เรื่องเด่น ความสำคัญของการมีกัลยาณมิตร,คุณสมบัติของกัลยาณมิตร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มาจากดิน, 31 พฤษภาคม 2017.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เมื่อ 100 ปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีตำรามากมายคนพุทธ
    ก็เยือกเย็นมีความยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม
    พระสงฆ์
    ครั้นพอมีตำราดีดี ออกมามากมาย
    หลายสำนัก พิมพ์ขายบ้างแจกบ้าง
    ชาวพุทธดูหมิ่นกัน สงสารกัน
    เพราะอ่านตำราดีดีเพียงแต่เป็น
    คนละเล่มคนละสำนัก
    มจด.ก็เป็นหนึ่งในคนประเภทนั้น
    แต่ลุงแมวไม่สงสารนะ ปล่อย
    ให้สร้างเวรและใช้กรรมไป
    หมดเมื่อไรก็เมื่อนั้น
     
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ต่อ


    พระภิกษุสงฆ์หรือสมณะชีพราหมณ์ ก็พึงทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรของชาวบ้าน ดังจะเห็นว่า หน้าที่ของพระภิกษุสงฆ์ต่อกุลบุตร ตามหลักทิศเบื้องบน ตรงกันทุกข้อกับลักษณะมิตรแท้ ประเภทมิตรแนะนำประโยชน์ จะว่าพระสงฆ์เป็นมิตรแท้ ประเภทมิตรแนะนำประโยชน์ ก็ได้ แต่หน้าที่ของพระสงฆ์นั้น มีเพิ่มมาอีก ๒ ข้อ รวมเป็น ๖ ข้อ คือ (ที.ปา.11/204/206)

    ๑. ห้ามปราม (สอนให้เว้น) จากความชั่ว
    ๒. (แนะนำสั่งสอน) ให้ตั้งอยู่ในความดี
    ๓. อนุเคราะห์ด้วยความปรารถนาดี (เพิ่ม)
    ๔. ให้ได้ฟังได้รู้สิ่งที่ยังไม่เคยรู้ไม่เคยฟัง
    ๕. (ชี้แจงอธิบาย) ทำสิ่งที่เคยฟังแล้ว ให้เข้าใจแจ่มแจ้ง (เพิ่ม)
    ๖. บอกทางสวรรค์ (สอนวิธีดำเนินชีวิตให้ประสบความสุข)

    หน้าที่ของพระสงฆ์นี้ เป็นไปตามความสัมพันธ์ต่อกันระหว่างพระสงฆ์กับชาวบ้าน ดังพุทธพจน์ว่า

    "ภิกษุทั้งหลาย พราหมณ์คหบดี (ชาวบ้าน) ทั้งหลาย เป็นผู้มีอุปการะมากแก่เธอทั้งหลาย เป็นผู้บำรุงเธอทั้งหลายด้วย จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร

    "แม้พวกเธอ ก็จงเป็นผู้มีอุปการะมากแก่พราหมณ์คหบดีทั้งหลาย โดยแสดงธรรม อันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง แก่พราหมณ์คหบดีเหล่านั้น

    "ภิกษุทั้งหลาย คฤหัสถ์ และบรรพชิต อาศัยซึ่งกันและกัน อยู่ประพฤติพรหมจรรย์นี้ เพื่อมุ่งหมายจะสลัดเสียซึ่งโอฆะ เพื่อทำความจบสิ้นทุกข์โดยชอบด้วยประการฉะนี้

    "ผู้ครองเรือน และผู้ไร้เรือน ทั้งสองฝ่าย อาศัยซึ่งกันและกัน ย่อมบำเพ็ญให้สัมฤทธิ์ซึ่งสัทธรรม ที่เป็นโยคเกษมอันยอดเยี่ยม ฯลฯ (ขุ.อิติ. 25/287/314)

    และมีพุทธพจน์อีกแห่งหนึ่ง ยืนยันการช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ชาวบ้าน (โดยทางที่ชอบธรรม) ว่า

