********ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...ขอกราบในหลวงด้วยเศียรเกล้า*********

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ญาณวโร นามะ, 14 กรกฎาคม 2016.

  1. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ให้บูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล หลากหลายรายการ พระเครื่องทั้งหมดที่ลงในกระทู้นี้ผมขอการันตรีพระแท้100% ผ่านการเช็คจากผู้เชี่ยวชาญในหลายกลุ่มแล้ว ทั่วประเทศครับรับประกันแท้ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน โดยไม่มีเงื่อนไขครับ (พระต้องกลับมาสภาพเดิมครับ)
    ***เงื่อนไข*** สมาชิกท่านใดจองพระ1รายการจะได้ของแถม1ชิ้น(พระ) ถ้าเช่ากี่องค์ก็จะได้ของแถมเท่าจำนวนที่เช่าครับ
    ***กติกา*** แจก...แถม...ซื้อ3แถม...1..เลือกเอาเลยในกระทู้...
    1.สมาชิกเลือกซื้อในกระทู้..3...รายการ จะแถมให้...1...รายการ...เลือกเอาเองในกระทู้ครับ...
    2.รายการที่แถมนั้นจะต้องราคาไม่เกินรายการที่ต่ำที่สุดใน...3...รายการ
    3.ส่วนสมาชิกท่านไหนเช่าเกินกว่า...6...รายการ..สามารถเลือกวัตถุมงคลรายการไนก็ได้แต่ต้องไม่เกินรายการที่แพงที่สุด

    ตัวอย่างเช่น...
    สมาชิก ...ก... ได้เช่าวัตถุมงคล 3 รายการ ราคา 800 / 650 / 1200 / สมาชิกท่านนี้สามารถเลือกรายการแถมได้..1..รายการ..ไม่เกินราคา 650 บาท (เลือกเอาเองในกระทู้เลย):cool::cool::cool:

    สมาชิก...ข.. ได้เช่าวัตถุมงคล 6 รายการ ขึ้นไป ราคา 450 / 300 / 500 / 850 / 1200 /1500 / สมาชิกท่านี้สามารถเลือกรายการแถมได้ 2 รายการ ดังนี้ ...รายการแถมที่..1..ราคาไม่เกิน 300 บาท / รายการแถมที่..2...ราคาไม่เกิน 1500 บาท (เลือกเอาเองในกระทู้เลย):cool::cool::cool:



    ท่านที่สนใจจองได้ไม่เกิน3วัน โอนเงินได้ที่รายละเอียดที่อยู่ด้านล่าง หลังจากโอนแล้ว รบกวนโทร.หรืออีเมล์มาบอกชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งด้วยครับ
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    - Pm
    - เบอร์โทร 0817933946
    ชำระเงินได้ที่
    ธ.กรุงไทย สาขา ศรีย่าน
    ชื่อบัญชี นายวรัญญู เล้ารัตนอารีย์
    เลขที่บัญชี 012-0-14398-4
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2016
  2. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    1.**สุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์***พระขุนแผนดาบฟ้าฟื้น พิธีเสด็จกลับปี11อ.ชุม,อ.นำ,ลพ.คง,ลพ.ปาล ประจุพลัง2วาระ 33วัน+7วัน7คืน สภาพสวยผิวเดิมๆ คราบฝ้าไขว่านเดิม พระรุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์มากๆครับท่านใดมีไว้บูชา จะพบกับความเจริญรุ่งเรือง พุทธคุณครอบครบทุกด้าน แบ่งให้บูชา 959 บาท***สมาชิกโทรมาจองครับ**

    พระขุนแผนเสด็จกลับ หลังดาบฟ้าฟื้น อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จังหวัดพัทลุง พิมพ์ใหญ่ปีกกว้าง เนื้อว่านสบู่เลือด ผสมผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้าง เมื่อปี พ.ศ.2511 เพื่อถวายแด่ พระอาจารย์แดง วัดอุทัยธรรม(วัดเขาถล่ม) จังหวัดชุมพร เพื่อนำไปออกช่วยที่วัดเขาถล่ม และส่วนใหญ่อาจารย์แดง ได้แจกลูกศิษย์ท่านที่ไปทหารภาคใต้ ซึ่งจัดสร้างพร้อมกันกับพระรูปเหมือนอาจารย์ทองเฒ่า และ ปิดตานอโม

    พุทธลักษณะของพิมพ์ คือ
    : ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระพุทธปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนด้านหลัง จารึกยันต์อักขระ และดาบไขว้กงจักร

    มีพุทธคุณที่เชื่อกันว่า
    : โดดเด่นมาก ทางด้านมหาอำนาจ, เลื่อนยศ-เลื่อนตำแหน่ง , ประมูลงาน, ด้านการเงินการทอง , การค้าการขายต่างๆมีโชคลาภอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็น มหาเสน่ห์, มหานิยมแก่ผู้ที่ได้เคยใช้ได้บูชามาแล้วมากมาย

    มวลสารที่นำมาสร้างประกอบด้วยผงวิเศษ ดังนี้
    - กรุสุพรรณบุรี-ผงพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง ผงพระขุนแผนไข่ผ่าซีก ผงพระเนื้อชินกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    - กรุสุโขทัย-พระเนื้อชิน พระเนื้อดิน กรุวัดมหาธาตุ พระผงหลวงพ่อโต วัดป่ามะม่วง ผงพระกรุวัดช้างล้อม ผงระกรุวัดป่ากล้วย ผงพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ผงพระกรุวัดพระเชตุพน ฯลฯ

    - กรุพิษณุโลก-ผงพระเนื้อดินเผา วัดสะตือ ผงพระเนื้อดินเผา วัดท่ามะปราง ผงพระเนื้อดินเผา วัดจุฬามณี ผงพระกรุวัดชีปะขาว ผงพระอาจารย์แปลก วัดราชบูรณะ ผงพระกรุวัดนางพญา ผงพระกรุวัดอรัญญิก ผงพระพุทธรูปที่ชำรุด วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    - กรุนครศรีธรรมราช-ผงพระคัมภีร์พระไตรปิฎก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผงตะไคร่พระเจดีย์ทุกองค์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผงพระหักกรุวัดท่าเรือ ผงอิฐพระเจดีย์วัดท่าเรือ ผงพระเนื้อดินเผากรุวัดนางตรา ผงวัดท้าวโคตร ผงว่าน 108 ของพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช

    - กรุเพชรบูรณ์-ผงดินพระหัก เจ้าพ่อหลักเมือง ผงดินพระป่นวัดเสือ ผงดินหักป่นวัดช้างเผือก ผงดินพระหักป่นวัดพระแก้ว ผงดินพระหักป่นวัดมหาธาตุ

    - กรุพัทลุง-ผง ดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคูหาสวรรค์ ผงอิทธิเจพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) วัดดอนศาลา ผงพระหักป่นวัดเขาเจียก ผงดินท้องถ้ำเขาไชยสน ผงดินดิบสมัยศรีวิชัยถ้ำอกทะลุ

    - กรุลำพูน-ผงพระรอดมหาวัน ผงพระเปิม ผงพระสาม หรือพระตรีกาย และยังมีผงพระกรุอื่นๆ อีกจำนวนมาก ตลอดจนว่านหลายชนิด เช่น

    - ว่านจำพวกเมตตามหานิยม และมหาลาภ ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว ว่านเสน่ห์จันทน์แดง ว่านนางคุ้ม ว่านนางกวัก ว่านเศรษฐี ว่านนางล้อม ว่านโบตั๋น ว่านขอทอง ว่านขอเงิน ว่านขอลาภ ว่านน้ำเต้าทอง ว่านโป๊ยเซียน ฯลฯ

    - ว่านจำพวก คงกระพันชาตรี ว่านสามพันตึง ว่านพระยาดาบหัก ว่านหอกหัก ว่านคางคก ว่านมหาเมฆ ว่านมหานิล ว่านไพลดำ ว่านสบู่เลือด ว่านเพชรตาหลีก ว่านมหากาฬ ว่านมหาปราบ ว่านขมิ้นดำ ว่านสากเหล็ก ว่านเขาควาย ว่านพระเจ้าห้าพะองค์ ว่านหนุมาน ว่านประกายเหล็ก ว่านกระชายดำ ว่านกำแพงเพชรเจ็ดชั้น

    - ว่านจำพวกกำลังมาก ว่านพญาราชสีห์ ว่านเสือ ว่านม้า ว่านนิลล้อม ว่านพญาช้างสาร ว่านพญาช้างชัก ว่านถอนโมกขศักดิ์

    - ว่านจำพวกการสิทธิ์เทวดารักษา ว่านพระจันทร์ ว่านพระอาทิตย์ ว่านพระมเหศวร ว่านพระนารายณ์ ว่านพระนางมาควดี ว่านตาลปัตรฤาษี ว่านแสงไฟ ว่านกายสิทธิ์ ว่านพญานาค ว่านพญาหมอก ว่านไมยราบ ว่านพระฤาษีประสมยา ว่านปู่เจ้าสมิงพราย ว่านปู่เจ้าเขาเขียว

    ว่านที่นำมาเมื่อไปเอาต้องดูฤกษ์ยาม และต้องทำพิธีสังเวยบวงสรวงก่อนจึงนำมาใช้ได้ น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่นำมาประสมว่าน และมวลสาร
    1.น้ำพระพุทธมนต์ในพระราชวังหลวง170ปี
    2.น้ำพระพุทธมนต์ทำสังคายนา 25 พุทธศตวรรษโดยพระเถระทั่วโลก 2500 องค์ประเทศพม่า
    3.น้ำพระพุทธมนต์ 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร
    4.น้ำพระพุทธมนต์ 25 พุทธศตวรรษท้องสนามหลวง
    5.น้ำพระพุทธมนต์ วัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
    6.น้ำพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    7.น้ำในสระศักดิ์สิทธ์ต่างๆทั่วประเทศ มีสระแก้ว สระคง สระยมนา สระเกตุ สระจันทร์ สระพังเงิน สระพังทอง สระศักดิ์สิทธิ์จังหวัดเพชรบุรี
    8.น้ำมนต์หลวงพ่อเลื่อม วัดสามแก้ว ชุมพร พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศระรรมราช
    9.น้ำมนต์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี
    10.น้ำในมหานที9สาย
    11.น้ำในแม่น้ำ108บางทั่วประเทศ

    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2510 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดบ้านสวน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยพระคณาจารย์ รวม 108 อาจารย์ เชิญวิญญาณอาจารย์สมภารนอโมและวิญญาณอาจารย์เฒ่า เข้าประทับทรงปลุกเศก เกิดเป็นตัวต่อจำนวน 1,000 ตัว มาปิดรอบปริมณฑลพิธี มีความอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน รายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    1.หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    3.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
    4.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    5.พระครูกาชาด(บุญทอง) วัดดอนศาลา
    6.หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน
    7.พระไชย วัดบ้านสวน
    8.พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
    9.พระครูกาชาด วัดอินทราวาส
    10.พระอาจารย์เล็ก วัดประดู่เรียง
    นอกจากนั้นยังมีศิษย์ฆราวาสสายวัดเขาอ้อ เช่น อาจารย์ชุม ไชยคีรี นายแจ้ง นายแคล้ว ฯลฯ ได้ปลุกเสกไปจนถึงรวมระยะเวลา 33 วัน

    พิธีพุทธาภิเษก7วัน7คืน วาระที่ : 2
    - เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2511 ประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ณ วัดถ้ำเขาเงิน จังหวัดชุมพร รายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    1.หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    3.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
    4.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    5.พระครูกาชาด(บุญทอง) วัดดอนศาลา
    6.หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน
    7.พระไชย วัดบ้านสวน
    8.พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
    9.พระครูกาชาด วัดอินทราวาส
    10.พระอาจารย์แดง วัดอุทัยธรรม(วัดเขาถล่ม)
    11.พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร
    12.ขุนพันธรักษ์ราชเดช
    13.อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน เป็นต้น

    หลังเสร็จพิธี อาจารย์ชุม ได้นำพระไปปล่อยในทะเลปากน้ำหลังสวน ไกลจากพิธีประมาณ 50 กม. แล้วตั้งศาลาปะรำพิธี ขึงผ้าขาวขึ้น สวดอาราธนา บริกรรมคาถาขอให้นาคและเทวดาช่วยนำพระกลับมา แล้วพระเครื่องวัตถุมงคลที่ปล่อยลงในแม่น้ำหรือทะเลในระยะไกลหลายๆกิโลนั้นเสด็จกลับมาปรากฎอีกครั้งหนึ่ง ที่ปะรำพิธี ทีละองค์ๆจนครบถ้วนเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ศาลเทพารักษ์กลางน้ำ มีผ้าขาวขึงไว้กลางอากาศเหนือศีรษะ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เวลาที่พระเสด็จกลับ จะมีสายรุ้งพาดลงมาบนศาลเทพารักษ์ ในขณะที่พระเครื่องวัตถุมงคลกำลังเสด็จกลับมา ก็จะมารวมกันอยู่บนผ้า ผ้านั้นจะค่อยๆตึงหนักขึ้นเรื่อยๆ และมีน้ำไหลออกมา
    ในวันนั้นหลวงพ่อหมุนท่านทราบก่อนเป็นองค์แรกว่าพระกำลังเสด็จมาแล้ว ก็ได้บอกให้ อ.ณรงค์ฤทธิ์ บุตรของท่านอาจารย์ชุม ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็ก วิ่งไปบอกให้คนย่ำฆ้องเป็นสัญญาณว่าพระได้เสด็จกลับมาแล้ว

    **** มูลเหตุที่สร้างพระขุนแผนพิมพ์นี้ว่ากันว่าหลวงปู่คงตอนประทับทรงได้สั่งให้สร้างพระพิมพ์นี้ลักษณะนี้ขึ้นครับ และพิืมพ์นี้ยังเป็นต้นแบบของพระผงบารมี คงไชยชุม ที่สร้างขึ้นในปี12-13 ด้วย พระส่วนที่เหลือยังนำไปเสกเพิ่มเติมร่วมกับพิธีที่วัดบ้านสวน ดังนั้นบางท่านได้รับจากวัดบ้านสวนก็มีเช่นกันไม่ใช่เรื่องแปลก

    คาถาพระขุนแผน ของท่านอาจารย์ ชุม ไชยคีรี
    พระขุนแผน เป็นพระที่ทรงคุณทางเลิกรบ เลิกเบียดเบียฬ กันอาวุธทุกชนิดด้วย เมื่อจะใช้ให้ภาวนาคาถานี้
    นะร้องให้ๆ นะมาเข้าหา นะจิตตัง มานิมามา จิตังมานิมามา 3 จบ ทุกครั้ง

    ***แบ่งให้บูชา 959 บาท***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2016
  3. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    2.**สุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์***สร้างน้อย หายาก***ระรอด พิมพ์เล็ก พิธีเสด็จกลับปี11อ.ชุม,อ.นำ,ลพ.คง,ลพ.ปาล ประจุพลัง2วาระ 33วัน+7วัน7คืน สภาพสวยผิวเดิมๆ คราบฝ้าไขว่านเดิม พระรุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์มากๆครับท่านใดมีไว้บูชา จะพบกับความเจริญรุ่งเรือง พุทธคุณครอบครบทุกด้าน แบ่งให้บูชา 699 บาท***มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ***[/B]

    พระรอดพิมพ์เล็กเสด็จกลับ อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จังหวัดพัทลุง พิมพ์ใหญ่ปีกกว้าง เนื้อว่านสบู่เลือด ผสมผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้าง เมื่อปี พ.ศ.2511 เพื่อถวายแด่ พระอาจารย์แดง วัดอุทัยธรรม(วัดเขาถล่ม) จังหวัดชุมพร เพื่อนำไปออกช่วยที่วัดเขาถล่ม และส่วนใหญ่อาจารย์แดง ได้แจกลูกศิษย์ท่านที่ไปทหารภาคใต้ ซึ่งจัดสร้างพร้อมกันกับพระรูปเหมือนอาจารย์ทองเฒ่า และ ปิดตานอโม

    พุทธลักษณะของพิมพ์ คือ
    : ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระพุทธปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนด้านหลัง จารึกยันต์อักขระ และดาบไขว้กงจักร

    มีพุทธคุณที่เชื่อกันว่า
    : โดดเด่นมาก ทางด้านมหาอำนาจ, เลื่อนยศ-เลื่อนตำแหน่ง , ประมูลงาน, ด้านการเงินการทอง , การค้าการขายต่างๆมีโชคลาภอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็น มหาเสน่ห์, มหานิยมแก่ผู้ที่ได้เคยใช้ได้บูชามาแล้วมากมาย

    มวลสารที่นำมาสร้างประกอบด้วยผงวิเศษ ดังนี้
    - กรุสุพรรณบุรี-ผงพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง ผงพระขุนแผนไข่ผ่าซีก ผงพระเนื้อชินกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    - กรุสุโขทัย-พระเนื้อชิน พระเนื้อดิน กรุวัดมหาธาตุ พระผงหลวงพ่อโต วัดป่ามะม่วง ผงพระกรุวัดช้างล้อม ผงระกรุวัดป่ากล้วย ผงพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ผงพระกรุวัดพระเชตุพน ฯลฯ

    - กรุพิษณุโลก-ผงพระเนื้อดินเผา วัดสะตือ ผงพระเนื้อดินเผา วัดท่ามะปราง ผงพระเนื้อดินเผา วัดจุฬามณี ผงพระกรุวัดชีปะขาว ผงพระอาจารย์แปลก วัดราชบูรณะ ผงพระกรุวัดนางพญา ผงพระกรุวัดอรัญญิก ผงพระพุทธรูปที่ชำรุด วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    - กรุนครศรีธรรมราช-ผงพระคัมภีร์พระไตรปิฎก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผงตะไคร่พระเจดีย์ทุกองค์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผงพระหักกรุวัดท่าเรือ ผงอิฐพระเจดีย์วัดท่าเรือ ผงพระเนื้อดินเผากรุวัดนางตรา ผงวัดท้าวโคตร ผงว่าน 108 ของพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช

    - กรุเพชรบูรณ์-ผงดินพระหัก เจ้าพ่อหลักเมือง ผงดินพระป่นวัดเสือ ผงดินหักป่นวัดช้างเผือก ผงดินพระหักป่นวัดพระแก้ว ผงดินพระหักป่นวัดมหาธาตุ

    - กรุพัทลุง-ผง ดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคูหาสวรรค์ ผงอิทธิเจพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) วัดดอนศาลา ผงพระหักป่นวัดเขาเจียก ผงดินท้องถ้ำเขาไชยสน ผงดินดิบสมัยศรีวิชัยถ้ำอกทะลุ

    - กรุลำพูน-ผงพระรอดมหาวัน ผงพระเปิม ผงพระสาม หรือพระตรีกาย และยังมีผงพระกรุอื่นๆ อีกจำนวนมาก ตลอดจนว่านหลายชนิด เช่น

    - ว่านจำพวกเมตตามหานิยม และมหาลาภ ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว ว่านเสน่ห์จันทน์แดง ว่านนางคุ้ม ว่านนางกวัก ว่านเศรษฐี ว่านนางล้อม ว่านโบตั๋น ว่านขอทอง ว่านขอเงิน ว่านขอลาภ ว่านน้ำเต้าทอง ว่านโป๊ยเซียน ฯลฯ

    - ว่านจำพวก คงกระพันชาตรี ว่านสามพันตึง ว่านพระยาดาบหัก ว่านหอกหัก ว่านคางคก ว่านมหาเมฆ ว่านมหานิล ว่านไพลดำ ว่านสบู่เลือด ว่านเพชรตาหลีก ว่านมหากาฬ ว่านมหาปราบ ว่านขมิ้นดำ ว่านสากเหล็ก ว่านเขาควาย ว่านพระเจ้าห้าพะองค์ ว่านหนุมาน ว่านประกายเหล็ก ว่านกระชายดำ ว่านกำแพงเพชรเจ็ดชั้น

    - ว่านจำพวกกำลังมาก ว่านพญาราชสีห์ ว่านเสือ ว่านม้า ว่านนิลล้อม ว่านพญาช้างสาร ว่านพญาช้างชัก ว่านถอนโมกขศักดิ์

