การสังเกต++สัญชาตญาณเตือนภัยของสัตว์++สิ่งบอกเหตุ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กลุ่มพิทักษ์สัตว์ออสซี่เร่งตรวจสอบหัวจิงโจ้กระจายบนชายหาด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 กรกฎาคม 2550 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>กลุ่มพิทักษ์สัตว์ของออสเตรเลีย เริ่มดำเนินการตรวจสอบในวันนี้ ภายหลังจากที่พบหัวจิงโจ้หลายตัวบนชายหาดแห่งหนึ่งในรัฐควีนส์แลนด์

กลุ่ม Royal Society for the Protection of Animal กลุ่มคุ้มครองสัตว์ในออสเตรเลีย รายงานว่า หญิงคนหนึ่งพาลูก 2 คนไปเดินเล่น และพบภาพที่น่าสยดสยอง คือ หัวจิงโจ้ 5 ตัวกระจายอยู่บนหาดดีเซลป์ชั่น ทางเหนือของเมืองบริสเบน เมื่อวันอาทิตย์


โฆษกกลุ่มพิทักษ์สัตว์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบดูเหมือนว่าจะมีผู้ใช้หัวจิงโจ้มาเป็นเหยื่อตกปลา ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณมาก หลังจากที่จิงโจ้มักถูกฆ่าตายบ่อยครั้ง


นับเป็นคดีฆ่าจิงโจ้อย่างทารุณเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน โดยก่อนหน้านี้ชายคนหนึ่งยิงจิงโจ้ตาย 20 กว่าตัว ในเมืองแคนเบอร์รา และยังมีรายงานที่เมืองอื่นๆ ด้วย

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000089262


มนุษย์จำนวนหนึ่ง ไม่เพียงแต่ทำลายธรรมชาติทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ยังโหดร้ายต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พร้อมกันนี้ก็ยังอำมหิตต่อสรรพสัตว์อยู่เสมอ

ขณะที่มนุษย์จำนวนน้อย คือผู้รู้คุณธรรมชาติอีกทั้งพยายามจรรโลงรักษา และมีเมตตากรุณาต่อเพื่อนร่วมโลก


เป็นดังนี้มาช้านานในทุกยุค


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สมเป็นนินจาจริงๆ

โห พี่สาวสมเป็นนินจาจริง หายแว๊บเลย(b-deejai)

 

เปลือกโลก กำลังจะเคลื่อนที่ครั้งใหญ่

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พบอีกแมลงวันแมงมุม/ยุงยักษ์ที่เชียงราย-สสจ.เตรียมส่ง จนท.พิสูจน์แล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 สิงหาคม 2550 10:40 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เชียงราย – พบอีกทั้งแมลงวันแมงมุม/ยุงปริศนาที่ตัวใหญ่กว่ายุงลายร่วม 4-5 เท่า ในป่าทึบหลังร้านขายยางรถยนต์ในเชียงราย สสจ.เตรียมประสานสำนักงานป้องกันควบคุมโรคฯเข้าตรวจสอบ พร้อมยืนยันส่วนหนึ่งเป็น “เครนฟลาย” แต่บางตัวยังชี้ชัดไม่ได้ว่าเป็นยุงหรือแมลงกันแน่

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า นางพัชร์ศิริ เจียรพินิจนันต์ เจ้าของร้าน เฉี่ยวกี่เชียงราย ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายยางรถยนต์ ตั้งอยู่เลขที่ 111/18-20 ม.13 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย อยู่ปากทางเข้าโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ สี่แยกแม่กรณ์ ได้พาผู้สื่อข่าวไปที่ด้านหลังร้าน ซึ่งเป็นที่ร้าง มีหญ้าขึ้นรกทึบ และมีน้ำขังอยู่บ้าง เพื่อดูยุงขนาดใหญ่ที่เธอบอกว่าเจออยู่หลายขนาด

โดยพบว่า ใต้ต้นตะขบสองต้นหลังร้าน มียุงขนาดใหญ่ หากวัดขนาดจากปากถึงปลายหางจะยาวราว 1 ซ.ม.มี 6 ขา แต่หากวัดจากปากถึงปลายขา จะยาวถึงราว 2 ซ.ม.มีลำตัวสีดำลาย มีขนาดใหญ่กว่ายุงลายราว 4-5 เท่า เกาะอยู่ใต้ต้นไม้และบินไปมาไม่เร็วมากนัก จึงใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตมาดูได้นับสิบตัว