    "ถูกอย่างนั้น นายบ้าน ตถาคตสรรเสริญการเอื้อเอ็นดู สรรเสริญการช่วยรักษา สรรเสริญการอนุเคราะห์แก่สกุลทั้งหลาย โดยอเนกปริยาย" (สํ.สฬ.18/621/399)


    อย่างไรก็ตาม ความเป็นกัลยาณมิตรของพระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆทางธรรม ด้วยเมตตากรุณาแก่ชาวบ้านดังกล่าวมานี้ ก็จะต้องคงรักษาลักษณะพิเศษแห่งความมีชีวิตที่เป็นอิสระ และความเป็นสมณะไว้ด้วย มีให้กลายเป็นการคลุกคลีกับคฤหัสถ์ ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียแก่ทั้งสองฝ่าย คือกลายเป็นเครื่องขัดขวางความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมของตนเอง และทำให้ชาวบ้านขาดที่พึ่ง เพราะมีแต่คนที่ยังวุ่นวายตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับพวกเขา ไม่มีหลักที่จะช่วยเหนี่ยวออกไปให้พ้นจากความสับสนวุ่นวายได้


    ลักษณะความสัมพันธ์ผิดพลาด ที่พระสงฆ์กลายเป็นผู้ตกลงมาอยู่ในสภาพวุ่นวายติดแหติดอวนอยู่เดียวกับชาว บ้าน หมดความสามารถที่จะช่วยดึงชาวบ้านออกไปสู่ความเป็นอิสระ เช่นนี้ ท่านเรียกว่าเป็นอาการที่ถูกมนุษย์จับไว้ ดังพุทธพจน์ว่า

    "ดูกรภิกษุ การถูกมนุษย์จับไว้เป็นไฉน ? กล่าวคือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้คลุกคลีกับคฤหัสถ์ทั้งหลาย รื่นเริงด้วยกัน โศกเศร้าด้วยกัน เมื่อเขาสุข ก็พลอยสุขไปกับเขา เมื่อเขาทุกข์ก็พลอยทุกข์ไปกับเขา เมื่อเขาเกิดกิจธุระขึ้น ก็เข้าจัดแจง (เจ้ากี้เจ้าการ) ด้วยตนเอง นี้เรียกว่า ถูกมนุษย์จับไว้" (สํ.สฬ.18/323/225)
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ขังตัวเองอยู่ในกระทู้ที่ตั้งเองนี่แหละดีแล้ว
    อย่าไปป่วนชาวบ้านอีกล่ะ
    คงไม่มีใครเขามาป่วนกระทู้ปี้นี้หรอก
    เดินทาถูกทางแล้วนะ
    ลาก่อย ขอให้มีลูกค้าเยอะๆ
     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ต่อ

    เมื่อปฏิบัติหน้าที่ในด้านการสั่งสอนโดยตรง กัลยาณมิตรควรดำรงอยู่ในหลักปฏิบัติที่เน้นความบริสุทธิ์ ความมีเมตตา และความจริงใจต่อไปนี้ด้วย

    หลักปฏิบัติหมวดแรก เรียกชื่อว่า ธรรมเทศกธรรม แปลว่า ธรรมของผู้แสดงธรรม มี ๕ ประการ จับความได้ ดังนี้

    ๑. อนุปุพพิกถา สอนให้มีขั้นตอนถูกลำดับ คือ แสดงหลักธรรมหรือเนื้อหา ตามลำดับความยากง่ายลุ่มลึก มีเหตุผลสัมพันธ์ต่อเนื่องกันไปโดยลำดับ


    ๒. ปริยายทัสสาวี จับจุดสำคัญมาขยายให้เข้าใจเหตุผล คือ ชีแจงให้เข้าใจชัด ในแต่ละแง่แต่ละประเด็น อธิบายยักเยื้องไปต่างๆ ให้มองเห็นกระจ่างตามแนวเหตุผล


