมโห...เมื่อโมโหแล้วจิตจะตื่น...เมื่อจิตตื่นแล้วเท่ากับพระยาธรรมจุติ...เมื่อพระยาธรรมจุติ...จะมีทั้งผู้ชดใช้กรรมและผู้ได้ฟังธรรม

 

ในชีวิตจริงก็เป็นบททดสอบ...ก็มีผู้คอยจดกรรมดีกรรมชั่วอยู่ตลอดเวลา...กรรมชั่วก็ฝ่ายนรกเป็นผู้จดบันทึก...กรรมดีก็ฝ่ายสวรรค์เป็นผู้จด...เราถึงได้บอกเป็นประจำว่า...แค่คิดก็มีคนรู้...ความคิดเราทุกคนจะไปปรากฏอยู่ในสมุดจดบันทึกนั้นแหละ

 

พวกท่านยังไม่รู้อยู่มาก...
เรื่องกฏของ3แดนโลกธาตุ...กฏแห่งกรรมมันลึกลับซับซ้อน....แม้แต่หลวงปู่มั่นยังตอบไม่ไดั..ให้พึงระวัง

 

ผมว่าถ้าในกระทู้ ก็ท่านสงบนี้แหละ สอบผ่าน ครองจิตใจผู้คน

 

เราก็แนะนำไปเรื่อย...ใครฟังเราก็ได้ประโยชน์....ใครไม่ฟังหรือไม่สนใจก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...บางคนก็ว่าเราอยากเด่นอยากดัง...แต่เราไม่มีความคิดแบบนั้นเลย...ก็เรารู้หน้าที่เราคืออะไร...เรามาเกิดทำไม...เราตามหาคำตอบว่าเราเกิดมาทำไมตั้งแต่เด็กๆแล้ว...ที่เราแนะนำอยู่ทุกวันนี้จริงๆแล้วไม่ใช่หน้าที่เรา....เรารอเวลา...เรารอพี่เราออกจากคุกมาก่อน...เราถึงจะทำหน้าที่ของเรา....อันนี้สวรรค์ก็รับทราบ....แล้วมนุษย์ผู้มีกิเลสอยู่จะมาเร่งเราทำไม

 

การสอบ การส่งข้อสอบ มันเป็นภาษาของพระโพธิ์สัตว์บางกลุ่มน่ะครับ

ส่วนผมไม่ใช้กะเขา เพราะ ผมคิดว่าถ้าเราต้องสอบ แสดงว่าเรายังไม่พร้อมแล้วไปสอบ มันเป็นการฝืนตัวเอง เร่งรัดตัวเอง บางครั้งการเร่งตัวเองทำให้เรามองข้ามอะไรไป

แต่ก็ดีอย่าง คือ เขาได้ชนะตัวเอง

ส่วนผมน่ะเหรอ ทำไปเรื่อย ๆ ดีกว่า ค่อย ๆ ตอกเสาเข็ม วางรากฐาน ขึ้นโครง ก่ออิฐ โบกปูนมุงหลังคาดีกว่า เวลามีอะไรมากระทบกระเทือนจะได้สะทกสะท้านน้อยหน่อย ดีไม่ดีไม่สะทกสะท้านเลย

------------------------------------------------------------------------------------------------------
คนเราจะโง่บ้างไม่ได้เชียวเหรอ?

 

เราจะบอกทุกคน...ทุกวันให้แผ่เมตตาอุทิศบุญกุศลให้แก่สรรพสัตว์ทุกวันห้ามขาด...ถ้าลืมก็ให้ย้อนกลับไปอุทิศในสิ่งที่ได้ทำไปแล้ว....นี้จึงเรียกว่าพระโพธิสัตว์...ผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า....ไม่ใช่ประกาศปาวๆว่าเราต้องการเป็นพระพุทธเจ้า...อย่างท่านซา...อย่างนั้นไม่ถูกต้องตามหลักพระโพธิสัตว์....พูดไม่ทำมันจะสำเร็จได้อย่างไร

 

อย่างน้อยก็ทำให้ตัวเองมีกำลังใจครับ

อีกอย่าง ผมมองว่า ถ้าตนยังไม่มีเมตตา ไปแผ่ให้เขามันก็โกหกสิ

คิดดูก็แล้วกัน ว่าไอ้คนที่เบื่อโลกตลอดเวลาอย่างผมมีโทสะเจือด้วย ถ้าแผ่เมตตาออกไปแล้วสัตว์จะได้รับกระแสเมตตาหรือกระแสเบื่อโลกที่มีโทสะเจืออยู่

การแผ่เมตตาสำหรับผมมันข้ามขั้นไป ขั้นต่อไปของผมยังเป็นการทำเมตตาให้เกิดอยู่

 

ท่านเกิดมาแล้วกี่ภพกี่ชาติท่านรู้หรือเปล่า...พระพุทธเจ้าตรัสว่า..หาเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้....ในครั้งพุทธกาลท่านอาจจะเกิดเป็นศิษย์พระพุทธเจ้าก็ได้..เพียงแต่บารมียังไม่เต็มจึงไม่สำเร็จ..หรือท่านอาจจะปรารถนาให้พระพุทธเจ้าพยากรณ์ก็เป็นได้....นี้แหละที่เราว่าท่านมีปัญญาแต่มีโง่มาปิดบังไว้