นอกจากนี้ยังพบว่า ใกล้กันยังพบแมลงคล้าย ยุง หรือที่เคยพบที่ หมู่ 3 ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตัวราวราว 4 เซนติเมตร แต่หากวัดรวมความยาวของขาด้วยอาจยาวราว 9 ซ.ม.ด้วย มาเทียบกับยุงลายที่พบว่าขณะนี้ก็มีให้พบเห็นมากเนื่องจากมีฝนตกหนักทุกวัน

นางพัชร์ศิริ เจียรพินิจนันต์ ที่พบยุงกล่าวว่า เริ่มสังเกตเห็นยุงขนาดใหญ่คล้ายยุงลาย ตัวยาวราว 1-2 ซ.ม.เกาะใต้ต้นไม้เมื่อราว 1 สัปดาห์มานี้ หลังจากมีฝนตกหนัก และรอบๆเป็นป่าไมยราพ และหญ้ารก เพราะเจ้าของที่ดินปล่อยทิ้งไว้ และมีน้ำขังอยู่บ้างตามพื้นดินและอาจจะมีภาชนะที่แตกหักให้น้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยัง ตนเกรงว่ายุงยักษ์จะมากัดคนในบ้านและบุตรหลาน เพราะรอบๆร้านก็เป็นอาคารพาณิชย์หลายคูหา

จึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบางหน่วย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ได้อยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงราย จึงยังไม่มาพ่นยาปราบยุงให้ จึงแจ้งสื่อมวลชนมาพิสูจน์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแก้ไข

ด้านนายแพทย์เทพนฤมิตร เมธนาวิน สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่า ยุงขนาดใหญ่ที่มีขายาวราว 9 ซ.ม.น่าจะคล้ายกับแมลงที่มีลักษณะคล้ายยุง(Mosquitolike) มีชื่อทั่วไปว่าเครนฟลาย(Crane Flies) อยู่ในตระกูลของ ธิปูลิเดอี(Tipulidae) ทั่วโลกมีประมาณ 12,000 ชนิด ลักษณะโดดเด่นของมันคือไม่กินเลือดแต่กินน้ำหวาน น้ำค้างเป็นอาหาร คล้ายยุงตัวผู้ ชาวบ้านเรียกกันว่าแมลงวันแมงมุม เพราะมี 6 ขาและเป็นแมลงที่มี 2 ปีก เช่นเดียวกับยุง ซึ่งพบที่เชียงใหม่

แต่ยุงตัวขนาดราว 1-2 ซ.ม.ซึ่งใหญ่กว่ายุงลายราว 4-5 เท่านั้น ยังไม่ทราบชัดว่าเป็นแมลงหรือยุง ซึ่งตนจะแจ้งสำนักงานป้องกันควบคุมโรคและแมลง จ.เชียงราย มาตรวจสอบ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าทำลายต่อไป ซึ่งระยะนี้ประชาชนต้องเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้เลือดออก และโรคที่มากับยุง หลังจากเคยเกิดโรคไข้เลือดออกระบาดที่ อ.แม่จัน เมื่อ 2 เดือนก่อน แต่ขณะนี้สถานการณ์ของโรคไม่มีปรากฏรุนแรง สามรถป้องกันได้

นายปรีชา อนุรักษ์ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของยุงในพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย ยังคงเป็นปัญหาที่ทางเทศบาลพยายามแก้ไขมาโดยตลอด แต่พื้นที่รับผิดชอบของเขตเทศบาลนครเชียงรายมีความกว้างถึง 60 ตารางกิโลเมตร การดูแลค่อนข้างจะลำบาก เนื่องจากมีที่รกร้างว่างเปล่าจำนวนมากที่ไม่ยอมแผ้วถางป่า ทำให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ที่ผ่านมาทางเทศบาลนครเชียงรายได้ทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของที่ดินแล้ว แต่ก็ไม่มีการดำเนินการ แม้ว่าทางเทศบาลรับจะดำเนินการให้ โดยคิดค่าใช้จ่ายจากเจ้าของที่ก็ไม่ยินยอม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** สังเกต ****