    ๓. อนุทยตา ตั้งจิตเมตตาสอนด้วยความปรารถนาดี คือ สอนเขาด้วยจิตเมตตา มุ่งให้เป็นประโยชน์แก่ผู้รับคำสอน


    ๔. อนามิสันดร ไม่มีจิตเพ่งเล็งมุ่งเห็นแก่อามิส คือ สอนเขามิใช่มุ่งที่ตนจะได้ลาภ สินจ้าง หรือผลประโยชน์ตอบแทน


    ๕. อนุปหัจจ์ วางจิตตรง ไม่กระทบตนและผู้อื่น คือ สอนตามหลักตามเนื้อหา มุ่งแสดงอรรถแสดงธรรม ไม่ยกตน ไม่เสียดสีข่มขี่ผู้อื่น


    มีพุทธพจน์เกี่ยวกับการสอน ที่บริสุทธิ์ และไม่บริสุทธิ์ ดังนี้

    "ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุรูปหนึ่งรูปใด แสดงธรรมแก่ผู้อื่น โดยมีจิตคิดอย่างนี้ว่า ขอให้คนทั้งหลายพึงฟังธรรมของเรา แลครั้นฟังธรรมแล้ว พึงเลื่อมใส ขอให้ผู้ที่เลื่อมใสแล้ว พึงกระทำอาการแห่งผู้เลื่อมใส แก่เราด้วยเถิด ธรรมเทศนาของภิกษุเช่นนี้ ไม่บริสุทธิ์

    "ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดแล ย่อมแสดงธรรมแก่ผู้อื่น โดยมีจิตคิดอย่างนี้ว่า ธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว ผู้ปฏิบัติบรรลุเห็นได้เอง ไม่ขึ้นกับกาล ควรเชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ ควรน้อมเข้ามาไว้ในใจ อันวิญญูชนพึงรู้ได้จำเพาะตน ขอให้คนทั้งหลายพึงฟังธรรมของเรา ครั้นฟังแล้ว พึงเข้าใจธรรมทั่วชัด และครั้นเข้าใจทั่วชัดแล้ว พึงปฏิบัติเพื่อเป็นเช่นนั้นเถิด ดังนี้

    "เธอย่อมแสดงธรรมแก่ คนอื่นๆ เพราะอาศัยความที่ธรรมเป็นธรรมดี...เพราะอาศัยความการุณย์...เพราะอาศัยความเอื้อเอ็นดู...เพราะอาศัยความปรารถนาดี ธรรมเทศนาของภิกษุเช่นนี้บริสุทธิ์" (สํ.นิ.16/472/234)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2017
  5. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ไม่เคยป่วนกระทู้ใครนะ ยืนยัน ย้ำป่วนนะ ไม่เคย ไม่ชอบความเป็นอันธพาล แต่ถ้าเห็นว่า หลักมีอย่างนี้ๆแบบนี้ๆ ก็จะนำหลักการนั้นไปวางเทียบเคียงไว้ อันนี้ทำ

    แต่ถ้า จขกท. ไม่ต้องการให้ มจด.เข้าไปจริงๆ ให้ระบุชัดๆเบยว่า กระทู้นี้ ห้าม มจด.เข้ามาแสดง คคห. ในทุกกรณี ก็ไม่เข้าไป แต่จะหาวิธีอื่นๆเอา นั่นมันเป็นยังงั้น
     
  6. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    แต่เดี๋ยวก่อน....ลุงแมวไม่เคยก้าวล่วงหนังสือพุทธธรรมนะ เพราะที่บ้านก็มีเหมาะมากสำหรับนักศึกษา
    ศาสนาเปรียบเทียบและผู้ที่ต้องการอ่านเพื่อขยาย
    ความโดยละเอียดเพิ่มเติมหนังสือพระไตรปิฎก..