    - ว่านจำพวกการสิทธิ์เทวดารักษา ว่านพระจันทร์ ว่านพระอาทิตย์ ว่านพระมเหศวร ว่านพระนารายณ์ ว่านพระนางมาควดี ว่านตาลปัตรฤาษี ว่านแสงไฟ ว่านกายสิทธิ์ ว่านพญานาค ว่านพญาหมอก ว่านไมยราบ ว่านพระฤาษีประสมยา ว่านปู่เจ้าสมิงพราย ว่านปู่เจ้าเขาเขียว

    ว่านที่นำมาเมื่อไปเอาต้องดูฤกษ์ยาม และต้องทำพิธีสังเวยบวงสรวงก่อนจึงนำมาใช้ได้ น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่นำมาประสมว่าน และมวลสาร
    1.น้ำพระพุทธมนต์ในพระราชวังหลวง170ปี
    2.น้ำพระพุทธมนต์ทำสังคายนา 25 พุทธศตวรรษโดยพระเถระทั่วโลก 2500 องค์ประเทศพม่า
    3.น้ำพระพุทธมนต์ 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร
    4.น้ำพระพุทธมนต์ 25 พุทธศตวรรษท้องสนามหลวง
    5.น้ำพระพุทธมนต์ วัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
    6.น้ำพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    7.น้ำในสระศักดิ์สิทธ์ต่างๆทั่วประเทศ มีสระแก้ว สระคง สระยมนา สระเกตุ สระจันทร์ สระพังเงิน สระพังทอง สระศักดิ์สิทธิ์จังหวัดเพชรบุรี
    8.น้ำมนต์หลวงพ่อเลื่อม วัดสามแก้ว ชุมพร พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศระรรมราช
    9.น้ำมนต์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี
    10.น้ำในมหานที9สาย
    11.น้ำในแม่น้ำ108บางทั่วประเทศ

    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2510 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดบ้านสวน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยพระคณาจารย์ รวม 108 อาจารย์ เชิญวิญญาณอาจารย์สมภารนอโมและวิญญาณอาจารย์เฒ่า เข้าประทับทรงปลุกเศก เกิดเป็นตัวต่อจำนวน 1,000 ตัว มาปิดรอบปริมณฑลพิธี มีความอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน รายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    1.หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    3.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
    4.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    5.พระครูกาชาด(บุญทอง) วัดดอนศาลา
    6.หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน
    7.พระไชย วัดบ้านสวน
    8.พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
    9.พระครูกาชาด วัดอินทราวาส
    10.พระอาจารย์เล็ก วัดประดู่เรียง
    นอกจากนั้นยังมีศิษย์ฆราวาสสายวัดเขาอ้อ เช่น อาจารย์ชุม ไชยคีรี นายแจ้ง นายแคล้ว ฯลฯ ได้ปลุกเสกไปจนถึงรวมระยะเวลา 33 วัน

    พิธีพุทธาภิเษก7วัน7คืน วาระที่ : 2
    - เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2511 ประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ณ วัดถ้ำเขาเงิน จังหวัดชุมพร รายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    1.หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    3.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
    4.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    5.พระครูกาชาด(บุญทอง) วัดดอนศาลา
    6.หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน
    7.พระไชย วัดบ้านสวน
    8.พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
    9.พระครูกาชาด วัดอินทราวาส
    10.พระอาจารย์แดง วัดอุทัยธรรม(วัดเขาถล่ม)
    11.พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร
    12.ขุนพันธรักษ์ราชเดช
    13.อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน เป็นต้น

    หลังเสร็จพิธี อาจารย์ชุม ได้นำพระไปปล่อยในทะเลปากน้ำหลังสวน ไกลจากพิธีประมาณ 50 กม. แล้วตั้งศาลาปะรำพิธี ขึงผ้าขาวขึ้น สวดอาราธนา บริกรรมคาถาขอให้นาคและเทวดาช่วยนำพระกลับมา แล้วพระเครื่องวัตถุมงคลที่ปล่อยลงในแม่น้ำหรือทะเลในระยะไกลหลายๆกิโลนั้นเสด็จกลับมาปรากฎอีกครั้งหนึ่ง ที่ปะรำพิธี ทีละองค์ๆจนครบถ้วนเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ศาลเทพารักษ์กลางน้ำ มีผ้าขาวขึงไว้กลางอากาศเหนือศีรษะ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เวลาที่พระเสด็จกลับ จะมีสายรุ้งพาดลงมาบนศาลเทพารักษ์ ในขณะที่พระเครื่องวัตถุมงคลกำลังเสด็จกลับมา ก็จะมารวมกันอยู่บนผ้า ผ้านั้นจะค่อยๆตึงหนักขึ้นเรื่อยๆ และมีน้ำไหลออกมา
    ในวันนั้นหลวงพ่อหมุนท่านทราบก่อนเป็นองค์แรกว่าพระกำลังเสด็จมาแล้ว ก็ได้บอกให้ อ.ณรงค์ฤทธิ์ บุตรของท่านอาจารย์ชุม ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็ก วิ่งไปบอกให้คนย่ำฆ้องเป็นสัญญาณว่าพระได้เสด็จกลับมาแล้ว

    **** มูลเหตุที่สร้างพระขุนแผนพิมพ์นี้ว่ากันว่าหลวงปู่คงตอนประทับทรงได้สั่งให้สร้างพระพิมพ์นี้ลักษณะนี้ขึ้นครับ และพิืมพ์นี้ยังเป็นต้นแบบของพระผงบารมี คงไชยชุม ที่สร้างขึ้นในปี12-13 ด้วย พระส่วนที่เหลือยังนำไปเสกเพิ่มเติมร่วมกับพิธีที่วัดบ้านสวน ดังนั้นบางท่านได้รับจากวัดบ้านสวนก็มีเช่นกันไม่ใช่เรื่องแปลก

    คาถาพระขุนแผน ของท่านอาจารย์ ชุม ไชยคีรี
    พระขุนแผน เป็นพระที่ทรงคุณทางเลิกรบ เลิกเบียดเบียฬ กันอาวุธทุกชนิดด้วย เมื่อจะใช้ให้ภาวนาคาถานี้
    นะร้องให้ๆ นะมาเข้าหา นะจิตตัง มานิมามา จิตังมานิมามา 3 จบ ทุกครั้ง

    ***แบ่งให้บูชา 699 บาท***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2016
  4. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    3.***กรรมการ หายาก สร้างน้อย***เหรียญหลวงพ่อกวย หลังหนุมาน กะไหล่ทองพ่นทราย กรรมการ รุ่น ย้อนยุคปี 39 สภาพสวย เดิมๆ ให้บูชา 2199 บาท(พิธีใหญ่ ใช้แทนหลังหนุมานปี21ได้เลยครับ)

    กรอบทองไมครอนเดิมๆจากวัด สภาพสวยเดิมครับ สร้างน้อย หายากแล้วครับ

    ประสบการณ์เรื่องที่๑
    ผมทำงานที่ศูนย์การค้าสัญชาติฝรั่งแห่งหนึ่ง หลายอาจไม่ทราบกันว่าทุกห้างนั้น เล่นไสยศาสตร์มนต์ดำกันทุกห้างกันอยู่แล้ว แม้แต่ห้างฝรั่งก็ตาม เพราะต้องการเรียกลูกค้าหรือแย่งลูกค้ากันก็ตามที หลายเดือนมานี้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย มาตลอด อันที่จริงผมก็ทราบอยู่แล้วว่าผมโดน คุณไสย มนต์ดำ ลมเพลมพัด แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไรดี วันที่16/8/2549 ผมก็บังเอิญมาพบเวปบอร์ดนี้ วันที่19/8/2549 ก็เลยไปกราบพระศพหลวงพ่อกวย ก็เลยบูชาพระปรกโพธิ์ปี2539มา ช่วงเดินทางกลับกรุงเทพฯ ก็ปวดหัวตลอด เมื่อคืนนี้ก็เลยไหว้พระสวดมนต์ แล้วก็ชุมนุมเทวดา แล้วใช้พระปรกโพธิ์ รุ่น2539 ทำน้ำมนต์กินและอาบ หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผมก็รู้สึกว่าหายปวดหัวแบบปลิดทิ้ง รู้สึกโล่งสบายมากๆ ครับ นี่แหละครับ พุทธานุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพของหลวงพ่อกวย ที่ผมได้รับประสบการณ์

    ประสบการณ์เรื่องที่๒
    พระชุดนี้ พระเเละฆราวาส ตำผงกันเอง กดพิมพ์ที่วัด ใส่มวลสารเก่าๆของหลวงพ่อลงไปด้วย จัดพิธีปลุกเสกใหญ่มาก เกจิเก่งๆยุคนั้นมากันหลายท่าน
    ศิษย์หลวงพ่อ ตาสอน สมัยที่มาเผ้าศาลาหลวงพ่อ วันนึงไม่สบายนอนหลับ หลวงพ่อไปบอกที่หูว่า (ของที่พวกมึงทำ ของดีๆทั้งนั้น ทำไม่เอาไปใช้กัน) ตาสอนเลยไปหาพระรุ่นนี่มาคล้องคอเลยครับ
    พระรุ่นนี้ มีคนเช่าไปเเล้ววันนึงกลับมาเช่าอีกเป็นร้อยองค์ ทางวัดถาม เเกบอกว่า วันนึงคล้องพระรุ่นนี้ที่เช่าไปจากวัด ทำปืนลั่นใส่ตัวเอง มีเเต่เสียงเเชะ ก็เลยศรัทธาพระรุ่นนี้มากครับ วันที่ทำพิธีปลุกเสกพระรุ่นนี้ที่โบสถ์ของวัดบ้านเเค หลวงพ่อพร้าเล่าให้ฟังว่า ขณะปลุกเสก ท่านได้อธิษฐานจิต เชิญหลวงพ่อกวยมาร่วมปลุกเสกด้วย ท่านมองไปที่สายสิญ ซึ่งโยงมาจากโลงเเก้วของหลวงพ่อที่ศาลาหลังเก่า ท่านเห็นเเสงสีเขียววิ่งมาตามสายสิญ เข้าสู่กองวัตถุมงคลครับ


    เกล็ดข้อมูล
    เหรียญนี้พิธีปลุกเสกใหญ่ลองดูรายชื่อเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณดูครับ
    อีกทั้งหลวงพ่อกวยยังเคยกล่าวไว้ว่า “เมื่อกูตายไปแล้ว กูก็อยู่ที่วัดนี่ มึงตายแล้วตายอีกกูก็ยังอยู่ที่วัดนี่"
    ดังนั้นหลวงพ่อกวย มาร่วมปลุกเสกแน่นอน พุทธคุณไม่เป็นรองรุ่น 2521 เลย ย้อนยุคปีลึก


    สรุปสั้น ของดีๆจริงๆครับ ของหลวงพ่อรุ่นไหน เเบบไหน คล้องเดี่ยวได้สบายใจ**เสนอราคาให้บูชา 2199 บาท**
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2016
  5. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    4.**ของดี..หายาก สร้างน้อย**พุทธคุณสูงเหรียญมหาเศรษฐี (ชุดกรรมการ)หลวงพ่อพวง วัดน้ำพุสามัคคี หมาย เลข ๕๙สภาพสวย พร้อมกล่องเดิม[/B] **ให้บูชา พีเอมหรือโทรถามครับ**


    เหรียญมหาเศรษฐี

    เหรียญรูปใข่ ที่ห้ามมองข้าม ให้ดูเหรียญทูลเกล้าหลวงพ่อทบปี ๑๘ ให้ดีต่อไปเหรียญมหาเศรษฐีเหรียญนี้จะมีค่ามากเช่นเดียวกัน ฉนวนโลหะที่นำมาสร้างเหรียญมหาเศรษฐีมีมากมายคงไม่ต้องบรรยายเพราะเยอะจัดหลวงปู่พวงทั้งจารทั้งเสกมาเป็นปีๆทั้งลูกศิษย์หามาเพิ่ม อาทิ
    **ชนวนสำคัญ**
    แผ่นยันต์ ๑o๘ นะปัถมัง ๑๔ ในสายหลวงพ่อทบ
    ชนวนตะกรุดโทน หลวงพ่อทบ วัดชนแดน หลวงพ่ออ้วน วัดดงขุย หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อสี วัดถ้ำเขาบุญนาค หลวงพ่อเขียน สำนักขุนเณร หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อทิม วัดระหารไร่ หลวงปู่พวง วัดน้ำพุ
    เหรียญทูลเกล้า หลวงพ่อทบ
    เหรียญ ๙๔ หลวงพ่อทบ
    เหรียญโดดร่มหลวงพ่อทบ
    เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่พวง
    ชนวนมวลสารเหรียญหลวงปู่ละมัย สวนป่าสมุนไพร
    ชนวนมวลสารเหรียญหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
    ชนวนมวลสารเหรียญหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว
    ชนวนมวลสารเหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    ทองคำ เงิน นาค
    เขี้ยวหนุมาน
    ผงแร่เหล็กปากรูปูภูเขา (แม่เหล็กดูด)
    ผงวิเศษ สายสมเด็จลุน (พี่พรหมณี, มอบให้)
    เหล็กไหลตาน้ำ
    เหล็กไหล เพลิง (เม็ด)
    แร่บางไผ่ แร่บางม่วง
    แร่พลวงเงิน พลวงทอง
    หินเกล็ดแก้วนาคา จะมีพรายปรอท
    ปรอทเจ้าป่า ได้มาจากฝั่งเขมร (พี่พรหมณี, มอบให้)
    ปรอทเพชร ปรอทชมพูนุช หลวงปู่ละมัย
    แร่จ้าวน้ำเงิน
    พลอยพระพุทธบาท เขาคิชกุฏจันทบุรี
    เกล็ดแก้วนาคา
    ข้าวสารหิน (- ผงข้าวสารหิน )
    เพชรหน้าทั่ง
    แร่เหล็กไหล ก้อนดิบ
    ตะปูสังฆวานร มาจากอยุธยา อายุกว่า ๑oo ปี
    พระบูชานาคปรก เป็นอยุธยายุคต้น เนื้อสำริดหล่อ อายุกว่า ๕oo ปี
    พระพุทธรูปปางมารวิชัยพระปางอุ้มบาตร
    พระกริ่งหลาย คณะอาจารย์
    รูปหล่อหลาย คณะอาจารย์
    พระกริ่งคันธราช
    พระอุปคุตเขมร เนื้อสำริดเงิน
    รูปองค์หล่อเต็มองค์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ปี ๒๕๑๒
    รูปองค์หล่อ หลาย คณะอาจารย์
    พระร่วงหลังรางปืน ปี ๑๕
    พระร่วง ยุทธหัตถี สุพรรณบุรี ปี ๒๕๑๕
    พระร่วงหลังรางปืน ปี ๑๕ วัดพระธาตุดอยสุเทพ
    มีดหมอ สาย นครสวรรค์ ๒ เล่ม
    ตะกรุดเปิดฟ้า สายวัดป่า จ.อุบลราชธานี
    ลูกปืน
    แผ่นตะกรุด ยันต์เกราะเพชร ทองเหลือง
    แผ่น ยันต์ ๑o๘ แผ่น (ปลุกเสกหลายวาระ)
    แผ่น ยันต์หลายพระเกจิ ที่มีการนำมาถวาย นับได้ ๑๖๘ แผ่น
    พระสิวลีอุ้มทรัพย์
    ห่วงเหรียญพระ หลาย คณะอาจารย์
    เหรียญ ๙๙๙ พระเกจิอาจารย์

    นำมหาชนวนมาหลอมรีดจนหลวงปู่พวงพูดว่า “ กูไม่เสกก็ขลังแล้ว” หลวงปู่พวงได้อัญเชิญยันต์พระเจ้าห้าพระองค์สี่ทิศ นะ โม พุท ธา ยะ เป็นยอดยันต์แห่งตำนาน ตำหรับเก่าหลวงพ่อทบชนแดน มาลงหลังเหรียญมหาเศรษฐี ขอบารมีพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ กัปน์ ที่มีอำนาจมากบารมีสูงคลุมทั่วแสนโกฏจักรวาลช่วยคุ้มครองแก่ผู้ที่มีไว้บูชา ให้ใช้ดีทุกทาง รวยทุกทิศ ไปทางใหนมีแต่มิตร ศัตรูพินาศ
    **พุทธคุณ**
    หลวงปู่พวงบอกว่า เหรียญนี้มีดีนอกและดีในพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาลครบทุกด้าน เมตตามหานิยม แคล้วคลาดป้องกันภัย มหาเสนห์ มหาอุด ไล่ภูติผีกันเสนียดจัญไร ด้วยอำนาจพุทธานุภาพสามารถสงเคราะห์ผู้สักการะในด้านต่างๆได้ตามความปรารถนา ในนิมิตรขณะทำการปลุกเสกใหญ่ หลวงพ่อทบท่านมาด้วย ท่านบอกว่า “ เหรียญเศรษฐีมีทุกอย่างครบเครื่องแล้ว” เมื่อปี 55 เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่พวง ประสบการณ์ไม่ต้องพูด ถึงขวานฟันไม่เข้า รวยไม่รู้ตัว เจอกันมานักต่อนักแล้ว ราคาไปไกลเป็นสิบเท่าตัว ทุกวันนี้หายากยิ่งแทบไม่ต้องไปหากันแล้ว หาไม่เจอ รอบนี้หลวงปู่พวงตั้งใจสร้างเหรียญ รุ่นที่ ๒ ให้ชื่อว่า มหาเศรษฐี ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด !
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2016
  6. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    5.***กล่องกำมะหยี่..ชุดกรรมการ**พระไพรีพินาศลงทองเดิม วัดบวรนิเวศวิหารปี 2530ให้บูชา[/SIZE] 599 บาท
    พระไพรีพินาศหลัง ภปร.วัดบวรนิเวศวิหารปี 2530 วัตถุมงคลของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2530 เข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับกริ่งปวเรศ ปี พ.ศ. 2530 นั้น ปัจจุบันได้รับความนิยมมากมายจากผู้ที่ศรัทธาในองค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ อาทิ พระพิมพ์นางพญาเนื้อโลหะและเนื้อผงรุ่นทูลเกล้า พระผงไพรีพินาศหลัง ญ.ส.พิมพ์ใหญ่เล็ก พระผงไพรีพินาศหลังอักขระ สมเด็จเนื้อผงหลัง ญ.ส.ลายเซ็น กริ่งปวเรศและพระชัยวัฒน์ ปี พ.ศ. 2530 พระผงกลมรูปเหมือนหลัง ญ.ส.และพระผงไพรีพินาศหลัง ภปร. ในที่นี้จะกล่าวถึงพระผงไพรีพินาศหลัง ภปร. "พระผงไพรีพินาศหลัง ภปร." จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา

    **จัดสร้างโดยคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเป็นประธานจัดสร้าง และได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมพระกริ่งปวเรศรุ่น 2 ปี พ.ศ. 2530 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินในการประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเป็นประธานในพิธีและนั่งปรกอธิษฐานจิต โดยมีพระอาจารย์ ผู้ทรงศีลาจริยวัตร ร่วมพิธี 36 รูป จากภาคต่างๆ นั่งปรกอธิษฐานจิต
    **มวลสารสำคัญ**
    เนื้อหามวลสารที่สำคัญก็คือ มวลสารจิตรลดาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานมาให้พร้อมกันกับกริ่งปวเรศรุ่น 2 ฉะนั้น วัตถุมงคลที่จัดสร้างโดยคณะสงฆ์ของวัดบวรนิเวศวิหาร โดยเฉพาะเมื่อมีองค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ เป็นประธานจัดสร้าง ย่อมจะเชื่อมั่นได้เลยว่าจะต้องผสมมวลสารจิตรลดาแน่นอน การจัดสร้างมีอยู่ด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ด้านหน้าเป็นรูปพระไพรีพินาศมีลายสวยงามเหมือนจริง ด้านหลังมีพระนามาภิไธยย่อ ภปร. และ พ.ศ. 2530 พระไพรีพินาศรุ่นนี้นับว่าเป็นพระพิมพ์รุ่นหนึ่งที่บรรดานักสะสมวัตถุมงคลสายวัดบวรนิเวศวิหาร และนักสะสมวัตถุมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับพ่อหลวงของปวงชนชาวไทยจึงไม่ควรพลาด
    **พุทธคุณ***
    ส่วนพุทธคุณมีครบทุกด้านแน่นอน ทั้งเมตตาบารมีและแคล้วคลาด.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_1115.JPG
      DSC_1115.JPG
      ขนาดไฟล์:
      92.8 KB
      เปิดดู:
      119
    • DSC_1114.JPG
      DSC_1114.JPG
      ขนาดไฟล์:
      120.6 KB
      เปิดดู:
      138
    • DSC_1113.JPG
      DSC_1113.JPG
      ขนาดไฟล์:
      108.7 KB
      เปิดดู:
      150
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2016
  7. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    6. พระสมเด็จสามชั้น พระผงจักรพรรดิ์ผสมปูน หลวงปู่ดู่วัดสะแก หลังตรายาง สภาพสวย ให้บูชา 659 บาท **คุณchomkamonจองครับ**
    **พุทธคุณ**
    พระผงจักรพรรดิประโยชน์มากโดยเป็นพระที่ใช้ใน การทำกรรมฐานและบูชาติดตัวเพื่อคุ้มครอง เป็นศิริมงคลแก่ตนเองและเป็นพลังงานบุญ แก่ภพภูมิโดยรอบ หลวงปู่ดู่กล่าวไว้ว่าพระรุ่นนี้ที่มีผงจักรพรรดิ ของท่านป้องกันนิวเคลียร์ได้ (ถ้าขนาดนี้แล้วของเล็กกว่านิวเคลียเรื่องเล็กๆ) พระรุ่นนี้เหมาะสมเป็นอย่างมากในการเจริญกรรมฐาน หลวงปู่ดู่สมัยที่ท่านยังทรงธาตุขันธ์ อยู่ท่านสร้างพระผงออกมาเพื่อให้ ลูกศิษย์ได้ใช้ในการเจริญพระกรรมฐานให้ ก้าวหน้าได้โดยไวโดยเป็นการใช้พลังจากองค์พระ.
    **การนำพระมากรรมฐาน**
    **คาถาที่ใช้คู่ กับพระกำลังพระจักรพรรดิทุกรุ่น (รวมทั้งพระทุกองค์ที่สร้างด้วยสูตรและวิชาหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ) พระคาถามหาจักรพรรดิ นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา พุทโธธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชาสังฆะบูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ คาถาอาราธนาพระเข้าตัว สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (สวด 3 จบ หรือ 5 จบได้) คำกำหนดอธิษฐานจิต พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