บริเวณภาคกลาง กรุงเทพ
ให้สังเกต ...สัตว์ที่อยู่ใต้ดิน ...ออกมาเพ่นพ่านบนดิน
อย่างผิดปกติ ไม่เคยเกิด
จะบอกถึง...ภัยแผ่นดินไหว กำลังจะเกิด
คนที่ทำงาน และอาศัยบน "ตึกสูง".... ให้ระวัง
และ....ถ้าเริ่มมีแผ่นดินทรุด เป็นหลุม บ่อ รอยแตก รอยแยก ปรากฏติดๆ กัน
ให้รีบ ... ลงมาหาที่อยู่ที่ไม่ใช่ตึกสูงไว้ก่อน ระยะหนึ่ง
เพราะ....แผ่นดินจะไหว ถึงไม่แรงมาก ... ตึกในกรุงจะถล่มง่าย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สังเกต ****

บริเวณภาคกลาง กรุงเทพ
ให้สังเกต ...สัตว์ที่อยู่ใต้ดิน ...ออกมาเพ่นพ่านบนดิน
อย่างผิดปกติ ไม่เคยเกิด
จะบอกถึง...ภัยแผ่นดินไหว กำลังจะเกิด
คนที่ทำงาน และอาศัยบน "ตึกสูง".... ให้ระวัง
และ....ถ้าเริ่มมีแผ่นดินทรุด เป็นหลุม บ่อ รอยแตก รอยแยก ปรากฏติดๆ กัน
ให้รีบ ... ลงมาหาที่อยู่ที่ไม่ใช่ตึกสูงไว้ก่อน ระยะหนึ่ง
เพราะ....แผ่นดินจะไหว ถึงไม่แรงมาก ... ตึกในกรุงจะถล่มง่าย

- " หนุมาน ผู้นำสาร


เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เรื่องนี้ อย่าได้ประมาทหรือนิ่งนอนใจกันไปครับตัวอย่างของภัยพิบัติมีให้เห็นทั่วโลกแล้ว

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แมงกะพรุนทำพิษ! นักท่องเที่ยวกว่า 400 เจ็บเกลื่อนหาดฟลอริดา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 สิงหาคม 2550 09:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แมงกะพรุนบริเวณชายหาดเซมียร์นา รัฐฟลอริดา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ลอคอล 6 - เมื่อวันอาทิตย์ (5) ที่ผ่านมา ยามชายฝั่งต้องเร่งช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ว่ายน้ำในชายหาดเซมียร์นา รัฐฟลอริดา หลายร้อยคนด้วยน้ำส้มสายชู เพื่อบรรเทาอาการพิษของแมงกะพรุน

ไลฟ์การ์ดต้องวิ่งไปมาหลายครั้ง เพื่อหาน้ำส้มสายชูมาเพิ่ม หลังจากที่นักท่องเที่ยวราว 400 คนเริ่มคร่ำครวญถึงความเจ็บปวด เนื่องจากโดนพิษแมงกะพุรน

เมื่อวานนี้ (6) เจ้าหน้าที่ชายหาดได้เตือนประชาชนที่วางแผนจะมาเที่ยวทะเลในแถบนี้ให้ระวังฝูงแมงกะพรุนไว้ด้วย ทั้งนี้ เป็นการยากที่เราจะมองเห็นหนวดของแมงกะพรุน และหลีกเลี่ยงมันได้

อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวที่ว่ายน้ำเล่นหลายร้อยคน ซึ่งได้รับการรักษาพิษเบื้องต้นอย่างถูกวิธี ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ไลฟ์การ์ดให้คำแนะนำว่า ถ้าผู้ใดถูกแมงกะพรุนแทง ไม่ควรราดน้ำลงบนบาดแผล เนื่องจากจะยิ่งกระะตุ้นพิษ โดยครั้งนี้ นอกเหนือจากน้ำส้มสายชูแล้ว ก็ยังมีการใช้เบนาดริล และคอร์ติโซนครีมมาใช้ในการรักษาอีกด้วย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

แพนด้าคลั่งกัดผู้ดูแลเย็บกว่า 100 เข็ม

​

ปักกิ่ง 6 มี.ค.