    เพื่อความเข้าใจเอาไปสอบธรรมจะได้เปรียบมาก

    แต่ไม่ควรเอาไปข่ม ชาวพุทธที่ไม่ได้อ่าน
    แบบที่ มจด.กำลังทำอยู่ สงสารบ้าง
    หดหู่น้ำตาจะไหลบ้าง เป็นการข่มและหยาม
    คนที่ไม่ได้อ่านหนังสือ มันไม่ได้เรื่อง
    นี่แค่หนังสือนะ
    ความคิดด้านอื่นมันคงเละจนไม่มีที่เปรัยบ
    ลาก่อย บ๊ายบ่าย
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ยังมาเถียงใครตั้งกระทู้ใหม่ขึ้นมา ก็จ้องหาจังหวะ
    ที่เขาสนทนา พอเห็นใกล้เคียงกับหัวเรื่องที่เตรียม
    ก็โดดทิ่มเลย เป็นมาทุกรอบ ไม่สำนึก
    ลุงแมวไม่ใส่ความคนนะ บอกอีกที

    จะมายุให้ จขกท.ทำสิ่งน่ารังเกียจ
    ก็ไม่ควรอักเข่นกัน ใครเขาจะต้องมาแสดง
    อาการกีดกันในพื้นที่สาธารณะ คิดได้ไฮ
    ผมฮงจินจิน
     
  8. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ต่อ


    แม้แต่หน้าที่ต่อศิษย์ ที่ครูอาจารย์ทั่วไป พึงปฏิบัติตามหลักทิศ ๖ ซึ่งมิได้เน้นในแง่ความบริสุทธิ์มากนัก ก็มีลักษณะทั่วไปในแนวเดียวกัน คือย้ำความมีเมตตา และการกระทำด้วยความตั้งใจจริง ดังข้อปฏิบัติต่อไปนี้ (ที.ปา.11/200/203)

    ๑. แนะนำฝึกอบรมให้เป็นคนดี

    ๒. สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง

    ๓. สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง

    ๔. ส่งเสริมยกย่องความดีงามความสามารถให้ปรากฏ

    ๕. สร้างเครื่องคุ้มภัยในสารทิศ (คือสอนให้ใช้ความรู้ทำงานได้จริง สามารถใช้หาเลี้ยงชีพเป็นอยู่ได้)

    คุณสมบัติของกัลยาณมิตรที่ควรย้ำไว้ในตอนท้ายมี ๒ ประการ ซึ่งอาจจะถือว่าเป็นคุณสมบัติของกัลยาณมิตรอย่างเลิศ คือ ความเป็นอยู่กระทำได้จริงในสิ่งที่สอนแก่ผู้อื่น หรือได้บรรลุผลสำเร็จนั้นๆ ด้วยตนเองแล้ว จึงสอนเรื่องนั้นแก่ผู้อื่น อย่างหนึ่ง และความอิสระ เมื่อจะช่วยผู้อื่น ตนเองไม่ติดนุงนังอยู่ในเครื่องผูกพันเดียวกันกับที่เขากำลังติดอยู่ อีกอย่างหนึ่ง อย่างแรกมีพุทธภาษิตตรัสไว้หลายแห่ง ยกตัวอย่าง เช่น

    "ทำตนนี่แหละ ให้ตั้งอยู่ในคุณความดีอันสมควรก่อน จากนั้นจึงค่อยพร่ำสอนผู้อื่น บัณฑิตไม่ควรมีข้อมัวหมอง

    "ถ้าพร่ำสอนผู้อื่น ฉันใด ก็ควรทำตน ฉันนั้น" (ขุ.ธ.25/22/36)


    คำเตือนอย่างนี้ โดยมากเพ่งไปในด้านความประพฤติ คือ เรื่องความดีความชั่ว

    ในด้านการบรรลุผลสำเร็จทางจิต และปัญญา ถ้าได้ผู้บรรลุแล้วมาเป็นกัลยาณมิตร ก็ย่อมเป็นการดีเลิศ