    *** ฝึกจิต เร่งสมาธิ เร่งนิมิต เริ่ม ๑. ตั้งจิตอันสบาย ในที่อันสบาย แต่จิตอันสบายนั้นสำคัญที่สุด ๒. กำพระและกำหนดนึกรู้เห็นพระที่เราชอบเบาๆ ตามจริตชอบ ๓. วางลมหายใจสบาย ๆ ในกายที่เบาสบาย ๔. ภาวนาคาถาอย่างสบาย ๆ คลอไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องคิดอะไร ทำไปสบาย ๆเท่านั้น ๕. ไม่ช้าไม่นานนิมิตสบาย ๆจะเกิดแก่ท่านเอง สาธุ..... ใช้งาน ๑. ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ยามหลับ ยามตื่น ยามรู้ตัว ยามมิรู้ตัว ให้ภาวนาและตั้งองค์พระตลอด เผลอก็ช่างมัน เป็นเรื่องปกติ ตั้งต้นใหม่ ทุกครั้งเมื่อมีสติ อย่าบังคับ อย่าเกร็ง ให้ทำ สบาย ๆ ....... ๒. ยามจะหลับให้ภาวนาจนหลับ ยามตื่นให้รีบภาวนาจนมีสติดีแล้ว นึกถึงพระที่เราชอบ พร้อมทั้งอธิษฐานว่า ข้าพเจ้า ......(นามของท่าน)...ผู้เป็นข้ารับใช้แห่งพระพุทธองค์ ขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ และพระมหาจักรพรรดิ ตั่งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต โดยมีบารมีรวมของพระศรีอาริยะเมตตรัยเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะ พระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 ขอพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด .......ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะเมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวะการณ์ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใสและพยากรณ์ ได้ตามความเป็นจริงทุกๆประการ เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิต แม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด (ให้กำหนดอฐิษฐานให้ได้ทุกวัน จะกันเฝือได้ดีมาก) สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด) พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ ๓. ต่อไปก็อาศัยภาวนาเบา ๆ สบาย ๆ ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ยามหลับ ยามตื่น ยามรู้ตัว ยามมิรู้ตัว เฉกเช่นเดิมตลอดทั้งวัน เมื่อจะใช้งานหรือจะดูอะไรก็ ภาวนา คาถาอาราธนาพระเข้าตัว จากนั้นก็นึกถึงหลวงปู่ดู่ ขอบารมีท่านดูเอา ๔. เมื่อชินดี ได้นานพอ คล่องพอแล้ว คำอธิษฐาน " ....สามารถกำหนดจิต รู้ภาวะการณ์ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใสและพยากรณ์ได้ ตามความเป็นจริงทุกๆประการ เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิต แม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด..... " จะให้ผล ถือว่าได้วิชาแล้ว ต่อไปการใช้วิชาอื่น ๆ ก็จะตรวจสอบได้เอง ไม่ต้องงม ๆมืด ๆอีก ความคล่องตัวก็จะมีมากขึ้น เรื่องราวทางโลกทิพย์ก็จะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ๕. ข้อเตือนใจ เมื่อห่างครูบาอาจารย์ท่านจะเฝือ เมื่อเกิดอหังกา ท่านจะรู้เห็นผิด ขอจงอยู่อย่างพอเพียง อยู่อย่างนอบน้อม แม้มิร่ำรวยเงินทอง มิร่ำรวยชื่อเสียง เราก็มีความสุขได้ เราก็เป็นคนดีได้ เราก็สร้างประโยชน์ได้ ขอโมทนา ....สาธุ......
    ***สร้างประโยชน์ วิชานี้อาศัยบารมีพระท่าน เมื่อยืมบารมีท่าน ก็จงโปรดใช้คืนบ้าง พระท่านไม่ต้องการสิ่งใดมากไป กว่าให้ท่านเป็นคนดี รู้จักคิดถึงตัวเองและคนอื่นบ้าง สร้างประโยชน์ให้สาธารณะชนบ้าง ซึ่ง การสร้างประโยชน์นั้นคือวิชาลำดับขั้นต่อไปนั่นเอง โปรดติดตาม ขอโมทนา...... ใช้อธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรค หลักการ พระสูตรหลวงปู่ดู่ จะมีการแช่น้ำมนต์จักรพรรดิ ก่อน 3-15 วัน น้ำมนต์จักรพรรดินี้รักษาโรคและปรับธาตุ 4 ในร่างกายได้ดีมาก (ประสบการณ์ตรง) หากต้องการโปรดไปขอได้ที่วัดของหลวงตาม้าครับ เรื่องหวัดนก ที่เรากลัวกัน แม้กระทั่งเอดส์ นอกจากจะใช้วิชาของหลวงพ่อฤาษีในการป้องกัน รักษาแล้ว ก็สามารถใช้น้ำมนต์จักรพรรดิป้องกันและรักษาได้เช่นเดียวกัน (หลวงปู่ดู่ท่านทราบล่วงหน้า เรื่องโรคระบาดต่าง ๆ และได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าเช่นกัน) พระนี้ (โดยเฉพาะที่ยังไม่ได้เลี่ยมกรอบ) จึงใช้แช่น้ำมนต์รักษาโรคได้ทุกประการ ยิ่งได้ถ้าได้ใช้ร่วมกับเหรียญทำน้ำมนต์ สูตรหลวงปู่ดู่ ซึ่งตอนนี้อหลวงตาม้าเท่านั้น ที่สืบทอดวิชามา เท่านั้นที่ทำได้ + กับวิชาการรักษาโรคของหลวงปู่แล้ว จะหายได้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่หนักหนานัก ลองเพียงแค่สูตรที่ผมกำลังแนะนำนี้สิครับ .... วิธีการ ๑. ให้นำพระเลี่ยมก็ได้ไม่เลี่ยมก็ได้ไม่ต่างกัน มากำสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ 7 จบ แล้ว อธิษฐานว่า ข้าพเจ้าผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนา ขออัญเชิญบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ นับตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีพระบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด (อันนี้จำเป็นต้องขอบารมี ท่านโดยตรง)ขอได้โปรด ให้น้ำใด ๆก็ตามไม่ว่าเล็กว่าน้อย หรือมากมายดังมหาสมุทร ที่ถูกแช่ในพระผง กำลังพระจักรพรรดินี้ จงมีพุทธานุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ เฉกเช่นเดียวกับหัว เชื้อน้ำมนต์จักรพรรดิทุกประการ เพื่อใช้ในการมงคลทั้งปวง เพื่อใช้ในการปรับธาตุทั้ง 4 และรักษาโรคภัยทุกประเภท ขอบารมีอันหาที่สุดมิได้ของหลวงปู่ จงโปรดให้เป็นไปตามคำอธิษฐานแห่งข้าพเจ้านี้ด้วยเถิดจึงค่อย ๆ จุ่มพระลงในภาชนะใส่น้ำ (พระสูตรท่านชอบน้ำครับ สำหรับองค์ที่ยังไม่เลี่ยมแช่ได้เลยไม่ต้องห่วงยิ่งแช่น้ำยิ่งแกร่ง ไม่ต้องเกรงว่าพระจะร่วนแตกหักหรือ) ๒. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ในขณะเดียวกับแสงนั้นก็พุ่งตรงไปยังน้ำทั้งภาชนะ และจะรู้สึกว่าน้ำนั้นจะมีกระแสเย็นชุ่มชื่น ดื่ม กินแล้วก็รู้สึกสดชื่น) พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ การนำไปใช้จริง ๑. บ้านใดที่มีถังน้ำใหญ่ หรือโอ่งมังกร แนะนำให้แช่พระไว้ตลอดอย่างนั้น จะได้ไม่ต้องอธิษฐานหลายครั้งครับ ให้กินอาบ ใช้ จนเลือดจนเนื้อ เป็นกำลังพระจักรพรรดิเลยครับ ทำได้อย่างนี้ ผิวพรรณจะเยาว์ลง และยังมีผลเรื่องป้องกันรังสีด้วย ๒. จะใช้กิน อาบ ล้างอะไรก็แล้วแต่ ได้ทั้งนั้น มีคนเคยถามหลวงปู่ว่าไม่เป็นอะไรหรือ หลวงปู่ก็ว่า " น้ำมนต์ข้าเป็นของดี จะเอาไปทำอะไรก็ดีหมด " ๓. หัวเชื้อน้ำมนต์จักรพรรดินี้ต่อได้เหมือนน้ำมันชาตรีของหลวงพ่อปาน หรือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงตาม้าท่านบอกว่า " แม้เพียงหยดเดียวของน้ำมนต์จัรพรรดิ เมื่อหยดลงในตุ่ม น้ำทั้งตุ่มนั้นก็จะกลายเป็นน้ำมนต์จักรพรรดิหมด " เราก็แช่พระไว้ในภาชนะใดก็ได้ตลอดเวลา แล้วคอยเติมอยู่เสมอไม่ให้แห้ง แล้วก็เอาน้ำมนต์หัวเชื้อนี้คอยเติมภาชนะต่าง ๆ เอา จะเอาไปแจกจ่ายก็ได้ครับ ๔.ไม่ต้องกลัวพระธรรมธาตุหลุดครับ พระธรรมธาตุท่านเกาะที่ผิวพระอยู่แล้ว เพียงแต่อย่าเอาอะไรไปขัดไปถูเป็นใช้ได้

    ***อธิษฐานส่งวิญญาณ ปรับภพภูมิ แผ่บุญ หรือป้องกันวิญญาณ หลักการ การปรับภพปรับภูมิ พลังของพระผงจักรพรรดิเป็นของสูงอานิสงค์ครอบจักรวาลหากฉลาดในการนำไปใช้ย่อมมีประโยชน์ มหาศาล นำไปแผ่ให้ภพภูมิต่างๆ เขาไปเกิดเป็นเทวดา เขาจำเราได้ ย่อมจะช่วยเราในภายภาคหน้าเรียกว่า มาเป็นบริวารเรานั้นเอง บางครั้งเขาติดอยู่ในที่ๆหนึง โดยที่ไปไหนไม่ได้แล้วเราผ่านไปแล้วกำหนดแผ่บุญ ส่งวิญญาณให้เขา แทนที่เขาจะต้องติดอยู่ตรงนั้นไปอีกหลายพันหลายร้อยปีแต่เราช่วยเขา ดูสิว่ามี ประโยชน์ขนาดไหน ผีที่พวกเล่นไสย์ดำเลี้ยงไว้เหมือนกัน คิดดูสิว่าผีโดนเจ้าพวกนี้ใช้ทรมาน ไม่ต่างอะไรจากทาส บุญก็ไม่อุทิศให้ เอาแต่อาหารคาวหยาบๆให้กิน หลอกล่อผีไปวันๆ แล้วเราไปแผ่ส่งวิญญานเหล่านี้ไป คิดดูสิว่าเราช่วยพวกเขาได้มากขนาดไหน หากเราไปแห่งหนตำบลใดหากต้องการแผ่บุญปรับภพปรับภูมิส่งวิญญาณแก้ภูมิแถวนั้นให้กำหนดขอพลัง จากองค์พระพร้อมบริกรรมบทพระจักรพรรดิแล้วน้อมแผ่ออกไปจะเป็นการส่งวิญญาณภพภูมิแถวนั้นโดย วิชานี้ทำได้แม้ยังไม่เห็นภพภูมิก็ตามขอแค่จิตเราน้อมไปด้วยความเป็นบุญเมตตาและหวังดี(การแผ่บุญ ครอบบุญใช้กับคนที่เราหวังดีได้ด้วยเช่นกันหรือแม้กระทั่งกับศัตรูเราให้เขามาเป็นมิตรกับเรา) กำลังพุทธคุณของพระผงจักรพรรดิเรานำไปใช้ในการปรับภพปรับภูมิเขาให้ดียิ่งๆขึ้นได้ โดย มิได้เป็นการใช้พุทธคุณในการเบียดเบียนเขาแต่เป็นการใช้กำลังเพื่อให้เขาโมทนาบุญซึ่ง เรียกว่าการปรับภพปรับภูมิและเราจะช่วยดวงวิญญานได้จำนวนมากการนำไปใช้ไม่ยาก อารธนาองค์พระกำไว้ในมือสวดคาถาจักรพรรดิ1จบแล้วตามด้วยบทสัพเพแล้วก็นึกน้อมบุญ นี้ให้แก่ดวงวิญญานทั้งหลายที่เราต้องการแผ่บุญถึงนับได้ว่าพระผงจักรพรรดิใช้เพื่อการ การแผ่บุญอย่างแท้จริงสงเคราะห์สัตว์โลกอย่างแท้จริง ลำพังกำลังของเราแต่ถ่ายเดียวยังมิอาจครอบคลุม ในการส่งวิญญานได้ทั่ว ได้ถึง และมากพอ ขอจงโปรดขอบารมีคุณพระท่านช่วยเหลือให้ โดยมี พระกำลังพระจักรพรรดินี้เป็นสื่อกลาง (พระสูตรหลวงปู่ดู่นี้ รับรู้และคุยได้ ถามได้ทุกองค์) วิธีการ ๑. กำพระในมือ จากนั้นโปรดกล่าวคำ อธิษฐานว่า ข้าพเจ้าผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนา ขออัญเชิญบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ นับตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีพระบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด (หรืออาจจะเป็น หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค , หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ , พระศรีอาริยะเมตรัย ก็ได้ ตามจริต ด้วยเหตุผลที่ว่าการอัญเชิญพระบารมี หรือการโน้มนำพระบารมีของพระมหาโพธิสัตว์นี้ จะง่ายกว่า การโน้มนำพระบารมีแห่งพระผู้เข้าพระนิพพานแล้ว เนื่องจาก บารมีท่านมหาโพธิสัตว์เหล่า นี้ยังไม่รวมตัว ยังคงกระจัดกระจายอยู่ทุกอณูในโลก) ขอได้โปรดส่งวิญญาณ ปรับภพปรับภูมิดวงวิญญาณของ......ชื่อนาม หรือกลุ่มก็ได้.....ให้สู่สุขติด้วยเถิด ๒. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมี พระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ในขณะเดียวกับแสงนั้นก็พุ่งตรงไปยัง ดวงวิญญาณที่จะปรับภพ ปรับภูมิให้ แต่ทั้งนี้ ไม่ใช่ดวงวิญญาณทุกดวงที่จะรับบุญ บางวิญญาณที่มีมิจฉาทิฐิ หรือมีโมหะ คือ ไม่รู้เรื่องว่าโมทนาคืออะไร ก็จะยังไม่ได้รับ เราก็ต้องสัพเพฯ หลาย ๆรอบ จนบารพระท่านครอบกายทิพย์สว่างเย็นไปหมด ช่วยโน้มนำให้วิญญาณนั้นละพยศและความโง่นั้นได้สำเร็จ) พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ ๓. การป้องกันวิญญาณก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะรอนแรมไปในที่แห่งใด ผู้ที่คล้องและ ทรงกำลังพระจักรพรรดิ รัศมีจะสว่าง จนดวงวิญญาณพากันมาดูด้วยความสงสัยว่า คืออะไร ตรงนี้ก็ให้ถือโอกาสแผ่บุญตามหลักการข้างต้น ผูกมิตรกับวิญญาณเจ้าถิ่นไว้ วิธีนี้ได้ประโยชน์มาก มีวิญญาณมากหลายอยู่มานับพันปีไม่มีที่ไป เราส่งวิญญาณให้เขา ต่อไปเมื่อมีวาระเขาจะกลับมาช่วยเรา วิชานี้ท่านโพธิสัตว์หรือพุทธภูมิทุกท่าน น่าจะศึกษาและปฏิบัติ เพราะเป็นวิชาสร้างบริวารอย่างหนึ่ง แต่ขอจงโปรดอย่าวางอารมณ์ว่าจะสร้างบริวารเลย ขอวางอารมณ์ด้วยเมตตาธรรม พรหมวิหารธรรมเถิด ขอโมทนา...... ๔. ขอโปรด ส่งวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรของท่านด้วย พระสูตรของหลวงปู่ท่านสร้างไว้อย่างฉลาดมาก ท่านสอนให้ปรับภพปรับภูมิอยู่เสมอ เพราะเป็นการส่งดวงวิญญาณทั้งทั่วไปและที่มาจองเวร ป้องกันความเดือดร้อนทั้งผู้สร้างและผู้รับพระไปบูชาติดตัว การนำไปใช้จริง ๑. ให้หมั่นส่งวิญญาณอยู่เสมอไม่ว่าจะเดินทางไปในที่แห่งไหนโดยเฉพาะเวลาไปจ่ายตลาดในตลาดสด วิญญาณสัตว์ที่พึ่งตาย หรือที่ค้างอยู่มีมหาศาลทุก ๆวัน ตามป่าช้าหรือข้างทาง บางทีเวลาผมเดินทางไกล หลวงตาบอกให้เปล่งกระแสบุญให้สว่างและให้ไกลมาก ๆ พร้อมทั้งอธิษฐานให้ทรงทั้งยามหลับยามตื่น เพราะเหล่าวิญญาณจะได้โมทนา บางทีก็ครอบให้เสร็จสรรพ แบบมัดมือให้เลย เดินทางไปต่างจังหวัดแต่ละทีก็เก็บได้มหาศาล ยิ่งทำบ่อยๆยิ่งคล่องครับ ถ้าทำคล่องแล้วต่อไปเวลากำหนดแผ่ก็กำพระแล้วน้อมกำลังบุญไปได้ แค่กำหนดจิตชั่วขณะโดยไม่ต้องใช้คำพูดก็ยังได้ขอแค่ให้ใจทรงกำลังทั้งหมดที่อาราธนามา ในขณะนั้นได้ก็พอ แล้วก็กำหนดแผ่ไปได้เลย ขณะกำพระ แต่ถ้าเป็นการอฐิษฐานใหญ่ หรือการสวดมนต์ประจำวัน ก็อฐิษฐานใหญ่ตามเนื้อหาด้านบนได้เลย แล้วก็แผ่ไปทั่ว 3 โลก ไม่ว่าพรหมโลก เทวโลก มนุษยโลก ภพภูมิน้อยใหญ่ต่างๆ นรกโลก และทุกๆอบายภูมิ ผู้มีพระคุณแก่ข้าพเจ้า ครอบครัว เพื่อนฝูง คนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับข้าพเจ้าทุกๆคน ญาติข้าพเจ้าทั้งหมดในโลกทิพย์ บริวารข้าพเจ้าทั้งหมด เทวดาประจำตัวข้าพเจ้าทั้งหมด เจ้ากรรมนายเวรข้าพเจ้า <--- แผ่ไปให้ภพภูมิ เหล่านี้ครับเวลาอฐิษฐานใหญ่ ๒. ก่อนทานอาหารหลวงตาแนะนำให้ส่งวิญญาณด้วย ให้ทำจนเป็นนิสัย เอาแบบให้กวาดมือ เหนืออาหารทีเดียวให้ส่งให้หมด แม้แต่บะหมี่หมูสับก็ให้ส่งวิญญาณด้วย หลวงตาบอกว่าเนื้อ ไม่ว่าชิ้นเล็กชิ้นน้อย จะเป็นชิ้นหรือเป็นน้ำก็มีกระแสโยงถึงวิญญาณเจ้าของธาตุนั้นได้ ส่งให้เนื้อ กระแสบุญจะส่งถึงวิญาณเอง คนที่ชอบทานมังสะวิรัติ นอกจากไม่ทานเนื้อแล้วน่าจะทรงวิชานี้ด้วยนะครับ