 

อย่าแปลกใจ นี่เป็นการมึนเมาสนามแม่เหล็กโลก เกิดได้ทั้งคนและสัตว์
เพราะค่าของมันไม่คงที่ ขึ้นๆลงๆ ระหว่าง 10-14 เกาส์
คนและสัตว์จะครองสติไม่อยู่ เช่น คนในชาติเดียวกันจะฆ่ากันเอง
ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำได้โดยไม่รู้ตัว คนที่ในอดีตดูดีๆ ปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ
สติปัญญาของมนุษย์ต้องอาศัยสนามแม่เหล็กโลก


----------------------------------------
ความรู้จาก อ.ปริญญา 29 ก.ค. 50

 

อันนี้ก็เพราะสนามแม่เหล็กโลกแปรปรวน ปลามันคิดว่าที่ตื้นเป็นนำ้ลึก
พอจับไปไว้นำ้ลึกก็ไม่ไปไหน นึกว่าเป็นที่ตื้น เข๊มทิศแม่เหล็กที่สมองปลาบอกอย่างนั้น


------------------------------------------------
ความรู้จาก อ.ปริญญา

 

*** หลบภัย ****

ปาด...ตัวสีเหลือง ปีนผลัง ปีนเพดาน โรยตัวไปแอบนอนหลบใน โมบายกะลามะพร้าวลูกกลม ที่ห้อยไว้ ลมพัดแกว่งไปมาก็ไม่หนี

นกเขา....พยายามทำรังบนเสาอากาศ มีที่แค่ ๒ ตารางนิ้ว อยู่ใต้ชายคาบ้าน ไม่ยอมไปทำรังบนต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่ข้างๆ มากมาย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ไม่รู้เกี่ยวกันหรือเปล่า ผมสังเกตมาประมาณ 1-2 เดือนมานี่ ผมรู้สึกหูอื้อ บ่อยๆมาก แต่จะเป็นบางช่วงในแต่ละวัน แต่หลังๆ มานี่รู้สึกว่ามันจะถี่ขึ้นเรื่อยๆ จากเดิม ที่อาทิตย์หนึ่ง ประมาณ 5-6 ครั้ง แต่มา 2 อาทิตย์หลังนี้ วันหนึ่งๆ มากว่า 5 ครั้งแล้วเป็นนานกว่าเดิม มันเหมือนตอนผมดำน้ำลึกๆ นะครับ มันเหมือนโอนบีบอัดยังไงยังงั้นเลยครับ

 

มึนๆ....และรู้สึกเซื่องซึม....หนืดๆ....อยู่เหมือนกัน

 

2-3วันมานี้ผมสังเกตุเห็น มดตัวเล็กๆช่วยกันขนอาหารย้ายที่ทำรัง ไปอยู่ใต้ฝ้าบนชั้นสอง

 

<TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">สัตว์รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว </TD><TD class=buttonheading align=right width="100%"></TD><TD class=buttonheading align=right width="100%"></TD><TD class=buttonheading align=right width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width="70%" colSpan=2>เขียนโดย Administrator </TD></TR><TR><TD class=createdate vAlign=top colSpan=2>Wednesday, 06 June 2007 </TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=2> จากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบว่า หากสัตว์ป่ามีพฤติกรรมผิดไปจากปกติ มักจะเกี่ยวข้องกับการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ทั้งนี้เพราะสัตว์มีความสามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งในการเอาชีวิตรอด
พฤติกรรมผิดปกติของนก
นกมีความรู้สึกต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะนกพิราบป่าจะไวเป็นพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวในประเทศจีนพบว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือน 3 ริกเตอร์ขึ้นไป ฝูงนกพิราบป่าที่อยู่ภายในรัศมี 50 กม. จากศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะรู้ล่วงหน้า และบินหนีไปภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้กาและนกเลี้ยงบางชนิด เช่น นกแก้ว ก็มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวเช่นกัน

<TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>ฝูงนกพิราบหรือกาจะบินหนีไปทันที