    ถ้าไม่ได้ ก็พึงหาผู้ก้าวไปไกลกว่า หรืออย่างน้อยเสมอกัน ดังพุทธพจน์ที่กล่าวมาแล้ว เพราะบุคคลผู้เป็นพหูสูตทรงความรู้ตามตำรา หรือตามที่เล่าเรียนมา บางท่านชี้แจงสั่งสอน ทำให้ผู้อื่นปฏิบัติบรรลุธรรมได้โดยที่ตัวผู้สอนเองหาบรรลุไม่ * (*พหูสูตเช่นนี้ ท่านเปรียบเหมือนนายโคบาลผู้เลี้ยงโคของคนอื่น ได้แต่นับจำนวนโค แต่ไม่มีส่วนได้ลิ้มเบญจโครส (ขุ.ธ.25/11/17...) หรือบางคราวผู้มีภูมิธรรมเสมอกันมาสนทนาสอบค้นธรรมด้วยกัน แล้วเลยพลอยบรรลุผลสำเร็จไปด้วยกัน * (*สํ.ข.17/225-230/154-162)


    คุณค่าหรือประโยชน์ที่สำคัญด้านหนึ่งของความมีกัลยาณมิตร ก็คือ การมีตัวอย่างที่ช่วยให้เกิดความมั่นใจว่า สิ่งที่กำลังปฏิบัติและมุ่งหมายนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้จริง บรรลุได้จริง และถ้าทำได้สำเร็จแล้ว จะได้รับผลดีจริง อีกประการหนึ่ง กัลยาณมิตรมีความรู้ความเข้าใจ มีประสบการณ์ในสิ่งที่ปฏิบัตินั้นดีกว่า จึงสามารถช่วยชี้แนะบอกแนวหรือวิธีการที่จะทำให้การปฏิบัติง่ายขึ้น หรือมีทางลัดมากขึ้น

    กัลยาณมิตรที่ได้บรรลุผลการปฏิบัติด้วยตนเองมาแล้ว ย่อมอำนวยคุณค่าหรือประโยชน์ที่กล่าวมานี้ได้เต็มที่ ทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดศรัทธา มีกำลังใจแรงกล้า จึงเป็นธรรมดาอยู่เอง ที่ควรจะเพ่งหวังกัลยาณมิตรที่มีคุณสมบัติสมบูรณ์เช่นนี้ก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2017
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    การปฏิบัติทางจิตทำไมต้องเอาหลักการมากมายไปข่มคนสอนคนเรียน ไม่เข้าใจหรือว่าเขาสามารถ
    ใช้อุบายได้หลายอย่างในการฝึกภาวนา....
    ทำไมต้องหลักจากหนังสือเสมอไป
    กูฮงง
    ลาก่อย..ไปแบบฮงฮง
     
  10. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    แล้วจะตั้งข้อรังเกียจผมทำมาย ผมอาบน้ำทุกวันนะ

    ถามนะ ลองตอบดู คือ ลุงแมว ฝั่งตัวอยู่ในบอร์ดนี่ ตั้งแต่ปี 2011 โพสต์ไป 6,810 โพลต์แล้ว มีพลัง + เยอะแยะ ลุงทำไปเพื่ออะไร
     
  11. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ว่าไปตามหลักข้อกัลยาณมิตร
     
  12. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ต่อ

    ส่วนความเป็นอิสระ มองได้ ๒ ด้าน คือ ด้านความเป็นอยู่ หรือ ระบบการดำเนินชีวิต และความเป็นอิสระในจิตใจ

    ความเป็นอิสระนี้ เป็นสิ่งสำคัญ เหมือนอย่างที่กล่าวแล้วเกี่ยวกับภิกษุผู้คลุกคลีกับคฤหัสถ์ข้างต้น ผู้ที่ติดอยู่ในเครื่องผูกมัดจองจำอย่างเดียวกับเขา หรือว่ายวนอยู่ในกระแสน้ำเชียว ในเกลียวคลื่นเดียวกับคนอื่น แม้แต่ตนเองก็ยังช่วยไม่ได้ จะช่วยปลอดเปลื้องหรือรื้อถอนผู้อื่นมาได้อย่างไร