    ** อธิษฐานรวมบุญ เพื่อความคล่องตัวในเรื่องการเงิน และทุก ๆเรื่อง เป็นการเบิกบุญเก่า และบุญใหม่ที่ยังไม่ให้ผลให้ส่งผลเร็วขึ้น หลักการ ตามปกติเมื่อเราสร้างกุศลใด ๆ กระแสบุญจะจับอยู่ที่ตัวผู้สร้างสักระยะหนึ่งใดตราบที่ยังคง ทรงกำลังความชุ่มชื่นอยู่ได้นั้น หลังจากนั้นจะไปรวมตัวรอที่ภพภูมิสุขคติ เมื่อเราสิ้นธาตุขันต์ ก็จะไปเสวยสุขอยู่ในสุขคติภูมิ ตราบจนกว่าจะหมดบุญ แต่ยังมีอีกหลายผู้ โดยเฉพาะนักสร้าง บารมีที่จะตายเกิด ๆ ทันทีไม่ยอมเสวยสุขก่อน เพราะจะเสียเวลา บุญก็ยังคั่งค้างอยู่ เอามา ใช้ได้ได้แค่ส่วนหนึ่ง (คงต้องออกตัวว่าอจินไตยข้อนี้ผมจะพูดแค่ส่วนจำเป็นเท่านั้น ยังมี อีกหลายอย่างพูดได้ไม่หมด นะครับ มันมีข้อแม้ต่าง ๆมากมาย ผมขอละไว้ครับ ) หรือใคร ก็ตามที่ชอบบ่นว่า ทำแต่ความดี สร้างแต่ทาน แต่ทำไมยังจน ยังถูกกลั่นแกล้ง ลำบาก ไม่คล่องตัว ครับเหมือนการปลูกต้นไม้ ปลูกเดี๋ยวนี้จะกินผลเดี๋ยวนี้เลยเป็นไปไม่ได้ มันต้องมีวาระของมัน คานดุลกันทั้งบุญและบาป ก็ถือว่าโชคดีมากแล้วที่ยังได้สร้างบุญ ไว้เป็นเสบียง เพราะการได้พบพระพุทธเจ้าแต่ละครั้งนั้นยากเย็น ลองคิดดูสิครับ บางช่วง ในอดีตมีสูญญะอสงไขย์ด้วย โอ้กรรมแท้ ตลอดอสงไขยไม่มีพระพุธเจ้ามาโปรด..... ยิ่งคุณเกิดในยุคที่มีครูบาอาจารย์ที่หาได้ยากยิ่ง หลาย ๆองค์ อาทิ หลวงพ่อฤาษีที่ท่านเด่น ด้านพาคนเข้าพระนิพพาน หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ที่ท่านเด่นด้านพาคนสร้างบารมี ยิ่งมีโอกาส ได้ยากยิ่งครับ ก็เห็นจะมีแต่ในระยะยืดพระศาสนานี่กระมัง แต่...เราก็มีวิชาที่จะขอเบิกบุญ รวมบุญ และเร่งบุญเอามาใช้ได้ ได้มากบ้างน้อยบ้างก็ตามเหตุ ตามปัจจัย วิธีการ ๑. วิชานี้ให้ทรงกำลังใจแบบทานบารมี คือในใจให้เเช่มชื่นด้วยความรู้สึกว่า หากเราพอมีอะไรจะช่วยเหลือ ในบุคคลที่สมควรจะช่วยเราจะรีบช่วยโดยไม่รั้งรอ ไม่ด้วยกำลังปัจจัย ก็กำลังแรงกาย (เป็นการทอดสะพานกระแสบุญจากทานให้ย้อนกลับมา ด้วยลาภเกิดจากทาน การจะดึงผลแห่ งลาภให้ได้ผลดี ต้องมีกระแสทานมาเป็นสะพานต่อเชื่อม) ๒. ตั้งจิตกำหนดภาพพระมหาจักรพรรดิ กำพระในมือขอบารมีคุณพระโดยมีบารมีแห่ง สมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิเป็นประธาน และมีบารมีรวมแห่งมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด (ให้ยึดถือรูปลักษณ์นี้เป็นหลัก เนื่องจากเป็นรูปลักษณ์ที่ช่วยเหลือในเรื่องทางโลกได้คล่องตัวกว่า) ๓. อธิษฐานว่า " ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระมหาจักรพรรดิทุก ๆพระองค์ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยบารมีแห่งองค์พระสมเด็จองค์ปฐม บรมมหาจักรพรรดิเป็นประธาน มีบารมีรวมพระมหา จักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด ขอได้โปรดรวมกองบุญของข้าพเจ้า...(นาม)..... เพื่อเบิกมาใช้ ให้มีความคล่องตัวในทุก ๆเรื่อง อันใดติตขัด ขอให้คล่อง ดั่งน้ำที่ไหลออกจากคณโฑ ที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ อันใดคล่องตัวอยู่แล้วขอให้คล่องตัวยิ่ง ๆขึ้นไป โดยขึ้นชื่อว่าความอด ความอยาก ความยาก ความไม่มี จงอย่าได้บังเกิดมีในข้าพเจ้า ผู้เป็นผู้รับใช้แห่งพระพุทธศาสนา นับตั้งแต่กาลบัดเดี๋ยวนี้ ตราบจนข้าพเจ้า เข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด และโดยเฉพาะกาลนี้ ขอให้มีความคล่องตัวในเรื่อง ...(อธิษฐานขอพิเศษเอา).....เช่น ตอนนี้ขายของไม่ดีเลยลูกขอให้ขายได้วันละ......ด้วยเถิด ๔. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะ มีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรังสีทางโชคลาภมักจะเป็นรังสีสีทอง) พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ ๕. ให้อธิษฐานทุกวัน เช้าตอนก่อนออกทำงาน-ก่อนนอน หากได้เวลา 20.30 น.ด้วยยิ่งดีครับ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_1093.JPG
      DSC_1093.JPG
      ขนาดไฟล์:
      79.6 KB
      เปิดดู:
      160
    • DSC_1096.JPG
      DSC_1096.JPG
      ขนาดไฟล์:
      82.5 KB
      เปิดดู:
      131
    • _14_553.jpg
      _14_553.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.6 KB
      เปิดดู:
      248
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2016
  8. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    7.***ของดีราคาถูก***หลวงปู่ทวด วัดในหาน ภูเก็ต ปี36 รุ่นแรก พิมพ์หลังเตารีด เนื้อเปียกทอง สภาพสวย เลี่ยมพร้อมใช้ ให้บูชา 599 บาท

    **ในการจัดสร้างหลวงปู่ทวด วัดในหาน ภูเก็ต ได้รับช่อชนวนมวลสารหลักๆมาจากทางวัดช้างให้ เป็นช่อชนวนจากการปลุกเสกพระหลวงปู่ทวดพิธีต่างๆ และปลุกเสกหมู่โดยมีพระอาจารย์นอง วัดทรายขาวเป็นเจ้าพิธีและหลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย หลวงปู่สุภา วัดสีลสุภาราม ภูเก็ตร่วมเมตตาปลุกเสกให้ด้วย ทั้งพิมพ์ทรงและเนื้อโลหะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวัดในหาน การตอกโค๊ตแยกเป็น โค๊ตตัว “นะ” โค๊ตชื่อวัด “ในหาน” โค๊ต “ภูเก็ต” และโค๊ต เลขหนึ่งไทย “๑” มีตอกเฉพาะพิมพ์เบ้าทุบ ทุกองค์จะต้องมีโค๊ตตัว นะ บางองค์มีโค๊ตมากกว่า (ยิ่งโค๊ตมากยิ่งมีน้อย หายากกว่า)

    **รูปแบบพิมพ์พระหลวงปู่ทวดแบ่งเป็น พิมพ์หลังเตารีด พิมพ์บัวรอบ และพิมพ์เบ้าทุบ เนื้อโลหะที่จัดสร้างแบ่งเป็น 1. เนื้อนวโลหะ พระทุกพิมพ์จะมีน้ำหนักมากกว่าเนื้อโลหะอื่นๆเพราะผสมทองคำไว้ด้วย 2. เนื้อทองผสมเปียกทอง โดยใช้เทคโนยีสมัยใหม่ เนื้อพระจะดูเงางามตลอดเวลา 3. เนื้อสตางค์แดง ใช้เทคโนโลยีเปียกทองเหมือนกัน แต่เนื้อนี้จะมีการนำเหรียญสตางค์แดงโบราณมานำผสมลงด้วย 4. เนื้อผิวไฟ เนื้อนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถ้าได้เข้ากล้องส่องพระจะเห็นเนื้อโลหะต่างๆนำมาผสมอย่างชัดเจน เป็นพระเนื้อสัมฤทธิ์ที่เจตนาสร้างไม่ให้เนื้อโลหะหล่อละลายกลมกลืน วิธีแบบนี้จะพบเห็นได้บ่อยจากพระสัมฤทธิ์โบราณ
    **พุทธคุณ**
    พระหลวงปู่ทวด วัดในหานเป็นพระของดี ราคาถูก เจตนาในการสร้างดี พิธีดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปัจจุบันเริ่มหายากแล้ว โดนกว้านเก็บหมด ด้านพุทธคุณนอกจากแคล้วคลาดแล้วยังมีพุทธคุณด้านคงกะพันด้วย**ให้บูชา 599 บาท**
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_1185.JPG
      DSC_1185.JPG
      ขนาดไฟล์:
      119.3 KB
      เปิดดู:
      125
    • DSC_1187.JPG
      DSC_1187.JPG
      ขนาดไฟล์:
      121 KB
      เปิดดู:
      142
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2016
  9. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    8.**เหนียว..คงกะพัน..**เหรียญเสมา ไตรมาส 36 เนื้อทองแดง หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา บางบาล จ.อยุธยา สภาพสวยมาก ให้บูชา 399 บาท***คุณDek_watpaปิดรายการนี้ครับ***

    **หลวงปู่เมี้ยน พุทธสิริ หรือท่านพระครูพุทธสิริวัฒน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ (กบเจา) ตำบลกบเจา อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นพระที่สมควรเคารพกราบไหว้องค์หนึ่ง…หลวงปู่บวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ลาสึกเมื่ออายุ ๒๐ ปีเพื่อสมัครเข้ารับราชการทหาร..

    แต่เพราะเป็นคนรูปร่างเล็ก จึงไม่ได้เข้ารับราชการ ท่านจึงได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุและได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ ปฏิบัติกรรมฐานในป่าดงดิบมาโดยตลอด

    จนมีอายุมากขึ้นจึงได้หยุดเดินธุดงค์ และด้วยความที่ท่านเป็นพระที่มีความเชี่ยวชาญในด้านคาถาอาคม ส่งผลให้ท่านก้าวขึ้นเป็น “ที่พึ่งทางใจ” ให้กับลูกศิษย์และญาติโยมได้ทุกเรื่อง..
    “ฉันมีความรู้สึกว่า เราเป็นพระใครก็ว่าพระเป็นแต่ผู้รับของจากญาติโยมอย่างเดียว ไม่ได้ให้อะไรตอบแทนเป็นชิ้นเป็นอันที่เป็นรูปธรรมเลย....

    ให้แต่ศีล ให้แต่ธรรม เป็นนามธรรมทั้งนั้น ฉันจึงต้องแสวงหาวิชาเพื่อตอบแทนญาติโยม อย่างเช่นการรักษาโรค การรักษาพวกขาหัก....”

    หลวงปู่เมี้ยน ถือกำเนิด ณ บ้านหาดทราย (บ้านเจ๊ก) หมู่ ๙ ตำบลบางบาล อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อปีมะเส็ง วันพฤหัสบดี เดือนยี่ ข้างขึ้น พุทธศักราช ๒๔๖๐ ท่านเป็นบุตรคนที่สามของคุณพ่อแก้ว คุณแม่ทองม้วน นามสกุล เกิดโภคทรัพย์
    บิดาของท่านเป็นหมอยากลางบ้าน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรแผนโบราณ สามารถวินิจฉัยโรคและวางยาให้ตรงกับโรค เรียกได้ว่าหากใครหาหมอที่ไหนรักษาไม่ได้แต่ถ้าหามมาให้หมอแก้วแล้วเป็นหายกลับไปทุกราย

    การรักษาโรคด้วยความรู้และมีความเมตตาเป็นที่ตั้ง และดำเนินชีวิตด้วยความอ้อนน้อมถ่อมตน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชาวบ้านจะเรียกท่านว่า ..”หมอแก้วเทวดา”

    คำพังเพยโบราณกล่าวไว้อย่างชวนคิดว่า ...”ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”....และ....”สิบปากว่าไม่เท่าหนึ่งตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าหนึ่งมือคลำ”
    .หลวงปู่เมี้ยน เคยเล่าให้พวกผมฟังว่า ท่านชอบออกเดินธุดงค์เพราะว่าชอบความสงบของป่า อีกอย่างที่แปลกก็คือพอกลับมาอยู่วัดทีไร เป็นต้องออกอาการป่วยไข้ทันทีแต่พอออกเดินธุดงค์กลับไม่มีปัญหาด้านสุขภาพเลย..

    ผลพลอยได้จากการออกเดินธุดงค์ท่านได้พบครูบาอาจารย์องค์หนึ่ง คือหลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงส์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่ออินทร์ เทวดา”...



    คำว่าเทวดาตามความเชื่อของชาวป่า ชาวเขา พวกเราสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการเป็นผู้ที่มิวิชาอาคมแก่กล้า..

    ซึ่งก็ไม่ผิดนักเพราะหลวงปู่ท่านได้เล่าเหตุการณ์มหัศจรรย์เกี่ยวกับหลวงพ่ออินทร์ และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้หลวงปู่เกิดความศรัทธา จนต้องขอปวารณาขอฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อขอเรียนสรรพวิชาจากหลวงพ่ออินทร์..



    “หลวงพ่ออินทร์ ท่านเก่งในด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ที่เห็นกับตาคือช้างป่าตัวหนึ่งถูกพรานยิงแต่ได้หลบหนีเข้าไปกลางดง

    หลวงพ่ออินทร์ไปพบจึงได้รักษาโดยใช้..”น้ำมันมนต์”....หยอดลงไปในบาดแผลที่กระสุนฝังอยู่และเสกเป่าด้วยคาถาอาคม ไม่นานนักลูกปืนก็ไหลตามน้ำมนต์ออกมาอย่างน่าอัศจรรย์...”

    ซึ่งในเรื่องนี้หลวงปู่บอกกับพวกเราว่า “พลังเมตตาจิต” ของหลวงพ่ออินทร์ถือว่าเป็นเรื่องเหนือคนจริงๆ ไม่ต้องคิดถึงการมานั่งหยอดน้ำมันมนต์ให้ลูกปืนในตัวช้างไหลออกมาหรอก

    เอาแค่ว่าช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บ ก็ต้องมีความดุร้ายมากกว่าเก่าแล้ว แต่การที่ช้างยอมสงบให้หลวงพ่ออินทร์รักษา นั่นก็พอจะแสดงถึงอำนาจจิตของท่านแล้ว..



    ผมจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองเริ่มอ้าปากค้างตั้งแต่เมื่อไร แต่ก็คงจะใกล้ๆกับที่ความสนใจในเรื่องของช้างป่าจบลงนั่นแหละ...ดูเหมือนว่าพอพวกเราฟังจบ

    ความวุ่นวายสาระวนในการขยับเข้าไปใกล้หลวงปู่จึงเกิดขึ้น อาจเป็นเพราะหลวงปู่เมี้ยนท่านกำลังขยับตัวเพื่อจะหยิบตะบันหมาก

    จะว่าไปแล้วเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนที่เคยได้ยินกิติศัพท์ของหลวงปู่เมี้ยน ย่อมจะจำได้ว่าวัตถุมงคลขมังเวทย์เปี่ยมประสบการณ์ที่ขึ้นชื่อของท่านคือ “ชานหมาก..”



    เมื่อเอ่ยถึง “ชานหมาก” บางคนอาจไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเราถึงให้ความสนใจกับมันมากนัก ขอเรียนว่าหากมันเป็นชานหมากธรรมดาของตาสีตาสา พวกเราก็คงจะเมินเฉย

    แต่ชานหมากที่คายออกจากปากของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอย่างหลวงปู่เมี้ยนมันคือ”ของวิเศษขนานดี..”สำหรับพวกเราทีเดียว

    เอาเป็นว่าเมื่อยามที่ขุนอิน แห่งโหมโรง ขยับตีระนาด เสียงของระนาดช่างไพเราะจับใจ แต่ในบริบทแบบนี้ความไพเราะที่ว่านั้น ยังสู้เสียงของชานหมากที่หล่นลงกระทบกระโถนไม่ได้เลย...ว่ากันขนาดนั้น

    ชานหมากของหลวงปู่ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการมากที่สุด ผมเคยเห็นบางคนที่เขาศรัทธาหลวงปู่จริงๆ พอชานหมากของหลวงปู่คายออกจากปาก..

    ผู้รับก็ใส่ปากกลืนลงไปเลยต่อหน้าต่อตา เรียกว่าให้ซึมซาบลงไปในเนื้อหนังอยู่กับตัวเองตลอดไป ..ผมเคยถามเหตุผลกับคนเหล่านี้ ฟังแล้วรักหลวงปู่ขึ้นเยอะครับ...



    “เพราะหลวงปู่เป็นพระที่พูดแต่เรื่องดีๆ ไม่ด่าใคร ไม่นินทาใคร ทุกวันท่านก็จะเสก จะเป่าท่องมนต์ รักษาผู้ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ เคี้ยวไป เสกไป ไม่ขลังตอนนี้แล้วจะให้ขลังตอนไหน....”

    จะว่าไปแล้วตามที่เขาเล่า นั่นคือเรื่องจริงครับ เพราะเท่าที่พวกผมเคยนั่งเสนอหน้านวดขาให้หลวงปู่ ยังไม่เคยเห็นว่าหลวงปู่ท่านจะบ่นว่าเบื่อเลย

    กลับจะกุลีกุจอซะทุกครั้งที่มีคนป่วยเดินขึ้นมาบนกุฏิ ไม่ว่าใครจะมาเรียกขอความช่วยเหลือดึกดื่นเพียงใด หลวงปู่ไม่เคยดุด่าว่าเลย กลับถามว่ามาอย่างไรกัน เป็นอะไร บางทีพวกเราก็อดห่วงในสุขภาพและความปลอดภัยของท่านเสียมิได้....

    มีคำพูดชวนให้คิดว่า “ถ้าคุณเป็นชาวนา คุณจะปลูกข้าวอย่างเดียวไม่ได้ แต่คุณต้องเป็นศัตรูกับวัชพืชด้วย.....”



    แน่นอนครับเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ที่ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ อุปกรณ์สำคัญที่จะขาดเสียมิได้คือ “มีดหมอ” หากวิชาอาคมคือเสื้อผ้า มีดหมอก็คือกางเกงละครับ

    ผมเคยได้ยินญาติโยมหลายท่านถามหลวงปู่อยู่บ่อยๆว่า

    “หลวงปู่เรียนวิชาจากใคร และมีดที่ใช้อยู่นั้นเอามาจากไหน”

    ซึ่งเมื่อท่านฟังเสร็จมักจะหลับตาแล้วเงียบไปซะเฉยๆ และเป็นการนั่งที่ทำให้ผู้ถามต้องกราบลาท่านกลับเพราะรอคำตอบไม่ไหว...ถึงตอนนี้ผมมีคำตอบให้ครับ...เป็นคำกล่าวที่เล่าขานกันเลยว่า

    “ใครไปวัดโพธิ์ ไม่โดนมีดหมอหลวงพ่อเมี้ยน ก็เท่ากับว่าไม่ถึงวัดโพธิ์....”