​

</TD><TD>นกในกรงก็แตกตื่นจะหนีออกจากกรง

</TD></TR></TBODY></TABLE>

พฤติกรรมผิดปกติของปลา
ปลาน้ำเค็ม
เมื่อ ค.ศ.1995 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ชาวประมงจับปลาได้มากกว่าปกติ และมีปลาจากทะเลลึกว่ายเข้ามาในเขตน้ำตื้นด้วย

<TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>พบปลาแปลกๆ หรือปลาน้ำจืดในเขตน้ำตื้น

​

</TD><TD>ก่อนเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณใกล้เคียงจะจับปลาได้มากกว่าเดิม 2-10 เท่า

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ปลาน้ำจืด

ปลาน้ำจืดในแม่น้ำหรือทะเลสาบที่มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวคือปลาคาร์ป ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เคยมีคนเห็นปลาคาร์ปจำนวนมากกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำเหมือนตกใจหนีอะไรบางอย่าง

<TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>ปลาคาร์ปกระโดดขึ้นมาเหนือผิวน้ำ หรือมีท่าทางลุกลน

​

</TD><TD>ถ้าปลาดุกมีท่าทางตื่นตระหนก แสดงว่าอาจจะเกิดแผ่นดินไหว

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลื้อยคลาน
ผลการวิจัยพบว่า สัตว์ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหวก่อนใครคืองู ทั้งนี้เพราะงูจำศีลอยู่ในโพรงดิน (งูในประเทศเขตหนาว) จึงรู้สึกถึงความผิดปกติได้ง่ายเมื่อมีการสั่นสะเทือนของเปลือกโลก มีก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ฯลฯ และจะหลับภัยด้วยการเลื้อยขึ้นมาบนดินแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวก็ตาม
ตัวอย่างเช่นเมื่อ ค.ศ. 1855 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นหนึ่งวัน พบฝูงงูเลื้อยขึ้นมาแข็งตายบนดิน เมื่อ ค.ศ. 1976 หนึ่งวันก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองถังซานในประเทศจีน ก็มีฝูงงูจำนวนมากเข้าไปหลบอยู่ในซอกหิน

<TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD>

​

</TD><TD>

</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
กบก็แสดงพฤติกรรมผิดปกติเช่นเดียวกับงู เมื่อ ค.ศ. 1976 ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่เมืองถังซานในประเทศจีน มีคนเห็นกบนับพันนับหมื่นตัวพากันอพยพ

<TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD>

​

</TD><TD>

</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สุนัข
ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ มีรายงานว่าสุนัขจะแสดงพฤติกรรมแปลกๆ มากที่สุด สุนัขเป็นสัตว์ใกล้ชิดกับคน จึงสังเกตความผิดปกติของสุนัขได้ง่าย และพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหว สุนัขจะมีอาการตื่นตระหนก วิ่งไปวิ่งมา บางตัวก้าวร้าวขึ้น ส่วนบางตัวก็เห่าและหอน
แมว
ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวส่วนใหญ่จะหาที่หลบ ญี่ปุ่นมีคำโบราณกล่าวไว้ว่า "ก่อนแผ่นดินไหว แมวจะปีนขึ้นต้นไม้สูง" และมีคนเห็นเช่นนี้จริงๆ ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวบางตัวแสดงอาการงุ่นง่าน วิ่งไปมา และส่งเสียงร้องอย่างกระวนกระวาย
หนู
เมื่อ ค.ศ. 1923 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่คันโต หนูพากันหลบหนีไปหมด และตอนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ก็พบปรากฎการณ์หนูพากันหลบหนีเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวจะมีหนูติดกับดักเพิ่มขึ้น และหนูบางตัววิ่งพล่านไปทั่ว

<TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>สุนัขที่เคยเชื่อง แสดงอาการดุร้ายขึ้นทันที

​

</TD><TD>แมววิ่งไปมาอย่างงุ่นง่าน หรือปีนขึ้นต้นไม้สูง

​

</TD><TD>หนูพากันหลบหนี

</TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR><TR><TD class=modifydate align=left colSpan=2>แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( Thursday, 07 June 2007 )

http://geothai.net/2008/index.php?option=com_content&task=view&id=48&Itemid=62
</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา...และสัปดาห์นี้