    คนที่ติดอยู่ใน ระบบที่ผูกรัดกดดันทางด้านความเป็นอยู่ การอาชีพของตน และครอบครัว ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดเฉพาะตน และจำเพาะครอบครัวของตน เหมือนกันกับคนอื่นๆ เมื่อสังคมเกิดปัญหา ย่อมยากที่จะมีเวลามีความคิดมาอุทิศให้แก่การไถ่ตอนคนอื่นๆ หรือที่จะนำผู้คนออกไปสู่แนวทางใหม่ๆได้ เมื่อพยายามทำ ก็มักเข้าแนวที่ว่ากันว่า พายเรือเวียนวนอยู่ในอ่าง ยิ่งเมือทั้งระบบความเป็นอยู่ ทั้งจิตใจ ล้วนไม่เป็นอิสระทั้งสองอย่าง ก็ยิ่งประสบความสำเร็จได้ยาก

    ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระบบสงฆ์ให้เป็นชุมชนอิสระ มีความเป็นอยู่หรือระบบการำเนินชีวิตเป็นอิสระจากระบบของสังคมใหญ่ ดังจะเห็นได้จากวินัย ที่เป็นเครื่องจัดระบบแบบแผนของสงฆ์

    เมื่อมีระบบชีวิตความเป็นอยู่เป็นอิสระด้วย และมีจิตหลุดพ้นเป็นอิสระเป็นพื้นฐานด้วย ก็จะทำให้สงฆ์เป็นชุมชนอิสระ ที่ช่วยชักนำสิ่งที่งามถูกต้องเข้ามาให้แก่สังคมส่วนใหญ่อย่างได้ผล และสามารถเป็นเหล่าที่พึงอาศัย ช่วยให้ความเป็นอิสระระดับต่างๆ แก่คนในสังคมใหญ่นั้นด้วย มีพุทธพจน์แห่งหนึ่งตรัสไว้ ดังนี้

    "ดูกรจุนทะ ผู้ที่ตนเองก็จมอยู่ในโคลนเลนอันลึก จะช่วยฉุดยกคนอื่นที่จมอยู่ในโคลนเลนอันลึกขึ้นมาได้นั้น ข้อนี้ มิใช่ฐานะที่จะเป็นไปได้

    "ผู้ที่ตนเองไม่จมอยู่ในโคลนเลนอันลึก จะช่วยฉุดยกคนอื่นที่จมอยู่ในโคลนเลนอันลึกขึ้นมา ข้อนี้ จึงเป็นฐานะที่เป็นไปได้

    "ผู้ที่ตนเองมิได้ฝึก มิได้อบรม ยังไม่หายร้อนกิเลส จักฝึก จักอบรม จักทำคนอื่นให้หายร้อนกิเลส ข้อนี้ มิใช่ฐานะที่จะเป็นไปได้

    "ผู้ที่ตนเองฝึกแล้ว อบรมแล้ว ดับร้อนกิเลสแล้ว จักฝึก จักอบรม จักทำคนอื่นให้หายร้อนกิเลส ข้อนี้ จึงจะเป็นฐานะที่เป็นไปได้" (ม.มู.12/108/81)

    เพื่อรักษาระบบชีวิตของพระสงฆ์ให้คง สภาพเป็นอิสระไว้ให้ได้มากที่สุด มีพุทธพจน์อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอาจถือได้ว่า เป็นหลักแสดงจรรยาบรรณของนักบวช ความว่า