    “เราเรียนวิชารักษาโรคภัยไข้เจ็บ การใช้มีดหมอจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ...

    การใช้มีดหมอต้องรู้เคล็ดวิชา คือการกำหนดรู้ว่าสมุฏฐานของโรคอยู่ที่ใด เคล็ดวิชาของหมอโบราณที่ต้องท่องจำให้ขึ้นใจก็คือ....”

    “ทุกข์อยู่ที่หัว กลัวอยู่ที่ใจ ไข้อยู่ที่ท้อง...”

    อธิบายความได้ว่า..ตามธรรมดาคนเรานั้นมีเรื่องราวมากมายให้ได้คิด เมื่อคิดมากเข้าก็จะเกิดอาการเครียด ทำให้ปวดหัว อารมณ์หงุดหงิด เป็นบ่อยๆก็จะก้าวเข้าสู่โรคประสาท นี่คือความหมายของ “ทุกข์อยู่ที่หัว...”



    คำว่า “กลัวอยู่ที่ใจ” กล่าวกันว่าคนเรานั้น ใจย่อมเป็นใหญ่ ใจเป็นสภาพที่เกิดก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสำเร็จ เกิดจากใจทั้งสิ้น ว่ากันว่า คนเราจะกลัวหรือจะกล้าก็อยู่ที่ใจทั้งสิ้น..

    อุปมาให้ชัดเจนเหมือนนักมวยที่กำลังขึ้นชกบนเวทีล่ะครับ โดนเข้าไปสองสามดอก เกิดอาการถอดใจ โดนหนักๆ เข้าก็นอนซะเลย เรียกไม่ยอมตื่น...



    และสุดท้าย “ไข้อยู่ที่ท้อง..” ครับจะเห็นว่าโรคส่วนใหญ่ มีสมุฏฐานจากท้องซะเป็นส่วนมาก คิดมาก กรดแก๊สในกระเพาะก็มาก หนักๆเข้าเลยพาลปวดท้อง กลายเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ..

    อีกอย่างอวัยวะส่วนใหญ่ก็อยู่บริเวณท้องทั้งนั้น ไล่เรียงดูได้ครับ ตับ ไต ไส้ ฯลฯ ว่ากันว่าคนเราจะอยู่จะตายก็อยู่ตรงส่วนนี้มากกว่าส่วนอื่น.....



    สำหรับ”มีดหมอเล่มที่หลวงปู่ท่านใช้อยู่นั้น” ท่านได้รับจากโยมคนหนึ่ง ตั้งแต่สมัยหลวงปู่บวชได้สักห้าพรรษาครับ มีดหมอเล่มนี้เป็นสมบัติตกทอดกันมาหลายชั่วคน

    เล่าลือกันว่าเป็นมีดที่แรงมาก คนที่ใช้ติดตัวมักจะมีเรื่องมีราว จนคนสุดท้ายที่ครอบครองได้สั่งไว้ก่อนตายให้นำมีดเล่มนี้ไปถวายให้ท่านเมี้ยน วัดโพธิ์...นี่แหละครับคือที่มาที่ไปของมีดหมอเล่มนี้...



    ขอพูดถึง”หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค” สักนิดครับ หลวงพ่อปานองค์นี้เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ คุ้นหูคุ้นตากับบรรดาผู้นิยมวัตถุมงคล..

    พระที่หลวงพ่อปานทำขึ้นก็คือพระเนื้อดินเผา รูปทรงสี่เหลี่ยม รูปลักษณ์เป็นพระพุทธปางประทับบนสัตว์ประเภทต่างๆ เช่น ไก่ นก ปลา ฯลฯ เชื่อกันว่าหลวงพ่อปานท่านเป็นพระเถระที่ยิ่งด้วยบารมีเพราะท่านได้ตำราเทวดามาจากสวรรคโลก



    นอกจากนี้หลวงพ่อปาน ท่านยังได้ชื่อว่าเป็นพระหมอรักษาโลกและถอดถอนคุณไสยที่เก่งมากๆเลยครับ สำหรับวิชาที่สร้างชื่อเสียงให้หลวงพ่อปานอีกอย่างหนึ่งคือ “วิชายันต์เกราะเพชร”

    ถึงตรงนี้คงขอล่ะเรื่องวิชายันต์เกราะเพชรไว้ก่อน เพราะผมเองยังไม่มีความรู้พอที่จะอธิบายได้ชัดแจ้ง เนื่องจากวิชานี้มีกระบวนการและขั้นตอนมากมายเหลือเกิน แต่ที่สำคัญคือ

    “การทำวิชานี้ให้สำเร็จต้องใช้จิตของผู้ทำเป็นสิ่งสำคัญ...”

    หากวัดเอาจากวิชาอาคมที่หลวงปู่เมี้ยนได้ร่ำเรียนมา การผ่านครูบาอาจารย์ที่มีวิชาแกร่งกล้าก็น่าจะทำให้หลวงปู่หยุดที่จะเรียนรู้ได้แล้ว แต่ถ้าทำอย่างนั้นมันก็คงจะทำให้สมภารหนุ่มแห่งวัดโพธิ์กบเจา ดูจะหยาบเกินไป..

    “มวยหลักคือมวยที่มีฝีมือ แต่ก็ใช่ว่ามวยรองจะไร้ความสามารถซะทีเดียว..”



    หลวงพ่อขัน แห่งวัดนกกระจาบ ชื่อนี้คงคุ้นหูบรรดานักไสยศาสตร์อีกแน่นอน..มีคำบอกเล่าของชาวบ้านย่านบางบาลว่า

    หลวงพ่อขันรูปนี้มีอาคมแก่กล้านัก เสกใบไม้ให้เป็นต่อเป็นแตน เสกกระต่ายจากหัวปลี สำคัญคือมีวิชาสักยันต์คงกระพันชาตรีชื่อว่า “สักบุตรลม..”

    ตำราไสยศาสตร์บันทึกไว้ว่า วิชาสักบุตรลม เป็นการสักยันต์ที่ละสองคน สักแล้วให้สาบานกันว่า จะไม่ฆ่ากันเอง ใครผิดสัจจะให้ถึงแก่ความฉิบหาย ...

    เล่าลือกันทั่วคุ้งลำน้ำน้อยว่า...คำสาบานนี้รุนแรงยิ่งนัก เพราะเคยมีคนที่ได้รับการสักจากหลวงพ่อขันไปแล้วคิดร้ายต่อกัน ผลก็คือผู้นั้นมีอันเป็นไปทันที..

    นอกจากหลวงปู่เมี้ยนจะได้รับการถ่ายทอดวิชาการสักยันต์จากหลวงพ่อขันแล้ว การทำเชือกสนตะพายควายธรรมดา ให้มีอานุภาพสูง คงกระพันเป็นยอด ขนาดลงน้ำปลิงไม่เกาะ หลวงปู่ก็ได้รับถ่ายทอดมาจนหมดสิ้น..



    แต่วิชาสำคัญที่ผมจะพ่นถึงตอนนี้คือ “การทำน้ำมนต์” หลวงปู่เล่าให้พวกเราฟังว่าหลวงพ่อขันได้เสกน้ำมนต์ให้หมุนอยู่ในบาตรได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ก่อนที่ท่านจะสอนวิชาการทำน้ำมนต์ดังกล่าวให้หลวงปู่เมี้ยนจนหมดสิ้น รวมไปถึงการทำ”น้ำมนต์สารพัดนึก” อีกด้วย ...

    ครั้งหนึ่งผมเคยกราบนมัสการ”พระมหาฉลอง วัดสุทัศน์ฯ กทม.” ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ ท่านเมตตาเล่าให้ผมฟังว่า สมัยตอนที่ท่านยังเป็นพระน้อยอยู่ที่อยุธยา เคยได้ไปนอนอยู่ในห้องเดียวกับหลวงปู่เมี้ยน

    กิจวัตรประจำวันของหลวงปู่เมี้ยนคือตื่นแต่เช้า สวดมนต์เสร็จแล้ว ท่านจะมานั่งทำน้ำมนต์ให้กับญาติโยม...

    เวลาทีทำใบหน้าของหลวงปู่จะแดงกล้ำ จนได้ยินเสียง เจี๊ยบ ๆ นั่นแหละท่านจึงหยุดเสก ครั้นพอพระมหาฉลอง เข้าไปสอบถาม หลวงปู่ตอบติดตลกว่า “เลี้ยงลูกเจี๊ยบไว้ในโอ่งน้ำมนต์...”



    สิ่งที่หลวงพ่อขัน มอบให้กับหลวงปู่เมี้ยนอีกอย่างก็คือ “ไม้ครู..” ซึ่งเป็นไม้ไผ่ตันลงอักขระจารด้วยมือเต็มไปหมด ซึ่งหลวงปู่ท่านมักจะใช้ไม้ครูอันนี้ควบคู่ไปกับการใช้มีดหมอ..

    เวลาท่านไล่ผีหรือรักษาคนเจ็บ หากรายใดทนไม่ไหวคิดจะหนี หลวงปู่มักจะใช้ไม้ครูดังกล่าวดึงเข้ามาอีก เช่นเดียวกันครับที่หลวงปู่ชอบสัพยอกกับบรรดาญาติโยมที่มากับคนไข้ว่า...

    ”นี่แหละมือวิเศษ เพราะมันสั้นได้ ยาวได้..”



    มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากพอที่จะบอกให้พวกเราทราบได้ว่า

    “มนุษย์ใม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่นิยมความรุนแรง...”

    แต่ถ้ากับสิ่งไม่มีชีวิตที่เราเรียกว่า “ผี” หากบังเอิญมีใครโชคดีได้เจอเข้า เพื่อนๆคิดที่จะปฏิบัติตัวหรือปฏิบัติต่อ “เพื่อนรักต่างมิติ” กลุ่มนี้อย่างไรครับ ถ้าคิดอะไรไม่ออกนอกจากความกลัว..ลองฟังความคิดของหลวงปู่เมี้ยนกันครับ...

    หลวงปู่มีหลักปฏิบัติอยู่อย่างหนึ่ง...

    ไม่ว่าจะเป็นคนหรือวิญญาณร้ายใดๆก็ตาม ท่านจะใช้วิธีการเอาความอ่อนโยนเข้าหา ไม่นิยมความแข็ง หรือการเผชิญหน้า ให้คุณธรรมความดีลบล้างความอำมหิต เลวร้ายทั้งปวง...



    “การอ่อนเข้าหาเขา อย่างน้อยก็ลดความรุนแรงของเขาลงได้ครึ่งหนึ่งแล้ว แทนที่เขาจะเพิ่มความรุนแรงใส่ เราก็หยุดความรุนแรงนั้นซะ ด้วยวิธีพยายามพูดปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน...”

    ต่อคำพูดสอนของหลวงปู่ ท่านได้เมตตายกตัวอย่าง “คนโกรธสองคนที่ประจันหน้ากัน..” ท่านว่า



    “...คนหนึ่งระบายอารมณ์ร้อนด้วยคำพูดรุนแรง อารมณ์ฉุนเฉียว ขณะที่อีกคนพยายามหักห้ามใจ ไม่ตอบโต้ด้วยคำพูดหรือการกระทำที่รุนแรง ประเภทมึงด่าไปกูตอกกลับมา...

    เมื่อต่างคนต่างแรง เหมือนกาน้ำที่อยู่บนเตาไฟ ยิ่งโหมไฟเข้าไป น้ำที่เดือดอยู่แล้วจะเดือดยิ่งขึ้น อาจอัดดันให้ระเบิดได้เมื่อควันหรือไอน้ำระบายออกมาไม่ทัน..

    แต่ถ้าเห็นว่าน้ำเดือด เราลดไฟลงให้อ่อนหรือดับไฟในเตาเสียเลย ความร้อนของน้ำในกาก็จะค่อยๆลดลง ที่เดือดก็จะหายเดือด ทีสุดแล้วก็จะเย็นเมื่อความร้อนระเหยไปหมดแล้ว..”

    จะว่าไปแล้วเรื่องที่ใครๆคิดว่าจะร้ายก็กลายเป็นดีได้ หลวงปู่เมี้ยนท่านมักจะเลือกใช้วิธีนี้กับทุกคน และทุกปัญหาที่ท่านต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย..

    แม้แต่กับบรรดาวิญญาณภูตผีปีศาจ ถึงท่านจะมีวิชาอาคมและพลังจิตที่เหนือกว่าสามารถหักล้างลงไปได้ หลวงปู่ท่านกลับเลือกใช้ “ไม้อ่อน” เข้าหา...



    “ความนอบน้อม ไม่ถือตัวถือตน มีเมตตากรุณาต่อคนทุกชั้น ทุกระดับเป็นแนวทางแก้ปัญหาต่างๆอย่างดี ไม่ว่าจะร้ายแรงหนักหนาแค่ไหน

    เข้ามาเจอความนอบน้อม เจอความดี เจอความเมตตา ความร้ายแรงนั้นก็ต้องพ่ายไป...

    ข้อสำคัญคือ เราจะต้องมีความจริงใจ ไม่ใช่เสแสร้งทำให้เขาสามารถดูถูกเหยียดหยามตามหลัง...”

    เรื่องของความเชื่อ บางทีไม่ต้องมีเหตุผล เพราะบางทีเราก็อธิบายไม่ได้แต่คิดว่ามันมีจริง..

    ยังคงมีบ้างเรื่องที่เป็นปริศนาคาใจ โดยเฉพาะเรื่องของ “วิญญาณ ภูตผีปีศาจ..”

    มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งได้เดินทางไปเที่ยวในโบราณสถาน เธอคนนี้ได้เดินหายไปจากกลุ่มเพื่อนๆ หลังจากที่ได้เดินตามหาอยู่พักใหญ่ ก็พบว่าผู้หญิงคนนี้นั่งซึมอยู่ตรงโคนซากเจดีย์หัก

    แต่แปลกที่กิริยาท่าทางผิดไปจากเดิม สรุปรวบรัดเรื่องได้ว่าทุกคนลงความเห็นว่าเธอถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงเพื่อเอาชีวิต เนื่องจากได้ไปลบหลู่ดูหมิ่นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์..



    หลังจากที่ได้เสาะหาพระอาจารย์หรือหมอผีหลายท่านที่มีชื่อเสียง แต่ก็ไม่สามารถแก้ได้ กระทั่งมีญาติคนหนึ่งแนะนำให้ไปหาหลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา...หลวงปู่ได้ตรวจสอบแล้วจึงรับอนุเคราะห์เป็นภาระให้ด้วยความเมตตา..

    หลวงปู่ได้ใช้วิธีนิ่มนวลชี้ให้วิญญาณอาฆาต ได้เห็นถึงบาปบุญคุณโทษ หากวิญญาณอาฆาตทำให้ผู้หญิงคนนี้ตายไป ก็ไม่ใช่ว่าวิญญาณนั้นจะได้ไปผุดไปเกิดในทันที ซ้ำยังต้องรับโทษทัณฑ์ทุกข์ทรมานสืบต่อไปอีก ดังนั้นการอโหสิกรรมต่อกันจะเป็นทางที่ดีที่สุด..

    หลังจาก”วิญญาณ ภูตผี ปีศาจ” ที่ใครๆ คิดว่าไม่มีในโลก (แต่ ณ ขณะนั้นกลับมีอยู่ที่วัดโพธิ์กบเจา) ได้รับฟังคำสอนของหลวงปู่ที่ชี้แจงให้เห็นถึงบาปบุญคุณโทษนานพอสมควร จึงยอมออกจากร่างหญิงคนนั้นไป...



    “คนเราเมื่อตายไปแล้ว ก็มีแต่กรรมดี กรรมชั่ว ที่ตนเองกระทำนั่นแหละ ที่จะติดตัวเราไป กรรมเป็นกำเนิด กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมของตัวเอง...”

    พวกผมเคยนั่งล้อมวงถามหลวงปู่ว่า ผี มีหน้าตาอย่างไร น่ากลัวไหม แทนคำตอบท่านกลับนั่งนิ่งๆ ตามแบบของท่าน ครั้นพอหนักๆเข้า ชะรอยท่านคงจะรำคาญเลยถามพวกเรากลับว่า

    “พวกเอ็งกลัวผีไหม” แน่นอนคำตอบของทุกคนคือ “กลัว”

    ทั้งๆที่ยังไม่เคยเห็นเลยว่าผีหน้าตาเป็นอย่างไร คำตอบของหลวงปู่ที่สวนออกมาทันที ทำให้พวกเราต้องรูดซิปปากทันทีคือ...



    “ให้ไปคิดดูใหม่ ค่อยๆ คิดก็ได้ พวกเอ็งกลัวผี หรือ กลัวตาย..”

    ถอนหายใจยาวๆ แล้วนั่งคิดครับ..

    จำได้ว่าในวันนั้นพวกเราคำตอบแบ่งออกเป็นสองอย่าง แต่ก็ยังไม่มีการให้ธงคำตอบมาจากหลวงปู่ เพื่อแต่ท่านได้ให้ชิ้นส่วนจิ๊กซอร์ของความคิดไว้ชิ้นหนึ่งว่า “กลัวอยู่ที่ใจ..” เพื่อนๆ ละครับเคยลองคิดไหมครับว่า “เรากลัวอะไร กลัวผี หรือ กลัวตาย...”



    สำหรับตัวผม ตอบใจตัวเองครับว่า เรื่องของความกลัวนี่เป็นอันตรายของจิตใจเสียจริงๆ ไม่ว่าจะกลัวอะไร สำหรับบางคนแล้วมีอาการกลัวผีเอามากๆ

    ขนาดว่าเห็นอะไรวับๆแวมๆ หัวใจหยุดเดินเอาดื้อๆ ผมเชื่อว่ามีหลายคนอาจจะบอกว่าไปกลัวผีแต่ถ้าไม่หลอกตัวเองนัก คาดว่าภายในใจลึกๆ ก็ยังคงหวาดกลัวอยู่ดี จะว่าไปแล้วได้มีนักจิตวิทยาบางท่านเคยกล่าวไว้ว่า..

    “ความคิดในเรื่องของความกลัว มันฝังอยู่ในสัญชาตญาณกลัวตายของคน..”

    ผมเลยได้ข้อสรุปกับหัวใจว่า..

    “ตราบใดที่เรากลัวผี ตราบนั้นเราก็ยังกลัวตาย และตราบใดที่เรากลัวตาย ตราบนั้นเราก็ยังคงกลัวผีอยู่นั้นเอง”

    เหมือนกับภาษากฏหมายละครับ

    “อุบัติเหตุ กับ เหตุสุดวิสัย..”

    สองคำนี้ต่างกันอย่างไร ชาวบ้านรากหญ้าคงสั่นศรีษะพร้อมกับบอกว่า “แฟ๊ป กับ ผงซักฟอก” คือคำตอบสุดท้าย..



    จริงๆแล้วเรื่องราวของหลวงปู่เมี้ยน พุทธสิริ ยังคงมีอีกมากมาย เช่นเรื่องของการออกแสวงหาครูบาอาจารย์ เช่นหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โท ฯลฯ

    ร่วมไปถึง ประสบการณ์ในวัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้ปลุกเสก เคล็ดลับบูชาตะกรุด การรักษาคนไข้ การต่อกระดูก หรือคำสั่งสอนต่างๆ

    ซึ่งผมคงจะนำมาพ่นในที่นี้ไม่ไหว ขอยกยอดสุทธิไปลงในงบบัญชีหน้าใหม่ละกันครับ ..

    เพียงแต่ว่า”บันทึกน้อย”ของผมตอนนี้ เขียนขึ้นเนื่องจากใกล้วันสำคัญ วันหนึ่งของหลวงปู่เมี้ยน คือ ๑๙ ตุลาคม ของทุกปี



    หลวงปู่เมี้ยน พุทธสิริ ท่านได้มรณภาพด้วยอาการสงบ ในเวลา ๑๖.๐๐ น.ของวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ สิริอายุได้ ๘๑ ปี

    ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาลูกศิษย์ที่เฝ้าดูอาการ

    “ร่มโพธิ์” ของวัดโพธิ์กบเจาแห่งนี้ล้มลงแล้ว สิ้นสุดหลวงปู่เมี้ยน ผู้โด่งดังจากวิชา ๕ ม. คือ

    “น้ำมัน น้ำมนต์ ชานหมาก มีดหมอ และไม้ครู....”