แมว...ที่บ้านมันร้องโวยวาย ลุกลี้ลุกลน...ผิดปกติ...ครับ

ระวังๆ...กันไว้หน่อยนะ

 

แผ่นดินไหวอาจแยกออกได้เป็นสามประเภทตามความลึกของจุดกำเนิดหรือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว หากความลึกอยู่ระหว่าง 0-70 กิโลเมตรเรียกว่าแผ่นดินไหวตื้น ความลึกระหว่าง 70-300 กิโลเมตร เรียกแผ่นดินไหวลึกปานกลาง แต่หากอยู่ลึกกว่า 300 กิโลเมตร เรียกว่าแผ่นดินไหวลึก อย่างไรก็ตามยังไม่มีแผ่นดินไหวใดที่ตรวจวัดได้ว่ามีความลึกของศูนย์เกิดแผ่นดินไหวเกินกว่า 720 กิโลเมตร มากกว่า 75 เปอร์เซนต์ของพลังงานจากแผ่นดินไหวมาจากแผ่นดินไหวตื้น มีเพียงประมาณ 3 เปอร์เซนต์เท่านั้นที่เป็นแผ่นดินไหวลึก



<DT>เมื่อพิจารณาตำแหน่งที่เกิดแผ่นดินไหวพบว่าจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว (epicentre) ที่ปรากฎบนผิวโลกจะจำกัดอยู่ในแนวแคบหลายแนว ดังแสดงในรูปที่ 2.12 โดยที่แนวแผ่นดินไหว (seismic belt) เหล่านี้ส่วนใหญ่สอดคล้องกับขอบของแผ่นลิโทสเฟียร์ (lithosphere plate) ที่กล่าวไปแล้วในบทที่ 1 เราอาจแบ่งแผ่นดินไหวเหล่านี้เป็นสามกลุ่มตามธรรมชาติของแหล่งกำเนิด กลุ่มแรกอยู่ตามแนวของเทือกเขากลางสมุทร (mid oceanic ridge) ในบริเวณนี้แผ่นดินไหวมีจำนวนน้อยเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็กและตื้น ทั้งนี้เพราะว่าแผ่นลิโทสเฟียร์ในบริเวณดังกล่าวบางและไม่แข็งแกร่งพอที่จะรองรับความเครียดที่ก่อตัวจนมีขนาดใหญ่อันเป็นต้นกำเนิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้ แผ่นดินไหวในบริเวณนี้มักจะสัมพันธ์กับภูเขาไฟระเบิด เช่น ที่เกาะไอซแลนด์ (Iceland) และที่หมู่เกาะอะซอร์ส (Azores) เป็นต้น

​

รูปที่ 2.12 การกระจายของจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวระหว่าง ค.ศ.1961-1967 ซึ่งแผ่นดินไหวเหล่านี้มีความลึกตั้งแต่ 0-700 กิโลเมตร (Barazangi and Dorman, 1969)​