 

ผมยังไม่รู้ก็ช่างมันปะไร เอาไว้รู้ค่อยกังวลยังไม่สาย

 

ผมสับสนทางโลกกับทางธรรม เหนื่อยกับการว่ายน้ำไปข้างหน้าและไหลไปตามกระแสน้ำ

 

ทางธรรมคือ ขึ้นจากกระแสน้ำ มานั่งมองบนตลิ่งครับ

บางคนหันหลังให้และเดินกลับบ้านแล้วก็มี

ผมน่ะเหรอ

ว่ายน้ำเล่น ตามกระแสบ้าง ทวนกระแสบ้าง
ขึ้นมามองดูเขาเล่นน้ำบ้าง แล้วก็กระโจนลงน้ำไปเล่นใหม่

บางทีก็เหนื่อยกะโลก
แต่
ถ้าอยากชวนคนกลับบ้านให้มากที่สุด ก็ต้องรู้เกี่ยวกับน้ำ และรู้วิธีชวนคนขึ้นจากน้ำให้มากที่สุด

 

แค่คิดก็เหนื่อยแล้วท่าน Za

 

เริ่มเล่าเรื่องในวัยเด็ก เผื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายๆคน
ตอนนั้นอายุสักประมาณ 13หรือ14 ประมาณนี้วัยรุ่นเลือดร้อน ดื้อรันเป็นที่สุด แม่ให้ไปทางขวา เราไปทางซ้าย ทำให้ท่านลำบากและเป็นทุกข์ใจสุดๆ แต่เราไม่ทิ้งการเรียนนะ ดื้อจนมีบุคคลท่านหนึ่งเข้าฝันมาเตือน เป็นชีพราหมณ์ชุดขาวชายหญิงอุ้มเด็กมาแล้วบอกเราว่า อย่าทำตัวไม่ดีเกเรกับบุพการีในอนาคตเจ้าจะลำบาก เพราะกว่าเจ้าจะได้มาเกิด ผู้หญิงคนนี้เป็นคนขอเจ้า จึงได้เกิด ตื่นจากความฝัน เก็บความสงสัยไว้หลายวัน แต่ความดื้อก็ลดลงนะนิดหนึ่ง ก็เลยลองถามท่านดูว่าตอนจะเกิดมีอะไรไหม แม่บอกว่าชอบไปนั่งแถวพระพรหมเอราวัณ และนึกอยากมีลูกเลยขอ และฝันว่ามีชายหญิงใส่ชุดพราหณ์สีขาวอุ้มเด็กทารกมาให้และฝากบอกว่าเลี้ยงดูให้ด้วย เราอุทานกับแม่ว่าเหมือนเราฝันเมื่อหลายวันเลย....แต่เราไม่ใส่ใจ แล้วจะกลับมาเล่าต่อว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราโตขึ้น

 

การเกิดมายังโลกมนุษย์ทุกภพทุกชาตินั้นคือการสอบ...มาได้ร่างกายไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์...คือการสอบ..การสอบคือการเรียนรู้โลกใบนี้...เรียนรู้เข้าใจได้มากก็เพิ่มขั้นขึ้นอีก....โลกใบนี้คือห้องเรียนของทุกดวงจิตดวง
วิญญาญ...มันไม่ใช่ว่าชาตินี้โง่ไม่เรียน..ชาตินี้ไม่เอา...อย่างนี้ไม่ใช่...เป็นความเห็นที่ผิด....ทุกคนเกิดมายืมเอาสมบัติของโลกมาใช้..ประกอบขึ้นเป็นร่างกาย...เราทุกคนจึงต้องมีผู้มีพระคุณคือโลกใบนี้...อันนี้ผู้มีปัญญาจะพิจารณาได้เองโดยไม่สงสัย

 

ท่านมันคนหัวดื้อ...เหมือนจะสอนยาก...แต่ท่านเข้าใจ...เพียงแต่ท่านดื้อแค่นั้นเอง...

 

เรียนน่ะเรียนครับ
แต่ถ้าไม่เข้าใจมันจะทำถูกหรือเปล่าล่ะ

อย่างภาวนา
ผมก็ไม่ชอบ แต่ก็ทำ

แผ่เมตตาไม่เป็น ก็ใช้วิธี กล่าวอุทิศบุญแทนไปก่อน ประมาณนั้นแหละ

แต่ก็ยอมรับแหละว่าผมยังมีความคิดผิด ๆ อยู่มาก ก็ช่างมัน ไม่อยากกังวล

 

สอบเสร็จแล้วผมขอลอกนะครับ ท่าน Za
ถ้าไม่ลอก จะผ่านหรอ

 

ท่านค้นหาตัวเองให้เจอสิ...ท่านจะลอกใครได้...ใจมีอยู่แล้ว...ดูที่ใจตนสิ..ข้อสอบและคำตอบมีอยู่แล้วที่ใจท่านนั้นแหละ...หาให้เจอ

 

กว่าผมจะได้สอบก็คงอีกหลายกัปนะครับ
ระหว่างนี้ก็เรียนรู้ไปก่อน สร้างความมั่นคงให้จิตใจไป

ที่จริงการสอบไม่มี
สิ่งที่เราเจอ สิ่งที่เราทำมันก็เป็นสิ่งที่ทดสอบเราไปในตัวอยู่แล้วครับ