    ผมและเพื่อนๆได้เข้าไปกราบหลวงปู่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจะนำน้ำอาบศพมาถึงวัด..

    ในวันงานมีเหล่าลูกศิษย์ทยอยมากราบไหว้ท่านตลอดทั้งวันทั้งคืน บ้างเดินทางมาจากเหนือสุด บ้างเดินทางมาจากใต้สุดเพื่อมาสักการะท่าน..

    โดยเฉพาะผู้ที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากหลวงปู่ทั้งการรักษาโรคและไล่ผี หรือรอดชีวิตจากวัตถุมงคลของท่าน บางคนกราบไหว้ศพท่านทั้งน้ำตา..

    .....ผมเห็นบางคนก้มลงกราบที่เท้าท่าน..แล้วเอามือที่แตะเท้านั้นขึ้นลูบศีรษะของตนเอง...

    เพียงเพื่อหวังให้บารมีของท่านคุ้มครองเหมือนสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่....



    ว่ากันว่า “มนุษย์จะเลือกอะไรก็เป็นเรื่องของมนุษย์ แต่มนุษย์ไม่ควรเลือกโดยเข้าใจไปว่า นี่คือความจริง..

    เพราะความจริงที่มนุษย์คิดอันนี้ มันจะทำให้มนุษย์ตาบอดกับอีกหลายสิ่ง หลายอย่างที่อยู่รอบๆตัว..”

    จะว่าไปแล้วทั้งหมดนี้คือแรงศรัทธาของผู้คนที่มีต่อ “หลวงปู่เมี้ยน พุทธสิริ” แห่งวัดโพธิ์กบเจา พระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาแก่กล้า..

    ...หลวงปู่ผู้ไม่มีวันตายไปจากใจของเหล่าศิษย์ตราบนานเท่านาน.....สวัสดีครับ



    ขอกราบขอบพระคุณ พระมหาฉลอง สุภาจาโร วัดสุทัศน์ (ผมไม่ได้เข้าไปนมัสการท่านนานแล้ว)หวังว่าท่านคงจะสบายดี..

    คุณพรชนก สุขพงษ์ไทย สำหรับข้อมูล เพื่อนต่อกับคำแนะนำที่ดีและมีประโยชน์ คุณสมบูรณ์ ร้านนายฮ้อ สระบุรี ที่ให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ..ครับ

    **จำนวนการสร้าง**
    - เนื้อทองแดง
    - 1 ใน 5,000 เหรียญ
    - สร้างปี พ.ศ. 2536
    เหรียญรุ่นนี้ เป็นเหรียญ ที่มีการปลุกเสกนานที่สุด ของหลวงพ่อ คือ 1 ไตรมาส และเป็นเหรียญดัง มีประสบการณ์ ของพื้นที่ มีพุทธคุณหนักไปด้าน คงกระพัน ชาตรี (เหนียวมากๆ)ให้บูชา 399 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2016
  10. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    9.***ของดีต้องลอง**ตะกรุดมหาราช หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย วัดสุทธาวาส วิปัสสนาอ.ลาดบัวหลวง จ.อยุธยา พร้อมใบคำฝอย ซองเดิมๆจากวัด***แบ่งให้บูชาไปลองใช้ 199 บาท****

    วัตถุมงคลของ หลวงพ่อรักษ์ นั้นส่วนมากท่านมักจะปลุกเสกของท่านด้วยพุทธาคมที่ท่านร่ำเรียนมาอย่างเต็มพลัง หลักการอธิษฐานจิตของท่านนั้นจะเน้นไปทาง เมตตามหาเสน่ห์ - โชคลาภ เงินทอง - ความสำเร็จ - กันคุณไสยต่างๆ และด้านแคล้วคลาดกันภัยคงกระพัน เป็นเลิศ

    การทำวัตถุมงคลของ หลวงพ่อรักษ์ นั้น ท่านมีหลักเกณฑ์ในการวินิจฉัย 4 ประการสำคัญคือ
    1. ดูที่เจตนา ถ้าวัตถุประสงค์ดี วัตถุมงคลจึงจะดี
    2. พิธีกรรม ถูกต้องตามโบราณกาลหรือไม่
    3. มวลสารดี
    4. ดูฤกษ์ผานาทีว่าเหมาะสมหรือไม่
    หลวงพ่อรักษ์ ท่านสร้างวัตถุมงคลเพื่อสร้างถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา ท่านกล่าวย้ำเสมอว่า... การทำวัตถุมงคลต้องตั้งใจทำ ให้ผู้นำไปใช้ได้รับพุทธคุณครอบจักรวาล... วัตถุมงคลทำไว้มอบให้กับญาติโยมที่บริจาคสมทบทุนสร้างวัด ไม่ได้ทำเพื่อซื้อขาย เป็นที่ระลึกว่าใครได้ไปสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างถาวรวัตถุ ถวายไว้ในพระพุทธศาสนามาเท่านั้น
    ด้านการอบรมธรรมมะ สอนสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน
    หลวงพ่อรักษ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ ที่เชี่ยวชาญในการปฏิบัติสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ท่านได้พัฒนาวัดสุทธาวาสจากเดิมที่เป็นวัดธรรมดาทั่วไป จนเป็นที่รู้จักแก่สาธุชน ว่า "วัดสุทธาวาส วิปัสสนา" เป็นสำนักปฎิบัติธรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แห่งที่ 13 (วัดที่เป็นสำนักปฏิบัติธรรมนี้ มีดีกรีเทียบเท่ากับพระอารามหลวงชั้นตรี)

    ผลงานและสิ่งที่ หลวงพ่อรักษ์ ตั้งใจทำมาตลอดคือ งานด้านการเผยแผ่หลักธรรม คำสอนขององค์ สมเด็จพระชินวรสัมมาสัมพุทธเจ้า ในรูปแบบของการปฏิบัติสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน โดยเริ่มทำมาตั้งแต่ท่านได้เข้ามาอยู่วัดแห่งนี้จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการปฏิบัติธรรมจะจัดขึ้นทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ สุดท้ายของสิ้นเดือน ตลอดทั้งปี โดยมี หลวงพ่อรักษ์ เป็นเจ้าสำนัก และสอนกรรมฐาน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังแสดงถึงการที่หลวงพ่อเมตตาหวังดีต่อศิษยานุศิษย์และสาธุชน ที่หวังให้ลูกศิษย์ทุกคนมีศีล สมาธิ ปัญญาที่ดี และยังมีสุคติเป็นที่ไป อีกทั้งมีความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสนาตลอดไป


    หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย ได้ถวายตัวเป็นศิษย์ และเรียนพระคาถาพุทธาคมจาก พระเกจิอาจารย์ต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อแต่ละองค์นั้น ท่านก็ได้ประสิทธิ์ประสาทพุทธาคมของท่านให้แก่พระอาจารย์รักษ์ และยังได้มอบเหล็กจารของท่านให้กับ พระอาจารย์รักษ์ ไว้บูชาและใช้ในพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ
    หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    สอนกรรมฐาน ทำน้ำมนต์ วิชาบารมีสิบทัศ สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
    หลวงปู่เยื่อ วัดใหม่หญ้าไทร
    หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    หลวงพ่อรวย วัดตะโก
    สอนเขียนยันต์ตรีนิสิงเห สอนกรรมฐาน สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
    หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
    สอนกรรมฐาน สอนเขียนอักขระขอม เมตตามหาอุด หัวใจตัวเฑาะก์ วิชาคงกระพันและเมตตามหานิยม สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
    หลวงพ่อเขียน วัดกะทิง
    สอนกรรมฐาน วิชาเรียกลาภ หัวใจมนุษย์ หัวใจกระทิง สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
    หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี
    ถ่ายทอดวิชาปลุกเศกวัตถุมงคลทางพลังจิต สอนวิชาจารตะกรุดโทน ตะกรุดชุด 12 ดอก กันปืน กันช้าง กันเสือ กันปืนใหญ่ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์ ประสิทธิ์ประสาทพุทธาคมให้แก่ศิษย์
    หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    สอนกรรมฐาน ทำน้ำมนต์หัวใจแคล้วคลาด หัวใจพระเวทย์คาถาต่างๆ สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
    หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    สอนกรรมฐาน และอิติปิโสถอยหลัง (แก้เคล็ดกลับร้ายกลายเป็นดี) สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
    หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม
    สอนกรรมฐาน นะเมตตา คาถาอุดปืน สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
    ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล
    สอนเขียนอักขระล้านนา (ยันต์พระเจ้า 5 พระองค์) วิชาบารมี 7 ชั้น (ตำหรับครูบาศรีวิชัย) มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
    หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
    สอนกรรมฐาน สอนวิธีทำเบี้ยแก้ ตำหรับวัดกลางบางแก้ว สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
    ครูบาชุ่ม จ.เชียงราย
    สอนหัวใจนะมหาจังงัง สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่ลูกศิษย์
    หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้
    พระพรหมสุธี วัดสระเกศ

    **คำกล่าวในใบคำฝอย**
    ***ตะกรุดมหาราช หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย วัดสุทธาวาส วิปัสสนา อ.ลาดบัวหลวง จ.อยุธยา คุณวิเศษของตะกรุดมหาราช คือ เป็นเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ค้าขายรุ่งเรื่อง โชคลาภ ป้องกันภัย ดีนักแล พระคาถาอาราธนา ตะกรุดหมาราชตั้งนะโม 3 จบ นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะพะกะสะ นะมะอะอุ พุทธะสังมิ พุทโธ อะระหังสวดภาวนาเวลาเช้า 1 จบ เรียกโชคเรียกลาภ สวดภาวนาเวลาเย็น 1 จบ ป้องกันเสนียดจัญไรทั้งปวง ลองนำไปบูชาแล้วอาราธนาพกพาติดตัวดูเถิด แล้วจะรู้ว่าสิ่งศักดิ์มีจริง***แบ่งให้บูชาไปลองใช้ 199 บาท******มีอยู่ทั้งหมด3ชุดครับ**
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_0247.JPG
      DSC_0247.JPG
      ขนาดไฟล์:
      147.8 KB
      เปิดดู:
      295
    • DSC_0249.JPG
      DSC_0249.JPG
      ขนาดไฟล์:
      82.6 KB
      เปิดดู:
      150
    • DSC_0250.JPG
      DSC_0250.JPG
      ขนาดไฟล์:
      76.1 KB
      เปิดดู:
      125
    • DSC_1044.JPG
      DSC_1044.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.6 KB
      เปิดดู:
      133
    • Luck.jpg
      Luck.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.5 KB
      เปิดดู:
      111
  11. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ให้บูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล หลากหลายรายการ พระเครื่องทั้งหมดที่ลงในกระทู้นี้ผมขอการันตรีพระแท้100% ผ่านการเช็คจากผู้เชี่ยวชาญในหลายกลุ่มแล้ว ทั่วประเทศครับรับประกันแท้ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน โดยไม่มีเงื่อนไขครับ (พระต้องกลับมาสภาพเดิมครับ)
    ท่านที่สนใจจองได้ไม่เกิน3วันเท่านั้น โอนเงินได้ที่รายละเอียดที่อยู่ด้านล่าง หลังจากโอนแล้ว รบกวนโทร.หรืออีเมล์มาบอกชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งด้วยครับ
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    - Pm
    - เบอร์โทร 0817933946
    ชำระเงินได้ที่
    ธ.กรุงไทย สาขา ศรีย่าน
    ชื่อบัญชี นายวรัญญู เล้ารัตนอารีย์
    เลขที่บัญชี 012-0-14398-4
     
  12. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    10.รูปหล่อหลวงพ่อเงิน รุ่นดาวตรีคูณ...พิมพ์เล็ก ตอกโค๊ต๙๙ กล่องเดิม สภาพสวยมากๆๆ ม่วงประกายทอง ผิวแชมป์ **ให้บูชา 499 บาท**
    ***พระชุดรูปเหมือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน รุ่น 99 ดาวตรีคูณ วัตถุประสงค์การจัดสร้างเพื่อสร้างกองทุนการประถมศึกษา อ.โพทะเล จ.พิจิตร พิธีพุทธาภิเษก ปี 2529 เนื้อทองผสม พิธีใหญ่ วัตถุประสงค์จัดสร้างดีมากๆ

    หลวงพ่อเงิน รุ่น ๙๙ ดาวตรีคูณ เป็นรุ่นที่สร้างเพื่อเป็นโครงการจัดตั้งกองทุนการศึกษา และจัดสร้างศูนย์วิชาการ เป็นโครงการร่วม ศาสนา-ประชา-รัฐ จัดตั้งกองทุนการศึกษา สปอ.โพทะเล จ.พิจิตร

    วัตถุประสงค์คือ
    ๑.ตั้งกองทุนการศึกษา สปอ.โพทะเล
    ๒.ร่วมเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ๓.สร้างกุศลให้เป็นมงคลร่วมกัน รวมพลัง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน วัดท้ายน้ำ

    พิเศษด้วยพระพุทธคุณ มหาลาภ มหาเมตตา มหามงคล ฯลฯ
    เกจิอาจารย์ลงจารและพุทธาภิเษก
    ๑.พระราชวิมลเมธี รองเจ้าคณะภาค ๔ วัดมงคลทับคล้อ
    ๒.หลวงพ่อทวี วัดโรงช้าง จ.พิจิตร
    ๓.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    ๔.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    ๕.หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จ.นครสวรรค์
    ๖.หลวงพ่อพิมพา วัดหนองตางู จ.นครสวรรค์
    ๗.หลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร
    ๘.หลวงพ่อจิต วัดวังแดง จ.พิจิตร
    ๙.หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน จ.พิจิตร
    ๑๐.หลวงพ่อโชติ วัดไผ่รอบ จ.พิจิตร
    ๑๑.พระครูพินิจสีลคุณ วัดท้ายน้ำ จ.พิจิตร

    พิธีปลุกเสก 21 มิถุนายน 2529 รูปเหมือนปั๊มอุดกริ่งหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน รุ่น ๙๙ ดาวตรีคูณ พิมพ์ทรงเป็นแบบล้อพิมพ์ หลวงพ่อเงิน บางคลาน ปี 15 พิมพ์มือจุด พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดบางคลาน ปี 2529 จัดสร้างขึ้นโดยกองทุนการประถมศึกษา ส.ป.อ.โพทะเล จ.พิจิตร


    สำหรับ พระชุดนี้ทางวัดท้ายน้ำต้องการทำแบบย้อนยุค โดยอาศัยแบบจากรูปเหมือนปั๊มอุดกริ่งหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ปี 15 ที่ได้สร้างเอาไว้ในสมัยหลวงพ่อเปรื่องเป็นเจ้าอาวาส จากรูปจะเห็นว่าเป็นรูปหล่อหลวงพ่อเงินที่สวยมาก ใครที่ต้องการหลวงพ่อเงินพิมพ์นี้ รีบนะครับเพราะเริ่มหายากมาก คุ้มค่ามากครับ

    รูปเหมือนปั๊มอุดกริ่งหลวงพ่อเงิน บางคลาน ปี 15 ราคาไปหลายหมื่นบาทแล้ว รูปเหมือนปั๊มอุดกริ่งหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน รุ่น ๙๙ ดาวตรีคูณนี้ พิมพ์ทรงเหมือนกัน พุทธคุณคงไม่ต่างกันครับ เพราะมวลสารดี พิธีดี และเกจิดีครับ


    ### พระชุดนี้เป็นหนึ่งในพระที่สร้างน้อย เป็นที่นิยมเช่าหา และเก็บสะสมครับ สภาพสวยไม่เคยใช้ พร้อมกล่องเดิมๆครับ ###

    "บริบ ถ...มีคำกล่าวกันในหมู่ผู้ที่ศรัทธาว่า" ใครมีพระหลวงพ่อเงิน จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน แม้ตกอยู่ในภาวะอันตราย จะแคล้วคลาดได้อย่างน่าอัศจรรย์ และไม่สำคัญว่าพระเครื่องรุ่นนั้นจะทันท่านหรือไม่...สิ่งที่เป็นเรื่อง อัศจรรย์ก็คือ ความเข้มขลังในพระเครื่องหลวงพ่อเงินนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นของเก่า แม้ที่เพิ่งสร้างใหม่ในนามของหลวงพ่อเงินล้วนแล้วแต่เอกอุไปด้วยพลังแห่ง ความศักดิ์สิทธิ์ที่กระจายอยู่ทุกอนูของวัตถุมงคลมหามงคลนาม "หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ" โดยเฉพาะพระหลวงพ่อเงินที่สร้างในปีที่ลงท้ายด้วยเลข "๕" ล้วนมีพลังอาถรรพณ์ก่อให้เกิดสิ่งอันเป็นมงคลแก่ผู้ครอบครองในทุกๆ ด้าน เชื่อกันว่าพลังดังกล่าวนั้นเกิดมาจากพลังบารมีของหลวงพ่อเงิน ที่แผ่กระจายครอบคลุมปกปักรักษาผู้ที่เคารพศรัทธาท่าน ให้ปลอดโรคปลอดภัย ปราศจากภยันอันตรายใดๆ ที่จะมากล้ำกราย...พระเครื่องที่หลวงพ่อเงินท่านสร้างและปลุกเสกจนได้รับ ความนิยมอย่างแพร่หลายก็คือ รูปหล่อพิมพ์ นิยม,พิมพ์ขี้ตา,เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่-จอบเล็ก ซึ่งมีจุดกำเนิดในปี พ.ศ.๒๔๖๐ หรือเมื่อ ๑๐๐ กว่าปีที่แล้ว แต่พุทธคุณ เรื่อง “คลาดแคล้ว-คงกระพัน” ยังมีครบครันครบเครื่อง มีเรื่องให้อัศจรรย์ใจกันอยู่เสมอ...เชื่อกันว่าวัตถุมงคลที่หลวงพ่อเงิน สร้างนั้นมีอยู่หลายอย่าง มีทั้งเนื้อดิน เนื้อผง เนื้อโลหะโดยเฉพาะ พระเนื้อโลหะที่หลวงพ่อเงินสร้างเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางของเก่าที่ทัน ยุคหลวงพ่อปรากฏว่าราคาเช่าหาองค์ละหลายแสนบาท สาเหตุที่ราคาแพงเป็นเพราะผู้ที่บูชาพระหลวงพ่อเงินติดตัวมักมีประสบการณ์ ให้ประจักษ์แก่ตาตนเองมาทั้งนั้น **แบ่งให้บูชา 499 บาท**
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_1260.JPG
      DSC_1260.JPG
      ขนาดไฟล์:
      71.1 KB
      เปิดดู:
      113
    • DSC_1262.JPG
      DSC_1262.JPG
      ขนาดไฟล์:
      88.6 KB
      เปิดดู:
      121
    • DSC_1263.JPG
      DSC_1263.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.9 KB
      เปิดดู:
      110
    • DSC_1229.JPG
      DSC_1229.JPG
      ขนาดไฟล์:
      84 KB
      เปิดดู:
      133
    • DSC_1228.JPG
      DSC_1228.JPG
      ขนาดไฟล์:
      50.4 KB
      เปิดดู:
      94
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2016
  13. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11.**ใครอยากเป็นเจ้าสัว**เหรียญเจ้าสัวรุ่นแรก หลวงพ่อพร วัดบางแก้ว จ.นครปฐม เนื้อแร่ศักดิ์สิทธิ์ ผสมพระเนื้อขี้นกเขาเปล้าแท้ๆ ของ หลวงปู่บุญ 2โค๊ด มีซองเดิมๆ ให้บูชา 399 บาท
    ***คุณDek_watpaปิดรายการนี้ครับ***
    ในพรรษานี้หลวงพ่อพรได้เหรียญเจ้าสัวรุ่นแรกของวัดบางแก้ว โดยใช้ชนวนพระชัยวัฒน์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ปี2544 และชนวนเหรียญเจ้าสัว ปี2535 ทั้งหมด หล่อหลอมเป็นชนวนมงคลในการสร้างครั้งนี้ กำหนดเททองหล่อหลอมรวมชนวนมวลสารสำคัญทั้งหมดและเททองหล่อแบบโบราณ เหรียญชุดเนื้อชนวนจำนวน 500 เหรียญ ในวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม 2555 เวลา 09.39 น.เป็นฤกษ์เศรษฐีคือ มหัทธโนฤกษ์ จากนั้นให้ผู้สนใจเริ่มจองตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน2555-วันที่ 9 สิงหาคม 2555