<DL><DD><DT>แผ่นดินไหวกลุ่มที่สองสัมพันธ์กับขอบของแผ่นลิโทสเฟียร์สองแผ่นที่เลื่อนไถลสัมพัทธ์ซึ่งกันและกันตามแนวระดับ โดยที่สัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหว่างแผ่นทั้งสองมีค่าสูงมากจนความเครียดขนาดใหญ่สะสมตัวขึ้นก่อนที่จะคลายตัวอย่างรวดเร็วกลายเป็นแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เป็นช่วงๆ แผ่นดินไหวในบริเวณนี้จะตื้นและไม่มีการติดตามมาของภูเขาไฟระเบิด ตัวอย่างได้แก่ แผ่นดินไหวที่เกิดตามแนวรอยเลื่อนซานแอนเดรส (San Andreas fault) ในประเทศสหรัฐอเมริกาและที่เกิดตามแนวรอยเลื่อนอานาโทเลียน (Anatolian fault) ในประเทศตุรกี แผ่นดินไหวตามแนวรอยเลื่อนซานแอนเดรสที่รู้จักกันดีคือแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ.1906 ณ กรุงซานฟรานซีสโก ซึ่งทำให้มีการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนซานแอนเดรสในแนวนอนและแนวดิ่งสูงสุดเป็นระยะประมาณ 7 เมตร และ 1 เมตร ตามลำดับ แผ่นดินไหวครั้งนั้นคาดว่ามีขนาดถึง 8.3 ตามมาตราวัดริคเตอร์ (Richter scale) ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินเป็นอย่างมากและคาดว่ามีผู้เสียชีวิตนับเป็นเรือนพัน แผ่นดินไหวตามแนวรอยเลื่อนซานแอนเดรสมีอยู่อย่างสม่ำเสมอ ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นและมีการสูญเสียมากเป็นแผ่นดินไหวใกล้เมืองซานตาครูซ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซานฟรานซีสโกมาทางใต้ประมาณ 100 กิโลเมตรเมื่อปี ค.ศ.1989 โดยมีขนาด 7.1 แผ่นดินไหวครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 62 คน มีการสูญเสียทรัพย์สินเป็นมูลค่ามหาศาล ความสูญเสียส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงซานฟรานซีสโกและเมืองโอคแลนด์ เนื่องจากบริเวณดังกล่าว ตั้งอยู่บนพื้นที่ซึ่งทับถมโดยตะกอนเม็ดละเอียดที่ยังไม่แข็งตัวและเป็นตะกอนที่อิ่มตัวด้วยน้ำ พื้นดินลักษณะนี้จะขยายการสั่นไหวของคลื่นไหวสะเทือน ทำให้เกิดความเสียหายมาก (Hays, 1990) <DT><DT>แผ่นดินไหวกลุ่มที่สามสัมพันธ์กับเขตมุดตัวของเปลือกโลก (subduction zone) ที่ได้กล่าวไปแล้วในบทที่ 1 แผ่นดินไหวในบริเวณนี้อาจจะตื้นหรือลึกก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเกิดตรงไหนของเขตมุดตัวหรือเกิดห่างจากร่องลึกก้นสมุทรมากน้อยเพียงใด แผ่นดินไหวที่เกิดในแถบประเทศทางซีกตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ รวมถึงที่เกิดในประเทศญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย อิหร่าน เป็นแผ่นดินไหวในกลุ่มนี้ ตัวอย่างเช่น แผ่นดินไหวที่กรุงโตเกียวเมื่อปี ค.ศ.1923 ซึ่งมีขนาด 8.3 ตามมาตราริคเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบแสนคน แผ่นดินไหวเมื่อ ค.ศ.1985 ที่ประเทศเม็กซิโก ซึ่งเกิดจากการมุดตัวของแผ่นคอกคอส (Coccos plate) ไปใต้แผ่นอเมริกาเหนือ (North American plate) ก็อยู่ในกลุ่มนี้ แผ่นดินไหวครั้งนั้นมีขนาด 8.1 หน่วย เป็นที่น่าสังเกตุว่า แม้ศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ริมฝั่งทะเลห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตีที่เป็นเมืองหลวงถึงประมาณ 320 กิโลเมตรแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกลับมีมากในกรุงเม็กซิโกซิตีเมื่อเทียบกับเมืองแถบชายฝั่ง ทั้งนี้เป็นเพราะแถบชายฝั่งประกอบด้วยหินแข็งผิดกับที่เมืองหลวง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณที่ทับถมโดยตะกอนเม็ดละเอียดที่ยังไม่แข็งตัวและยังอิ่มตัวด้วยน้ำ จึงทำให้มีการขยายการสั่นไหวของคลื่นไหวสะเทือน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์เช่นเดียวกับที่เกิด ณ กรุงซานฟรานซีสโกและเมืองโอคแลนด์ที่กล่าวไว้ข้างต้น <DT><DT>นอกจากแผ่นดินไหวที่สัมพันธ์กับขอบของแผ่นลิโทสเฟียร์ทั้งสามกลุ่มนี้แล้ว ยังมีแผ่นดินไหวที่เกิดในบริเวณอื่นในโลกซึ่งอยู่ภายใต้ความเค้น บริเวณเหล่านี้บางแห่งสัมพันธ์กับเขตแยกตัวในทวีป(continental rift zone) เช่น แผ่นดินไหวที่เกิดเป็นแนวทางด้านตะวันออกของทวีปแอฟริกา ตั้งแต่อ่าวเอเดนไปจนถึงประเทศซิมบาเบว์ อย่างไรก็ตามแผ่นดินไหวเหล่านี้มีจำนวนเป็นสัดส่วนที่น้อยเทียบกับสามกลุ่มแรก <DT><DT>สำหรับแผ่นดินไหวในประเทศไทยซึ่งจำกัดอยู่ในด้านตะวันตกและด้านเหนือของประเทศนั้น คาดว่ามีต้นกำเนิดจากการคลายตัวอย่างรวดเร็วของความเครียดที่ก่อตัวขึ้นในบริเวณนี้ โดยความเครียดนั้นอาจสัมพันธ์กับการมุดตัวของเปลือกโลกตามแนวร่องลึกก้นสมุทรชวา (Java trench) และการขยายตัวของเปลือกโลกในบริเวณเทือกเขาใต้ทะเลอันดามัน (รูปที่ 2.13) แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นภายในขอบเขตของประเทศไทยส่วนใหญ่มีขนาดเล็กคือน้อยกว่า 4 ตามมาตราริคเตอร์ <DT> <DT><DT>ขนาดใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ.1983 โดยมีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่ประมาณ 50 กิโลเมตร ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มีขนาด 5.9 ตามมาตราวัดริคเตอร์ <DT> <DT><DT>และก่อให้เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อยต่ออาคารบ้านเรือน แผ่นดินไหวครั้งนี้มีความลึก 10 กิโลเมตร และสัมพันธ์กับการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ (three pagoda fault) (Prachuab, 1985) <DT><DD></DD></DL>