    "บรรพชิต ไม่พึงเที่ยววุ่นทำไปทุกอย่างไม่เลือก (น วายเมยฺย สพฺพตฺถ - ตามรูปศัพท์แปลว่า ไม่พึงพยายามในที่ทั้งปวง หรือในเรื่องทุกอย่าง) ไม่พึงเป็นคนของคนอื่น ไม่พึงอาศัยผู้อื่นเป็นอยู่ และไม่พึงเอาธรรมมาค้าขาย" (ขุ.อุ.25/134/179)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2017
  13. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ข้าพเจ้า พออนุมานได้นะ ว่าทำไมลุงแมวถึงไม่อยากให้ ข้าฯ ไปที่กระทู้อื่นๆ :D
     
  14. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    +++ คนอย่าง ไอ้ยัดแมง "มาจากดิน" อยู่ไปก็รกโลก ดีแต่ "ปากหมาอยู่ในเวป"
    ....

    อยู่ๆก็นึกถึงพุทธภาษิตนี้ขึ้นมา

    หีนํ ธมฺมํ น เสเวยฺย - ปมาเทน น สํวเส
    มิจฺฉาทิฏฺฐิ น เสเวยฺย
    - น สิยา โลกวฑฺฒโน.

    บุคคลไม่พึงเสพธรรมอันเลว ไม่พึงอยู่ร่วมด้วยความประมาท
    ไม่พึงเสพความเห็นผิด ไม่พึงเป็นคนรกโลก.

    เพลงชุดพุทธภาษิต "ไม่พึงเป็นคนรกโลก"

     
  15. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    กฏมีไว้แหก...555
     
  16. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เล่นเพลง เสียงคลิป วิดิโอธรรมะเล่นได้หมดแหล่ะ
    แต่ไม่ใช่ตรงนี้....เขาจัดพื้นที่ไว้ให้แล้ว
    จะแหกกฎโดยสุจริตใจทำไม
     
  17. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    (ที่ถาม คคห.บนมองไม่เห็น ทีนี้มองเห็นเลย)

    ขออภัย เห็นว่า มันเข้ากับรกโลก ซึ่งอยู่ตรงนี้ :p

    ลุงแมว ตอบสิครับถามเนี่ย

    ถามนะ ลองตอบดู คือ ลุงแมว ฝังตัวอยู่ในบอร์ดนี่ ตั้งแต่ปี 2011 โพสต์ไป 6,810 โพลต์แล้ว มีพลัง + เยอะแยะ ลุงทำไปเพื่ออะไร
     
  18. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ไม่เยอะแยะหรอกผมเห็น คนอยู่สั้นๆได้คะแนน
    หลักแสนตั้งหลายคน
    ทีแรกก็คิดว่ามันมีความหมายอะไรสักอย่าง
    แต่ดูๆไปก็ไม่มีอะไรมาก ตอนนี้ไม่เคยสนใจตัวเลข
    นั้นว่าจะเป็นเท่าไร ทั้งวันไม่เคยมองเลย
    ได้แต่คิดว่าจะเขียนข้อความอะไรลงมา แล้วคนไม่ด่า
    แค่นั้นเองฮะ
     
  19. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านธรรมะบ้าง
    การเมืองบ้างไปเรื่อยๆ
    เพื่อการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณภายใน
    และการเจริญเติบโตของสังคม แต่สังคมมันไปไม่
    ไหวแล้วฮะ มันเน่าแล้วที่ว่าโลกสวย มันสวยแต่เปลือกข้างในเน่าหมดแล้ว

    จึงขอแค่ยกระดับจิตวิญญาณตัวเอง
    เพื่อให้เข้าใจโลกและไม่คับแค้น ไม่ช้ำเติมโลก
    แต่อาจประท้วงคนที่มีท่าทีจะซ้ำเติมโลกครับ
     
  20. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    มจด.อ่านแล้วเข้าใจไหม...ถ้าเข้าใจก็เก็บฉาก
    รื้อพื้นกระดานขนกลับบ้านได้แล้วมันจบแล้ว
    ถ้ามีสติ มีปัญญาและคิดเป็น รออัลไรอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...