    จำนวนการสร้างเหรียญและราคาทำบุญ

    1.เหรียญเนื้อชนวนหล่อโบราณ สร้าง 500 เหรียญ ทำบุญเหรียญละ 2,500 บาท
    2.เหรียญเนื้อทองคำ สร้างเท่าที่จอง ทำบุญเหรียญละ 90,000 บาท
    3.เหรียญเนื้อเงิน สร้างเท่าที่จอง ทำบุญเหรียญละ 2,000 บาท
    4.เหรียญเนื้อนวโลหะ สร้างเท่าที่จอง ทำบุญเหรียญละ 1,500 บาท
    5.เหรียญเนื้อทองแดง สร้างเท่าที่จอง ทำบุญเหรียญละ 300 บาท

    หมายเหตุ เหรียญชุดเนื้อชนวนเททองหล่อแบบโบราณจำนวน 500 เหรียญ ในวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม 2555

    ****ชนวนมวลสาร เหรียญเจ้าสัว รุ่นแรก ****


    - ฐานช่อพระชัยวัฒน์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ปี 2444

    - ก้านช่อพระชัยวัฒน์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ปี 2444

    - เหรียญเจ้าสัว เนื้อเงิน หลวงปู่เจือ ปี 35 ( 2 เหรียญ )

    - เหรียญเจ้าสัว เนื้อทองแดง หลวงปู่เจือ ปี 35 ( 5 เหรียญ )

    - ชนวนเก่าโบราณ

    - พระชัยวัฒน์พิมพ์ชลูด หลวงปู่เจือ เนื้อทองผสม

    - พระชัยวัฒน์พิมพ์ต้อ หลวงปู่เจือ เนื้อทองผสม

    - เหรียญหล่อพิมพ์เศียรโล้นสดุ้งกลับ หลวงปู่เจือ เนื้อทองผสม

    - สมเด็จปรกโพธิ์ หลวงปู่เจือ เนื้อทองผสม

    - นางพญา หลวงปู่เจือ เนื้อทองผสม

    - เหรียญจอบรูปเหมือน หลวงปู่เจือ เนื้อทองผสม

    - พระปิดตา หลวงปู่เจือ เนื้อทองผสม

    - เหรียญพระพุทธชินราช หลวงปู่เจือ เนื้อทองแดง ( 5 เหรียญ )

    - พระกริ่งนเรศวรตรึงไตรภพ ( 2 องค์ ) หลวงปู่เจือ

    - พระขุนแผน + พระนางพญา หลวงปู่เจือ

    - ปรกมะขาม หลวงปู่เจือ

    - ตะกรุดเก่า หลวงปู่เจือ ทั้งเนื้อเงินและเนื้อทองแดง ( 20 ดอก )


    สรุปจำนวนการสร้างเหรียญโดยการจอง

    1. เหรียญเนื้อชนวนหล่อโบราณ สร้าง 500 เหรียญ

    2. เหรียญเนื้อทองคำ สร้าง 45 เหรียญ

    3. เหรียญเนื้อเงิน สร้าง 3,350 เหรียญ

    4. เหรียญเนื้อนวโลหะ สร้าง 2,120 เหรียญ

    5. เหรียญเนื้อทองแดง สร้าง 20,413 เหรียญ

    6. เหรียญเนื้อแร่ศักดิ์สิทธิ์ โดยนิตยสารลานโพธิ์ สร้าง 27,085 เหรียญ

    หมายเหตุ : เหรียญเจ้าสัว เนื้อแร่ศักดิ์สิทธิ์ โดยนิตยสารลานโพธิ์ นั้นทางนิตยสารลานโพธิ์ได้ขออนุญาติหลวงพ่อพร จัดสร้างเหรียญเจ้าสัวเนื้อแร่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้น เนื้อแร่ศักดิ์สิทธิ์นั้นประกอบไปด้วย แร่ชนวนเนื้อขี้นกเขาเปล้า ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และแร่อื่นๆอาทิเช่น แร่พลวงเงิน พลวงทอง จ้าวน้ำเงิน เงินบริสุทธิ์ และดีบุก เป็นต้น เหรียญเจ้าสัว เนื้อแร่ศักดิ์สิทธิ์ จะทำการปลุกเสกโดยหลวงพ่อพร พร้อมกับเหรียญเจ้าสัวเนื้ออื่นๆ และจะเปิดให้รับเหรียญเจ้าสัวพร้อมกัน ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555
    **แบ่งให้บูชาเบาๆ399 บาท**
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 35.jpg
      35.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.7 KB
      เปิดดู:
      316
    • DSC_1933.JPG
      DSC_1933.JPG
      ขนาดไฟล์:
      137.3 KB
      เปิดดู:
      116
    • DSC_1937.JPG
      DSC_1937.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.1 KB
      เปิดดู:
      113
    • DSC_1938.JPG
      DSC_1938.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.1 KB
      เปิดดู:
      124
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2016
  14. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    12.เหรียญสมเด็จองค์ปฐม รุ่นจักรพรรดิ์สุวัณณภูมิ องทุนหลวงพ่อปานโสนันโท ปลุกเสก พิธีเสาร์ห้า วัดท่าซุงและองคฺพระปฐมเจดีย์ สภาพสวย กล่องเดิม ให้บูชา 299 บาท**คุณธรรมาวุธจองครับ**

    ***พุทธาภิเษก***

    1. พุทธาภิเษกเสาร์ ๕ วันที่ 12 มีนาคม 2559 ที่วัดท่าซุงงานพุทธาภิเษกและเป่ายันต์เกราะเพชรได้เข้าพิธีเป็นที่เรียบร้อย แก้วจักรพรรดิ์ สมบัติพ่อให้ แก้วจักรพรรดิ์ประจำองค์พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ซึ่งเป็นแก้วกายสิทธิ์ที่ใช้เลี้ยงเมืองเมื่อครั้งอดีตชาติของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ แก้วจักรพรรดิ์นี้จะถูกนำมาตั้งเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกทุกครั้งนับตั้งแต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อยังทรงธาตุขันธ์ และจะนำน้ำอบสรงผ่านแก้วจักรพรรดิ์นี้ไปยังกองวัตถุมงคลต่างๆที่เข้าพิธี
    ซึ่งในวันเสาร์ที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙ เป็นวันเสาร์ ๕ เป็นที่รู้กันในหมู่ลูกหลานวัดท่าซุง ว่าจะมีการพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ในการนี้พระเดชพระคุณพระภาวนากิจวิมลได้เชิญแก้วจักรพรรดิ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อตั้งเป็นประธานในพิธี ซึ่งในการนี้คณะทำงานกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโท ได้นำวัตถุมงคลเหรียญสมเด็จองค์ปฐม "พระจักรพรรดิ์สุวัณณภูมิ" ซึ่งได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระภาวนากิจวิมลได้นำน้ำอบสรงผ่านลูกแก้วจักพรรดิ์ ไปยังกองวัตถุมงคลทั้งหมดเพื่อความเป็นศิริมงคล และยังเมตตานำน้ำอบสรงผ่านลูกแก้วรดศีรษะของคณะทำงานกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโท นำความชุ่มชื่นใจมาสู่หมู่คณะ ซึ่งในวันนั้นอากาศก่อนเริ่มพิธีได้อบอ้าวมากฟ้าคื้มเหมือนฝนจะตกแต่แล้วเมื่อเข้าสู่ช่วงพิธี เกิดมีลมพัดเย็น แดดพอออกให้มีแสง เกิดพระอาทิตย์ทรงกรดในพิธี จะเป็นเพราะธรรมชาติหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่สำหรับเราคณะทำงานกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโท ถือว่าได้รับพระพุทธบารมีและพุทธเมตตาจากพระใหญ่ที่ท่านสงเคราะห์หมู่คณะและเหรียญสมเด็จองค์ปฐม"พระจักรพรรดิ สุวัณณภูมิ"


    2.พิธีวาระ 2
    ปลุกเสกวาระ 2 หลวงพ่อหนุน ร่วมปลุกเสกด้วยครับ !!!!!!!!!!
    วันเสาร์ ที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๙
    เวลา ๑๖.๐๙ น. พิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์
    เวลา ๑๗.๔๙ น. พิธีจุดเทียนชัย โดยพระเดชพระคุณพระพรหมเวที เจ้าคณะภาค ๑๕ เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร นั่งปรกอธิษฐานจิตเป็นปฐมฤกษ์ ร่วมกับพระเดชพระคุณพระเทพญาณมงคล วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
    เวลา ๑๙.๐๙ น. พิธีบวงสรวงท้าวมหาราช เริ่มพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่ระลึก ตามแบบฉบับพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง โดยมีพระเดชพระคุณพระครูวิชัยสารคุณ (หลวงพ่อหนุน) วัดพุทธโมกข์ เป็นประธาน
    รายนามพระมหาเถรานุเถระ พระเถรานุเถระ อธิษฐานจิต วัตถุมงคลเหรียญสมเด็จองค์ปฐม "พระจักรพรรดิ์สุวัณณภูมิ"
    -พระพรหมเวที
    เจ้าคณะภาค ๑๕ เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จ.นครปฐม
    -พระเทพญาณมงคล (หลวงป๋า)
    วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี
    -พระครูวิชัยสารคุณ (หลวงพ่อหนุน)
    วัดพุทธโมกข์ จ.สกลนคร
    -พระครูพิพัฒนศีลาจารย์
    วัดสิรินธรเทพรัตนาราม จ.นครปฐม
    -พระครูสุวัฒนธรรมคุณ
    วัดโพธิ์ตะควร จ.สุพรรณบุรี
    -พระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ
    วัดโพธิผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
    -พระครูวิลาสสรคุณ
    วัดพุทธโมกข์ จ.สกลนคร
    -พระอธิการบัญญัติ อตุโล
    วัดพระราชพรหมยานรังสรรค์ จ.เพชรบุรี
    -พระครูสมุห์อภิสิทธิ์ อภิญาโณ
    วัดยานนาวา กรุงเทพมหานคร
    -พระปลัดสมพร สมวโร
    สำนักป่าพระธรรมญาณมุนี จ.นครปฐม
    -พระปลัดประวิทย์ ฐิตวีโร
    วัดประเสริฐสุทธาวาส กรุงเทพมหานคร
    -พระอาจารย์ธนัญชัย ญาณวโร
    วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต กรุงเทพมหานคร

    *ด้านหน้า*
    ได้อัญเชิญรูปสมเด็จองค์ปฐมแบบพระพุทธชินราชที่สมเด็จท่านมาปรากฏภาพให้หลวงพ่อพระราชพรหมยานและได้สร้างไว้เป็นที่สักการะจนถึงทุกวันนี้และเป็นต้นแบบการสร้างสมเด็จองค์ปฐมสืบมา ด้านข้างทั้งสองประดิษฐานรูปพระพรหมและพระนารายณ์ซึ่งหมายถึงพระพุทธเจ้าเป็นครูของพรหมเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ด้านล่างมีพระอสุรินทราหู หมายถึง พระพุทธเจ้าทั้งหลายมีสมเด็จองค์ปฐมทรงอยู่เหนืออวิชาทรงสั่งสอนจำแนกธรรมและสัตว์ ได้อย่างแจ่มแจ้ง และหมายถึงการสลายอวมงคลแห่งพลังงานวิบากของกรรม ด้านบน อัญเชิญพระนามสมเด็จองค์ปฐม นามพระพุทธสิขี๑เป็นอักษรขอม รูปแบบทั้งหมด สถิตในเหรียญรูปไข่

    *ด้านหลัง*
    ได้อัญเชิญ ยันต์ท้าวมหาพรหม ซี่งเป็นยันต์ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระใช้ประทับหลังวัตถุมงคลมีพุทธคุณนานาประการในทุกๆด้านเน้นเรื่องกำจัดอุปสรรคและอวมงคล ต่างๆรวมถึงส่งผลเรื่องมหามงคล มหาลาภ แก่ผู้สักการะบูชาและเคารพในพระไตรสรณคมน์ ล้อมอักขระขอม พรหมา จะ, มหาเทวา,สัพเพยักขา,ปะลา ยันติ ซึ่งเป็นคาถาปัดอุปสรรค ด้านซ้าย-ขวา-บนของยันต์มหาพรหม ลงอักขระขอมหัวใจคาถาที่หลวงปู่ปานใช้และตกทอดถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ คือ มะ อะ อุ ใต้คำว่าสัพเพยักขามีคำว่าสัมปะติฉามิ คาถาที่ลงล้อมในวงไข่ลงด้วยพุทธคาถาคาถาคือ มหาวิชโย โหหิ อะสังวาโส และพระคาถาท้าวมหาราชคือ สัมมา สัมพุทธัสสะ พระอะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ซึ่งคาถาเหล่านี้เป็นธรรมสมบัติที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯให้กับพุทธบริษัทที่มีความเคารพในพระไตรสรณคมน์ ซึ่งมาพุทธาคุณตามแต่ผู้เคารพจะอธิษฐาน และในด้านหลังนี้ได้จารึกคำว่า กองทุนหลวงปู่ปานฯ ๕๙ เป็นสัญญาลักษณ์มีแต้มเนื้อพิเศษ 173สุปฏิปันโนและเกศาหลวงพ่อพระราชพรหมยาน,เกศาครูบาวงศ์,เกศาหลวงปู่ดู่ตรงกลางยันต์ท้าวมหาพรหมตรงองค์เพื่อเป็นอาจาริยะบูชา

    **พุทธคุณ**
    เป็นของขวัญให้กับตัวเอง แก้ปีชง เสริมฮวงจุ้ย เป็นศิริมงคล เร่งลาภผล เพิ่มความคล่องตัว ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง เนื้อหามวลสารดี เจตนาการสร้างดี พุทธคุณสุดยอด ใครสร้างสมเด็จองค์ปฐมจะได้บันทึกใบบัญชีทองคำของท่านท้าวพญายมราช รวมบารมีได้ง่าย.....ใครมีสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชาไม่ว่าใครคิดร้ายเป็นมนุษย์ก็ดีไม่ใช่มนุษย์ก็ดีจะล่าถอยไปหมด กลับร้ายเป็นดี......***แบ่งให้บูชา 299 บาท**
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2016
  15. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    13.**จัดไปของดี***เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่พวง ฐานวโร วัดน้ำพุ เพชรบูรณ์ เนื้อทองแดง (ซองเดิม+ใบทางวัด) ยังไม่เคยแกะออกจากซอง ไม่ผ่านการบูชาครับ** ให้บูชา 1899 บาท**

    วัตถุมงคล รุ่นแรก จัดสร้างเพื่อหารายได้บูรณะกุฏิสงฆ์วัดน้ำพุ

    มีการจัดสร้าง เหรียญรุ่นแรก ! จัดสร้างเพียงอย่างเดียวเท่านั้น.

    หลวงปู่พวง เคยดำริไว้ไม่จำเป็นไม่สร้างเหรียญตัวเอง สร้างวัดสร้างถาวรวัตถุเอาไว้มากมายร่วมห้าสิบกว่าปีลูกศิษย์ลูกหาขอแล้วขออีกอยากได้ไว้เป็นที่ระลึก หลวงปู่พวงท่านไม่ทำแต่กลับเสกใบไม้ก้อนหินให้แทน หลวงปู่บอกว่า “ รักษาไว้เถิดนี่แหละของวิเศษของฉัน ” เชื่อหรือใบไม้ก้อนหินใครได้รับไปมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์เฉกเช่นเดียวกับหลวงพ่อทบ วัดชนแดน ปรมาจารย์องค์แรกของหลวงปู่พวง ครั้งหนึ่งลูกศิษย์ที่เจอประสบการณ์รถคว่ำหลายตลบรอดมาได้มีเพียงก้อนหินเสกของหลวงปู่พวงในคอเท่านั้น ทำไมก้อนหินนี้จึงได้ขลัง หลวงปู่พวงบอกว่า อาจารย์ฉันสอนแบบนี้เมื่อก่อนหลวงพ่อทบท่านหาอะไรไม่ได้ก็ ก้อนหินบ้างใบไม้บ้าง ก้านธูปบ้าง เสกเป่าลงอาคมให้ครบทุกอย่าง จิตดีของก็ดี คราวนี้ได้ ๖๕ พรรษา อายุได้ ๘๖

    หลวงปู่กาหลง รองเจ้าอาวาสเข้ามาปรึกษาเพื่อหาจตุปัจจัยบูรณะกุฏิสงฆ์จึงขอให้มีการจัดสร้างเหรียญรุ่นแรก ครั้งแรกในรอบกว่าห้าสิบปีที่ลูกศิษย์ลูกหาทั้งประเทศรอคอย. หลวงปู่พวง ท่านบอกว่า ไม่เอานะแบบสุกเอาเผากิน ก่อนสร้างหลวงปู่พวงเมตตามอบ ลูกประคำโทนขี้เหล็กไหลที่ได้จากมือหลวงพ่อทบให้หลวงพี่สำเริงไปเป็นชนวนปั้มเหรียญรุ่นแรก

    หลวงปู่พวงบอกว่า ใครมีเงินมากมายเท่าไหร่ ก็หาไม่ได้หรอก มวลสารอื่นๆที่หลวงพ่อ หลวงพี่ ต่างก็นำมาร่วมเป็นชนวนมวลสารไม่เว้นแม้แต่คณะศิษย์ต่างก็พากันนำมาเป็นชนวนมาถวายเพื่อความเข้มขลังมีพลังพุทธานุภาพอาทิ

    เหรียญรุ่นแรกทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หลวงพ่อทบ วัดทรงธรรม ปี 2483,เหรียญหน้าหนุ่มปี2500,เหรียญโดดร่มปี2500,เหรียญแซยิด ๙๔ วัดโบสถ์โพธิ์ทอง, เหรียญเสมา ๙๔ วัดชนแดน , เหรียญทูลเกล้า อายุ ๙๕,เหรียญแอปเปิ้ลหลวงพ่อทบ ,เหรียญหลวงพ่อทบหลังหลวงพ่อชมปี14,ตะกรุดเก่าชานหมากหลวงพ่อทบ,สมเด็จเข็มหักแตกหัก,แหวนหลวงพ่อทบ,รูปหล่อโบราณ94 ,รูปหล่อโบราณหน้าลิงหลวงพ่อเขียน,เหรียญขวัญถุง หลวงพ่อเขียน หลวงพ่อทบ หลวงพ่ออ้วน , เหรียญเสมา หลวงพ่ออ้วน วัดสว่างเนตร (ดงขุย), เหรียญเกจิคณาจารย์ต่างๆที่คณะศิษย์ร่วมถวาย ๙๙ เหรียญ.

    หลวงปู่พวงขอบารมีหลวงพ่อทบ กลางแจ้งนำชนวนทั้งหมดมาสวดภาวนา ขณะที่หลวงปู่พวงทำพิธีปรากฏมีลมพัดมาหอบหนึ่งเป็นลมเย็น หลังลมสงบลงหลวงปู่พวงวางพานชนวนลงพร้อมกับก้มกราบพูดว่า หลวงพ่อทบท่านทราบแล้วสำทับอีก “ ไม่เสกก็ขลังแล้ว ” เรื่องยันต์ที่จะบรรจุเหรียญ หลวงปู่พวงบอกหลวงพี่ให้นำยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ นะโมพุทธายะ ยันต์แม่ธาตุใหญ่ มีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวง พุทธคุณครบทุกด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผีและใช้กันเสนียดจัญไร ยันต์ประจำตัวหลวงพ่อทบที่มีประสบการณ์ทุกรุ่น และให้ลง นะมะพะทะ ตั้งธาตุหนุนธาตุด้วยธาตุทั้ง ๔ เหรียญนี้จะขลังยิ่งขึ้น

    ก่อนปลุกเสกอากาศอบอ้าวพอหลวงปู่พวงเดินลงจากศาลาเพื่อไปหอสวดมนต์เพื่อปลุกเสกเหรียญรุ่นแรก ก้าวแรกที่หลวงปู่พวงเดินลงบรรไดบังเกิดเมฆหมอกปิดดวงอาทิตย์ฟ้าปิด ปรากฏมีฝนตกปรอยๆรอบวัดเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ หลังจากหลวงปู่พวงเริ่มสวดมนต์ลมพัดทำให้เย็นสบายตัว ได้ยินเสียงฟ้าร้องครืนๆสามครั้งพอเสกเสร็จหลวงปู่พวงพูดขึ้นว่า “ ไม่เคยทำได้เต็มร้อยเท่าครั้งนี้ สำคัญครูฉันมาหมดเสกให้จนเต็ม พุทธคุณครอบจักรวาล ” หลังจากหลวงปู่พวงเดินออกจากหอสวดมนต์ ฟ้าเปิดบรรยากาศเป็นปกติ

    ทำให้ชาวบ้านต่างพูดกันปากต่อปากถึงความอัศจรรย์ หลวงปู่พวง ท่านได้บอกคณะศิษย์ใกล้ชิด เก็บรักษาให้ดี เหรียญของฉันได้บารมีพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ลงมาเป็นประธานทำให้ ครูบาอาจารย์ท่านนั่งรอบประมณพิธี เทวดานางฟ้าร่วมยินดี โอกาศแบบนี้ไม่ได้มีกันง่ายๆ.