​

รูปที่ 2.13 การกระจายของจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวขนาดตั้งแต่ 7 ขึ้นไปในบริเวณใกล้เคียงกับประเทศไทย สำหรับช่วงเวลาระหว่าง ค.ศ.1900-1989 รูปนี้แสดงเฉพาะรอยเลื่อนเด่น ๆ เท่านั้น (Prachuab, 1986 ; 1992 และ Ramingwong, 1991)​

<DL><DD><DT>แม้ว่าแผ่นดินไหวที่เกิดในประเทศไทยจะมีขนาดไม่สูงมาก แต่แผ่นดินไหวในประเทศข้างเคียงบางครั้งมีขนาดสูงมากและอาจมีผลกระทบมาถึงประเทศไทยได้ <DT><DT>ตั้งแต่ ค.ศ.1900 เป็นต้นมา แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้มีจุดกำเนิดอยู่ที่ตะวันตกเฉียงเหนือของหมู่เกาะอันดามัน เมื่อ ค.ศ.1941 มีขนาด 8.1 เกิดเนื่องจากการมุดตัวของแผ่นอินเดียน (Indian plate) ไปใต้แผ่นยูเรเซียน (Eurasian plate) นอกจากนั้นยังมีแผ่นดินไหวที่มีขนาด 7-8 อีกหลายครั้งในประเทศพม่า เช่น แผ่นดินไหวที่เมืองพะยู (Pyu) และเมืองพะโค (Pegu) <DT> <DT><DT>ในปี ค.ศ.1930 ซึ่งมีขนาด 7.3 ตามมาตราริคเตอร์ และแผ่นดินไหวที่เมืองตองยี (Taungyi) เมื่อปี ค.ศ.1912 ซึ่งมีขนาดถึง 8.0 (Prachuab, 1986) <DT> <DT>แผ่นดินไหวขนาดใหญ่เหล่านี้คาดว่าสัมพันธ์กับกลุ่มรอยเลื่อนในบริเวณนี้เช่นรอยเลื่อนซาเกง (Sagaing fault) และระบบรอยเลื่อนที่ต่อมาจนถึงรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ซึ่งยาวกว่าหนึ่งพันกิโลเมตร<DT> <DT><DT>แผ่นดินไหวที่มีขนาดตั้งแต่ 7 ขึ้นไปในช่วงตั้งแต่ ค.ศ.1900-1989 ในบริเวณใกล้เคียงกับประเทศไทยได้แสดงไว้ในรูปที่ 2.13</DT></DL>http://web.geol.science.cmu.ac.th/gs/curriculum/geoph/212701/text1/geophy2.html


</DT>