    ชุดกรรมการ จัดสร้าง 20ชุด ชุดละ 5500บาท(หมดค่ะ)

    ประกอบด้วย เหรียญเงินลงยาน้ำเงิน, นวะลงยาแดง , อัลปาก้าลงยาสีเขียว , ทองระฆังลงยาสีขาว , ทองแดงผิวไฟลงยาสีส้ม

    ชุดเดี่ยว



    เนื้อเงิน สร้าง 29เหรียญ (หมดค่ะ)

    เนื้อนวะ สร้าง 200เหรียญ เหรียญละ 1,600บาท

    เนื้ออัลปาก้า สร้าง 300เหรียญ เหรียญละ 1,200บาท

    เนื้อทองระฆัง สร้าง 400เหรียญ เหรียญละ 800บาท

    เนื้อทองแดงผิวไฟ สร้าง 500เหรียญ เหรียญละ 500บาท


    ก่อนปลุกเสกอากาศอบอ้าวพอหลวงปู่พวงเดินลงจากศาลาเพื่อไปหอสวดมนต์เพื่อปลุกเสกเหรียญรุ่นแรก ก้าวแรกที่หลวงปู่พวงเดินลงบรรไดบังเกิดเมฆหมอกปิดดวงอาทิตย์ฟ้าปิด ปรากฏมีฝนตกปรอยๆรอบวัดเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ หลังจากหลวงปู่พวงเริ่มสวดมนต์ลมพัดทำให้เย็นสบายตัว ได้ยินเสียงฟ้าร้องครืนๆสามครั้งพอเสกเสร็จหลวงปู่พวงพูดขึ้นว่า “ ไม่เคยทำได้เต็มร้อยเท่าครั้งนี้ สำคัญครูฉันมาหมดเสกให้จนเต็ม พุทธคุณครอบจักรวาล ” หลังจากหลวงปู่พวงเดินออกจากหอสวดมนต์ ฟ้าเปิดบรรยากาศเป็นปกติ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2016
  16. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    14.พระพนัสบดี เนื้อดิน พิมพ์ใหญ่ทรงราหู ข้างกนก สร้างน้อย หายาก คุณแม่บุญเรือน ปี 2499 รับประกันความแท้100%ครับ*** ให้บูชา 799 บาท*** ปกติวัดให้บูชาองค์ละ5,000 บาท
    พระรุ่นนี้ สร้างเป็นที่ระลึกฉลองพระประธานวัดสารนาถฯ จ.ระยอง ปี 2499 ที่คุณแม่บุญเรือนเป็นประธานสร้าง อธิษฐานจิตโดยคุณแม่บุญเรือน

    พระ มงคลมหาลาภ 2499 คุณแม่บุญเรือน พิมพ์พระพนัสบดี เนื้อดินเผาผสมผงพุทธคุณ พระรุ่นนี้ สร้างเป็นที่ระลึกฉลองพระประธานวัดสารนาถฯ จ.ระยอง ปี 2499 ที่คุณแม่บุญเรือนเป็นประธานสร้าง อธิษฐานจิตโดยคุณแม่บุญเรือนและพระสายล.ป.มั่นกว่าร้อยรูป มีคุณค่าน่าสะสมและบูชาเป็นอย่างยิ่งครับ ขออ้างอิงข้อความจากหนังสืออนุสรณ์พระมงคลมหาลาภ วัดสารนาท จ.ระยอง ดังนี้ *** พระมงคลมหาลาภ พ.ศ.2499 ของวัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานครเป็นพระสมเด็จแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ พระพุทโธเล็ก พระวัดตะไกร และพระแบบวัดนางพระยา ฯลฯ (และแบบอื่นๆอีกมาก) พระเครื่องเหล่านี้สร้างเป็นที่ระลึกในงานสมโภชพระพุทโธชินราชจอมมุนี ซึ่งสร้างที่ วัดสัมพันธวงศ์ พระนคร แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ วัดสารนาถธรรมราม อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้ายขวา เมื่อวันที่ 5-31 มีนาคม 2499 *** พระ รุ่นนี้ ปลุกเสกโดยคุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ และ คณาจารย์หลายท่านเช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวง พ่อเงินวัดดอนยายหอม เป็นต้น
    ****ทั้ง นี้ ได้รับการปลุกเสก ซ้ำที่วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยองอีกครั้ง โดยนิมนต์พระสายระยอง และสายกรรมฐานเช่น หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง หลวง ปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงพ่อลี วัดป่าคลองกุ้ง อาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม โดย ทั้งหมดเพื่อจัดสร้างและสมโภชน์พระพุทโธภาสชิน ราชจอมมุนี ในขณะที่แม่ชีบุญเรือน เป็นประธาน จัด สร้างและคุมงานเอง
    ******ปลุกเสก18วัน18คืน**********แบ่งให้บูชา799 บาท***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_1564.JPG
      DSC_1564.JPG
      ขนาดไฟล์:
      58.6 KB
      เปิดดู:
      168
    • DSC_1565.JPG
      DSC_1565.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.7 KB
      เปิดดู:
      127
    • get_auc3_img.jpg
      get_auc3_img.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.9 KB
      เปิดดู:
      130
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2016
  17. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    15.พระรอดวัดมหาวัน จ.ลำพูน จัดสร้างปี พ.ศ. 2518 ด้านหลังปั๊มตัวหนังสือจมว่า"วัดมหาวัน ลำพูน" ***แบ่งให้บูชา 999 บาท***

    **มวลสารสำคัญ**
    โดยทางวัดได้รวบรวม

    ผงพุทธคุณจากคณาจารย์ 108 ทั่วประเทศ
    พระกรุเก่าทางเหนือที่แตกหักชำรุด
    พระรอดกรุวัดมหาวันที่มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเพื่อเป็นมวลสารสำคัญในการจัดสร้างพระครั้งนี้ด้วย
    - พระกรุเก่าทางภาคเหนือ ที่แตกหักชำรุด

    - พระรอดกรุวัดมหาวัน ที่มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเพื่อเป็นมวลสารสำคัญในการจัดสร้างพระครั้งนี้ด้วย

    - ได้นำดินสังเวชนียสถานที่สำคัญต่างๆ ทางพระพุทธศาสนาอาทิเช่นดินที่ ประสูติ , ตรัสรู้ , ปรินิพพาน มาเป็นมวลสารหลักในการสร้างพระครั้งนี้ด้วย
    ได้นำดินสังเวชนียสถานที่สำคัญต่างๆทางพระพุทธศาสนาอาทิเช่นดินที่ประสูติ ตรัสรู้ ฯลฯ มาเป็นมวลสารหลักในการสร้างพระครั้งนี้
    โดยได้จัดทำขึ้นสองพิมพ์คือ พระรอดพิมพ์สมาธิ และพิมพ์มารวิชัย
    **ปลุกเสก2ครั้ง***
    โดยทำพิธีมหาพุทธาภิเษกที่อินเดียครั้งหนึ่งและได้นำมาเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกที่วัดมหาวันอีกครั้งหนึ่งโดยคณาจารย์ที่เรืองพระเวทวิทยาคมในสมัยนั้นครบครัน

    นอกจากพระรอดกรุวัดมหาวันซึ่งเป็นหนึ่งในเบญจภาคีที่เป็นที่สุดของความนิยมในวงการพระเครื่องแล้วมีพระรอดที่ทางวัดมหาวันสร้างขึ้นเพียงไม่กี่รุ่นที่เป็นที่นิยมเช่าหากันในวงการพระเครื่อง

    ***พระรอดวัดมหาวันรุ่นนี้ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมเช่าหากันผู้ที่นิยมชมชอบสะสมพระรอดไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งครับสำหรับท่านที่หาพระเครื่องไว้บูชาติดตัวเพื่อป้องกันภัย อันตรายต่างๆเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตแล้ว
    ***แบ่งให้บูชาราคาย่อมเยาว์ 999 บาท***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    16.ขุนแผนผงพรายกุมาร วัดศรีวโนภาสสถิตย์พร มวลสารเก่า หลวงปู่ทิม โดยป้อม สกล เนื้อไพลดำลงทอง No.1777 พร้อมกล่องเดิมๆ ***ให้บูชา 1499 บาท***

    จาก40ปีที่แล้ว ที่เป็นตำนานขุนแผนผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง ที่ราคามูลค่าหลักล้าน มาสู่ตำนาน ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ขุนแผนพรายกุมาร วัดศรีมโนภาส ระยอง. รุ่นที่จะใช้มวลสารแท้ๆ ของหลวงปู่ทิม. ขุนแผนพรายกุมาร รุ่นที่ต้องจับตามอง_____1.พิธีที่เข้มขลัง ตามหลักตำราโบราณ____2.เกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกวาระแรกคือสุดยอดเกจิอาจารย์ของเมืองไทย และได้พระอาจารย์ ร่วมปลุกเสกวาระแรก ของมวลสาร ตะกรุด. บล๊อค พิมพ์ เป็นศิษย์ครอบครูหลวงปู่ทิม ท่านที่1 หลวงปู่สินวัดละหารใหญ่. ท่านที่2 อาจารย์เชย วัดละหารไร่ ท่านที่3 พระอาจารย์จิ้ม วัศรีมโนภาส ท่านที่4 หลวงพ่อแจ่ม เจ้าอาวาสวัดสำเภาทอง ท่านที่5 เจ้าอาวาสวัดลุ่มระยอง ขุนแผนที่ว่ากันว่า อนาคตจะเป็นตำนาน ที่จะกล่าวขานชั่วลูกชั่วหลาน. และเป็นขุนแผนที่จะเจริญรอยตามขุนแผน ราคาแพงอย่างชุนแผนหลวงปู่ทิม โดยทีมงานสรรสร้างผลงาน. "ขุนแผนวโนภาส ระยอง" มวลสารของหลวงปู่ทิมจากศิษย์สายตรงหลวงปู่ทิมแบบเข้มข้นมวลสารชุดนี้จัดเต็มจริงๆ ผงพรายแท้ๆที่หลวงปู่ใช้ตอนทำ ชุดผงพรายกุมารทั้งหมด น้ำมันงา น้ำมันประคำ สายสิญจน์งานเสกพระกริ่ง และ ในห้องหลวงปู่ทิม มวลสารหลวงปู่ทิมจากอาจารย์เชย วัดละหารไร่ และ อาจารย์สิน วัดละหารใหญ่ และมวลสารว่านอีกมากมาย พิธีเข้มขลัง เจตนาการสร้างอันบริสุทธิ ถ้าพลาดครั้งนี้แล้ว อีกกี่ปีท่านถึงจะมีโอกาศอีกครั้ง ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ท่านศึกษาตำราที่ตกทอดมาจากหลวงพ่อสังฆ์เฒ่า ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของท่าน ผงพรายกุมารมหาภูติ สร้างจาก กะโหลกเด็กชาย ผีตายท้องกลม ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร โดยลูกศิษย์ที่หลวงปู่ครอบครูให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะไปสืบหาตามที่หลวงปู่บอกมา โดยที่มิได้กำหนดเวลามาก่อน ศพผีตายท้องกลมศพเด็ก พอได้ข่าวก็จะไปขอกับญาติศพเพื่อที่จะนำมาให้หลวงปู่ทำพิธีขอขมา และสะกดวิญญาณ หลังจากนั้นก็กำชับกับศิษย์ว่า อย่าเผาให้หมด เพื่อจะเก็บเอากะโหลกเด็ก ไปให้หลวงปู่ สร้างพระ เครื่องรางที่ท่านปลุกเสก มีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานเป็นที่สุด กล่าวกันว่าผู้ใดได้ครอบครองบูชา ผงพรายกุมารนับว่าเป็นของวิเศษขั้นสูง จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ประสบการณ์มีมากมายโดยเฉพาะทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และโชคลาภ ไม่เป็นสองลองใคร

    ทีมงานจัดสร้าง. เป็นเซียนมือ1หลวงปู่ทิม ป้อมสกลนคร. จับมือจับ เบอร์1 ปู่ทิม หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม
    ที่ปรึกษา วัฒน์ สาธุประดิษฐ์ นพธิดา อุบล (ต้นอ้อ)
    ทีมงานดูแลผลิต วิทย์พระยาสุเรนทร์&getjung
    งานใหญ่ งานทีเด็ด แห่งปี เตรียมพบกันเร็วๆนี้

    **มวลสารศักสิทธิ์**
    ผงที่ได้นี้ครบตามสูตร เชื่อกันว่าเทพเทวะทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 บาดาล 21 ชั้นพรหมต่างๆ ทุกพระองค์ จะลงมาอนุโมทนาอำนวยพรให้ ผงวิเศษนี้จึงมีอานุภาพแรง ทรงความขลังศักดิ์สิทธิ์ ผู้บูชาผงนี้ จะอุดมด้วยลาภสักการะ วาสนา บารมี ปรารถนาสิ่งใดจะสำเร็จดังใจปรารถนาทุกประการ เพียบพร้อมด้วยเมตตามหานิยม ดลบันดาลให้หายจากสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพภัย สรรพภัย และอันตรายทั้งปวงจากคุณไสย คุณดำและสิ่งซึ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง ปรารถนาหายหมดสิ้น ไม่มีการเบียดเบียนได้ ด้วยพุทธคุณที่ประจักษ์กับผู้ที่บูชาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม แคล้วคลาด กันคุณคนคุณของตลอดจนเกื้อหนุนความเจริญรุ่งเรืองจึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่งพุทธคุณแรงเกินราคา คุ้มค่ามากๆๆๆ กับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรง การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ฯลฯ เป็นต้น
    คาถาของหลวงปู่ทิม "มะอะอุ ทุกขัง อนิจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ"
    **พุทธคุณครบสูตรตามตำรับหลวงปู่ทิม***ให้บูชา 1499 บาท***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_0497.JPG
      DSC_0497.JPG
      ขนาดไฟล์:
      120.5 KB
      เปิดดู:
      117
    • DSC_0499.JPG
      DSC_0499.JPG
      ขนาดไฟล์:
      171.5 KB
      เปิดดู:
      111
    • DSC_0501.JPG
      DSC_0501.JPG
      ขนาดไฟล์:
      137.2 KB
      เปิดดู:
      122
    • DSC_0503.JPG
      DSC_0503.JPG
      ขนาดไฟล์:
      162.7 KB
      เปิดดู:
      103
    • DSC_0505.JPG
      DSC_0505.JPG
      ขนาดไฟล์:
      180 KB
      เปิดดู:
      102
    • f600x600 (1).jpg
      f600x600 (1).jpg
      ขนาดไฟล์:
      92 KB
      เปิดดู:
      102
    • f600x600 (2).jpg
      f600x600 (2).jpg
      ขนาดไฟล์:
      92 KB
      เปิดดู:
      100
    • f600x600 (3).jpg
      f600x600 (3).jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.6 KB
      เปิดดู:
      107
    • f600x600 (4).jpg
      f600x600 (4).jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.2 KB
      เปิดดู:
      109
    • f600x600 (7).jpg
      f600x600 (7).jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.3 KB
      เปิดดู:
      103
    • f600x600 (6).jpg
      f600x600 (6).jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.3 KB
      เปิดดู:
      100
    • f600x600 (8).jpg
      f600x600 (8).jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.6 KB
      เปิดดู:
      107
    • f600x600 (9).jpg
      f600x600 (9).jpg
      ขนาดไฟล์:
      109.4 KB
      เปิดดู:
      110
    • f600x600.jpg
      f600x600.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.7 KB
      เปิดดู:
      109
  19. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    17.***สุดยอดพิธี***พระพุทโธคลัง พิมพ์จัมโบ้ บล็อค A เนื้อก้นครก เบญจรงค์ 5 ธาตุ 5 สี ปี2554 ให้บูชา 800 บาท***สมาชิกโทรมาปิดครับ****

    อาจที่จะกล่าวได้ว่า พระพุทโธคลัง เนื้อก้นครก 5 สี นี้ บังเกิดขึ้นมาเพราะฟ้าลิขิตก็ว่าได้โดยแท้
    เพราะแต่แรกเริ่มเดิมมา ก็ไม่ได้อุตริคิดที่จะสร้างพระพุทโธคลังด้วยสีสันฉูดฉาด บาดหูบาดตาอย่างหวานหยดอะไรเช่นนี้เลยแม้แต่น้อย
    ในฐานะที่เป็นคนเก่าคนแก่ที่มีหัวแบบอนุรักษ์นิยมมาเกิด ก็อยากที่จะทำสีเรียบๆขรึมๆแบบโบราณๆมากกว่า
    อย่างมากที่สุด ก็ทำพระพุทโธคลัง 5 แบบ 5 สีจนครบสีแม่ธาตุทั้ง 5 ตามที่หน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โพธิ"แนะนำมาในพระพุทโธคลัง พิมพ์จัมโบ้ บล็อค B (ยอดมน)เท่านั้น
    จนกระทั่ง อีก 3 วันจะเริ่มพิธีพุทธาภิเษก พระพุทโธคลังยังสร้างไม่ครบตามจำนวนที่กำหนด เลยนำเอาแม่พิมพ์พระพุทโธคลังจัมโบ้ บล็อค A อันเป็นบล็อคนำฤกษ์(ยอดแหลม)ที่แต่งสวยที่สุดไปส่งให้ช่างอีกเจ้าที่กดพิมพ์พระ 5 สี เพื่อช่วยให้ครบตามจำนวนเสียโดยไว ในจังหวะที่พระพุทโธคลัง5 แบบ 5 สีกดพิมพ์เสร็จพอดี เลยมีความคิดว่า ควรเอาผงวิเศษทั้ง 5 สีที่เหลืออยู่มาผสมรวมทำเป็นชุดเนื้อก้นครกให้พิเศษแตกต่างออกไปให้สิ้นเชิงเสียเลยทีเดียว
    ผลก็เลยออกมาเป็นพระพุทโธคลัง เนื้อพิเศษที่แลดูเข้มขลังและหวานหยด ทั้งยังมีความหมายแห่งเคล็ดมงคลตามที่คุณแม่บุญเรือนได้เคยว่าไว้อย่าง"รวบยอดเบ็ดเสร็จในหนึ่งเดียวด้วยประการสิ้นเชิง"อย่างที่แม้"พุทธวงศ์"เอง ก็ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าอะไรจะอลังการงานสร้างที่สมบูรณ์แบบด้วยรูปและนามถึงเพียงนี้ไปได้

    เขียวเหนี่ยวทรัพย์ มีเงินนับยิ้มกริ่ม
    ขาวเจ้าทรัพย์ นั่งรับทรัพย์เอิบอิ่ม
    น้ำเงินเจ้าบารมี วาสนาดีมีอำนาจ
    เหลืองเฟื่องฟู เชิดชูเกียรติ
    ชมพูคู่ชื่น ยั่งยืนมั่นคง
    แดงแรงฤทธิ์ พิชิตโชค
    ดำอมฤต พิชิตภัย


    **"พระพุทโธคลังทั้งหมดทุกแบบทุกสีนั้น แม้พลังโดยรวมจะเหมือนๆกัน แต่พระพุทโธคลังสีเดียวโดดๆนั้น พลังจะมีความแรงและเร็วของพลังเป็นเอกภาพมากกว่า ในขณะที่พระพุทโธคลังเนื้อก้นครก 5 สี พลังภายในกลับความวิจิตรอลังการหลากหลายมากกว่า เหมือนขบวนเสด็จของพระราชาอันประดับด้วยเครื่องประกอบอิสริยยศอย่างใหญ่ฉะนั้นฯ"


    รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-111006084163587
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_0992.JPG
      DSC_0992.JPG
      ขนาดไฟล์:
      131.9 KB
      เปิดดู:
      112
    • DSC_0994 (1).JPG
      DSC_0994 (1).JPG
      ขนาดไฟล์:
      132.4 KB
      เปิดดู:
      104
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2016
  20. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,701
    ค่าพลัง:
    +4,635
    เดียวมืดๆจะลงอีกชุดหนึ่งครับ ขอบคุนครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...